Sunday, 29 June 2025
NEWS FEED

เชียงใหม่- ผบช.ภ.5 มอบหมายรอง ผบช.ภ.5 มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน และ สั่งการ ผบก.สส.ภ.5 จัดกำลังตำรวจ 50 นาย พร้อมอุปกรณ์ เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.67) เวลา 13.10 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ประจำฯ ช่วยราชการ ภ.5 มอบสิ่งของช่วยเหลือ ข้าราชการตำรวจ ครอบครัวตำรวจ และประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย ณ ร้านปันรักษ์ เจียงฮาย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วรพงศ์  คำลือ ผบก.สส.ภ.5 จัดกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจำนวน 50 นาย พร้อมอุปกรณ์ เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย 

เชียงใหม่-เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัล TRIP.Best 2024 Global 100 Family-Friendly Attractions 

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัล TRIP.Best 2024 Global 100 Family-Friendly Attractions การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแบบครอบครัวที่ไหนรับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก                                             

เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.67) สำนักงานพัฒนาพิงคนคร(องค์การมหาชน)โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ให้การต้อนรับคณะบริษัท TRIP.Besf 2024 Global 100 Family-Friendly Attractions ให้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยมีนายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฎิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธานเป็นผู้ให้การต้อนรับพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ณ.ห้องประชุมวารีกุญชร สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  

นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่าการได้รับรางวัลนี้ เนื่องจากเชียงใหม่ไนท์เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของจังหวัดเชียงใหม่ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆมาโดยตลอดจนทำให้เกิดการรีวิวและบอกต่อ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีแห่งนี้ให้คนทั่วโลกได้เห็นและรู้จักซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัลจากTrip.com แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการ การเดินทางแบบครบวงจรระดับนานาชาติ ในประเภท Trip.Best 2024 global 100 Family Friendly attraction ซึ่งเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในหมวดหมู่การท่องเที่ยวแบบครอบครัว ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกและเป็นการจัดลำดับการท่องเที่ยวที่จัดทำขึ้นโดยอิงจากรีวิวจริงของผู้ใช้และความนิยมในการขายตลอดทั้งปี

สมุทรปราการ-เปิดงาน 'สุดยอด ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสมุทรปราการ' เพื่อการปรับตัวสู่วิถีชีวิตใหม่ New Normal

นายสุจินต์ วาจากิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน สุดยอดผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายอำนวย สุวรรณรักษ์ หัวหน้าอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ นายชนินทร์ กาญจนสุชา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ นายสาธิต กล่อมสวัสดิ์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวสุจิรา กิจเจริญ เกษตรจังหวัดสมุทรปราการ นางสาวสุขนันทิพย์ ศรีสมวงษ์ พัฒนาการจังหวัดสมุทรปราการ หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธีเปิดงานครั้งนี้ 

ภายในงานยังได้รับเกียรติและอนุเคราะห์สถานที่จัดงานจาก คุณโอฬาร กิจเลิศไพโรจน์ รองประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง จังหวัดสมุทรปราการและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการมีแนวคิดที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ให้โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อพัฒนาสินค้าส่งเสริมตลาดสำหรับผลผลิตเพื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่น 

รวมทั้งสร้างการเข้าถึงช่องทางการตลาดยกระดับมาตรฐานคุณภาพและมูลค่าของสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในชุมชน เพื่อเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน สำหรับการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า 'สุดยอดผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมสมุทรปราการ' นี้ถือเป็นกิจกรรมที่ 3 ของโครงการ โดยมีสินค้ารวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาจัดแสดง จำนวน 43 บูธด้วยกัน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 16 กันยายน 2567 ณ Grand Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง ภายในงานสามารถชมการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากนักแสดงอีกมากมายทุกวัน

‘สภานักศึกษา มธ.’ มีมติมอบรางวัล ‘จารุพงษ์ ทองสินธุ์’ ให้ ‘บุ้ง เนติพร’ พร้อมยกย่อง!! ในฐานะ ‘ผู้ที่เคลื่อนไหวเรียกร้อง – ปกป้องประชาธิปไตย’

เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.67) สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีมติให้ 'เนติพร เสน่ห์สังคม' ได้รับรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย ประจำปี 2567

รางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย คือรางวัลโดยสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มอบให้แก่ผู้ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องและปกป้องประชาธิปไตย เช่นเดียวกันกับจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อนและพี่ของเราที่ได้สละชีวิตต่อความอยุติธรรมและความรุนแรงในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 

โดยจะมีการมอบรางวัลในงานรำลึก 48 ปี 6 ตุลาฯ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

'นายกฯ' อัญเชิญพระราชกระแส ‘ในหลวง ร.10’ ทรงห่วงใยประชาชน-พระราชทานกำลังใจจิตอาสา

(13 ก.ย. 67) ที่ จ.เชียงราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พายุไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในบริเวณพื้นที่ อ.แม่สาย และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา อีกทั้งเกิดเหตุดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมากนั้น

นายกฯ กล่าวต่อว่า การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแส ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐภาค เอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่จิตอาสาภาคส่วน ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญ ทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที สามารถบรรเทาสถานการณ์ให้คลี่คลายลงตามลำดับ

‘ไพบูลย์’ ฟ้อง!! 'หมาแก่-ช่อง 9' เรียก 50 ล้าน ระงับออนแอร์ 'เจาะลึกทั่วไทย' หลังปล่อยคลิปเสียงคล้ายคนบ้านป่า ทำคนเข้าใจผิด-เสื่อมเสียชื่อเสียง

(13 ก.ย. 67) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกรณีที่มีการนำเสนอคลิปหลุดเสียง 'ลุงบ้านป่า' ว่า ในสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องดำเนินคดี นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้จัดรายการ 'เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand', รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ต่อศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเสียงของตน ทำให้ตนเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และคลิปเสียงดังกล่าวมีที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้นำคลิปเสียงเผยแพร่ผ่าน รายการ 'เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand' ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9

“จะยื่นฟ้องนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์, รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ และ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT ต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท และ ในวันจันทร์ที่ 16 กันยายนนี้ ผมจะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ที่เผยแพร่คลิปเสียงที่มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมายขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อขอให้ กสทช. มีคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ระงับการออกอากาศรายการ 'เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand' ตาม มาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” นายไพบูลย์ กล่าว

'แกนนำก้าวหน้า' แซะ!! ประเทศไหนพึ่งพา 'อาสาฯ-เงินบริจาค' ก็แปลว่าภาครัฐพึ่งพาไม่ได้ ไม่รู้จะเสียภาษีให้ไปทำไม

(13 ก.ย. 67) นายชำนาญ จันทร์เรือง แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์รูปและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

"ประเทศไหนที่พึ่งพาอาสาสมัครและเงินบริจาคจากประชาชนเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติแสดงว่าบริการสาธารณะของภาครัฐประเทศนั้นพึ่งไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเสียภาษีให้รัฐประเภทนี้ไปทำไม"

‘นักเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ’ คว้ารางวัล ‘Dow Innovation Award’ จากผลงาน ‘ผลิตไบโอดีเซลจากขยะการเกษตร ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์’

(13 ก.ย. 67) เว็บไซต์ศูนย์ข่าวพลังงาน รายงานความสามารถของเด็กไทย ในการผลิตไบโอดีเซลจากขยะทางการเกษตร ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ต้านโลกร้อน และคว้ารางวัล Dow Innovation Award ได้สำเร็จ ระบุข้อความว่า…

“โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย คว้ารางวัล Dow Innovation Award จากผลงานเรื่อง ‘การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และการผลิตไบโอดีเซลจากการย่อยสลายและการเปลี่ยนขยะทางการเกษตรโดยหนอนแมลงวันลาย’ รับทุนการศึกษา 30,000 บาท จากกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ซึ่งสนับสนุนเด็กไทยในระดับมัธยมศึกษาจากทั่วประเทศในการพัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์…

“โดยได้คัดเลือกโครงงานที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อขจัดปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ของสังคม ภายใต้การประกวด ‘Prime Minister’s Science Award 2024’ ซึ่งจัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เป็นผู้มอบรางวัลให้กับนายภูดล ศรีรัตนา และนายปพนพัชร์ วิรุฬห์ไววุฒิ นักเรียนเจ้าของโครงการฯ พร้อมกับนางสาววนิดา ภู่เอี่ยม ครูที่ปรึกษาโครงการฯ ณ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี”

'ครูเดวิด' ดึงสติคนไทย จงภูมิใจในประเทศชาติ หากรู้ว่าเขาไม่ชอบเราเท่าไร จะอุดหนุนไปเพื่อ?

