Sunday, 15 June 2025
SPECIAL

‘สมศักดิ์’ นำทีมหาเสียงพี่น้องชาวม้ง จ.ตาก ชู นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิต

(8 เม.ย.66) สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย สุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบาย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หมู่บ้านชิบาโบ ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อพบปะกับพี่น้องชาวม้ง กว่า 300 คน พร้อมเดินเยี่ยมชมวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน พร้อมกับแนะนำ เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดตาก เขต 2 เบอร์ 4 ของพรรคเพื่อไทย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

สมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมา เนื่องจากอยากมาเยี่ยมพี่น้องชาวม้งนานแล้ว เพราะพี่น้องประชาชนมีประเพณีชนวัว ที่ตนก็ชื่นชอบและเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐ อาจยังไม่เข้าใจ แต่ตนก็พยายามผลักดันกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพราะรู้ดีว่า การทำให้วัวมีคุณภาพ มีราคาสูงนั้นมีความสำคัญมาก พรรคเพื่อไทย จึงส่งเสริมเรื่องวัว เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของชุมชน อีกทั้งยังจะส่งเสริมให้การชนวัวถูกกฎหมาย ลดขั้นตอนการขออนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงเป็นการสนับสนุนการเลี้ยง การดูแลรักษา ตลอดจนใช้วิชาการเข้ามาส่งเสริมให้วัวมีคุณภาพได้ราคาสูง รวมทั้งจะส่งเสริมการชนวัวเพื่อสร้างราคาวัวชน และวัวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ให้ได้ราคาดีด้วย

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล คนละ 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน อย่างในหมู่บ้านชิบาโบ มีประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 พันคน เมื่อคูณกับเงินดิจิทัลคนละ 1 หมื่นบาท จะเป็นเงินถึง 10 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า จะมีเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจในหมู่บ้านนี้ถึง 10 ล้านบาท จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชน อยู่ดีกินดีขึ้น รวมถึงพรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นและดอก เป็นเวลา 3 ปี พร้อมส่งเสริมที่ดินทำกินแบบถูกกฎหมายด้วย ส่วนเรื่องไฟฟ้า ตนเข้าใจว่า บางพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งการขอไฟฟ้า ก็ต้องใช้เงิน และใช้เวลารอนานหลายปี แต่ถ้าพี่น้องประชาชน มีผู้แทนฯที่ประสานงานกับรัฐบาลได้ การขอไฟฟ้า ก็จะง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลา เพราะเรื่องนี้ สามารถเร่งรัดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยตรง

'ปฏิรูปกองทัพ-งบประมาณ-รัฐทหาร' เอาบุคคลไปรวมองค์กร วิบัติ!!

ถ้าจะมองว่า "ปลาเน่าตัวเดียวทำเหม็นท้้งข้อง" ก็คงไม่ผิด!! แต่ถ้ามองว่าปลาเน่าตัวเดียว จะทำให้ปลาทั้งหมดเน่าไปด้วย...มันก็แลดูใจร้ายเกินไปไม่น้อย...
 

ถอดรหัส 'การเมือง' สไตล์ ์ Anthony Eden ไม่ใช่แกงถุงสำเร็จรูป ที่แกะหนังยางแล้วทานได้เลย

การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการเสนอนักการเมืองหน้าใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่มากมายหลายคน แต่ความเป็นจริงแล้ว การทำงานทางการเมืองอย่างมีคุณภาพนั้น จำเป็นต้องสั่งสมทักษะและประสบการณ์มากมายหลายเรื่อง รวมทั้งคุณงามความดี (ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด) นโยบายประชานิยม ขายฝัน ใครก็พูดได้ เขียนได้ แต่จะทำได้หรือไม่ โดยไม่ทำให้ชาติบ้านเมืองมีปัญหา นั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด

วันนี้จึงขอนำเอาเรื่องราวของเซอร์ Anthony Eden (12 มิถุนาน ค.ศ. 1897 - 14  มกราคม ค.ศ. 1977) หนึ่งในนายกรัฐมนตรีผู้มากความสามารถและประสบการณ์ในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร ด้วยมีนายกรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนที่มีประสบการณ์เทียบเท่ากับเซอร์ Anthony Eden นายกรัฐมนตรีผู้นี้ได้เลย มาบอกเล่าให้ผู้อ่านได้พิจารณาประกอบในการเลือกพรรคและคนที่ดีที่ใช่ เพื่อให้บ้านเราอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราก้าวต่อไปได้

