Saturday, 21 June 2025
NEWS FEED

‘รมว.แรงงาน’ แจงขั้นตอนลงทะเบียนออนไลน์ แก่ผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยง ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เริ่ม 17 เม.ย.นี้ ที่ ศูนย์เยาวชนฯ ไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง กทม.

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยหลายกรณีเชื่อมโยงกับสถานประกอบการประเภทสถานบันเทิง ผับ บาร์ ซึ่ง สปสช. ได้แจ้งให้พี่น้องประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ในโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการคัดกรองโรคและการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรค นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยผู้ประกันตนจากกรณีการแพร่ระบาดดังกล่าว จึงกำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และ สปสช. เพิ่มช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด-19 เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะเริ่มต้นวันที่ 17 เมษายนนี้ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ทางกระทรวงแรงงานได้หารือกำหนดแนวทางที่จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยจะเปิดให้ผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจสามารถลงทะเบียนจองคิวตรวจผ่านระบบแอพพลิเคชั่นออนไลน์ สำหรับผู้ประกันตนที่จะได้เข้าตรวจคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนรายใดตรวจพบเชื้อโควิด-19 จะต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดสำนักงานประกันสังคม โดยจะได้รับการรักษาฟรี ซึ่งมีอยู่จำนวน 81 แห่ง ที่มีความพร้อม มีเตียงรองรับกว่า 1,000 เตียง มีHQ 200 กว่าเตียง

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ฟรี จะต้องเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือ สปสช. กำหนด ดังนี้

ก. ตามนิยามผู้สงสัยติดเชื้อโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการต่อไปนี้ คือ มีไข้ อุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ น้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส มีผื่นขึ้น ตาแดง

หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย  หรือหายใจลำบาก ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยง คือ

1.) 14 วันก่อนเริ่มป่วย มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้

1.1) สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโควิด-19

1.2) ไปในสถานที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล สถานบันเทิง หรือขนส่งสาธารณะที่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

1.3) เดินทางไปยัง/มาจาก/หรืออยู่อาศัย ในประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

1.4) ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรค

2.) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19

ข.กรณีสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 หรือไปในสถานที่มีการระบาดมา ไม่มีอาการป่วย แต่สงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 สามารถไปรับการตรวจคัดกรองได้ โดย สปสช.ได้ปรับแก้ประกาศให้ครอบคลุมการตรวจคัดกรองโควิด-19 ตามดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายกับ สปสช.ได้ โดยไม่ต้องเรียกเก็บจากผู้ป่วย

3.) ขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อจองคิวตรวจของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33,39, และ 40 สามารถเข้าเว็บไซต์ https://www.google.com แล้วพิมพ์คำว่า แรงงานเราสู้ด้วยกัน แล้วคลิกที่เว็บไซต์ https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php จากนั้นผู้ประกันตนกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือเลขพาสปอร์ต กรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นบุคคลที่มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วย โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 15 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยแต่ละวันลงทะเบียนได้วันละ 3,000 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 1,500 คน ช่วงบ่าย 1,500 คน หากผู้ประกันตนรายใดลงทะเบียนแล้วไม่มาตรวจตามนัดจะต้องลงทะเบียนใหม่ และเมื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด -19 เรียบร้อยแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที เนื่องจากผลการตรวจจะส่งทาง SMS ให้ผู้ประกันตนทราบตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้

“ขอเน้นย้ำว่า ผู้ประกันตนที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขและ สปสช.กำหนด ยังคงสามารถตรวจโควิด-19 ได้ฟรีทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน การเพิ่มหน่วยบริการตรวจที่จะเปิดแห่งแรกใน กทม. นั้น เป็นการเพิ่มช่องทางหรือทางเลือกหนึ่งเพื่อบริการผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ลดความแออัดหรือรอคิวนาน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะพิจารณาเพิ่มหน่วยบริการสำหรับผู้ประกันตนให้มากขึ้นต่อไป” รมว.สุชาติ กล่าวในตอนท้าย

กรมบัญชีกลาง เปิดทาง ข้าราชการ และบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงได้ โดยไม่ต้องทดรองจ่ายเงิน

