Friday, 2 May 2025
ECONBIZ NEWS

สภาผู้ส่งออก หวังส่งออกยังพอโตต่อไปได้แม้เจอโควิด-19

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. คงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโต 10% โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ ทั้ง สหรัฐ จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น, ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าใกล้เคียง 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องถึงระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจากแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐฯ ที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ทั่วโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญในปี 64 คือ สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีความรุนแรงในประเทศ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด–19 ภายในประเทศยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถควบคุมและลดการแพร่ระบาดได้อาจจะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภาคการส่งออกซึ่งถือเครื่องจักรตัวสุดท้ายที่ยังขับเคลื่อน เช่นเดียวกับ กรณีการติดเชื้อในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มแพร่กระจายมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อกำลังการผลิต และการส่งมอบสินค้า ทำให้การส่งออกเติบโตได้เพียง 10% จากที่คาดว่ามีโอกาสเติบโตได้ถึง 15% ประกอบกับมาตรการ Bubble & Seal ซึ่งโรงงานขนาด SMEs ส่วนใหญ่ อาจไม่สามารถดำเนินการได้และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องปริมาณความต้องการตู้สินค้ายังไม่เข้าสู่ภาวะสมดุล ปริมาณการหมุนเวียนของตู้สินค้ายังไม่เพียงพอ ประกอบกับค่าระวางเรือยังคงปรับตัวอยู่ในทิศทางขาขึ้น  รวมไปถึงปัญหาแรงงานขาดแคลน เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทำให้ความต้องการแรงงานในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศและยังไม่ได้เดินทางกลับเข้ามา ประกอบกับยังไม่สามารถจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้เพียงพอกับจำนวนแรงงานในภาคการผลิต ซ้ำเติมปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น และ ปัจจัยการผลิตมีปริมาณไม่เพียงพอ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น  

ครม.เตรียมเยียวยาต่อเนื่อง ลูกจ้าง – นายจ้าง ประกันสังคม 16 จังหวัด

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมเตรียมพิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เตรียมเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) เพื่อช่วยเหลือลูกจ้าง และนายจ้างใน 9 กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากประกาศฉบับนี้ เพิ่มเติมอีก 16 จังหวัดที่เป็นสีแดงเข้ม 

สำหรับการช่วยเหลือเยียวยา ลูกจ้างและนายจ้างจะได้รับเงินเยียวยาจากทางรัฐบาลในลักษณะเดียวกับ 13 จังหวัดก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นแรงงาน ตามมาตรา 33 จะได้รับเงินเยียวยารายละ 2,500 บาท ส่วนแรงงาน ตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะได้รับเยียวยารายละ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน ขณะที่นายจ้างจะได้รับชดเชย แรงงานหัวละ 3,000 บาท สถานประกอบการละไม่เกิน 200 คน หรือสูงสุดไม่เกิน 6 แสนบาท โดย สศช.เตรียมเสนอการขยายกรอบวงเงินที่จะใช้ในการเยียวยาครั้งนี้ เพิ่มเติมจากเดิมที่เคยเสนอขอไว้แล้ว 3 หมื่นล้านบาท

ส่วนวาระอื่น ๆ กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเสียง วีดิทัศน์ และเครื่องใช้ อิเล็กทรอนิกส์ที่คล้ายกัน : คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ.2564 พ.ศ. .... กระทรวงดิจิทัลฯ เสนอ ร่างประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่องหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ของผู้ให้บริการ พ.ศ. ....

สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอการขับเคลื่อนการให้บริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-service) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 รวมทั้งมีการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อดำเนินงานโครงการอบรมและส่งเสริมการพัฒนายกระดับทักษะอาชีพในภาคเกษตรกรรม และรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทย (Universal Periodic Review : UPR ) รอบที่ 3 และโครงการทุนอุดหนุนนักเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

“ศักดิ์สยาม” ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยมีนายกฯ เป็นประธาน ผ่านระบบออนไลน์

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเดินรถโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล และสถานีกลางบางซื่อ (ผ่านระบบ Video Conference) ให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ ปลายปี 2564 

