“รองโฆษกปชป.” สวน ส.ส.พปชร. ยัน “จุรินทร์” ไม่ได้นิ่งนอนใจแก้ปัญหาราคาหมูแพง -ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ และให้เกียรติทุกพรรค แนะ ส.ส.พรรคร่วมรบ.ทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ให้ร้ายโจมตี แข่งกันทำงานจะดีกว่า
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณที่นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ
ออกมาติงพรรคประชาธิปัตย์เรื่องการบริหารงานของ 2 กระทรวงหลัก ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาราคาหมูแพง โดยได้ออกมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาราคาหมู ตั้งแต่ต้นปี 2565 ถึง 3 มาตรการ ทั้ง ห้ามส่งออกหมูเป็น เป็นเวลา 3 เดือน เช็คสต็อกเนื้อหมู พร้อมกับแจ้งราคาให้กรมการค้าภายในทุก 7 วัน และขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ดูแล เพื่อให้ทราบปริมาณทั้งหมูเป็น หมูแช่แข็งทั้งประเทศ
อีกทั้งยังได้หารือกับ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ ที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ โดยได้หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เพื่อออกมาตรการเร่งรัดการส่งเสริมการเลี้ยงหมูในประเทศ พร้อมเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยราคาถูกหรือเงื่อนไขผ่อนปรนเป็นพิเศษ รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเข้ามาเลี้ยงในระบบที่มีมาตรฐานและต้นทุนไม่สูงเกินไป เป็นระบบที่ป้องกันโรคได้และมีความปลอดภัยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังได้สั่งการให้กระทรวงฯทำงานเชิงรุก เพื่อดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที โดยให้ติดตามราคาสินค้าทุกรายการทั่วประเทศ อีกทั้งดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์ลดราคาหมู! ช่วยประชาชน เป็นครั้งที่ 2 จำนวน 667 หน่วย เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ที่สำคัญคือได้สั่งการให้ดูแลควบคุมปัญหาอย่างใกล้ชิดทุกวัน หากประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนทางด้านราคาสินค้าที่ไม่เป็นไปตามกลไกหรือเกิดความยุติธรรมสามารถแจ้งร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ 1569 สายด่วนกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์
ส่วนเรื่องราคาปุ๋ยนั้น ก็ได้ให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ดำเนินโครงการ พาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร โดยให้เกษตรกรที่ต้องการสั่งซื้อปุ๋ยในราคาถูกกว่าท้องตลาดยังคงสามารถสั่งซื้อได้ผ่านกลุ่ม ,สถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ เช่น สหกรณ์ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มแปลงใหญ่ เพื่อให้รวบรวมยอดการสั่งซื้อแจ้งไปยังเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ หรือสหกรณ์จังหวัดในแต่ละพื้นที่ ซึ่งโครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว และสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