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัด ผู้รับบำนาญ (ผู้มีสิทธิ) และบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงได้ โดยไม่ต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน โดยผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของทางราชการและสถานพยาบาลเอกชน หากแพทย์ได้สอบสวนโรค หรือแพทย์วินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้

ทั้งนี้หากรักษาในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้ป่วยนอกผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถเบิกค่าตรวจได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,200 บาทต่อครั้ง ส่วนกรณีติดเชื้อโควิด และสถานพยาบาลรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยในแล้ว สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมได้ เช่น ค่าตรวจเบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,200 บาทต่อครั้ง ค่าห้องพักสำหรับควบคุมหรือดูแลรักษา เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,500 บาทต่อวัน ค่ายารักษาเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิด เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 7,200 บาท

ขณะที่ในกรณีแพทย์ผู้รักษาเห็นว่า อาการดีขึ้นสามารถส่งตัวไปพักฟื้น ณ สถานที่ที่สถานพยาบาลของทางราชการได้จัดหาไว้เป็นการเฉพาะ ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อวัน และในกรณีที่สถานพยาบาลของทางราชการมีความจำเป็นต้องส่งตัวผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิดผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการนอกเหนือจากค่าพาหนะส่งต่อ รายการค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและค่าบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อบนรถพาหนะส่งต่อ ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 3,700 บาท ต่อครั้งที่มีการส่งต่อ

ส่วนสถานพยาบาลเอกชน กรณีติดเชื้อโควิด-19 การเบิกค่ารักษาพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่สถานพยาบาลเอกชนรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน จนถึงสิ้นสุดการรักษา รวมถึงการส่งตัวผู้ป่วยไปเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลเอกชนแห่งอื่นที่ได้จัดเตรียมไว้ กรณีไม่ติดเชื้อโควิด-19 การเบิกค่ารักษาพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่สถานพยาบาลเอกชนรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน จนถึงผู้ป่วยได้รับแจ้งผลการตรวจที่ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19

 

ติดเชื้ออย่าตระเวนหาเตียง!! ’สาธารณสุข’ เปิดสายด่วน-ไลน์ ‘สบายดีบอต’ เพิ่มช่องทางเช็กเตียงว่าง ยันเตียงมีเพียงพอรองรับผู้ป่วย

14 เมษายน 2564 นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการบริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกรายต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งระหว่างรอเตียงขอให้อยู่บ้านไม่เดินทางออกไปข้างนอก โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาประชาชนที่ไปตรวจหาเชื้อ-19 แล้วพบว่ามีผลบวกคือติดเชื้อ จึงกังวลเรื่องการหาเตียงเพื่อทำการรักษา ซึ่งในช่วงแรกยืนยันว่าโรงพยาบาลเอกชน มีความสามารถในตรวจแลบได้ดี แต่ระยะแรกการองรับเตียงไม่ทันยังขลุกขลัก เพราะมีตัวเลขมาก ตอนนี้มีการหารือร่วมกันหลายหน่วยงานรองรับให้ผู้ติดเชื้อทุกคน ยืนยันว่าการจัดการเตียงในพื้นที่กทม.และปริมณฑล มีเพียงพอ

ทั้งนี้ จากข้อมูลวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบเตียงในสังกัดโรงพยาบาลต่างๆทุกแห่งครอบคลุมทั้งกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต กระทรวงกลาโหม กทม.โรงพยาบาลตำรวจ โรงเรียนแพทย์ เอกชน รวม 4,703 เตียง และเตียงสนาม อีก 1,482 เตียง รวมมีทั้งหมด 6,185 เตียง และมีการเข้ามาใช้เตียงแล้วแล้ว 3,460 เตียง และมีเตียงว่างในโรงพยาบาลเอกชน 1,000 เตียง แต่ที่ยังเข้าใช้ไมได้เพราะต้องรองรับผู้ป่วยหนัก และกึ่งไอซียู จึงไม่สามารถนำคนที่ไม่มีอาการรุนแรงเข้าไปใช้ นอกจากนี้ยังจัดหา Hospitel อีก 3,000 เตียง สำหรับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมกำลังดำเนินการเตรียม โรงพยาบาลสนาม ส่วนกรมการแพทย์เตรียมเปิด Hospitel คาดว่ารับได้ 450 เตียง (อีก 2 วัน) และโรงพยาบาลรามาธิบดี เตรียมเปิด Hospitel อีก 2 แห่ง