ก่อนที่จะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี Eden เป็นทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยอายุยังน้อยในปี ค.ศ. 1915 โดยเริ่มเป็นนายทหารยศร้อยตรีเมื่ออายุเพียง 17 ปี เมื่อสงครามสงบลงในปี ค.ศ. 1919 เขาอายุเพียง 23 ปี มียศเป็นร้อยเอกและได้รับเหรียญกล้าหาญ Military Cross

เขาเป็น ส.ส. นานถึง 32 ปี และเป็นรัฐมนตรีอีก 14 ปี ก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่มีนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรคนใดที่มีประสบการณ์มากกว่าเขา เว้นแต่เพียง เซอร์ Winston Churchill นายกรัฐมนตรีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้นที่มีประสบการณ์มากกว่าเขา

Eden ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นเวลา 12 ปีในช่วงเวลาที่สำคัญ ได้แก่ :
ค.ศ. 1935 - ค.ศ. 1938 ภายใต้นายกรัฐมนตรี Neville Chamberlain ค.ศ. 1940 - ค.ศ. 1945 ในรัฐบาลผสมของเซอร์ Churchill ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ค.ศ. 1951 - ค.ศ. 1955 ภายใต้นายกรัฐมนตรี เซอร์ Churchill อีกครั้งหนึ่ง

ก่อนที่เขาจะได้สืบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากเซอร์ Churchill ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1955 และชนะการเลือกตั้งทั่วไปในอีกหนึ่งเดือนถัดมา งานเมืองของเขาก่อนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นยาวนานและประสบความสำเร็จมากมาย

Eden มีกิตติศัพท์ในระดับโลกจากการดำเนินนโยบายจำยอมสละ เขาพยายามหลีกเลี่ยงสงครามโดยการโอนอ่อนผ่อนปรนให้แก่ชาติก้าวร้าวอย่างเยอรมนี ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น 'บุรุษแห่งสันติภาพ' ซึ่งสามารถชะลอการเกิดมหาสงครามสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

เขาเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากการรับราชการในช่วงสงครามที่ยาวนานและรูปลักษณ์และเสน่ห์ที่โด่งดังของเขา

‘ปชป.’ ลุยหาเสียงสุโขทัย ชู แนวคิดสร้างเม็ดเงินให้คนไทย เน้นส่งออก-ท่องเที่ยว โว!! เป็นพรรคเดียวที่คิดหาเงินให้ประเทศ

(8 เม.ย.66) เวลา 13.30 น.ที่ โรงเรียนเมืองเชลียง อำเภอศรีสัชนาลัยจ.สุโขทัย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำทีมประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ออนทัวร์ภาคเหนือ พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.จ.สุโขทัย ประกอบด้วย น.ส.ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ เขต 1 เบอร์ 9 ,-นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล เขต 2 เบอร์ 2 ,นายนราธิป ภูมิถาวร เขต 3 เบอร์ 1 และนายรวม ล้นเหลือ เขต 4 เบอร์ 1 พบปะ พี่น้องประชาชนชาวสุโขทัย

โดยนายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ ว่า มีความมั่นใจ เพราะกระแสเสียงตอบรับในภาพรวมของจ.สุโขทัยดีขึ้นมาก และพี่น้องชาวสุโขทัยต้องการจะเห็นคนใหม่ๆ ได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวสุโขทัยมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นโอกาสสำคัญของประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะผู้สมัครของพรรคฯเป็นผู้ที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพทุกเขต หลายคนได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงเหตุผลที่นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นแนวนโยบายเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ แตกต่างจากพรรคอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นแนวประชานิยมอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความแตกต่างอันหนึ่งคือประชาธิปัตย์ ไม่ได้เน้นเรื่องนโยบายแจกฟรี แต่เราเน้นนโยบายในการหาเงินให้กับประเทศ นอกจากการหาเงินให้กับคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการหาเงินให้ประเทศ หรือการสร้างเงิน ก็ชัดเจนว่า เราจะมุ่งเน้นในการนำเงินเข้าประเทศจากการส่งออก และจากการท่องเที่ยว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดตนมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง เพราะได้ทำเรื่องการส่งออก และมีตัวเลขชัดเจนว่ารายได้จากการส่งออกเข้าประเทศเกือบ 10 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี ส่วนเรื่องท่องเที่ยว ตนก็เคยเป็นรัฐมนตรีท่องเที่ยวมาแล้ว และเป็นคนทำแคมเปญ อะเมซิ่งไทยแลนด์ ในยุคต้นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงเป็นหลักประกันที่มั่นใจว่า ถ้าเราเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะสามารถสร้างเงินให้ประเทศได้อย่างน้อย 85 ล้านล้านบาท เพื่อจะได้นำเงินนี้มาสร้างเงินให้คนไทย และสร้างคน สร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไปได้

