Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

‘ผบ.ทร.’ มอบนโยบายกำลังพลกองทัพเรือ เน้นหนัก ‘พิทักษ์สถาบันฯ - ป้องกันประเทศ’

(10 ต.ค.67) 'ผบ.ทร.' มอบนโยบาย 5 ข้อกำลังพล เน้นย้ำพิทักษ์สถาบันฯ - ป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ทางทะเล ระลึกถึง 'อำนาจ หน้าที่ ความรับผิดชอบ'

พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่กำลังพลกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ เข้ารับฟัง และมีการถ่ายทอดสัญญาณ ไปยังหน่วยต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บังคับหน่วยตั้งแต่ นายทหารชั้นนายพลเรือ หน่วยกำลัง ผู้บังคับการเรือ ผู้บังคับกองพัน ผู้อำนวยการกอง รวมถึงผู้ช่วยทูตทหารเรือไทยในต่างประเทศ ได้รับฟังการแถลงนโยบายในครั้งนี้

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า นโยบายการดำเนินงานในปีนี้ ยังคงเป็นไปตามที่ระบุไว้ในยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ที่ครอบคลุมภารกิจของกองทัพเรือ 5 ด้าน ได้แก่ การพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ การเตรียมกำลังและป้องกันราชอาณาจักร การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ และภารกิจด้านการสนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งยังได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกนาย พึงระลึกต่อ “อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ” ของแต่ละนายที่พึงมี และรักษาอย่างเคร่งครัด

ในด้านของการพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งในปีนี้ กองทัพเรือได้มีโอกาสถวายงาน คือ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การสวนสนามและสาบานตนของทหารรักษาพระองค์ 

การให้ความสำคัญในการดำเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อสืบสานในพระราชปณิธานภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาพระราชทานไว้ให้เกิดเป็นรูปธรรม 

รวมถึงการดำเนินโครงการจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ให้กับส่วนรวมและประชาชนในพื้นที่บริเวณที่ตั้งหน่วยและพื้นที่รับผิดชอบ ตลอดจนสนองโครงการในพระราชดำริ อย่างเต็มกำลังความสามารถ

ในด้านการเตรียมกำลังป้องกันราชอาณาจักร รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ อาทิ การเตรียมความพร้อมของกองทัพเรือด้านการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย การขจัดคราบมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ รวมถึงหลักปฏิบัติการร่วมและบริภัณฑ์ รวมทั้งการผลิตผู้เชี่ยวชาญระหว่างกองทัพเรือและศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ได้ตามมาตรฐานสากล

ในด้านการสนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน การสนับสนุนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) การส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ แนวทางการนำนโยบาย offset policy มาใช้ รวมถึงการทบทวนแผนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติเป็นประจำ โดยมุ่งเน้นการเตรียมการล่วงหน้าทางด้านกำลังพลยุทโธปกรณ์ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติและงบประมาณให้พร้อมแบบ package เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว(soft power)ในพื้นที่ของกองทัพเรือ ให้มีความสะอาดเรียบร้อยสวยงามตามมาตรฐานที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนดเพื่อรองรับนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาล

ด้านบริหารจัดการ ให้ศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมไทยคมของกระทรวงกลาโหม และ UAV เพื่อให้การติดต่อสื่อสารกับกำลังทางเรือในทะเลระยะไกลและการติดต่อระหว่างกำลังพลของเหล่าทัพผ่านระบบสัญญาณดาวเทียม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ network centric warfare ในโครงการจัดตั้งสถานีตรวจการทางทะเล

ในส่วนของการดูแลทหารกองประจำการ นักเรียนทหาร ให้มีสิทธิเท่าเทียม ห้ามไม่ให้มีการลงโทษเกินกว่าเหตุ โดยผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ กำกับดูแลครูฝึกและเน้นย้ำให้เข้าใจถึงหน้าที่และบทบาท ความรับผิดชอบของตนเอง อีกทั้งให้สอดส่องดูแลกำลังพลในทุกระดับไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมเร่งดำเนินการและหามาตรการในการป้องกันปราบปรามอย่างเด็ดขาด

