Sunday, 29 June 2025
NEWS FEED

‘เอกนัฏ’ สั่ง ‘ดีพร้อม’ เร่งเดินหน้าช่วยผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เยียวยาเร่งด่วน-สนับสนุนเงินทุน-แผนรับมือในอนาคต เพื่อช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกมิติ

(22 ก.ย. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยผ่าน 3 มาตรการ ประกอบด้วย 1) มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย 2) มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด และ 3) มาตรการเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้ามาตรการช่วยเยียวยาและฟื้นฟูสถานประกอบการเร่งด่วนผ่านการจัดกิจกรรมทำความสะอาดในสถานประกอบการ (Big Cleaning) พร้อมซ่อมแซม ปรับปรุงอุปกรณ์ และเครื่องจักร รวมถึงผลักดันสถานประกอบการที่ต้องการฟื้นฟูและเยียวยาให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียนฯ กว่า 20 ล้านบาท

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งเกิดจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลต่อที่อยู่อาศัย และการประกอบอาชีพของประชาชนทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังส่งผลต่อผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์ดังกล่าวอีกด้วย ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งติดตามสถานการณ์ เพื่อช่วยเหลือและหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งติดตามความเสียหายที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเตรียมมาตรการต่าง ๆ รองรับสถานการณ์หลังน้ำลด ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูในส่วนที่ได้รับความเสียหาย ตลอดจนแผนในการป้องกันหากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวอีกครั้งทั้งในระยะฉับพลัน 

นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้ขานรับนโยบายเร่งด่วนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้ดำเนินการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น พบว่าผู้ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่มีต้องการความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยาในกรณีต่าง ๆ ผ่าน 3 มาตรการ ได้แก่ 

1. มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย ผ่าน “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” ของอุตสาหกรรมรวมใจ ไปยังผู้ประสบภัยด้วยสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ประกอบด้วย สิ่งของอุปโภค บริโภค และยารักษาโรค พร้อมเตรียมการรถบรรทุกและรถขนส่งสำหรับการบริจาคสิ่งของจากเครือข่ายดีพร้อม ทั้งผู้ประกอบการและสถาบันต่าง ๆ เพื่อส่งมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย พร้อมส่งทีมวิศวกรและนายช่างเทคนิคช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ในเบื้องต้น รวมทั้งทำกิจกรรมทำความสะอาดในสถานประกอบการ (Big Cleaning) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว 

2. มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ผ่านการให้คำปรึกษาปัญหาธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม โดยจัดทีมผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษา เพื่อเข้าประเมินสภาพปัญหาและวางแผน การฟื้นฟูสถานประกอบการ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรมผ่านศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม (DIPROM Business Service Center : DIPROM BSC) เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว การฟื้นฟู และปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค หรือ DIPROM CENTER ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค จัดกิจกรรมช่วยเหลือ แนะนำในการปรับปรุงซ่อมแซม ฟื้นฟูเครื่องจักร ระบบไฟฟ้า ระบบหล่อลื่น รวมทั้งดำเนินกิจกรรม Re-Layout, Re-Engineering เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตให้กลับมาดำเนินการได้ เช่น การให้คำปรึกษา ปรับปรุง ฟื้นฟู เพื่อให้ระบบคุณภาพ GMP/HACCP/GHP กลับมาดำเนินการได้ปกติ พร้อมยกระดับศักยภาพการประกอบอาชีพสู่ธุรกิจอุตสาหกรรม ผ่านส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพด้านการผลิต ด้านการบริการ ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ส่งเสริมให้ชุมชนเกิดรายได้ ลดรายจ่าย สามารถสร้างอาชีพใหม่ หรือนำไปประกอบอาชีพเสริมเพิ่ม ก่อให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน พร้อมทั้งได้บูรณาการผ่านเครือข่ายดีพร้อม (DIPROM Connection) จับมือกับเครือข่ายทางการพัฒนาของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ SMEs เข้าสู่ช่องทางการตลาดทั้งรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ อีกทั้ง ยังมีการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ ได้รับการลดหย่อนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ มีสิทธิกู้เงินเพิ่มเติม และการขอกู้เงินเป็นกรณีพิเศษสำหรับลูกค้ารายใหม่ โดยวางกรอบวงเงินการช่วยเหลือกว่า 20 ล้านบาท

3. มาตรการเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ผ่านการจัดทำแผนรองรับการเกิดอุทกภัย เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยจัดทำ Check list เมื่อเกิดเหตุอุทกภัย การสร้างผนังกั้นน้ำ สอนวิธีการป้องกันอุปกรณ์เครื่องจักร เป็นต้น พร้อมติดตามสถานการณ์จากสถานการณ์น้ำท่วม โดยบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวข้องระหว่างหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อประเมินสถานการณ์ เตือนภัย และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และทันท่วงที เพื่อรับฟังปัญหาผลกระทบแบบ Real Time พร้อมให้การช่วยเหลือเฉพาะหน้าแก่สถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว 

นายภาสกร ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “ดีพร้อม (DIPROM) ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือสถานประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยผ่าน 3 มาตรการดังกล่าว เพื่อให้ความช่วยเหลือนั้นครอบคลุมทุกมิติ และครอบคลุมทั่วประเทศ” นายภาสกร กล่าวทิ้งท้าย

‘เสี่ยตัน’ ประกาศ!! เช่ารถแบ็กโฮ - รถขนดิน เพื่อช่วยชาวเชียงรายสู้ ‘วิกฤตโคลน’ เผย!! มีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก ต้องเปิดช่องทางไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจ ส่งใบเสนอราคา

(22 ก.ย. 67) จากสถานการณ์ ‘น้ำท่วมเชียงราย’ ที่ล่าสุดแม้น้ำจะลดแล้ว แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเรือนของตัวเองได้ เนื่องจากยังมีปัญหาดินโคลนจำนวนมากปกคลุมในบ้าน และถนนหนทาง 

ล่าสุด ‘ตัน ภาสกรนที’ นักธุรกิจชื่อดัง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยประกาศเช่ารถแบ็กโฮ รถหกล้อ รถสิบล้อ เพื่อช่วยเคลื่อนย้ายดินโคลนในเชียงราย โดยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

ด่วน! ประกาศเช่า แม็คโครเล็กพร้อมคนขับ 30 คัน / รถหกล้อขนดิน 90 คัน / รถสิบล้อ 10 คัน ทำงาน 30 วัน พร้อมลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดต่อ คุณอีฟ 062-762-6663

เริ่มทำงานวันที่ 25 กันยานี้ ..พร้อมลุยกันครับ

คุณตัน ยังได้โพสต์เพิ่มเติมอีกด้วยว่า คนไทยสุดยอดมาก มีคนติดต่อมาเยอะมาก ขอเปิดช่องทางไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจส่งใบเสนอราคาครับ

F1 ประกาศเชิญน้อง ‘หมูเด้ง’ ไปชมการแข่งขันในปีหน้า ที่อเมริกา ย้ำ!! มาดูให้ได้นะ พร้อมโชว์บัตรวีไอพี มีรูปของน้องด้วย

(22 ก.ย. 67) การเเข่งขันรถสูตร1 โดยฝ่ายจัดการเเข่งขัน F1 ไมอามี่ กรังด์ ปรีซ์ ส่งคำเชิญอย่างเป็นทางการเชิญ ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปชื่อดังไปชมการเเข่งขันประชันความเร็วปีหน้า 

การเเข่งขันดังกล่าวเเข่งที่ที่เมืองไมอามี่ มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทวิตเตอร์หรือ X ลงรูป ID card ระดับ VIP ด้วย มีรูปหมูเด้งพร้อมพร้อมชื่อ เเละเเคปชั่น ‘หมูเด้ง’ นี่คือคำเชิญอย่างเป็นทางการ มาดูเเข่งปีหน้านะ

ไมอามี่ กรังด์ ปรีซ์ ครั้งล่าสุด จบไปเป็นที่เรียบร้อย เเข่งไปเมื่อวันที่ 3-6 พฤษภาคม ส่วนในปีหน้าก็จะเเข่งช่วงเวลาเดียวกัน ทีนี้ต้องมาดูกันว่าถ้าหมูเด้งไปจริง จะเสียค่าเดินทางเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเจ้าตัวจะมีอายุ 1 ขวบกว่าๆ ตัวใหญ่ขึ้นเเน่นอน

‘เผ่าภูมิ’ ลุยสวนผึ้ง มอบสัญญาเช่าที่ดิน ในโครงการ ‘ธนารักษ์เอื้อราษฎร์’ เน้น!! แก้ปัญหาในด้าน ‘ที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำกิน’ สร้างชีวิตที่สดใสให้ปชช.

