Wednesday, 25 June 2025
NEWS FEED

แม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำป้องกันสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และสิ่งผิดกฏกมายแนวชายแดน จังหวัดตาก

(13 พ.ย. 67) พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพล กองกำลังนเรศวร  ตามฐานปฏิบัติการ พื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก  อำเภอพบพระ อุ้มผาง และแม่สอด รวมทั้งติดตามตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ด่านตรวจร่วมเพื่อความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน ถนนหมายเลข 12 แม่สอด -ตาก อำเภอแม่สอด

แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ได้มีการเน้นย้ำการบูรณาการในการทำงานของทุกภาคส่วนร่วมกัน อย่างสามัคคี กลมเกลียว เพื่อให้ประชาชน มีความมั่นใจในข้าราชการของรัฐ เหนือสิ่งอื่นใด ชายแดนต้องมีความสงบสุข ประชาชนมีความอุ่นใจ   ส่วนเรื่องยาเสพติด ช่วงนี้อาจมีการเล็ดรอด เข้ามาด้านนี้  จึงเน้นย้ำกำลังพลเพิ่มการสังเกตุ ตรวจตรา และนำเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการทำงานที่ด่านตรวจอาจมีผลกระทบต่อประชาชนบ้าง  แต่จะดำเนินการด้วยความสุภาพอ่อนโยน เพื่อความสุขของประชาชนเป็นหลัก

"ในส่วนของสารตั้งต้น จะต้องนำเครื่องมือพิเศษมาใช้โดยได้หารือ กับทาง ป.ป.ส. ไว้แล้ว ซึ่งอาจะต้องใช้อุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างสะดวกขึ้น ที่สามารถตรวจสอบ โดยไม่ต้องมีการขนสินค้าการเกษตรขึ้นลง ลงจากรถในอนาคต แต่ตอนนี้ จะเน้นการทำงานด้านการการสังเกตุและการข่าวเป็นหลัก" แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

เชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สรุปเที่ยวบินเปลี่ยนแปลง-ยกเลิกในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 170 เที่ยวบิน 

(12 พ.ย.67) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปรับเวลาให้บริการในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยสายการบินยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินหลังเวลา 19.00 น.เพื่อลดความเสี่ยงจากโคมลอยที่อาจเกิดอันตรายต่ออากาศยาน

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2567 (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567) มีเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 170 เที่ยวบิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.เที่ยวบินที่ยกเลิก จำนวน 74 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 36 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 38 เที่ยวบิน
2.เที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 96 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ เที่ยวบิน 68 และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 28 เที่ยวบิน
3.เที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติม จำนวน 16 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 8 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 8 เที่ยวบิน       

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะ ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระและผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด สุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานที่ปฏิบัติงานในเขตการบิน 

รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด เพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องปรามกลุ่มผิดกฎหมายที่อาจฉวยโอกาสกระทำการในช่วงผู้โดยสารคับคั่ง อย่างไรก็ตามขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานมากกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีผู้โดยสารคับคั่งแออัดตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจ  ทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 6 รอบ เป็น 10 รอบ เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน

สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด สถานศึกษาและชุมชนที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ที่กำหนดว่า ห้ามจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศในเขตปลอดภัยการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) คือบริเวณแนวขึ้น-ลง สนามบิน ที่อยู่ห่างจากทางขึ้น-ลงของเครื่องบิน ห่างข้างละ 4.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางยาว 18.5 กิโลเมตร จากหัวทางวิ่งทั้งสองด้าน นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และช่องทาง Social Media ต่างๆ ด้วย
    
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในฐานะประตูบานแรกที่เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง โดยได้ประดับตกแต่งโคมไฟและโคมแขวนภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตามวิธีพุทธและประเพณีเดือนยี่เป็ง รวมทั้งเปิดเพลงบรรเลงท้องถิ่น เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นล้านนาตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง และยังกำหนดจัดกิจกรรมแจกกระทงให้แก่ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย

สมุทรปราการ-พิธีอัญเชิญผ้าศักดิ์สิทธิ์ห่มองค์พระมหาเจดีย์ และพิธีห่มผ้าองค์พระนอนพระพุทธรูปคู่วัดบางพลีใหญ่กลาง

(12 พ.ย.67) คณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นายอำเภอบางพลี ข้าราชการตำรวจ คณะครู นักเรียน นักศึกษา และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอบางพลี ร่วมประกอบพิธีแห่ผ้าแดงหลังจากที่ได้ประกอบพิธีบวงสรวงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยได้แห่จากด้านหน้าวิหารพระนอนแล้วเดินแห่มายังบริเวณหน้าองค์พระมหาเจดีย์พิศาลวุฒิกิจมงคลมหาชนบูชิต เพื่อที่จะนำผ้าแดงผืนนี้ขึ้นไปห่มที่บริเวณด้านบนองค์พระมหาเจดีย์ ซึ่งพิธีในช่วงเช้าของวันนี้ โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ให้ความสำคัญจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้ง มีการรำถวายที่บริเวณหน้าวิหารพระนอน จากนั้น คณะนักเรียน นักศึกษา จากวงโยธวาทิตบรรเลงเพลงนำขบวนแห่ไปยังพระมหาเจดีย์ นับว่าพิธีดังกล่าวถือเป็นประวัติศาสตร์และเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของทางวัดบางพลีใหญ่กลางอีกด้วย

นอกจากนี้ คณะศิษย์ยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากยังได้มีโอกาสร่วมในพิธีห่มผ้าองค์พระศากยมุนีศรีสุเมธบพิตร หรือพระนอน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่วัดบางพลีใหญ่กลาง ในโอกาสนี้ ทางคุณทัศนีย์ คงคาสุริฉาย พร้อมด้วย คุณฐานะวัฒน์ ไกรศักดาวัฒน์ ผู้บริหาร บริษัท ทิพย์โฮดิ้ง จำกัด ร่วมเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ หรือพระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่วัดบางพลีใหญ่กลางมีอายุยาวนาน กว่า 200 ปี และปีที่ผ่านมาทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้จัดพิธีสมโภชน์อย่างยิ่งใหญ่ และในปี 2567 นี้ ทางไวยาวัจกร รวมถึงทางคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลางจึงได้จัดพิธีแห่ผ้าห่มองค์พระมหาเจดีย์และจะทำเช่นนี้ต่อไปทุกๆปี เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่อยู่พื้นที่โดยรอบได้มีส่วนร่วมอนุโมทนาบุญกับทางวัด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวบางพลีได้ร่วมกันทำบุญมากขึ้น และอยากจะดันให้เป็นงานประเพณีสืบไป และในส่วนงานประเพณีลอยกระทงในปีนี้ ทางวัดของเราก็จัดอย่างยิ่งใหญ่มีของรางวัลมากมาย ทั้งสร้อยคอทองคำ ทีวี ตู้เย็น พัดลม และอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเดินทางมาร่วมทำบุญและร่วมกิจกรรมสอยดาวกับทางวัด นอกจากนี้ ยังสามารถนำกระทงมาลอยที่บริเวณสระน้ำภายในวัดบางพลีใหญ่กลางได้อีกด้วย

จากทะเล สู่ดอย ทรภ.1 เยี่ยมพบปะ พี่ น้อง ประมง เตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักฯ ประจำปี 2568

(12 พ.ย.67) นาวาเอก กฤษดา จิระไตรพร รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 (เสธ.ทรภ.1) และคณะ เดินทางเยี่ยมพบปะ ประสานงานกับหน่วยงานและสมาคมประมงในพื้นที่จังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อเชิญชวนเข้าร่วม 'กิจกรรมน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเล ที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริ ต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน' ระหว่างวันที่ 5 - 7 พ.ย.67 ที่ผ่านมา

