Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

นฤมล ห่วงคนงานแคมป์ก่อสร้าง ส่งทีมมอบข้าวกล่องต่อเนื่อง 

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้แคมป์คนงานถูกสั่งปิดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีคำสั่งหยุดก่อสร้างและห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ในคลัสเตอร์แคมป์คนงาน ซึ่งตนเองได้ส่งทีมงานนำข้าวกล่องไปส่งมอบให้ยังแคมป์คนงานต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ได้ส่งมอบข้าวกล่องไปยังแคมป์คนงานแล้วรวม 12 แห่ง ประกอบด้วย แห่งที่ 1 แคมป์คนงานบริษัท ทวีพรเทคโนโลยี จำกัด บริเวณข้างโรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ แห่งที่ 2 แคมป์คนงานบริษัท ซินเทค เทคโนโลยี คอนสตรัคชั่น จำกัด  บริเวณซอยมไหสวรรย์ 6 แห่งที่ 3 แคมป์คนงานบริษัท ซินเทค จำกัด (มหาชน) บริเวณสามแยกยานนาวา

แห่งที่ 4 แคมป์คนงานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการยานนาเวศ แห่งที่ 5 แคมป์คนงาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริเวณข้างหอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 6 แคมป์คนงานบริษัท สยามมิทัล คอน จำกัด บริเวณซอยอินทามะระ 15 แห่งที่ 7 แคมป์คนงานบริษัท วิศวภัทร์ จำกัด บริเวณซอยวิภาวดี 1 แห่งที่ 8 บริษัท นวรัตน์พัฒนาการ จำกัด บริเวณแขวงรามอินทรา เขตคันนายาว แห่งที่ 9 แคมป์คนงานบริษัท พรพระนคร จำกัด บริเวณซอยรามคำแหง 7 

รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแคมป์คนงาน 3 แห่งที่ได้ส่งมอบข้าวกล่องในวันนี้ ประกอบด้วย แห่งที่ 10 แคมป์คนงานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)  บริเวณศูนย์การค้าโชว์ ดีซี พระราม 9 แห่งที่ 11 แคมป์คนงานบริษัท ไทยทาเคนาคาสากลก่อสร้าง จำกัด บริเวณถนนจตุรทิศ และ แห่งที่ 12 แคมป์คนงานบริษัท ฤทธา จำกัด บริเวณถนนพระราม 9 และในวันต่อไปจะได้กระจายไปยังแคมป์ต่าง ๆ เพิ่มเติมให้ทั่วถึงได้มากที่สุด เพื่อส่งมอบกำลังใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว หากมีอะไรที่ต้องการให้ช่วยเหลือเพิ่มเติม ตนเองยินดีที่จะรับฟังและพร้อมที่จะเป็นกระบอกเสียงส่งต่อไปยังรัฐบาล เพื่อร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องแรงงานทุกคน และฝากถึงพี่น้องแรงงานทุกคนในการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยสบู่หรือฉีดพ่นแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและบุคคลรอบข้าง และเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

คุณกัลย์สุดา ยะมา พนักงาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แคมป์พระราม 9 กล่าวว่า  ทุกวันบริษัทจะจัดเตรียมอาหารสำหรับพนักงานในแคมป์ครบ 3 มื้อ  แต่จะมีบางมื้อที่หน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาให้การสนับสนุน ซึ่งในวันนี้ต้องขอขอบคุณกระทรวงแรงงานเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อน  สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯ มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก โดยจะแบ่งโซนพื้นที่เป็นสัดส่วนสำหรับผู้ติดเชื้อและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หากพบผู้ติดเชื้อจะมีจุดพักคอยเพื่อนำตัวไปทำการรักษาต่อไป

“ธรรมนัส"ตรวจรพ.สนามพะเยา1,000เตียง รองรับ “พาพี่น้องพะเยากลับบ้าน" รักษาตัวจากโควิด-19

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)​ลงพื้นที่จ.พะเยา ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมจัดตั้งรพ.สนาม รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่สีแดงเข้ม และผู้ที่ตรวจพบติดเชื้อ ที่ต้องการกลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลได้

