Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

‘ปฐม อินทโรดม’ แชร์มุมมอง ชี้ ’สาขาวิชาคอมพิวเตอร์‘ อดีตมนุษย์ทองคำวงการไอที อาจไม่สร้างความมั่นคงได้อีกต่อไป หลังบริษัทบิ๊กเทคทยอยปลดคน หากจะอยู่รอดต้องเจ๋งจริง สู้ AI ได้

จากเฟซบุ๊ก Pathom Indarodom โดย คุณปฐม อินทโรดม ได้โพสต์ข้อความว่า…

เรียน Computer Science ดีไหม?​ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำถามที่ตอบได้ยากจริง ๆ ในวันนี้เพราะสาขาที่น่าเรียนและได้ผลตอบแทนสูงในอดีตต้องเจอความไม่แน่นอนอย่างรุนแรง 

ข่าวใหญ่วันนี้ (14 พฤษภาคม 2025) คือ Microsoft ที่เพิ่งทุ่มงบมหาศาลกว่า 2.7 ล้านล้านบาทสำหรับการลงทุนด้าน AI, Cloud, Data Center แต่เงินมันไม่ได้งอกมาได้เองจึงต้องลดค่าใช้จ่ายก็คือค่าแรงคนลงอีก 6 พันคน หลังจากลดไป 1 หมื่นคนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

เพื่อนรักของผมคนหนึ่งสอบถามมาจะให้หลานเรียนวิทย์คอมดีไหม ผมจึงไม่ลังเลที่จะบอกว่าลองอย่างอื่นดูก่อนไหม โดยเฉพาะวิชาชีพพื้นฐานที่ยังพอมั่นใจได้ว่ายังไม่ถูกลดบทบาทในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า เพราะวันนี้สาขาวิชาคอมพิวเตอร์มันขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนจริง ๆ จนมันไม่ใช่สาขาวิชาที่จะสร้างความมั่นคงให้กับทุกคนได้อีกต่อไปยกเว้น...

- มี Passion เต็มเปี่ยมคือรัก Coding มีงานอดิเรกเป็น Coding และ/หรือมีรายได้จากการเขียนโปรแกรมอยู่แล้ว แบบนี้มั่นใจได้ว่าเขาจะสนุกกับมันและจะเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ด้วยใจรักอยู่แล้ว บุคลิกแบบนี้ปรับตัวได้เสมอไม่ว่าจะเจออะไร และผมเชื่อว่าเขาจะเป็นดาวรุ่งได้แน่ ๆ

- เก่งจัด เข้ารอบโอลิมปิกวิชาการ ได้ทุนมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเล็งมหาลัยท็อป ๆ ในต่างประเทศ แถมมีทุนรออยู่มากมาย อันนี้ไม่ต้องไปห่วงเขาครับ AI มากี่ตัวก็สู้ไม่ได้ 

- Logic ดีมาก ชอบแก้ปัญหาโดยเฉพาะโจทย์คณิตศาสตร์ยาก ๆ หรือใช้เครื่องมือในการจัดการปัญหาต่าง ๆ และรู้ความแตกต่างของแต่ละภาษาและเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง พวกนี้เรียนวิทย์คอมได้ชิว ๆ และหาทางไปได้แน่

- พ่อแม่มีฐานะ ส่งไปเรียนด้านนี้ในต่างประเทศโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยใกล้สำนักงานใหญ่ของสตาร์ตอัปชั้นนำและเล็งฝึกงานไว้กับบริษัทเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว แบบนี้เขาจะได้ทั้งเรียนและทำงานเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ที่อื่น 

- ถ้าไม่ใช่ที่กล่าวมา คือคิดจะมาเรียนวิทย์คอมเพราะคิดว่าได้เงินดี มีงานมั่นคง เลือกตามเพื่อนตามแฟน หรือเลือกเรียนเพราะคะแนนมันถึง แบบนี้มั่นใจได้ครับ

มั่นใจได้ว่าเขาคงไปเปิดร้านกาแฟทันทีหลังเรียนจบ...

