Wednesday, 2 July 2025
POLITICS NEWS

คณะกรรมการอย.เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ระยะที่1 ดำเนินการ 4 กลยุทธ์ เพื่อความมั่นคงทางอาหาร สนับสนุนทั้งมูลค่าการค้าและส่งออก ประชาชนได้รับอาหารคุณภาพ  

ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มอบหมายให้นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference) โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ.2566-25670) ซึ่งจะเป็นแผนปฏิบัติการ ระยะเวลา 5 ปี ที่อ้างอิงตามกรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2561-2580) ระยะ 20 ปี ที่มุ่งการเชื่อมโยงทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับอาหาร บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญคือการสร้างความั่นคงทางอาหารของประเทศที่ยั่งยืน ประชาชนได้รับอาหารที่มีคุณภาพ และมีสุขภาวะที่ดีขึ้นจากการได้รับอาหารที่มีคุณภาพ  ทั้งนี้ ตามแผนปฏิบัติการฯ จะดำเนินจัดการด้านอาหารผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงอาหาร ด้านการคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร ด้านอาหารศึกษา และด้านบริหารจัดการ โดยมีเป้าหมายสำคัญ 6 เป้าหมาย ประกอบด้วย 1.จำนวนคนขาดแคลนอาหารลดลง โดยสิ้นสุดแผนปี 2570 จะต้องมีประชากรที่ขาดแคนอาหารไม่เกินร้อยละ 7 ของจำนวนประชากร 2.ปริมาณการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารลดลง 3.ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อคุณภาพและความปลอดภัยอาหารเพิ่มขึ้น โดย ณ ปี 2570 ระดับความเชื่อมั่นต้องอยู่ในระดับดี  

4.มูลค่าการค้าอาหารเพิ่มขึ้น โดยมีตัวชี้วัดเป็นการเติบโตของมูลค่าการส่งออกอาหาร ตั้งแต่ปี 2566-2570 ที่ร้อยละ 3 ต่อปี ดัชนีการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ต่อปี ดัชนีผลผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ต่อปี 5.จำนวนคนที่มีภาวะทุพโภชนาการ(ขาดและเกิน) ลดลง โดย ณ ปี 2570 เด็กอายุ 0-5 ปี มีภาวะเตี้ยไม่เกินร้อยละ 8 มีภาวะผอมไม่เกินร้อยละ 5 มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนไม่เกินร้อยละ 8  6.มีกลไกประสานงานกลางและบูรณาการดำเนินงาน  โดยหลังจากนี้สำนักงาน อย. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ  จะเสนอร่างแผนปฏิบัติการฯ  ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติและนำสู่การปฏิบัติต่อไป   

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  ที่ประชุมได้เห็นชอบ ข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการวิจัยเรื่องการพัฒนากลไกการจัดตั้ง FFC (Food with Function Claims) Thailand  และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันกำหนดแผนการวิจัยบูรณาการ เพื่อให้ได้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือในการสนับสนุนการผลิต ความปลอดภัย และประสิทธิผลของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่มีผลต่อสุขภาพต่อไป  พร้อมเห็นชอบประกาศคณะกรรมกาาอาหารแห่งชาติ ที่..../2565 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ซึ่งเป็นการปรับปรุงองค์คณะในคณะกรรมการ  4 คณะ ให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน เพื่อรองรับกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง และเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลต่อการบูรณาการดำเนินงานของทุกหน่วยงานมุ่งสู่เป้าหมายและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบด้วย คณะกรรมการขับเคลื่อนด้วยความมั่นคงอาหารตลอดห่วงโซ่ คณะกรรมการขับเคลื่อนด้วยคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเชื่อมโยงด้านอหารและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และคณะกรรมกาขับเคลื่อนด้วยการบริหารจัดการ   

ศาลอุทธรณ์ยืน "ยกฟ้อง" คดีครอบครัวชัยภูมิป่าแส ฟ้อง กองทัพบก ด้านทนายติดใจหลายประเด็น เตรียมขอรับรองฎีกาสู้ศาลสุดท้าย

ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยยืนตามศาลชั้นต้นคือ ยกฟ้อง คดี "ครอบชัยภูมิ ป่าแสฟ้องกองทัพบก" จากกรณีที่ครอบครัวของนายชัยภูมิ  ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ เรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ทำหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่วิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560

