Thursday, 3 July 2025
POLITICS NEWS

‘อนุสรณ์’ จี้ กกต.จับตาดู ‘ประยุทธ์’ ลงพื้นที่ หวั่นฝ่าฝืนกฎเหล็กกกต. - หาเสียงล่วงหน้าคนอื่น

(25 พ.ย. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยอมรับว่ากำลังพิจารณาที่จะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไม่ไปต่อกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในขณะที่ทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างแย่งกันลงพื้นที่เข้าหาประชาชนว่า แม้พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่ชี้ชัดว่าอนาคตทางการเมืองของตัวเองจะจบลงตรงไหน แต่การลงพื้นที่เร่งหาเสียงล่วงหน้าหนักและชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์จะทำพิธีกดปุ่มโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปาดหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พอพรรคร่วมรัฐบาลรู้ข่าวก็ชิงแถลงข่าวปาดหน้าพล.อ.ประยุทธ์กลับ โดยการนำตัวแทนสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน มาร่วมแถลงข่าวคิกออฟจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาที่กระทรวงพาณิชย์ ปาดมาปาดกลับไม่โกง 

ประชาชนตั้งคำถามว่ากฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ยังมีอยู่หรือไม่ ได้บังคับใช้อย่างเท่าเทียมเป็นธรรมหรือเลือกปฏิบัติ หรือเป็นธรรมเฉพาะกับฝ่ายรัฐบาล ก่อนหน้านี้ กกต.บอกว่ารัฐบาลสามารถลงพื้นที่ได้เฉพาะนอกเวลาราชการ กิจกรรมที่ทำอย่างหนักในช่วงนี้ ทุกฝ่ายก็เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลทำกิจกรรมลงพื้นที่ในเวลาราชการ ไม่ใช่นอกเวลาราชการ แบบนี้ กกต.จะตีความอย่างไร

‘บิ๊กตู่’ ถกกพช. ตรึง ‘ค่าไฟ-ก๊าชหุงต้ม’ เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยในวันเดียวกันนี้พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติภารกิจตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าเวลา 10.30 น. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 8/2565 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอคณะกรรมการ กพช. พิจารณาให้ของขวัญปีใหม่ประชาชนด้วยการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาน พร้อมตรึงค่าไฟฟ้างวดแรกปี 2566 (ม.ค.-เม.ย.) ไว้ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย 

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) และค่าไฟ ที่จะยังคงดูแลกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยและ 500 หน่วยต่อไป รวมถึงจะมีการพิจารณามาตรการทั่วไปด้วย

‘สุทิน’ มอง ‘ธรรมนัส’ คัมแบ็ค พปชร. ไม่มีปัญหา ชี้ ปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญคือ ‘บิ๊กตู่’ อยู่หรือไป

วันนี้ (25 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ไฟเขียวให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา กลับพรรคพปชร. ว่า ก็ไม่แปลกเนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนเก่าในพรรค ประชาชนยังรับรู้ว่า ร.อ.ธรรมนัส ก็อยู่พรรคพปชร. ตนเชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

‘จิราพร’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ เป็นแค่คนจัดอีเวนต์เอเปค ประเมินให้สอบตกเพราะ ‘ขาดภาวะผู้นำ - ไม่มีวิสัยทัศน์’

‘จิราพร’ ให้คะแนน ‘ประยุทธ์’ สอบตกจัดเอเปคแค่งานอีเวนต์ เย้ยชูเจรจาการค้าแบบเมกา 20 ปีก่อนยังกล้าโชว์เป็นผลงาน

วันนี้ (24 พ.ย. 65) น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่เพิ่งจบลงว่า ในภาพรวมอาจดูเหมือนว่าไทยประสบความสำเร็จในการจัดอีเวนต์ แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สอบตกในด้านสารัตถะและการแสดงภาวะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เพราะประเด็นหลักที่ไทยชูในการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific : FTAAP) ที่แม้จะเป็นแนวคิดที่ดี แต่เป็นเรื่องเก่าที่เคยเสนอเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว การเสนอจัดทำเขตการค้าเสรี FTAAP ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเคยมีการพูดคุยครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 โดยมีสหรัฐฯ เป็นผู้ริเริ่มเสนอแนวคิด โดยเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วสมาชิก APEC ที่เป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง สหรัฐ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น มีแนวนโยบายการค้าที่ไม่ขัดแย้งกันรุนแรงเหมือนในปัจจุบัน การผลักดันให้จัดตั้ง FTAAP ก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ยิ่งสถานการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมถึงความขัดแย้งในระดับภูมิภาคระหว่างชาติมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และสมาชิกชาติตะวันตก ทำให้เป้าหมายการจัดตั้งเขตเสรีทางการค้า FTAAP แทบจะเป็นไปไม่ได้ 

‘ก้าวไกล’ ฉะ!! ซื้อสิทธิฉายบอลโลกประเคนนายทุน จับพิรุธผู้บรรยายช่องดังเอาแต่ขอบคุณ ‘บิ๊กป้อม’

ก้าวไกล ฉะ กสทช. อนุมัติเงินรัฐซื้อสิทธิฉายบอลโลกประเคนนายทุน ถาม ประวิตรขายนาฬิกาสมทบด้วยหรือ? ถึงได้ขอบคุณออกอากาศทุกแมทช์