เมื่อไม่นานมานี้ ช่องติ๊กต็อก ‘David William’ ของ ‘ครูเดวิด วิลเลียม’ ครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดังแห่งโลกโซเชียล ได้โพสต์คลิปวิดีโอในหัวข้อ ‘ถ้าพวกเขาไม่ชอบเราจริง ๆ เราควรเลิกอุดหนุนเขานะ’ ผ่านมุมมองของคนอเมริกันที่เคยอยู่ในบริบทของคู่ขัดแย้งระดับโลกอย่าง ‘สหรัฐฯ-จีน’ มาแชร์ให้เห็นถึงภาพที่ใกล้เคียงกับปมขัดแย้งระหว่างชนสองชาติ ‘ไทย-เกาหลีใต้’ ในปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้… 

เรื่องดรามาระหว่าง ‘คนไทย’ กับ ‘เกาหลีใต้’ ตอนนี้ มีกรณีหนึ่งที่อยากให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยนี่เป็นเรื่องของความภูมิใจในประเทศตัวเอง และไม่ยอมประเทศหรือคนในประเทศที่เกลียดเขา ว่าพวกเขาปฏิบัติตัวต่อกันอย่างไร 

ตัวอย่างประเทศที่กล่าวถึง คือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ถามว่าสหรัฐฯ มีข้อเสียไหม แน่นอนว่ามี แล้วก็ไม่ใช่ประเทศที่สมบูรณ์แบบในทุกเรื่องด้วย แต่สิ่งที่คนอเมริกันจะรู้สึกเหมือนกันเรื่องหนึ่งคือ ‘ความภูมิใจ’ โดยพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครหรือประเทศไหนที่ไม่ชอบเขามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น จีน ที่สังเกตได้ว่า ไม่ว่าจีนจะขายของให้สหรัฐฯ แค่ไหนก็ตามแต่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า, มือถือ สหรัฐฯ จะใส่ภาษีเข้าไปหนักมาก พูดง่าย ๆ ถ้าคิดจะนำสินค้าจีนมาขายในสหรัฐฯ จะต้องโดนภาษีหนักกว่ารายอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากจีน

ถามว่าสิ่งนี้เป็นเพราะอะไร?

เพราะเขามองว่า ‘จีน’ ไม่เป็นมิตรกับคนอเมริกัน และทั้งสองประเทศนี้ ก็ไม่ได้ชอบกันเท่าไร เช่นเดียวกันกับ ‘ประเทศจีน’ ที่ก็ไม่ได้ชอบใช้สินค้าจากสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน และจะใช้แต่ของจากประเทศตัวเองด้วย

เรื่องนี้ไม่ได้จะบอกว่า ประเทศไหนดีหรือไม่ดี แต่อยากจะสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าเราสังเกตประเทศเหล่านี้ (สหรัฐฯ-จีน) พอเขารับทราบว่าใครไม่ชอบตน เช่น จีนรับทราบว่า อเมริกันไม่ชอบพวกเขา และสหรัฐฯ ก็รับทราบว่าคนจีนไม่ชอบพวกเขา ต่างคนต่างก็จะไม่ยุ่งกัน เพราะเขามี ‘ศักดิ์ศรี’

ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากจะเห็นจากประเทศไทย คือ อยากให้คนไทยมีความภูมิใจแบบนี้ ผมไม่ได้บอกว่าประเทศใดดีกว่าใคร ทุกคนเท่าเทียมกันหมด แต่อย่างน้อย ถ้า ‘ประเทศไทย’ รับทราบว่า ‘ประเทศเกาหลีใต้’ ไม่ได้ชอบเราเลย แล้วทำไมทุกวันนี้เรายังเลือกจะไปอุดหนุนเขาอีก...เพื่ออะไร?

