Thursday, 26 June 2025
NEWS FEED

สตม. รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตาน้ำข้าว หนีคดีข้ามชาติ ก่อความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท กบดานพัทยา OVER STAY 

กก.สส.บก.ตม.3 ได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติสวีเดน ซึ่งกระทำผิดฐานฉ้อโกง ในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงินไทย กว่า 50,000,000 บาท ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนหาข่าว โดยขณะที่ชุดจับกุมได้ไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าอาคารชุดในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี ได้พบคนต่างด้าวลักษณะมีพิรุธอยู่บริเวณหน้าอาคารชุด จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง 

จากการตรวจสอบพบ MR.JOHN (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี สัญชาติสวีเดน การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด (OVER STAY) จากนั้นได้ไปตรวจสอบที่ห้องพักของ MR.JOHN พบ MR.VLADIS (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สัญชาติสวีเดน เมื่อตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด (OVER STAY) เช่นเดียวกัน จึงได้จับกุมในข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

อนึ่ง จากการประสานงานตรวจสอบกับทางการสวีเดน รับแจ้งว่า ทั้ง MR.JOHN และ MR.VLADIS มีประวัติกระทำความผิดอาญาในประเทศสวีเดน ในความผิดฐานฉ้อโกง ในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหาย กว่า 50,000,000 บาท

นราธิวาส-รองผู้ว่าฯ นราธิวาส ปล่อยแถว กำลัง 3 ฝ่าย เฝ้าระวัง เขตเศรษฐกิจ พื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ย้ำไม่ประมาท สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มอบหมายให้นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ปล่อยแถวกำลังร่วม 3 ฝ่ายเฝ้าระวังเมือง กวาดล้าง อาชญกรรมและสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมเยี่ยมจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เขตสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย จุดตรวจบือแรง อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ. สุไหงโกลก จุดตรวจด่านน้ำตก และเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลปาเสมัส ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก

นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมครั้งนี้ มาให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ ทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมมาเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท รอบคอบ เข้มแข็ง เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้ความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนทั้งนี้อำเภอสุไหงโกลก ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนราธิวาส เป็นเมืองการค้าชายแดน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ เป็นจำนวนมาก การให้ความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะ สถานที่ที่เป็นแหล่งชุมชน เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ บ้านพักส่วนราชการสำคัญ ต้องเพิ่มความเข้มข้น เอาใจใส่ในการตรวจตรารักษาความปลอดภัย ประกอบกับ ในห้วงนี้ เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นบ่อยครั้ง และอำเภอสุไหงโกลกมีพื้นที่ติดกับอำเภอตากใบ จึงอยากฝากผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจน พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันดูแลพื้นที่ เป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส และหากพบสิ่งของ วัตถุ บุคคลต้องสงสัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในทันที เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างสูงสุด

โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้มอบสิ่งของบริโภคให้แก่ กองกำลังฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่ายที่ทำหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน

กองทัพเรือ โดย หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ส่งมอบพื้นที่ชุมชนตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย เชียงราย หลังฟื้นฟูเรียบร้อย

เมื่อวันที่ (27 ต.ค.67) กองทัพเรือ โดยหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยมี นาวาเอก สกล กลิ่นคำหอม รองผู้บังคับการกรมสนับสนุน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นหัวหน้าชุด และนาวาโท ศิวชัย ใจสุทธิ์ ผู้บังคับกองพันขนส่ง กรมสนับสนุน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รองหัวหน้าชุดฯ ทำพิธีส่งมอบพื้นที่ชุมชนตลาดสายลมจอย ให้กับเทศบาลตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 

โดยมี นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการส่งมอบ ในวันนี้

‘บิ๊กเล็ก’ เปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจอย่างเป็นทางการ ช่องทางใหม่สื่อสารระหว่างกระทรวง-ประชาชน

เมื่อวานนี้ (28 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินการเปิดช่องทางการสื่อสารกับประชาชนผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจที่มีชื่อว่า ‘สนามไชย2’ พร้อมมีการโพสต์แนะนำเฟซบุ๊กแฟนเพจ ความว่า 