“นโยบายแจกเงินมันไม่ยั่งยืน หลายพรรคอาจจะเน้นนโยบายเรื่องของการแจกเงิน บางพรรคอาจจะเน้นถึงขั้นแจก แล้วสุดท้ายก็ยอมรับว่าเอาเงินมาจากการไปขึ้นภาษีจากประชาชน ถ้าเป็นอย่างนั้นสุดท้ายประชาชนก็กลายเป็นห่าน ที่จะโดนถอนขนจนเกลี้ยงในที่สุด เพื่อมาสนองนโยบายพรรคการเมือง อันนี้ก็คือสิ่งที่เราต้องรู้เท่าทัน และต้องระมัดระวังว่าสุดท้ายแล้วกรรมจะตกอยู่กับใคร ถ้ามีนโยบายฉาบฉวยในลักษณะนี้ แต่สำหรับนโยบายของประชาธิปัตย์ เราต้องการสร้างเงินให้ประเทศจริงๆ และมีแนวทางที่ชัดเจน ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องที่จะต้องไปขูดรีดภาษีเพิ่มเติมจากประชาชน” นายจุรินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคปชป.จะทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องตัวเลขที่เกี่ยวพันกับนโยบายอย่างไรนายจุรินทร์ กล่าวว่า นโยบายที่เป็นรายละเอียดนั้น ตนมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจได้ และเป็นนโยบายที่โดนใจประชาชน เพราะมีรายละเอียดชัดเจน รวมทั้งรายละเอียดไม่ยาว จากนโยบาย 16 ข้อ ของประชาธิปัตย์ที่ได้ประกาศออกไปแล้ว ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคฯทุกคนก็ยืนยันตรงกันว่า เมื่อนำไปบอกกับชาวบ้านแล้ว ก็โดนใจชาวบ้านและชาวบ้านก็ชอบ เข้าใจง่าย เช่น ประกันรายได้ ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด จ่ายเงินส่วนต่าง นโยบายนี้ชาวบ้านมีประสบการณ์อยู่แล้ว รู้ว่าเป็นนโยบายของประชาธิปัตย์ หากต้องการให้นโยบายนี้เดินต่อ ก็ต้องเลือกประชาธิปัตย์ ส่วนนโยบาย “ชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน” ก็ตรงไปตรงมา ส่วนเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ มี 2 ข้อ

‘ชวน’ นำทีมผู้สมัคร บุก 3 ตลาดใหญ่ กลางเมืองชลบุรี อ้อน ปชช. ขอคะแนน หนุน ‘ปชป.’ ทั้งคน ทั้งพรรค

(8 เม.ย. 66) นายชวน หลีกภัย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคฯ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่ตลาดบ้านโรงโป๊ะ ตลาดพระวัดกระทิงลาย เเละตลาดเก่านาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง ทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง พร้อมขอคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.เบอร์ 26 จากประชาชน ก่อนจะขึ้นรถกระจายเสียง เพื่อเดินทางไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วจังหวัดชลบุรี ขอคะแนนสนับสนุนให้ผู้สมัครของพรรคฯ และรณรงค์การเลือกตั้ง เชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งบัตร 2 ใบ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

'ก้าวไกล' VS 'วินฯ ใจเด็ด' ถามยกเลิก ม.112 ทำไม? ประชาชนได้อะไร?

'ก้าวไกล' VS 'วินฯ ใจเด็ด' ถามยกเลิก ม.112 ทำไม? ประชาชนได้อะไร?

‘ดร.เอ้’ นำทัพ ‘ปชป.’ ลุยเขตประเวศ ช่วย ‘กิตพล’ หาเสียง ชู ‘Delta Works Thailand’ สานต่อนโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วม

(8 เม.ย. 66) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 1 เขตประเวศ-บึงกุ่ม ลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าที่ตลาดพัฒนาการ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และมีพี่น้องประชาชนเข้าทักทายคณะเป็นจำนวนมาก

