Monday, 9 June 2025
บิ๊กตู่

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ไทยติดอันดับ 10 ประเทศก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย เดินหน้าพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เสริมศักยภาพการแข่งขัน-ลงทุน

(20 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ ’ไทย’ ได้อันดับ 10 ประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย (Most Advanced Countries in Asia) จากการจัดอันดับ ของ Yahoo Finance

โดยประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และเป็นประเทศที่มีภาคบริการที่โดดเด่นเติบโตสูง คิดเป็นร้อยละ 58.3 ของ GDP ของประเทศในปี 2563 ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.31 จากปีก่อนหน้า สร้างรายได้รวมกว่า 1.37 แสนล้านดอลลาร์

โดยระบุว่า คะแนนการพัฒนามนุษย์ในช่วงปี 2564-2565 นั้นสูงมากที่ 0.800 คะแนน และประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการลงทุนอย่างมากในด้านการวิจัยและพัฒนา R&D ในปี 2563 โดยมีการใช้จ่ายคิดเป็นร้อยละ 1.14 ของ GDP เมื่อพิจารณาคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ Human Development Index ที่ใช้ในการวัดผลพบว่า คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 78.7 ปี ระยะเวลาการศึกษา 15.9 ปี และมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 619,000 ต่อปี

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดอันดับประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียของ Yahoo Finance พิจารณาจาก ดัชนีการพัฒนามนุษย์ จาก Human Development Index หรือ HDI ของปี 2021-2022 ซึ่ง HDI มีการวัดจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคืออายุคาดเฉลี่ย ระดับการศึกษา และรายได้ต่อหัว (GDP Per capita), สัดส่วนของงบประมาณในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ต่อ GDP ที่เป็นข้อมูลจากธนาคารโลก และการประเมินยังคำนึงถึง และการมีบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศนั้น ๆ

'บิ๊กตู่' โชว์ผลงาน 'บัตรทองพรีเมียม' เพิ่มสิทธิประโยชน์ ช่วยประชาชนเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม-ทั่วถึง

(20 ก.พ. 66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐฯ อย่างมีประสิทธิภาพ เท่าเทียมและทั่วถึง หลักประกันสขุภาพไทยได้เปลี่ยนผ่าน 'บัตรทอง' หรือ 'บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า' ให้กลายเป็น 'บัตรทองพรีเมี่ยม' ยกระดับการบริการ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมและทลายข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างแท้จริง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับบัตรทองพรีเมียมในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์มากมาย เช่น เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์เข้ารับการรักษาพยาบาลได้ในหน่วยบริการสาธารณสุขทุกที่ โดยไม่เก็บค่ารักษาพยาบาลภายใน 72 ชั่วโมงหรือพ้นภาวะวิกฤต รักษาโรคติดเชื้อไวรัส-19 โควิดฟรี โดยสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ ผู้ป่วยโรคมะเร็งรับบริการที่ไหนก็ได้ ย้ายหน่วยบริการได้ทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

รวมถึงให้สิทธิฟอกไตฟรี เพิ่มบริการสำหรับแม่และเด็ก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การเพิ่มวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก รักษาโรคมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลือง โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซียาต้านไวรัส HIV เพิ่มสิทธิ์ด้านวัคซีน 5 ชนิด ได้แก่ คอตีบ, บาดทะยัก, ไอกรน, ไวรัสตับอักเสบบี และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

รวมทั้ง การใช้กัญชาทางการแพทย์ ในผู้ป่วยโรคมะเร็งพาร์กินสัน ไมเกรน ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมสำหรับเด็กหูหนวก การให้บริการแว่นตาเด็ก แจกผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับการขับถ่ายสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้มีปัญหากลั้นขับถ่าย การรักษาผู้ป่วยติดบ้านหรือผู้ป่วยติดเตียงในชุมชนทุกสิทธิ์และทุกกลุ่มอายุ และยังลดภาระการเดินทางไปสถานพยาบาลของประชาชน ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ สามารถรับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันใกล้ เป็นต้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนสมัครรับสิทธิบัตรทองพรีเมียม และสมัครให้บุตรหลาน เพื่อเลือกหน่วยบริการ ซึ่งสามารถสมัครได้ตั้งแต่วัยแรกเกิด ซึ่งในปี 2566 ได้มีการเพิ่มสิทธิ์ใหม่ที่ได้มากกว่าเดิม ได้แก่

