Saturday, 28 June 2025
NEWS FEED

"พรรคกล้า" เดินหน้าเปิด "ศูนย์กล้าดูแล" พร้อม "กรณ์"  แนะให้ทีมแพทย์ชนบท ผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน เสี่ยงระบาดในครอบครัว เปิดศูนย์พักคอยชุมชน "อรรถวิชช์" เร่งเยียวยากลุ่มประกันสังคมตกหล่น เสนอสมาชิกประกันสังคมพื้นที่สีแดงเข้ม ทุกคนต้องได้รับการเยียวยา

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรรกล้า พร้อมทีมกล้าอาสา ร่วมมือกับชุมชนจรัญสนิทวงศ์ 25 เปิดศูนย์กล้าดูแล แห่งที่ 6 ที่สวนสิรินธราพฤกษาพรรณ เป็นศูนย์พักคอยแยกตัวผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัวและชุมชน ซึ่งเป็นโครงการที่พรรคกล้าสนับสนุนให้เกิดในชุมชนต่าง ๆ ต่อเนื่อง และมีแผนร่วมมือกับชุมชนเปิดศูนย์ในต่างจังหวัดด้วย 

นายกรณ์ กล่าวว่า ระหว่างการลงพื้นที่มีโอกาสได้คุยกับทีมแพทย์ชนบท ที่อาสามาตรวจเชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตรวจไปได้แล้วกว่า 3 หมื่นคน โดยเป็นการตรวจทั้ง Rapid Antigen Test และ RT-PCR โดยคนที่ติดเชื้อก็จะได้รับยา ส่วนคนที่ยังไม่ได้ติดเชื้อก็จะได้รับวัคซีน แต่ปัญหาขณะนี้คือเมื่อตรวจเสร็จแล้ว ผู้ป่วยก็ต้องกลับไปเข้าระบบ Home isolation กักตัวที่บ้าน แต่ส่วนใหญ่บ้านไม่ได้เหมาะสำหรับการกักตัว มีโอกาสแพร่เชื้อให้กับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงควรมีพื้นที่รองรับเป็นศูนย์พักคอยชุมชน อย่างที่พรรคกล้าร่วมมือกับชุมชนเปิดศูนย์กล้าดูแล เพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อในชุมชน จึงอยากรณรงค์ให้ทุกชุมชนจัดตั้งศูนย์พักคอยลักษณะเดียวกันนี้ โดยพรรคกล้าพร้อมสนับสนุน 

ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงการเยียวยากลุ่มคนทำงานในกองทุนประกันสังคมที่ตกหล่นว่า ความเร็วเป็นหัวใจสำคัญในการเยียวยา แต่ขั้นตอนของส่วนราชการยุ่งยาก ประมวลข้อมูลได้ไม่ดี การจ่ายเงินจึงไม่ทันกับความเดือนร้อน จึงเสนอให้รัฐบาลใช้หลักการง่าย ๆ ว่า สมาชิกประกันสังคม “ทุกคน!” ใน "เขตพื้นที่สีแดงเข้ม" ใครเป็นลูกจ้างประจำและยังไม่ออกจากงาน รับ 2,500 บาท กรณีอื่นรวมถึงอาชีพอิสระรับ 5,000 บาทเต็ม เร็ว ง่าย ไม่มั่ว ทั่วถึง ตรงเป้า 

วันนี้พรรคกล้า ยังเปิดศูนย์กล้าดูแลที่ต่างจังหวัดด้วย โดยผศ.ดร.เอราวัณ ทัพพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า ลงพื้นที่เปิดศูนย์กล้าดูแล ที่จังหวัดหนองคาย อีก 4 แห่ง เช่นเดียวกัน รวมขณะนี้พรรคกล้าร่วมมือสนับสนุนชุมชนเปิดศูนย์กล้าดูแลไปแล้ว 10 แห่ง และเตรียมร่วมมือกับชุมชนต่าง ๆ เปิดศูนย์ต่อเนื่อง

นฤมล มอบข้าวกล่องชุมชนดินแดง-ห้วยขวาง บรรเทาความเดือดร้อน สู้ภัยโควิด-19

รมช.แรงงาน เดินหน้าแจกข้าวกล่องในพื้นที่เขตดินแดง-ห้วยขวาง ร่วมบรรเทาความเดือดร้อน และกำลังใจให้พี่น้องแรงงาน ฝ่าวิกฤติโควิด-19

