Sunday, 8 June 2025
WORLD

ครั้งหนึ่ง 'โรบินฮู้ด' ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ เพราะวีรกรรมปล้นคนรวยมาแจกคนจนดันถูกใจพี่หมี

เชื่อไหมว่าประเทศที่เปี่ยมไปด้วยเสรีภาพทุกตารางนิ้วอย่างอเมริกา ชี้หน้ากล่าวหาตัวละครอย่างโรบินฮู้ดว่าเป็น 'คอมมิวนิสต์'  

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมีการประกาศ 'แบน' หนังสือโรบินฮู้ดอย่างเป็นทางการทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในรัฐอินเดียน่าเลยทีเดียว

ย้อนความ...สาเหตุที่ทำให้โรบินฮู้ดและสหายโด่งดัง ก็เพราะพฤติกรรมปล้นคนรวยเอามาแจกคนจน ทำให้หลายคนสงสัยว่าโรบินฮู้ดมีตัวตนจริง หรือเป็นแค่เรื่องเล่า     

โดยต้นเรื่องนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 12-14 คืออาจจะเป็นใครก็ได้ในช่วงนั้น ส่วนป่าเชอร์วู้ดอันเป็นพำนักพักอาศัยของโรบินฮู้ดและผองเพื่อนมีอยู่จริง  

(ป่าเชอร์วู้ดมีพื้นที่ 32 กิโลเมตรในมณฑลนอตติงแฮมเชียร์ พื้นที่เป็นทุ่งราบและป่าทึบ สมัยก่อนพื้นที่ทุกตารางนิ้วในป่าเชอร์วู้ดเป็นพื้นที่ป่าสงวนให้กษัตริย์และราชวงศ์ใช้ล่าสัตว์)

ทีนี้ทำไมอยู่ ๆ โรบินฮู้ดถึงถูกอเมริกากล่าวหาว่าเป็นคอมมี่ไปได้?

นั่นก็เพราะสืบเนื่องมาจากวีรกรรมของโรบินฮู้ดเป็นถูกอกถูกใจพี่หมีขาวโซเวียต ในยุคที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ขยายตัวไปบางส่วนของโลกหรือยุคสงครามเย็น เลยยกโรบินฮู้ดให้เป็นวีรบุรุษต้นแบบของระบอบคอมมิวนิสต์ จนนำไปเป็นตัวเอกในหนังชวนเชื่อยุค 1970s - 1980s   

พอพี่หมีขาวรัสเซียเนียนเอาโรบินฮู้ดมาเป็นตัวเอกในหนังโฆษณาชวนเชื่อก็เป็นเรื่อง อเมริกาพ่อทุกสถาบันเห็นเข้าก็ตัวสั่นเร่า ประกาศแบนทันที และรัฐที่ประกาศปังดังลั่นคือ รัฐอินเดียน่า 

ในปี 1953 คณะกรรมการหนังสือเรียนของรัฐอินเดียน่าออกคำสั่ง 'แบน' หนังสือโรบินฮู้ดทุกเล่มทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วทั้งรัฐ โดยให้เหตุผลว่า พฤติกรรมของโรบินฮู้ดที่ปล้นคนรวยไปช่วยคนจนนั้น ดูแล้วมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ที่มุ่งยึดทรัพย์สินและบ้านช่องนายทุนเอามาให้ชนชั้นกรรมาชีพ โถ..ลูกอีช่างโยง

คงต้องขอเล่าประวัติศาสตร์อเมริกาช่วงสงครามเย็นให้ฟัง แล้วจะเห็นภาพว่าทำไม?...ทำไมรัฐอินเดียน่าถึงกล่าวหาโรบินฮู้ดแบบนี้

อเมริกาขับเคี่ยวกับทั้งพี่หมีขาวและพญามังกรจีนอย่างถึงพริกถึงขิงในยุคสงครามเย็น เป็นการต่อสู้กันระหว่างสองค่ายการปกครองระหว่างเสรีประชาธิปไตยกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ซึ่งลุงแซมต่อต้านอย่างสุดตัวสุดตีน จนเข้าข่ายบ้าคลั่งในบางครั้ง