1.) การดูแลภาวะความดันเลือดในปอดสูงในทารกแรกเกิด (Persistent Pulmonary Hypertension of the Newborn)
2.) บริการทันตกรรม Vital Pulp Therapy หรือการรักษาเนื้อเยื่อในฟันกรามแท้
3.) บริการรากฟันเทียม
4.) บริการห้องฉุกเฉิน คุณภาพภาครัฐฯ
5.) ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ
6.) บริการยาป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวี
7.) เพิ่มยาจำเป็นแต่มีราคาแพง ในกลุ่มบัญชียา จ (2) จำนวน 14 รายการ
8.) บริการดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลัน
9.) บริการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับพิษ
10.) เพิ่มเติมบริการที่คลินิกการพยาบาลฯ กายภาพบำบัด คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมและคลินิกทันตกรรม

‘บิ๊กตู่’ ลุยเมืองคอน ติดตามแผนพัฒนาคุณภาพชีวิต ชาวบ้านแห่ต้อนรับอบอุ่น ตะโกนเชียร์ “รักลุงตู่ๆ”

แน่นทุกจุด ชาวบ้านแห่รับ ‘บิ๊กตู่’ แน่นรพ.มหาราชฯ ตะโกนเชียร์ “รักลุงตู่ๆ” เจ้าตัวอ้อน “รักจังฮู้” ฝากหมอ-พยาบาลช่วยดูแลสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงวัย ‘ย้ำ’รัฐบาลและรมว.สาธารณสุขทำงานร่วมกันอย่างดีมาตลอด

(20 ก.พ.66) ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมี แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนมารอต้อนรับจำนวนนับพันคน

'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! รายได้ 4 เดือนแรก เกินเป้า 9.1 หมื่นลบ. สะท้อนเสถียรภาพการคลัง มั่นใจ!! เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

(21 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น หลังทราบรายงานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ 4 เดือน แรกปีงบประมาณ 2566 และปัจจัยบวกตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศของไทยที่เพิ่มมากขึ้น สะท้อนถึงการเตรียมพร้อมด้านความมั่นคงทางการเงินของรัฐบาล และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงการคลัง เปิดเผยการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงเดือน ต.ค. 2565 - เดือน ม.ค. 2566 พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 สามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ 836,643 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 91,339 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.3 โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร รวมกันอยู่ที่ 820,825 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 45,646 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.9

'บิ๊กตู่' หนุน 'วิ่งเทรลเบตง' 7 ปี หวังดึงดูด นทท. กระตุ้น ศก. - ส่งเสริมภาพลักษณ์ภาคใต้สู่สากล

(21 ก.พ. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดการแข่งขันวิ่งเทรลสนามระดับโลก 'Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023' ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ. ที่ผ่านมา ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันจาก 30 ชาติ จำนวนนักวิ่งรวมทุกประเภท 2,000 กว่าคน

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพอย่างอบอุ่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่เข้าดูแลพื้นที่สร้างความมั่นใจแก่นักกีฬาและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน

ทั้งนี้ ความสำเร็จของการจัดงาน นอกจากจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมากแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์และความสวยงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความน่าอยู่ อุดมสมบูรณ์ หลากหลายวัฒนธรรม ปลอดภัย และน่าสัมผัส สู่สายตาคนไทยและประชากรโลกด้วย

อนึ่ง นายกฯ ยังให้ความเชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้ สนามวิ่งเทรลเบตงจะสามารถยกระดับก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสนามเมเจอร์ของโลก ที่จะสร้างรายได้ในแต่ละปีนับร้อยล้านบาทให้กับจังหวัดชายแดนใต้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลได้อนุมัติการสนับสนุนการจัดวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand เป็นระยะเวลาเจ็ดปี โดยได้เริ่มทดลองจัดเมื่อปีที่แล้ว เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ได้การรับรองจาก UTMB ในการเป็นสนามระดับโลก สำหรับปี 2566 นี้ ถือเป็นปีที่หนึ่งอย่างเป็นทางการ และได้จัดวิ่งระยะทางเต็มพิกัด คือ 160 กิโลเมตร และ 100 กิโลเมตร เส้นทางวิ่งชมเมืองเบตง ผ่าน 18 จุดสำคัญ ลัดเลาะผ่านผืนป่าฮาลาบาลา ผ่านจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และจุดชมวิวทะเลหมอกฆูนุงสิลิปัต โดยในปีหน้า คาดว่าจะจัดเส้นทางให้สามารถวิ่งข้ามประเทศ ไทย-มาเลเซียได้