ซึ่งในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 29 ของกิจกรรมฯ รวมถึงเรียนเชิญร่วมประชุมเตรียมการจัดกิจกรรมฯ ณ โรงแรมซี พาราไดซ์ สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยหน่วยงาน และสมาคมประมงต่าง ๆ ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้กิจกรรมน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้งฯ เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และชาวไทยภูเขาให้ได้มีโอกาสรับประทานอาหารทะเล เพื่อต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน โดยจะเดินทางไปส่งมอบ ปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเล ที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริ ต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน” ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 6-7 ก.พ.68 ให้กับเด็กนักเรียน พี่น้องประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และชาวไทยภูเขา ในพื้นที่ภาคเหนือ ต่อไป

สมุทรปราการ-วัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีแห่ผ้าแดงห่มองค์พระมหาเจดีย์ให้ประชาชนโดยรอบได้ร่วมอนุโมทนา

(12 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะศิษย์ยานุศิษย์วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันประกอบพิธีแห่ผ้าแดงซึ่งเป็นผ้าที่จะนำขึ้นไปห่มที่ด้านบนขององค์พระมหาเจดีย์

ซึ่งในวันนี้ได้มีคณะศิษย์ยานุศิษย์ ข้าราชการตำรวจ คณะครู รวมถึงคณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง ตลอดจนพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ที่เลื่อมใสศรัทธา ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เดินทางมาร่วมกันประกอบพิธีแห่ผ้าแดงโดยขบวนแห่ผ้าครั้งนี้จะแห่ไปตามเส้นทางถนนเทพารักษ์ อ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อให้ประชาชนพื้นที่โดยรอบได้ร่วมกันอนุโมทนาบุญ

ก่อนจะนำผ้าแดงผืนดังกล่าวไปประกอบพิธีบวงสรวง จากนั้นจะมีพิธีอันเชิญขึ้นไปห่มที่ด้านบนพระมหาเจดีย์ซึ่งเป็นเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางพลีใหญ่กลางที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

โดยในวันนี้ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้โปรยทานเป็นจำนวนเงินนับแสนบาทเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในพิธีแห่ผ้าอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางพลีใหญ่กลาง ทำให้เกิดความคึกคักและมีประชาชนจำนวนหลายร้อยคนร่วมอนุโมทนาและร่วมในพิธีครั้งนี้

'นบ.ยส.35' เข้มขับเคลื่อน 'ปัญหายาเสพติด' ภาคเหนือร่วมกับ ตชด.ภาค 3

(12 พ.ย.67) ที่ผ่านมา พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) ขับเคลื่อนปัญหายาเสพติดร่วมกับ พลตำรวจตรีวรพัฒน์ บุญมา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 (ผบ.ตชด.ภาค 3) เพื่อบูรณาการหน่วยงานในระดับพื้นที่วางมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดเชิงรุก และเฝ้าระวังพื้นที่ ให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ทั้งนี้ สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ยาเสพติดมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณยาเสพติดที่นำเข้า และถูกจับกุมได้ภายในประเทศมีปริมาณมาก เมื่อเปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกัน กับปีที่ผ่านมา (ห้วง ต.ค. - พ.ย.) ยาบ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.93 และไอซ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.76 

โดยวางมาตรการในการสกัดกั้นยาเสพติดที่เตรียมจะทะลักเข้ามาในห้วงเทศกาลลอยกระทงถึงปีใหม่ เพื่อสกัดยับยั้งยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนในให้ได้มากที่สุดต่อไป

สวนนงนุชพัทยา เปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อเป็นอาณาจักรแห่งการเรียนรู้

วันนี้ที่สวนนงนุชพัทยา มีพิธีเปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพ โดยมีนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เป็นประธานในพิธี วัตถุประสงค์ในการเปิดโรงเรียน เป็นโรงเรียนนอกระบบ ไม่ได้มีการเรียนการสอนทุกวัน สอนเฉพาะที่เป็นหมู่คณะโดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาสอนในแต่ละหลักสตูร

การเรียนการสอนมีลักษณะเหมือนกับซัมเมอร์แคมป์ ซึ่งต้องการให้เรียนรู้ในภาคปฏิบัติ เรียนรู้อย่างสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ได้ลงมือทำ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันหรือสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพ ทางโรงเรียนมีหลักสูตรหลากหลาย เช่น หลักสูตรการจัดสวน,จัดดอกไม้และดูแลรักษาต้นไม้, หลักสูตรพัฒนาแม่บ้านมืออาชีพ,หลักสูตรวิชาอาหารไทย,หลักสูตรวิชามวยไทย, หลักสูตรวิชานาฏศิลป์ไทย เป็นต้น

