Friday, 13 June 2025
ก้าวไกล

'พิธา' ยกทัพใหญ่บุกสามย่าน ประกาศ '9 เปลี่ยน' คนไทยไว้ใจได้ ย้ำ!! จุดยืนชัด “มีลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง”

(22 เม.ย.66) 'พิธา' ปิดเวทีทัพใหญ่ก้าวไกลบุกสามย่าน ตื้นตันกระแสพุ่งทะยานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่มีพรรค ชวนทุกคนที่ยังไม่ตัดสินใจ ร่วม “9 เปลี่ยน” ย้ำ ก้าวไกลคือความเปลี่ยนแปลงที่ไว้ใจได้ ตรงไปตรงมา “มีลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง”

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยปิดท้ายเวทีปราศรัย “ทัพใหญ่ก้าวไกล ปราศรัยโค้งสุดท้าย” ที่สามย่านมิตรทาวน์ ท่ามกลางผู้เข้าร่วมฟังการปราศรัยที่ล้นหลาม

โดยพิธาระบุว่าปัจจุบันการหาเสียงของพรรคก้าวไกลเข้าฝักเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความชัดเจนตรงไปตรงมา และความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของตน นี่เป็นเวลาที่อันดับในโพลล์ของพรรคก้าวไกลขึ้นมากที่สุดตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมาและสูงกว่าสมัยอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ การค้นหาในกูเกิลเทรนด์สูงสุดตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมา คนที่โทรเข้าฮอทไลน์ของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า คนซื้อสินค้าพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้น 15-20 เท่า และยอดบริจาคผ้าป่าก้าวไกลตอนนี้ ได้มาเกิน 10 ล้านบาทแล้ว ทุกพื้นที่ในประเทศไทยที่ตนไป ได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดีมาจนถึงตอนนี้

ในโอกาสนี้ ตนอยากสื่อสารถึงประชาชนคนไทยทุกคนสามกลุ่ม คือ กลุ่มแรก คนที่ยังคิดไม่ออกว่าวันที่ 14 พ.ค. นี้จะออกมาเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งตนเข้าใจว่าหลายคนอาจจะมีความจำเป็น ทั้งเรื่องของการเดินทางที่ยากลำบาก มีลูกหลานที่ต้องดูแล มีพ่อแม่ที่ป่วยติดเตียง หรือต้องเปิดร้านออกมาไม่ได้ แต่ตนอยากเชื้อเชิญให้ทุกคนเชื่อมั่น ว่าหากเราคือ...ความเปลี่ยนแปลงที่ท่านถวิลหา, ความเปลี่ยนแปลงที่ท่านเชื่อถือได้, ความเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ และความเปลี่ยนแปลงที่คุ้มค่า 14 พฤษภาคม เข้าคูหากาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

สำหรับกลุ่มคนที่สอง คือทุกท่านที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหน ตนยืนยันได้ว่าพรรคก้าวไกลคือการเปลี่ยนแปลงที่เชื่อถือได้ ตรงปก เลือกแบบไหนได้แบบนั้นแน่นอน คือมี "ลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง" และสุดท้าย คนที่ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเลือกพรรคอื่นแล้วผิดหวัง ไม่เป็นไปตามสัญญา ตนขอยืนยันว่ากว่า 300 นโยบายที่พรรคก้าวไกลทำไว้ มีเงินจ่ายและทำได้จริงแน่นอน โดยเฉพาะรัฐสวัสดิการที่ต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย

พิธากล่าวต่อไป ว่าเพราะการกาให้พรรคก้าวไกล จะทำให้เกิด “9 เปลี่ยน” ครั้งประวัติศาสตร์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาในประเทศไทยก่อน ตามยุทธ์ศาสตร์ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” ของพรรคก้าวไกล เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 3, ปากท้อง 4 และอนาคต 2 กล่าวคือ...

1) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่เราจะมีรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เปลี่ยนจากเผด็จการจำแลงให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ 

2) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่จะเปลี่ยนประเทศที่ทุกอย่างถูกรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพให้เป็นประเทศไทย ด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ 

3) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่จะมีระบบการแก้ปัญหาทุตริต โดยพลิกโฉมเปลี่ยนจากรัฐปกปิดให้เป็นรัฐโปร่งใส

4) เปลี่ยนจากที่ดินนายทุน ขุนศึก ศักดินา ให้กลายเป็นที่ดินของประชาชน 

5) สำหรับแรงงานทั่วประเทศ เปลี่ยนจากการขึ้นค่าแรงตามใจผู้มีอำนาจ เป็นการขึ้นค่าแรงที่แปรผันตามค่าครองชีพ โดยจะขึ้นทันที 450 บาท ก่อนขึ้นอัตโนมัติตามค่าครองชีพ 

‘ณัฐชา’ ยัน ‘ก้าวไกล’ ไม่ปรับกลยุทธ์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย เน้นลงพื้นที่เข้าถึง ปชช. โว!! คะแนนนิยมดีทั้งออนไลน์-ออนกราวด์

(23 เม.ย.66) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัครส.ส. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกล จะปรับกลยุทธ์หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ทั้งในพื้นที่ที่กระแสตอบรับดี และพื้นที่ที่กระแสยังเป็นรองหรือไม่ ว่า ตนเชื่อว่าในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกระแสของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และกระแสของพรรคในวันนี้จนไปถึงช่วงโค้งสุดท้ายจะดีขึ้น ทำให้หลายๆ เขตได้รับชัยชนะ น่าจะไม่มีการปรับกลยุทธ์เพิ่มเติมใดๆ เพราะเราก็หวังเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว และนโยบายต่างๆ ของเราทั้ง 300 นโยบายเราก็ประกาศให้ประชาชนทราบหมดแล้ว สิ่งที่เราทำวันนี้ไปจนถึงโค้งสุดท้ายคือ เดินทางไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เราอยากจะทำ ความตั้งใจที่เราบอกกับประชาชนไปแล้วว่า เราจะเข้าไปทำงานอย่างตรงไปตรงมา

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า เราไม่ได้มองเรื่องของการประกาศจุดยืนต่อพี่น้องประชาชนได้รับทราบ แต่เราประกาศทั้งหมดไปตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย เงื่อนไขที่เราประกาศว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร แนวทางของผู้สนับสนุนพรรคเรา สามารถรับได้ในสิ่งไหนบ้าง เราก็ได้ประกาศไปตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงการประกาศแคนดิเดตนายกฯ จนถึงวันนี้สิ่งที่เราเดินหน้าทำอยู่ คือเรื่องที่เราพูดออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่เราทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้นๆ ในทุกๆ วัน จนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งเท่านั้นเอง ไม่มีการปรับกลยุทธ์ ไม่มีการเพิ่มเติมเงื่อนไขต่างๆ เพราะสิ่งที่เราได้สื่อสารกับประชาชน เราได้ทำกันอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่แรก

เมื่อถามว่า กรณีโพลมติชน-เดลินิวส์ ที่กำลังเปิดโหวตครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-28 เมษายนนี้ สำหรับพรรคก้าวไกล จะปรับกลยุทธ์การหาเสียงโค้งสุดท้ายอย่างไร นายณัฐชา กล่าวว่า ยังยืนยันคำตอบเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลโพลก็ดี หรือคะแนนนิยมในพื้นที่ต่างๆเองก็ดีทั้งในออนไลน์ และออนกราวด์ เรามีแต่เดินหน้าบอกเรื่องราวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ที่เป็นสิ่งที่เราได้บอกกล่าวไปตั้งแต่วันแรก ฉะนั้นไม่ว่าจะทำโพลกี่ครั้ง คะแนนนิยมของเราที่เพิ่มขึ้น มีการรับรู้ มีจำนวนประชาชนที่เข้าใจเพิ่มมากขึ้น บางคนอาจยังเข้าใจนโยบาย หรือแนวทางการทำงานของพรรคที่คลาดเคลื่อน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง คือการทำความเข้าใจ พูดคุยกับพี่น้องประชาชน