'ปลอดประสพ' แนะ 'บิ๊กตู่' ประกาศวางมือทางการเมือง อ้าง!! คนเป็นสิบๆ ล้านรอฟัง 3 คำ "ผมพอแล้ว"

(21 ก.พ. 66) นายปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า...

เพียง 3 คำเท่านั้น
ผมไปงานเลี้ยง วปอ.รุ่นผมซึ่งเก่าแก่มาก ตอนนี้เหลือครึ่งเดียวและก็มีอายุเฉลี่ยเกิน 80 ปี ทุกคนจึงเกือบปลอดการเมือง เราคุยกันและก็สรุปสาระของประเทศไทยจากมุมมองที่ต่างกัน บางคนเคยเป็นรัฐมนตรี เป็นทหารชั้นผู้ใหญ่สูงสุด เป็นตำรวจสูงสุด เป็นนักการธนาคารที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ มาแล้ว ความเห็นตรงกันครับ คือประเทศไทยขณะนี้แย่มากจริง ๆ และจะไม่มีวันฟื้นหากประเทศถูกบริหารแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

เช้านี้อ่าน นสพ.ไทยรัฐ ปรากฏว่า มีถึง 6 คอลัมน์ที่พูดถึงระบบความเลวร้ายที่เกาะกินประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ เช่น วงการตำรวจตกต่ำเรื่องบ่อน เรื่องยาเสพติด เรื่องกลุ่มจีนเทาดำมืดทั่วยุทธจักร ตำรวจลาออกเพราะทนอับอายไม่ไหว ผู้กองฟ้องศาลปกครองเพราะการโยกย้ายไม่เป็นธรรม แถมรายการคุณดนัยรายงานว่า มีการประมูลตำแหน่งผู้จัดการการแต่งตั้งโยกย้าย สำหรับกลุ่มทหารเลวกลุ่มหนึ่งก็หากินกับการซ่อมเรือจนจมลงใต้ทะเล ซื้อเรือดำน้ำซึ่งต่อมา 3 ปีแล้วยังหาเครื่องยนตร์ไม่ได้ สวัสดิการบ้านพักทหารก็ดูดกินเลือดลูกน้องจนบ้าคลั่งไล่ยิงคนตายเป็นเบือ

งานวิจัยเพื่อพัฒนาชาติบ้านเมือง กลับมีตลาดจ้างทำและมีการซื้อขายกันได้ การปฎิรูปการเมืองจบที่แต่งตั้งพวกพ้องเพื่อให้มาเลือกตนเป็นผู้นำประเทศ โดยเข้าใจกันว่า แลกเปลี่ยน กับการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้ทำธุรกิจสีดำปื๋อ แถมมีการตกเบ็ดกันเองเพื่อหาคนเข้าพรรค มีการแจกกล้วยเพื่อขอคะแนน อยู่พรรคหนึ่งไปลงคะแนนให้กับอีกพรรคหนึ่ง โดยเฉพาะนายกประยุทธ์ เปลี่ยนไปเป็นสมาชิกพรรคที่กำลังจะชูตนเป็นนายกรอบ 3 ทั้ง ๆ ที่ขณะนี้ตนเองยังนั่งเป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐอยู่ มารยาทแบบนี้เป็นของแปลกมาก แถม สว.แต่งตั้งยังประกาศเทคะแนนให้โดยไม่ต้องฟังผลการเลือกตั้งของประชาชน

‘บิ๊กตู่’ ประกาศยุบสภาต้น มี.ค.เลือกตั้ง พ.ค. เปรย กกต.หวังดี ปมยุบพรรคแบบเร่งด่วน