ช่วงสงครามเย็นที่ว่านี่แหละเกิดการล่าแม่มด โดยกล่าวหาว่าคนนั้นคนนี้มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ เรียกว่าใครเกลียดใครหรืออยากล้างแค้นใคร แค่บอกทางการว่าไอ้นั่นอีนี่เป็นคอมมิวนิสต์รับรองถูกลากไปสอบสวนหมด เลยโดนกันทั่วหน้า ไม่ว่าเป็นนักการทูต นักเขียน กองทัพ รวมไปถึงบุคลากรในวงการภาพยนตร์

กลุ่มสุดท้ายนี่ถูกล่าอย่างหนัก เพราะคณะกรรมการของรัฐสภายุคนั้นเชื่อว่า ผู้กำกับหรือผู้สร้างหนัง สามารถชี้นำมวลชนให้ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ผ่านทางภาพยนตร์เพื่อล้างสมอง หลายคนถูกสอบสวนอย่างหนัก ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือถูกบีบให้คายชื่อเพื่อนหรือคนรู้จักที่เข้าข่ายเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งบางก็เอาตัวรอดด้วยการซัดทอดคนบริสุทธิ์

โดยจุดเริ่มต้นของการล่าแม่มดคอมมิวนิสต์มาจาก ลัทธิแม็คคาร์ธี (McCarthyism) ที่มาจากชื่อวุฒิสมาชิกโจเซฟ แม็คคาร์ธี แห่งพรรครีพับลิกัน ซึ่งอีตาแม็คคาร์ธีนี่ขวาจัดแบบชนิดที่เรียกว่าสุดโต่ง เกลียดคอมมิวนิสต์ชนิดสุดติ่งทิงนองนอย เลยกลายเป็นไล่ล่ากวาดล้างบรรดาคนที่มีแนวโน้มจะเป็นคอมมิวนิสต์ในอเมริกา

ช่วงนั้นทุกคนโดนไล่ล่าไม่เว้น แม้กระทั่งประธานาธิบดีเฮนรี เอส. ทรูแมน ยังโดนแม็คคาร์ธีกล่าวหาว่า อ่อนข้อให้กับพวกคอมมิวนิสต์และปกป้องสายลับโซเวียต 

‘ชาวมะกัน’ เรียกร้องรัฐบาล ‘เลิกจุ้น’ สงครามต่างแดน ชี้!! ควรสนใจ ‘คนเร่ร่อน-การศึกษา-สาธารณสุข’ ในประเทศก่อน

ผู้ประท้วงหลายร้อยคนจากนิวยอร์กและภูมิภาคใกล้เคียงอื่น ๆ จัดการชุมนุมและเดินขบวนบริเวณไทม์สแควร์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อต้านการเข้าพัวพันในสงครามต่าง ๆ ในต่างแดนของสหรัฐฯ เรียกร้องให้หันมาใส่ใจกับปัญหาภายในประเทศ ทั้งเรื่องคนเร่ร่อน ด้านการศึกษา และการรักษาพยาบาล

บรรดาผู้ประท้วงส่งเสียงต่อต้านการแผ่ขยายอาณาเขตของนาโต้ เรียกร้องสันติภาพในยูเครน วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่สหรัฐฯ ทุ่มทุนใช้จ่ายมหาศาลไปกับวิกฤตยูเครน และคำแถลงล่าสุดของทำเนียบขาว ที่เตรียมจัดหากองพันขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่อากาศ ‘แพริออต’ แก่เคียฟ

"เรามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะว่าเราคัดค้านการแผ่ขยายอาณาเขตไม่รู้จบของนาโต้ ซึ่งไม่ใช่แค่มันไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น แต่มันยังเป็นการกระทำที่ขาดความยั้งคิดและยั่วยุ" ไบรอัน เบคเกอร์ ประธานกลุ่มแนวร่วม ANSWER Coalition พันธมิตรต่อต้านสงครามในสหรัฐฯ

‘แจ็คสัน’ บอกรัก ‘ประเทศจีน’ ในคอนเสิร์ตที่ลอนดอน พร้อมตำหนิ ‘สื่อมวลชน’ ที่ใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน

‘แจ็คสัน หวัง’ สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมคอนเสิร์ตในกรุงลอนดอนทุกคน ด้วยการแสดงแบบทุ่มเทสุด ๆ เหมือนเดิม แต่ในช่วงหนึ่งของการแสดง สมาชิกวง GOT7 อาจสร้างความอึดอัดให้กับผู้ชมบางคน ด้วยการพูดประเด็นทางการเมือง ทั้งการประกาศว่าเขา ‘รักประเทศจีน’ และตำหนิสื่อที่พยายาม ‘เล่นเกมโฆษณาชวนเชื่อ ในการสาดโคลนใส่ประเทศจีน’

