Wednesday, 23 April 2025
ข่าวต่างประเทศ

‘สี จิ้นผิง’ ยอมรับ!! ผ่านสุนทรพจน์อวยพรปีใหม่ ‘เศรษฐกิจจีน’ กำลังอยู่ในช่วง ‘ยากลำบาก’

(3 ม.ค. 67) CNN ของสหรัฐฯรายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เข้ารับตำแหน่งในฐานะผู้นำประเทศเมื่อปี 2013 ที่เขาได้ออกมายอมรับถึงสภาพปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจจีนว่ามีอยู่จริง

เป็นการเปิดเผยผ่านสุนทรพจน์อวยพรปีใหม่ประจำปี 2024 ในวันอาทิตย์(31 ธ.ค)นี้มีใจความว่า

“มีบางบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ประชาชนบางคนกำลังมีปัญหาในการหางานทำและเพื่อทำให้สามารถอิ่มท้องและอยู่ได้ไปวันๆ”

และเขาต่อว่า “ทั้งหมดเหล่านี้ยังคงเป็นปราการด่านหน้าอยู่ในใจของผม” ผู้นำจีนชี้ว่า “พวกเราจะทำให้เข้มแข็งและเพิ่มความแข็งแกร่งต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของพวกเรา”

ทั้งนี้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่สีจะขึ้นกล่าวสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน NBS (National Bureau of Statistics) ได้เผยแพร่ดัชนีประจำเดือนผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ PMI(Purchasing Managers Index) ซึ่งดัชนีที่ว่านี้เพื่อสำรวจธุรกิจเอกชนทั่วโลก หากดัชนี PMI สูงกว่า/ต่ำกว่า ระดับ 50 หมายถึง แนวโน้มเศรษฐกิจและภาวะธุรกิจโดยรวมมีทิศทางดีขึ้น/แย่ลง

ซึ่งจากการเปิดเผยแสดงถึงความเคลื่อนไหวทางอุตสาหกรรมจีนลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่เดือนธันวาคม

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน NBS กล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า ตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมจีนอย่างเป็นทางการตกไปที่ 49 ในเดือนที่ผ่านมา ต่ำกว่า 49.4 ในเดือนพฤศจิกายน

CNN รายงานว่าซึ่งหากตัวเลขดัชนีสูงกว่า 50 แสดงถึงการขยายตัวและหากต่ำกว่า 50 แสดงถึงการหดตัว ซึ่งตัวเลข PMI เดือนธันวาคมยังเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแสดงการหดตัวทางอุตสาหกรรม

เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากปัญหาอุปสงค์(demand) ที่อ่อนตัว การว่างงานเพิ่มขึ้นและความไม่มั่นใจทางธุรกิจ

การกวาดล้างของรัฐบาลจีนทางธุรกิจโดยใช้ข้ออ้างเหตุผลทางความมั่นคงจีนนั้นทำให้นักลงทุนต่างประเทศหนี

ทั้งนี้ในวันเสาร์(30 ธ.ค)ธนาคารกลางจีนได้ประกาศไฟเขียวยกเลิกการควบคุมของผู้ถือหุ้นของบริษัท Alipay ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลทางการเงินยักษ์ใหญ่ของจีนที่สามารถพบได้ในต่างประเทศรวมในไทย โดย Alipay เป็นของ Ant Group ที่มีเศรษฐีพันล้านจีน แจ็ก หม่า เป็นผู้ก่อตั้งร่วม

ซึ่งการไฟเขียวนี้ CNN หมายความว่า แจ็ก หม่านั้นยกเลิกการควบคุมในบริษัทนี้อย่างเป็นทางการ

‘จักรภพ’ ข้ามขั้ว!! จัดรายการให้ ‘ท็อปนิวส์’ เทปแรก ผลตอบรับดีเกินคาด ชี้!! นี่คือ ‘กูรูด้านต่างประเทศ’

