Saturday, 12 July 2025
POLITICS NEWS

‘รัชดา’ นำทีม กก.บห. หญิง ปชป. เปิดใจ ยืนยัน ขอทำงานกู้วิกฤตศรัทธา ยังไม่ลาออก

ดร.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่ได้เป็นประเด็นอยู่ในสื่อออนไลน์นั้น ต้องเรียนว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของพวกเรา กก.บห. พรรคหญิงทั้ง 7 คน ซึ่งประกอบด้วยตัวดิฉัน คุณเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อ.ผ่องศรี ธาราภูมิ คุณศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่อยู่ด้วยกัน และอีก 3 ท่านที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ ก็คือ ส.ส. พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล คุณอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ซึ่งก็หาเสียงอยู่ คุณสุพัชรี ธรรมเพชร ก็ปฏิบัติราชการอยู่ 

ตลอดห้วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา มันมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากคนในพรรค แล้วก็มีเหตุการณ์ซ้ำซ้อน จนเกิดกระแสกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองที่พวกเรารักยิ่ง พวกเรามีความทุกข์ใจ เสียใจ และอยากมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน พวกเราไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ยิ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้หญิง เรามีความเดือดเนื้อร้อนใจค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของคนในพรรค ของกรรมการบริหารพรรค เราไม่อยากแสดงสิ่งใดออกไปที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพรรคมีความแตกแยก เรายังรักกัน พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อพรรคในทุกๆ ด้านที่ได้รับมอบหมาย เรายังมีความมั่นใจในอุดมการณ์ของพรรค และหวังว่าในอนาคต พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างศรัทธาของพี่น้องประชาชนให้กลับมาสู่พรรคประชาธิปัตย์อีก เราน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เราพร้อมที่จะแสดงออกถึงความห่วงใย และเราจะไปปรับปรุงแก้ไขในทุกๆ สิ่งที่เราทำได้ 

“ดร.รัชดา” นำ กก.บห. หญิง แสดงเจตจำนง มุ่งมั่น ทำงานเพื่อประชาธิปัตย์ หวังเป็นส่วนสร้างศรัทธาจากพี่น้องประชาชนให้กลับคืน 

ดร.รัชดา ธนาดิเรก กก.บห. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขออภัยที่ทำให้รอ ไม่ได้มาแถลงตรงเวลาตามที่นัดไว้ ตามที่ได้เป็นประเด็นอยู่ในสื่อออนไลน์นั้น ต้องเรียนว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของพวกเรา กก.บห. พรรคหญิงทั้ง 7 คน ซึ่งประกอบด้วยตัวดิฉัน คุณเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อ.ผ่องศรี ธาราภูมิ คุณศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่อยู่ด้วยกัน และอีก 3 ท่านที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ ก็คือ ส.ส. พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล คุณอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ซึ่งก็หาเสียงอยู่ คุณสุพัชรี ธรรมเพชร ก็ปฏิบัติราชการอยู่ 

ตลอดห้วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา มันมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากคนในพรรค แล้วก็มีเหตุการณ์ซ้ำซ้อน จนเกิดกระแสกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองที่พวกเรารักยิ่ง พวกเรามีความทุกข์ใจ เสียใจ และอยากมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน พวกเราไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ยิ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้หญิง เรามีความเดือดเนื้อร้อนใจค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของคนในพรรค ของกรรมการบริหารพรรค เราไม่อยากแสดงสิ่งใดออกไปที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพรรคมีความแตกแยก เรายังรักกัน พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อพรรคในทุกๆ ด้านที่ได้รับมอบหมาย เรายังมีความมั่นใจในอุดมการณ์ของพรรค และหวังว่าในอนาคต พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างศรัทธาของพี่น้องประชาชนให้กลับมาสู่พรรคประชาธิปัตย์อีก เราน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เราพร้อมที่จะแสดงออกถึงความห่วงใย และเราจะไปปรับปรุงแก้ไขในทุกๆ สิ่งที่เราทำได้ 

ด้วยความที่เรารักพรรค สิ่งที่เราแสดงออก เราไม่อยากให้สังคมไปเข้าใจว่าพรรคมีความแตกแยก เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราทั้ง 4 คน ก็จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรค และทั้ง 4 คนที่อยู่วันนี้ และอีก 3 คน ที่ได้ร่วมอุดมการณ์ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เราก็จะมุ่งมั่นทำหน้าที่สมาชิกพรรคอย่างเต็มที่ ส่วนในเรื่องของตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคนั้น ... 