นพ.ณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการทำสายด่วน จัดหาเตียงใน กทม. ดังนี้ 1669 สายด่วน 1668 สายด่วนกรมการแพทย์ (เฉพาะกิจ) รับสาย 08.00-22.00 น.ทุกวัน 1330 สายด่วนสปสช.รับสายตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และทางแอปพลิเคชันไลน์ "สบายดีบอต" เพียงเพิ่มเพื่อนและกรอกข้อมูล ซึ่งสำหรับผู้ป่วยที่ติดต่อหาเตียงอาจมีความล่าช้า 2-3 วัน แต่ขอให้รอไม่ตระเวนออกไปข้างนอกซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อแก่ผู้อื่นได้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กำชับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดูแลพระสงฆ์ช่วงโควิด-19 ระบาด หลังพบวัดในจังหวัดแพร่ ต้องปิดวัดกักตัว 14 วัน บิณฑบาตไม่ได้

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พระสงฆ์สังกัดวัดเมธังกราวาส จ.แพร่ ต้องปิดวัด กักตัว งดทุกิจกรรมสงฆ์ และบิณฑบาตไม่ได้ ว่า ได้สั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่ามีพระที่เดินทางกลับจากพื้นที่กรุงเทพมหานครและพบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกจริง คือ พระมหากิติชัย  รองเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส โดยมีไทม์ไลน์ ดังนี้

 

1. วันที่ 7 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย รองเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ และมีคนขับรถไปรับที่สนามบิน

2. วันที่ 8 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย รองเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส ร่วมฉันภัตตาหารกับพระในวัด จำนวน 4 รูป

3. วันที่ 9 เมษายน 2564 ได้รับแจ้งจากสาธารณสุขจังหวัด ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด เดินทางจากเที่ยวบินเดียวกันกับพระมหากิติชัย ทางสาธารณสุขจังหวัดแจ้งให้กักตัว

4. วันที่ 10 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย และพระภิกษุอีก 4 รูป และโยมใกล้ชิด 4 คน กักตัวอยู่ในห้องพัก

5. วันที่ 11 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย และพระภิกษุอีก 4 รูป และโยมใกล้ชิด 4 คน กักตัวอยู่ในห้องพัก ในวันเดียวกัน พระครูเวทย์สังฆกิจ เจ้าอาวาส กลับมาจากจังหวัดน่าน ตอนเย็น (ไม่ได้ใกล้ชิดกับพระมหากิติชัย แต่ ใกล้ชิดกับพระ 4 รูป และ โยมใกล้ชิด 4 คน)

6. วันที่ 12 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.แพร่ และรอฟังผลที่วัดเมธังกราวาส

7. วันที่ 13 เมษายน 2564 พระมหากิติชัย ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.แพร่ราม ผลออกเป็นบวก (ติดเชื้อ) ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่

8. วันที่ 14 เมษายน 2564 พระภิกษุและโยม 8 รูป/คน ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.แพร่ราม ผลออกเป็นลบทั้ง 8 รูป/คน (ไม่พบเชื้อ) แต่ทางโรงพยาบาลแพร่ราม แนะนำให้กักตัวต่ออีก 14 วัน

นายอนุชา กล่าวว่า  ขอแสดงความเป็นห่วงต่อคณะสงฆ์ ทั้งที่ปฏิบัติศาสนกิจในวัด และที่อยู่ระหว่างการเดินทาง ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยแจ้งประสานไปยังวัดผ่านทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอความร่วมมือให้วัดทุกวัดปฏิบัติตามมติ มหาเถรสมาคม(มส.) และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแนวทางและมาตรการในการรณรงค์ประเพณีสงกรานต์ ปลอดภัยได้บุญ พุทธศักราช 2564 ที่ขอความร่วมมือทุกวัดปฏิบัติตามมาตรการ และพิจารณาจัดศาสนาพิธีและส่งเสริมโบราณประเพณีของวัดตามแบบนิวนอร์มอล ที่มหาเถรสมาคมได้มีมติให้ทุกวัดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  โดยให้มีการตรวจคัดกรองพุทธศาสนิกชนที่จะมาทำบุญ ไหว้พระ รวมถึงทำความสะอาดบริเวณวัด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การใช้เจลล้างมือ มีป้ายแนะนำญาติโยม โดยขอความร่วมมือจาก อสม. ในพื้นที่ในการดูแลหากมีการแพร่ระบาด จึงเชื่อมั่นว่าทุกวัดได้ถือปฏิบัติตามมาตรการที่ขอความร่วมมือดังกล่าว