นอกจากสร้างความประทับใจให้แฟน ๆ ด้วยการแสดงแล้ว แจ็คสัน หวัง ยังคงแสดงออกถึงความเป็น ‘คนจีน’ อย่างเต็มที่เหมือนเดิม

โดยในคอนเสิร์ตกลางกรุงลอนดอนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้ออกโรงตำหนิสื่อต่างประเทศที่ป้ายสีประเทศจีน โดย แจ็คสัน หวัง ที่เกิดในฮ่องกงได้แนะนำตัวเองกับแฟนๆ ในลอนดอนว่า “นี่คือแจ็คสัน หวัง จากประเทศจีน” และโค้งคำนับ 90 องศา

แจ็คสัน ยังด่าทอสื่อตะวันตกว่า "ฟังนะ! ฟัง! มีสื่อมากมายที่พูดแย่ ๆ ...พยายามโฆษณาชวนเชื่อ แต่ที่พวกนั้นพูดถึงไม่ใช่ประเทศจีนที่แท้จริง”

เมียนมา เตรียมเปิดดด่านชายแดน เชื่อมต่อแผ่นดินไทย เดินหน้าค้าขาย สร้างความเป็นอยู่อันดีให้คนพม่า

หลังจากความสำเร็จของการเปิดด่านแม่สอดไปเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาเป็นเหมือนประตูขั้นแรกที่ไขสู่ความสำเร็จในการจัดการในการเปิดด่าน (https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02E2pLwHcdcJpTKdvuMhBdMBrQEcLqqZL2XF6fTGf8e1wMU268BMyBMgcZAHqUcAEbl&id=100064606066871)

เพราะหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 13 มกราคม ทางเมียนมาก็เปิดด่านชายแดนทางเมือง 'มูเซ-รุยลี่' ที่เป็นพรมแดนติดกับจีนได้สำเร็จ หลังจากที่เคยประกาศว่าจะเปิดตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา แต่ทางเมียนมายังไม่พร้อมที่จะเปิดในวันดังกล่าว 

ล่าสุดมีข่าวออกมาจากสำนักข่าวในเมียนมาว่า 'ด่านแม่สาย - ท่าขี้เหล็ก' จะเปิดในวันที่ 22 มกราคมนี้ แม้ฝั่งไทยยังไม่มีประกาศใดๆ ออกมาก็ตาม แต่การเปิดด่านครั้งนี้ ก็มีการส่งสัญญาณที่ดีต่อการค้าชายแดน เพราะหลังจากมีการทยอยประกาศเปิดด่านแผ่นดิน ทางธนาคารฝั่งเมียนมาหลายธนาคาร ก็เริ่มมีการให้บริการเปิดบัญชีแบบ 'บาท-จ๊าด' สำหรับผู้ทำการค้าชายแดนทันที
 

ความเฉิดฉายของชาติพันธุ์ของสตรีในเอเชียอาคเนย์เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อปีนี้มี 2 สาวจากกลุ่มชาติพันธุ์เป็นตัวแทน Miss Universe จาก 2 ประเทศ

คนแรกคือ Zar Li Moe สาวงามจากรัฐคะฉิ่น ปัจจุบันอายุ 20 ปีกับส่วนสูง 178 เซนติเมตรและรอยยิ้มที่ใครมองต้องหลงไหล เธอจบการศึกษาที่ Bamaw University และเคยคว้าตำแแหน่ง Miss Tourism & Culture Universe Bhamo ในปี  2020 ก่อนจะได้เป็น Miss Universe Myanmar ในปี 2022

ส่วนอีกคนเป็นสาวลาวเชื้อสายม้ง ชื่อว่า Payengxa Lor เธอเกิดในเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว ปัจจุบันอายุ 21 ปี Payengxa Lor จบการศึกษาที่ Lao-American College เธอมีส่วนสูง 168 เซนติเมตร Lor ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายสตรีม้งในลาว ซึ่งเป็นเครือข่ายสำหรับการเสริมพลังสตรีชาวม้ง  อีกทั้งเธอยังเป็นจิตอาสาช่วยเหลือชุมชนยากจนในประเทศของเธอด้วย
 