(10 ธ.ค. 67) หลังมีคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับการไปจัดรายการช่อง TOP NEWS  ของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการโดดไปร่วมงานกับช่องโทรทัศน์ที่มีความเห็นทางการเมืองต่างขั้วอย่างสิ้นเชิง จนหลายฝ่ายจับตาถึงท่าทีของนายจักรภพ ต่อการทำหน้าที่ในครั้งนี้ 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายจักรภพ ได้จัดรายการ ร่วมกับนายอุดร แสงอรุณ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวท็อปนิวส์ เป็นเทปแรก โดยนายจักรภพ ได้วิเคราะห์ 3 สถานการณ์ทางการเมืองต่างประเทศที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั้งโลก ทั้งเรื่องประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายยุน ซ็อกย็อล ประกาศกฎอัยการศึกท่ามกลางความสงสัยของคนทั้งประเทศและทั่วโลกว่าทำไมต้องทำ ทั้งที่สถานการณ์ไม่ได้เอื้ออำนวย โดยนายจักรภพได้วิเคราะห์เจาะลึกถึง สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งกันทางการเมืองภายใน ที่คุกรุ่นมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนนำไปสู่การประกาศอัยการศึก ซึ่งเป็นเรื่องเกินจินตนาการของคน และถือเป็นการประเมินการสถานการณ์ผิดพลาดอย่างมากของนายยุน ซ็อก ย็อล ที่ต้องหมดอนาคตทางการเมืองในที่สุด 

นายจักรภพ ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์สหรัฐ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และรอพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ วันที่ 20 มกราคม 2568 โดยขณะนี้ทรัมป์ ก็กำลังเลือกทีมทำงานอย่างเข้มข้น ท่ามกลางการถูกจับตาว่า เขาตั้งคณะรัฐมนตรี ในตำแหน่งสำคัญจากเงาสะท้อนของตัวเอง ไม่ได้ตั้งคนที่จะมาช่วยคิดที่จะมาเติมเต็มใด ๆ โดยเฉพาะเรื่องการแสดงท่าทีต่อจีน และสงครามยูเครน ซึ่งผู้ที่คาดการณ์ว่าจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศคือ นายมาร์โก รูบิโอ ซึ่งเป็นคนที่ต่อต้านจีนอย่างหนัก  รวมทั้งประกาศกร้าวก่อนหน้านี้ว่าจะยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็วด้วย อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐจะเป็นผู้ตัดสินชี้อีกครั้งว่าเหมาะสมหรือไม่  

นอกจากนี้ นายจักรภพ ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นเรื่องมหาอำนาจของมหาอำนาจงัดข้อกันเอง โดยเฉพาะกรณีกบฏซีเรียบุกเข้ายึดเมืองอเลปโป้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของรัฐบาลซีเรีย เชื่อมโยงกับการช่วยเหลือของรัสเซีย รวมทั้งสถานการณ์ยูเครน ที่ยังไม่สงบ และจะส่งผลกระทบต่อไทยและต่อโลกอย่างแน่นอน หากทรัมป์ตัดความช่วยเหลือทั้งหมด ขณะที่รัสเซียต้องเข้าไปวุ่นวายทั้งสมรภูมิ ยูเครน และซีเรีย นั่นหมายความว่าจีนซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของรัสเซีย จะเป็นผู้อำนาจสูงสุดในการจัดระเบียบโลก 

“และในฐานะที่ประเทศไทยอยู่ใกล้กับจีน เรายิ่งต้องระวังในเรื่องของดุลยภาพ แน่นอนว่าเราอยากคบกับจีน เพราะจีนมีศักยภาพ ขณะเดียวกันเราก็ต้องการคบ และต้องการค้าขายกับคนอื่นด้วย ดังนั้น ไทยจะต้องมีขีดความสามารถในการเลือกข้าง โดยไม่ให้ใครมาว่าเราได้ว่าเลือกทางนี้ไม่เอาทางโน้น ดังนั้นเราต้องจับตาการตัดสินใจของประธานาธิบดี ปูติน แห่งรัสเซีย ต่อสถานการณ์ซีเรียและยูเครน ซึ่งแน่นอนว่านโยบายต่างประเทศของเราจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก” นายจักรภพ กล่าว  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดรายการ มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก และมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางบวก ที่มองว่า นายจักรภพ วิเคราะห์ข่าวได้คม เป็นผู้ที่รู้ลึกรู้จริงด้านต่างประเทศเกินความคาดหมาย และการสื่อสารได้ชัดเจน จะช่วยให้คนไทยได้เข้าใจโลกใบนี้ได้มากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top