Thursday, 3 July 2025
POLITICS NEWS

พรรคการเมืองไทย อ้าง ปชต. แต่ส่งไม้ต่อทายาท ไม่ต่างเผด็จการตระกูล ‘คิม’ แห่งเกาหลีเหนือ

ตกลงจะประชาธิปไตยหรือเผด็จการ..โทนี่
นอกจากขีปนาวุธที่คิม จอง อึน ขยันปล่อยรัว ๆ อวดชาวโลกแล้ว ตอนนี้ยังมีเรื่องใหม่ให้โลกจับจ้องแทนจรวดพี่คิม นั่นคือเด็กหญิงหน้าตาน่ารักที่คิมเปิดตัวหลายครั้งหลายหน ช่างสมเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ แบบสำเนาถูกต้อง เพราะเปิดตัวลูกสาวในงานการยิงทดสอบขีปนาวุธแบบทิ้งตัวข้ามทวีป (ICBM) รุ่นฮวาซอง-17 ณ สถานที่ยิงขีปนาวุธ ท่าอากาศยานนานาชาติเปียงยาง ในกรุงเปียงยาง

การเปิดตัวครั้งนี้ทำให้ชาวโลกลือกันแซดว่า น่าจะมีการส่งต่ออำนาจอีกรุ่นภายในตระกูลคิมอีก ซึ่งคราวนี้จะเป็นสืบตระกูลเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ลูกสาวของคิม จอง อึนชื่อ จูแอ (Ju Ae) วัย 13 ปี ผู้ซึ่งคิม จอง อึนพาไปตรวจขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM  เป็นหนที่สอง และหนนี้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับกองกำลังเกาหลีเหนือ 

ข่าวลือเลยยิ่งแพร่สะพัดไปทั่วโลกว่า นี่คือการเปิดตัวทายาททางการเมืองของคิม จอง อึน เพราะจากนี้อีกไม่กี่ปี คงส่งลูกสาวคนนี้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยหรือรับราชการทหาร

นายกฯ เบรกสื่อจี้ถาม 'สุชาติ' ลาออก หลังบอกจะไปทำการเมืองร่วมกัน

(29 พ.ย. 65) พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี​ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน​ ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ​ โดยระบุว่า จะไปทำงานการเมืองกับนายกรัฐมนตรี​ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยกมือเพื่อปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี​ มีความชัดเจนทางการเมืองหรือยัง​ เพราะนายสุชาติ​ ยังย้ำว่า​นายกรัฐมนตรีไปไหนไปด้วย​ นายกรัฐมนตรี​ ก็ไม่ยอมตอบเช่นเดียวกัน

'อภิสิทธิ์' ห่วง สมาชิกพรรค ปชป.ลาออก พร้อมแจงร่วมโต๊ะ 'เสี่ยหนู' ไม่มีนัยการเมือง

(29 พ.ย. 65) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า ตอนนี้ทุกคนรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความชัดเจน บนเวทีทุกคนก็เห็นตรงกันว่าตอนนี้มีปัญหา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาทำไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดปัญหา แต่ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) ศาลก็จะเป็นผู้กำหนดทางออก ถ้าศาลวินิจฉัยว่ามีปัญหาและขัดกันในเรื่องของกฎหมายลูก คงต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายใหม่ แต่ถ้าชี้ว่าไม่ขัด มาตราที่มีการผูกติดกับระบบเดิมก็ไม่ต้องใช้ ค้างไว้เช่นนั้น ทั้งนี้ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรเลวร้ายถึงขั้นที่ต้องลงถนน ทุกอย่างอย่างยังคงต้องอยู่ในกติกา ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่าภายในปีหน้าต้องมีการเลือกตั้ง เพียงแต่ว่าการจัดการเลือกตั้งจะจัดให้ราบรื่นได้อย่างไร ภายใต้ข้อจำกัดที่อาจมีปัญหาในข้อกฎหมาย ที่อาจจะไม่ทันแต่เชื่อว่าจะไม่มีอะไรที่นำไปสู่ความขัดแย้งได้

กาฬสินธุ์ภูมิใจไทยลุยบอกข่าวดีพูดแล้วทำ

'หมู วิรัช พิมพะนิตย์' พรรคภูมิใจไทยกาฬสินธุ์ เขต 1 ลุยบอกข่าวดีนโยบายพรรคภูมิใจไทย ให้กับพี่น้องประชาชนอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะการจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท ฟรีพลังงานโซลาเซลล์ ลดค่าไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 บาทต่อเดือน และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท ที่วัดสุวรรณาราม และวัดสุมังคลาราม ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทยกาฬสินธุ์ เขต 1 พร้อมคณะลงพื้นที่สอบถามปัญหา และความต้องการของพี่น้องประชาชน พร้อมนำนโยบายของพรรคภูมิใจไทย บอกกล่าวกับประชาชน ตามสโลแกน พูดแล้วทำ และในนาม 'หมู วิรัช พูดแล้วทำ' ที่ชาวบ้านจดจำและพูดติดปากกันมานานนับ 30 ปี หลังลงพื้นที่ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาและพบปะพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้เข้าพบปะประชาชนที่วัดสว่างชัยศรี ต.เหนือ อ.เมืองกาฬสินธุ์

