Tuesday, 10 June 2025
จีน

‘จีน’ มุ่งส่งเสริม ‘อุตสาหกรรมการประหยัดน้ำ’ พร้อมวิจัย-พัฒนาอุปกรณ์ประหยัดน้ำในครัวเรือน

(17 พ.ย. 66) หลี่กั๋วอิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า จีนได้ปรับปรุงอุตสาหกรรมประหยัดน้ำของประเทศให้ดีขึ้น และได้จัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนา การผลิตอุปกรณ์ การก่อสร้างโครงการ และการบริหารจัดการบริการ

หลี่กล่าวว่าอุตสาหกรรมการประหยัดน้ำเริ่มเป็นรูปร่างและครอบคลุมสาขาต่าง ๆ เช่น การชลประทานแบบประหยัดน้ำเพื่อการเกษตร การบำบัดน้ำเสียทางอุตสาหกรรม อุปกรณ์ประหยัดน้ำในครัวเรือน การควบคุมการรั่วไหลของท่อส่งน้ำ การรีไซเคิลสิ่งปฏิกูล การแยกเกลือออกจากน้ำทะเล และเทคโนโลยีประหยัดน้ำอัจฉริยะ

หลี่ระบุว่าประสิทธิภาพการใช้น้ำของจีนถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยมีการใช้น้ำต่อ 10,000 หยวน (ราว 49,000 บาท) ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และการใช้น้ำต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรม 10,000 หยวน (ราว 49,000 บาท) ในปี 2022 ลดลงร้อยละ 46.5 และร้อยละ 60.4 จากปี 2012 ตามลำดับ

ทั้งนี้ จีนได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่นวัตกรรมในภาคส่วนดังกล่าว ผ่านการเพิ่มการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ประหยัดน้ำ

‘ม.ปักกิ่ง’ ครองแชมป์ ‘มหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย’ ปี 2023 จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings

(18 พ.ย.66) จากเพจเฟซบุ๊ก Jeenthainews - จีนไทยนิวส์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ม.ปักกิ่ง ครองแชมป์ ‘มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย’ ปี 2023 โดย QS World University Rankings

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีนที่ได้รับการยอมรับให้เป็นสถาบันการศึกษาระดับโลก ตอกย้ำว่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายนี้ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อภาคการศึกษาของประเทศ

ในปี 2023 นี้ สถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก QS World University Rankings ได้จัดอันดับ 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย ที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพระดับนานาชาติ โดยในจำนวนนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาจากแผ่นดินใหญ่ไปแล้วถึง 5 แห่งด้วยกัน เชื่อว่าหลายๆ ชื่อก็น่าจะคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะรั้งอันดับต้นๆ ของเอเชียมาหลายปี

อันดับที่ 1 มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) ของจีน

อันดับที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore หรือ NUS) ของสิงคโปร์

อันดับที่ 3 มหาวิทยาลัยชิงหวา (Tsinghua University) ของจีน

อันดับที่ 4 มหาวิทยาลัยฮ่องกง (The University of Hong Kong) ของจีน (ฮ่องกง)

อันดับที่ 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University, Singapore หรือ NTU Singapore) ของสิงคโปร์

อันดับที่ 6 มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (Fudan University) ของจีน

อันดับที่ 7 (คะแนนรวมเท่ากัน) มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) ของจีน

อันดับที่ 8 สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี (Korea Advanced Institute of Science & Technology หรือ KAIST) ของเกาหลี

อันดับที่ 9 มหาวิทยาลัยมาลายา (Universiti Malaya หรือ UM) ของมาเลเซีย

อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เจียวทง (Shanghai Jiao Tong University) ของจีน

‘จีน’ จ่อขึ้นแท่น ‘ผู้ส่งออกรถยนต์’ รายใหญ่สุดของโลกปีนี้ หลัง 10 เดือนแรกยอดแตะ 3.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.7

เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน รายงานว่าจีนจะกลายเป็นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกภายในปีนี้อย่างแน่นอน ขณะปริมาณการส่งออกยานยนต์ของจีน ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมของปีนี้ สูงแตะ 3.9 ล้านคัน

หวังเซี่ย หัวหน้าสภาย่อยด้านยานยนต์ของสภาส่งเสริมฯ กล่าวคำข้างต้นที่งานจัดแสดงยานยนต์นานาชาติแห่งกว่างโจว ครั้งที่ 21 โดยหวังเผยว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนได้ก้าวสู่ความเป็นสากลอย่างแข็งแกร่ง แม้สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศมีความซับซ้อน