โดยร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า โครงการ”พาพี่น้องพะเยากลับบ้าน"ทางองค์การบริหารส่วนจ.พะเยา ร่วมกับหลายหน่วยงาน ได้จัดเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง โดยการสนับสนุนสถานที่ จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ซึ่งการดูจะเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิดอย่างเข้มงวด นอกจากนั้นจังหวัดอื่นที่ในพื้นที่ภาคเหนือ8 จ.ที่ตนได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแล ได้จัดเตรียมความพร้อมไว้เช่นกัน หาก บุคคลใกต้องย้ายมารักษาตัวในพื้นที่จ.พะเยา ให้ปฏิบัติตามกระบวนการที่องค์การบริหารส่วนจ.พะเยา ประกาศไว้ หรือติดต่อศูนย์ประสานงานรับคนพะเยากลับบ้าน หมายเลข054-409123, 054-409124 ได้ทุกวัน โดยเบื้องต้นจะประสานกรมทางหลวงพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง ในการสนับสนุนจัดจุดพักระหว่างการเดินทางหนึ่งจุด ภายใต้มาตรการดูแลของสาธารณสุขอย่างเข้มแข็ง 

ทบ. ฉีดวัคซีนSINOVAC สร้างภูมิคุ้มกันทหารใหม่ครบทุกนาย-จนท.ปฏิบัติงานด่านหน้า พร้อมขอบคุณรัฐบาล มอบวัคซีนให้กำลังพล

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผนฝยว่าตามที่กองทัพบกได้รับทหารใหม่ผลัด1/64เข้าประจำการในเดือนกรกฎาคม2564  ซึ่งอยู่ในช่วงของการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารของกองทัพบกดำเนินตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาด โดยเฉพาะได้เตรียมแผนการฉีดวัคซีน ให้กับทหารใหม่และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกและดูแลทหารใหม่ทุกส่วน อาทิ ครูฝึก ผู้ฝึก ผู้ช่วยครูฝึก ส่วนสนับสนุนด้านอาหาร สถานที่ งานธุรการ เป็นต้น 
 
กองทัพบกได้นำวัคซีน SINOVAC ที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ทหารใหม่และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ ครบทุกนายเรียบร้อยแล้วเมื่อ  23 ก.ค.64 แยกเป็น ทหารกองประจำการผลัด 1/64 จำนวน 34,822 นาย และ เจ้าหน้าที่หน่วยฝึกทหารใหม่จำนวน 312 หน่วยฝึก  15,635 นาย การฉีดวัคซีนเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข ไม่พบกำลังพลเกิดอาการข้างเคียงรุนแรงหรือแพ้วัคซีน 
 
นอกจากนี้ที่ผ่านมากองทัพบกยังได้นำวัคซีนSINOVAC ที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล ฉีดให้แก่กำลังพลส่วนอื่นๆเช่นกันได้แก่ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด่านหน้า กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ,บุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพบก ในภาพรวมกำลังพลของกองทัพบกได้ฉีดวัคซีนSINOVAC ทั้งในส่วนกำลังพลด่านหน้า ทหารใหม่รวมทั้งกำลังพลและครอบครัวที่เข้ารับวัคซีนSINOVAC ตามระบบของรัฐบาลแล้วทั้งสิ้น 114,000นาย ทำให้กำลังพลสามารถปฏิบัติภารกิจในสถานการณ์โควิดในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างเข้มแข็งและปลอดภัย
 