ตำรวจภูธรภาค 2 ยกระดับพนักงานสอบสวน สู่มืออาชีพยุคใหม่ ขับเคลื่อนด้วย AI เพิ่มประสิทธิภาพงานสอบสวน สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย

(15 พ.ค.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาผู้ปฏิบัติงานต้นแบบสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพของตำรวจภูธรภาค 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (รุ่นที่ 1) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (The Cop Seminar & Resort) อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพนักงานสอบสวนจากทุกจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 เข้าร่วมจำนวน 40 นาย

สาระสำคัญของการสัมมนาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแลกเปลี่ยน รับฟังปัญหา อุปสรรค และความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในสายงานสอบสวนเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้สนับสนุนกระบวนการสอบสวนให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า

“พนักงานสอบสวนคือด่านแรกของกระบวนการยุติธรรม ที่มีบทบาทสำคัญต่อความเป็นธรรมของสังคม หากระบบสอบสวนไม่เข้มแข็ง ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน การสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากจะรับฟังเสียงสะท้อนจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่จริงแล้ว เรายังผลักดันให้เกิดการนำเครื่องมือ AI มาใช้เป็นผู้ช่วยสำคัญ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจากสำนวน, การจัดระเบียบพยานหลักฐาน, การตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก ตลอดจนการฝึกใช้แอปพลิเคชันสืบค้นข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถทำงานได้แม่นยำยิ่งขึ้น ลดภาระ และลดโอกาสผิดพลาด”

“เป้าหมายของเราคือให้พนักงานสอบสวนทำงานได้อย่างมีความสุข มีเครื่องมือที่ทันสมัย มีผู้บังคับบัญชาที่รับฟัง และมีระบบสนับสนุนที่มั่นคง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ตำรวจไทยเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง” ผบช.ภ.2 กล่าวเพิ่มเติม

การขับเคลื่อนพนักงานสอบสวนยุคใหม่ของตำรวจภูธรภาค 2 จึงไม่ใช่เพียงการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล แต่เป็นการยกระดับทั้งระบบให้ก้าวทันโลก ก้าวทันเทคโนโลยี และก้าวทันความคาดหวังของประชาชนในศตวรรษที่ 21

‘เนเน่’ นำทีม วปอ.บอ. รุ่น 2 เยือน ‘Starbucks’ ใหญ่สุดในเอเชีย เรียนรู้การสร้างแบรนด์ระดับโลกกลางมหานครจีน

(15 พ.ค. 68) ‘เนเน่’ รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ ระบุว่า…

#เกร็ดความรู้จากจีน ในบทบาทอาจารย์ เนเน่และคณะอาจารย์ของหลักสูตร นำนักศึกษา วปอ.บอ. รุ่นที่ 2 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร มาดูงานที่ประเทศจีน เมืองเซี่ยงไฮ้–หางโจว ค่ะ

เดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้ จุดแรกที่เราแวะคือ Starbucks Reserve® Shanghai Roastery ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก (เคยเป็นอันดับ 1 ของโลก จนเมื่อปี 2019 ที่ Starbucks Reserve Roastery ที่ชิคาโก้เปิดขึ้น ด้วยพื้นที่ประมาณ 3,250 ตารางเมตร ครอบคลุมอาคาร 5 ชั้น) ร้านนี้มีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางฟุต ใหญ่กว่าสาขาปกติถึง 300 เท่า จุดเด่นที่เตะตาคือ ถังคั่วกาแฟทองเหลืองสูงเท่าตึก 2 ชั้น (น้ำหนัก 40 ตัน) และ บาร์กาแฟยาวถึง 88 ฟุต... เป็นร้านกาแฟที่เป็นมากกว่าร้านกาแฟ ภายในมีโรงคั่วกาแฟให้เราสามารถชมการคั่วกาแฟแบบสด ๆ พร้อมโซนเบเกอรี่แบบเปิด รวมทั้งบาร์ชา กาแฟ และมีค็อกเทลด้วย

#ทำไมต้องอลังการขนาดนี้...

อย่างที่เรา ๆ ทราบกันว่าคนจีนมีวัฒนธรรมในการดื่มชา การที่ Starbucks จะวางแผนมาตีตลาดจีนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องปรับตัว วางแผนหลายขั้น ...เอาเป็นว่า ถึงกับยอมเปลี่ยนสูตรกาแฟให้มีความเข้มน้อยลงเลยทีเดียว เพื่อให้รสชาติถูกปากผู้บริโภคที่คุ้นชินกับการดื่มชา

ดังนั้น ที่มาของ Starbucks Reserve® Shanghai Roastery จึงมีวัตถุประสงค์หลายประการ ทั้งในเชิงกลยุทธ์และประสบการณ์ลูกค้า ดังนี้:

1 #Flagshipแห่งแรกในเอเชีย - เซี่ยงไฮ้เป็นตลาดหลักในเอเชียที่เติบโตเร็วมาก และ Starbucks ต้องการเปิดตัว Roastery ที่นี่ให้เป็นเรือธงของภูมิภาค เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพในการลงทุนในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของแบรนด์ รองจากสหรัฐฯ

2 #สร้างประสบการณ์เหนือระดับ หรือที่เรียกว่า #ImmersiveExperience - อย่างที่บอก Roastery นี้ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์แบบ immersive ที่ลูกค้าจะได้ชมการคั่วเมล็ดกาแฟแบบสด ๆ ลองกาแฟจากหลายภูมิภาค ดื่มด่ำกับศิลปะการชง รวมถึงมีบาร์ชาที่ยิ่งใหญ่ (Teavana Bar), ร้านเบเกอรี่ Princi ที่อบขนมสดในร้าน และใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ให้ลูกค้าเรียนรู้ผ่านมือถือได้ด้วย

3 #Showroom #แหล่งทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ - Roastery ทำหน้าที่เป็น 'ห้องทดลอง' สำหรับกาแฟและผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เครื่องดื่มสูตรพิเศษ ขนมอบใหม่ ๆ หรือเมนูที่ยังไม่เปิดตัวในตลาดทั่วไป

4 #สร้างการรับรู้แบรนด์ระดับพรีเมียม - การมีร้านใหญ่ สวยงาม และแปลกใหม่ในโลเคชันเด่น (ย่าน West Nanjing Road ที่หรูหรา) ทำให้ Starbucks สร้างภาพลักษณ์ของความหรูหราและน่าค้นหา ตอกย้ำว่า Reserve Roastery เป็นมากกว่าร้านกาแฟ — แต่คือ “ประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมกาแฟ”

5 #รองรับจำนวนลูกค้าที่สูงมาก - ตลาดจีนมีความหนาแน่นของผู้บริโภคสูง ร้านขนาดใหญ่จึงช่วยรองรับลูกค้าจำนวนมากในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและลูกค้าท้องถิ่นจำนวนมาก

ไม่ใช่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ กว่าจะออกมาเป็น Starbucks Reserve® Shanghai Roastery ได้... สินค้าไทยและผู้ประกอบการไทยรายใดที่อยากจะตีตลาดจีนบ้าง คงต้องคิดให้ 'ใหญ่' และวางกลยุทธ์ให้ชัดเจน เหมือนอย่างที่ Starbucks ทำไว้เป็นตัวอย่างเลยทีเดียวค่ะ

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เข้ามอบตัวที่กองปราบ ปมทุจริตเงินวัด 300 ล้าน ไปเล่นบาคาร่า

(15 พ.ค. 68) พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวงชื่อดังในจังหวัดนครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตยักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บชื่อดัง ซึ่งสร้างความสั่นคลอนต่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างรุนแรง

การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. เริ่มจากคำร้องเรียนและพบเส้นทางการเงินผิดปกติ เจ้าอาวาสวัดได้ถอนเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัวหลายครั้ง ก่อนส่งต่อให้หญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทเป็นนายหน้าในเครือข่ายเว็บพนัน เพื่อนำไปเติมเครดิตเล่นบาคาร่า โดยยอดเงินหมุนเวียนเกี่ยวข้องกับการพนันสูงถึงกว่า 500 ล้านบาท

นอกจากการใช้เงินวัด เจ้าอาวาสยังมีพฤติกรรมขอยืมเงินจากพระผู้ใหญ่หลายรูป เพื่อนำมาเล่นพนันต่อเนื่อง ขณะที่หญิงสาวที่เป็นตัวกลางถูกจับกุมในคดีที่เชื่อมโยงกับเว็บพนัน LAGALAXY911 และอยู่ระหว่างการประกันตัว

ล่าสุด พระธรรมวชิรานุวัตรได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อกองปราบปราม พร้อมทนายความ โดยอ้างว่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

โครงการดีที่ไม่ควรพลาด!!