โดยนายวิรัช พิมพะนิตย์ หรือหมู พูดแล้วทำ ได้พบปะกับพี่น้องประชาชน ระบุว่า การลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชนถือเป็นภารกิจและสิ่งที่ตนเอง และคณะทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการรับฟังปัญหาและนำไปแก้ไขแล้ว ยังเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในทุกสถานการณ์ ตามสโลแกนพูดแล้วทำ โดยในวันนี้นอกจากจะพบปะ พูดคุย สอบถามปัญหา ความต้องการขั้นมูลฐานแล้ว ยังได้ประชาสัมพันธ์ โดยนำนโยบายที่ดีๆของพรรคภูมิใจไทย มาบอกกล่าวและเพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้รับทราบ เข้าใจ ในสิ่งที่พรรคต้องการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้มีความอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และพัฒนาบ้านเมืองอีกด้วย

‘สมคิด’ จวก ‘ประยุทธ์’ ต้องหยุดกู้เงินเพิ่ม ชี้!! ไม่ควรสร้างภาระให้รัฐบาลรุ่นต่อไป

(29 พ.ย. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะบรรจุพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....  เข้าสู่การพิจารณาของสภาเมื่อใด แต่เห็นได้ชัดว่ากฎหมายกัญชา สร้างความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจนอันเนื่องมาจากนโยบายกัญชาเสรี เพราะพรรคร่วมรัฐบาลมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และยังชัดเจนว่าไม่รับนโยบายดังกล่าวแม้จะอ้างว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่เพราะความไม่ชัดเจนของกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา อีกทั้งเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับภาพรวมของสังคมไทย แม้จะมีความขัดแย้งกันในเรื่องของกฎหมายกัญชา แต่ยังคงสร้างภาพให้ดูว่าสมัครสมานกลมเกลียวกัน เพราะถึงอย่างไรพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องกอดคอกันไปจนนาทีสุดท้ายของรัฐบาล

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ในส่วนของการปรับคณะรัฐมนตรี ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ออกมาส่งสัญญาณถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในตำแหน่งที่ว่างลง น่าประหลาดใจว่าทำไมนายจุรินทร์เพิ่งมาทวงเอาตอนนี้ ทิ้งเวลาผ่านไปนานเกือบ 2 เดือน แม้การปรับคณะรัฐมนตรีจะเป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ นายจุรินทร์ต้องทวงตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นกับพล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น

‘รอง มทภ.4’ ย้ำชัด การ์ดเกม บิดเบือนประวัติศาสตร์ ซัด ‘คณะก้าวหน้า’ หนุนผลิต เชื่อหวังผลทางการเมือง

จากกรณีมูลนิธิคณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนบอร์ดเกม ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปัตตานี ตามที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์เพจเฟสบุ๊ค Urban Creature ได้นำเสนอบอร์ดเกม ที่มีชื่อว่า 'Patani Colonial Territory' ซึ่งเป็นการ์ดเกมสำหรับเยาวชนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปาตานี โดยได้ให้รายละเอียดว่าได้รับการสนับสนุนจากสำนักพิมพ์ KOP1 และได้รับทุนสนับสนุนจาก Common Schoo มูลนิธิคณะก้าวหน้า

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นถกเถียงในทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากการ์ดเกมดังกล่าวมีเนื้อหาสาระที่นำไปสู่ความแตกแยก โดยเฉพาะประเด็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ อาทิ ภาพการ์ดในเกมที่นำมาประชาสัมพันธ์ เรื่อง 'เอ็นร้อยหวาย' ที่ปัจจุบันในวงวิชาการยอมรับว่าเป็น 'เรื่องเสริมแต่งเพิ่มในภายหลัง' ที่ไม่เป็นความจริง แต่เป็นเรื่องราวที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างความเกลียดชัง 'รัฐสยาม' แต่ก็ยังมีการนำเรื่องราวสร้างความหวาดกลัวนี้มาใช้ในการประชาสัมพันธ์