โดยนายสุชัชวีร์ กล่าวขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัครของพรรคได้เข้าไปทำงาน เพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่ผ่านการตกผลึก และผ่านการคิดนโยบายมาอย่างรอบคอบ ให้ได้นำไปใช้เพื่อพี่น้องประชาชนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกด้าน ด้วยการ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ส่วนปัญหาน้ำท่วม ที่ผ่านมาเราแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยวิธีแบบเดิม ๆ พิสูจน์มาแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ น้ำยังคงท่วมอยู่ ตนขอสานต่อนโยบายที่เคยหาเสียงมาตั้งแต่สมัยลงสมัครผู้ว่า กทม.เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม กรุงเทพต้องไม่จมน้ำ ด้วยนโยบาย ‘Delta Works Thailand’ ที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ด้านนายกิตพลกล่าวว่า ปัญหาสำคัญในพื้นที่ประเวศ คือปัญหาน้ำท่วม ถนนมีสภาพทรุดต่ำในบางช่วง ทำให้น้ำในคลองสายหลักที่มีระดับสูงไหลเข้าท่วมผิวจราจรโดยแนวทางการแก้ไขจุดเสี่ยงน้ำท่วม 8 จุด และจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม 3 จุดในพื้นที่ ดำเนินการขุดลอกคูคลองเปิดทางน้ำไหล ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ทำการปรับปรุงถนนและท่อระบายน้ำใหม่แทนของเดิมที่มีการชำรุด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้ดีขึ้น ก่อสร้าง subgate แทนการบล็อกด้วยกระสอบทราย ก่อสร้างเขื่อนป้องกันดินริมคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ แนวทางการแก้ปัญหาเหล่านี้ ตนได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน

สืบสวนนครบาลขยายผลทลายขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดภาคเหนือเข้าสู่ใจกลางมหานคร

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงสู่ชุมชน ได้ร่วมทำการตรวจยึด ของกลาง 

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 499 กิโลกรัม 
2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด  
3. รถยนต์บรรทุก หกล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาวหมายเลขทะเบียน 70-8583 ลำปาง จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”
สถานที่ตรวจยึด บริเวณริมถนนสิงหวัฒน์ ตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อำเภอกงไกรลาศ  จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 เวลาประมาณ  20.00 น.

‘กรณ์’ ควง ‘จูรี’ บุกสุราษฎร์ ช่วยผู้สมัคร ‘ชพก.’ หาเสียง ชาวบ้านแห่ต้อนรับ เผย นโยบายโดนใจ แก้ปัญหาปากท้องได้จริง

(8 เม.ย. 66) ในระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายจูรี นุ่มแก้ว ร่างทรงชาวบ้าน ดาวติ๊กตอกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสงขลา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า และทีมงานลงพื้นที่ ช่วยผู้สมัครทั้ง 4 คนของพรรคได้แก่ นายอนุวัตร์ รจิตานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 4, นางพงศ์ศรี นาคเมือง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 8, นายสุพจน์ บานเย็น ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 เบอร์ 9 และนายวศุธน เรืองขนาบ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เบอร์ 4  พร้อมทีมงาน เดินขอเสียงประชาชนบริเวณ ตลาดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และร้านค้าถนนหน้าเมือง โดยมีพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการร้านทอง พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจและมีเสียงตอบรับเป็นอย่างมากตลอดเส้นทาง พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟีกับ นายจูรีและนายกรณ์อย่างคึกคัก สร้างสีสันให้กับพรรคเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้เปิดเวทีปราศรัย บริเวณสะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีด้วย

โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ตนกับนายจูรี มาช่วยเพื่อนผู้สมัครหาเสียง โดยก่อนหน้านี้เคยมาพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีบ่อยเช่นกัน แต่การลง จ.สุราษฎร์ธานีครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีดีมาก ทุกคนที่พบปะขานรับในนโยบายพรรค และเชื่อว่าจะได้รับการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจในตัวผู้สมัครที่ส่งทั้ง 4 คน 4 เขต และการนำเสนอนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ก็ทราบว่าโดนใจประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้รู้สึกมีกำลังใจ สำหรับในพื้นที่ภาคใต้พรรคชาติพัฒนากล้าเราส่ง 20 เขตเลือกตั้ง ทั้งนี้ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนที่จะให้โอกาสกับพรรคชาติพัฒนากล้าได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน

นายกรณ์ กล่าวว่า ทุกคนรอคอยการแข่งขันทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน เราคิดนโยบายมาเป็นปี ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นมาก ไม่เพียงแต่จะมาปักหมุดให้ผู้สมัครทุกคนเป็น ส.ส.เท่านั้น แต่มองไปไกลกว่านั้นคือ มองเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจของสุราษฎร์ธานี มีโอกาสมากมาย แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าต้องการมาแก้ไข พรรคเราเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานสร้างสรรค์เอานโยบายดี ๆ มาขาย นโยบายของเราเป็นที่ยอมรับโดยสื่อและประชาชน ว่ามุ่งเป้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่มีเป้าหมายสรุปง่าย คือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง เราชนเรื่องพลังงาน เพื่อให้ราคาน้ำมันถูกลง ไม่ใช่ตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทผลิตน้ำมัน ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักโดยที่รัฐมนตรีที่กำกับดูแลไม่ทำอะไร เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า ก็ประกาศออกมาว่าจะขึ้นค่าไฟฟ้าในวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นการซ้ำเติมในช่วงที่ประชาชนใช้ไฟสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่กลับไปลดให้กับภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงต้องรื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่

นายกรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรภาคใต้มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรมาโดยตลอด รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ปีแล้วปีเล่า ประชาชนก็ยังจนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือราคาพืชผลดีอย่างยั่งยืน ซึ่งวิธีเดียวที่เกษตรกรจะมีราคาที่ดีอย่างยั่งยืนคือ เขาต้องแข่งขันได้ และการจะสู้ราคากับนายทุนได้เพราะเขาไม่มีอำนาจต่อรอง วิธีที่เขาจะต่อสู้ได้ คือ เกษตรกรต้องเป็นนายทุนเอง ซึ่งมันต้องเกิดการรวมตัวโดยมีรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎหมาย เปิดทางและจัดสรรทุนให้ เกษตรกรต้องรวมตัวกันเป็นเพื่อให้มีพลัง ซึ่งตนเรียกว่า ‘บริษัทสหกรณ์มหาชน จำกัด’ ชาวสวนยางจะกลายเป็นนายทุน ผู้ถือหุ้นบริษัทสวนยางของพี่น้องชาวใต้ จะสามารถเจรจาต่อรองโดยตรงกับผู้ใช้ยาง กำหนดราคาได้ ไม่ต้องให้คนกลางมาทอนกำไรลง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคเดียวที่พูดเรื่องนี้

ด้านนายจูรี กล่าวว่า จากการเดินขอเสียงในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี อารมณ์ไม่ต่างจากเดินที่ จ.สงขลา บ้านของตนเอง ทุกคนออกมาต้อนรับ ทั้งร้านทอง ร้านค้าต่าง ๆ ออกมาให้กำลังใจ ขานรับในนโยบายที่จับต้องได้ เช่น นโยบาย 1 คำขอ พูดง่าย ๆ คือ สามารถติดต่อกับราชการจบในที่เดียว ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ ไม่ต้องไปตระเวณไปหลายหน่วยงาน ในยุคออนไลน์มันสามารถทำได้ง่ายขึ้น ราชการต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนต้อง ไม่ใช่เอาความลำบากมาให้ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเราตั้งใจที่จะช่วยเหลือชาวบ้านจริง ๆ

นอกจากนี้ ตนยังขอให้พี่น้องชาวใต้ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เรียกศักดิ์ศรีคนใต้ซื้อไม่ได้กลับคืนมา ดังนั้น ในวันที่ 14 พฤษภาคม ก็ขอให้พี่น้องประชาชนกาผู้สมัครของเขตนั้น ๆ และถ้าพื้นที่ไหนในภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขต ขอให้กา เบอร์ 14 คือเบอร์พรรค จะได้นายกรณ์ ไปบริหารประเทศด้านเศรษฐกิจ ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้

‘ตร.นครพนม’ รวบ ‘นักบินข้ามโขง’ วัย 56 พร้อมเมียเด็กท้อง 3 เดือน ขนยาบ้ากว่าล้านเม็ด อ้างตกงาน หวังรวยทางลัดหาเลี้ยงครอบครัว

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (กก.สส.ภ.จว.ฯ) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ฯ, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภาค 4, พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯ, พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นายอุดมสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เจ้าของฉายา ‘นักบินข้ามโขง’ ชาวอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี พร้อมภรรยา นางเจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กทม. ตรวจค้นภายในรถยนต์พบกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ ตรวจนับได้จำนวนทั้งสิ้น 1,012,000 เม็ด โดยบรรจุแยกเป็นแพ็กเกจกันชื้น มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ สีเขียว Y1

จากข้อมูลพบว่าเป็นสัญลักษณ์ยาบ้าเกรดต่ำ ราคาเม็ดละประมาณ 10 บาท ลักษณะยาบ้าเป็นเม็ดสีส้ม มีตัวอักษร WY คาดว่า กลุ่มผู้ผลิตใช้สารฆ่าแมลงผสมเป็นสารตั้งต้นแทนแอมเฟตามีน เพื่อลดต้นทุน และกำลังระบาดทะลักมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งขายในพื้นที่ตอนในอีสาน อาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ลำเลียง โดยจะใช้กองทัพมดลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงมาทางเรือหางยาว ก่อนนำมาพักไว้ตามแนวชายแดนพื้นที่อีสาน รวมถึงจังหวัดนครพนม

การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ว่า ชาวลาวชื่อ ท้าวบัวพา อายุ 25 ปี ร่วมกับเพื่อนชื่อท้าวอ้วน อายุ 26 ปี มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครพนม จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสองอย่างใกล้ชิด โดยมี พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ สว.กก.สส.จวฯ เป็นหัวหน้าชุดวางกำลังไว้ตามจุดต่าง ๆ กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 6 เมษายน สายสืบรายงานว่าพบกระสอบปุ๋ย จำนวน 6 กระสอบ คาดว่าภายในบรรจุยาบ้าซุกซ่อนไว้ในป่าหญ้าริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) จึงซุ่มเฝ้าเพื่อรอว่าจะมีใครมาขนกระสอบปุ๋ยต้องสงสัย

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มีรถยนต์กระบะสีเทายี่ห้อมิตซูบิชิขับเข้ามาจอด และชายคนขับคือท้าวอ้วน ได้ลงมาแบกกระสอบปุ๋ยใส่ท้ายกระบะ ชุดเฝ้าซุ่มจึงจู่โจมล็อกตัวจับกุม ท้าวอ้วนจำนนต่อหลักฐานจึงรับสารภาพว่า ได้รับท้าวบัวพา โพทิลาด ใช้ให้ขับรถมาขนกระสอบบรรจุยาบ้า จากบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปไว้ที่ท่าทรายร้างแห่งหนึ่งอยู่ บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ระหว่างนั้นเองท้าวบัวพาได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ามาจอดเทียบรถยนต์ของท้าวอ้วน เพื่อจะสอบถามถึงผลการทำงานลุล่วงหรือไม่ จึงถูกจับกุมตัวได้โดยละม่อม

จากนั้นชุดปฏิบัติการ กก.สส.จว.นครพนม ได้ซ้อนแผนให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน นำของกลางยาบ้าที่อยู่ท้ายรถกระบะท้าวอ้วนมาจอดที่ท่าทรายร้าง เพื่อรอผู้ที่จะมารับยาบ้าตามที่นัดหมายกันไว้ ต่อมามีรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ขับเข้ามาที่ท่าทรายดังกล่าว ชายคนขับเดินลงมาเปิดฝาท้ายแล้วตรงดิ่งไปที่ท้ายรถกระบะขนกระสอบยาบ้าใส่ฝาท้ายรถเก๋ง ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงเข้าจับกุมทันที ทราบว่าชายดังกล่าวชื่อนายอุดมสิน ส่วนภายในรถเก๋งพบนางเจนจิรา ภรรยาของนายอุดมสินนั่งรออยู่ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คนไปสอบสวนขยายผล

'ชัยวุฒิ' ชู 'พล.อ.ประวิตร' ทำหน้าที่ผู้นำประเทศ ดูแล ปชช. วอนคนไทยมั่นใจ หลัง 4 ปีมานี้ เพื่อนบ้านยกไทย 'พี่ใหญ่อาเซียน'

(7 เม.ย.66) ที่อุทยานเบญจศิริ เขตคลองเตย พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัยย่อยโซนกรุงเทพฯ ใต้ "พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ" นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า พปชร.พร้อมที่เข้าไปดูแลประชาชนในทุกกลุ่ม ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ถือเป็นเสาหลัก ในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี ให้กับประชาชน พร้อมประสานทุกหน่วยทั้ง 10 ทิศ แก้ปัญหาให้กับทุกคน ประสานงานกับทุกคน ทำให้วันนี้รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี แล้วเราจะทำต่อไป เด็กเยาวชนทุกวันนี้สามารถจับเงิน 1,000,000 ได้ ก็เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ที่ส่งเสริมให้เกิดการขายของออนไลน์ในระบบดิจิทัล

 

ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความสุขอันดับ 6 ของโลก มีแต่ชาวต่างชาติชื่นชมในการมาอยู่เมืองไทย แต่มีพรรคการเมืองไปสร้างเรื่องว่า ประเทศไทยมีปัญหา อยากไปอยู่เมืองนอก ประเทศในแถบยุโรป วันนี้ฝรั่งเศสประท้วงกันเป็นแสนเป็นล้านคน ประเทศเยอรมันที่เจริญที่สุดในยุโรปตอนนี้ก็ประท้วงกัน การขนส่งมวลชนหยุดหมด เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ประเทศไทยเราสงบสุขดีที่สุดแล้ว เพียงแค่อย่าทะเลาะ อยากให้ทุกคน มาช่วยกันดูแลประเทศไทยให้สงบสุข

กกต.ปิดรับสมัครเลือกตั้ง ยอดสมัคร ส.ส.แบ่งเขต 4,781 คน จาก 70 พรรค ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ 1,899 คน ชงแคนดิเดตนายกฯ 63 คน เผยตรวจสอบคุณสมบัติ 7 วัน ประกาศชื่อผู้สมัคร 14 เม.ย.