เราก็จะรับผิดชอบในส่วนที่เราทำได้ หากมีการตัดสินใจอย่างใดก็จะมาแจ้งให้ทราบ แต่วันนี้เราไม่อยากให้สังคมคิดว่า ใครๆ ก็เดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความจริง 

‘กนก วงษ์ตระหง่าน’ ไขก๊อก รองหัวหน้าปชป. ผิดหวังต่อมาตรฐานจริยธรรมผู้บริหารพรรค

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. เวลา 10.00 น. นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า จำเป็นต้องลาออกจาก “รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” ด้วยสำนึกทางศีลธรรม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้บริหารระดับสูงของพรรคท่านหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด และได้เข้าสู่การพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมแล้วนั้น สาธารณชนจำนวนมากแสดงการไม่ยอมรับ และรังเกียจต่อการกระทำตามที่ถูกกล่าวหานั้น ด้วยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อศีลธรรมอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อมาตรฐานความรับผิดชอบทางศีลธรรมของผู้บริหารพรรคโดยรวม และจากการดำเนินการของพรรคต่อเรื่องนี้โดยหัวหน้าพรรค กลับสวนทางกับความคาดหวังของสาธารณชนในเรื่องสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมของพรรค

‘รวมไทยฯ’ ฉะ!! สายสีเขียว 20 บาท แค่ขายฝัน! ยัน!! ต้องกล้า ‘ทวงอำนาจ-รื้อระบบ’ ที่เละเทะก่อน

25 เม.ย. 65 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “รถไฟฟ้าสายสีเขียว: ขายฝันในราคา 20 บาท กันอยู่หรือเปล่า?” โดยระบุว่า แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.ก็หาเสียงกันไป: BTS สายสีเขียวต้องอย่างนี้ ราคาต้องอย่างนั้น ประชาชนต้องได้ประโยชน์ แต่ความเป็นจริง คือ ประชาชนเดือดร้อน

ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด ได้ลงพื้นที่หาเสียงกับแคนดิเดต ส.ก.ของพรรค ซึ่งหลายพื้นที่อยู่ในเขตของรถไฟฟ้าสายสีเขียว นอกจากเรื่องปากท้องที่เรารู้กันอยู่ อีกเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องคือ : จะเอายังไงกับรถไฟฟ้า ทำไมปัญหาแก้ไม่จบ ขายฝันในราคา 20 บาท กันอยู่หรือเปล่า?

ความเป็นจริงคือ ปัญหาอยู่ที่นายกฯ ไม่กล้าตัดสินใจ กระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงคมนาคมขัดแย้งกัน BTS ซึ่งเป็นเอกชน ถูกตราหน้าให้เป็นผู้ร้าย และประชาชน ถูกจับเป็นตัวประกันบนข้อขัดแย้ง

11 เมษายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจ มาตรา 44 ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ปัจจุบันทุกอย่างชะงัก เพราะกระทรวงคมนาคมค้าน

ทุกวันนี้ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นบริการฟรี BTS ซึ่งรับจ้างเดินรถ รับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ถ้าไม่ต่อสัมปทาน กทม. ก็ต้องจ่ายหนี้ BTS มูลค่าประมาณ 30,370 ล้านบาท บวกกับ 69,000 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายให้กับ รฟม. ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างงานโยธาส่วนต่อขยายช่วงที่ 2

“บิ๊กตู่” สั่งทีมเศรษฐกิจ เดินหน้าโรดโชว์ต่างประเทศ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงานดูแลรับผิดชอบ โดยจัดทำแผนเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศหลายมาตรการ  

ล่าสุดระหว่างวันที่ 19-23 เม.ย. ที่ผ่านมารองนายกฯ  ได้นำคณะไปจัดกิจกรรมส่งเสริมและชักจูงการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ให้ข้อมูลนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรม S-Curve รวมถึงมาตรการจูงใจนักธุรกิจและนักลงทุนเดินทางเข้ามาพำนักในประเทศไทยโดยถือวีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว (LTR)  