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มอบหมายให้ทีมงานเดินสายมอบข้าวกล่องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ได้แจกข้าวกล่องไปแล้วเกือบ 20,000 กล่อง โดยมุ่งช่วยเหลือพี่น้องแรงงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง บุคลากรทางการแพทย์ทั้งที่ประจำอยู่โรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามสนาม หน่วยงานจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงประชาชนที่อยู่ชุมชนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะครอบครัวที่ตกงาน ไม่มีรายได้ การได้รับข้าวกล่อง 1 มื้อสำหรับ 1 ครอบครัว ก็เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการทำอาหารได้ 1 มื้อ ทำให้เห็นว่าข้าวกล่องที่ไปถึงมือผู้รับสามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม 2564) ได้นำข้าวกล่องมอบให้แก่ผู้ประสานงานชุมชนในเขตดินแดงและเขตห้วยขวาง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในชุมชน กระจายไปยังชุมชนดรุณ (ประชาสงเคราะห์16) ชุมชนนาทอง ชุมชนบึงพระรามเก้า และชุมชนประชาอุทิศ 18 และในวันนี้จะได้กระจายเพิ่มเติมไปยังชุมชนทินกร ชุมชนโค้งผาสุก ชุมชนอินทามระ 51 ชุมชนโรงปูน(ต้นสน) ชุมชนเพชรพระราม และชุมชนลาดพร้าว 80

รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพื้นที่ในต่างจังหวัด ขณะนี้หน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในภูมิภาค ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วย เช่น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ เข้าร่วมการตรวจบูรณาการร่วมกันในการตรวจแนะนำเพื่อสร้างการรับรู้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานประกอบกิจการ โดยเฉพาะกลุ่มสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของลูกจ้าง สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดกระบี่ ได้รับมอบพัดลมจากเครือข่ายสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ สมาคมเชฟ ชมรมบริหารจัดการอาหารและเครื่องดื่ม ทีมวิทยากรและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน เพื่อส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 3 ของจังหวัดกระบี่ จำนวน 72 ตัว และในบางจังหวัดยังได้จัดส่งทีมช่างไฟฟ้าช่วยเดินสายไฟฟ้าให้แก่โรงพยาบาลสนาม เป็นต้น

“ขอบคุณในน้ำใจของทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องแรงงานตลอดจนประชาชนทุกคน ให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปพร้อมกัน” รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย

8 เดือน 8 “จุรินทร์” นำ ปชป. ร่วมส่ง “ถุงน้ำใจ ปชป. ส่งผู้รอเตียง” ทั่วทุกเขตใน กทม. 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค และ ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้ร่วมกันส่งคาราวาน “ถุงน้ำใจ ปชป. ส่งผู้รอเตียง” กว่า 20 คัน ที่ห้างแม็คโคร บางกระบือ 

โดยหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการคลี่คลายปัญหาในส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ และมูลนิธิฯ จะสามารถทำได้ ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการไปแล้วอย่างน้อย 4 โครงการ ประกอบด้วย 
1. โครงการหน้ากากอนามัย 10 ล้านชิ้น ซึ่งได้ดำเนินการผลิตและแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ 
2. โครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน พรรคประชาธิปัตย์ (ศปฉ. ปชป.) เพื่อทำหน้าที่ช่วยประสานหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑ, ซึ่งตลอด 133 วันที่ผ่านมา สามารถประสานรับผู้ป่วยแล้ว 3,500 ราย และสามารถหาเตียงให้ได้แล้วกว่า 2,000 เตียง ทั้งในโรงพยาบาลรัฐ เอกชน โรงพยาบาลสนาม ฮอสปิเทล รวมไปถึง Community Isolation ด้วย 
3. โครงการข้าวกล่อง ปชป. ดิลิเวอรี่ 50,000 กล่อง ส่งตรงถึงบ้าน ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว สามารถส่งอาหารให้ผู้ป่วยที่ถูกกักตัวได้ครบถ้วน 
4. โครงการถุงน้ำใจ ปชป. ที่พรรค ได้จัดทำขึ้น โดยมอบหมายให้ ส.ส.ของพรรค อดีต ส.ส. ส.ก. ส.ข. สาขาพรรค ตัวแทนพรรคทั่วประเทศ และยุวประชาธิปัตย์ ร่วมกันดำเนินการแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และได้จัดทำไปแล้วประมาณ 1 แสนชุด สำหรับในพื้นที่ กทม. ก็ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 2 หมื่นชุด