ที่มา : https://www.matichon.co.th/election66/news_3939532

‘รถหาเสียง’ ผู้สมัคร ส.ส. ‘ก้าวไกล’ นครปฐม เสียหลักพุ่งตกคลอง!! หลังมีรถตัดหน้ากะทันหัน โชคดี คนขับปลอดภัย

(23 เม.ย.66) ที่ จ.นครปฐม นายสาโรจน์ จุ้ยเจริญ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 5 นครปฐม พรรคก้าวไกล เปิดเผยกับ ‘มติชน’ ว่าได้รับแจ้งจาก นางพีรยา หรือ เจ๊แต๋ว อายุ 62 ปี คนขับรถประชาสัมพันธ์พรรคก้าวไกลและผู้สมัคร ส.ส.ของตนว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะที่ใช้เป็นรถประชาสัมพันธ์เสียหลักตกลงไปในคลองชลประทานบางปลา-ลำพญา ต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้รับความเสียหาย จึงได้ประสานทีมงานเข้าไปช่วยดูแล เบื้องต้นทราบว่ารถยนต์ได้รับความเสียหาย น้ำเข้ารถและเครื่องยนต์ ส่วนคนขับปลอดภัย

ด้านนางพีรยา หรือเจ๊แต๋ว กล่าวว่า ขับรถคันดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ใช้เส้นทางเลียบคลองชลประทานบางปลา-บางระกำ จากบ้านเพื่อไปประชาสัมพันธ์หาเสียงให้พรรคก้าวไกลและนายสาโรจน์เป็นประจำ ซึ่งวันนี้เป็นวันอาทิตย์มีตลาดนัดเช้าที่วัดกลางบางพระจึงออกเช้ากว่าปกติ โดยใช้เส้นทางเลียบคลองชลประทาน

นางพีรยากล่าวว่า เมื่อมาถึงซอยลำพญา ซอย 6 ต.บางระกำ อ.บางเลน มีรถกระบะสีดำสภาพเก่าวิ่งพุ่งออกมาจากซอยกะทันหัน จึงตกใจเบรกอย่างแรงทำให้รถเสียหลักตกลงข้างทางไถลลงคลองชลประทานที่มีน้ำเต็มคลอง ขณะนั้นตกใจมากประตูเปิดไม่ออก หมุนกระจกลงอย่างเร็วแล้วรีบปีนออกทั้งที่น้ำก็พุ่งเข้ารถ โชคดีที่เป็นรถรุ่นเก่า เป็นระบบกระจกหมุนมือ ถ้าเป็นไฟฟ้าคงสบายไปแล้ว

นางพีรยากล่าวอีกว่า เมื่อออกจากรถได้รีบขึ้นมาบนคันคลอง มีชาวบ้านที่กลับจากนาผ่านมาบอกว่าโชคดีนะที่วันนี้น้ำเต็มคลอง ปกติน้ำไม่ค่อยมี หากตกลงไปตอนน้ำแห้งคงอันตรายมาก เพราะคลองนี้ลึก 2 เมตรกว่า และช่วยเรียกชาวบ้านมาช่วยกันนำรถขึ้นมา

“คิดว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุมากกว่า เขาอาจไม่เห็นเรา หรือรีบ ทำให้ออกมาแบบไม่ทันระวัง ส่วนเราก็เกรงว่าจะชนจึงเบรกอย่างแรงทำให้เสียหลัก ตอนนั้นตกใจมาก ช่างมัน ฟาดเคราะห์ รีบซ่อมรถออกทำงานต่อ” เจ๊แต๋ว กล่าว


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3939626

‘พิธา-อภิสิทธิ์’ ลั่น!! พร้อมดันกระทรวงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปลดล็อก 'เสรีภาพ-สวัสดิการ-สนับสนุน' งานครีเอทีฟ

‘พิธา-อภิสิทธิ์’ ชู ‘6 เปลี่ยน’ รัฐบาลก้าวไกลดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทุกมิติ เปลี่ยนกระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปลดล็อกเสรีภาพ-สวัสดิการ-การสนับสนุน ศิลปินหลายแวดวงร่วมแลกเปลี่ยน