การดูแลสวัสดิการให้แก่กำลังพล ตั้งแต่สิทธิสวัสดิการของกองประจำการ โดยเน้นการเบิกเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ตลอดจนการจัดเลี้ยงให้ถูกสุขลักษณะ การดูแลสุขภาพกำลังพลในทุกระดับโดยปรับรูปแบบเป็นการตรวจสุขภาพเชิงรุก การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ การส่งเสริมให้กำลังพลมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง สานต่อโครงการอบรมดนตรี กีฬา ภาษา ให้แก่บุตรหลานราชการ และซ่อมแซมปรับปรุงที่พักอาศัยส่วนกลาง

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายหลักกองทัพเรือ 9 ด้าน ซึ่งกรมในฝ่ายอำนวยการและหน่วย รับผิดชอบหลักได้จัดทำขึ้น โดยมีการดำเนินการที่สำคัญจากยุทธศาสตร์กองทัพเรือ แผนแม่บทพัฒนากองทัพเรือ นโยบายกองทัพเรือ ระยะ 5 ปี ซึ่งจะมีรายละเอียดในเอกสารนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่จะแจกจ่ายให้หน่วยต่าง ๆ ต่อไป

ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานในปีนี้ ไว้ว่า “เทิดทูนสถาบัน ป้องกันรัฐ พัฒนาชาติ ราษฎร์ศรัทธา: Monarchy Country Government People” รวมทั้งกำหนดให้ปีนี้ เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ หรือ “NAVY-SAFETY 2025” ในทุก ๆ ด้าน

“สาขาวิชาทางด้าน สังคมศาสตร์ หรือ ศิลปศาสตร์ จบออกมาแล้ว หางานได้ยาก ควรมีการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และทักษะด้านอื่น ๆ”

นายศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันมีบัณฑิตจบใหม่ แต่ไม่สามารถหางานทำได้จำนวนมาก สาเหตุหลักมาจากความต้องการของตลาดแรงงานมีความเปลี่ยนแปลง อว.เห็นถึงปัญหาดังกล่าว และวางแนวทางแก้ไข โดยปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง หรือ Experiential Learning เช่น การส่งไปฝึกงานกับภาคเอกชนในช่วงปิดภาคเรียนเป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งหลักสูตรแบบนี้จะทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ รวมถึงยังได้รับจรณทักษะ หรือ ซอฟต์สกิล ในเรื่องของการพูดคุยสื่อสารในที่ทำงาน ความเป็นผู้นำ การคิดวิเคราะห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่อาจหาได้จากการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว

“ตอนนี้อว.การพูดคุยกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆให้มีการปรับหลักสูตรสู่แนวทาง Experiential Learning ยิ่งขึ้น รวมถึง ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมหรือผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ใช้บัณฑิตโดยตรง ออกแบบหลักสูตรใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสาขาวิชาชีพ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ และสาขาด้านวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ”นาย ศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการพัฒนาทักษะของบัณฑิตให้มีความหลากหลายโดยเฉพาะทักษะทางด้านดิจิทัลที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบัน เช่น การเขียนโค้ด การคิดวิเคราะห์ การใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ เป็นต้น ซึ่งทางอว. ได้ผลักดันให้บรรจุทักษะเหล่านี้เข้าไปในวิชาศึกษาทักษะทั่วไป ให้นักศึกษาได้เลือกเรียนมากยิ่งขึ้น โดยสามารถไปนำวิชาที่ภาคเอกชนมีการเปิดสอนอยู่แล้ว เช่น คอร์สเรียนของ Google คอร์สเรียนของ Microsoft เป็นต้น มาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องเรียนกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ขณะที่สาขาวิชาที่มีนักศึกษาสนใจเรียนมาก เกินความต้องการของตลาด อย่างเช่น สาขาวิชาทางด้าน สังคมศาสตร์ หรือ ศิลปศาสตร์ ที่จบออกมาแล้ว หางานได้ยาก ควรมีการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และทักษะด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นให้กับนักศึกษากลุ่มนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการทำงานและปรับทักษะที่ได้รับให้เข้ากับสายงานอื่นๆได้ โดยหลักการอย่างหนึ่งที่ อว.พยายามทำคือ การพัฒนาทักษะเพิ่มเติมให้ผู้เรียน เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังพยายามผลักดันให้มีการเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กับตลาดแรงงานและการพัฒนาของประเทศ เช่น หลักสูตรวิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หลักสูตรความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity เป็นต้น