อนึ่ง ปริมาณการส่งออกยานยนต์ของจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปีนี้ รวมอยู่ที่ 1.07 ล้านคัน ซึ่งแซงหน้าญี่ปุ่นจนกลายเป็นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกครั้งแรก ส่วนปริมาณการส่งออกในช่วงสิบเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.7 เมื่อเทียบปีต่อปี รวมอยู่ที่ 3.92 ล้านคัน

ราคาส่งออกยานยนต์ต่อคันในช่วงสามไตรมาสแรก (มกราคม-กันยายน) ของปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 137,000 หยวน (ราว 685,000 บาท) จาก 85,000 หยวน (ราว 425,000 บาท) ในปี 2014

หวัง กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกของห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์จีนในปี 2001 อยู่ที่เพียง 1.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.52 หมื่นล้านบาท) ครองส่วนแบ่งโลกเพียงร้อยละ 0.65 แต่มูลค่าดังกล่าวในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมของปีนี้สูงเกือบ 1.22 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.31 ล้านล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 5.5 ของทั้งหมดทั่วโลก

หวัง เสริมว่า ตลาดยานยนต์ของจีนจะมีการเติบโตใหม่ๆ ตามการดำเนินชุดนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการบริโภค รวมถึงการทยอยฟื้นตัวของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

‘ชายวัย 69 ปี’ กระโดดลงน้ำแบบไม่คิดชีวิต!! หลังพบคนขับรถจมน้ำ สุดท้ายปลอดภัยทั้งคู่

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชายชาวจีน วัย 69 ปี ได้กระโดดลงแม่น้ำสายท้องถิ่นมณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เพื่อช่วยชีวิตคนขับรถยนต์ที่กำลังจะจมน้ำ โดยทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนที่สัญจรผ่านมาและกลับเข้าสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย

‘ไทย’ หนุนเส้นทางท่องเที่ยว-โชว์มนต์เสน่ห์ ‘ภาคอีสาน’ ชูวัฒนธรรม-ยกระดับผลิตภัณฑ์-งานหัตถศิลป์สู่ตลาดจีน

(20 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, คุนหมิง รายงานว่า คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำคณะผู้แทนบริษัทผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยมากกว่า 20 แห่ง เข้าร่วมงาน ‘ไชน่า อินเตอร์เนชันแนล ทราเวล มาร์ต’ (China International Travel Mart) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่นครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 17-19 พ.ย. ที่ผ่านมา

คุณฐาปนีย์ กล่าวว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ มุ่งนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่สู่ตลาดจีน ภายใต้แนวคิด ‘ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ยิ่งเที่ยวยิ่งสนุก’ โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถโดยสารรถไฟจีน-ลาว มาท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของไทย ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวฯ ยังจัดการแสดงรำไทย การนวดแผนโบราณ และการทำงานหัตถศิลป์ ที่พาวิลเลียนไทย เพื่อนำเสนอขนบธรรมเนียมและมนต์เสน่ห์วัฒนธรรมภาคอีสานด้วย

คุณสุดาวรรณ เผยว่า ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับจีน ในด้านการลงทุนทางเศรษฐกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยว ขณะที่งานนี้ถือเป็นนิทรรศการจัดแสดงขนาดใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีน รวมถึงเป็นเวทีสำหรับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ได้ติดต่อสื่อสารกับบรรดาผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวของไทยแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน และขยายส่วนแบ่งในตลาดจีน

ทั้งนี้ คุณสุดาวรรณ เสริมว่า ไทยดำเนินมาตรการฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน ระยะ 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. เป็นต้นมา พร้อมกับพยายามยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการทางการท่องเที่ยว ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างแข็งขัน เพื่อรับประกันความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีนในไทย ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันยอดเยี่ยม สร้างความประทับใจที่ดีแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน

การท่องเที่ยวฯ ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยในปีนี้รวมอยู่ที่ 2.86 ล้านคน เมื่อนับถึงวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคนหนุ่มสาวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตนเอง โดยการท่องเที่ยวฯ จะเดินหน้าสร้างสรรค์ภาพลักษณ์เชิงบวกของการท่องเที่ยวไทย เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนได้ดียิ่งขึ้น

‘จงจื่อ’ ธนาคารเงาเบอร์ต้นของจีน ส่อล้มละลาย หลังเผชิญปัญหาหนี้สินสูงกว่าสินทรัพย์ 2 เท่า

(23 พ.ย.66) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงเอกสารลับของทางการวันนี้ว่า ธนาคารเงาขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของจีนมีโอกาสล้มละลายอย่างสูงเนื่องจากมีปริมาณหนี้สินสูงกว่าสินทรัพย์มากกว่าสองเท่า