ซึ่งในวันนี้มีผู้ร่วมงานที่เกี่ยวข้องในด้านการศึกษาประกอบไปด้วย นายประภาพันธ์ วิเวก รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี-ระยอง,นายวัชระ นรินทร์นอก ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต 3 และคณะผู้บริหารโรงเรียน ภาครัฐและเอกชน สวนนงนุชพัทยายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านการศึกษา เพื่อเป็นอาณาจักรแห่งการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะอาชีพ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงต่อไป

เสริมสร้างความสัมพันธ์ ทร.เกาหลีใต้ - นย.ไทย “มิตรภาพข้ามท้องทะเล คณะกองทัพเรือเกาหลีใต้เยี่ยมคำนับ ผบ.นย. เสริมสร้างความสัมพันธ์ ทร.เกาหลีใต้ - นย.ไทย ”

เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.67) พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ผบ.นย.) พร้อมด้วย คณะผู้บังคับบัญชากองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้การต้อนรับ น.อ.Kwon Younggu ผบ.เรือ Kang Gam Chan และคณะ (ทร.เกาหลีใต้) ในโอกาสเดินทางเข้ามาเยี่ยมคำนับ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ณ ห้องชลยุทธโยธิน กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี โดยได้มีการสนทนาหัวข้อต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 กองทัพ

ในการนี้ น.อ.Kwon Younggu และหมู่เรือ ทร.เกาหลีใต้ อยู่ระหว่างการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ณ ประเทศโอมาน ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับ มีพรมแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางตะวันตกติดกับซาอุดีอาระเบีย และทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับเยเมน

การสร้างจุดสมดุลระหว่างการควบคุมและการห้าม: บทเรียนจากนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลก

อังกฤษเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ทั่วโลกที่มีมาตรการควบคุมการใช้และการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศต้นแบบที่สนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนการสูบบุหรี่ หรือเพื่อลดหรือเลิกการสูบบุหรี่ ทั้งนี้ นโยบายนี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ทำให้อัตราผู้สูบบุหรี่ลดลงอย่างมาก จาก 17% เหลือเพียง 11% ในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปี อย่างไรก็ตาม การใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นได้นำมาสู่ความกังวลในเรื่องการติดบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษพิจารณามาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น

รายงานของ The Times ประเทศอังกฤษเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณานโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบตามมาโดยไม่ตั้งใจ เช่น เกิดการซื้อขายกันในตลาดมืดหรือตลาดใต้ดินเพิ่มขึ้น Caitlin Notley จากมหาวิทยาลัย East Anglia เตือนว่ามาตรการที่เข้มงวดเกินไปอาจทำให้ผู้สูบบุหรี่สับสน และไม่สามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพให้กับตนเองได้ ขณะที่ Christopher Snowdon จากสถาบัน Institute for Economic Affairs ชี้ว่าการเพิ่มภาษีและการจำกัดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจนำไปสู่การค้าใต้ดินที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียก็เป็นได้

ในอีกด้านหนึ่ง การควบคุมในระดับที่สมดุลระหว่างการส่งเสริมการเลิกบุหรี่และการป้องกันเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้ายังถือเป็นแนวทางที่เหมาะสม อาทิ สหรัฐอเมริกาที่มีแนวทางการควบคุมแบบสมดุล โดยข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจเยาวชนแห่งชาติ (National Youth Tobacco Survey) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ปี 2024 พบว่าอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินในกลุ่มนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยการสูบบุหรี่แบบเดิมลดลงอย่างมากจนแทบไม่มีแล้ว ขณะที่การใช้บุหรี่ไฟฟ้าลดลงกว่า 70% จากจุดสูงสุดในปี 2019 แสดงให้เห็นว่ามาตรการควบคุมที่รอบคอบสามารถลดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนได้