สตูล ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำร่วมกับตำรวจน้ำสตูล จับกุมหนุ่มเสพยาหนีหมายศาล

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.รรท.ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.กมลศักดิ์ วันประดุง ผกก.๙ บก.รน.,พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช รอง ผกก.๙ บก.รน.,พ.ต.ท.ศุภศิษฏ์ อึ้งสุวรรณพานิช รอง ผกก.๙ บก.รน.,พ.ต.ท.ศุภกิจตา สนุ่นดี สว.ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. สั่งการให้ จนท.ตร.ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. และข้าราชการตำรวจในสังกัดท้ายบันทึกจับกุม

ได้ร่วมจับกุม นายยูโสบ (หรือ โสบ) อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.7 ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูลโดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย' ตามหมายจับของศาลจังหวัดสตูล จ.319/2567 ลงวันที่ 10 กันยายน 2567 สถานที่จับกุม บ้านไม่มีเลขที่ ม.4 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล

พฤติการณ์ ในวันที่ 12 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ. เขาขาว ได้ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 48 หมู่ 7 ตำบลเขาขาวอำเภอละงูจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นบ้านของนายยูโสบ ฯ  พบว่า นายยูโสบ ฯ กำลังเสพ ยาเสพติดประเภท1(เมทแอมเฟตามีน) จึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ. เขาขาวและ ได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมนแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยได้รับอนุญาตและเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1(เมนแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” ดำเนินการส่งศาลตามกฎหมาย เป็นเหตุให้นายยูโสบฯ ถูกจับกุม แต่ทว่าภายหลังจากการส่งตัวไปบำบัด นายยูโสบ ฯ ไม่มารายงานตัว ตามกำหนดนัดหมายของศาล จึงดำเนินการออกหมายจับในเวลาต่อมา

จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสตูล จ.319/2567 ลงวันที่ 10 กันยายน 2567 พบว่า นายยูโสบ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้พักอาศัยใน บ้านไม่มีเลขที่ ม.4 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ดำเนินการสอบถามพลเมืองดีในพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียง และได้ข้อมูลว่า นายยูโสบ ฯ ย้ายมาพักอยู่ที่นี่จริง จึงได้มาเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณบ้านพัก ฯ (สถานที่จับกุม) ดังกล่าว จนกระทั่ง ได้พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ถูกจับกำลังเดินออกมาจากบริเวณบ้านพัก ฯ (สถานที่จับกุม) จึงได้แสดงตนเป็นตำรวจพร้อมบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ และได้เรียกชื่อผู้ถูกจับ พร้อมแสดงหมายจับให้ผู้ถูกจับดู และผู้ถูกจับตรวจดูแล้วว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายนี้มาก่อน จึงแจ้งให้ทราบว่าจะต้องถูกจับกุมในข้อหาดังกล่าวข้างต้นพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ

กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา เตรียมลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงกรณี 'พลทหาร ศิริวัฒน์ ใจดี' เสียชีวิตระหว่างการฝึก เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อวานนี้ (9 ต.ค.67) เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (สส.) คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดย นางสาววิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ แถลงข่าวเรื่อง กรณีเหตุการณ์เสียชีวิตระหว่างการฝึกของพลทหารประจำการในเหล่าทัพว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้ปรึกษาหารือเร่งด่วนกรณีพลทหาร ศิริวัฒน์ ใจดี ซึ่งอยู่ระหว่างการฝึกเสียชีวิต โดยมีความเห็นเดียวกันควรเร่งดำเนินการสร้างความชัดเจนและเยียวยาบรรเทาอย่างเหมาะสม รวมถึงต้องมีการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบกำลังพลทางทหารให้สอดคล้องกับภารกิจความมั่นคงในปัจจุบัน ซึ่ง พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้มีความห่วงใยและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการฝึกเหล่าทัพ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจำเป็นต้องเร่งดูแลและสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน

ดังนั้น ประธานคณะกรรมาธิการฯ จึงได้มอบหมายให้นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อให้กำลังใจและเยี่ยมเยียนครอบครัวพลทหารที่เสียชีวิต พร้อมรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้นรายงานต่อคณะกรรมาธิการเพื่อจะได้ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรม อีกทั้ง มอบหมายให้ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม และนาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลเบื้องต้นจากหน่วยงานต่าง ๆ ณ กรมสารวัตรทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรับทราบข้อมูลที่สำคัญก่อนนำเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการกิจการทหาร ทหารผ่านศึก และสรรพกำลังความมั่นคงเพื่อการช่วยเหลือประชาชนและการพัฒนาประเทศให้ไปพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบกำลังพลทางทหารให้สอดคล้องกับภัยคุกคามเป็นกองทัพที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพต่อภารกิจความมั่นคงในปัจจุบันและในอนาคต

‘คลองแมพ’ แอพดี ๆ จากสำนักระบายน้ำ เช็กปริมาณน้ำในคลองใกล้บ้านแบบเรียลไทม์

(9 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘สำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร’ ได้พัฒนาระบบ ‘แผนผังบริหารจัดการน้ำ กรุงเทพมหานคร’ ภายใต้ชื่อ KlongMap หรือ คลองแมพ โดยระบบดังกล่าวสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการน้ำ โดยข้อมูลจะแสดงเป็นแถบสี ถ้าสีเขียวคือปกติ สีเหลืองคือระดับเฝ้าระวัง และสีแดงคือระดับวิกฤต

ทั้งนี้ข้อมูลที่นำมาประมวลผลจะนำมาจากอัตราการไหลของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา, ระดับน้ำในคลอง แม่น้ำ ที่ประตูกั้นน้ำ, ค่าระดับความเค็มของน้ำ และคาดการณ์เวลาและระดับของน้ำขึ้น-น้ำลงสูงสุดในแต่ละวัน

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปตรวจระดับน้ำใกล้บ้านท่านได้ที่ http://weather.bangkok.go.th/KlongMap?fbclid=IwY2xjawFzM8FleHRuA2FlbQIxMAABHQeQxtZrPROuRLviN8aeNYZ_6rWpg2DMskrjeeGxnuKn60NAVeBEt7yksg_aem_FeR2xYlmAozwiAl4VdV8JA

นอกจากนี้สำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานครยังมีอีกหลายระบบ เช่น เรดาห์ตรวจอากาศ และระบบตรวจวัดน้ำบนถนน

เปิดใจครั้งแรก บอสพอล The iCon หลังกระแสดราม่าถาโถมหนัก

(9 ต.ค. 67) นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

สวัสดีทุกท่านครับ
ผมขอเรียนชี้แจง
ผ่านทางช่องทางนี้นะครับ

ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจ
ขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทน
ภายใต้ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป
มาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว

ผมเชื่อมั่นว่า…
ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส
มาโดยตลอด

แต่จากเหตุการณ์
ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้
ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา
และรู้สึกเสียใจอย่างมาก
ที่เกิดเหตุว่า…
มีผู้เสียหายเกิดขึ้น
เนื่องจากการทำธุรกิจ
กับบริษัทของผม

ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล
ปรากฏมีหลายเคส
ตามที่เกิดดราม่า
ที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท
กลับไม่ได้เป็น ตัวแทนจำหน่ายของผม
แบบที่เค้ากล่าวอ้างเลย
และมีอีกหลายเคส
ที่ ขายของ กับบริษัทผม
แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก
แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอ
ในโลกโซเชียลเช่นเดียวกัน