(23 เม.ย.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดเวที 'Future of Creative Economy เปิดอนาคตเศรษฐกิจสร้างสรรค์' ที่ชั้น 5 Creative Space สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บางรัก

พิธา กล่าวว่า ตนเคยมีประสบการณ์สั้นๆ ในวงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ลองทำมาแล้วหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น งานดนตรี งานโฆษณา งานภาพยนตร์ หรืองานเขียนหนังสือ พบว่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตได้กว่านี้อีกมาก คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก แต่มีบางสิ่งที่เป็นข้อจำกัดทำให้ศักยภาพเหล่านั้นไม่ถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องสวัสดิการของคนทำงานในกองถ่าย การสนับสนุนจากรัฐ และสิทธิเสรีภาพของผู้ผลิตผลงาน

“งบประมาณของประเทศกว่า 3.3 ล้านล้านบาท มีคำว่าซอฟต์พาวเวอร์อยู่ในงบประมาณเพียง 80 ล้านบาทเท่านั้น จากงบกระทรวงวัฒนธรรม 7,000 ล้านบาท มีเพียง 150 ล้านบาทเท่านั้นที่มีไว้สำหรับศิลปะร่วมสมัย สรุปว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยคนที่ทำงานสร้างสรรค์ แต่ขาด 3 ส. ได้แก่ เสรีภาพ, สวัสดิการ และสนับสนุน การสร้างพลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้จริงๆ เราจึงต้องการพรรคการเมืองที่กล้าคิดนอกกรอบและเข้ามาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง” พิธากล่าว

จากนั้น อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกลได้ร่วม อภิปราย พร้อมยกแนวทาง 6 เปลี่ยนเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย

1. เปลี่ยนกระทรวง ‘วัฒนธรรม’ เป็นกระทรวง ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ ยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นนโยบายระดับชาติ การปรับกลไกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำงานตอบโจทย์ของประเทศ
2. สร้างสวัสดิการแรงงานสร้างสรรค์ก้าวหน้า รัฐบาลสมทบเงินประกันสังคม และให้สิทธิเสรีภาพในการจัดตั้งสหภาพแรงงานสร้างสรรค์
3. ตั้งกองทุนสร้างสรรค์เพื่อเปิดโอกาสในการทำงานใหม่ๆ ส่งเสริมและอุดหนุนส่งผลงานเข้าประกวด และมีทุนกู้ยืมเพื่อทดลองทำผลงาน รวมถึงมีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อประกอบธุรกิจตั้งต้น
4. คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก แก้ไข พ.ร.บ.เซ็นเซอร์, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, และกฎหมายปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอื่นๆ รวมถึงทลายทุนผูกขาดในอุตสาหกรรมและผลักดันให้ขอใบอนุญาตได้รวดเร็วและเป็นธรรม
5. ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ในระดับจังหวัด เปิดโอกาสให้ทำสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบในทุกพื้นที่ การสร้างห้องทดลองในการทดสอบรับรองมาตรฐานคุณภาพและเพิ่มศักยภาพของการผลิตสินค้าท้องถิ่น
6. เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ให้ได้คนที่เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นแต่ละที่จริงๆ ได้พัฒนาศักยภาพของบ้านเกิดตัวเอง

‘โรม’ โต้!! วาทกรรม ‘เลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์’ ไม่มีจริง วอนประชาชนใช้สิทธิ์อย่างมีความหวัง - ไร้ความกลัว

เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.66) นายรังสิมันต์ โรม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวิดีโอลงแอปพลิเคชัน Tiktok ส่วนตัว ชี้แจงกรณีข่าวลือที่ส่งต่อกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ให้เลือกอย่างมียุทธศาสตร์ จนเกิดวาทกรรมต่างๆ เช่น เลือกก้าวไกลได้ประยุทธ์