โดยรถไฟสายดังกล่าวเป็นการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางกับระบบขนส่งอื่น ๆ ของประเทศอย่างเป็นระบบครบวงจรทั้งบางบก อากาศ และทางถนน เพื่อให้ประชาชนเดินทางออกสู่ภูมิภาคและเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้แทนสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น ร่วมเป็นสักขีพยานครั้งนี้ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกยินดีที่ได้ทำพิธีเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้งช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางราง ซึ่งเป็นรูปแบบการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจึงได้ส่งเสริมผลักดันให้ระบบคมนาคมทางรางเป็นรูปแบบการเดินทางหลักของประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งพัฒนาระบบคมนาคมทางรางในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง เพื่อช่วยยกระดับการเดินทางของประชาชนสะดวก รวดเร็ว ยิ่งขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล บรรเทาปัญหาการจราจร รวมถึงพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทาง ขนส่ง และโลจิสติกส์ ในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค ขณะเดียวกันก็รักษาสภาวะแวดล้อมของโลกในเรื่องของการลดการใช้พลังงานที่ทำให้เกิดมลพิษด้วย

สำหรับสถานีกลางบางซื่อ และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง นอกจากจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ปริมณฑล ได้โดยสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจตลอดแนวเส้นทาง นอกจากนี้ ในระยะยาวจะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมและการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน นับเป็นก้าวย่างสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของการพัฒนาระบบรางและการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งต่อไปจะมีการเร่งรัดการดำเนินการในพื้นที่ต่าง ๆ ในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เร่งรัดการดำเนินโครงการให้มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ประชาชนได้ใช้บริการสถานีกลางบางซื่อและรถไฟชานเมืองสายสีแดงในวันนี้ ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤศจิกายน 2564 และเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

เดินหน้า “บิ๊กตู่” เป็นประธานเปิดเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ยกระดับการเดินทาง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพขนส่งเชื่อมต่อโลจิสติกส์ระหว่างภูมิภาค ทดลองบริการฟรีก่อนเปิดบริการเต็มรูปแบบ พ.ย.นี้

ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนใช้บริการเดินรถโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้าร่วม

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมพิธีเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้งช่วงบางซื่อ-รังสิตและช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพ.ย. 2564 นี้ จากการที่รัฐบาลได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี 2561-2580 ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง เพื่อช่วยยกระดับการเดินทางให้ประชาชนมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล บรรเทาปัญหาการจราจร รวมทั้งพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางขนส่งและโลจิสติกส์มีการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค ขณะเดียวกันรักษาสภาวะแวดล้อมของโลกไปด้วย ควบคู่กันไปอย่างยั่งยืนรับเป็นก้าวย่างสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ในการพัฒนาระบบรางและการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งต่อไปจะมีการเร่งรัดการดำเนินการในพื้นที่ต่างๆในแต่ละภูมิภาค 

สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง เปิดให้บริการเส้นทางสายเหนือช่วงบางซื่อ-รังสิต มีจำนวน 10 สถานี ระยะทาง 26 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทาง 25 นาที สายตะวันตกช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีจำนวน 3 สถานี ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทาง 15 นาที ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย มอบหมายให้รฟท.จำกัดซึ่งเป็นบริษัทลูกเป็นผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เปิดให้ประชาชนให้บริการฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไปจนถึงประมาณปลายปี 2564 ซึ่งจะเป็นการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ 

ทั้งนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00 น -20.00 น และในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีการเดินรถในเวลาทุกๆ 15 นาที ในเวลาปกติเดินรถทุก 30 นาที โดยท่ามกลางการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการจัดให้บริการจำกัดจำนวนผู้โดยสารทุกประเภทไม่เกินร้อยละ 50 ตามมาตรการรักษาระยะห่างนอกจากนี้ยังมีการบูรณาการร่วมกับการเดินทางอื่นๆเพื่อเพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงของประชาชนและมีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ

สำนักงบฯ แนะทุกหน่วยงานใช้งบต้องคิดถึงผลกระทบโควิดรุนแรง

สำนักงบประมาณได้รายงานรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 64 ในช่วงไตรมาสที่ 3  โดยจากวงเงินรวม 3.2 ล้านล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้วประมาณ 2.28 ล้านล้านบาท คิดเป็น 69.49%  มีการก่อหนี้แล้วจำนวน 2.46 ล้านล้านบาท คิดเป็น 75.03% โดยในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การลงทุนทั้งในมิติของพื้นที่และการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐซึ่งมีการก่อหนี้สูงกว่าเป้าหมายอย่างมากในปีนี้  