ผมยอมรับตรงๆว่าผม
งง และ สับสนมากครับ
พยามตั้งสติ 
พยามติดตาม ดูข้อมูล
ว่าอันไหนเป็นข้อมูลจริง 
อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง 
ใส่ความ ปลุกปั่น
บ้างก็ด่าเอามัน เอาสะใจ 
โดยมีข้อมูลถึงขั้นที่ว่า
ทำธุรกิจกับบริษัทของผม
แล้วฆ่าตัวตาย
อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุด
ที่ผมเองไม่เคย ได้รู้มาก่อนเลยครับ

และยังคงสงสัยอยู่ว่า
ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้
แล้วทำไม ?
ถึงไม่มีใครในองค์กร
รู้มาก่อนบ้างเลย

อย่างไรก็ตาม
ถ้าเป็นเรื่องจริง
ผมคงรู้สึกเสียใจมาก
และอยากที่จะ ช่วยเหลือ เยียวยา
ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อย่างเต็มที่ครับ
ขอเพียง ท่านติดต่อกลับมา ที่บริษัท
แต่ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า
ผมไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อนจริงๆ

ส่วนที่ถามว่าทำไม
ผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร
ผมขอตอบตรงๆว่า
เมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว
ผมคิดว่า…
ไม่ว่าจะตอบ อะไร ออกมา
ในช่วงที่กระแสสังคม
เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยว
จากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้
ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์
ที่หนักอยู่แล้ว หนักยิ่งขึ้น

ผมจึงใช้เวลาทั้งหมดในการเตรียม
ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง 
รวมทั้งหลักฐานต่างๆ
ที่จะชี้แจงให้ทราบ
ผ่านกระบวนการยุติธรรม ทางกฎหมาย
ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ
เพราะผมเชื่อว่า…
เราต่างเป็นสุจริตชน
ที่อยู่ภายใต้ “กฎหมาย”
ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” 
หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน
ผมพร้อมจะเข้าไป แสดงตัว 
”มอบตัวกับตำรวจ“
ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ
ผมรอพิสูจน์ความจริง อยู่ตรงนี้
ไม่หนีไปไหน แน่นอนครับ!!!
และพร้อม นำข้อเท็จจริง
และหลักฐานทั้งหมด
เข้าชี้แจงผ่าน “กระบวนการยุติธรรม”
ทุกท่านอดใจรอหน่อยนะครับ 
เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยออกมา
ให้ทุกท่านทราบ…
ถ้าผมทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหา
ผมย่อมจะต้องได้รับโทษทางกฎหมาย
อย่างถึงที่สุด แน่นอนครับ
เมื่อถึงวันนั้นค่อยด่าทอ 
ประณาม เหยียบย่ำ
ผมได้เลยครับ 
เชื่อว่า… ไม่ช้าเกินไป
แต่วันนี้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ครับ
และผมเชื่อ ในความบริสุทธิ์ ของผม
ผมส่องกระจกดูตัวเองแล้ว
ผมยังสามารถ สบตาตัวเองได้
“อย่างเต็มตา”
ในขณะเดียวกัน
ผมก็สลดใจ ที่ตัวเอง และ องค์กร
ต้องมาถูกเหยียบย่ำ ทำลาย ต่างๆ นาๆ
ในขณะที่ยังไม่ได้มีการตัดสิน
จากกระบวนการยุติธรรม
ที่พวกเรา เชื่อมั่น เชื่อถือ
ผมอยาก ขอร้อง วิงวอนให้ทุกท่าน 
โปรดให้โอกาสผมและองค์กร
ได้พิสูจน์ตัวเอง
ผ่านกระบวนการยุติธรรม
ก่อนที่จะด่วนตัดสินกัน นะครับ
ขอบคุณครับ

ดราม่าปางช้างไม่ยอมจบ!! ป้าแสงเดือนฟาด ทิ้งช้างให้ดูแล ‘หนูนา กัญจนา’สวมใจสิงห์ สวนกลับจะเร่งไปรับหาที่อื่นดูแล

(9 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับการเลี้ยงช้างที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ดูท่าจะไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อ นางแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

“มีช้างตัวผู้สองเชือก ชื่อพลายขุนเดชและพลายดอกแก้วที่คุณหนูนาเอามาฝากทางเราเลี้ยงไว้หลายปีถ้าคุณหนูนาสงสารและเป็นห่วงเขาจริงๆขอช่วยมาย้ายพวกเขาไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยด่วนค่ะ”