ในขณะที่ประเทศไทยซึ่งใช้นโยบายห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด ส่งผลให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายทั้งที่สามารถควบคุมได้ด้วย พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ทำให้มาตรการควบคุมที่ใช้อยู่กับบุหรี่แบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้ได้กับบุหรี่ไฟฟ้าเลย ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดภาพและข้อความเตือน การห้ามโฆษณา หรือการเก็บภาษี ซึ่งเป็นมาตรการที่ธนาคารโลก หรือ World Bank ระบุว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดในการควบคุมการบริโภคยาสูบ ตามกรอบยุทธศาสตร์ MPOWER นอกจากนี้ การห้ามนี้ยังทำให้เกิดตลาดมืดในประเทศ เกิดปัญหาการลักลอบซื้อขายที่ทำให้รายได้รัฐสูญหายจำนวนมากจากจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นเกือบถึง 1 ล้านคนในปัจจุบัน

ในหลายประเทศ การเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มถูกนำมาใช้เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ยกตัวอย่างประเทศจีน ซึ่งจากรายงานล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2022 เผยว่ารัฐบาลจีนกำลังพิจารณาการเก็บภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า โดยมีการกำหนดอัตราภาษีการบริโภคที่ 36% สำหรับการผลิตและนำเข้า และอัตราขายส่งที่ 11% เพื่อเพิ่มรายได้รัฐในขณะที่ยังคงควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ เช่นเดียวกับสาธารณรัฐมอลตา ประเทศที่เล็กที่สุดในสหภาพยุโรป หนังสือพิมพ์มอลตาทูเดีย์รายงานว่ารัฐบาลจะเริ่มเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะมีผลให้ราคาของน้ำยานิโคตินราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 1.30 ยูโรหรือ 26% และจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 ยูโรจากภาษีนี้ในปีแรก ขณะที่มาเลเซียเองก็กำลังดำเนินการในลักษณะเดียวกัน โดยมีแผนดึงภาษีบุหรี่ไฟฟ้ามาใช้สนับสนุนการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน

การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างสมดุลและรอบคอบ แทนที่จะห้ามโดยสิ้นเชิง จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการปกป้องเยาวชน ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันยังช่วยควบคุมการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้น

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบรางวัลนิสิตนักศึกษา ในการประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน'

วันนี้ (11 พ.ย.67) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัลการประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน' โดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นพวัฒน์ อารยางกูร รองจเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน' เพื่อคัดเลือกแนวความคิดในการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมในการให้บริการประชาชน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่มีความสามารถด้านสถาปัตยกรรม เข้าร่วมประกวดเสนอแนวความคิดในการออกแบบ โดยมีเอกลักษณ์และความยั่งยืน ในระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 20 กันยายน 2567 และได้ประสานความร่วมมือกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการคัดเลือกผลงานที่ได้รับรางวัล โดยมีผู้ที่ได้รับรางวัล ดังนี้

- รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ นายสิวรัฐ ขวัญจันทร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ นายวัฒนา พรมเสน , นายณัฐปคัลป์ ศรีทรัพย์ , นายคมสัน กลั่นเกษร ,นายชลัมพล ทองแย้ม และนางสาวปวริศา พรมใต้ร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย
- รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ นางสาวพฤกษฌา ทองอ่วมใหญ่ , นางสาวบัณฑิตา ศิรินิคม , นายอนันดา วัฒนา , นางสาวทิพจุฑา ทวิชศรี และ นายทวีศักดิ์ดา หงอเทียด จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
- รางวัล POPULAR VOTE เงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ นายวัชรศักดิ์ แรมประชา , นายวรภพ ผิวนวล , นายยุทธพิชัย อ่องลออ และ นายสุรพงษ์ บัวประดิษฐ์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย

ทั้งนี้ การประกวดออกแบบ 'สถานีตำรวจเพื่อประชาชน' นั้น นับเป็นก้าวแรกในการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการออกแบบสถานีตำรวจเพื่อให้บริการแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งผลงานดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นต้นแบบในการก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top