Wednesday, 2 July 2025
POLITICS NEWS

32 ปี ที่รอคอย!! 'ไทย' ได้อะไรคืนมา หลังความสัมพันธ์ 'ซาอุดีอาระเบีย' กลับมาหวานชื่น

สัมพันธ์ไทย - ซาอุดีอาระเบีย แตกร้าวยาวนานกว่า 30 ปี 

ตลอด 3 ทศวรรษ ทุกรัฐบาลพยายามลบปมร้าว
แต่...ไม่สำเร็จสักรัฐบาล

ส่งผลให้ไทยสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในด้านแรงงาน และการค้า - การลงทุน จากการที่ซาอุดีอาระเบียลดระดับความสัมพันธ์ ทั้งการลดระดับตัวแทนทางการทูตเป็นระดับอุปทูต, ห้ามชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาไทย และเปิดรับคนไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย 

รู้จัก 'เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด' เจ้าของฉายา 'มิสเตอร์ เอเวอรีธิงส์' ผู้เปิดประตู 'ไทย-ซาอุฯ' หลังล้างรานาน 32 ปี

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ในฐานะผู้นำประเทศ เพื่อฟื้นสัมพันธ์เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี โดยระบุว่า “มิสเตอร์ เอเวอรีธิงส์ ผู้เปิดประตู ไทย-ซาอุฯ หลังจาก 32 ปี ที่หายไป”

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด เป็นพระมหากษัตริย์ซาอุดีอาระเบียองค์ปัจจุบัน พระชนมพรรษา 79 พรรษา เสด็จขึ้นครองราชย์ หลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

ทรงมีพระมเหสี 3 พระองค์ พระราชบุตร 9 พระองค์

เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน พระชันษาเพียง 36 ปี ผู้เป็นโอรสองค์ที่เจ็ดของกษัตริย์ซัลมาน และบุตรชายคนโตในจำนวนหกคนอันที่เกิดจากภรรยาคนที่ 3 ของกษัตริย์ซัลมาน ได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทแห่งซาอุฯ 

ซึ่งทำให้พระองค์ขึ้นครองอำนาจเบ็ดเสร็จในหลายส่วน กล่าวคือ นอกจากเป็นมกุฏราชกุมารแล้ว เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน ยังดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ประธานสภากิจการฝ่ายเศรษฐกิจและพัฒนา เป็นประธานสภากิจการการเมืองและความมั่นคงเป็นที่ปรึกษาพิเศษของกษัตริย์และยังเป็นประธานกองทุนความมั่งคั่งซาอุฯ PIF

เจ้าชายซัลมานมีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ที่ราว 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 600,000 ล้านบาท 

ทรงเป็นเจ้าของ ”เดอะชาโต หลุยส์ ที่ 14” ในลูฟวร์เซียนส์ ใกล้กับพระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส บ้านที่มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก ด้วยราคา 313 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 10,600 ล้านบาท

นอกจากพระองค์ได้ประมูลภาพเขียนล้ำค่า “ซัลเวเตอร์มุนดี” ของเลโอนาร์โด ดา วินชี ในราคาประมูล 450 ล้านดอลลาร์ หรือราว 15,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาประมูลภาพวาดที่สูงที่สุดในโลก

ส่วนทรัพย์สินของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่าประมาณ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 57 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าราชวงศ์อังกฤษที่มีมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

พระองค์ทรงได้รับเสียงชื่นชมจากหลายชาติตะวันตกจากการเดินหน้าปฏิรูปสังคมซาอุดีอาระเบียในหลายด้าน โดยเฉพาะเปิดเสรีแก่สตรีมากขึ้น ท่ามกลางสังคมซาอุฯ ซึ่งเป็นแบบอนุรักษ์นิยมมาโดยตลอด

พระองค์เป็นผู้ริเริ่มแผนยุทธศาสตร์ Saudi Vision 2030 ซึ่งเป็นแผนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการลดการพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน แล้วหันไปเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เช่น 

การพัฒนาภาคบริการสาธารณะ พัฒนาซาอุฯ ให้เป็น hub แห่ง logistic การเปิดกว้างด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการลงทุน การเพิ่มการค้าระหว่างประเทศอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมน้ำมัน 

คณะกรรมการแก้หวยแพงเรียกประชุมทันที หลัง “นายกฯ” ย้ำในครม.แก้หวยแพง ลงโทษคนหาผลประโยชน์ส่วนต่าง ย้ำแก้ปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการแก้ปัญหาลอตเตอรี่เกินราคาว่าจากการหารือร่วมกับคณะกรรมการเมื่อวานนี้ที่มีนายอนุชา นาคาศัย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 