'สนามไชย๒' เป็นช่องทางสื่อสารที่สร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในกิจกรรมต่าง ๆ ของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะภารกิจที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับมอบหมายจากท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายใต้แนวคิดการสื่อสารเพื่อ 'รวมไทยไปด้วยกัน'

พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
28 ตุลาคม 2567

#สนามไชย2
#รวมไทยไปด้วยกัน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตรจับมือประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก ( AIPH ) ลุยเดินหน้าจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี 1 พฤศจิกายน 2569

(29 ต.ค. 67) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) เข้าร่วมพิธีปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกนครเฉิงตู Chengdu Expo 2024 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งหารือกับสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH)

โดยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และพันโทวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้ประชุมหารือร่วมกับ Mr. Leonardo Capitanio ประธานสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ Mr. Tim Briercliffe เลขาธิการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ และคณะกรรมการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ
สาระสำคัญสรุป ดังนี้

สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ได้แนะนำแนวทางการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการเตรียมการจัดงานที่มีอย่างจำกัดเพียง 1 ปี 4 เดือน ประกอบกับได้รับทราบข้อมูลว่าการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนี้ยังไม่มีผู้รับจ้างมาดำเนินงาน ดังนี้

1. เสนอให้มีการปรับแบบผังแม่บท โดยให้ลดความสลับซับซ้อน (Complexity) ของโครงสร้างและอาคาร แต่ยังคงสามารถสื่อสารความเป็นไทยและสอดคล้องกับธีมของงาน ทั้งนี้ ขอให้กรมวิชาการเกษตรหารือแนวทางการปรับปรุงผังแม่บทให้รีบปรับปรุงตามข้อแนะนำดังกล่าว รวมถึงได้แนะนำให้ปรึกษากับ Mr. John Boon ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผังแม่บทมหกรรมพืชสวนโลกของ AIPH เพื่อช่วยให้คำแนะนำแนวทางการปรับปรุงผังแม่บทใหม่ เพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด

2. เสนอให้ปรับลดขนาดของพื้นที่จัดงานลง เนื่องจากการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานีเป็นระดับ B ซึ่งตามข้อกำหนดของ AIPH กำหนดพื้นที่อย่างน้อยประมาณ 150 ไร่ หากประเทศไทยจะลดขนาดพื้นที่จัดงานลงจากเดิมที่กำหนดไว้ประมาณ 1,030 ไร่ ให้เหลือครึ่งหนึ่ง หรือ 400-500 ไร่ ก็สอดคล้องกับคำแนะนำของ AIPH เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ในการตรวจติดตามพื้นที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ (Site Inspection) ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการจัดงานของประเทศไทยตามข้อจำกัดดังกล่าว ทั้งนี้ ประธาน AIPH เน้นย้ำว่าแนวทางการจัดงานของ AIPH คือ “Less is the best”

3. อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และผู้แทนจังหวัดอุดรธานี ได้เสนอขอให้ขยายระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่ให้แก่ประเทศสมาชิก AIPH เพื่อเข้ามาดำเนินการจัดสวนและก่อสร้างอาคารนานาชาติ ก่อนเปิดงาน 3 เดือน จากเดิมต้องส่งมอบพื้นที่ให้ AIPH ก่อนเปิดงาน 6 เดือน (วันที่ 1 สิงหาคม 2569 แทนวันที่ 1 พฤษภาคม 2569) เพื่อให้มีระยะเวลาในการก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคณะกรรมการ AIPH ได้เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

4. เน้นความสำคัญของการจัดแสดงทางด้านพืชสวน เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลายของพืช/ต้นไม้/ดอกไม้/ไม้ประดับ โดยขอให้เน้นการจัดสวนอย่างมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ รวมทั้ง ขอให้เร่งดำเนินการในการจัดเตรียมพื้นที่และสถานที่สำหรับการพักและอนุบาลต้นไม้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก โดยทาง AIPH ได้เน้นย้ำว่า โครงการ Type B โดยปกติในส่วนของอาคาร จะเป็น Temporary Building เป็นส่วนใหญ่