โดยมีทนายรัษฎา มนูรัษฎา และ นางสาวจันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชนเป็นผู้ดูแลคดีครอบครัวนายชัยภูมิ ในฐานะทนายความโจทก์ และวันนี้มีนางอังคณา นีละไพจิตร นักสิทธิมนุษยชน เข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ด้วย โดยศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และพิจารณายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น

นายรัษฎา กล่าวภายหลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องว่า ทางทนายความเคารพคำตัดสินของศาลแต่ก็มีประเด็นที่ติดใจและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นกล้องวงจรปิดพี่ศาลไม่ให้ความสำคัญ แต่ให้น้ำหนักพยานบุคคล และศาลเห็นว่า กระสุนจากอาวุธสงครามของทหาร ที่ยิงเข้าต้นแขนและทะลุซี่โครงนายชัยภูมิ เป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตนั้นเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เป็นการวิสามัญฆาตกรรม รวมถึงกรณีการพิสูจน์ DNA ของนายชัยภูมิ บนวัตถุระเบิด ซึ่งยังมีข้อกังขาอยู่

ทนายรัชฎา เปิดเผยว่า ทางทนายความจะปรึกษาทางครอบครัวนายชัยภูมิและเห็นว่าต้องต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยจะยื่นศาลแพ่งต่อไป ซึ่งลักษณะของคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างยกฟ้องนั้น มีกระบวนการที่จะต้องให้ผู้พิพากษาที่นั่งบัลลังก์หรือตัดสินในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์หรือทั้ง 2 ศาลที่ยกฟ้องคดีไปนั้น "รับรองว่าคดีนี้มีปัญหาสำคัญอันควรเข้าสู่การพิจารณาของศาลสูงหรือศาลฎีกา" ตามกระบวนการ ซึ่งฝ่ายโจทก์ จะดำเนินการหลังจากนี้

“ประวิตร” ถก กกท.สั่ง ติดตาม แก้ไข "พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามฯ" ปลดล็อกWADAแบนไทย  เน้นใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาจริงจัง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ครั้งที่1/ 2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ 

โดยที่ประชุมเห็นชอบตามที่กกท.เสนอ ขออนุมัติการเดินทางไปปฎิบัติงานของคณะทำงานที่จะเดินทางไปร่วมสังเกตการณ์ การแข่งขันและให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย รายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว2022 ครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่4-20 ก.พ.และเห็นชอบการจัดสรรงบการดำเนินงานของคณะกรรมการกีฬาจังหวัด ประจำปี65 และการดำเนินงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แก่ อุดหนุนสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า แห่งประเทศไทย และการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ "โมโตจีพี 2565" เป็นต้น และเห็นชอบให้ปรับปรุงองค์ประกอบและเพิ่มอำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการขับเคลื่อนกีฬามวยไทย สู่โอลิมปิก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 

นอกจากนั้นรับทราบความคืบหน้าการแก้ไข พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 โดยครม.อนุมัติพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555  และร่างดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบวุฒิสภา พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา172 ซึ่ง กกท.จะรายงานไปยังองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก  (WADA )เพื่อยกเลิกโทษแบนของไทย ต่อไป

“แรมโบ้” เชื่อมั่น ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศยินดีนายกฯเยือนซาอุฯครั้งนี้ ฟื้นความสัมพันธ์ 32 ปี ส่งผลประเทศได้รับประโยชน์หลายด้าน ซัด “ฝ่ายค้าน” มองใหม่ ผลงานดีกว่ารัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ที่ รมว.ตปท.จ้องแต่จะคืนพาสปอร์ตให้นายใหญ่จนถูกศาลพิพากษาลงโทษ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการที่นายกฯ เยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ 2 ประเทศได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ในรอบ 32 ปีและจะได้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ รวมถึงรื้อฟื้นและส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆ 

นายเสกสกล ยังเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ปลื้มใจยินดีกับการที่นายกฯเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ด้วย เพราะจะเกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนเป็นอย่างมากมายหลายด้าน เช่น ด้านแรงงาน การท่องเที่ยว พลังงาน การค้าการขาย การลงทุน ความมั่นคง ด้านอาหาร เป็นต้น