สำหรับกิจกรรมวันนี้เป็นการจัดรถที่บรรทุก “ถุงน้ำใจ ปชป.” กว่า 2,000 ชุด จำนวน 20 คัน เพื่อให้ ส.ส.ของพรรค อดีต ส.ส. ส.ก. ส.ข. สาขาพรรค ตัวแทนพรรคทั่วประเทศ และยุวประชาธิปัตย์ ร่วมกันดำเนินการจัดส่งถุงยังชีพไปให้พี่น้องประชาชนที่รอเตียง และผู้ที่ถูกกักตัวในแต่ละเขตทั่วกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของโครงการ “ถุงน้ำใจ ปชป.” ที่ได้จัดไปแล้ว 30 คันก่อนหน้านี้ รวมเป็น 50 คัน 

“พรรคประชาธิปัตย์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพี่น้องคนไทยทั่วทั้งประเทศ และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน รวมทั้งเป็นกำลังใจให้บุคลากรด่านหน้าที่ทำงานหนักอยู่ขณะนี้ในการร่วมมือกันแก้ปัญหากับรัฐบาล ขอให้ทุกท่านได้ร่วมมือร่วมใจกันกับรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และกับทุกฝ่าย เพื่อจับมือกันฟันฝ่าให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันด้วยดีต่อไปโดยเร็ว” นายจุรินทร์ กล่าว และหลังจากนั้นนายจุรินทร์ก็ได้เข้าไปตรวจสถานการณ์สินค้าอุปโภค บริโภคที่ห้างแม็คโคร สาขาบางกระบือ 

“คุณสมบัติ อนันตรัมพร” ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงานชอปปิงออนไลน์ครั้งใหญ่ !! ลดครั้งสุดท้ายของปี ยกทัพขบวนสินค้าลดสูงสุด 70% พร้อมแจกทองคำ

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงาน INTERLINK ROADSHOW 2021 ชอปปิงออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ !! ลดครั้งสุดท้ายของปีนี้

ยกทัพขบวนสินค้าลดสูงสุด 70% พร้อมแจกทองคำ และของรางวัลอีกมากมายตลอดทั้งงาน ให้กับกลุ่มลูกค้ากว่า 450 คน จากทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้

???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

 

ซูเปอร์โพล เผยประชาชน 97.4% รู้ทันม็อบ 7 ส.ค. ชี้!! 99.2% หวั่นเกิดคลัสเตอร์แพร่โควิดเพิ่มขึ้น

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม และประมวลผลข้อมูลการศึกษา เรื่อง ประชาชน รู้ทัน ม็อบ 3 นิ้ว 7 สิงหาคม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 2,772 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.4 รู้ทันว่า มีขบวนการอยู่เบื้องหลัง ม็อบ 3 นิ้ว ต้องการให้เกิดความรุนแรง ร้อยละ 97.2 รู้ทันว่า ม็อบ 3 นิ้ว 7 สิงหาคม ต้องการให้เกิดการขยายผลความแตกแยก เผชิญหน้ากันด้วยข้อความสร้างความเกลียดชัง (Hate Speech) ระดมคนกันมาข่มขู่ คุกคามผู้อื่น ทำร้ายผู้อื่นในโลกโซเชียล ร้อยละ 97.1 รู้ทันว่า มีความพยายามให้เกิดเผชิญหน้า ระหว่างกลุ่มคนสุดขั้ว 2 กลุ่ม คือ กลุ่มม็อบ 3 นิ้ว กับ กลุ่มปกป้องสถาบัน