5. แนะนำให้เชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน และเมืองอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมการจัดสวนองค์กร สวนเมืองพี่เมืองน้อง สวนจังหวัด เพื่อเพิ่มความหลากหลายและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน กรมวิชาการเกษตร สสปน. และผู้แทนของจังหวัดอุดรธานี จะนำข้อมูลดังกล่าว รายงานต่อคณะกรรมการบริหารการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯรวมทั้งสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ทั้งนี้ จังหวัดอุดรธานีต้องเร่งดำเนินการส่งมอบกรรมสิทธิ์ผังแม่บทให้กรมวิชาการเกษตรโดยด่วนที่สุด และเร่งปรับสภาพพื้นที่ให้แล้วเสร็จตามกำหนด ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567เพื่อที่กรมวิชาการเกษตร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เชิญชวนผู้รับจ้างจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ใหม่ต่อไปอีกครั้ง

โดยการปรับปรุงตามคำแนะนำดังกล่าว จะสร้างความมั่นใจให้แก่คณะกรรมการ AIPH ในโอกาสที่มีกำหนดการลงตรวจติดตามพื้นที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (Site Inspection) ทั้งในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2567 และในการประชุม AIPH Spring Meeting ณ จังหวัดเชียงราย ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568

โอกาสนี้ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้กล่าวขอบคุณประธาน และคณะกรรมการ AIPH สำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และเตรียมเชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ ผู้ประกอบการที่เคยได้รับการเชิญชวน และขอเชิญชวนผู้ประกอบการรายใหม่มาร่วมรับทราบแนวทางในการปรับผังแม่บทที่ยังคงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานและข้อกำหนดของ AIPH ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่อไป เพื่อให้สามารถ บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี และเพื่อให้เปิดงานได้ตามกำหนดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569

THE STATESTIMES เปิดตำรา ไขข้อสงสัย ‘ให้โดยเสน่หา’ คืออะไร เรียกคืนได้หรือไม่

(28 ต.ค. 67) จากกระแสข่าวระหว่าง ‘ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ กับ ‘เจ๊อ้อย’ ถึงเงินพิพาทกว่า 71 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นนำมาสู่ข้อสงสัยให้กับสังคมว่า ‘การให้โดยเสน่หา’ คืออะไร 

การให้โดยเสน่หา หรือ การให้ อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 521 ลักษณะที่ 3 ให้ และอยู่ในบรรพที่ 3 คือ เอกเทศสัญญา

ดังนั้น การให้ หรือ ให้โดยเสน่หา คือ สัญญารูปแบบหนึ่งนั้นเอง 

โดยมาตรา 521 ได้บัญญัติไว้ว่า “อันว่าให้นั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้ โอนทรัพย์สินของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น”

สรุปง่าย ๆ คือ การมอบทรัพย์สินของตัวเองให้คนอื่น โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนนั้นเอง 

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม กฎหมายก็ได้กำหนดไว้ว่าในบางกรณีผู้ให้โดยเสน่หา หรือ ผู้ให้สามารถขอทรัพย์สินของตนเองคืนได้ โดยบัญญัติไว้ในมาตรา 531 ความว่า

“อันผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น ท่านว่าอาจจะเรียกได้แต่เพียงในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้
(1) ถ้าผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาชญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา หรือ
(2) ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือ
(3) ถ้าผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้”

ซึ่งจากการสืบค้นคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็น Case Study สำหรับเรื่องกฎหมายแล้ว พบว่าส่วนใหญ่เรื่องที่ขึ้นศาลเกี่ยวกับการให้ จะเกี่ยวข้องกับการขอทรัพย์สินคืน เนื่องจากประพฤติเนรคุณจากเหตุทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง ผ่านการหมิ่นประมาทผู้ให้นั่นเอง

กรมอุตุฯ ออกประกาศ พรุ่งนี้เข้าหน้าหนาว เตือน!! หนาวนาน-หนาวแรงกว่าทุก ๆ ปี

(28 ต.ค. 67) ดร.สุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ตามเกณฑ์การพิจารณาการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย  