ล่าสุด พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งข้อสังเกตถึงการทำบอร์ดเกมดังกล่าวว่า การเคลื่อนไหวในประเด็นเรื่องประวัติศาสตร์เชิงบาดแผล เป็นสิ่งที่หน่วยงานด้านความมั่นคงมีความกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นล่าสุดที่ได้มีการนำประวัติศาสตร์เชิงบาดแผลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาผลิตเป็นการ์ดเกม และได้ออกแคมเปญโฆษณาเพื่อดึงเยาวชนเข้ามาทำการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเพราะการ์ดเกมเข้าถึงกลุ่มเยาวชนได้ง่าย

ทั้งนี้ เมื่อย้อนไปดูประวัติศาสตร์เชิงบาดแผลในหลาย ๆ เหตุการณ์ กลับพบว่าเป็นสิ่งที่ได้รับการปั้นแต่งขึ้นมา เช่น การจับคนมลายู เจาะเอ็นร้อยหวาย แล้วนำไปขุดคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างยาวนาน แต่ทว่าในเรื่องดังกล่าวนี้ ได้มีการศึกษาอย่างละเอียด ทั้งในเชิงการแพทย์ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์การขุดคลองแสนแสบ พบว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคนมลายูที่ถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยในขณะนั้นแต่อย่างใด

โดยเฉพาะในข้อเท็จจริงเชิงการแพทย์นั้น แทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย ที่จะนำประชาชนถูกเจาะเอ็นร้อยหวายไปทำงานหนัก ขณะที่ในเชิงประวัติศาสตร์ ได้มีนักวิชาการศึกษาวิจัยมาอย่างถ่องแท้แล้วว่า การขุดคลองแสนแสบนั้นเกิดขึ้นในสมัยใด ส่วนแรงงานกว่า 90% เป็นชาวจีนโพ้นทะเล และมีแรงงานชาวลาวอีกส่วนหนึ่ง โดยไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่า ได้นำเชลยมาเจาะเอ็นร้อยหวาย มาขุดคลองแสนแสบแต่อย่างใด

ชาวนาฝาก ‘กรณ์’ ทวงถามรัฐ ส่วนต่างประกันข้าว 3,000 บาท หายไปไหน

(29 พ.ย. 65) นายกรณ์ จากติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวภายหลังเข้าร่วมเกี่ยวข้าวอิ่มปีที่ 9 ร่วมกับชาวนา จ.มหาสารคาม ว่า โครงการ 'ข้าวอิ่มมหาสารคาม' เป็นโครงการนโยบายนำร่องเพื่อพิสูจน์ว่าเกษตรพรีเมียม สามารถทำให้ชาวนาไทยเราอยู่ดีกินดีได้ ในสมัยที่ตนเคยช่วยดูแลโครงการประกันรายได้ เราได้ตั้งใจว่า นอกจากการมีประกันรายได้เพื่อดูแลค่าครองชีพเฉพาะหน้าแล้ว เรื่องนโยบายเศรษฐกิจด้านการเกษตร ต้องต่อยอดให้เกษตรกรไทยมีรายได้สูงอย่างยั่งยืนอีกด้วย

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตั้งแต่ลงพื้นที่ขอนแก่นช่วงเข้าก่อนเดินทางมา จ.มหาสารคาม ก็มีชาวนามาร้องเรียนว่าตน 'โครงการประกันรายได้เกษตรกร' มีส่วนต่างประกันรายได้ที่หายไปประมาณ 3,000 บาท เขาอยากรู้ว่าเงินตรงนี้หายไปไหน โดยที่หลักการของการประกันรายได้คือการ ‘จ่ายส่วนต่าง’ ระหว่างราคาที่ชาวนาขายได้ กับราคาที่ชาวนาควรจะได้รับ คือราคาประกัน โดยที่รัฐเป็นผู้กำหนดว่าราคาขายคือเท่าไร เรียกว่าราคาอ้างอิง โดยรอบล่าสุดนี้ 25 พฤศจิกายน 2565 ประกาศว่า ชาวนาที่ปลูก ข้าวหอมมะลิ จะได้ราคาส่วนต่างไว้ที่ตันละ 890 บาท โดยคิดจากราคาอ้างอิงที่ 14,110 บาท ต่อให้ข้าวที่ความชื้นต่ำกว่าเกณฑ์ 15% ก็ได้ราคาเพียง 12,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง ผมเช็คแล้วเช็คอีกกับโรงสี และทีมงานทั้งมหาสารคาม ร้อยเอ็ดก็ยืนยันเสียงเดียวกัน

