Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

‘หนุ่มเกาหลี’ ลั่น!! คนในชาติตัวเองหล่อกว่า ‘ชายไทย’ ทำชาวเน็ตไทยแห่วิจารณ์ยับ ไม่ยอมโดนหยามเรื่องนี้

(24 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีอิทธิพลต่อคนทั่วโลก ดังนั้นเราจึงมักเห็นคอนเทนต์ซ้ำ ๆ ในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะคอนเทนต์สัมภาษณ์คนตามท้องถนน

ล่าสุด หนุ่มเกาหลีรายหนึ่งได้กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ หลังให้สัมภาษณ์ในช่องติ๊กต็อกช่องหนึ่ง โดยในคลิปวิดีโอจะเริ่มจากพิธีกรสัมภาษณ์สาวต่างชาติที่มาทำงานในเกาหลีใต้ และถูกถามว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างเกาหลีและประเทศไทย

เธอตอบว่า “เพิ่งมาครั้งแรก ยังไม่รู้อะไรมาก” ซึ่งสาวรายนี้มาพร้อมกับเพื่อนชายชาวเกาหลี เพื่อนของเธอจึงกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู แต่เธอปฏิเสธและบอกให้เพื่อนพูดเอง

หนุ่มคนนี้จึงพูดว่า “ผู้ชายเกาหลีหล่อมากกว่าถ้าเทียบกับผู้ชายไทย” พิธีกรจึงหันไปถามความเห็นผู้หญิง สาวคนนี้บอกว่า “ฉันคิดว่าก็เหมือน ๆ กันนะ” ทำเอาคลิปวิดีโอนี้กลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย

บางคนมองว่าพิธีกรถามคำถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมระหว่างประเทศ แต่ผู้ชายคนนี้กลับตอบเรื่องหน้าตา ก็สะท้อนถึงทัศนคติที่ไม่ดีรึเปล่า ถ้าผู้หญิงพูดเองก็จะเสียหาย ดีแล้วที่ผู้หญิงฉลาด และไม่ยอมทำตาม

บางคนก็แสดงความคิดเห็นอย่างสนุกสนานว่า “ลุกซ์ของคนเกาหลีส่วนใหญ่อาจจะดูดีกว่าผู้ชายไทย แต่ถ้าบอกว่าหล่อกว่า ยอมไม่ได้” แถมบ้างก็เชียร์ให้ผู้ชายไทยหันมาดูแลตัวเองและแต่งหน้า แต่งตัว แข่งกับคนเกาหลีไปเลย

‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ปัดสัมภาษณ์นักข่าว หลังมีข่าวลือเลิก ‘นาย ณภัทร’ สะพัด

(24 มิย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้ตามสัมภาษณ์ใบเฟิร์น ที่งาน ‘ทรูทั่วไทย’ True Power Soft Power ที่เจ้าตัวมาในฐานะ Brand Ambassador ซึ่งนักข่าวได้ตามไปหลังไมค์กับ ผู้จัดการส่วนตัว ว่าจะขอสัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ ซึ่ง ใบเฟิร์น เองได้แจ้งกับทางทีมงานว่าวันนี้ไม่สะดวกตอบคำถามนักข่าว

ทันที่เสร็จ ใบเฟิร์น เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินทางกลับ ซึ่งเจ้าตัวได้ทักทายนักข่าวที่ตามมาเก็บภาพว่า “ครั้งหน้านะ คุยยาว ๆ เลย”

ขณะที่มีข่าวลือจากวงใน ว่า ใบเฟิร์น และ นาย ตัดสินใจจบความสัมพันธ์หลังกลับจากทริปสวิตเซอร์แลนด์ ในอินสตาแกรมของ ใบเฟิร์น ยังได้โพสต์ภาพ เวิร์คช็อปการแสดง พร้อมแคปชั่น “แหลกสลายมันเป็นแบบนี้นี่เอง #ทิชา” ซึ่ง นาย ณภัทร ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์อิโมจิ รูปชูสองนิ้วและหัวใจสีขาวให้ 