1.อุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป คือมีอุณหภูมิต่ำสุดน้อยกว่า 23 องศาเซลเซียส อย่างต่อเนื่อง  2. ลมระดับล่างที่ความสูงประมาณ 100-3,500 เมตร เป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงประมาณ 5,000 เมตรขึ้นไป เป็นลมฝ่ายตะวันตก และ 3. ปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง 

ทำให้ฤดูหนาวของประเทศไทยในปีนี้จะเริ่มขึ้นตามเกณฑ์ฯ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 และจะสิ้นสุดฤดูในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568  ซึ่งจากสถิติถือว่าเริ่มต้นช้ากว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์

ดร. สุกันยาณี กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้โดยรวมแล้วอากาศจะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนประมาณ 20-21 องศาเซลเซียส (ปีที่ผ่านมา 21.6 องศาเซลเซียส) กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิต่ำที่สุดจะอยู่ในช่วง 16-18 องศาเซลเซียส และปริมณฑลประมาณ 14-16 องศาเซลเซียส สำหรับช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด จะอยู่ในช่วงประมาณเดือนธันวาคม 2567 ถึงปลายเดือนมกราคม 2568 อุณหภูมิต่ำที่สุดประมาณ 6-8 องศาเซลเซียส ส่วนมากบริเวณตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง

ส่วนภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วงส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ  และในบางช่วงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อาจจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุชัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 3-5 เมตร จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

‘นักวิจัยไทย’ เจ๋ง ค้นพบชุดทดสอบยีนผิดปกติก่อโรค หลังใช้เวลาวิจัยนาน 5 ปี ช่วยเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร

‘นักวิจัยไทย’ เจ๋ง!! ค้นพบชุดทดสอบยีนผิดปกติก่อโรคได้ถึง 5 ชนิดเป็นครั้งแรก หลังใช้เวลาพัฒนาชุดทดสอบนานถึง 5 ปี ช่วยเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร ลดเสี่ยง ‘ป่วยธาลัสซีเมีย’

ภาวะเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นโรคทางพันธุกรรม ที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก โดยเกิดจากความผิดปกติของยีน ทำให้เม็ดเลือดแดงมีความผิดปกติ ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางตั้งแต่กำเนิดและต่อเนื่องตลอดชีวิต โรคธาลัสซีเมียแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักได้แก่ อัลฟ่าธาลัสซีเมีย (Alpha-thalassemia) และ เบต้าธาลัสซีเมีย (Beta-thalassemia) 

ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย ประมาณ 500,000 คน และมีผู้ที่เป็นพาหะของโรคนี้มากกว่า 18 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20-30% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้นการตรวจโรคจึงมีความสำคัญโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์และคู่สามีทุกรายควรได้รับการตรวจ เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าทารกในครรภ์อาจเป็นพาหะของธาลัสซีเมียหรือมีโอกาสเป็นโรคนี้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม น้ำยาที่ใช้ในการทดสอบอัลฟ่าธาลัสเมีย ที่มีจำหน่ายและใช้กันอยู่ในประเทศไทยนั้น มีเฉพาะน้ำยาสำหรับการตรวจ Realtime PCR ได้ 2 ชนิดคือ SEA และ THAI และด้วยหลักการ Conventional PCR ที่ใช้ในปัจจุบัน หากเจ้าหน้าที่ทางห้องปฏิบัติการมีความต้องการที่จะทดสอบ ก็จะต้องเตรียมน้ำยาเอง โดยซื้อส่วนผสมต่าง ๆ มาผสมกัน ซึ่งมีความยุ่งยากและทำให้เกิดความสิ้นเปลือง และที่สำคัญ เมื่อผสมน้ำยาแล้วไม่สามารถเก็บรักษาได้นาน เนื่องจากตัว ไพรเมอร์ที่ผสมกับน้ำยาองค์ประกอบอื่น ๆ แล้วจะมีอายุการใช้งานที่สั้น ทำให้ต้องเตรียมน้ำยา PCR ใหม่ทุกครั้งก่อนทดสอบ