 

คุณหญิงกัลยา ปลื้ม เตรียมจัดอบรมออนไลน์แกนนำโค้ดดิ้งต่อ หลังปั้นศึกษานิเทศก์โค้ดดิ้งครบทุกพื้นที่ และมีครูอบรมทั่วประเทศแล้วกว่าสองแสนคน

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอขอบคุณครู และบุคลากรที่เกี่ยวข้องที่สนใจเข้าอบรมหลักสูตรโค้ดดิ้งเป็นจำนวนมาก แม้ในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เผยหลังเปิดอบรมหลักสูตรสำหรับศึกษานิเทศก์ Coding Mentor (CM) รุ่นที่ 2 ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีศึกษานิเทศก์ ทั่วประเทศเข้าอบรมทั้ง 2 รุ่นในปี 2563 และปี 2564 กว่า 800 คน ครบทุกเขตพื้นที่ พร้อมเดินหน้าต่อเตรียมจัดอบรมหลักสูตรสำหรับแกนนำ Coding Core Training (CCT) ในเดือน พ.ค.นี้อีก 600 คน

นางดรุณวรรณ  ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้โค้ดดิ้งในโรงเรียนว่าขณะนี้เดินหน้าไปค่อนข้างมาก แม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มีการเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ครูทั่วประเทศสามารถที่จะเรียนโค้ดดิ้งได้ ซึ่งปัจจุบันมีครูเข้ารับการอบรมไปแล้วทั่วประเทศกว่า 2 แสนคน  รวมถึงล่าสุดได้มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร อบรมการให้คำปรึกษาและการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับนักศึกษานิเทศก์ Coding Mentor (CM) รุ่นที่ 2 รูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบ ZOOM ทำให้ปัจจุบันมีศึกษานิเทศก์ Coding ทั่วประเทศแล้วกว่า 800 คน โดยผู้อบรมจะผ่านการอบรมโดยสมบูรณ์เมื่อส่งรายงานผลการนิเทศ Coding ของเขต หลังจากอบรมแล้วภายใน 2 เดือน โดยให้ลงมือปฏิบัติจริงด้วย ที่สำคัญคือสามารถนำเอาผลการนิเทศไปวางแผนพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าทางวิชาชีพได้

“การอบรมศึกษานิเทศก์ครั้งนี้ ใช้ระบบ ZOOM แต่สื่อสารสองทาง มีการแบ่งกลุ่มย่อยและมีวิทยากร กลุ่มย่อยนำอภิปราย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้ารับการอบรมอย่างมาก จนหลายคนไม่กล้าปิดกล้อง และไม่ยอมไปห้องน้ำ เพราะกลัวพลาดสาระสำคัญ รวมไปถึงตอนนี้มีกลุ่มแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการของศึกษานิเทศก์มีรุ่นพี่ที่ผ่านการอบรมมาช่วยกันพัฒนาและตอบข้อซักถาม ทุกคนมีความสนใจและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เป็นอย่างมาก ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี” นางดรุณวรรณ กล่าว

ส่วนในเดือนพฤษภาคมนี้มีเป้าหมายจะจัดอบรมเพิ่มพูนศักยภาพการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับวิทยากรแกนนำ Coding Core Trainer (CCT) อีกจำนวนกว่า 600 คน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจเข้ารับการอบรมเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อด้วยว่า คุณหญิงกัลยา ขอขอบคุณและให้กำลังใจครูทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ารับการอบรมและเห็นถึงความสำคัญของการเรียนโค้ดดิ้ง และกล่าวย้ำเสมอว่า “Covid cannot stop Coding” ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการเรียนโค้ดดิ้งในปีงบประมาณ 2564 นั้นคุณหญิงกัลยาได้ให้นโยบายโดยจะให้ขับเคลื่อนการเรียนการสอนโค้ดดิ้งให้ได้มากที่สุด เพื่อส่งเสริมผู้เรียนให้มีทักษะคิดวิเคราะห์ต่อไป