ร้อยละ 97.0 รู้ทันว่า มีขบวนการออกแบบให้เกิดความรุนแรงบานปลายจากการเผชิญหน้า ดึงทหารออกมาล้อมปราบ เกิดความสูญเสีย เข้าทางเข้าเกมฝ่ายตรงข้าม และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.1 รู้ทันว่า กระแสที่ปั่นกันในโลกโซเชียลถูกปั่นจากต่างชาติ และมีคนรับจ้างปั่นยอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชี้นำผู้คนในโซเชียลมีเดียให้คล้อยตามการแบ่งขั้วสุดขั้วเพื่อเกิดการปะทะ

ที่น่าเป็นห่วง คือ ร้อยละ 99.2 กังวลต่อการเกิดคลัสเตอร์แพร่ระบาดโควิดเพิ่มขึ้น ซ้ำเติมปัญหาให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ ร้อยละ 98.7 กังวลต่อข่าวความรุนแรง ด้วยระเบิด การเผาทำลายต่าง ๆ จะซ้ำเติมความบอบช้ำวิกฤตของชาติและประชาชน ร้อยละ 97.4 เชื่อว่ามีขบวนการท่อน้ำเลี้ยงจากต่างชาติ นักการเมือง กลุ่มนายทุน ให้กลุ่มผู้ชุมนุม ร้อยละ 97.1 ระบุ ความรุนแรง และการสูญเสียจะทำลายงบประมาณภาษีของประชาชน และร้อยละ 97.1 เช่นกัน ระบุ กังวลต่อความรุนแรงบานปลาย และความสูญเสีย

ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.7 ระบุ ม็อบต้องหยุดคุกคามสถาบันหลักของชาติ ร้อยละ 98.5 ระบุ มีวิธีอื่นแก้ปัญหาชาติด้วยสันติวิธีและสร้างสรรค์มากกว่า และร้อยละ 97.5 ระบุ ไม่เห็นประโยชน์จาก การชุมนุมด้วยความรุนแรง

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า โพลชิ้นนี้สะท้อนว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านอำนาจรัฐ และสถาบันหลักของชาติโดยมองว่า เสี่ยงต่อการเกิดคลัสเตอร์กลุ่มใหญ่แพร่เชื้อโควิดซ้ำเติมวิกฤตเดือดร้อนของประชาชนสร้างภาระความเหนื่อยยากให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น

“ที่น่าพิจารณายิ่ง คือ ม็อบนิยมความรุนแรงกำลังทำลายรากฐานของประเทศ ประชาชนไม่เห็นด้วยต่อการล่วงละเมิดสถาบัน แสดงความหยาบคาย คุกคามสถาบันฯ คุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ไม่มีสัมมาคารวะโดยยั่วยุสร้างความเกลียดชัง อาฆาตมาดร้าย อันเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจของประชาชนส่วนใหญ่ และเกิดความแตกแยกสู่การเผชิญหน้าของคนในชาติสร้างความสูญเสียเข้าทางเกมแย่งชิงอำนาจของต่างชาติที่เข้ามาครอบครองทรัพยากรและผลประโยชน์ชาติของคนไทยในที่สุด” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังเห็นร่วมกันถึงการปลุกปั่นกระแสความเกลียดชัง และการเผชิญหน้าด้วยการบิดเบือน ดราม่า สร้างภาพ และลดทอนความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่รัฐ มุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงขาดความน่าเชื่อถือ และชอบธรรม ในการใช้อำนาจรัฐออกมาปกป้องสถาบัน และผลประโยชน์ของชาติ

“ที่สำคัญ ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่เห็นประโยชน์กับการสร้างสถานการณ์ และการใช้ความรุนแรง ที่นำมาซึ่งความเสียหายทางกายภาพ และจิตใจ รวมทั้งผลกระทบทางสังคม และภาระงบประมาณ ซึ่งมีผลซ้ำเติมกับวิกฤตเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของต่างประเทศ  นอกจากนั้นประชาชนส่วนใหญ่ ยังสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ของม็อบที่ขัดต่ออุดมการณ์ทางการเมือง และหลักการประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะการไม่เคารพกฎหมาย ที่เป็นกติกาของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขของทุกคนในสังคม” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/593067


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวข้อกำหนดฯ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉ.29 ชี้การระบุห้ามแพร่ข้อความสร้างความหวาดกลัว มิได้จำกัดเฉพาะเรื่องเท็จ เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ มีลักษณะไม่แน่ชัด รวมถึงการปิดกั้น IP Address ขัด รธน.

ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวข้อกำหนดฯ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉ.29 ชี้การระบุห้ามแพร่ข้อความสร้างความหวาดกลัว มิได้จำกัดเฉพาะเรื่องเท็จ เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อ-ประชาชน มีลักษณะไม่แน่ชัด-ขอบเขตกว้าง ทำให้ไม่มั่นใจในการแสดงความเห็น-สื่อสาร รวมถึงการปิดกั้น IP Address ขัด รธน.ด้วย

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก สื่อมวลชนและประชาชน นำโดย The Reporters, Voice, The Standard, The Momentum, THE MATTER, ประชาไท, Dem All, The People, way magazine, PLUS SEVEN และประชาชนเบียร์ พร้อมทีมทนายความจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน รวมตัวยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กรณีออกข้อกำหนดฉบับที่ 29 ให้อำนาจ กสทช. ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตผู้โพสต์ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว เป็นการออกคำสั่งโดยไม่มีอำนาจ ไม่มีความจำเป็น ไม่ได้สัดส่วน และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองเสรีภาพประชาชนด้วย ต่อมาศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินคดีดังกล่าวในวันที่ 6 ส.ค. 64 นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 64 ศาลแพ่งได้ออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานหลักฐานแล้วมีคำสั่งอันสรุปใจความได้ว่า ข้อกำหนดฯ ข้อ 1 ที่ห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว มิได้จำกัดเฉพาะข้อความอันเป็นเท็จ ดังเหตุผลและความจำเป็นตามที่ระบุไว้ในการออกข้อกำหนดดังกล่าว ย่อมเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของโจทก์ทั้ง 12 และประชาชนที่รัฐธรรมนูญปี 2560 บัญญัติคุ้มครองไว้ ทั้งยังไม่ต้องด้วยข้อกำหนดฯ ที่ระบุว่า จำเป็นต้องมีมาตรการที่กำหนดให้การใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเป็นไปอย่างมีเหตุผล ถูกต้องตามข้อเท็จจริงตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ทั้งข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวตามข้อกำหนดฯ ดังกล่าวนั้น มีลักษณะไม่แน่ชัดและขอบเขตกว้าง ทำให้โจทก์ทั้ง 12 ประชาชน และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนไม่มั่นใจในการแสดงความคิดเห็นและสื่อสารตามเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 34 วรรคหนึ่ง และ 35 วรรคหนึ่ง บัญญัติคุ้มครองไว้ นอกจากนี้ยังเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอันเกินแก่สมควร ไม่ต้องด้วยมาตรา 26 วรรคหนึ่ง แห่งรัฐธรรมนูญ

ทั้งข้อกำหนดฯ ดังกล่าว ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์หรือแนวทางในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่โจทก์ทั้ง 12 หรือประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ตามความในมาตรา 9 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนข้อกำหนดฯ ข้อ 2 ที่ให้อำนาจระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ไอพี (IP Address) ที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารในอินเทอร์เน็ตที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ ไม่ปรากฏว่ามาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนดให้ดำเนินการระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ต จึงเป็นข้อกำหนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และรัฐสั่งปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์จำกัดการเดินทาง หรือการพบปะระหว่างบุคคล ทั้งข้อกำหนดฯ ข้อดังกล่าวมิได้จำกัดเฉพาะการระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับการกระทำครั้งที่เป็นเหตุแห่งการระงับให้บริการอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตในอนาคตด้วย ปิดกั้นการสื่อสารของบุคคล และเป็นการปิดกั้นสุจริตชนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารดังกล่าว ไม่ต้องด้วยมาตรา 36 วรรคหนึ่ง แห่งรัฐธรรมนูญ