ท่ามกลางสัญญาณความปั่นป่วนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ล่าสุด จงจื่อ เอนเตอร์ไพรส์ (Zhongzhi Enterprise Group Co.) ยักษ์ใหญ่อันดับต้นของจีนเปิดเผยกับนักลงทุนว่า บริษัทฯ มีหนี้สินประมาณ 4.2 แสนล้านหยวน หรือ ประมาณ 5.87 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท) ถึง 4.6 แสนล้านหยวนเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ 2 แสนล้านหยวน

"การตรวจสอบวิเคราะห์สถานะเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทมีความเสี่ยงอย่างมากต่อการดําเนินธุรกิจให้ยั่งยืนต่อไปได้และบริษัทไม่มีสินทรัพย์เพียงพอที่จะชําระหนี้ในระยะสั้น โดยความพยายามก่อนหน้านี้ใน ‘การช่วยเหลือตนเอง’ ก็ล้มเหลวโดยไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์”

ทั้งนี้ จงจื่อคือหนึ่งในผู้จัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคล (Private Wealth Managers) ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและยังเป็นยักษ์ใหญ่ทางการเงินรายล่าสุดที่ประสบปัญหาท่ามกลางวิกฤตที่อยู่อาศัยและการเติบโตที่ซบเซาในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

โดยจงจือซึ่งจัดการสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านหยวนได้รับความสนใจจากนักลงทุนและสื่อจำนวนมากในเดือนส.ค. หลังจากหนึ่งในบริษัทในเครือของบริษัททรัสต์ผิดนัดชําระดอกเบี้ยให้กับลูกค้าในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ไม่ตอบสนองการขอสัมภาษณ์ของบลูมเบิร์ก

ท้ายที่สุดเพื่อบรรเทาความปั่นป่วนของเศรษฐกิจ จีนอยู่ในช่วงออกมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยหน่วยงานกํากับดูแลอยู่ในช่วงร่างรายชื่อนักพัฒนา 50 รายที่มีสิทธิ์ได้รับเงินทุนในการฟื้นฟูกิจการ 

ขณะที่นโยบายก่อนหน้านี้รวมถึงการผ่อนปรนการจํานองสําหรับผู้ซื้อบ้าน การลดเงินดาวน์ เงินคืนภาษีเงินได้และที่ปรับราคาบ้านให้เข้าถึงง่ายมากขึ้น ทว่ามาตรการดังกล่าวก็ยังไม่สามารถยับยั้งปัญหาในประเทศได้

‘WHO’ จี้ ‘จีน’ เปิดเผยข้อมูลโรคทางเดินหายใจ หลังพบคลัสเตอร์เด็กป่วย ‘ปอดอักเสบ’ สูงขึ้น

(23 พ.ย. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก(WHO) ได้ร้องขอข้อมูลจากทางการจีนหลังพบการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ และการพบคลัสเตอร์ของเด็กที่ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบในจีนเพิ่มสูงขึ้น

แถลงการณ์ของ WHO เผยแพร่ในวันก่อนหน้าระบุว่า WHO ได้ร้องขอข้อมูลรายละเอียดอย่างเป็นทางการจากจีนเกี่ยวกับอาการป่วยโรคทางเดินหายใจที่เพิ่มสูงขึ้นและการพบคลัสเตอร์เด็กที่ป่วยเป็นปอดอักเสบ หลังจากมีรายงานว่าในพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนมีผู้ป่วยโรคที่คล้ายกับไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการยกเลิกมาตรการคุมเข้มโรคโควิด-19 และการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงไข้หวัดใหญ่และการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก

ด้านนายหวัง ฉวนอี้ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของปักกิ่ง บอกกับปักกิ่งนิวส์ว่า ปักกิ่งเข้าสู่ฤดูกาลที่มีอุบัติการณ์ของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในระดับสูง ซึ่งกำลังแสดงให้เห็นแนวโน้มของเชื้อโรคหลายชนิดที่อยู่ร่วมกัน

ขณะที่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ProMED สื่อและระบบเฝ้าระวังโรคสาธารณะของจีน ยังรายงานว่ามีคลัสเตอร์ของโรคปอดอักเสบที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยในเด็กทางตอนเหนือของจีนด้วย ซึ่ง WHO กล่าวว่ายังไม่ชัดเจนว่ารายงานของ ProMED เกี่ยวข้องกับการแถลงข่าวของทางการจีนหรือไม่ ซึ่ง WHO ต้องการคำชี้แจง นอกจากนี้ WHO ยังร้องขอข้อมูลแนวโน้มของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่แพร่กระจายอยู่ รวมถึงเชื้อไข้หวัดใหญ่, SARS-CoV-2 (โควิด-19) RSV ที่กระทบต่อทารก และเชื้อไมโคพลาสมา ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในธรรมชาติ

‘จีน’ เปิดม่าน ‘มหกรรมการค้านานาชาติ’ ปี 2023 ที่เทียนจิน รวมสินค้านานาชาติ หนุนการลงทุน-แลกเปลี่ยนความรู้ทางธุรกิจ

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, เทียนจิน รายงานว่า งานมหกรรมการลงทุนและการค้านานาชาติ (เทียนจิน) แห่งประเทศจีน และงานมหกรรมสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในภาคพื้นแปซิฟิก (PECC Expo) ประจำปี 2023 ที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (23 พ.ย.) ที่ผ่านมา ณ เทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อกระตุ้นการบริโภค

งานมหกรรมฯ รวบรวมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึงอาหาร ไวน์ เครื่องสำอาง ของเล่น และงานฝีมือจากนานาประเทศ อาทิ รัสเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย พร้อมด้วยบูธสินค้านานาชาติ 1,500 บูธ กระจายอยู่บนพื้นที่จัดแสดง 50,000 ตารางเมตร

งานมหกรรมฯ ระยะเวลา 4 วัน แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การเจรจาการลงทุน การค้าสินค้าโภคภัณฑ์ และการแลกเปลี่ยนบุคลากร โดยจะมีการจัดงานเกี่ยวกับการประชุมและการลงนามสัญญาต่างๆ

ทั้งนี้ งานมหกรรมการค้าเทียนจินดังกล่าว เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี 1994 และตั้งแต่ปี 2011 ได้ถูกจัดร่วมกับงานมหกรรมสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจฯ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติรอบด้าน ที่ได้รับอนุญาตจากสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภาคพื้นแปซิฟิก และกำลังกลายเป็นงานมหกรรมการค้าที่ทรงอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ทางตอนเหนือของจีน

‘จีน’ เผย ‘การค้าดิจิทัล’ โตก้าวกระโดด มูลค่าการค้าปี 2022 แตะ 13.16 ลลบ.

(24 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หวังตงถัง เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่าการค้าทางดิจิทัลของจีนมีความก้าวหน้าโดดเด่นด้านปริมาณการค้าในปี 2022 พร้อมกับมีการพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

หวัง ซึ่งร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการค้าดิจิทัลโลก ครั้งที่ 2 ในนครหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน กล่าวว่ามูลค่าการค้าทางดิจิทัลของจีนในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบปีต่อปี รวมอยู่ที่ 3.72 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13.16 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์

รายงานว่าด้วยการพัฒนาการค้าทางดิจิทัลของจีนประจำปี 2022 ระบุว่าปริมาณการนำเข้าและส่งออกของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในปี 2022 รวมอยู่ที่ 2.11 ล้านล้านหยวน (ราว 10.55 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบปีต่อปี

ส่วนจำนวนผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มการบริการทางดิจิทัลของจีน ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.54 หมื่นล้านบาท) ได้สูงเกิน 200 ราย เมื่อนับถึงสิ้นปี 2022

หวังเสริมว่าการค้าทางดิจิทัลกำลังเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนการสร้างชาติการค้าอันแข็งแกร่ง และเครื่องมือใหม่สำหรับการเปิดกว้างเชิงสถาบันในระดับสูงของจีน โดยจีนจะพยายามเสริมสร้างการออกแบบระดับสูง พัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ และจัดระเบียบการค้าทางดิจิทัลตามมาตรฐานสูง

‘อีลอน มัสก์’ ชี้!! ’จีน‘ มีคนเก่ง-ขยันมากกว่าสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.66) เพจ 'ลึกชัดกับผิงผิง' ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘อีลอน มัสก์’ ขณะกล่าวให้สัมภาษณ์นายเล็กซ์ ฟริดแมน (Lex Fridman) พิธีกรรายการพอดแคสต์ชื่อดังว่า จำนวนคนฉลาดและคนขยันของจีนมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็มากกว่าสหรัฐฯ ด้วย และประทับใจมากต่อโครงสร้างพื้นฐาน ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของจีน...

’อีลอน มัสก์‘ นับเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยมของโลกและเป็นคนปากหวาน แต่คำชมจีนดังกล่าวคงมาจากประสบการณ์การพัฒนากิจการในจีนของเขาเอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top