จากนี้ก็คงต้องรอ ใบเฟิร์น-นาย พร้อม ที่จะตอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนี้เป็นไปตามข่าวลือหรือไม่

ชื่นชม!! ‘นร.โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย’ คว้า 16 เหรียญทอง แข่งขันวิทย์ฯ-นวัตกรรมนานาชาติ 'WYSII 2024' ณ มาเลเซีย

(24 มิ.ย. 67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลชื่นชมนักเรียนไทยสุดเก่ง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ด้วยการคว้ารางวัลเหรียญทองและรางวัลพิเศษ จากการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมระดับนานาชาติ World Youth Stem Invention Innovation (WYSII) 2024 ณ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ค. 2567 ในรูปแบบออนไลน์ 

นายคารม กล่าวว่า เด็กนักเรียนไทยที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่เด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา สามารถคว้ารางวัลมาได้รวมทั้งหมด 26 รางวัล แยกเป็น รางวัลเหรียญทอง 16 รางวัล และรางวัลพิเศษ 10 รางวัล สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง คือ โครงงานการตรวจจับเนื้องอกในสมองจากภาพ MRI โดยใช้การวิเคราะห์ฮิสโตแกรม ซึ่งเป็นโครงงานที่น้อง ๆ นักเรียนได้คิดค้นขึ้นมา เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมองเพิ่มมากขึ้น และการวินิจฉัยก็ยังมีความผิดพลาด

โดยผลงานชิ้นนี้เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์วินิจฉัยผลตรวจสมอง และใช้คอมพิวเตอร์ในการเขียนโปรแกรมขึ้นมาเอง นำมาใช้วิเคราะห์จากภาพตรวจ MRI สมองของผู้ป่วย เกิดผลที่แม่นยำมากกว่า 90% ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก และในอนาคตอาจนำไปต่อยอดทำเป็นภาพ 3D เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนในการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะโรคเนื้องอกในสมองเพียงอย่างเดียว อาจจะวินิจฉัยโรคอื่น ๆ เกี่ยวกับสมองได้ด้วย

“รัฐบาลมุ่งพัฒนากำลังคนควบคู่กับระบบการศึกษา เพื่อให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยให้ความสำคัญ ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า สร้างโอกาส สร้างระบบการวิจัยและพัฒนาที่มีคุณภาพ ซึ่งทุกอย่างพัฒนาได้ด้วยคน และเยาวชนไทย รวมถึงบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถแข่งขันได้กับนานาชาติ โดยมุ่งหวังให้ทุกคนศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป” นายคารม ย้ำ

'ด้อมส้ม' เปิดใจ!! รับฟังข้อมูล 'สลิ่ม' แล้วเกิดเอ๊ะ-ตั้งคำถามต่อ ลองค้นข้อมูล จนได้คำตอบเพียงพอ "สลิ่มจะหลอกเราทำไม"

(24 มิ.ย.67) ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก @plm89thailand หรือ ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ ได้โพสต์วิดีโอพร้อมแคปชันระบุว่า “ไลฟ์ทุกวันได้อะไร? เงินเหรอ? รับจ้างเหรอ? ไอโอเหรอ? เปล่า ได้คนคิดได้แบบหนูนี่ล่ะ คือรางวัลที่ดีที่สุดของสลิ่ม”

โดยภายในวิดีโอ เป็นการพูดคุยกับสมาชิกอีก 3 คน โดยมีสมาชิกหญิงท่านหนึ่งกล่าวว่า “ที่เราขึ้นไลฟ์ แล้วเราพูดทุกวัน ๆ หนูว่ามันก็ต้องสํานึกบ้างแหละ มันก็ต้องเข้าไปในสํานึก ต้องมีเอ๊ะแบบที่หนูไปฟังพี่ทุกวัน ๆ จนหนูเอ๊ะ แล้วหนูก็ตั้งคําถาม หนูก็มีคําถามมาถามทุกวันเหมือนกันเนอะ”

ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก @plm89thailand หรือ ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ กล่าวถามกลับไปว่า “แล้วพวกพี่ตอบหนูได้ไหมล่ะ?”