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีคนสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่าการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ควรจะเลือกแบบมียุทธศาสตร์หรือไม่ เพราะกลัวว่าหากฝั่งประชาธิปไตยแพ้ สุดท้ายฝั่งตรงข้ามที่เป็นขั้วอำนาจเดิม จะกลับมามีอำนาจอีก ก่อนอื่นตนต้องบอกก่อนว่า การเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ที่ใช้กัน เอาเข้าจริงแล้วเป็นการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่ 

ในครั้งหนึ่งของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีคำพูดว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่” สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สังคมอยู่ภายใต้ความกลัว และท้ายที่สุดการเลือกตั้งครั้งนั้น โดยส่วนตัวคิดว่าไม่สามารถสะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการเลือกตั้งที่ดีคือ “การเลือกตั้งอย่างมีความหวัง” ที่มีความฝันอยากให้เป็นไปได้

หากเราย้อนกลับไปตอนปี 2562 การเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายพรรคอนาคตใหม่จะชนะได้กี่เขตเลือกตั้ง ซึ่งสุดท้ายพรรคที่ไม่มีประสบการณ์อย่างอนาคตใหม่ ก็สามารถชนะเลือกตั้งได้กว่า 30 เขต สิ่งที่ตนอยากจะเสนอกับทุกคนคือมันไม่มีการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ มีแต่การเลือกตั้งที่อยากจะเห็นว่าใครเป็นตัวแทน อยากได้รัฐบาลแบบไหน ซึ่งการเลือกตั้งที่ดีควรจะเป็นแบบนี้

สุดท้าย หากอยากนำเสนอกันเรื่องการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ตนอยากจะบอกว่า ยุทธศาสตร์ที่หวังจะเห็นคือ ประเทศไทยต่อไปข้างหน้าควรจะเป็นอย่างไร อนาคตควรจะเป็นแบบไหน เพราะหากสุดท้ายยังเป็นแบบเดิม คนไทยจะได้อะไร ดังนั้น 14 พฤษภาคม ขอให้กาก้าวไกลทั้งสองใบ อย่าให้ใครมาสร้างความกลัว

'ชาย' สวน 'ช่อ' มีสามนิ้วเผาพระบรมฉายาลักษณ์ผิด 112 'ช่อ' บอก "ไม่มี" แถมโห่ใส่เมื่อบอกว่ารู้ข่าวจาก TOP NEWS

(25 เม.ย.66) นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ดำเนินรายการช่อง TOP NEWS ได้โพสต์ข้อความหลัง ช่อ พรรณิการ์ วานิช โต้เถียงกับชายผู้หนึ่งเกี่ยวกับความผิด ม.112 ระบุว่า...

“ไปดูข่าวท็อปนิวส์”

พี่ ผช. คนหนึ่ง เถียงกับ 'ช่อ' ว่ามีสามนิ้วไปเผาพระบรมฉายาลักษณ์ จึงโดน 112 มีความผิด ถูกดำเนินคดี ถ้าแค่วิจารณ์รัฐบาลทำได้เลย ไม่มีใครว่า

'ช่อ' เสียงดัง และมีพวกมากกว่า พูดข่มว่า "ไม่มี" เผาพระบรมฉายาลักษณ์ ก็โดนเผาทรัพย์ ไม่ใช่ 112

พี่ ผช. บอก “ไปดูข่าวท็อปนิวส์”

แล้วช่อและสาวก ก็บูลลี่ ด้วยการโห่ฮาป่า

‘โซเชียล’ ขุด!! ‘ก้าวไกล’ อ้าง ‘บิ๊กตู่’ ปัดตกทุก กม. เงิบ!! นายกฯ อยู่ฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ

เรียกว่าตอนนี้เวทีดีเบตที่พรรคก้าวไกลไปขึ้น ร่ายวาทกรรมอำพรางได้อย่างเมามัน ชาวบ้านไม่รู้ทัน ก็มองว่าวาทกรรมที่แสนสะใจเหล่านั้น ล้วนเป็นเรื่องจริง

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นพูดบนเวทีหนึ่งว่า...