จากปัญหาและอุปสรรคดังกล่าว นักเทคนิคการแพทย์หญิง (ทนพญ.) กอบกร พงศ์จันทรเสถียร นักเทคนิคการแพทย์ และเป็นนักวิจัยหลัก บริษัท วิโทร ไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนโครงการ “ยุววิสาหกิจเริ่มต้น” (TED Youth Startup Fund) โดยกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาสูตรน้ำยาสำเร็จรูปสำหรับทดสอบยีนที่ก่อให้เกิดอัลฟ่าธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นชนิดความผิดปกติของยีนที่พบบ่อยในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยชุดน้ำยาทดสอบนี้มีชื่อว่า “Alpha Promix” โดยใช้เทคนิค Multiplex-Conventional PCR ในการทดสอบ

“การพัฒนาชุดทดสอบนี้ใช้เวลาถึง 5 ปี โดยมีความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์เพื่อทำให้การทดสอบ PCR Alpha-thalassemia เป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และสามารถจัดเก็บน้ำยาไว้ได้นานถึง 1 ปี ช่วยให้การทดสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” ทนพญ.กอบกร กล่าว

ทนพญ.กอบกร กล่าวด้วยว่า สำหรับไพรเมอร์ ที่ใช้ในชุดน้ำยา Alpha Promix นั้น ได้ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยไพรเมอร์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในน้ำยาทดสอบ มีลักษณะเป็นนิวคลีโอไทด์สายเดี่ยวสั้น ๆ ที่ใช้สำหรับตรวจหายีนเป้าหมายในปฏิกิริยา PCR การออกแบบใหม่เพื่อให้การอ่านผลง่ายขึ้นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุดน้ำยา และได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตชุดตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ISO13485 แล้ว นอกจากนี้ยังได้จดอนุสิทธิบัตร ไว้เป็นที่เรียบร้อย 

ขณะเดียวกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทเอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้ง ก็ได้เข้าร่วมลงทุน เพื่อพัฒนาชุดน้ำยา Alpha Promix ให้ได้มาตรฐานสู่ระดับสากลต่อไป เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความชุกของโรค ได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

‘สมเสร็จ’ สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์โผล่ กองร้อย ตชด.446 สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า จ.นราธิวาส

เพจ ‘สวท.สุไหงโก-ลก’ โพสต์ภาพ ‘สมเสร็จ’ กำลังเข้ามาเดินเล่นชมวิวเยี่ยมพี่ๆตำรวจ ถึงบ้านพักในกองร้อย ตชด.446 อ.แว้ง จ.นราธิวาส ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่ามารับตัวกลับเข้าป่าไปแล้ว

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. เพจ ‘สวท.สุไหงโก-ลก’ โพสต์ภาพ ‘สมเสร็จ’ กำลังเข้ามาเดินเล่นชมวิวเยี่ยมพี่ๆตชด. ที่กองร้อย ตชด.446 ตำบลฆอเลาะ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส บริเวณบ้านพักข้าราชการตำรวจกองร้อย ตชด.446 ล่าสุด พี่ ๆ ตชด.ได้ประสานเจ้าหน้าที่ป่ามารับตัวกลับเข้าป่าไปแล้ว

ทั้งนี้ คาดว่าน้องสมเสร็จตัวนี้จะอยู่ในป่าที่อยู่ใกล้กองร้อย ตชด.446 เนื่องจากบริเวณนั้นมีพื้นที่ป่ามากถึง 156 ไร่

‘สมเสร็จ’ เป็นสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ โดยพื้นที่เขตภาคใต้ตอนล่างจะพบที่ป่าฮาลาบาลา ซึ่งการได้เห็นสมเสร็จในพื้นที่ส่วนหนึ่งอาจสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า รวมทั้งการที่ทุกคนทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมกันอนุรักษ์และปกป้องทั้งผืนป่าและสัตว์ป่า

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์แซวความน่ารัก ‘น้องสมเสร็จ’ อย่างล้นหลาม อาทิ อ่อ…เด็กนี่ ใส่แพมเพิส เดินเล่นบายใจเลยนะ , เมื่อไหร่น้องจะเลิกใส่เสื้อครอปคะ , เจ้าแพมเพิส มาอีกแล้ว , น้อล ใส่ผ้ากระโจมอกออกมาทำไม๊ก๊อน?

