Saturday, 28 June 2025
NEWS FEED

พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ให้สำภาษณ์รายการ 'FOCUS ผู้นำ'

เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.67) เวลา 13.30 -14.10 น. ณ ห้องรับรองชั้น 2 โซนกลางฝั่งริมถนนสามเสน อาคารรัฐสภา

พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้ให้สำภาษณ์พิเศษรายการ 'FOCUS ผู้นำ' สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 โดยมีคุณสาวิตรี  สาโรวาท เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งกำหนดออกอากาศทุกวันจันทร์เวลา 14.30-15.00 น. 

โดยสนทนาในประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับทิศทางและการขับเคลื่อนการทำงานของคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐโดยยึดถือหลักการที่ว่า

1) ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
2) เพื่อศึกษาและพิจารณาแนวทางในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในมิติต่าง ๆ ที่สำคัญ 

โดยเฉพาะงานกิจการทหารเพื่อความมั่นคง งานทหารผ่านศึก การช่วยเหลือประชาชน และการพัฒนาประเทศ งานวิจัยและพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ ยุทธภัณฑ์ รวมถึงเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมความมั่นคง รวมถึงการสร้างขวัญ และกำลังใจของหน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานความมั่นคงและการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม กลไกและกระบวนการบริหารจัดการ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ภัยคุกคามในปัจจุบันแลเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ ถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการทำงานในห้วง 5 ปี (2567-2572) ของคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภาต่อไป

‘พล.ต.ท.กรไชยฯ’ ร่วมปล่อยแถวการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตรวจสอบ ปรับปรุงระบบไฟฟ้าในครัวเรือน

(2 ต.ค. 67) เวลา 06.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะคณะกรรมการไฟฟ้านครหลวงและประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์การไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง , นายเสนอ วิสุทธนะ ประธานสหภาพแรงงาน การไฟฟ้านครหลวง และผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยคาราวาน “MEA ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย” ณ บริเวณสถานีชาร์จรถไฟฟ้า EV การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยมีพนักงานการไฟฟ้านครหลวงอาสา จำนวน 100 คน พร้อมด้วยรถตู้จำนวน 10 คัน , รถกระบะจำนวน 3 คัน , รถบรรทุกหกล้อ จำนวน 2 คัน ลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรับปรุงระบบไฟฟ้า และเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในครัวเรือน ตลอดจนมอบเงินบริจาค อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ให้แก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานในการช่วยเหลือประชาชนเพื่อความปลอดภัย พื้นที่ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ใน 6 หมู่บ้าน จำนวน 65 หลังคาเรือน ที่ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 2 - 8 ตุลาคม 2567

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า การที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เกิดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่สูญเสีย ในการดำรงชีวิตปกติ ทรัพย์สิน และกำลังเผชิญกับความยากลำบากจากภัยพิบัติทางธรรมชาติอันร้ายแรง ตนขอชื่นชมในความเสียสละและความมุ่งมั่นของพนักงานการไฟฟ้านครหลวงทุกคน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคสิ่งของ เงินทุน หรือการอาสาสมัครลงพื้นที่ช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจิตอาสาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ชมรมวิศวกรการไฟฟ้านครหลวง และหน่วยงานต่างๆ ในการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจจราจร นำขบวนจากการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และกองบังคับการตำรวจทางหลวง รับช่วงต่อบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นำขบวนไปยังที่หมาย เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนมิจฉาชีพฉวยโอกาสตบทรัพย์ผู้เกษียณ หลอกโอนเงินและข้อมูลส่วนตัว

(2 ต.ค. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เป็นวันเกษียณอายุราชการของข้าราชการหลายท่าน ซึ่งอาจต้องติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของสิทธิประโยช์ต่าง ๆ ของผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งในเรื่องเงินสวัสดิการ เงินบำเหน็จบำนาญ เงินภาษี ฯลฯ ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสนี้ในการหลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกษียณอายุราชการและบุคคลในครอบครัว เพิ่มความระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับเงินสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่าง ๆ เช่น กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร หรือหน่วยงานต้นสังกัดที่รับผิดชอบเงินสวัสดิการของผู้เกษียณอายุราชการ ติดต่อมาเพื่อหลอกลวงให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัญชีธนาคาร และเอกสารสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการหลอกให้กดลิงก์ หรือหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อเป็นหลักประกันในการรับเงินบำเหน็จบำนาญและเงินตอบแทนต่าง ๆ

โดยหากได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว ขอให้ท่านโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับหน่วยงานต้นสังกัดโดยตรง และขอให้บุตรหลานของผู้เกษียณอายุราชการ คอยให้คำแนะนำและสอดส่องดูแลผู้เกษียณอายุราชการ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และหากเป็นคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ สายด่วน 1441 หรือเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประธานศาลปกครองสูงสุด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลปกครอง ในโอกาสรับตำแหน่งใหม่

(2 ต.ค. 67) ตามที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้ง นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป นั้น  