การให้ข้อกำหนดฯ ทั้ง 2 ข้อดังกล่าว มีผลบังคับใช้ต่อไป อาจทำให้เกิดความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังได้ กรณีมีเหตุจำเป็นเห็นเป็นการยุติธรรม และสมควรในการนำวิธีชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้เพื่อเป็นการระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดฯ ทั้ง 2 ข้อดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (2) มาตรา 255 (2) (ง) ประกอบมาตรา 267 วรรคหนึ่ง และการระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าว ไม่น่าเป็นอุปสรรคแก่การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐ หรือแก่ประโยชน์สาธารณะ เพราะยังมีมาตรการทางกฎหมายหลายฉบับ ให้สามารถดำเนินการเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายผ่านช่องทางสื่อสารต่าง ๆ อีกทั้งรัฐสามารถใช้สื่อวิทยุและโทรทัศน์ในการกำกับเป็นเครื่องมือในการให้ความรู้เพื่อการรู้เท่าทัน สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนแก่ประชาชนได้ด้วย

จึงมีคำสั่งห้ามจำเลยดำเนินการบังคับใช้ข้อกำหนดฯ ตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 29 เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา


ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews-news/101245-invesisra-212.html


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สมอ. โต้กลับบริษัท เอเจฯ เหตุบิดเบือนข้อเท็จจริงกรณีถูกจับนำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และแอบนำของกลางที่ยึดอายัดไว้ไปจำหน่าย ยืนยันค่าปรับ 7.5 ลบ.

สมอ. โต้กลับบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เหตุบิดเบือนข้อเท็จจริงกรณีถูกจับนำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และแอบนำของกลางที่ยึดอายัดไว้ไปจำหน่าย หลังถูกดำเนินคดีแล้วจึงมาขออนุญาต ยืนยันค่าปรับ 7.5 ลบ. เป็นไปกรอบของตามกฎหมาย เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่ยำเกรงต่อกฏหมายและกระทำผิด 2 ข้อหา โดยกรรมการผู้มีอำนาจต้องร่วมรับผิดด้วยกับบริษัทอีก 2 ท่าน

6 ส.ค.64 นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แถลงข้อเท็จจริงกรณีที่บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งกรรมการสอบเลขาธิการ สมอ. ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น

สมอ. ขอเรียนชี้แจงว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 บริษัทฯ ได้ยื่นขอตรวจปล่อยสินค้าจำนวน 3 รายการ ได้แก่ หม้อทอดไร้น้ำมัน, เตาแม่เหล็กไฟฟ้า และเตาปิ้งย่าง รวม 5,898 หน่วย ผ่านระบบ National Single Window (NSW) ซึ่ง สมอ. ได้ดำเนินการตรวจปล่อยสินค้าดังกล่าวจากศุลกากร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระค่าเช่าโกดังให้กับบริษัทฯ พร้อมทั้งยึดอายัดสินค้าทั้งหมดไว้ที่คลังสินค้าของบริษัทฯ เนื่องจากสินค้าทั้ง 3 รายการยังไม่ได้รับใบอนุญาต

ต่อมาได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทฯ มีการโฆษณาจำหน่ายหม้อทอดไร้น้ำมันบนเว็บไซต์ www.ajthai.com, www.24catalog.com และ www.lazada.com จึงเข้าตรวจควบคุมสินค้าที่อายัดไว้ และได้ตรวจนับสินค้า พบว่ามีสินค้าสูญหายทั้ง 3 รายการ รวมทั้งสิ้น 2,805 หน่วย จึงได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ เลขาธิการ สมอ. มีมติเห็นชอบให้ปรับบริษัทฯ โทษฐานกระทำความผิดตามมาตรา 21 นำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเงิน 2 ล้านบาท และความผิดตามมาตรา 36 ฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นเงิน 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท รวมทั้งปรับกรรมการผู้มีอำนาจอีก 2 ท่าน ท่านละ 2.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินค่าปรับทั้งสิ้น 7.5 ล้านบาท โดยกำหนดให้ชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาของผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ พ.ศ. 2562 โดยหากเป็นความผิดครั้งแรก ให้ปรับไม่เกิน 20% ของมูลค่าของกลางซึ่งมีมูลค่ากว่า 12.5 ล้านบาท พร้อมทั้งส่งเรื่องให้สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร สอบสวนดำเนินคดีบริษัทฯ กรณีแอบนำของกลางที่ยึดอายัดไว้ไปจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับของกลางที่บริษัทร้องขอให้ปล่อยคืนนั้น ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากยังเป็นคดีความอยู่กับ สภ.เมืองสมุทรสาคร และบริษัทฯ ยังไม่ได้ชำระค่าปรับ อีกทั้งยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าของเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ โดย สมอ. สรุปไทม์ไลน์การดำเนินการ ตามแนบ