'ราเมศ' เผย ความพร้อม ก่อนเปิดสภา 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 22 พ.ค.ว่า 

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในส่วนของพรรค ตลอดช่วงระยะเวลาที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ ทางส.ส.ของพรรคจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ พบปะ เยี่ยมเยียน ช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังมีอยู่และ ส.ส.ทุกคนก็ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำหน้ากากผ้า จัดทำถุงยังชีพ  สนับสนุนอุปกรณ์ในการคัดกรองให้กับชุมชนและหน่วยงานทางการแพทย์ จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าไปช่วยเหลือกรณีประชาชนเดือดร้อนเร่งด่วน และอื่นๆอย่างเต็มที่ การร่วมมือร่วมใจกันคนละไม้ละมือเพื่อให้ผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปให้ได้ 

“เทพไท” ฟันธง “อุ๊งอิ๊ง” คือ นายกฯของเพื่อไทย ชี้หนี้ไม่พ้นการสืบทอดอำนาจคนตระกูลชินวัตร เย้ยคนใน พท.ก็แค่ “เบ๊” รับใช้เท่านั้น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก ว่า เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ตนได้นั่งดูการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยด้วยความสนใจ และได้ลุ้นบทบาทการขึ้นเวทีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง พอๆกับการนั่งลุ้นของ นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จากดูไบ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า น.ส.แพทองธาร มีพัฒนาการทางการเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเปรียบเทียบกับตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าการเมืองใหม่ๆ น.ส.แพทองธาร ฉายแวว มีบทบาทเด่นกว่า และมีหน่วยก้านทางการเมือง ที่ดีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มาก 

“การขึ้นเวทีปราศรัยของคุณแพทองธาร เห็นได้ว่า มีการพูดจาได้ฉะฉาน แสดงบทบาทบนเวทีพร้อมที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองได้อย่างสบายๆ และเชื่อว่าคุณแพทองธาร จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ห้วงเวลาต่อจากนี้ ไปจนถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ก็จะทำให้คุณแพทองธาร จะมีพัฒนาการและความแข็งแกร่งทางการเมืองมากยิ่งขึ้น สมกับที่คุณทักษิณได้คาดหวัง และวางแผนไว้”นายเทพไท ระบุ

นายเทพไท ระบุต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน.ส.แพทองธาร จะเป็นผู้นำตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ตามที่นายทักษิณได้วางแผนไว้ ถ้าย้อนไปดูการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทักษิณ ในอดีตที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นการส่งเสริมบทบาท ของคนในครอบครัว วงศ์วานหว่านเครือของตัวเองทั้งสิ้น เช่น 1.ส่งเสริมให้มีบทบาทในตำแหน่ง ส.ส. มี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง น้องสาว นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ฯลฯ 2.สนับสนุนให้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย และน.ส.ยิ่งลักษณ์น้องสาว เคยสนับสนุนคนอื่นอย่างนายสมัคร สุนทรเวช แต่ก็ผิดหวัง เพราะควบคุม สั่งการไม่ได้ดั่งใจ

'นายกฯ' สั่ง เดินหน้า สร้างความเชื่อมั่นดึงต่างชาติลงทุนไทย มอบทีมเศรษฐกิจเดินสายโร้ดโชว์ ประเดิมญี่ปุ่น 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้ตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19(ศบค.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ได้มีมติยกเลิกข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test&Go เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยมีผลเริ่มวันที่ 1 พ.ค. 2565 ไปแล้วนั้น

ทางด้านการลงทุนเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานดูแลรับผิดชอบ จัดทำแผนเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศหลายมาตรการ  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของนักลงทุนในต่างประเทศระหว่างวันที่ 19-23 เม.ย. ที่ผ่านมานายสุพัฒนพงษ์  ได้นำคณะไปจัดกิจกรรมส่งเสริมและชักจูงการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นต่างชาติที่มีการลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด และเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายสำคัญของโลก ซึ่งในโอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีและคณะได้ให้ข้อมูลนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรม S-Curve  รวมถึงมาตรการจูงใจนักธุรกิจและนักลงทุนเดินทางเข้ามาพำนักในประเทศไทยโดยถือวีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว (Long – Term Resident Visa: LTR)  