โดยที่ประชุมหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา ในระยะสั้น โดยการกําหนดให้มีจุดตรึงราคาตามกําหนดตามโครงการสลาก 80 บาท  ระยะกลางให้คัดกรองผู้ขายสลากฯ ตามที่ได้เปิดลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้าสลากฯใหม่ และระยะยาว จะมีการจําหน่ายสลากฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์  หรืออาจจะออกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ประชุมยังให้มีการดำเนินการพิจารณาใน 2 เรื่อง คือ 1.การกำหนดแนวทางในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ 2. แนวทางคือการหาสาเหตุของสลากเกินราคา และกำหนดแนวทางข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ร่วมกันระหว่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักปลัดสำนักนายกฯ

รวมถึงให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ 
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่นายกฯได้ย้ำในที่ประชุม ครม.ถึงการแก้ไขปัญหาลอตเตอรี่ พร้อมให้ลงโทษผู้ที่จ้องแสวงหากำไร หาผลประโยชน์ส่วนต่างเกินราคา ซึ่งหากเป็นเจ้าหน้าที่ให้ลงโทษเด็ดขาดเจอใครที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้นใครทั้งสิ้น เพื่อกำจัดกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวให้หมดสิ้นไป

“ทิพานัน" ชี้ “นายกฯ” เยือนซาอุฯ ผลงานโบว์แดง เชื่อ เปิดช่อง "การค้า-แรงงาน-ลงทุน “ 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย ว่า การพบกันระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี นับเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อกัน โดยการฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศอาหรับ ประเทศแรกๆที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ตั้งแต่วันที่1ต.ค.2500 และเป็นตลาดแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของไทยในตะวันออกกลาง เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับสองในตะวันออกกลาง และเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ นอกจากนี้เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม ที่ผู้แสวงบุญชาวไทยต้องเดินทางไปยังเมือง เมกกะห์และมาดีนะทุกปี โดยปัจจุบันซาอุดิอาระเบีย เดินหน้าปรับภาคการผลิตที่มุ่งการลงทุนที่ไม่ใช่น้ำมัน จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยจะมีโอกาสเข้าไปลงทุน

‘บิ๊กตู่’ หอบคณะเยือนซาอุฯ ในรอบ 30 ปี หวังฟื้นฟูความสัมพันธ์หลังร้าวฉานนาน

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 25 มกราคม ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษ เพื่อเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันที่ 25-26 มกราคม 

โดยการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นไปตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าเฝ้าและพบปะหารือกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน โดยมีรายงานว่าทั้งสองประเทศจะฟื้นฟูและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ และแรงงาน

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางโดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้จะมีโอกาสดีในการฟื้นความสัมพันธ์อันดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดีกว่า 32 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเกียรติในการที่ได้รับเชิญไปหารือ ฟื้นความสัมพันธ์เก่าๆ ก็ต้องดีขึ้น 

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสที่แรงงานไทยจะได้กลับไปทำงานที่ซาอุฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทุกเรื่อง จะได้มีการพูดคุยหารือ ซึ่งต้องเริ่มต้นกันก่อนและต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อศึกษาหารือร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี และเรื่องวิธีการต่างๆ ที่ต้องพูดคุยกันต่อไป ขณะเดียวกันไปเข้าเฝ้าฯ ในฐานะรัฐบาล ตามที่ข่าวออกไปแล้ว จึงขอให้รอฟังรายละเอียดหลังกลับมา

ทั้งนี้ นายกฯ ยังกล่าวฝากทิ้งท้ายด้วยว่า "ทำให้บ้านเมืองสงบสุขนะ"

รมว.ยุติธรรม มอบนโยบายและติดตามงานดีเอสไอ แนะต้องศึกษาแก้ปัญหาจากต้นตอ นำเทคโนโลยีมาใช้ ปรับกฎหมายให้ทันสมัย จี้ เร่งทำงานครบ 6 เดือนต้องแถลง-ประเมิน KPI 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมี ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายคุณดร  งามธุระ คณะที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม นายไตรยฤทธิ์  เตมหิวงศ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้อำนวยการกองคดี ในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าร่วมการประชุม โดยได้มีการรายงานถึงภารกิจที่สำคัญของแต่ละกองให้ตนได้รับทราบ โดยภาพรวมการดำเนินงานของดีเอสไอในปี 2564 ให้การช่วยเหลือประชาชนรวม 11,581 ราย รักษาผลประโยชน์ให้กับภาครัฐ เอกชนและประชาชน แบ่งเป็นด้านเศรษฐกิจ 12,739 ล้านบาท ด้านทรัพย์สินทางปัญญา 157 ล้านบาท ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม 2,149 ล้านบาท ด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ 676 ล้านบาท