โอกาสนี้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้สักการะพระพุทธมหากรุณาประชานาถ ศาลพระภูมิ และถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลปกครอง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดอย่างเป็นทางการ โดยมี นายสุชาติ มงคลเลิศลพ รองประธานศาลปกครองสูงสุด และนายพรชัย มนัสศิริเพ็ญ รองประธานศาลปกครองสูงสุด พร้อมด้วย นายจำนงค์ ถาวรวิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง และผู้บริหารสำนักงานศาลปกครอง ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่ง ณ อาคารศาลปกครอง

นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 6 มีประวัติการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน ดังนี้ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิต จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และได้รับประกาศนียบัตรการอบรมหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุ่นที่ 2 จากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ดังนี้

- 1 ตุลาคม 2540 - 7 มกราคม 2544 อัยการจังหวัดประจำกรม ชั้น 4 สำนักงานอัยการสูงสุด
- 2 กุมภาพันธ์ 2544 - 30 กันยายน 2545 ตุลาการศาลปกครองกลาง
- 1 ตุลาคม 2545 - 30 กันยายน 2551 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง
- 1 ตุลาคม 2551 - 14 กันยายน 2552 รองอธิบดีศาลปกครองระยอง
- 15 กันยายน 2552 - 20 เมษายน 2559 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- 21 เมษายน 2559 - 19 กุมภาพันธ์ 2560 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด
- 20 กุมภาพันธ์ 2560 - 30 กันยายน 2563 ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด
- 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2567 รองประธานศาลปกครองสูงสุด

ครูต้นคูณ ชี้ทัศนศึกษาสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็ก ย้ำต้องไม่ประนีประนอมในเรื่องความปลอดภัย

(1 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ หรือ ครูต้นคูณ ติวเตอร์และวิทยากรพิเศษวิชาภาษาไทยและสังคมศึกษาฯ ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวให้ความเห็นเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักเรียนที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษาว่า  

"ทัศนศึกษา" สำคัญและสมควรต่อการจัดการการเรียนรู้ของเด็ก แต่เราต้องไม่ประนีประนอมกับเรื่องความปลอดภัย ต้องไม่มักง่าย ต้องไม่ชุ่ยหรือละเลยอะไรแม้เพียงเล็กน้อย

การเดินทางไปทัศนศึกษาไม่ได้เสี่ยงมากไปกว่าการเดินทางไป-กลับโรงเรียนตามปกติ คนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แบบไม่สวมหมวก หรือนักเรียนวัยคะนองที่โหนท้ายสองแถวยังเสี่ยงตายมากกว่าการนั่งรถบัสด้วยซ้ำ

ความมักง่าย การไม่บำรุงรักษา การไม่ลงทุนกับเรื่องที่ควรลงทุนนั่นแหละที่ต้นเหตุ และข้อสำคัญคือทัศนศึกษาควรทำให้สมกับวุฒิภาวะและวัย ความรู้มีทุกแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมีให้ศึกษาได้ทุกที่เด็กที่เล็กเกินไปก็ไม่จำเป็นต้องหอบหิ้วกันข้ามจังหวัดเพื่อไปทัศนศึกษาเพราะหลายครั้งเด็ก ๆ ไม่รู้จักท้องถิ่นของตัวเองเลย แล้วท้องถิ่นจะไปเติบโตได้อย่างไร

"อย่าชุ่ย"
สำคัญกว่าสิ่งอื่น

‘หมอเดว’ ชี้!! เด็กเล็กไม่อยู่ในสถานะช่วยตนเองได้ ย้ำชัด!! โลกของเด็กคือบ้าน – ชุมชน ไม่ต้องพาไปไกล

(1 ต.ค.67) รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ส่งผลให้มีเด็กบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก ว่า เศร้าสะเทือนใจกับข่าวสูญเสีย !!!!!

พร้อมระบุว่า เด็กเล็ก ๆ บนรถบัส ฝากสู่คุณครูทั่วประเทศ !! การพัฒนาเด็กเล็กระดับอนุบาล ซึ่งเป็นวัยจินตนาการ และ ยังไม่อยู่ในสถานะช่วยตนเองได้ดี ไม่มีความจำเป็นต้องพาไปไหนไกลๆ ยิ่งถ้าเป็นรถใหญ่มาก จะยิ่ง ยากแก่การควบคุมชีวิตและความปลอดภัย 

เด็กเล็ก ๆ ยังไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและป้องกันความปลอดภัยได้ด้วยตนเอง เมื่อเกิดเหตุ

สำหรับเด็กวัยอนุบาล โลกของเด็ก ๆ คือ บ้านของเขา ชุมชนที่เขาอาศัย โรงเรียนที่เขาไป พร้อมๆกับการสร้างความปลอดภัย ก็สำคัญมาก ๆ แล้ว

อีกทั้ง ยังย้ำด้วยว่า การนำพาไปพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนยิ่งต้องทราบเลยว่า ต่อให้ไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ มีความเสี่ยงสูงหลายอย่างมาก ทั้งการเดินทาง พื้นที่ที่ไป ผู้คนแปลกหน้าที่อาจเข้าถึงได้ง่าย สูญหายได้ง่าย ล้วนต้องคำนึงถึงทั้งสิ้น แม้แต่อาหารเครื่องดื่ม ระหว่างทาง เส้นทางระหว่างที่อยู่ในสถานที่ 