ทั้งนี้ กองทัพบกขอขอบคุณรัฐบาลและ ศบค.ที่ได้สนับสนุนวัคซีน SINOVAC เพื่อการสร้างภูมิคุ้มกัน COVID-19 ให้กับทหารใหม่ กำลังพลและเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์โควิด  ถือเป็นวัคซีนที่ได้รับในเวลาที่เหมาะสมและรวดเร็ว ทำให้เกิดผลในด้านการป้องกันโรคทันที สร้างความมั่นใจในเรื่องภูมิคุ้มกันและสุขภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าและในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด  ในส่วนของทหารใหม่ก็มีความมั่นใจในภูมิคุ้มกันของตนเอง ช่วยคลายความกังวลของครอบครัวทหารใหม่ และสร้างความพร้อมในการฝึกฝน เรียนรู้ เพื่อทำหน้าที่ทหารของชาติและประชาชนที่รออยู่ข้างหน้าได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม การได้รับวัคซีน ควบคู่ไปกับมาตรการพิทักษ์พลของกองทัพบก และการปฏิบัติตนเองอย่างเคร่งครัดในเรื่องวินัยทหารต้านโควิด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ใช้แอลกอฮอล์ ลดความแออัด รักษาระยะห่าง ล้างมือ  จะเป็นเกราะป้องกันโควิด ให้ทหารทุกนายมีความสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมออกไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือทุกภาคส่วนดูแลสังคมและประชาชนในห้วงเวลาสำคัญของชาติที่ต้องเผชิญกับสงครามเชื้อโรคในขณะนี้

“ณัฎฐ์ชนน”  ดีใจแทนชาวบ้าน  “รมว.คมนาคม” สั่งจัดขบวนรถไฟส่งตัวผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวกลับภูมิลำเนาฟรี มั่นใจสะดวก-ปลอดภัย

นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีคำสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จัดขบวนรถไฟโดยสารรับ-ส่ง ผู้ป่วยสีเขียวกลับภูมิลำเนาฟรี ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. ถึงวันที่ 31 ส.ค.64 เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วย และติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้ประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานใน กทม.และปริมณฑล ไม่สามารถเข้าถึงโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามได้ กระทรวงคมนาคมจึงเห็นว่า การใช้รถไฟรับ-ส่งตัวผู้ป่วยเป็นวิธีที่สะดวก ประหยัดและปลอดภัยที่สุด เนื่องจากมีห้องน้ำ-และโบกี้ที่กั้นระหว่างกัน ที่สำคัญแต่ละจังหวัดได้จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์และรถขนย้ายผู้ป่วยประจำจุด เพื่อรอรับ-ส่งตัวผู้ป่วยทันทีที่ถึงสถานีรถไฟปลายทางอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ รถไฟสายใต้จะเริ่มเดินขบวนในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ขบวน กทม.-หาดใหญ่ โดยผู้ป่วยจะต้องเดินทางมาถึงสถานีรถไฟจิตรลดา ถนนสวรรคโลกไม่เกินเวลา 06.00 น. ของแต่ละวัน เพื่อตรวจโรคก่อนเดินทาง ซึ่งจะจอด 6 สถานี  ได้แก่ เพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช  พัทลุง และชุมทางหาดใหญ่  รายละเอียดขอให้สอบถามรฟท. ทั้งนี้ ขอขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข รวมทั้งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ตลอดจนผู้ว่าฯ การรถไฟที่ให้มีโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น 

“บิ๊กแอร์บูล” ยินดี หรือน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดหญิง ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรก สร้างความฮึกเหิมและภาคภูมิใจให้กับทัพนักกีฬาไทย

พล.อ.ท.ฐานัตถ์  จันทร์อำไพ โฆษกกอองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค  วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดหญิง ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 โดยสามารถเอาชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกรเซียส จากสเปน ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีสุดท้าย ซึ่งน้องเทนนิสไม่ท้อถอยแม้คะแนนเป็นรอง จนสามารถพลิกเกมส์เอาชนะคู่ต่อสู้ได้และได้เหรียญทองแรกในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างมีวินัย ทุ่มเท และฝึกฝนแม้จะอยู่ห้วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงก็ตาม ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ได้สร้างความฮึกเหิมและภาคภูมิใจให้กับทัพนักกีฬาไทย

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ขอเชิญชวนกำลังพลกองทัพอากาศและประชาชนร่วมส่งกำลังใจเชียร์ จ่าอากาศโทหญิง จงกลพรรณ  กิติธรากุล นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย (ประเภทหญิงคู่) และ จุฑามาศ  จิตรพงศ์ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นหญิงทีมชาติไทย ซึ่งเป็นนักกีฬาสังกัดกองทัพอากาศ รวมถึงนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 ให้มีสติ มีความอดทนอดกลั้น ใช้ความเพียรและปัญญา เพื่อนำชัยชนะ เกียรติยศ และชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศไทย

โฆษกกห. ชี้ ทหาร-ตำรวจ เร่งเสริมกำลังลงพท.แดงเข้ม ร่วมกทม.-สธ. คัดแยกผู้ป่วยตามบ้านในชุมชน 50 เขต กทม. พร้อมเร่งฉีดวัคซีน ผู้สูงอายุ และคนกลุ่มโรคเสี่ยง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการเสริมกำลังตำรวจ ทหาร เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตโควิดที่ยังมีการแพร่ระบาด และพบผู้ป่วยติดเชื้อตามบ้านและชุมชนมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ จังหวัดสีแดงเข้มว่า เรากำลังเร่งช่วยกันคัดแยกผู้ป่วยเชิงรุก โดยทหาร ตำรวจได้จัดกำลังเสริมชุด CCRT ของ กทม. รวม 138 ชุด เร่งเข้าไปตรวจค้นหาเชิงรุกตามบ้านและชุมชนใน กทม. 50 เขต เพื่อแยกผู้ป่วยติดเชื้อออกจากชุมชน นำเข้าสู่ระบบการรักษาตามสถานพยาบาลที่กำหนด พร้อมทั้ง ฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่ม 8 โรคเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับถึงบ้านทันทีในคราวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นงานสำคัญเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันเร่งหยุดการกระจายของเชื้อร่วมกัน

ส่วนกรณีการเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ตกค้างตามบ้านและชุมชนว่า  กำลังทหารตำรวจ ได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วย” โดยจัดยานพาหนะกว่า 200 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ หนุนเสริมเข้าไปช่วยทำงานร่วมกับ กทม.และ กระทรวงสาธารณะสุขตลอด 24 ชม. (ติดต่อสายด่วน 191,1668, 1669, 1330 และ ศูนย์เคลื่อนย้ายฯ 062 4427903, 062 3502357 )  ช่วยเคลื่อนย้ายนำผู้ป่วยเข้ามาสู่ระบบการรักษาแล้ว รวม 14,635 ราย  พร้อมกันนี้  ทบ.ได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด” เพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกกรณี ฟรีตลอด 24 ชม. ทั้งการรับ - ส่ง ผู้ป่วยและผู้หายป่วย รวมทั้งเคลื่อนย้าย ฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อ  ขณะเดียวกันได้จัดยานพาหนะและอากาศยาน สนับสนุนส่งกลับผู้ป่วยที่สมัครใจไปรับการรักษาในภูมิลำเนาตามความพร้อมของจังหวัดปลายทาง 

เพื่อให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ทันต่อสถานการณ์   นรม.และรมว.กห. ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังลงพื้นที่ ตั้ง “จุดบริการประชาชน” ในชุมชน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยกำลังทหารได้กระจายลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ แล้ว รวม 110 จุด  โดยเป็นพื้นที่ใน  กทม. 44 จุด เช่น ชุมชนวัดมะกอก สามพะยา วัดลาดบัวขาว วัดสะพาน สวนพลู  ตลาดยิ่งเจริญและตลาดดินแดง เป็นต้น โดยประชาชนในพื้นที่สามารถแจ้งเหตุ เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ในทุกกรณี ซึ่งก็จะช่วยรองรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้น

พล.ท.คงชีพ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการสนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ว่า  กำลังทหารตำรวจได้สนับสนุน สธ.จัดตั้ง รพ.สนาม ต่อเนื่องมาแล้วกว่า 1 ปี ตั้งแต่ สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ มี.ค.63  ปัจจุบันมี รพ.สนาม ในหน่วยทหารรวม 34 แห่ง ใน 24 จว.รวม 6,135 เตียง ใช้หมุนเวียนดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องมา โดยบุคลากรทางการแพทย์ของ สธ.ร่วมกับกำลังพลของกองทัพที่จัดสนับสนุน