"พรรคก้าวไกลตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่เสนอกฏหมายอะไรผ่านสภา พลเอกประยุทธ์ ก็ปัดตกหมด"

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้มีการออกมาเปิดเผยกันในโลกโซเชียลว่า…

‘คำผกา' ฟาด!! ‘ก้าวไกล’ เร่งปฏิรูปกองทัพโดยเร็ว แค่คำโกหก หลอกประชาชน โกยคะแนนไปวันๆ

(25 เม.ย.66) นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ ‘คำ ผกา’ หรือ ‘แขก’ พิธีกรชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Lakkana Punwichai ว่า... 

คนที่สนับสนุนเพื่อไทย เขารู้เหมือนคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลนั่นแหละค่ะว่า การรัฐประหารมีปัญหา กองทัพมีปัญหา ความสัมพันธ์ของสถาบันทางเมืองสำคัญๆบิดเบี้ยวจากหลักการ ปชต. แต่เขาเลือกพรรคเพื่อไทยด้วยเห็นว่า พรรคเพื่อไทยไม่หลอกลวงเราว่าเรื่องไหนทำได้เลย เรื่องไหนยังทำไม่ได้

และเหตุที่เราไม่เลือกก้าวไกลเพราะเรารู้ทันว่า เขาปลุกเร้าคนให้เชื่อว่าเขาจะมา ‘ล้มล้างต้นตอปัญหา’ ที่เพื่อไทยไม่กล้าแตะ ทั้งๆ ที่เขาก็รู้ว่า มันทำไม่ได้ เช่น…

เป็นไปไม่ได้ที่จะออกกฎหมายห้ามรัฐประหาร ในแง่กฎหมาย เหมือนออกกฎหมายฆ่าคน เรามีกฎหมายก็จริง แต่คนจะฆ่า มันก็ฆ่า เช่นกัน คนทำ รปห. ทำเสร็จยึดอำนาจได้ ก็แค่นิรโทษกรรมตัวเอง

สิ่งที่ทำได้ คือ พยายามพูดเรื่องลบล้างผลพวงรัฐประหาร การสร้างวัฒนธรรมธิปไตยให้ ปชช. หวงแหนประชาธิปไตย!

การปฏิรูปกองทัพเรื่องใหญ่ ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ ในรัฐบาลสมัยเดียว มันต้องค่อยๆ ทำให้รัฐบาลเลือกตั้งเข้มแข้งขึ้นเรื่อยๆ

ที่พูดๆกันว่าจะทำให้สำเร็จในเร็ววัน มันไม่ได้แน่ การเมืองการเลือกตั้งต้องเข้มแข็งและต่อเนื่อง เพราะมันเรื่องใหญ่ ใครที่อ้างว่าทำได้ในเร็ววันคือโกหก หลอกลวง!!

การเมืองไม่ใช่เรื่องความเท่ แต่เป็นเรื่องชีวิต!

แขกเคารพพรรคเพื่อไทย แม้จะมีข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่เขาไม่เอาชีวิตของประชาชนมาทำให้เป็นเรื่องเล่นๆ หลอกเอาคะแนนไปวันๆ โดยไม่รับผิดชอบ


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/365894/ 

เปิดวีรกรรม!! ‘ส.ส.ก้าวไกล’ ไปงานศพ 4 ปีไม่เคยใส่ซอง แต่กินข้าวฟรี-ห่อกลับบ้าน แถมใช้พวงหรีดวนซ้ำ 3 รอบ

วันนี้ (25 เม.ย.) บนโซเชียลฯ แชร์คลิปนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ YOUR SPEAKER ทางมติชนทีวี เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา แล้วมีการตัดบางช่วงบางตอนเกี่ยวกับการไปงานศพของประชาชนในพื้นที่ ในตอนหนึ่งนายจิรัฎฐ์ กล่าวว่า "ผมก็จะไปเฉพาะที่เขาเชิญ คือถ้าเขาเชิญแล้วเราไม่ไปนี่ก็ไม่ได้ เขาเชิญเราก็ต้องไปถูกไหมครับ ... ผมก็ไปแทบจะทุกอาทิตย์ ตลอด 4 ปีมานี้ก็ยังไปต่อเนื่องทั้งๆ ที่ไม่เคยใส่ซองสักบาทเดียว แล้วก็กินอิ่มด้วยทุกครั้งที่ไป แล้วถ้าเป็นงานสวดไม่ใช่งานเผานี่ งานสวดผมก็ได้กับข้าวกลับบ้านทุกครั้ง ได้เยอะด้วย เพราะว่าแม่ครัวจะเอามาให้เยอะมาก ... เราก็เริ่มต้นแบบนี้ด้วยการไม่ใส่ (ซอง) ไม่เห็นมีใครว่า ก็ทำต่อไปได้ครับ จริงๆ เราก็ควรจะทำด้วย