(21 ก.ย.67) ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในการมอบสัญญาเช่าที่ดิน ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในโครงการ ‘ธนารักษ์เอื้อราษฎร์’ ว่า

โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ‘สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน’ ของกระทรวงการคลัง จัดให้มีการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ประชาชนในวันนี้ (21 ก.ย. 2567) เป็นการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 (บางส่วน) ต.ป่าหวาย ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี รวม 162 สัญญา เนื้อที่ 1,500 ไร่ 72 ตารางวา เป็นเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 55 สัญญา เนื้อที่ 139 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา เพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 107 สัญญา เนื้อที่ 1,360 ไร่ 3 งาน 39 ตารางวา ในอัตราค่าเช่าต่ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

กระทรวงการคลังมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ช่วยให้ประชาชนมีที่ดินในการประกอบอาชีพ มีรายได้ และมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ ทั้งสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ และยังสามารถมีสิทธิการเช่าที่ดินไปใช้ประกอบการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างชีวิตใหม่ โอกาสใหม่ให้กับประชาชน 

โดยมีค่าเช่าที่ต่ำ เริ่มต้นที่ 20 บาท/ไร่/ปี สำหรับเนื้อที่ไม่เกิน 50ไร่

โดยในปีนี้ กรมธนารักษ์ ได้มอบสัญญาเช่าที่ดิน สร้างชีวิตใหม่ให้ประชาชนแล้วกว่า 2,800 ราย พื้นที่กว่า 9,000 ไร่ และที่ต่อไป ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

‘เอกนัฏ’ นำทัพกระทรวงอุตฯ เร่งฟื้นฟูระบบน้ำประปา ช่วยผู้ประสบภัย จ.เชียงราย พร้อมพักชำระหนี้ ‘SMEs’ ที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้โครงการ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ’

(21 ก.ย.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมข้าราชการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย โดยวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะได้มอบท่อพีวีซี แข็ง ‘ท่อน้ำไทย’ ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลเทอดไท อำเภอแม่ฟ้าหลวง จำนวน 8,360 เส้น นำไปฟื้นฟูระบบประปาภูเขา ผ่านโครงการ 'อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดเชียงราย' พร้อมมอบถุงยังชีพ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย’ บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมบ้านเทอดไท หลังจากนั้น คณะได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแม่หม้อ หมู่ 7 ตำบลเทอดไท เพื่อร่วมกันประกอบท่อประปาหมู่บ้านทดแทนท่อเดิมที่ถูกดินสไลด์ บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นกับประชาชน

รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปพบปะหารือกับผู้ประกอบการจังหวัดเชียงราย โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ได้รายงานว่า มีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 22 ราย ประกอบกิจการผลิตเครื่องเรือน เครื่องตกแต่งภายใน ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ อู่ซ่อมรถยนต์ โรงชำแหละเนื้อสัตว์ ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นขนมจีน สกัดน้ำมันพืช เมล็ดพันธุ์ทางการเกษตร ซึ่งเครื่องจักร เครื่องมือไฟฟ้า วัตถุดิบได้รับความเสียหาย ส่วนการประกอบกิจการดูดทราย รถยนต์ที่ใช้ประกอบกิจการ ตราชั่ง อุปกรณ์สำนักงาน เรือดูดทราย ได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายกว่า 23.6 ล้านบาท โดยทางกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้เข้าไปสำรวจพบว่า มีผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชําระหนี้เงินต้น 3 เดือน จํานวน 8 ราย 

ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ ทีมวิศวกร ช่างชุมชน หรือหน่วยงานตรวจสภาพ เพื่อช่วยเหลือ ซ่อมแซม และให้คําแนะนําเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับประชาชนต่อไป 

“ผมและคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟู เยียวยา ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในวันนี้ขอมาให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และกลับมาดำเนินชีวิตแบบปกติได้โดยเร็ว โดยหวังว่าโครงการ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ’ ของกระทรวงฯ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือ เยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ผ่านการฟื้นฟูระบบประปาภูเขา และพวกเราคนกระทรวงอุตฯ ขอยืนยันว่าจะเดินเคียงข้างพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้” นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้าย

ร้านบุฟเฟ่ต์ ในปัตตานี เสิร์ฟ ‘เนื้อสไลด์’ บางมากจนเห็นถาดรอง ชาวเน็ตวิจารณ์!! บาง เบา เหมือนกระดาษ แถมด้วยบริการที่แย่สุด ๆ

(21 ก.ย.67) มีสมาชิกกลุ่มผู้บริโภครายหนึ่ง ได้โพสต์รูปร้านบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่ง ในจ.ปัตตานี เป็นภาพเนื้อโดนสไลด์บางเกินจนเห็นถาดรอง เรียกได้ว่ากลายเป็นดราม่าที่ชาวเน็ตพากันวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยสมาชิกรายดังกล่าว โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ... 

เนื้อสไลด์ หรือเนื้อกระดาษ เพื่อนมาจากต่างจังหวัด มาเที่ยวปัตตานี จากใจคนตามกินบุฟเฟต์ คือแย่มากกกกก พนักงานบริการแย่สุด ๆ มาครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ต้องยืนเข้าแถวรอเนื้อสไลด์ พนักงานไม่ยอมใส่ในตู้

เนื้อบางมากกลัวเนื้อปลิวมาก เมนูอาหารน้อย อาหารทะเลกุ้งเล็กนิดเดียว แย่สุดๆ พนักงานพูดจาแย่ ไม่น่ามาเป็นพนักงานเลย ส่วนไก่หมักมะนาวแน่เลย เปรี้ยวมากกก เฟลสุด ๆ

‘สาวเที่ยวอัมพวา’ ซื้อ!! ลูกชิ้นทอด จากลุงที่ขายหน้าอำเภอ โอด!! ถุงนี้ร้อย แต่ได้น้อย ไม่อร่อย และเหมือนจะบูด

(21 ก.ย.67) ในโลกออนไลน์มีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวจากสมาชิกกลุ่มผู้บริโภครายหนึ่ง หลังจากที่ไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา แล้วต้องเสียความรู้สึกจากร้านลูกชิ้นร้านหนึ่ง โดยผู้โพสต์ได้โพสต์ภาพถุงลูกชิ้นทอด พร้อมระบุข้อความว่า …

ระวังด้วยนะคะ ที่ตลาดน้ำอัมพวา จอดรถหน้าอำเภอ เดินไประวังลุงคนนึง ร้านอยู่ก่อนถึงทางขึ้นสะพาน ร้านขาย ทอดมัน หอยจ๊อ และลูกชิ้นปลา แพง ได้น้อย และไม่อร่อย หอยจ๊อเหมือนจะเสีย เอาของเก่ามาทอดขายซ้ำ ๆ ขายไม่แจ้งราคา ในถุงนี้ 100.- ค่ะ ได้เท่านี้เลย

โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา

เปิด ‘ถุงพระราชทาน’ ที่ ‘ในหลวง’ ทรงช่วยเหลือชาวเชียงราย ใช้ 2 คนยกกลับบ้าน ‘ข้าวสาร-อาหารแห้ง-น้ำ’ รวม 14 รายการ

(21 ก.ย.67) เพจ ‘แจ้งข่าวเชียงราย By เชียงราย 108’ ได้โพสต์ข้อความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับพระราชทานถุงยังชีพจาก ‘ในหลวง’ โดยมีใจความว่า ...

หลายคนคงเห็นแต่ถุงพระราชทาน แต่ไม่ทราบว่าข้างในมีอะไรบ้าง พอดีบ้านพี่สาวที่เชียงรายได้รับ 1 ถุง

หนักเอาการเจ้า ยก 2 คน

ข้าวสาร 5 กก.
น้ำมันพืช 1 ขวด
ปลา กป. 1 โหล
ผัก กป. 1/2 โหล
มาม่า 1 ลัง 30 ซอง
นมชั่งหัวมัน 2 ขวด

น้ำดื่ม 2 ขวด
ขนมฟันโอ 1 ถุง
ไฟฉาย+ถ่าน 1
ยาทา..กิน 1 ชุด
ผ้าอนามัย 2 ห่อ
ผ้าขนหนูใหญ่ 1
ผ้าถุง 1
ผ้าขาวม้า 1
รวม 14 อย่างเจ้า

..ขอพระองค์ทรงพระเจริญ..