สมาชิกหญิงรายดังกล่าวตอบว่า “ตอบได้ทุกคําถาม แล้วมันก็เป็นข้อมูลจริง ซึ่งหนูก็ไปอ้างอิงจากในเน็ตมาอีกรอบหนึ่งว่าที่เขาพูดมาตรงไหม? ถ้าไม่ตรง เราก็จะมีข้อมูลมาแย้งว่าพูดไม่ตรงเลย หรือเรื่องนี้มันไม่จริง แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีนะ หนูยังไม่คัดค้านอะไรเลย”

ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก @plm89thailand หรือ ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ ตอบกลับว่า “ก็ใช่อะสิ แล้วสลิ่มไม่รู้จะไปพูดหลอกพวกหนูทำไม”

สมาชิกหญิงรายดังกล่าวตอบว่า “แล้วทำไมไปเรียกเขาสลิ่ม จริง ๆ ความรู้เขาแน่นมากเลยนะ คุณกลัวคนมีความรู้กันเหรอ งง” 

'อินเตอร์ลิ้งค์ฯ' จัดปาร์ตี้คอนเสิร์ตแห่งปีให้ลูกค้าคนสำคัญ เชื่อมสัมพันธ์แทนคำขอบคุณด้วยหัวใจ ในงาน 'INTERLINK THANK YOU PARTY 2024'

จบไปอย่างชื่นมื่นกับความประทับใจแบบไม่รู้ลืม กับงานเลี้ยงยิ่งใหญ่แห่งปี “INTERLINK THANK YOU PARTY 2024” ที่ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น ตั้งใจคืนกำไร มอบความสุข สุดมันส์ไปกับคอนเสิร์ตสุดตระการตาให้กับลูกค้าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเติบโต อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนขององค์กร แทนคำขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ร่วมเดินทางไปสู่ความสำเร็จร่วมกันทั้งคู่ค้า และพันธมิตร

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ นำโดย CEO คุณสมบัติ อนันตรัมพร พร้อมด้วย ดร.ชลิดา อนันตรัมพร ได้รังสรรค์งานปาร์ตี้คอนเสิร์ต “INTERLINK THANK YOU PARTY 2024” พร้อมกับให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าคนพิเศษที่ได้ร่วมเดินทางไปกับเรา และให้การสนับสนุน สินค้า และอุปกรณ์ LINK AMERICAN & GERMAN RACK EVERYWHERE ด้วยดีเสมอมา รวมถึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแห่งการเติบโต กว่า 38 ปี ที่บริษัทฯ ก้าวมาสู่ความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ผ่านการคืนกำไรพร้อมความสุข สร้างรอยยิ้ม และความครื้นเครงให้กับลูกค้าจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศกว่า 1500 บริษัทฯ มาร่วมดื่มด่ำกับบรรยากาศความสนุกสนาน และลิ้มรสชาติอาหารที่จัดมาให้เฉพาะลูกค้าคนพิเศษในงานนี้เท่านั้น ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

ภายในงาน ทุกท่านยังได้เพลิดเพลิน บรรเทิงไปกับปาร์ตี้สุดมันส์แบบครบรสความอบอุ่น รับฟังเสียงเพลงบรรเลงผ่านคอนเสิร์ตที่อินเตอร์ลิงค์ฯ จัดชุดใหญ่นำทัพศิลปินแห่งยุค 90’ ทั้ง ชมพู ฟรุตตี้/แคทรียา อิงลิช/FIRZTER/อ๊อฟ ปองศักดิ์ ที่ขนเพลงรวมรุ่นมาเอาใจลูกค้าทุกท่านให้ได้ฟัง ร่วมเอ็นจอย พร้อมแดนซ์กันกระจายอย่างสนุกสนานไปตลอดทั้งค่ำคืน