Spare หนังสือขายดีวางตลาดไม่กี่วันก็มีข่าวว่าขายดีหลายแสนเล่มไปแล้วเพราะเป็นเรื่องเล่าชีวิตของเจ้าชายแฮรี่แห่งราชวงศ์อังกฤษที่ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ของพระองค์กับครอบครัวอย่างที่ไม่มีใครคาดว่าท่านจะกล้าพูดถึงเพียงนั้น

มีการเปิดเผยในสื่อต่างๆว่า grostwriter หรือนักเขียนเงา บ้างก็เรียกว่านักเขียนผีของ Spare คือนักเขียนรางวัลพูลิตเซอ นามว่า J.R. Moehringer ชาวอเมริกันวัย ๕๘ ปี

Spare อันเป็นเรื่องราวชีวิตของเจ้าชายแฮรี่ เขียนโดย JR Moehringer คือเจ้าชายไม่ได้เขียนเองหากแต่จะร่วมกับนักเขียนเงาโดยเล่าเรื่องให้เขาฟัง คนเขียนต้องเก่งทีเดียวที่จะเขียนให้เหมือนกับเรื่องของตนเอง

แน่นอน JR Moehringer ไม่ใช่นักเขียนหน้าใหม่เขามีผลงานเขียนอัตชีวประวัติของตัวเองจนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์หรือเขียนชีวิตของนักเทนนิสชื่อดัง อังเดร อากัสซี ในเรื่องที่ชื่อว่า “Open” อันเป็นที่ฮือฮามาแล้ว และเป็นนักเขียนหนังสืออีกหลายเล่ม เขาเคยเป็นผู้ช่วยนักข่าวของ New York Times มาก่อน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเยล Yale  รางวัลพูลิตเซอที่เขาได้รับเป็นผลงานสารคดีชื่อ  Crossing over

การเขียน Spare ( ๔๑๐ หน้า)ให้กับเจ้าชายแฮรี่ จากรายงานของ  Page Six ในปีพ.ศ. ๒๕๖๔ บอกว่าเขาได้ค่าเขียนถึงหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐหรือแปดแสนสองหมื่นปอนด์ 

การเขียนชีวิตของคนอื่นให้เหมือนกับชีวิตของตนเองอาจไม่ง่ายนัก เพราะคนเขียนต้องสามารถเขียนเล่าให้เหมือนกับที่เจ้าของเรื่องเขียนเอง JR Moehringer มีลีลาการเขียนที่สามารถดึงชีวิตจิตใจของเจ้าชายแฮรี่ออกมาเป็นตัวหนังสือได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งกล่าวกันว่าถ้าเจ้าชายเขียนเองอาจจะไม่ได้รสชาติเช่นนี้

เมื่อ 'รบ.เมียนมา' เดินหน้าสร้างสัมพันธ์กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หวังทยอยเปิดด่านเชื่อม 'ไทย' ชวนสนใจเรื่องปากท้อง

เมื่อวันก่อน ถือเป็นปฐมฤกษ์ที่เราสามารถเปิดพรมแดนระหว่าง 'ไทย -​เมียนมา' ที่สะพานมิตรภาพ 1 ได้สำเร็จ ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเมียนมาที่สามารถแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคก่อกวนไม่ให้เปิดชายแดนจนลุล่วงสามารถเปิดให้คนข้ามไปมาหาสู่กันได้เหมือนก่อนมีโควิด-19 ระบาด

การที่เอย่ากล่าวว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเมียนมา เพราะว่าในเมียวดีนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU นั่นเอง ซึ่งนั่นไม่ง่ายเลยในการที่จะเจรจากับกลุ่ม KNU ถึงการยุติความขัดแย้งที่มีต่อกันแล้วหันหน้ามาทำมาหากิน เพราะแม่สอด-เมียวดี เป็นช่องทางการค้าที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งเม็ดเงินตรงนั้นส่วนหนึ่งคนที่ได้ประโยชน์แรก ๆ ก็คือกลุ่มชาวกะเหรี่ยงที่ค้าขาย ชายแดน ค้าขายแรงงานกันอยู่บริเวณนี้นั่นเอง

บ่าว-สาวแดนโสม เคือง!! แขกผู้หญิงร่วมงาน เหตุแต่งตัวชุดโทนขาว แย่งซีนเจ้าสาวเต็มๆ