📣 เชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วม ✨
โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง
กิจกรรมหลักการแปรรูปสินค้าเกษตรด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มกิจกรรมย่อยพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปจังหวัดน่าน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน

คุณสมบัติ 💁🏻‍♀️
- เป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร // วิสาหกิจชุมชน หรือ SMEs // กลุ่มเกษตรกร

✅ สิ่งที่จะได้ในกิจกรรม :
- ได้รับคำปรึกษาด้านแผนการพัฒนา สำหรับกิจการ
- ได้รับการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ 
- ร่วมศึกษาดูงาน เพิ่มเสริมทักษะการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีและการตลาด
- ร่วมกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาด้านการตลาดอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (ทดสอบตลาด)

💥 ฟรี 🆓!!! ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ 💥

📅 ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 15 - 25 พฤษภาคม 2568
ผ่าน Link : https://forms.gle/7too8kZGfzbzSCfs5

☎️ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 
• คุณสุดาภรณ์ (063-198-1000)
• คุณกัญญาณัฐ (080-061-9413)

‘มาดามแป้ง’ ประกาศอัดฉีดโต๊ะเล็กสาวไทย 1.5 ล้าน ต้องชนะจีน!..การันตีตั๋วไปฟุตซอลโลกครั้งแรก

(15 พ.ค. 68) 'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โทรเข้าไปให้กำลังใจ ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ระหว่างประชุมทีม พร้อมอวยพรขอให้ทุกคนโชคดี และ คว้าชัยชนะเพื่อแฟนบอลชาวไทย ก่อนลงเล่นเกมสำคัญ พบกับ จีน (เจ้าภาพ) ในการแข่งขันฟุตซอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบรองชนะเลิศ 

นอกจากนี้ 'มาดามแป้ง' ยังให้กำลังใจแข้งโต๊ะเล็กสาวไทย พร้อมประกาศอัดฉีด 1,500,000 บาท หากเอาชนะ จีน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ การันตีสิทธิ์ไปฟุตซอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025 ครั้งแรก ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2568

สำหรับ ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย อันดับ 5 ของโลก เตรียมพบกับ จีน อันดับ 24 ของโลก ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามกีฬา โฮฮอต ถ่ายทอดสดทาง https://m.youtube.com/watch?v=BvN4F6g05mc

‘พ่อลูกชาวไทย’ ถูกรวบคาสนามบินนาริตะ หลังต้องสงสัยทำร้ายพนักงานหน้าเคาน์เตอร์

เมื่อวันที่ (14 พ.ค.68) เว็บไซต์ Yahoo! JAPAN รายงานว่า ตำรวจสนามบินนาริตะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จับกุมชายชาวไทยวัย 66 ปี และลูกสาววัย 30 ปี ฐานต้องสงสัยทำร้ายร่างกายพนักงานสายการบินหญิงวัย 28 ปี หลังไม่พอใจการให้บริการขณะอยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ขาออก อาคารผู้โดยสาร 1

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ก่อเหตุถูกกล่าวหาว่าคว้ามือพนักงานซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นตำรวจญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่าอาจเข้าข่ายเป็นการกลั่นแกล้งพนักงานจากความไม่พอใจในบริการ

รายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นอัยการและยอมรับผิด ขณะที่ลูกสาวปฏิเสธว่าไม่ได้แตะต้องพนักงานแต่อย่างใด โดยทั้งสองอยู่ระหว่างเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยภายหลังท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

(สุรินทร์) มทบ.25 มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของกำลังพล เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลและครอบครัว

เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.68) พลตรี ไชยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมด้วย คุณสายธาร กิจคณะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 และคณะนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 มอบทุนการศึกษาเรียนดีให้กับ บุตรข้าราชการ, ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ประจำปี 2568 ณ สโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ มีจำนวน 146 ทุน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้  

ทุนระดับชั้นประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 107 ทุนๆ ละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 160,500 บาท ทุนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ถึง อนุปริญญา จำนวน 24 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 48,000 บาท ทุนระดับปริญญาตรี 15 ทุนๆ ละ 2,500 บาท รวมเป็นเงิน 27,500 บาท รวมทุนทั้ง 3 ระดับ เป็นเงินทั้งสิ้น 246,000 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริม และกระตุ้นให้บุตรของกำลังพล ตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน มีความภาคภูมิใจในผลการเรียน เพื่อเป็นอนาคตที่สำคัญของครอบครัว, สังคม และประเทศชาติต่อไป

‘เอกอัครราชทูตจีน’ ร่วมสัมมนาวุฒิสภาไทย ย้ำสร้างประชาคม ‘จีน-ไทย’ ฉลอง 50 ปี สัมพันธ์การทูต

เมื่อวันที่ (13 พ.ค.68) เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ได้รับเชิญเข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาเรื่อง “ภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลก และบทบาทของจีน: โอกาสและความท้าทายสำหรับประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยวุฒิสภาไทย โดยมีคุณมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และสมาชิกวุฒิสภาเกือบ 100 คนเข้าร่วม