ซึ่งการเรียนรู้ของเด็กเล็ก ก็มีข้อจำกัดและสมาธิสั้นอยู่แล้ว จึงลำบากมากในการควบคุมทุกอย่าง

กรณีเด็กโต ที่มีความจำเป็นจริง ต้องอยู่บนการวิเคราะห์และเตรียมตัวที่ดีแล้ว ควรต้อง มีรถนำขบวน ติดป้ายรถขนส่งนักเรียนที่มีคุณภาพชั่วคราว บนการตรวจสภาพรถที่ดีเพียงพอ มีผู้ปกครองจิตอาสาที่ติดปลอกแขน ได้รับการซักซ้อมกระบวนการกันดีแล้ว ระมัดระวังทั้งต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทาง ซักซ้อมป้องกัน และ หากมีเหตุจนมั่นใจทุกประการ

‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’ โชว์วิสัยทัศน์กลางที่ประชุมสหประชาชาติ ไทยพร้อมเดินหน้าสู่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

(1 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 79 (UNGA79) ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก

นายมาริษได้ย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการดำเนินนโยบายรัฐบาลแบบมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยยึดแนวนโยบายเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของการปฏิรูปสหประชาชาติเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในโลกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างเสริมความเข้มแข็งของกระบวนการเพื่อสันติภาพและความมั่นคง ให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในภูมิภาคทั่วโลก 

ทั้งยังยกตัวอย่างสถานการณ์ในเมียนมาที่ไทยให้ความสำคัญในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ถึงการส่งเสริมให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพในเมียนมาที่ควรเกิดขึ้นจากภายในเมียนมาเอง ขณะที่ไทยพร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้นายมาริษยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยไทยพร้อมสร้างสะพานเชื่อมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างโลกเหนือกับโลกใต้ ผ่านความหวังที่จะเข้าเป็นสมาชิก OECD และ BRICS ซึ่งสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในโลก อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วนและทุกประเทศทั่วโลก เพื่อลดผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงมนุษย์ 

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีฯ ได้ย้ำความมุ่งมั่นของไทยที่จะปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน ผ่านการผลักดันความยุติธรรมและความเท่าเทียมในสังคม โดยกล่าวถึงการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) วาระปี ค.ศ. 2025-2027 ของไทย

นายมาริษเน้นถึงการสร้างอนาคตร่วมกันของโลก โดยให้ทุกคนจะได้รับการปกป้องและมีความเจริญรุ่งเรือง ผ่านความมุ่งมั่นทางการเมืองเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ของโลกไปด้วยกัน ก่อนจะแสดงความพร้อมของไทยในการเป็นสะพานเชื่อม ส่งเสริมการเจรจาและความเชื่อใจระหว่างประเทศ

‘ภูเก็ต’ สุดเจ๋ง!! คว้า 2 รางวัลใหญ่ เมืองเทศกาลโลก เชื่อ!! ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนไทย

(1 ต.ค. 67) นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ เปิดเผยผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า “Phuket ได้มา 2 รางวัลที่ใหญ่สุดครับ คือ จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ได้รับการประกาศให้เป็น #เมืองเทศกาลโลก (World Festival and Event City)” ประจำปี 2024 และงาน #ประเพณีถือศีลกินผัก ได้ Grand Pinnacle Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (IFEA) ครับ เดี๋ยวรายละเอียดจะมาเล่าให้ฟังครับ”

การได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของภูเก็ตในการจัดงานระดับนานาชาติที่มีมาตรฐานระดับโลก โดย IFEA พิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น การมีงานเทศกาลที่โดดเด่น การทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ และความสามารถในการสร้างเศรษฐกิจจากการจัดงานเทศกาล

นอกจากภูเก็ตแล้ว ยังมีเมืองอื่นๆ ที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย ได้แก่ กวางจู เกาหลี, แม็คอัลเลน รัฐเท็กซัส, มิลวอกี รัฐวิสคอนซิน, และ ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย, พิทต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา

โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ณ เมือง Pittsburgh สหรัฐอเมริกา โดย นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ เป็นผู้รับมอบรางวัล ของจังหวัดภูเก็ตประเทศไทย

รางวัลนี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของชาวภูเก็ต แต่ยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ โดยแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การได้รับรางวัล “เมืองเทศกาลโลก” เป็นก้าวสำคัญของภูเก็ตและประเทศไทย ที่จะนำไปสู่การพัฒนาการจัดงานเทศกาลต่างๆ ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี

(1 ต.ค. 67) จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต จำนวนหลายราย ทางสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้

“คนไทย และชาวโลกชื่นชม และหวังหน่วยเราสูงมาก ถึงผมจะเกษียณ จิตวิญญาณผมอยู่ที่นี่ไม่มีทิ้งไป… ”

พล.ร.อ.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ
“ฮีโร่ 13 หมูป่า” กล่าวในวัน “อำลาหน่วยซีล”
วันที่ 30 ก.ย.67 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top