เช็กข้อมูล ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ รอบปี 2568 เตรียมลงทะเบียน พร้อมรับสวัสดิการ 1.5 พันต่อเดือน

(28 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงาน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการทบทวนข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ทุก ๆ 2 ปี นั้น

สำนักข่าวมติชน ได้รายงานว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะนัดประชุมหารือความคืบหน้าเรื่องนี้ในเร็ว ๆ นี้ ตามมติครม. ที่ให้มีการทบทวนข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ทุก 2 ปี

เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯ รอบใหม่ช่วงต้นปี 68 ก่อนจะมีการคัดกรองคุณสมบัติใหม่ เพื่อให้ได้ผู้มีสิทธิทั้งหมดเสร็จทันภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568

ซึ่งผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ จะได้เงินช่วยเหลือ 1,545 บาท แยกเป็น

-วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
-วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
-วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
-มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
-มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

สำหรับเว็บลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 หากเงื่อนไขการลงทะเบียนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดว่า กระทรวงการคลัง จะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th/ มีขั้นตอนลงทะเบียน 6 ขั้นตอน ดังนี้

1.เข้าไปเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th
https://welfare.mof.go.th/ คลิกลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เลือกหน่วยงาน เช่น ธนาคารกรุงไทย เลือกจังหวัด

2.กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และ เลข Laser หลังบัตรประชาชน คลิก ขั้นตอนถัดไป

3.กรอกข้อมูล 4 ส่วนได้แก่ ข้อมูลส่วนตัวของผู้ลงทะเบียน,การประกอบอาชีพ,รายได้และหนี้สินของผู้ลงทะเบียน และ ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ

4.ผู้ลงทะเบียนที่จดทะเบียนสมรส หรือ มีบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เลือกหน่วยรับลงทะเบียนที่จะไปยื่นเอกสาร

5.ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดยืนยัน

6.ไม่มีมีครอบครัว รอผลการตรวจสอบสถานะบุคคล , มีครอบครัว ไม่แสดงตัวตน และ ยื่นเอกสารยังหน่วยงานลงทะเบียนที่เลือกไว้

คุณสมบัติลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ที่ได้กำหนดก่อนหน้านี้
1.สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
2.รายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
3. รายได้เฉลี่ยครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
4. มีทรัพย์สิน : เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่เกิน 100,000 บาท/คน
4. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์(ตามที่กำหนด)
5. ต้องไม่มีบัตรเครดิต
6. มีวงเงินกู้ ที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้ ยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

ด้านสำนักข่าว ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ได้รายงานถึงไทม์ไลน์ของโครงการ ดังกล่าวว่า 

มกราคม 2568 เปิดให้ลงทะเบียนทั้งคนเก่า และ คนใหม่
มีนาคม 2568 ประกาศผล เปิดให้ยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์
เมษายน 2568 เริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนรอบใหม่

สำหรับเว็บไซต์ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 2568 กระทรวงการคลัง เตรียมปรับปรุงเว็บไซต์เดิมเพื่อรองรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่  

กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าน่าจะมีผู้ลงทะเบียนประมาณ 10 ล้านราย (ประมาณการจากกลุ่มกรอกข้อมูลลงทะเบียนโครงการฯ ปี 2565 ไม่ครบถ้วน 1.3 ล้านราย กลุ่มผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจำนวนประมาณ 5.1 ล้านราย และกลุ่มผู้ที่ตกหล่น/ต้องการลงทะเบียนเพิ่มจำนวนประมาณ 2 ล้านราย รวมถึงกลุ่มผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากกรมการปกครองจำนวนประมาณ 1.4 ล้านราย)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top