‘โรม’ ลุยช่วย ‘เพชร กรุณพล’ หาเสียงหลักสี่ ปรับกลยุทธ์ปูพรมแบบเคาะประตูบ้านขอคะแนน

"รังสิมันต์ โรม" ลุยช่วยหาเสียงเลือกตั้งจตุจักร-หลักสี่ ชี้รัฐบาลล้มเหลวหมดความชอบธรรมในการบริหาร อาจเหลือแค่ 2 พรรคได้ลุ้น - ลั่นเวลาที่เหลือพร้อมทำงานหนักส่ง "เพชร กรุณพล" เข้าสภา 

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางรณรงค์หาเสียงให้กับ เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ เบอร์ 6 ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ ที่บริเวณตลาดหน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ 6 โดยนอกจากจะมีการปราศรัยย่อยบริเวณด้านหน้าตลาดแล้ว ยังเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาดด้วย

'เพื่อไทย' ชี้ ศก.ไทยเข้าภาวะ 'ชะงักงัน-เงินเฟ้อ' แนะรัฐเร่งลดค่าใช้จ่ายประชาชนทุกด้าน

"เพื่อไทย" ชี้ เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ Stagflation แล้ว เหตุเงินเฟ้อเพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นแต่เศรษฐกิจไทยยังติดลบ แนะรัฐบาลต้องลดค่าใช้จ่ายประชาชนทุกด้าน ชง “พล.อ.ประยุทธ์” ชะลอการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รัฐจะจัดเก็บ 100% ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ลดภาระกองทุนน้ำมัน

วันที่ 26 ม.ค. 65 นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนกันอย่างมากจากข้าวของที่แพง ค่าครองชีพที่สูงขึ้นเกือบทุกอย่าง แต่รายได้ไม่เพิ่ม แถมหลายคนยังตกงานไม่มีงานทำ ซึ่งยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีงานทำ สาเหตุของราคาสินค้าที่แพงขึ้นหลายคนเชื่อว่า เกิดมาจากเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งก็เป็นความจริง โดยเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้น สาเหตุมาจากเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในโลก ได้ฟื้นตัวจากวิกฤตไวรัสโควิดอย่างรวดเร็ว และยังขยายตัวมากกว่าที่ตกลงมา เช่น สหรัฐฯ ขยายตัว 5.6% ในปี 2564 จากที่ติดลบ -3.5% ในปี 2563 ประเทศจีนขยายตัวถึง 8.1% ในปี 2564 จากปี 2563 ที่ขยายได้ 2.3% เกาหลีใต้ขยายตัวได้ 4% ในปี 2564 ในขณะที่ปี 2453 ติดลบ -0.6% เป็นต้น แต่ในขณะที่ประเทศไทยกลับตรงข้าม เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวจากการวิกฤตไวรัสโควิดเลย การขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2564 ที่ผ่านมายังต่ำเตี้ยไม่ถึง 1% หลังจากที่ ปี 2563 ตกลงหนักถึง -6.1% นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนไทยถึงลำบากกันทั้งประเทศ เพราะรายได้ลด แต่ข้าวของแพง

ทั้งนี้อยากตอกย้ำว่าเศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ (Stagflation) อย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพราะเศรษฐกิจไทย ขยายตัวได้ต่ำ มีเงินเฟ้อสูง อีกทั้งยังมีว่างงานสูง ซึ่งองค์ประกอบครบถ้วน และภาวะเศรษฐกิจนี้เป็นภาวะเศรษฐกิจที่แย่ที่สุดและน่ากลัวที่สุดตามหลักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะแก้ไขได้ยากมาก ต้องใช้เวลานานจึงจะแก้ไขได้ ขณะที่ผู้นำจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเศรษฐกิจอย่างดีและต้องแก้อย่างเป็นระบบ ถึงจะแก้ไขได้

'นันทิวัฒน์' ยกเครดิต 'ดอน' มิตรภาพใหม่ 'ไทย-ซาอุฯ' ไม่เข้าใจ 'คนติ' ทั้งๆ ที่สิ่งดีๆ กำลังจะตามมา

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ครั้งใหม่ โดยมีข้อความ ระบุว่า...