 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานร่วมกับตนมาเกือบ 3 ปี และเป็นหน่วยงานที่เป็นหน้าเป็นตาของกระทรวงยุติธรรม มีหลายเรื่องที่ทำได้สำเร็จให้กับสังคม และยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น คดียาเสพติด คดีรถหรู แชร์ลูกโซ่ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาอุปสรรค เพราะการแก้ปัญหาไม่ได้แก้ตั้งแต่ต้นเหตุ หลายครั้งเราปล่อยให้เกิดขึ้นก็ต้องแก้อีก แต่หากเราสามารถแก้ตั้งแต่ต้นเหตุอาจจะตัดขั้นตอนได้ หรือทำรูปแบบดำเนินการ เช่น คดีแชร์ลูกโซ่ เราเหนื่อยมากเวลาคนมาร้องเรียน เราเจอมาหลายครั้งมีแชร์วงใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราแก้บ่อยๆก็จะเบื่อ ดังนั้นเราจะตัดต้นตอได้หรือไม่ เช่น การออกกฎหมายใหม่ การแก้กฎหมายเพื่อสกัดกั้น ทำให้งานของเราไม่เยอะ หากเราแก้ต้นเหตุได้ก็จะหยุดได้ อย่างที่ตนทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ การยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด และการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้นการทำงานต้องทำให้ถึงต้นตอ เราจะทำงานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ต้องศึกษาและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

“พัชรินทร์” ปัด พปชร.พรรคเฉพาะกิจ โว สัมพันธ์พรรคเหนียวแน่น พร้อมชู "บิ๊กตู่”เป็นนายกฯต่อ

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงความเหนียวแน่นของสมาชิกพรรค ว่า ยืนยันว่ายังมีความเหนียวแน่น แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่เมื่อต้องทำงานเพื่อประชาชน  เชื่อว่าทุกคนมีสปริต สามารถเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นฟันเฟืองสำคัญในการสนับสนุนรัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน และพรรคพปชร.ยังมีเสถียรภาพ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นสถาบันการเมืองที่พร้อมจะทำงานเพื่อประชาชน ให้กินดี อยู่ดี ภายใต้นโยบายและแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาล และพรรคมีจุดยืนที่ชัดเจน มุ่งเน้นให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

“สงคราม” อัด “บิ๊กตู่” ใช้สภาต่อรองผลประโยชน์ไม่แก้ปัญหาให้ประชาชน ชี้ ทุจริตยุครัฐบาลนี้เฟื่องฟู บ่อนการพนัน ตู้ม้า แรงงานเถื่อน เกลื่อนประเทศ รัฐไร้น้ำยาแก้ 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การอภิปรายมาตรา 151-152 ที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลมากมายที่จะเสนอแนะไปยังรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลนำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลไปไม่ไหวแล้ว ยิ่งแก้ ปัญหายิ่งขยายตัว เพราะไม่รู้ต้นตอของปัญหา มาตรการที่รัฐบาลออกมาจึงไม่ตอบโจทย์ของประเทศ 

นอกจากนี้จะเน้นไปที่ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นที่พลเอกประยุทธ์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมามีการทุจริตเกิดขึ้นทุกพื้นที่ทุกโครงการของรัฐบาล นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ยังโกหกประชาชนทั้งประเทศว่าเข้ามาปราบโกง  แต่รัฐบาลตัวเองโกงมหาศาล อยากถามว่าเงินค่าถุงมือยาง 2,000 ล้านบาทที่กระทรวงพาณิชย์จ่ายออกไปแต่ไม่ได้สินค้า จะทำอย่างไร พลเอกประยุทธ์บอกไม่รู้ไม่ได้ จ่ายเงินแต่ไม่ได้ของ พลเอกประยุทธ์กลับเฉยเพราะเกรงใจพรรคร่วม เงินแก้ภัยแล้งแสนล้าน ทุกวันนี้ก็เกษตรกรต้องระสบปัญหาภัยแล้งทุกปี การกระทำผิดกฎหมายเฟื่องฟู ทั้งบ่อนการพนัน ตู้ม้า การลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย ยังคงมีให้เห็นตลอด พลเอกประยุทธ์ เลิกเสียทีชี้หน้าด่าคนอื่นว่าโกง แต่ในรัฐบาลตัวเองกลับนิ่งเฉย แม้แต่สมาชิกวุฒิสภายังยอมรับว่าทุจริตสูงขึ้น 

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ปัญหาตลอดหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลมุ่งสร้างความมั่นคงทางการทหาร 7 ปีซื้ออาวุธให้เหล่าทัพด้วยงบประมาณหลายแสนล้าน  แต่ละเลยปัญหาพี่น้องประชาชน ส่งผลให้ เกษตรกรไทยลำบาก ต้องเจอกับปัญหารุมเร้า ทั้งต้นทุนการเพาะปลูกสูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายเก็บค่าใช้น้ำชลประทาน ซ้ำเติมพี่น้องเกษตรกรอีก สินค้าเกษตรส่งออกของไทยเจอแต่ปัญหา เกษตรกรไทยเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง หากพลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศแล้วคนไทยจะเสียเปรียบขนาดนี้ ขอแนะลาออกเถอะ ก่อนที่เกษตรกรไทย คนไทย และประเทศไทย จะเสียหายไปมากกว่านี้