เมื่อวานนี้ (12 ม.ค. 66) เพจ ‘World Forum ข่าวสารต่างประเทศ’ ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับงานแต่งของบ่าวสาวชาวเกาหลีใต้ ซึ่งภายหลังจากเสร็จพิธีงานทั้งบ่าวสาวเกิดอาการไม่พอใจแขกผู้หญิงที่มาร่วมงาน โดยทางเพจระบุว่า…

เกาหลีใต้ 🇰🇷 : ประเด็นดรามา #คุมโทน
สีที่ใส่ได้สุภาพ สีดำ โทนดำ สีที่ไม่สว่าง
เด่นกว่าเจ้าสาว เพราะคุณคือแขกไปร่วมงาน

🖤🤎 คู่รักโกรธแขก มาร่วมงานแต่งงาน เป็นแขกที่ได้รับเชิญจากผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว (*ดรามาประเด็นการแต่งตัวไปร่วมงาน ไม่เหมาะสม และไม่มีมารยาท)

‘นาซา’ ค้นพบดาวเคราะห์ ‘TOI 700 e’ เชื่อ!! มนุษย์อาจไปอาศัยอยู่ได้

นาซารายงานพบดาวเคราะห์ที่อาจเหมาะต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตเพิ่มอีกดวง ชื่อว่า TOI 700 e อยู่ห่างจากโลกราว 100 ปีแสง

เรื่องของการตามหา ‘โลกสำรอง’ ที่มนุษย์จะสามารถอพยพไปอาศัยอยู่ได้หากโลกใบนี้ของเราเกิดวิกฤตหนักจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกแล้วในอนาคตอันไกล ยังคงเป็นภารกิจสำคัญที่หน่วยงานอวกาศทั่วโลกให้ความสนใจ

ล่าสุดภารกิจดาวเทียมสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบ (TESS) ขององค์การนาซา รายงานพบดาวเคราะห์ที่คาดว่ามนุษย์น่าจะไปอาศัยอยู่ได้เพิ่มอีก 1 ดวง มีขนาดใกล้เคียงกับโลก และอยู่ห่างไปราว 100 ปีแสง (9.46 ล้านล้านกิโลเมตร)

ดาวเคราะห์ที่พบนี้มีชื่อว่า TOI 700 e หรือ ดาว e เป็นดาวเคราะห์หิน (Rocky Planet) มีขนาดประมาณ 95% ของโลก อยู่ในระบบดาวแคระ TOI 700 ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2020 ก็มีการพบดาวเคราะห์ TOI 700 d ที่คาดว่าสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตได้เช่นกัน

ทั้งดาว TOI 700 e ที่เพิ่งค้นพบ และ TOI 700 d ที่พบก่อนหน้า ล้วนแล้วแต่เป็นดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่รอบดาวแคระ (Dwarf Star) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ชนิดหนึ่ง โดยมีระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป ทำให้น้ำบนดาวคงสถานะของเหลวไว้ได้ไม่ระเหยไปจากความร้อนของดาวแคระ บ่งชี้ว่า ดาวเคราะห์เหล่านี้อาจสามารถใช้อยู่อาศัยได้

เอมิลี กิลเบิร์ต จากนาซา หัวหน้าทีมวิจัยที่ค้นพบ TOI 700 e กล่าวว่า “นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ระบบที่มีดาวเคราะห์ขนาดเล็กหลายดวงโคจรอยู่ในระยะเหมาะสมที่เรารู้จัก”

ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ระบุดาวเคราะห์ในระบบดาวแคระ TOI 700 ได้แล้ว 4 ดวง คือดาวเคราะห์ b, c, d และล่าสุดคือ e ที่เพิ่งค้นพบ

ดาวเคราะห์ TOI 700 b มีระยะอยู่ให้กับดาวแคระที่สุด มีขนาด 90% ของโลก การโคจรรอบดาวแคระ 1 รอบ หรือ 1 ปีบนดาวนั้นใช้เวลาแค่ 240 ชั่วโมงหรือ 10 วันบนโลกเท่านั้น ถัดออกมาเป็นดาวเคราะห์ TOI 700 c เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่กว่าโลก 2.5 เท่า ใช้เวลาโคจรรอบดาวแคระน้อยเช่นกัน คือ 16 วัน

ส่วนดาวเคราะห์ d และ e ที่มีการประเมินว่าสิ่งมีชีวิตน่าจะอาศัยอยู่ได้นั้น ใช้เวลาโคจรรอบดาวแคราะ 37 วันและ 28 วัน ตามลำดับ โดยดาวเคราะห์ e นั้นอยู่ใกล้กับดาวแคระมากกว่าดาวเคราะห์ d

'บอนนี่-ไคลน์' คู่รักนักปล้น จอมสร้างกระแส ฆ่าตำรวจ 12 ราย แต่ผู้คนมากมายก็ยังชื่นชม

หลายคนสงสัยว่า ทำไมคนจำนวนมากถึงนิยมชมชอบอดีตนักโทษที่มีคดีความเป็นชนักติดหลัง หรือชอบคนดีแต่พูด แต่ไม่ทำงานใด ๆ ให้ปรากฏเป็นชิ้นเป็นอัน 

อย่าได้แปลกใจ!!