ผมไม่เข้าใจว่า เรารับทราบ ว่าเขาดูถูกเรา ไม่ชอบเรา แต่ยังบ้าเขา ชอบเขา ยังอุดหนุนเขาไม่หยุด อย่างน้อย ๆ เราควรมีศักดิ์ศรี และภูมิใจในความเป็นไทยหรือไม่

ประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่ง ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่เราควรตระหนัก คือ เราไม่ควรจะทนกับประเทศหนึ่ง ที่ดูถูกพวกเราโดยไร้เหตุผล

แน่นอน คนเกาหลีใต้ ดี ๆ ที่ให้เกียรติคนไทยก็มีอยู่มาก แต่จากภาพรวมวันนี้ คนไทยเราน่ารักเกินไปกับทุกเรื่อง และได้เวลาแล้วที่วันนี้เราควรจะรู้ตัว เมื่อเขาดูถูกเรา และไม่จำเป็นต้องอุดหนุนเขาในทุกสิ่งบ้างก็ได้

'เจ้าของร้านยำ' แชร์อุทาหรณ์ โดนเก็บภาษีย้อนหลังอ่วม 6 ปี 2.5 ล้านบาท 'ยอมรับสภาพ-ไม่โทษใคร' พร้อมเข้าถกสรรพากรเคลียร์หนี้ตามสเต็ป

(13 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปอุทาหรณ์ประสบการณ์การเรียกภาษีย้อนหลัง เจ้าของร้านยำชื่อดัง 'ยำยำ บาย ฟร้องซ์' ซึ่งมีผู้ติดตาม ช่องติ๊กต็อก 'frong_1571' กว่า 2.7 ล้านคน ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองโดนภาษีย้อนหลัง 6 ปี จำนวนเงิน 2.5 ล้านบาท

ฟร้องซ์ ได้อัดคลิปอธิบายเรื่องราวที่เกิดว่า ตอนนี้ยอมรับเลยไม่มีเงินที่จะจ่ายและเกิดภาวะเครียด ที่เว้นระยะหายไปจากการลงวิดีโอ ก็เพราะต้องไปจัดการเรื่องภาษี พูดตรง ๆ อาจถึงขั้นล้มละลายได้เลย เรื่องนี้ไม่ได้โทษใครนะ เพราะเราเป็นฝ่ายทำไม่ถูกต้องเอง ถ้าเกิดใครที่มีรายได้สูง ทุกคนจะต้องจ่ายภาษี ตอนนี้ที่โดนอยู่ก็หนักพอสมควร ได้เริ่มทยอยขายของออกไปบ้างเพื่อใช้หนี้ที่มี

แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการส่วนของหนี้ภาษี ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องยอมรับสภาพหนี้ แล้วก็พยายามหาเงินมาจ่ายสรรพากรตามกำหนด ส่วนหนี้อื่น ๆ หนี้โรงงาน ก็ต้องเคลียร์ไปตามสเต็ป ยอมรับว่าเป็นอะไรที่แย่สุด ๆ

ฟร้องซ์ ยังเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ เคยขายของออนไลน์ เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์หนึ่ง รับสินค้ามาในราคา 78 บาท ขายให้ตัวแทนอีกรายในราคา 79 บาท และสินค้าอีกตัวได้รับมา 105 บาท ขายต่อในราคา 110 บาท ซึ่งก็ไม่ได้มีกำไรเยอะ แต่เมื่อปี 65 ฟร้องซ์ได้รวบรวมเงินจากตัวแทนหลายคนส่งให้เจ้าของแบรนด์เป็นก้อน ซึ่งแน่นอนว่าอาจดูว่าบัญชีมีรายได้เยอะ ทางเจ้าหน้าที่สรรพากรมีข้อมูลพวกทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ฟร้องซ์ บอกว่าตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับสรรพากร ได้ข้อสรุปแล้วจากเดิมที่ต้องจ่ายเกือบ 2.5 ล้าน นำเอกสารเข้าอธิบายที่มาของเงิน จึงได้ข้อสรุปว่าจะต้องจ่ายเงินจริงไม่สูงเท่าตอนแรก แบ่งเป็นค่าปรับประมาณ 1 ล้าน และค่า Vat 7% + เงินเพิ่ม + ดอกเบี้ย 1.5% เป็นกรณีที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ซึ่งทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินหน้าสู้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเรื่องดังกล่าว เมื่อโพสต์ถูกแชร์ออกไป สังคมออนไลน์แห่เข้าไปคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ล้นหลาม พร้อมพากันส่งกำลังใจให้มองเรื่องนี้เป็นบทเรียนของชีวิต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top