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกก่อนเข้าไปรับฟังบทเพลงอันไพเราะ เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลุ้นซองสุ่ม กิจกรรมตู้เกมส์ลุ้นรางวัล เพื่อรับของรางวัลสุด Exclusive กันอย่างท่วมท้นล้นหลาม แทนคำขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามข่าวสารในทุก ช่องทางการประชาสัมพันธ์ของอินเตอร์ลิ้งค์อีกด้วย

คุณสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สำหรับในค่ำคืนนี้ ผมรู้สึกดีใจ และมีความยินดีที่ได้ต้อนรับทุกท่าน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น เพราะทุกท่านเปรียบเสมือนเป็นครอบครัวของเรา ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 38 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีทุกท่านร่วมเดินเคียงข้าง และสนับสนุนแบรนด์ LINK AMERICAN AND GERMAN RACK เราคงจะไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนจนถึงทุกวันนี้ ผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่านจากใจอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในสินค้า อุปกรณ์ และบริการของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ด้วยดีเสมอมา เพื่อนำพาธุรกิจให้เติบโต อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนแบบมีคุณภาพไปด้วยกันครับ”

 

 

'Devas IPASON' บริษัทไอทีจากจีน แจ้ง!! ไปไม่รอดในไทย เหลือพนักงาน 5 คน จาก 160 คน ฝ่ายขายไปเกลี้ยง

(24 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Devas IPASON ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ชื่อดังจากประเทศจีน ได้โพสต์ชี้แจง ระบุว่า

“แจ้งให้ผู้บริโภคทราบ”

“น่าเสียดาย หลังจากผ่านไป 20 เดือน บริษัทของเราไม่สามารถอยู่รอดได้ในประเทศไทย จากทีมงาน 160 คน ขณะนี้เหลือพนักงานเพียง 5 คนเท่านั้น ที่จะทำงานขั้นสุดท้าย เพิ่งล้มละลาย การขายทรัพย์สินในสำนักงานและการจัดการปัญหาหลังการขายบางส่วน”

“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตทีมงานหลังการขายทั้งหมดได้ลาออกแล้ว ความสามารถของเราในการจัดการหลังการขาย จึงมีจำกัดสำหรับผู้บริโภคบางรายที่ไม่ตอบกลับหรือตอบกลับล่าช้า หากคุณต้องการเร่งการประมวลผล โปรดติดต่อเราที่สำนักงานเราจะจัดหาผลิตภัณฑ์หลังการขายให้กับคุณ”

“หากไม่มีผลิตภัณฑ์หลังการขายที่เกี่ยวข้องเราจะจัดเตรียมทางเลือกให้กับผู้บริโภคทุกคนที่มา ไปที่สำนักงาน เราจะเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มเติมเพื่อเป็นการแสดงความขอโทษของเรา ที่อยู่บริษัท เลขที่ 39 ซอย สุขุมวิท 101/2 บางนาเหนือ บางนา กรุงเทพฯ 10260”

“ทั้งนี้บริษัท Devas IPASON (เดวาส์ ไอพาสัน) เป็นแบรนด์ไอทีจากประเทศจีนถือหุ้นโดยบริษัท IPASON, Colorful และ Deva’s Natural ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในวงการผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประมวลผลคุณภาพสูง ทำการตลาดไปทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดงานประชุมวิชาการระดับชาติ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2567 เตรียมจับมือนำงานวิจัยและนวัตกรรมลดปัญหาอาชญากรรม

วันนี้ (24 มิ.ย.67) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดภายใต้หัวข้อ “การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการบังคับใช้กฎหมายในสังคมดิจิทัล” โดยมี พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้บริหารโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 1,000 คน ณ ห้องประชุมเตมียเวส โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้พรมแดน ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาททั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้การดำรงชีวิตได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ในทางกลับกันก็อาจก่อให้เกิดผลเสียตามมา ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ ต้องรับผลกระทบจากกระแสการเปลี่ยนแปลงทางสังคมนี้ ส่วนหนึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมที่มีรูปแบบที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น ทำให้ยากต่อการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อบุคคล เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ

ดังนั้น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจึงมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหาอาชญากรรม รวมทั้ง ภาคประชาชนที่จะต้องทำความเข้าใจร่วมกันถึงวิธีการบังคับใช้กฎหมาย การวิเคราะห์แนวโน้มการเกิดอาชญากรรม การบริหารองค์กร ตลอดจนการจัดสรรเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อมต่อการดำเนินงาน เพื่อควบคุมปัญหาอาชญากรรมให้มีอัตราการเกิดน้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปฏิรูปและพัฒนาวิทยาการด้านการอำนวยความยุติธรรมให้ทันสมัย มีการผลักดันการใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการสร้างมาตรการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมของประเทศ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า การจัดการประชุมวิชาการระดับชาติฯ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจครั้งนี้ นับว่าเป็นเวทีสำคัญ สำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและส่งเสริมให้คณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมและอื่นๆ ได้นำเสนอและแลกเปลี่ยนผลงานทางวิชาการสู่สาธารณชน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดผลงานวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สามารถนำไปต่อยอดในการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ซึ่งกระทรวง อว.พร้อมร่วมมือกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจในทุกมิติ โดยเฉพาะการนำงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมาร่วมต่อยอดและพัฒนาการดำเนินการเพื่อลดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนต่อไป

ทั้งนี้ กิจกรรมในงานการประชุมวิชาการระดับชาติ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2567 ประกอบไปด้วย การปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ อาชญากรรมในยุคสังคมดิจิทัล โดย ดร.ปริญญา หอมเอนก การเสวนาในหัวข้อ การเฝ้าระวังภัยในยุคสังคมดิจิทัล จากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล รองอธิการบดีฝ่ายความปลอดภัย มหาวิทยาลัยรังสิต, ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และ ร.ต.อ.ดร.เขมชาติ ประกายหงส์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยและผลงานวิชาการสาขาสังคมศาสตร์ อาชญาวิทยา และการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมาย และนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีนักวิชาการสนใจเข้าร่วมนำเสนอเป็นจำนวนมาก บริเวณงานมีการ จัดแสดงนิทรรศการและแสดงบูธผลงาน อาทิ บูธชมรมไซเบอร์ บูธ กสทช. บูธสำนักงานกิจการยุติธรรมฐานข้อมูลงานวิจัยในกระบวนการยุติธรรม บูธโครงการวิจัย และบูธหลักสูตรคณะต่างๆ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นต้น

“ภูมิธรรม”มอบ สศท. จับมือพาณิชย์ พันธมิตร ต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทย ชูใช้อัตลักษณ์ท้องถิ่นปรับให้ทันโลก พร้อมสร้างทายาทคนรุ่นใหม่สืบทอด

วันที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 น.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการขับเคลื่อนสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย(องค์การมหาชน) สศท. หรือ sacit ที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสืบสานงานสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ชูงานศิลปหัตถกรรมที่เป็น Soft Power ช่วยผลักดันเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ โดยเน้นย้ำให้ สศท.เดินหน้า “สืบสาน รักษา พัฒนาต่อยอด”งานศิลปหัตถกรรม พร้อมเป็นศูนย์กลางด้านองค์ความรู้ในงานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า ควบคู่การ บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตร สร้างความยั่งยืนให้แก่งานศิลปหัตถกรรมไทย โดยมีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ดร.เสรี นนทสูติ ประธานกรรมการ สศท. นางพรรณวิลาส แพพ่วง รักษาการแทนผู้อำนวยการ สศท. ร่วมด้วย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทยเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม ซึ่งนับว่าเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้งานศิลปหัตถกรรมเป็น Soft Power ของประเทศที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ภารกิจที่สำคัญอีกด้านหนึ่งของ สศท.คือการรวบรวมองค์ความรู้และฐานข้อมูลเกี่ยวกับ ครูศิลป์  ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชาติที่จะต้องสืบสาน รักษา และต่อยอดให้คงอยู่