ทั้งนี้เพื่อให้การเบิกจ่ายและจัดสรรงบประมาณในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ (ก.ค. - ก.ย.) มีประสิทธิภาพสำนักงบประมาณจัดทำข้อเสนอข้อให้หน่วยงานราชการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ คือหน่วยรับงบประมาณควรเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ และการบริหารงบประมาณที่ได้รับ การจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดผลกระทบหรือกระทบต่อการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณได้อย่างเหมาะสม และให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หน่วยรับงบประมาณควรพิจารณากำหนดทิศทางหรือแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ในส่วนช่องงบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ควรมีการวางแผนอย่างเหมาะสม เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศโดยรวม 

ผู้บริหารเอกชนหวั่นโควิดกระจายกระทบภาคการผลิต

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI เดือนก.ค. 2564 เรื่อง การจัดการปัญหาแรงงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. จำนวน 166 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 75 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มองว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรม 

รวมทั้ง ปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น จนส่งผลทำให้กำลังการผลิตลดลงและกระทบต่อการส่งออกของไทย ดังนั้นจึงเสนอให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แก่แรงงาน ม.33 เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการ รวมทั้ง รักษาศักยภาพในการผลิตและการส่งออกของประเทศ 

ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังมองว่ามาตรการที่ภาคเอกชนมีความพร้อมและสามารถที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการได้ พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การมีระบบคัดกรองแรงงานก่อนเข้าโรงงาน และการเฝ้าระวังผู้ปฏิบัติงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงตามมาตรการ Bubble & Seal คิดเป็น 83.1% รองลงมา การจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่แรงงานในสถานประกอบการ คิดเป็น 68.1% และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด คิดเป็น 65.7%

รัฐบาล เร่ง แก้ปัญหาราคามังคุดตกฮวบ ด้านพณ.ช่วยค่าส่งผลไม้ฟรีผ่านไปรษณีย์ไทย- อุดหนุนเกษตรกรรายย่อย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนมังคุดภาคใต้และภาคตะวันออก ที่ผลผลิตปีนี้มีจำนวนมากจนล้นตลาด ราคาตก ได้รับผลกระทบไม่สามารถส่งผลผลิตไปขายพื้นที่ต่างๆหรือส่งข้ามพรมแดนได้ช้า โดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทยและช่วยกระจายสินค้าผ่านหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยมีมาตรการช่วยเหลือเกี่ยวข้องกับการขนส่งที่ล่าช้า การข้ามพรมแดนไปจีน เนื่องจากขนส่งทางรถผ่านด่านโหยวอี้กวนและด่านโม่ฮานติดขัดมาก ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หมุนกลับมาภาคใต้ไม่ทัน ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน รวมถึงปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่

น.ส.รัชดา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทย ส่งเสริมการขายผ่านระบบออนไลน์ ช่วยเกษตรรายย่อยส่งผลไม้ฟรีทั่วประเทศถึงมือผู้บริโภค โดยกระทรวงฯจะสนับสนุนค่าขนส่ง ค่ากล่องไปรษณีย์ จำนวน 2แสนกล่อง บรรจุผลไม้น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ตั้งเป้าช่วยกระจายผลไม้ 2พันตัน และมีมาตรการเร่งกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิต โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท เพื่อกระจายมังคุด 1.7 หมื่นตัน

ส่วนปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ส่งสินค้าไปจีน ได้หารือกับสมาคมผู้ประกอบการค้าผลไม้ ซึ่งภายในเดือนส.ค.นี้ ปัญหาจะคลี่คลาย ขณะที่ปัญหาขาดแรงงาน กระทรวงมหาดไทย จะผ่อนผันให้ล้งและแรงงานเคลื่อนย้ายไปซื้อมังคุดที่จ.จันทบุรี นครศรีธรรมราช ชุมพร และจังหวัดอื่นๆในภาคใต้ได้ภายใต้มาตรการควบคุการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด  ทั้งนี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคามังคุดตกต่ำ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการดำเนินการของทุกหน่วยงานอยู่ตลอด และรับทราบถึงการบูรณาการของทุกกระทรวงเป็นอย่างดี เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็วๆนี้