ทั้งนี้การเรียนการสอนโค้ดดิ้งจะไม่มุ่งเน้นไปที่ครูและนักเรียนเท่านั้น แต่จะกระจายการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย ภายใต้แนวคิด “Coding for All” เพราะไม่ว่าใครก็ตามจะต้องเรียนรู้และเข้าใจการคิดอย่างเป็นระบบ และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุมีผล คิดเป็นขั้นเป็นตอน เเก้ปัญหาเป็น และถือเป็นการเตรียมคนในศตวรรษที่ 21  อย่างรู้เท่าทันดิจิทัลอักด้วย

 

กรมการขนส่งทางบก แจ้งงดทำใบขับขี่ใหม่ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ตามข้อสั่งการ รมว.คมนาคม ส่วนการต่ออายุ จองคิวดำเนินการล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เท่านั้น

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างเกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น กรมการขนส่งทางบก จึงจำเป็นต้องงดการอบรมด้านใบอนุญาตขับรถ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีกิจกรรมที่งดให้บริการดังนี้

1. งดการอบรมและทดสอบ ณ สำนักงานขนส่ง สำหรับผู้ขอใหม่ ทั้งสำหรับกา รขอรับใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถใหม่ทุกชนิด ยกเว้น กรณีการผ่านการอบรมและทดสอบของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ให้นำผลผ่านการอบรมมาดำเนินการ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ออกหนังสือรับรอง

2. งดการอบรม ณ สำนักงานขนส่ง สำหรับการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถทุกชนิด โดยให้เข้าอบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com สามารถนำผลการอบรมออนไลน์มาเป็นหลักฐานเพื่อต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้

3. งดการออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านทะเบียนและภาษีรถ และด้านใบอนุญาตขับรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชน (Shop Thru for Tax) และศูนย์บริการร่วม

ทั้งนี้ ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ผ่อนผันการใช้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง กับผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่สิ้นอายุแล้ว ยังสามารถใช้แสดงตนได้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 และในส่วนของผู้ที่จองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งตรงกับช่วงที่กรมการขนส่งทางบกงดให้บริการ จะยังคงได้รับสิทธิในการเข้ารับบริการเมื่อมีประกาศเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง และสำหรับผู้ที่ใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถสิ้นอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ในระหว่างวันที่ 10 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเยียวยารองรับ ดังนี้ ผู้ที่ใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สิ้นอายุเกิน 1 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบข้อเขียน กรณีสิ้นอายุเกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ หากเป็นใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สิ้นอายุเกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถที่ไม่มีขั้นตอนการอบรมและทดสอบที่สำนักงานขนส่ง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติในวันและเวลาราชการ เช่น การออกใบอนุญาตขับรถให้ผู้ที่มีหนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาหรือโรงเรียนสอนขับรถมาก่อนแล้ว การออกใบแทนกรณีใบอนุญาตขับรถชำรุดหรือสูญหาย การเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถชั่วคราว 2 ปี เป็นส่วนบุคคล 5 ปี การต่ออายุใบอนุญาตขับรถที่มีผลผ่านการอบรมออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ทาง www.dlt-elearning.com โดยการต่ออายุใบอนุญาตขับรถที่มีผลการอบรมออนไลน์ สามารถนำผลการอบรมติดต่อสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายและออกใบอนุญาตขับรถ ประกอบด้วย การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์, รถยนต์สามล้อ, รถจักรยานยนต์) ระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ หรือ แท็กซี่, รถยนต์สามล้อสาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง และการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผลการอบรมออนไลน์มีอายุ 6 เดือนนับแต่วันที่ผ่านการอบรม ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่มีความจำเป็นไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการในด้านใบอนุญาตขับรถ หรือด้านทะเบียนและภาษี ควรงดเว้นการติดต่อที่สำนักงานขนส่ง หรือใช้บริการระบบออนไลน์ที่กรมการขนส่งทางบกมีไว้รองรับ

ในกรณีจำเป็นที่ต้องมาดำเนินการที่สำนักงานขนส่ง ขอให้จองคิวดำเนินการล่วงหน้า ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เท่านั้น และขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อแพร่กระจายของโรค

 

​​​​​​​โควิดระบาดหนัก รพ.จุฬาลงกรณ์ ประกาศ งดรับผู้ป่วยนอก งดผ่าตัด ยกเว้นจำเป็นเร่งด่วน เสี่ยงแพร่เชื้อ ตั้งแต่วันที่ 16-30 เมษายน 2564