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมอ.ตระหนักและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนอย่างถึงที่สุด สินค้าใดที่ไม่ได้มาตรฐานแล้วหากประชาชนนำไปใช้แล้วเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต เราจะไม่มีการอะลุ่มอล่วยอย่างเด็ดขาด เนื่องจากชีวิตคนไม่สมควรที่จะไปแลกกับความมักง่าย และความเห็นแก่ได้ของผู้ประกอบการที่ไร้จิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อประชาชน จึงขอให้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับผู้ประกอบการรายอื่น หากทำหรือนำเข้าสินค้าที่ สมอ. ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดแบบนี้ทุกราย” เลขาธิการ สมอ. กล่าว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แกะมูลค่าเหรียญโอลิมปิก 2020 รู้หรือไม่ เหรียญรางวัลโอลิมปิก 2020 มีมูลค่าเท่าไหร่?

???? แกะมูลค่าเหรียญโอลิมปิก 2020

???? รู้หรือไม่ เหรียญรางวัลโอลิมปิก 2020 มีมูลค่าเท่าไหร่?

????เหรียญทอง มูลค่า 800 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26,660 บาท) ทำจากเงินบริสุทธิ์ชุบทองคำหนัก 6 กรัม น้ำหนักรวม 556 กรัม

????เหรียญเงิน มูลค่า 450 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 14,960 บาท) ทำจากเงินบริสุทธิ์ น้ำหนัก 550 กรัม

????เหรียญทองแดง มูลค่า 5 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 160 บาท) ผสมระหว่างทองแดง 95% กับสังกะสี 5% น้ำหนัก 450 กรัม

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักกีฬาส่วนใหญ่ไม่มีวันขายต่อให้มันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปแค่ไหน เพราะเป็นสิ่งที่มีความหมายและย้ำว่าพวกเขาเคยเป็นเลิศในเวทีโลกจากการการันตีโดยเหรียญเหล่านี้

หมายเหตุ : เหรียญรางวัล โอลิมปิก 2020 ออกแบบโดย จุนอิจิ คาวานิชิ ศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่น ผลิตจากขยะอิเล็กโทรนิกส์ จำพวกซากโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ มาหลอมรวมเป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง


ที่มา : https://mgronline.com/infographic/detail/9640000077076


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สโมสรบาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีก้า สเปน แถลงแยกทางกับลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ดังของทีมเรียบร้อยแล้ว หลังติดปัญหาการเงินจนเซ็นสัญญาใหม่ไม่ได้ ปิดฉาก 21 ปี ในถิ่นคัมป์นู

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เว็บไซต์สโมสรบาร์เซโลน่า ทีมดังแห่งลาลีก้า สเปน แถลงว่า ลิโอเนล เมสซี่ แข้งซุปเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ จะไม่เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีม หลังจากกลายเป็นผู้เล่นฟรีเอเยนต์ตั้งแต่หมดสัญญาฉบับก่อนหน้านี้เมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน

แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งบาร์ซ่าและเมสซี่ต่างบรรลุข้อตกลงเงื่อนไขสัญญา รวมถึงต่างแสดงเจตนาที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ในวันนี้ (5 ส.ค.) แต่ติดปัญหาเรื่องการเงินและโครงสร้างสัญญาตามกฎของลาลีก้า จึงไม่สามารถเซ็นสัญญาฉบับใหม่ได้ และต้องแยกทางการ ซึ่งสร้างความโศกเศร้ากับทั้ง 2 ฝ่ายที่ไม่สามารถทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจริงได้

ในตอนท้าย บาร์ซ่าได้กล่าวขอบคุณเมสซี่กับความทุ่มเทและทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อสโมสรเสมอมา และหวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จในอนาคตทั้งในเส้นทางลูกหนังและชีวิตส่วนตัว