อีกเรื่องหนึ่งพวงหรีดตอนแรกผมก็ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบโน้นนี่นั่น พยายามจะเปลี่ยน พยายามจะออกไอเดียใหม่ๆ ให้มันดูเป็นคนรุ่นใหม่ รอบแรกๆ เอาเป็นต้นไม้ไปแทน ต้นไม้มันก็ต้นเหี่ยวแห้งเล็กๆ ไปเทียบกับเขาที่มันพวงใหญ่ๆ มันก็ไม่มีใครสนใจนะครับ เปลี่ยนเป็นถุงขยะไปเก็บแก้วน้ำมันก็เหนื่อยไม่ไหว สุดท้ายก็ได้ไอเดียว่า พวงหรีดเวิร์กมันคือการโฆษณาที่มันเป็นการตลาดที่โคตรคุ้มเลย 300 บาท กับการที่สวด 7 วันมีคนเห็น 2-3 ร้อยคน ทุกวันทุกวันชื่อเรา เออเขาถึงทำกันไงครับ 300 บาท ผมใช้ 3 งาน ให้มัคทายกเก็บให้ใช้ 3 รอบ ก็ประหยัดที่สุดเท่าที่ประหยัดได้" ประเด็นดังกล่าวทำเอาผู้คนบนโลกโซเชียลฯ วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยฝ่ายที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นการสู้ทางการเมืองแบบฉลาด กับผู้คนทั่วไปที่มองว่า ส.ส.มีเงินเดือนนับแสนบาทแต่ไม่เคยใส่ซองช่วยงาน กินฟรีทุกงานแถมห่อกลับอีกด้วย

‘ก้าวไกล’ ข้องใจ!! กกต. ต้องมีคำตอบ-เร่งแก้ไข ปมโลโก้พรรคสีซีดจาง ชี้ หากผิดพลาดที่การพิมพ์ ควรซีดทั้งแผ่น เผย หวั่นเสียเปรียบ

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 3 (เขตบางคอแหลม-ยานนาวา) เบอร์ 4 พรรคก้าวไกล ไปสำรวจหน่วยเลือกตั้งในเขตบางคอแหลมพบว่า โลโก้พรรคก้าวไกลบนหนังสือรายชื่อพรรคการเมืองที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส.4/23) ที่ติดบนบอร์ดหน้าคูหา ซีดจางจนแทบมองไม่เห็นโลโก้พรรค ขณะที่โลโก้พรรคอื่นมีความคมชัดเป็นปกติ

นายจรยุทธ กล่าวว่า หากสิ่งที่เกิดขึ้น มาจากความผิดพลาดในขั้นตอนการพิมพ์ สีหมึกที่ซีดจางก็ควรซีดทั้งหน้ากระดาษ แต่วันนี้ที่ไปสำรวจกลับพบว่าหมึกซีดเฉพาะโลโก้ของพรรคก้าวไกล จึงต้องตั้งข้อสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากลว่า นี่คือความจงใจหรืออย่างไร กกต.ต้องมีคำตอบและดำเนินการแก้ไขโดยด่วน พร้อมกันนี้ขอฝากไปถึงผู้สมัครเขตอื่น ๆ ทั่วประเทศ ให้ลงไปสำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งของตัวเอง หากเกิดข้อผิดพลาดและความผิดปกติเหมือนเขตบางคอแหลม จะได้ช่วยกันเรียกร้องความรับผิดชอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top