ทูตหานได้กล่าวถึงจุดยืนของจีนในเวทีเศรษฐกิจโลก โดยเน้นย้ำความสำคัญของความยุติธรรม การคัดค้านการใช้อำนาจในทางที่ผิด และการรักษาระเบียบเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมแสดงความตั้งใจของจีนในการแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาแก่ทุกประเทศ รวมถึงไทย โดยถือโอกาสวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน

ด้านประธานและรองประธานวุฒิสภาไทยกล่าวชื่นชมบทบาทของจีนในเวทีโลกและย้ำว่ารัฐสภาไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีกับจีน โดยสนับสนุนความร่วมมือในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศในระยะยาว

รมว.ทส. ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ พร้อมผลักดัน สวนสัตว์แห่งอนาคต เป็นแหล่งการเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ระดับสากล

เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.68) วลา 15.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ โดยมี รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงาน ให้การต้อนรับ

สวนสัตว์แห่งใหม่นี้จะได้รับการพัฒนาให้เป็น สวนสัตว์แห่งอนาคต โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการเรียนรู้ระบบนิเวศในรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด “Biodiversity Park” ซึ่งจำลองถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์แต่ละชนิดอย่างใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อส่งเสริมความเข้าใจด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตของสัตว์กับประสบการณ์ของผู้เข้าชม 

การออกแบบสวนสัตว์ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศของทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงของภาคกลาง โดยนำมาปรับใช้เป็นภูมิทัศน์ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เพื่อพัฒนาเป็น ส่วนจัดแสดงสัตว์รูปแบบใหม่ ที่ไม่มีสิ่งกั้นขวางสายตา เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด เสมือนเข้าไปอยู่ในถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ ตามแนวความคิดที่เชื่อมโยง “คน – สัตว์ – ธรรมชาติ” เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ การจัดแสดงสัตว์ในแต่ละโซนจะถูกออกแบบให้สัตว์สามารถมองเห็นกันได้เหมือนอยู่ในพื้นที่เดียวกันตามธรรมชาติ โดยใช้แนวกั้นธรรมชาติ เช่น คูแห้ง คูน้ำ หรือระดับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อแบ่งโซนอย่างปลอดภัย ไม่ให้สัตว์ข้ามเขตกันได้ ทั้งยังคงบรรยากาศที่เสมือนจริงและไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้เข้าชม

สวนสัตว์แห่งใหม่นี้จึงไม่ใช่เพียงสถานที่ชมสัตว์ แต่เป็น “พื้นที่แห่งการเรียนรู้ มีชีวิต” ที่เชื่อมโยงผู้คนให้เข้าใจและเห็นคุณค่า ของธรรมชาติ เป็นห้องเรียนสิ่งแวดล้อมในระดับสากล ที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย (Lifelong Learning)

ภายในโครงการยังมีการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมตั้งแต่ระบบจำหน่ายและจองตั๋วล่วงหน้า ไปจนถึงระบบบริหารจัดการสวนสัตว์ พร้อมด้วยศูนย์ข้อมูลที่รองรับการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลของสวนสัตว์อย่างปลอดภัย “สวนสัตว์แห่งใหม่ของประเทศไทย” แห่งนี้จึงเป็นต้นแบบใหม่ของการอนุรักษ์และการเรียนรู้ ที่ผสานเทคโนโลยี นิเวศวิทยา และประสบการณ์เสมือนจริงไว้ในที่เดียว

โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ มีขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ในกรอบวงเงิน งบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,974.๖๔๗,๘๕๘ ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,545,332,100 บาท ระยะที่ 2 เป็นจำนวนเงินก่อสร้างทั้งสิ้น 4,340,156,437 บาท ระยะที่ 1 เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการในปี 2569 และคาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2572

โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการเรียนรู้ ผ่านการส่งเสริมให้นักเรียนและประชาชนเข้ามาศึกษาและเยี่ยมชม พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “สวนสัตว์สีเขียว” (Green Zoo) ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สวนสัตว์แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ประชาชนสามารถมาใช้พักผ่อนและออกกำลังกาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์ข้อมูลด้านการอนุรักษ์และวิจัยสัตว์ป่าทั้งในและนอกถิ่นอาศัย และ ในด้านการท่องเที่ยว สวนสัตว์แห่งใหม่นี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชน ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top