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม มีรายงานว่า เมสซี่บรรลุข้อตกลงสัญญาใหม่กับบาร์ซ่าระยะเวลา 5 ปี โดยยอมลดค่าเหนื่อยลง แต่บาร์ซ่าต้องพยายามขายนักเตะเพื่อหาทุนพอจ่ายเงินค่าเหนื่อยให้เมสซี่ได้ตามเงื่อนไขด้วย ซึ่งสื่อระบุว่า ลาลีก้าระบุให้บาร์ซ่าต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเหนื่อยนักเตะด้วยการระบายผู้เล่นบางส่วนออกก่อนจึงจะสามารถเซ็นสัญญานักเตะใหม่ได้

เมสซี่อยู่กับบาร์ซ่ามาตั้งแต่เป็นแข้งเยาวชนเมื่อปี 2001 และได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ เมื่อปี 2003 ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ทุกถ้วยรวม 778 นัด เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดของสโมสร รวม 672 ประตู และยังทำอีก 305 แอสซิสต์ โดยร่วมคว้าแชมป์ลาลีก้า 10 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย และแชมป์โกปา เดล เรย์ 7 สมัย รวมถึงคว้ารางวัลส่วนตัวอย่าง “บัลลงดอร์” ถึง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดด้วย

ส่วนอนาคตหลังจากนี้ มี 2 ทีมใหญ่ที่ตกเป็นข่าวกับเมสซี่และคาดว่าจะมีเงินพอจ่ายค่าเหนื่อยมหาศาล คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตกุนซือบาร์ซ่าคุมทีม และปารีส แซงต์แชร์แมง ที่มีอดีตเพื่อนร่วมทีมคนสนิทอย่างเนย์มาร์ค้าแข้งอยู่

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ภายหลังจากที่บาร์เซโลน่า ยอมรับว่าไม่สามารถเซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ ได้แล้วนั้น แฟนบอลทั้งของ บาร์เซโลน่า และทีมอื่น ๆ ต่างรุมตำหนิ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อดีตประธาน บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลาลีก้า สเปน อย่างรุนแรง หลังจากพวกเขามองว่า บาร์โตเมว มีส่วนสำคัญในการทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ จะไม่ได้อยู่กับ บาร์เซโลน่า อีกต่อไป


ที่มา : https://www.siamsport.co.th/football/laliga/view/246510

https://www.matichon.co.th/sport/footballinter/footballintereuro/news_2869589


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เปิดเรื่องน่ารู้ ‘พระบรมมหาราชวัง’ โบราณสถานทรงคุณค่า และสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจประชาชนคนไทย

พรุ่งนี้ 7 สิงหาคม มีการตีฆ้องร้องป่าว นัดรวมตัวชุมนุม โดยมีจุดหมายสำคัญหนึ่งแห่ง นั่นคือ พระบรมมหาราชวัง

สำหรับ ‘ประชาชนคนไทย’ พระบรมมหาราชวัง ถือเป็นสถานที่สำคัญในหลากหลายมิติ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และกิจกรรมพระราชพิธีต่าง ๆ

กว่า 239 ปี ที่พระบรมหาราชวังตั้งตระหง่าน ผ่านกาลเวลา และเหตุการณ์สำคัญนานามากมาย เหนือสิ่งอื่นใด คือ ภาพสะท้อนของความเป็นชาติไทย รวมถึงเป็นอัตลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ที่นานาอารยประเทศล้วนอยากเดินทางมาชื่นชม

เพราะ ‘คุณค่า’ ไม่เคยจางหาย THE STATES TIMES จึงขอรวมเรื่องราวน่ารู้ของ 'พระบรมมหาราชวัง' มาให้ได้ทราบกัน และไม่ว่าจะเป็นชุมนุมก็ดี หรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที หากเราเคารพในกฎ กติกา ตลอดจน ‘หวงแหน’ ในสัญลักษณ์ของชาติเหมือนกัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น จะไม่มีวัน...ถูกทำลาย


ที่มาข้อมูลในภาพ : http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%A1152/%A1152-20-2558-a0001.htm

https://th.wikipedia.org/wiki/พระบรมมหาราชวัง

https://www.posttoday.com/world/356867


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top