‘กลุ่มพญาไท-เปาโล’ รับมอบประกาศนียบัตร เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มุ่งมั่น!! เดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก สู่เป้าหมายรพ. Net Zero แห่งแรกของไทย

(21 ก.ย.67) กลุ่มพญาไท-เปาโล เข้าร่วมพิธีรับมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของโรงพยาบาล เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายโรงพยาบาล Net Zero แห่งแรกของไทย 

Green Standard และ GRD ภายใต้หน้าที่กำหนดเป้าหมายและแนวทาง พร้อมกับร่วมทำงานขับเคลื่อนอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้องค์ความรู้ทางเทคโนโลยี deeptech และวิศวกรรมขั้นสูง เข้าร่วมเดินทางกับกลุ่มโรงพยาบาล พญาไท-เปาโล เพื่อมุ่งสู่ Net Zero Hospital แห่งแรกของประเทศไทย ตามเป้าหมายที่กำหนด

‘กรมทางหลวงชนบท’ ระดมกำลัง!! เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมติดตั้ง ‘สะพานเบลีย์’ บนสายทางที่ขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ปชช.

(21 ก.ย.67) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดเชียงราย ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง จากลมมรสุมที่พาดผ่าน ส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก จนเกิดน้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะคอสะพาน และสายทางจนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และยังส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนเป็นจำนวนมาก ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) และแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย ลงสำรวจสายทางที่ได้รับผลกระทบ และเร่งฟื้นฟูให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน

นายอภิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง มีเศษโคลนติดค้างเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ และกำลังคน เพื่อเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน จึงได้สั่งการเพิ่มเติมไปยัง สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ใกล้เคียง ให้ระดมเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ และกำลังคน เข้าช่วยเหลือ เพื่อร่วมทำงานกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) แขวงทางหลวงชนบทเชียงราย และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้การฟื้นฟูสายทาง การทำความสะอาด ฉีดล้างดินโคลนบริเวณบ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน อำนวยความปลอดภัยให้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน (วันที่ 21 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น.) พบสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบ สัญจรผ่านไม่ได้ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครพนม อุดรธานี และหนองคาย จำนวน 11 สายทาง ดังนี้

1. สะพานบนถนนสาย ชร.1041 แยก ทล.1 - บ้านสันผักฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
2. สะพาน ชร.016 สะพานแม่น้ำกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
3. สะพาน ชร.007 สะพานพ่อขุนเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
4. ถนนสาย นพ.3065 แยก ทล.212 - บ้านหนองสาหร่าย อำเภอบ้านแพง, ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 3+000 ถึง 3+500)
5. ถนนสาย นพ.4059 แยก ทล.2032 - บ้านไทยสบาย อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 9+850 ถึง 10+350)
6. ถนนสาย นค.3043 แยก ทล.212 - บ้านหนองบัวเงิน อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 10+500 ถึง 10+800)

7. ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบท นค.3009 - บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 7+525 ถึง 8+850 และ 12+825 ถึง 13+400)
8. ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 - บ้านธาตุน้อยกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
9. ถนนสาย นค.7046 แยก ทล.212 - บ้านเหล่าต่างคำ อำเภอเมือง, โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 1+850 ถึง 3+800)
10. ถนนสาย นค.1034 แยก ทล.2 - บ้านโนนสีทอง (ตอนอุดรธานี) อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี (ช่วง กม.ที่ 9+000 ถึง 11+000)
11. สะพาน นค.029 สะพานห้วยเป อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

นายอภิรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับสะพานบนสายทางในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ถนนสาย ชร.1041 แยก ทล.1 - บ้านสันผักฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบหนัก คอสะพานขาด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งสะพานเหล็กสำเร็จรูป (Bailey Bridge) คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานให้กับประชาชนได้ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top