(7 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงภาพรวมการเปิดรับสมัคร ส.ส. แบ่งเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 3-7 เม.ย. และการเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 4-7 เม.ย. นั้นว่า การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัคร 70 พรรค จำนวน 4,781 คน โดย กทม.เป็นจังหวัดที่มีผู้สมัครมากที่สุด 498 คน ส่วนการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มี 67 พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร รวมจำนวน 1,899 คน นอกจากนั้นมีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จาก 43 พรรค จำนวน 63 คน

นายแสวง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากนี้ไปจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร โดยผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จะตรวจสอบโดย กกต. ส่วนแบบแบ่งเขตจะตรวจสอบโดยผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขต ซึ่งจะสามารถประกาศรายชื่อได้ในวันที่ 14 เม.ย.ทั้งนี้ผู้ที่ กกต.ไม่ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สามารถร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วัน และศาลฎีกาต้องพิจารณาให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 วัน ส่วนกรณีมีชื่อประกาศเป็นผู้สมัคร แล้วผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้สมัคร หรือผู้ใด ร้องว่าผู้สมัครขาดคุณสมบัติ สามารถยื่นคำร้องต่อ กกต. กลาง กรณีผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ และยื่นต่อ กกต.จังหวัดกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ภายใน 7 วันนับแต่วันประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือภายในวันที่ 21 เม.ย. โดย กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน

‘ธนาธร-ณัฐชา’ ยิ้มแห้ง!! ก่อนโดนพี่วินฯ ตั้งคำถาม “ประชาชนจะได้อะไรจากการแก้ไข ม.112”

เมื่อมานานมานี้ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตบางขุนเทียน ได้ออกเดินทางหาเสียงพร้อมกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล โดยในระหว่างการเดินหาเสียงนั้น มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ท่านหนึ่งได้เข้ามทตั้งคำถามกับทั้งสอง โดยถามว่า “ม.112 แก้แล้ว ตัวเขาเองที่ประกอบอาชีพขับรถวินมอเตอร์ไซค์นั้นจะได้อะไร”

นายณัฐชา ตอบกลับว่า “การแก้ ม.112 นั้นเป็นการแก้ไขเพื่อการหยุดกลั่นแกล้งทางการเมือง” ซึ่งพี่วินคนดังกล่าวก็ได้ตั้งคำถามกลับว่า “พวกเขาเหล่านั้นลบหลู่สถาบัน ก็ต้องมีการแจ้งความ เพราะมันแจ้งความไม่ได้ถ้าหากไม่มีการด่าทอสถาบันก่อน”

พี่วินยังเสริมอีกว่า “ผมเกิดมา 47 ปี ผมยังไม่เคยโดนข้อหา ม.112 เลยอยากถามว่าแก้ ม.112 ไปแล้วพวกผมได้อะไร เพราะจากที่ดูในสภาไม่เห็นพรรคก้าวไกลนั้นพูดถึงการแก้ปัญหาอื่นๆ ให้ประชาชนเลย พูดแต่เรื่องแก้ ม.112 แถมยังสนับสนุนม็อบ และม็อบเหล่านั้นเวลาถูกจับ ก็ไม่ได้โดนจับจากเรื่องม.112 แต่ถูกจับเพราะเรื่องพ่นสี ไปด่าคนอื่น ” 

พี่วินยังตั้งคำถามอีกว่า “ถ้าหากตนด่าถึงพ่อ ถึงแม่ จะโกรธไหม ถ้าโกรธก็ต้องแจ้งความจับตน ก็เหมือนกันการที่คนชอบหมิ่นสถาบันที่เป็นประมุข”

‘ปชป.’ เล่นใหญ่!! ปราศรัยใหญ่ครั้งแรกลานคนเมือง จัดเวทีแบบ 360 องศา ขอเดินทักทายปชช. แบบใกล้ชิด

(7 เม.ย.66) ที่ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)เปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรก หลังสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีแกนนำพรรค ทั้ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯดูแลกทม.นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคฯ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคฯ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. รวมทั้งผู้สมัครส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ  โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