“ความหมายของมันคือ รัฐมองว่า ชาวนาควรจะขายข้าวหอมมะลิได้เองในตลาดที่ตันละ 14,110 บาท และรัฐทบส่วนต่างให้อีก 890 บาท ถึงจะทำให้ชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลินี้ มีรายได้ค่าข้าวที่ตันละ 15,000 บาท แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น วันนี้ผมพบทั้งชาวนาและ ธกส.เสียงเดียวกันเลยครับว่า ราคาขายจริงที่ชาวนาได้คือ 11,000 บาท เพียงเท่านั้น นั่นแปลว่า รายได้จากการปลูกข้าวคือ 11,000 บวก 890 บาท ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า เกณฑ์การกำหนดราคาอ้างอิงของกระทรวงพาณิชย์ ไม่ตรงกับสภาพจริงของราคาตลาด และนี่เป็นสาเหตุทำให้ชาวนาที่ควรมีรายได้ตันละ 15,000 บาท ได้เงินเพียง 11,890 บาทเท่านั้น ผมเห็นใจชาวนา ว่าแบบนี้ไม่น่าจะตรงกับหลักการเดิมของนโยบาย” นายกรณ์ กล่าว

'เสี่ยเฮ้ง' ยื่นลาออกกรรมบริหาร พปชร. ชี้!! 'มีภารกิจ-เหตุผล' ที่ต้องกับลุงตู่

‘สุชาติ’ กราบลา ‘บิ๊กป้อม’ ร่อนใบลาออกจาก ‘กก.บห.พลังประชารัฐ’ แล้ว หลังเตรียมซบ ‘รทสช.’

(29 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว และทางพรรคได้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พ้นจากการเป็นผู้อำนวยการพรรค 

โดยการลาออกจากกก.บห.พรรคของนายสุชาติ หลังมีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) และหลังจากโพสต์เฟซบุ๊ก “นักเลงเมืองชล ลุงตู่ ปกป้องดูแล ผมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี จะทิ้งลุงตู่ไปคนเดียว ผมจะเอาหน้ากลับมาบ้านได้อย่างไร เสียชื่อคนชลบุรีหมดสิครับ”

'อนุพงษ์' ลงนามแปลงสัญชาติ 'ตู้ ห่าว' ตามขั้นตอน เหตุถูกชงชื่อก่อนนั่ง มท.1 และต้องทำหน้าที่ตาม กม.

เมื่อวันที่ (28 พ.ย. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยปรากฏสำเนาเอกสารประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนพิเศษ 245 ง ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 ระบุชื่อบุคคลลำดับที่ 35 นายหาว เจ๋อ ตู้ เอกสารหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ลงวันที่ 26 มกราคม 2558 ของ นายหาวเจ๋อ ตู้ และปรากฏข้อความระบุว่า ‘อนุพงษ์ เผ่าจินดา คือ ผู้ที่ให้สัญชาติไทยแก่ ตู้ห่าว’

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นายหาวเจ๋อ ตู้ แต่เดิมเป็นบุคคลสัญชาติจีน มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในพื้นที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ได้ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต่อกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา กระทรวงมหาดไทยได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอฯ และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ในการประชุมครั้งที่ 2/2556 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ซึ่งมีรองอธิบดีกรมการปกครองเป็นประธาน ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนกรมการกงสุล ผู้แทนกรมการจัดหางาน ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นอนุกรรมการ และได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ ในการประชุมครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการตามกฎหมาย เพื่อเสนอแนะและให้ความเห็นประกอบการใช้ดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้ใช้ดุลพินิจตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ พิจารณาอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยได้ แล้วแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ทำพิธีปฏิญาณตน และประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติครั้งดังกล่าว มีมติเห็นควรเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช้ดุลพินิจอนุญาตให้คนต่างด้าวแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ จำนวน 12 ราย เพราะเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนของการได้สัญชาติไทยตามที่กฎหมายกำหนด คือ

‘ชลน่าน’ ต้อนรับ ‘แกนนำ นปช.’ หวนคืนบ้านเก่า โว!! ผนึกกำลังล้มระบอบประยุทธ์ พาเพื่อไทยแลนด์สไลด์

‘ชลน่าน’ ต้อนรับแกนนำ นปช.หวนคืนบ้านเก่า ‘ก่อแก้ว-อรรถชัย’ โวขอผนึกกำลังจัดการระบอบ ‘ประยุทธ์’ เดินหน้าแลนด์สไลด์เพื่อไทย

(28 พ.ย. 65) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรคเพื่อไทยนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวต้อนรับนายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายอรรถชัย อนันตเมฆ แกนนำ นปช.เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดียิ่งที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ โดยทั้งนายก่อแก้วและนายอรรถชัยซึ่งเป็นสมาชิกร่วมอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเคยเป็นสมาชิกพรรคมาก่อนตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน วันนี้ได้หวนคืนมาสร้างเสริมอุดมการณ์ประชาธิปไตยให้ประเทศร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองในมิติทางประชาธิปไตย ทำงานร่วมกันเพื่อประชาชนต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top