“ต้องให้โอกาสเอาช่างฝีมือที่ทันต่อโลก ทันยุคสมัย มาปรับเปลี่ยนกับของเดิมที่มีอัตลักษณ์ของไทยโดยไม่เสียอัตลักษณ์ ให้คนใหม่ๆหรือต่างประเทศเข้าสู่งานศิลป์ของไทยได้เพิ่มขึ้นทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลง เข้าถึงได้กับคนรุ่นใหม่ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับซอฟต์พาวเวอร์ เป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย  ดูแล สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี  เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับผู้สร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรม วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็ว ถ้าเราจะอยู่ในโลกนี้ได้ต้องปรับตัวให้ทันกับโลก“ นายภูมิธรรมกล่าว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า SACIT อยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกระทรวงมีศักยภาพที่จะทำให้ชุมชน วิสาหกิจชุมชนและประชาชนเติบโตได้ ทั้งเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การจดทะเบียน การส่งเสริมการส่งออกทุกส่วนต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันกับพันธมิตร ดึงคุณค่าอัตลักษณ์ของไทยให้ออกมาได้อย่างมีศักยภาพ ให้คนไทยรู้สึกภาคภูมิใจในงานหัตถกรรมและการรักษาหัตถกรรมไทยให้ยั่งยืนต้องมีทายาท สร้างคนรุ่นใหม่เข้ามา เด็กรุ่นใหม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ให้เกิดการประสานงานกันของคนทั้ง 3 รุ่น ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นใหม่ จะเกิดองค์ความรู้มาพัฒนาสอดรับกับยุคสมัย ให้เราเป็น Craft Center ของประเทศ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน

ซึ่งที่นี่มีภาระค่าใช้จ่ายดูแลต้องเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหา และตนได้ให้นโยบายว่าทำอย่างไรให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางให้จังหวัดต่างๆในภาคกลางมาใช้จัดแสดงงาน ใช้สถานที่และเป็นศูนย์ท่องเที่ยวประสานงานกับพันธมิตรเป็นศูนย์กลางในระดับประเทศต่อไป  และกระทรวงพาณิชย์ก็จะให้หน่วยงานต่างๆเข้ามาใช้สถานที่ พร้อมให้คนรุ่นใหม่เข้ามาใช้ได้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วัฒนธรรม หัตถกรรมไทย ถ่ายทอดให้ชาวต่างชาติเห็นถึงจิตวิญญาณของคนไทย

นราธิวาส-รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ตรวจเยี่ยมกำลังพล ย้ำมาตรการในการปฏิบัติงานดูแลความสงบเรียบร้อย ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ณ กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 4 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 ตำบลโล๊ะจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส พร้อมรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ในการปฏิบัติงานของหน่วยเพื่อเป็นการเน้นย้ำการปฏิบัติงาน และสร้างความเข้มแข็ง ในการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนระหว่างไทย- มาเลเซีย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

โอกาสนี้ พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมและร่วมรับฟังผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของหน่วย รวมถึงรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน พร้อมได้มอบแนวทางข้อแนะนำต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน อีกทั้งได้นำนโยบายข้อสั่งการของ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มาเน้นย้ำแก่เจ้าหน้าที่ให้นำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายต้องมีการวางแผนการปฏิบัติงานอย่างรัดกุม ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังไม่ประมาท และให้มีการประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เครือข่ายภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผนึกกำลังยับยั้งการกระทำผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่จะต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีไป ตามสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อควบคุมบุคคลหรือสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ผ่านเข้า-ออก และป้องกันการก่อเหตุในทุกรูปแบบ ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร / อัสมา บินมะนุ จ.นราธิวาส 