การปราศรัยครั้งนี้ปชป. จัดเวทีแบบ 360 องศา เพื่อให้ผู้สมัครส.ส.ใกล้ชิดกับประชาชน เพราะประชาชนเท่ากับประชาธิปัตย์ และเก้าอี้จำนวน 5,000 ตัว และจัดเวทีปราศรัยลักษณะตัวที ยื่นเข้าไปหากลุ่มประชาชนที่มาฟังการปราศรัย โดยให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน เดินโชว์ตัวที่ละคนคล้ายกับการเดินแบบ และทักทายประชาชน รวมทั้งให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเดินโชว์ตัวและทักทายประชาชนด้วย นอกจากนั้นยังใช้ 3D Mapping ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีการและศิลปะมาผสมผสาน แล้วฉายไปยังตึกของศาลาว่าการกรุงเทพให้เป็นฉาก แทนการใช้จอภาพหรือฉากหลังแบบเดิม ๆ 

‘อนุทิน’ ยกทัพ ‘ภท.’ ลุยถิ่นนครสวรรค์ ชูนโยบาย ‘พูดแล้วทำ’ ย้ำ!! ถ้าได้ส.ส. มากพอ พร้อมเป็น ‘แกนนำตั้งรัฐบาล’

กระหึ่มปากน้ำโพ! ‘อนุทิน’ ยกคณะลงพื้นที่หาเสียง ‘นครสวรรค์’ ลั่นขอปักธงเหมากวาดชัยทั้ง 6 เขตกรุยทางสู่ภาคเหนือ ประกาศมุ่งทำงาน ไม่ขัดแย้งใคร ชูสารพัดนโยบาย ‘พูดแล้วทำ’ ย้ำหากได้ส.ส.มากพอพร้อมเป็น ‘แกนนำตั้งรัฐบาล’
.
(7 เม.ย.66) ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหน้าหน้าพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค, นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง สู้ศึกเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีประชาชนมาฟังการปราศรัยล้นสนามพื้นที่จัดงาน  

นายอนุทิน กล่าวกับประชาชนว่า ต้องขอบคุณชาวนครสวรรค์ ที่ให้โอกาสพรรคภูมิใจไทยได้ทำงานรับใช้ จากการที่พรรคได้ ส.ส.ในพื้นที่นี้ คือ นายมานพ ศรีผึ้ง ซึ่งเข้าไปเป็นตัวเชื่อมประสาน กับส่วนกลาง คอยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ แต่ครั้งนี้ ด้วยผลงานที่ทำมา คงจะไม่ขอมากไป หากเราหวังว่าจะได้ ส.ส.เพิ่มจาก 1 ท่าน เป็น 6 ท่าน ที่อยู่ด้วยกันข้างๆ คือนายวีระกร คำประกอบ นี่คือผู้แทนหลายสมัย ทำงานดี พี่น้องประชาชน ไว้วางใจ ท่านทุ่มเท ขยัน งานในสภาไม่บกพร่อง งานพื้นที่ ไม่มีคำว่าตกหล่น เป็นตัวอย่างของ ส.ส.คุณภาพ เจอท่านเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่วนท่านอยู่พรรคอื่น  ตอนลงพื้นที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก็ถูกใจกันมาแต่นั้น เพราะคนทำงานด้วยกัน ย่อมต้องการจะร่วมงานกัน  ซึ่งผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย พูดได้เต็มปาก ว่านี่คือคนทำงาน ทุกคน และทำอย่างเข้าใจ รู้จักพื้นที่ด้วย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทย เราเป็นพรรคพูดแล้วทำ คำนี้ เราไม่ได้พูดเอง เออเอง แต่ได้มาจากประชาชน ตอนลงพื้นที่ หลายครั้งที่มีพี่น้องมาขอบใจ ในสิ่งที่พรรคทำ เช่น นโยบายฟอกไตฟรี, มะเร็งรักษาทุกที่, การให้กัญชาเป็นยา, การปลดเงื่อนไขเรื่องผู้ค้ำประกันออกจากการขอกู้ยืม กยศ., การลดดอกเบี้ย กยศ. เหล่านี้ ช่วยชีวิตประชาชนได้มาก จะเห็นว่าเลือกภูมิใจไทย เราเน้นทำงานไม่สร้างปัญหา อย่าลืมว่า พรรคภูมิใจไทย เราไม่หาเรื่องใคร ไม่สร้างศัตรู ไม่มีขั้ว ไม่มีสี ไม่มีฝ่าย เพราะเราคิดเรื่องทำงาน ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และถ้าคิดจะทำงาน ต้องหาแนวร่วม ร่วมด้วยช่วยกัน งานจึงจะแล้วเสร็จ ถ้ามาขัดขากัน งานไม่เสร็จ ดังนั้น เราเน้นสร้างมิตร ไม่สร้างศัตรู ใครคิดดีกับบ้านเมือง เราทำงานได้หมด ขอย้ำว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล เราจะยกระดับทั้งเรื่อง ชีวิต เศรษฐกิจ และสุขภาพ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top