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ออกประกาศปรับการให้บริการผู้ป่วย จากสถานการณ์ไวรัสโควิดแพร่ระบาด ดังนี้

ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID-19 ) ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อการบริการในภาพรวมของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาลฯ

ดังนั้น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จึงขอเรียนปรับงานบริการให้ทราบ และแจ้ง ดังนี้

งดบริการผู้ป่วยนอกทั้งคลินิกในเวลาราชการและคลินิกพิเศษ

นอกเวลาราชการ ยกเว้นรายที่จำเป็นเร่งด่วน ฉุกเฉิน

งดผ่าตัดและหัตถการที่ไม่จำเป็น ยกเว้นรายที่จำเป็น เร่งด่วน ฉุกเฉิน

โดยทางโรงพยาบาลฯจะติดต่อประสานงานเพื่อให้ผู้ป่วยทุกท่านได้รับการบริการที่เหมาะสม และขอให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน โปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางมาโรงพยาบาลฯ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16-30 เมษายน 2564 และหากมีการเปลี่ยนแปลง ทางโรงพยาบาลฯ จะแจ้งข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมตามลำดับต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-256-4000

'ประชาธิปัตย์' หนุนเยาวชนเล่น E-Sports เตรียมส่งทีม 'ยุวประชาธิปัตย์' ร่วมแข่ง E-Sports ก่อนจัดเองแบบออนไลน์ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ กทม. มุ่งขยายฐานเยาวชน

 นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าหลังจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเปิดตัว QR Code “Democrat for All” เพื่อรับสมัครกลุ่มคนเลือดใหม่คนรุ่นใหม่แบบออนไลน์ มาร่วมขับเคลื่อนพรรคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และได้รับการตอบรับจากคนรุ่นใหม่สนใจสมัครมาร่วมงานกับพรรคเป็นจำนวนมาก พรรคจึงมีแผนงานที่จะขับเคลื่อนงานทางด้านกิจการเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่ โดยเน้นการสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตอบโจทย์ และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ นอกเหนือไปจากการจัดอบรมยุวประชาธิปัตย์ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องแล้วคณะกรรมการกิจการเยาวชนของพรรคฯ ที่มี ดร.สรรเสริญ สมะลาภา เป็นประธานฯ ยังได้มีแผนงานเตรียมจัดการแข่งขัน E-Sports หรือกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Sport) เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประเภทบุคคลหรือทีมที่เกี่ยวกับการแข่งขันวีดีโอเกมส์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เยาวชนทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย มีการแข่งขนในระดับนานาชาติทั้งซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเกมมิ่งและอีสปอร์ตมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด การจัดให้มีการแข่งขันกีฬา E-Sports จึงถือเป็นการสนับสนุนกีฬา E-Sports ให้แก่เยาวชนอย่างสร้างสรรค์ไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม และใช้กีฬา E-Sports ให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างอาชีพและรายได้ ห่างไกลจากการพนันและอบายมุขต่าง ๆ รวมถึงสร้างทักษะในการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหา และเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นกลุ่มอีกด้วย โดยจะจัดการแข่งขันแบบ Online เนื่องจากยังอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา(COVID-19) โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะมาจากพื้นที่การเลือกตั้งในกรุงเทพฯ จำนวน 30 เขต ซึ่งพื้นที่ 30 เขต จะเป็นผู้สนับสนุนและเข้าร่วมการแข่งขัน และจะแจ้งช่วงเวลาที่ชัดเจนอีกครั้งสำหรับผู้สนใจ 

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ของพรรค เข้าร่วมการแข่งขัน E-Sports ที่จัดโดยองค์กรอื่นด้วย นายพนาสิน จึงสวนันทน์ คณะกรรมการกิจการเยาวชน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการแข่งขันกีฬา E-Sports ได้เชิญชวนให้กลุ่มยุวประชาธิปัตย์ร่วมแข่งขันเกมมือถือออนไลน์ชื่อ Arena of Valor (“AoV” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “RoV”) ในเวที “SAT Valor City Tour 2021 ภาคเหนือ” ในนามพรรค ภายใต้ทีม “Young Democrat” ที่จัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ 19 เมษายน- 2 พฤษภาคม 2564 พร้อมเตรียมเงินอัดฉีดในกรณีที่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจรวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเยาวชนให้ใช้พลังอย่างสร้างสรรค์และไปในทิศทางที่ถูกต้อง

“พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้ให้ความสำคัญกับกิจการเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเปิดพื้นที่และให้โอกาสในการมาร่วมขับเคลื่อนพรรคมาโดยตลอด ทั้งในรูปแบบการช่วยงานพรรค อาทิ ร่วมเป็นคลังสมองของพรรค การร่วมทีมเป็นคณะทำงาน คณะที่ปรึกษา คณะอนุกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร การเป็นอาสาสมัครช่วยงานพรรคในพื้นที่ การร่วมกิจกรรมยุวประชาธิปัตย์ หรือการร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่พรรคจัดขึ้น รวมไปถึงการพิจารณาให้เป็นผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครท้องถิ่นในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัยที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยและเชื่อมั่นในพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีโอกาสร่วมกันขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกันได้อย่างแท้จริง” นางดรุณวรรณ กล่าว

เทศกาลสงกรานต์สี่วัน ดับแล้ว รวม 152 ราย บาดเจ็บ 1,494 คน สาเหตุหลักเมาแล้วขับเหมือนเดิม ด้านศปถ.ประสานทุกจังหวัดคุมเข้มดื่มแอลกอฮอล์ - ขับรถเร็ว

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เกิดอุบัติเหตุ 376 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 29 ราย ผู้บาดเจ็บ 392 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 36.44 ขับรถเร็วร้อยละ 28.72 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.86 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ61.70 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 41.76 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 34.57 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 31.91 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 27.32

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,913 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59,420 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 350,921 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 70,130 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,950 รายไม่สวมหมวกนิรภัย 17,530 รายโดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ กาฬสินธุ์ (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (17 คน)

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (10 – 13 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,465 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 152 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,494 คนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 20 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (65 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (8 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (69 คน)

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ในฐานะเลขานุการศูนย์ฯ  เปิดเผยว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงสี่วันที่ผ่านมาพบว่าถนนสายรองและเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง และพบว่ายังคงมีสาเหตุมาจากการดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครประจำจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของด่านชุมชนจุดตรวจ และจุดสกัด พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนเส้นทางสายรอง เน้นการกวดขันและป้องปรามผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงโดยเฉพาะการดื่มแล้วขับและขับรถเร็วในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ นอกจากนี้ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดทั้งด้านสถานที่ ช่วงเวลา และช่วงอายุของผู้ซื้อ ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนดื่มไม่ขับไม่ขับรถเร็ว และปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ 2564เป็นไปด้วยความปลอดภัย ที่สำคัญ อย่าลืมดูแลตนเองภายใต้มาตรการสาธารณสุข (DMHTT) เพื่อช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

‘เทพไท’ เรียกร้อง ผู้ติดเชื้อโควิด รับผิดชอบต่อสังคม จี้ รัฐเร่งดำเนินคดีเป็นตัวอย่าง

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ Facebook live กรณีผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เดินทางกลับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า กรณีดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวในสังคมโซเชี่ยลถึงขั้นประณามถามหาความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของบุคคลอื่นอีกในโอกาสต่อไป

ซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้หญิงคนหนึ่งที่สร้างผลกระทบต่อสังคมเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้คนไทยทุกคน ได้มีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มากกว่าเหตุผลส่วนตัว การที่มีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งได้รับการตรวจเชื้อในโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร แต่มีความต้องการที่จะกลับมารักษาอาการป่วยที่ภูมิลำเนาของตัวเองนั้น ก็ควรจะหาวิธีการ หรือแจ้งต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับโรค เพื่อจะได้หาแนวทางหรือวิธีการส่งตัวกลับภูมิลำเนาเดิมได้อย่างปลอดภัย จะได้ไม่มีผลกระทบต่อสังคม

จึงอยากจะให้คนไทยทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอให้เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของส่วนตน เพราะถ้าหากคนไทยทุกคน ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ก็จะขยายการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว และมีผลกระทบต่อสังคมส่วนรวม ทำให้ประเทศชาติมีผู้ติดเชื้อมาก จนไม่สามารถจะรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้อย่างแน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top