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องการตลาดล้วน ๆ มีการสร้างกระแสให้คนนิยมชมชอบ จนเชื่อฟังทุกคำพูดอย่างว่าง่าย กลายเป็นแฟนคลับเหนียวแน่นจนเถียงแทนทุกคำ     

เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนในอเมริกา โดยตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคดีหนึ่งคือ 'คดีคู่รักนักปล้น' บอนนี่และไคลน์ (Bonnie and Clyde)

ช่วงยุคเศรษฐกิจตกต่ำในอเมริกาหรือเรียกว่ายุค The Great Depression หรือช่วงปี ค.ศ.1929 นั้น อเมริกันชนตกงานกันเป็นเบือ ผู้คนยากจนอย่างฉับพลัน ธนาคารหลายพันแห่งของสหรัฐอเมริกาล้มละลาย ตามภาคอุตสาหกรรมและตลาดหุ้น ผู้คนหลายล้านคนสูญเสียเงินและตกงานจำนวนมาก  

ระหว่าง ค.ศ. 1929-1932 รายได้ประชาชาติ (National Income) ของประเทศลดจาก 81,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ เหลือเพียง 41,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ ธุรกิจกว่า 8,500 แห่งเลิกกิจการ คนตกงานกว่า 1.5 ล้านคนในค.ศ. 1929 เพิ่มเป็น 15-16 ล้านคน 

ช่วงเวลาอันลำเค็ญเช่นนี้ เมื่อดาวโจนส์ร่วง ดาวโจรก็รุ่ง!!

โจรนอกกฎหมายผุดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งคู่รักนักปล้นคู่หนึ่งที่ชื่อ 'บอนนี่กับไคลน์' ที่แม้จะทำเรื่องเลว ๆ อย่างไม่น่าให้อภัย แต่อเมริกันกลับรักใคร่ชื่นชม นายและนางโจรคู่นี้ราวกับซุปเปอร์สตาร์ ไปไหนมาไหนมีแต่คนรักใคร่ปกป้อง จนลืมไปว่าทั้งคู่เป็นโจรปล้นฆ่าตำรวจถึงสิบสองคน

ตามประวัติแล้ว 'บอนนี่ พาร์กเกอร์' และ 'ไคลด์ แบร์โรว์' เป็นคู่ผัวตัวเมียหน้าตาดี ที่ปล้นดะรายทางตั้งแต่ปั๊มน้ำมันไปยันธนาคาร ร่ำลือกันว่าบางครั้งปล้นธนาคารแล้วเอามาแจกจ่ายคนยากจน     

โดนฝั่งบอนนี่เป็นสาวสวยตาสีฟ้าผมบลอนด์ที่ฝันอยากเป็นกวี แต่โชคชะตานำพาเธอมาพบกับหนุ่มรูปหล่อชื่อไคลน์ 

เมื่อทั้งคู่ได้กลายมาเป็นคนรักแล้ว ก็ก่อวีรกรรมร่วมกันปล้น จนเป็นที่กล่าวขวัญในความโหดเหี้ยม เพราะนอกจากปล้นแล้ว ยังฆ่าตำรวจตายไปถึง 12 คน แถมถ่ายรูปไว้ดูเล่นอีกต่างหาก

นอกจากเป็นโจร บอนนี่ยังเขียนบทกวีส่งไปลงตีพิมพ์บ่อย ๆ พร้อมถ้อยคำหยิกแกมหยอก ทำให้คนทั่วไปที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการปล้นหลงรักเธอทั่วหน้า ที่กระฉ่อนโลกสุด ๆ คือ เธอมักถ่ายรูปในท่วงท่าต่าง ๆ ทั้งสูบซิการ์ก๋ากั่นควงปืนเก๋ไก๋ จนกลายเป็นขวัญใจหนังสือพิมพ์ในเวลานั้น