(21 ก.พ.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตรงบริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีกับตึกไทยคู่ฟ้า ได้ขยับไมโครโฟนออกห่างจุดที่เจ้าหน้าที่ได้จัดไว้ให้ พร้อมกับระบุว่า “ใกล้เกินไปแล้ว ลดรังสีหน่อย เพราะรังสีสื่อค่อนข้างแรง” 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ผลการประชุม ครม. ว่า ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง และการเป็นรัฐบาลรักษาการทำอะไรได้ ทำไม่ได้บ้าง และตนได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ากำหนดการการยุบสภาจะมีภายในเดือน มี.ค.66 ส่วนกรอบเวลาเลือกตั้งเป็นไปตามที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศไว้ คือ 7 พ.ค.66 เพื่อให้เวลาภาคส่วนต่างๆ ได้ดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความเรียบร้อย และระหว่างนี้ขอให้รัฐมนตรี และส.ส.ช่วยกันพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างอยู่หากเป็นไปได้ เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่เสนอไปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการปฏิรูปต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้จะระบุได้เลยหรือไม่ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 7 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องมีสิ ทำไมจะไม่มี เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าจะเกิดวันที่ 7 พ.ค.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ กกต.กำหนดมาแล้ว วันนี้ต้องให้เวลา กกต.ทำกฎหมาย ทำกรอบกติกาให้เรียบร้อย เขาขอเวลามาถึงเดือน ก.พ.

'บิ๊กตู่' สั่ง ทุกฝ่ายจัดการอาชญากรรมไซเบอร์เด็ดขาด พร้อมเร่งพัฒนาระบบป้องกันบริการธุรกรรมออนไลน์

(22 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ของไทย ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนคนไทยเพิ่มขึ้นทุกปี เชื่อมั่นว่า เมื่อร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.... มีผลบังคับใช้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยธนาคารสามารถระงับธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือต้องสงสัยได้ทันที

นายอนุชา กล่าวว่า จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 – 6 กุมภาพันธ์ 2566 มีการแจ้งความอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวนทั้งสิ้น 192,031 คดี เท่ากับมีสถิติคดีแจ้งความประมาณ 1,000 รายต่อวัน มูลค่าความเสียหาย 29,546,732,805 บาท สามารถติดตามอายัดบัญชี 65,872 บัญชี อายัดได้ทัน 445,265,908 บาท มีผู้เสียหายสูงสุดมูลค่าถึง 100 ล้านบาท จึงเป็นสถานการณ์ขั้นวิกฤต ส่วนรูปแบบกลโกงของมิจฉาชีพ 5 อันดับแรก ได้แก่

1.) การหลอกลวงซื้อสินค้า
2). การโอนเงินหารายได้พิเศษ
3.) การหลอกให้กู้เงิน
4.) คอลเซ็นเตอร์
5.) การหลอกให้ลงทุน

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้พิจารณาแนวทางดำเนินการเพื่อแก้ไข ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอออกพระราชกำหนดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่มอำนาจในการสืบสวนสอบสวนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เท่าทัน

ซึ่งการร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership PPP) เป็นการบูรณาการความร่วมมือเพื่อเป็นเครือข่ายในการยับยั้ง ป้องกัน และสร้างภูมิคุ้มกัน (Cyber Vaccine) แก่ประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ล่าสุดได้ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ... ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! ศก.ไทย ปี 65 ขยายตัวดีกว่าประเทศคู่ค้า คาด ปี 66 ภาคท่องเที่ยว-ลงทุน หนุนขยายตัวถึงร้อยละ 3.7

(23 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2565 และแนวโน้มปี 2566 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 1.4 มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวเร่งขึ้นของการส่งออกบริการ การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐ ขยายตัวสูงกว่าประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ที่ขยายตัวอยู่ที่ ร้อยละ 1.0 ร้อยละ 0.6 และร้อยละ -0.9 ตามลำดับ