เร่งกระจายมังคุดส่งไปรษณีย์ช่วยแก้ล้นตลาด

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมังคุดเกิดภาวะล้นตลาด-ราคาตกต่ำ ว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย ส่งเสริมการขายผ่านระบบออนไลน์ โดยส่งผลไม้ฟรีทั่วประเทศถึงมือผู้บริโภค โดยกระทรวงฯ จะสนับสนุนค่าขนส่ง ค่ากล่องไปรษณีย์ จำนวน 2 แสนกล่อง แต่ละกล่องบรรจุผลไม้รับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม เป้าหมายช่วยกระจายผลไม้ 2,000 ตัน พร้อมมีมาตรการเร่งกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิต โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท เพื่อกระจายมังคุด 1.7 หมื่นตัน

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในส่วนของปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เพื่อส่งสินค้าไปจีน ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้หารือกับสมาคมผู้ประกอบการค้าผลไม้ ซึ่งมีการรายงานว่าในเดือนส.ค.นี้ ปัญหาจะคลี่คลาย ขณะที่การขาดแคลนแรงงาน ทางกระทรวงมหาดไทยได้เข้ามาอำนวยความสะดวก โดยจะผ่อนผันให้ล้งและแรงงานเคลื่อนย้ายไปซื้อมังคุดที่จังหวัดจันทบุรี นครศรีธรรมราช ชุมพร และจังหวัดอื่นๆในภาคใต้ได้ ซึ่งจะอยู่ภายใต้มาตรการควบคุการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

“รัฐบาลได้เร่งเข้าแก้ปัญหาราคามังคุดตกต่ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการดำเนินการของทุกหน่วยงานอยู่ตลอด และได้รับทราบถึงการบูรณาการของทุกกระทรวงเป็นอย่างดี เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็ว ๆ นี้”

นายจ้าง ลูกจ้าง ม.33 ใน 3 จังหวัด เฮ!! ได้เงินเยียวยา 9 สิงหาคมนี้

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบขยายพื้นที่เยียวยาผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด-19 จาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด เพิ่ม จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และสาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร โดยให้มีอัตราการจ่ายและวิธีการจ่ายเงินเช่นเดิมนั้นว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้สั่งการให้ผมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคมเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้างและลูกจ้าง  

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยานายจ้าง ลูกจ้าง มาตรา33 ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา มีผู้ประกันตนได้รับสิทธิจำนวน 272,746 คน นายจ้าง 19,213 ราย ใช้วงเงินทั้งสิ้น 1,522 ล้านบาท แยกเป็น นายจ้าง 841 ล้านบาท และลูกจ้าง 681 ล้านบาท โดยจะโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ให้ลูกจ้างผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

2 ส.ค. นี้ เปิดทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ฟรี 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 ส.ค. 2564 นี้ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จะเริ่มเปิดทดลองให้บริการ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมใช้บริการฟรีในช่วงทดลองนี้เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค. ก่อนจะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ ในเดือน พ.ย. 2564 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 ส.ค. เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดในรูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ จากตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมปล่อยรถขบวนปฐมฤกษ์จากสถานีกลางบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ในเวลา 10.29 น. และประชาชนจะใช้บริการขบวนถัดไปในเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งจะปล่อยขบวนรถทั้งจากฝั่งบางซื่อ-รังสิต, บางซื่อ-ตลิ่งชัน, รังสิต-บางซื่อ และตลิ่งชัน-บางซื่อ

สำหรับการเปิดให้บริการครั้งนี้ จะจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 50% ของความจุ หรือให้บริการ 550 คน/ขบวน จากความจุ100% ของ 1 ขบวน 4 โบกี้อยู่ที่1,100 คน/ขบวน โดยหากมีความต้องการใช้บริการสูงจะใช้รูปแบบการเพิ่มโบกี้ต่อไป  โดย แบ่งเป็น 2 เส้นทาง ได้แก่ สีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิตระยะทาง 26 กม. มี 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ,สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี,สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต ใช้เวลาเดินทาง 25 นาที 

ส่วนสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน, สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางยังมีส่วนต่อขยายอีกในอนาคต 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top