ทุกคนหลงรักคู่รักนักปล้น อย่างชนิดที่เรียกว่าติดตามข่าวอย่างใจจดใจจ่อ พลางเอาใจช่วยให้คู่นี้รอดจากการถูกจับ ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย ท้าทายกฎหมายบ้านเมืองที่สุด 

ทั้งนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ปล้นหนักมือไปหน่อยจนประสบเหตุให้บอนนี่กลายเป็นคนขาเป๋ บรรดาสมาชิกแก๊งโจรอยากลากเธอออกจากกลุ่ม แต่ไคลน์ไม่ยอมเพราะรักสติปัญญาและความมีอารมณ์ขันของเธอ 

ส่วนไคลน์นั้นแม้จะชอบลักรถ แต่ก็มีน้ำใจพอที่จะทิ้งเงินเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้เจ้าของเป็นสินน้ำใจ เลยเปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น อาจจะด้วยความที่ไม่อยากให้ตำรวจตามเจอ รวมทั้งชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้ทั้งคู่มีรถใหม่ตลอดเวลา

‘อินโดนีเซีย’ เตรียมเปิดบ้านรับ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ ด้านรมว.ท่องเที่ยว เผย ‘พร้อมต้อนรับด้วยพรมแดง’

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘ซานเดียกา อูโน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย กล่าวว่าอินโดนีเซียพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจีนได้ปรับปรุงความเหมาะสมของกลยุทธ์การรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

โดยนาย อูโนกล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ กรุงจาการ์ตา ระบุว่า “เราพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยพรมแดง ส่วนประชาชนชาวอินโดนีเซียเพียงต้องทำตามมาตรฐานความสะอาด สุขภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (CHSE) เช่นเดียวกับที่ทำมาตลอด”

ม็อบหนุนอดีตประธานาธิบดี บุกทำเนียบ ค้านผลเลือกตั้ง

(10 ม.ค. 66) กลุ่มผู้สนับสนุนนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีบราซิล ได้บุกรุกเข้าไปในสภาคองเกรส, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลสูงของบราซิลในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี

หลังจากนายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลในเดือนต.ค. 2565 ด้วยคะแนนโหวต 59.8 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 50.86% แซงหน้านายโบลโซนารู ปธน.บราซิลในเวลานั้น ซึ่งได้รับคะแนนโหวต 57.8 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 49.14% เป็นเหตุให้กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตปธน.โบลโซนารูซึ่งเป็นอดีตผู้นำขวาจัดของบราซิล ได้แสดงความไม่พอใจต่อผลการเลือกตั้งในครั้งนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แถลงว่าทางรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล และจะทำการควบคุมสถานการณ์ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. หลังจากเบื้องต้นกองกำลังความมั่นคงของเมืองหลวงแห่งนี้ไม่สามารถรับมือกับพวกผู้บุกรุกได้

ในระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ ปธน.ลูลาได้กล่าวโทษนายโบลโซนารู ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์จลาจล และยังตำหนิเกี่ยวกับมาตรการความมั่นคงที่ไม่เพียงพอในเมืองหลวง โดยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยให้กลุ่มคนที่ฝักใฝ่ฝ่ายซ้ายและและกลุ่มคนหัวรุนแรงสร้างความเสียหายร้ายแรง

โชเชียลเมียนมา รุมบูลลี่ ‘นางแบบหน้าสวย’ เพียงเพราะเธอเป็นลูกสาวนายพลในกองทัพ

เมื่อปลายปีที่ผ่านมาทาง DC Candler ได้ประกาศชื่อแคนดิเดตของ The Most Beautiful Face ในปี 2022 ในเฟซบุ๊กและไอจีของเพจ ก่อนจะประกาศตำแหน่ง Top 100 Most Beautiful Faces ในช่วงปลายปี ซึ่งก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งดาราไทยหลายท่านโดยเฉพาะลิซ่าที่ปีนี้ติดอันดับ 3 ผู้หญิงหน้าสวยแม้น้องจะตกจากอันดับ 1 ในปีที่แล้วก็ตาม