ทั้งนี้ การขยายตัวของการลงทุนของรัฐวิสาหกิจร้อยละ 10.3 ด้านการต่างประเทศ การส่งออกมีมูลค่า 65,814 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การนำเข้ามีมูลค่า 62,844 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านการผลิต ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ร้อยละ 12.8 ตามการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาสินค้าสำคัญ เช่น กลุ่มผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน (ร้อยละ 51.5X ข้าวเปลือก (ร้อยละ 27.6) สุกร (ร้อยละ 42.4) ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรโดยรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 4 ร้อยละ 16.5

สาขาการก่อสร้าง กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาสร้อยละ 2.6 สาขาที่พักและบริการด้านอาหาร ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่องร้อยละ 30.6 ในไตรมาสนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จำนวน 5.465 ล้านคน รายรับรวมจากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 0.425 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 213.9 โดยเสถียรภาพทางเศรษฐกิจนั้น อัตราการว่างานอยู่ที่ร้อยละ 1.15 ต่ำกว่าร้อยละ 1.23 ในไตรมาสก่อนหน้า

‘ปักกิ่ง’ ผุดบัตรสวัสดิการเวอร์ชันจีน แจก 200 บาท/เดือน ให้ผู้มีรายได้ต่ำ

ในบ้านเราต้องยอมรับว่า ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ตามสไตล์ ‘บิ๊กตู่โมเดล’ หรือตอนนี้บางคนอาจจะเรียกติดปากกันไปแล้วว่า ‘บัตรลุงตู่’ นั้น เป็นหนึ่งในมาตรการแก้ปัญหาที่รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันมีการลงทะเบียนสมบูรณ์แล้วราว 19 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยในสภาวะของแพง ทั้งอาหารเอย แก๊สหุงต้มเอย ได้ลดภาระค่าครองชีพ และสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางสังคมอย่างทั่วถึง 

แนวคิดดังกล่าวค่อนข้างช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับการลงทะเบียนก่อนหน้ากว่า 10 ล้านคน ได้มีโอกาสลดภาระด้านค่าครองชีพลง และช่วยหมุนเศรษฐกิจไปในตัวได้ในระดับหนึ่ง จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าต้นปีที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ นี้ พี่จีนของเรา กำลังเดินตามคอนเซปต์บัตรลุงตู่อยู่หรือไม่

Reporter Journey รายงานว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เปิดเผยตัวเลขราคาอาหารจากทางการจีน ว่า ราคาอาหารแพงขึ้นเฉลี่ย 6% โดยอาหารที่มีสัดส่วนราคาพุ่งมากที่สุดคือ เนื้อหมู ที่คนจีนนิยมบริโภคมากที่สุด รองลงมาคือ สารพัดผลไม้ที่ราคาปรับตัวแพงขึ้นตาม

แม้ 6% เป็นสัดส่วนที่ทั่วโลกก็เจอกันโดยปกติ ตั้งแต่เรื่องของสงครามรัสเซียยูเครนประมาณ 1 ปี แต่สำหรับจีนเอง มีปัจจัยภายในที่ประชาชนค่อนข้างกระอักกระอ่วนในเรื่องของการทำมาหากิน จากนโยบายโรคระบาดเป็นศูนย์ ที่เจอคนติดเชื้อที ปิดพื้นที่ไปที ทำให้รายได้ของภาคธุรกิจและบริษัทเข้ามาไม่ต่อเนื่อง

เรื่องนี้จึงถือเป็นตัวแปรกระทบต่อคนจีน ประกอบกับเจอเรื่องของเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยทั่วโลก ที่กำลังเป็นขาขึ้น จึงทำให้ จีนที่ยังไม่ฟื้น เหมือนเจอพิษซ้ำกรรมซัดกระหน่ำจากปัจจัยของโลกไปอีกคำรบ

ดังนั้นการอุดหนุนค่าใช้จ่าย โดยการ ‘โปรยเงิน’ จึงน่าเป็นทางเลือกหนึ่งของการช่วยเหลือ หลังจาก่อนหน้านี้ราวปี 2554 จีนเคยเปิดตัวโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ด้วยการมอบเงินสดให้กับผู้ยากไร้ที่ประสบอยู่ในสภาวะเงินเฟ้อ หรือราคาอาหารแตะระดับที่กำหนด ซึ่งแต่ละเมืองจะมีกำหนดมาตรฐานของตัวเอง เนื่องจากค่าครองชีพแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top