ทั้งนี้ นายกนัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทหารตำรวจ ใช้สโมสรทหาร ตำรวจ ทั่วประเทศ จัดตั้งเป็น รพ.สนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรงอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจและปรับปรุงสถานที่ร่วมกับสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด สำหรับสโมสรทหาร ตำรวจใน กทม. อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมเป็น รพ.สนาม โดย รพ.สนามสโมสร ทบ.รองรับผู้ป่วยได้ 300-400 ราย และ รพ.สนาม สโมสร ตร. รองรับผู้ป่วยได้ 200 ราย คาดว่าจะเร่งเปิดใช้ได้ภายใน 30 ก.ค.64

“สถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังรุนแรงขยายตัวเป็นวงกว้างต่อเนื่องยาวนานนี้  เป็นภัยต่อชีวิตและความยากลำบากของทุกครอบครัว ที่เราทุกคนจำเป็นต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วยเหลือดูแลกันและกัน ไม่เสียดสีโทษกล่าวว่าร้าย ทำลายกำลังใจกันเอง”พช.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ขอยืนยันว่า “เราจะสู้ไปด้วยกัน” โดยตำรวจและทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงหนักแน่นมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนทำงานร่วมบุคลากรทางการแพทย์และทุกหน่วยงาน ต่อสู้กับโรคร้ายแรงนี้ไปด้วยกันต่อไป อย่างเข้มแข็งและอดทน เพื่อช่วยเหลือดูแลอยู่เคียงข้างทุกคน โดยหากมีปัญหาในทุกกรณี ขอให้ติดต่อทหารตำรวจในพื้นที่และช่องทางการสื่อสารได้ตลอด 24 ชม.

“บิ๊กป้อม” ยินดี “น้องเทนนิส” คว้าเหรียญทองโอลิมปิก พร้อมส่งกำลังใจให้นักกีฬาทุกคน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ใน,านัประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้ชื่นชมและแสดงความยินดีกับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดสาวไทย ที่คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 

โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวระหว่างการลุ้นชมว่า เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและสูสีมากในรอบชิงชนะเลิศ ที่เห็นได้ถึงความแกร่ง ไหวพริบและความมุ่งมั่นของ “น้องเทนนิส” ตลอดการแข่งขัน  พร้อมขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณทีมงานและโค้ช รวมทั้งสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนให้การฝึกซ้อมนักกีฬาอย่างอุตสาหะต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อจำกัดในสถานการณ์โควิด-19

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวย้ำเพิ่มว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคนในทุกประเภทการแข่งขัน ขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยใจที่มุ่งมั่น เพื่อเป็นตัวแทนนำชัยชนะมาสู่คนไทยทั้งประเทศ และขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ติดตามเชียร์และส่งกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนในการแข่งขันพร้อมเพรียงกัน

นายกฯ ยินดี 'เทนนิส พาณิภัค' คว้า ทองแรกให้ทัพนักกีฬาไทย ชี้เป็นรางวัลแห่งความมุมานะ  เชิญชวนคนไทยร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยถึงวันที่ 8 ส.ค. นี้ 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีกับน.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดหญิง ในรุ่น 49 กก. และสมาคมเทควันโด ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 โดยเอาชนะอาเดรียนา เซเรโซ อิเกรเซียส จากสเปน เป็นเหรียญทองแรกในการแข่งขันครั้งนี้ ที่นำความภูมิใจให้กับทัพนักกีฬาไทย และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกของกีฬาเทควันโดไทย ถือเป็นรางวัลของความมุ่งมั่นตั้งใจของนักกีฬาไทย ที่ทุ่มเทและฝึกฝนแม้จะอยู่ห้วงเวลาและสถานการณ์ที่ยากลำบาก เชื่อว่าจะเป็นกำลังใจ เพิ่มแรงใจ และความกระตือรือร้นให้กับนักกีฬาไทยไนการแข่งขันประเภทอื่นๆ อีกด้วย  

ทั้งนี้ นายอนุชากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีส่งกำลังใจให้นักกีฬาทุกประเภท และยังได้เชิญชวนคนไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์กองทัพนักกีฬาไทย ทำหน้าที่ผู้แทนประเทศไทยแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 ถึงวันที่ 8 ส.ค. นี้ 