แต่ประเด็นเกิดขึ้นในเพจเฟซบุ๊กของ TC Candler เมื่อ 1 ในนางแบบเมียนมาอย่าง Nay Chi Oo ถูกเสนอเป็นผู้เข้าชิงในครั้งนี้ด้วย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ในภาพของเธอหลายประเด็น โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการที่เธอคือบุตรสาวของนายพลในกองทัพเมียนมา และเรื่องอื่นๆ เช่น เธอทำศัลยกรรมมาหรือเรื่องรอยปานบนใบหน้าของเธอ

Nay Chi Oo ถือเป็นนางแบบชื่อดังคนหนึ่งและเป็น Beauty Blogger ที่ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะฝีมือในการ make up ที่สาวๆ หลายคนได้นำทริคในการแต่งหน้าของเธอไปใช้และเห็นผล อีกทั้งเธอยังเป็นเซเลปที่อยู่ในวงสังคมของเมียนมาโดยไม่ได้สนใจหรือออกมาเคลื่อนไหวเรื่องของกองทัพเลย เช่นเดียวกับเซเลปเมียนมาหลายคนที่วางตัวนิ่งเฉยกับเหตุการณ์นี้

การบูลลี่เธอบนเพจเฟซบุ๊ก จะมีผลหรือไม่มีผลต่อการตัดสินของ TC Candler นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การกระทำของชาวโซเชียลเมียนมาที่ไม่งดงาม เมื่อแสดงออกในระดับนานาชาติว่า สุดท้ายเธอจะหงายการ์ดว่ารู้เท่าถึงการณ์หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

จับตา!! หาก 'ไทย' เร่งเจรจาเปิดด่าน 'เมียนมา' สำเร็จ โอกาสสินค้าไทยไหลรับ 'คนจีน' แห่เข้าเมียนมาเพียบ!!

ทางการจีนได้ประกาศเปิดด่านชายแดนฝั่งเมืองมูเซ หรือ ในภาษาไทใหญ่เรียกว่าหมู่แจ้ ทั้ง 3 ด่าน หลังจากปิดไปช่วงโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมาในวันที่ 8 มกราคมนี้  

นับเป็นอีกหนึ่งการผ่อนคลายมาตรการของการควบคุมโควิดของฝั่งจีน ซึ่งจะทำให้เกิดการนำเข้าสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และการเปิดด่านครั้งนี้ทางเมียนมาก็จะได้อานิสงส์ในการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ จากจีนในราคาถูกด้วยเช่นกัน

การส่งออกที่ด่านเมืองมูเซในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่เกือบ 550 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น กุ้งและปูเป็นที่มีการขนส่งเข้าสู่จีนจำนวนมาก

ในวันที่ 8 มกราคมที่จีนประกาศผ่อนคลายให้ชาวจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ทางเมียนมาคาดการณ์ว่าจะมีชาวจีนจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวไหว้พระในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์และอีกจำนวนหนึ่งน่าจะเดินทางข้ามชายแดนมาเพื่อประกอบธุรกิจในเมืองมูเซและอาจจะรวมถึงคนจีนอีกจำนวนไม่น้อยที่น่าจะเข้ามาเล่นคาสิโนในเมืองดังกล่าว

'สื่อไต้หวัน' ปูด!! มังกรน้อยส่งกล้องสำรวจ Hsiung Feng III ขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียงไปซ่อมในจีน

เมื่อวันพุธ (4 ม.ค.) สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ Chung-Shan (NCSIST) ยอมรับว่า กล้องสำรวจของขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียง 'สยงเฟิง 3' (Hsiung Feng III) ซึ่งถูกซื้อในปี 2564 จากบริษัท Leica ของสวิตฯ ได้ถูกส่งกลับไปยังผู้ผลิตเพื่อทำการซ่อมแซมเมื่อไม่นานมานี้ หลัง Mirror Media Weekly สื่อไต้หวันออกมาแฉข้อมูล

สถาบันวิทยาศาสตร์ระบุว่า ไต้หวันถอดการ์ดหน่วยความจำของเครื่องออกก่อนส่งไปซ่อม โดยขอให้ตัวแทนส่งชิ้นส่วนดังกล่าวไปสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดี บริษัท Leica แจ้งว่าศูนย์ซ่อมบำรุงสำหรับภูมิภาคเอเชียอยู่ในจีน จึงจำเป็นต้องส่งไปแผ่นดินใหญ่

“NCSIST ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลบนอุปกรณ์ทันที และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการติดตั้งมัลแวร์ ดังนั้น จึงสามารถขจัดข้อกังวลด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ” แถลงการณ์ระบุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top