‘ทบ.’ โต้!! ‘สส.ก้าวไกล’ หลังให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ยัน!! ‘ที่ดินทหาร’ เป็นไปตามกฎหมาย-ระเบียบราชพัสดุ

(24 มิ.ย. 67) พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงกรณีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการทหาร ตั้งข้อสังเกตพื้นที่ทหารซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ แต่เจ้าของพื้นที่ไร้อำนาจเรียกคืน เปรียบเป็นพื้นที่เอกราชของกองทัพที่ไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบได้ ว่า ข้อมูลดังกล่าวอาจสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนให้กับสังคม ในประเด็นที่เกี่ยวกับที่ดินทหารในหลายประการ กองทัพบกจึงขอให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และป้องกันการบิดเบือนข้อมูลทั้งที่เจตนาและด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนี้

ที่ดินทหาร คือ ที่ดินราชพัสดุ ตาม พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 โดยมีกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ส่วนกองทัพบก เป็นผู้ใช้ที่ราชพัสดุ ตามกฎกระทรวง การใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2563 โดยเป็นการใช้ตามอำนาจหน้าที่ของกองทัพ ด้านความมั่นคง และการพัฒนาประเทศ ซึ่งยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการใช้ที่ราชพัสดุ และเนื่องจากพื้นที่ของกองทัพบก เป็นพื้นที่เพื่อความมั่นคง มีชั้นความลับทางราชการทหาร จึงทำให้บุคคลภายนอกเข้าถึงได้ยาก การไม่ได้รับรู้ข้อมูลเชิงลึก อาจทำให้ถูกมองว่ากองทัพบก ทำอะไรได้ตามใจ ซึ่งแท้จริงแล้วกองทัพบกก็ยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ

พื้นที่ไม่ลงสี หรือสีขาวนั้น กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้กำหนดข้อยกเว้นสำหรับที่ดินของกองทัพ เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญต่าง ๆ เช่น คลังอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงที่ตั้งโรงงานต่าง ๆ ของกองทัพ รวมถึงระบบด้านความปลอดภัยและสาธารณูปโภคที่สนับสนุนเกื้อกูลกัน

ทั้งนี้ การก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ กองทัพบก ยังคงต้องเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องเช่นกัน หากหน่วยงานใดมีความประสงค์จะขอใช้ที่ราชพัสดุในความครอบครอง ดูแลและใช้ประโยชน์ ของกองทัพก็สามารถกระทำได้ตาม กฎกระทรวง การใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2563 ข้อ 3 โดยขอความเห็นชอบจากกองทัพในฐานะส่วนราชการที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ แล้วยื่นคำขอไปยังกรมธนารักษ์ หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ ซึ่งในปัจจุบันกองทัพก็ได้ยินยอมให้ส่วนราชการใช้หลายพื้นที่ เช่น บริเวณที่ตั้งของรัฐสภา , มอเตอร์เวย์ทั้งสายตะวันตกและสายตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงที่ตั้งสำนักงานของส่วนราชการอื่น ๆ เป็นต้น

กองทัพบกตระหนักดีว่าการได้รับการบริการในด้านต่าง ๆ ของประชาชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ผู้ที่เข้าไปยึดถือครอบครอง (บุกรุกที่ดินของรัฐ) ในพื้นที่ครอบครองของกองทัพบกโดยมิชอบ ซึ่งบางพื้นที่เป็นพื้นที่ความมั่นคงตามแนวชายแดน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันกองทัพบก ได้นำที่ดินที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพบก ร่วมกับกรมธนารักษ์ จัดทำโครงการ 'ธนารักษ์เอื้อราษฎร์' ซึ่งเป็นการจัดสรรพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการต่าง ๆ นำมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ จึงขอให้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการและติดตามข่าวสารได้ที่สำนักงานธนารักษ์และหน่วยทหารในพื้นที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top