“บิ๊กป๊อก” ประชุมติดตามแก้ไขโควิด-19 ร่วมกับผู้ว่าฯ - นายอำเภอทั่วประเทศ - กทม.ย้ำ “บิ๊กตู่” สั่งไม่ให้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินการป้องกัน ควบคุม และแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิโอคินเฟอร์เรนซ์ร่วมกับนายทรงศักดิ์ ทองศรี นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตลอดจนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในด้านการสร้างระบบการส่งต่อผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดที่สามารถช่วยแบ่งเบาการบริหารสถานการณ์ระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งในขณะนี้การระบาดของโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รได้มีบัญชาให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ใดให้เข้าสู่ระบบโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขอให้ผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  สร้างการรับรู้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นพื้นฐานทำให้ลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ มาตรการ DMHTTA ได้แก่ รักษาระยะห่างระหว่างกัน ไม่พบปะหรือไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก การสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสม่ำเสมอ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเชื้อโควิด-19 ใช้แอปหมอชนะ/ไทยชนะ อย่างเข้มข้น ด้วยทุกกลไกของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หอกระจายข่าว และเสียงตามสายในพื้นที่ นอกจากนี้ให้ผู้ว่าฯ เร่งบูรณาการหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการสนับสนุนมาตรการในการบริหารจัดการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้การจัดการเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.และผู้ว่าฯ จังหวัดปริมณฑล ควบคุมการแพร่ระบาดผ่านกลไกและมาตรการอย่างเข้มข้น ในส่วนของผู้ว่าฯ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องควบคุมการแพร่ระบาดพร้อมสกัดกั้นการแพร่ระบาดตามแนวชายแดน ไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นอย่างเต็มกำลัง เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาด นอกจากนี้ให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดบริหารจัดการขยะติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ให้เป็นไปตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กำชับและแจ้งแนวปฏิบัติ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกจังหวัดดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้เราผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน

นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเลขของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากคนที่ไม่รู้ว่าตนเองมีเชื้อ ซึ่งส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ขอให้ผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดมาตรการการตรวจเชิงรุก หาวิธีการบำบัดรักษาในเบื้องต้น เพื่อลดการสูญเสียชีวิต นอกจากนี้ให้ใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการติดตามรับคนกลับมารักษาตัวที่บ้าน

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าฯ สร้างความเข้าใจและความมั่นใจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ยารักษาโรคโควิด-19 และอุปกรณ์ตรวจเชื้อเบื้องต้น เพื่อให้มีกลไกรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)ไปดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ 

ปชป. “จุรินทร์” ส่งกำลังใจ ไปโตเกียว  เชียร์ทัพนักกีฬาไทย โอลิมปิกและพาราลิมปิก “Tokyo 2020 Olympics” 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า

พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค  ขอส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ทุกคนในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ขอร่วมกับพี่น้องชาวไทย ร่วมส่งแรงใจ ส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยทุกคน ขอให้ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้ติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิด และฝากส่งกำลังใจไปให้ทัพนักกีฬาไทยทุกคน 

พรรคขอขอบคุณในความเสียสละทุ่มเท ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย รวมถึงบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน ทีมงานในทุกประเภทกีฬา ความเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อม เป้าหมายคือความสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะคว้าเหรียญรางวัลกลับมาได้หรือไม่ก็ตาม คนไทยจะเป็นกำลังใจให้กับทัพกีฬาไทยเสมอ 

ทุกคนคือแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นหลังที่จะนำมาเป็นต้นแบบในการก้าวเดินในเส้นทางนักกีฬาทีมชาติไทยในรุ่นต่อๆไป 

นายราเมศกล่าวต่อว่า ขอให้นักกีฬาทุกท่าน ดูแลสุขภาพเพราะด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 มีความจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในช่วงระหว่างการเข้าร่วมแข่งขันที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น พรรคขอส่งกำลังใจให้ ขอให้ประสบผลสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ทุกประการ

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top