สิ่งดีๆ กำลังจะตามมา

วันนี้ลุงตู่ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ความสำเร็จของการปรับความสัมพันธ์ครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้ท่านดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.กต. ที่เพียรพยายามมาหลายปี
 

ไทย - ซาอุฯ ร่วมฟื้นสัมพันธ์ 32 ปี สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจรอบใหม่

ภายหลังเสร็จสิ้น การเดินทางมาเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันให้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์แล้ว และพร้อมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อจากนี้ ซึ่งในระยะแรกจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตและการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีในมิติต่างๆ เช่น การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และแรงงาน เป็นต้น

ซึ่งการฟื้นฟูความสัมพันธ์ ยังจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนสำหรับไทยและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอาหรับ โดยเฉพาะการเสริมสร้างบทบาทของไทยในฐานะ “ครัวโลก” เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของซาอุดีอาระเบีย และในฐานะ “ศูนย์กลางทางการแพทย์และการท่องเที่ยว” ของไทย โดยคาดว่า นักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบียที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ จะช่วยสร้างรายได้ให้ไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ล้านบาท อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานของไทย ในฐานะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันอันดับต้นของโลก

โฆษกรัฐบาล เผย “นายก ฯ” ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ตลอด แนะ กลุ่มเสี่ยงรีบฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ ย้ำ เข็มกระตุ้น กันป่วยหนัก-เสียชีวิต

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงแม้ที่อยู่ในระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ได้ติดตามสถานการณ์โควิด-19  ไทย โดยย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ เพื่อยับยั้งอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงจากสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะต้องรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน หรือโอกาสที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19  

นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีกำหนดแผนการบริหารวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เห็นชอบแผนการฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 4 ให้กับประชาชนในพื้นที่ 10 จังหวัดท่องเที่ยว และจังหวัดที่พบการติดเชื้อสูง จากเดิมที่ให้ฉีดเฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และกลุ่มเสี่ยง สำหรับวัคซีนเข็ม 4 ที่จะฉีดให้นั้น กรณีฉีดเข็ม 1 - 2 เป็น Sinovac เข็ม 3 เป็น AstraZeneca เข็ม 4 จะแนะนำเป็น AstraZeneca ขณะที่ คนที่ฉีดเข็ม 1- 2 เป็น AstraZeneca เข็ม 3 เป็น Pfizer เข็ม 4 จะแนะนำเป็น Pfizer ทั้งนี้ ประชาชนที่รับวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้วเกิน 3 เดือน สามารถเข้ารับเข็ม 4 ได้  สำหรับ 10 จังหวัดที่ประชาชนสามารถเข้ารับเข็ม 4 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวที่เปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา กลุ่มที่ 2 พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว หรือมีการระบาด

โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' ชื่นชมการทำงานหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทำงานเห็นผล เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ขยายตัวกว่า 4.5% ย้ำรัฐบาลเดินถูกทางเร่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 6 ด้าน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ควมคุมการดำเนินนโยบายตามที่ได้สั่งการ และชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจ หลังรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวในอนาคต ยืนยันรัฐบาลเดินถูกทางเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 6 ด้าน

จากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวในช่วง 3.5-4.5% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุน เช่น การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคของภาคเอกชนและภาครัฐ การลงทุนรวม มูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าในรูปเงินดอลลาร์ ดุลการค้า และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ที่เปิดเผยว่า ในปี 2565 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ยังคงขยายตัว 4-5% เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอุตสาหกรรม หรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรม ที่ขยายตัว 2.5-3.5%

โดยไทยมีศักยภาพหลายด้านที่ได้เปรียบประเทศคู่ค้า ทั้งการมีแรงงานทักษะที่มีฝีมือและคุณภาพ วัตถุดิบทางการเกษตร ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ตลอดจนโครงการลงทุนต่าง ๆ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สอดคล้องกับแนวนโยบายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเมื่อรัฐบาลปลดล็อกการเดินทางระหว่างประเทศแบบ test and go จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้อีกมาก ทั้งนี้ รัฐบาลเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 6 ด้าน ได้แก่ 

1. ส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ 
2. พัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพ ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับหมุดหมายการพัฒนาตามตารางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-2570) 
3. พัฒนาผู้ประกอบการและภาคการผลิตไปสู่ 4.0 เช่น การสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการอัจฉริยะ ส่งเสริมเอสเอ็มอี เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล
4. พัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5. จัดตั้งและส่งเสริมการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 
และ 6.การยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top