ก่อนที่ในเวลาต่อมานางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า 

“ว่าด้วยช้าง 2 เชือกที่เกี่ยวพันกับดิฉัน..ที่อยู่ที่ปางคุณเล็ก..
เชือกแรก..ขุนเดช.. น้องเป็นช้างป่า..ที่ถูกบ่วงแร้วนายพรานรัดข้อจนเป็นแผลใหญ่บวม… ทำให้เดินไม่ปกติ..
ดิฉันไปเจอน้องเมื่อปี 2557 ที่ส่วนสัตว์ป่า ม. เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน .. น้องถูกเลี้ยงอยู่เชือกเดียวน่าสงสารมาก…

ช่วงนั้นเป็นปีแรกที่ดิฉันได้รู้จักคุณเล็ก และชื่นชมคุณเล็กมาก ..
ดิฉันวิ่งเต้นทำเรื่องขออธิบดีอุทยานพาขุนเดชไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก .. จนสำเร็จ..
ตอนที่แรกเจอขุนเดช อายุประมาณ 4 ขวบตอนนี้น้องก็คง 14 แล้ว …

เชือกที่ 2 .. ดอกแก้ว..
ดิฉันเจอดอกแก้วที่โรงพยาบาลช้างคชบาล ลำปาง ..
น้องมากับแม่ แม่น้องป่วยหนักคือเหมือนมดลูกหลุดจากช่องคลอดมาครึ่งหนึ่ง ถ้าดิฉันจำไม่ผิด…

ดอกแก้วตอนนั้นอายุสองเดือนคลอเคลียอยู่กับแม่ตลอด..
ดิฉันพูดกับแม่โม่ดิพอ แม่ของดอกแก้วว่าอยู่กับลูกนะอย่าทิ้งลูกไป…
พอดีฉันกลับจากลำปางได้สามวันหมอก็โทรมาแจ้งว่าแม่ล้มแล้ว..
ดิฉันสงสารดอกแก้วมากกลัวเจ้าของจะเอาไปขายที่ไม่เหมาะสมจึงขอซื้อมาตอนนั้นราคา 850,000 (ถ้าตอนนี้คงเป็นล้าน)..

ช่วงปีแรกทางคชบาลเลี้ยงน้อง.. หาแม่รับคือแม่สิงขรให้..
แต่ภายหลังมีข่าวว่าแม่สิงขรอาจจะท้องและคงไม่เหมาะจะเลี้ยงลูกรับ…
ดิฉันจึงประสานขอคุณเล็กรับดอกแก้วไปเลี้ยงให้ด้วย… ซึ่งเธอก็ยินดี…

ดิฉันต้องขอบคุณคุณเล็กมากที่ตลอดเวลาได้เลี้ยงดูขุนเดชและดอกแก้วให้…
แต่ดิฉันก็ไม่ได้ไปฝากเฉยๆ ..
ในช่วงปีแรกที่ดิฉันไปหาคุณเล็กบ่อยๆนั้น ดิฉันได้สนับสนุนคุณเล็กอย่างที่ในชีวิต แม้จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยให้ใครเท่านี้มาก่อนเพราะรักคุณเล็กมาก…

ดิฉันต้องขอบคุณเล็กอีกครั้ง สำหรับการดูแลขุนเดชและดอกแก้ว
คุณเล็กให้ไปรับโดยเร็ว..
ดิฉันกำลังจะไปรับทั้งคู่มานะคะ

ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าทุกอย่างที่ดิฉันทำเพื่อช้าง ไม่มีธุรกิจใดเกี่ยวกับช้าง ไม่ได้มีหน้าที่ใดๆ ไม่เคยได้เงินจากช้างเลยค่ะ …
เกิดแต่รักล้วนๆ…”

‘บางจาก’ จัดแคมเปญมอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวดแด่ผู้ประสบภัย ส่งต่อน้ำใจจากบางจาก-คนไทยให้ผู้ประสบภัยบรรเทาทุกข์

(9 ต.ค. 67) นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด, นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร 