"แรมโบ้" เห็นด้วย ซูเปอร์โพลประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบโครงการคนละครึ่งเฟส 4  เผย "นายกฯ" สั่งเร่งพิจารณาต่อโครงการของรัฐ เพื่อช่วยประชาชนต่อเนื่อง  ขอประชาชนมั่นใจนายกฯในการแก้ไขปัญหาให้ประเทศ ไม่ทอดทิ้งประชาชน  

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับสำนักวิจัยซูเปอร์โพล สำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 91.5 เห็นด้วยกับรัฐบาลจัดโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ช่วยลดภาระให้กับประชาชน โดยแสดงให้เห็นว่าการทำโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลมาถูกทางแล้ว ที่จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้จริง อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนอีกด้วย

นายเสกสกลยังระบุว่าในการประชุม ครม.นอกจากจะอนุมัติโครงการคนละครึ่งเฟสที่ 4 แล้ว ยังอนุมัติอีกหลายโครงการ ทั้งโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 วงเงินกว่า 8 พันล้านบาทโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ในการเยียวยาและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ซึ่งการต่อโครงการต่างๆของภาครัฐ ถือเป็นการตัดสินใจของนายกฯและรัฐบาล โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ เร่งพิจารณาโดยด่วน เพื่ออนุมัติโครงการต่างๆเหล่านี้ เนื่องจากมีความเป็นห่วงประชาชน อยากให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ระมัดระวังในเรื่องของการใช้งบประมาณแผ่นดินที่มีอยู่อย่างจำกัดด้วย 

“บิ๊กตู่” หอบคณะเยือนซาอุฯ หวังฟื้นฟูความสัมพันธ์ลุ้นข่าวดีแรงงานไทย “สุชาติ”เผยซาอุฯมีบุญคุณ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง(บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  พร้อมคณะ ประกอยด้วย พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษเพื่อเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันที่ 25-26 มกราคม

โดยการเยือนซาอุดิอาระเบียครั้งนี้เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นไปตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าเฝ้าและพบปะหารือกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน โดยมีรายงานว่าทั้งสองประเทศจะฟื้นฟูและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ และแรงงาน

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางโดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้จะมีโอกาสดีในการฟื้นความสัมพันธ์อันดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดีกว่า 32 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเกียรติในการที่ได้รับเชิญไปหารือ ฟื้นความสัมพันธ์เก่าๆ ก็ต้องดีขึ้น 

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสที่แรงงานไทยจะได้กลับไปทำงานที่ซาอุฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทุกเรื่อง จะได้มีการพูดคุยหารือ ซึ่งต้องเริ่มต้นกันก่อนและต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อศึกหารือร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีและ เรื่องวิธีการต่างๆที่ต้องพูดคุยกันต่อไป ขณะเดียวกันไปเข้าเฝ้าฯ ในฐานะรัฐบาล ตามที่ข่าวออกไปแล้ว จึงขอให้รอฟังรายละเอียดหลังกลับมา

ทั้งนี้นายกฯ ยังกล่าวฝากทิ้งท้ายด้วยว่า "ทำให้บ้านเมืองสงบสุขนะ"

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่ม รมว.แรงงาน กล่าวก่อนเดินทาง ว่า  ในการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ราชอาณาจักรซาอุดีอาราเบีย ของนายกรัฐมนตรีและคณะ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี  ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น เพราะยังไม่เคยไป ซึ่งซาอุฯถือว่ามีบุญคุณกับครอบครัวของตนเองเนื่องจาก พ่อของตนเองเคยทำงานที่ซาอุฯ เมื่อปี 2528 ขณะนั้นตนเองอายุ 11 ปี เพราะในอดีต แรงงานไทยได้เดินทางไปทำงาน 2-3 แสนคน  จนทำให้เกิดการแต่งเพลงถึงคนที่ไปทำงาน ที่นั้น  ส่วนรายละเอียดนั้นรอนายกรัฐมนตรีชี้แจง 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ระบุว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่มีการหารือว่า ทั้งสองประเทศควรให้ความใส่ใจต่อประเด็นที่มีประโยชน์ร่วมกันอย่างใกล้ชิดกว่าที่เป็นอยู่โดยมีจุดประสงค์ที่จะเอื้อให้ทั้งสองฝ่ายมีการประสานงานในประเด็นต่างๆ มากขึ้น แต่เนื้อหาในแถลงการณ์นี้ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการความร่วมมือ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top