 “ต่อเนื่องจาการผ่อนคลายมาตรการเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีให้มีการมีการเจรจาทั้งทางการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อเร่งให้การค้าและการลงทุนเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย ซึ่งตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีเนื่องจากหลายประเทศได้เปิดประเทศ สามารถเดินทางได้มากขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนของการโร้ดโชว์ในต่างประเทศนั้นเริ่มจากญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก ซึ่งตามแผนงานของสำนักงานบีโอไอจะทยอยเดินทางไปประเทศที่มีการลงทุนในไทยมากและเปิดประเทศแล้ว เช่น ยุโรป สหรัฐฯ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบที่รองนายกรัฐมนตรีนำคณะไปในนามของรัฐบาลและระดับการให้ข้อมูลโดยสำนักงานบีโอไอเอง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว 

“บิ๊กตู่”ควง สุชาติ - พีระพันธุ์ ล่องใต้ บอกไปทำงานดูแลประชาชน ไร้นัยยะการเมือง 

นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจาก ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 56 ตำบลโคกม่วง อำเภอคลองหอยโข่ง  จังหวัดสงขลา ในการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง เพื่อติดตามโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 แก้ไขอุทกภัย อ.หาดใหญ่  พร้อมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดพัทลุง และผู้บริหารท้องถิ่น 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า การลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้เพื่อไปทำงาน ดูแลประชาชน ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด

ในช่วงเช้านายกรัฐมนตรี มีภารกิจตรวจติดตามโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 การแก้ไขอุทกภัย อำเภอหาดใหญ่  ในการจัดทำโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ปรับปรุงคลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) ให้มีศักยภาพเพียงพอในการป้องกันน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ และเป็นพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ณ คลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) อำเภอหาดใหญ่  ซึ่งปัจจุบันโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 92.10% โดยประตูระบายน้ำหน้าควน 2 ซึ่งอยู่บริเวณปากคลองระบายน้ำ ร.1 ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถบริหารจัดการน้ำโดยการเปิดปิดบานเพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่คลองระบายน้ำ ร.1 และคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งได้ทำการปรับปรุงโดยการขุดขยายความกว้างของคลองระบายน้ำจากเดิมท้องคลองกว้าง 24 เมตร ขยายเป็น 70 เมตร พร้อมทั้งก่อสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 ทำให้คลองระบายน้ำ ร.1 ในปัจจุบันจะสามารถช่วยในการระบายน้ำในช่วงฤดูฝนได้สูงสุดประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

“นายกฯ” ปลื้ม นักกีฬา “เชียร์ฮิปฮอป” คว้าแชมป์โลก สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

เมื่อวันที่25 เม.ย.นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมนักกีฬาเชียร์ฮิปฮอป ทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการกีฬาไทย คว้าเหรียญทอง ประเภทดับเบิ้ลเชียร์ฮิปฮอป จากการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่สหรัฐอเมริกาโดย สมาคมกีฬาเชียร์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คัดตัวแทนเยาวชนไทย 2 คน ได้แก่  “แบงค์” หรือนายนพรัตน์ บุญรัตน์ สมาชิกจากทีม Group Royal Crew-GRC and Mix Them Up  และ “ดรณ์” หรือนายกร คุ้มราช เป็นสมาชิกจากทีม The Zoo and Awesome เข้าแข่งขันกับนักเต้นฮิปฮอปทั่วโลก ในรายการ THE 2022 ICU WORLD CHAMPIONSHIPS ณ ESPN Wide World of Sports Complex เมืองออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุด จัดโดยสหพันธ์กีฬาเชียร์นานาชาติ (THE INTERNATIONAL CHEER UNION -ICU)  มีนักกีฬาทั้งหมด 17 ประเทศ โดยทั้งสองคนสามารถเอาชนะนักกีฬาตัวเต็งจากหลายประเทศทั้งเอกวาดอร์ เม็กซิโก เปอร์โตริโก้ และ เยอรมนี  

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top