ร่วมประชาสัมพันธ์แคมเปญ ‘บางจากฯ ชวนปันน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด’ เชิญชวนให้ลูกค้าที่ได้รับแจกน้ำดื่ม 1.5 ลิตรจากการเติมน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันบางจากและเอสโซ่เดิมทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ตั้งแต่วันที่ 9 - 31 ตุลาคม 2567 หรือจนกว่าจะครบ 1 ล้านขวด

ลูกค้าที่ต้องการร่วมส่งต่อพลังน้ำใจทำได้โดยแจ้งความจำนงกับพนักงานหน้าลานในสถานีบริการ 
โดยบางจากฯ จะประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อกระจายน้ำดื่มไปยังผู้ที่เดือดร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ

‘บางจากฯ ชวนปันน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด’ เป็นการต่อยอดการส่งมอบ
ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย จากการช่วยเหลือผ่านบัตรเติมน้ำมัน เงินสด น้ำดื่ม ข้าวสาร วัตถุดิบในโรงครัว อุปกรณ์ของใช้จำเป็น ฯลฯ ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ 

รวมถึงการเชิญชวนให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบางจาก กรีนไมลส์แลกแต้มสมาชิกเป็นเงินบริจาคมอบให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพา (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยเพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ 

บางจากฯ หวังว่าการร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปได้ พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในทุก ๆ พื้นที่ ด้วยความหวังว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติในเร็ววัน

ในการนี้ยังมีนายวัฒนา พรพัฒน์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานค้าปลีกน้ำมัน กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายวรากร โกศลพิศิษฐ์กุล  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) ร่วมกิจกรรมด้วย

น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ 9 เชิญประชาชนร่วมเฝ้ารับเสด็จในหลวง-ราชินี

(9 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พระลาน’ ได้โพสต์เชิญชวนเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า 

ขอเชิญประชาชนร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “วันนวมินทรมหาราช” 13 ตุลาคม 2567 พร้อมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  

ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 
ในเวลา 17.00 น. เปิด 3 จุดคัดกรอง เวลา 11.30 น. ได้แก่ 

๑. จุดคัดกรองถนนศรีอยุธยา ฝั่งประตูทางเข้าอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9
๒. จุดคัดกรองถนนศรีอยุธยา ฝั่งวัดเบญจมบพิตร 
๓. จุดคัดกรองถนนพระราม 5 ฝั่งอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9

ในการนี้ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ จะเปิดให้ประชาชนได้เยี่ยมชมในวันที่ 13-14 ตุลาคม 2567 โดยจะมีบทเพลงขับกล่อมจากวงดนตรี 4 เหล่าทัพ จนถึงเวลา 21.00 น.

2 พจนานุกรมดังบรรจุ pad thai ลงในคลังคำศัพท์ ตั้งแต่นี้ต่อไปไม่ต้องใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ขึ้นต้นคำอีกแล้ว

(9 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Oxford Dictionary และ Cambridge Dictionary ซึ่งเป็น 2 พจนานุกรมที่มีชื่อเสียงและมีผู้ใช้งานทั่วโลกได้บรรจุ ‘ผัดไทย’ หรือ ‘pad thai’ เป็นคำศัพท์ในพจนานุกรมแล้ว 

โดย Cambridge Dictionary และ Oxford Dictionary ได้ให้ความหมายของคำว่า pad thai ว่า (n) a Thai dish that consists of rice noodles fried with egg, vegetables, and spices, sometimes with pieces of meat or seafood added.

ซึ่งมีความหมายว่า เป็นอาหารไทยที่ประกอบด้วยเส้นผัดกับไข่, ผัก, พริก ในบางครั้งมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเลเพิ่มเข้ามา

ซึ่งการบรรจุคำว่า pad thai ลงในพจนานุกรมในครั้งนี้ ได้บรรจุอยู่ในระดับ C2 คือ คำศัพท์ทั่วไปที่ถูกบัญญัติใช้เพื่อแสดงให้รู้ถึงแหล่งที่มา ต้นกำเนิด หรือพื้นถิ่นของสิ่งๆ นั้นได้ชัดเจน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top