(24 พ.ย. 65) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายตั้งคำถามกับการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าลิขสิทธิ์บอลโลก และได้ตั้งคำถามต่อการกำกับดูแลว่าเมื่อรับเงินไปแล้ว นายทุนหรือประชาชนได้ประโยชน์กว่ากัน

โดยปกรณ์วุฒิ เริ่มต้นถึงความย้อนแย้งในการทำหน้าที่ กสทช. ว่าในฟุตบอลโลก 2014 บริษัท RS ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกมาทั้งหมด โดยเพื่อทำธุรกิจจากการให้ประชาชนซื้อกล่องทีวีดาวเทียม ซึ่ง กสทช. ได้บังคับใช้กฎ Must Have / Must Carry บังคับให้ถ่ายทอดฟุตบอลโลกลงในทุกช่องทางให้ทุกคนชมฟรี

แต่ปี 2022 ระหว่างที่กำลังถึงช่วงใกล้ฟุตบอลโลก ด้วยกฎเกณฑ์ที่ไม่สมเหตุสมผลของ กสทช. ทำให้ไม่มีเอกชนรายใดไปซื้อลิขสิทธิ์มาฉายในประเทศไทย กสทช. จึงต้องใช้งบชจากกองของ กสทช. จำนวน 600 ล้านบาท อุดหนุนให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปดำเนินการ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนในที่สุด กกท. ก็ต้องไปเจรจากับเอกชนเพื่อลงขันซื้อลิขสิทธิ์ให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก

แต่แล้วก็เกิดประเด็นจากกรณีที่ บริษัท True จ่ายเงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ 300 ล้านบาท แต่กลับทำข้อตกลงลับ ๆ กับ กกท. นำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ มากมาย

ประการแรก คือ การที่ระหว่างการถ่ายทอด ผู้บรรยายได้ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกอากาศทุกแมตช์ คำถามคือ พล.อ.ประวิตร ช่วยออกเงินด้วยหรือ? มีส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ขายนาฬิกาเพื่อเอามาสมทบเงินค่าซื้อลิขสิทธิ์หรือไม่?

'คนก้าวไกล' ใส่เนกไทแดง ยืนอภิปรายหน้าป้าย พท. หลังถูกอดีตการ์ดวีโว่เสียบเลือกตั้งส.ส. สมัยหน้า

สีสันสภา 'สมเกียรติ ถนอมสินธุ์' ใส่เนกไทแดง ยืนอภิปราย หน้าป้ายพรรคเพื่อไทย กลางสภาฯ คาดย้ายเข้าพท. หลังก้าวไกล ไม่ส่งลงสมัครเลือกตั้งส.ส. สมัยหน้า 

ที่รัฐสภา วันนี้ (24 พ.ย. 65) นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส. กทม. เขตบางนา-พระโขนง พรรคก้าวไกล ได้รับทราบรายงาน กสทช. แต่ไปยื่นอภิปราย ถ่ายทอดปัญหาสายสื่อสารในพื้นที่ ทั้งซอยลาซาล, ซอยสุขุมวิท 97/1 และรถไฟฟ้าสีเหลือง สถานีศรีลาซาล ในป้ายพรรคเพื่อไทย พร้อมสวมเนคไทสีแดงสด หลังจากที่ พรรคก้าวไกล ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งต่อสมัยหน้า และมีอดีตการ์ดวีโว่ มาลงแทนในพื้นที่เขตบางนา-พระโขนง

‘บิ๊กป๊อก’ ลุยเชียงใหม่ รับฟังปัญหาการทำงานของท้องถิ่น รับปากจะเร่งแก้ปัญหาให้ ส่วนอะไรที่ทำไม่ได้จะบอกกันตรงๆ

พล.อ อนุพงษ์ ลงพื้นที่เชียงใหม่ พบ ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ ยืนยันไม่มีนัยอะไร เพราะการเมืองไม่ใช่อนาคตของตนเอง พร้อมรับปาก จะเร่งพิจารณาขึ้นค่าตอบแทน ให้ อบต. และอีกไม่กี่เดือน จะเป็นแค่ตาแก่ ไปเดินกินก๋วยเตี๋ยวขอ อบต. ดูแลด้วย ลั่นหมดไฟแล้ว พร้อมเผย สัปดาห์หน้าเงินเยียวยาน้ำท่วมเข้า ครม. สัปดาห์หน้า 

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปที่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมสัมมนา ‘การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย" พร้อมกล่าวปาฐกถา ‘บทบาท อบต.กับการพัฒนาฐานรากประเทศไทย’ โดยมี ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนา

โดยสมาคมนายกฯ อบต. แห่งประเทศไทย เสนอข้อเรียกร้อง เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรค และสร้างความเสมอภาคของสมาชิก อบต. โดยขอให้แก้ไขปัญหาการทำงานของอบต. ทั้งการกระจายอำอาจ การบริหารงานบุคคลจากส่วนกลางให้ท้องถิ่นสรรหาบุคลากรได้เอง, ขอเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหาร และ สมาชิก อบต., ขอสวัสดิการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร, เพิ่มสัดส่วนการพัฒนา ท้องถิ่น จัดสรรงบประมาณ สำหรับ อบต.ที่ได้งบประมาณ ไม่ถึง 30 ล้านบาท, เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งบประมาณ โดยให้ มหาดไทย ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อสามารถคิดเลือกผู้รับจ้างงาน ในวงเงินไม่เกิน 5 ล้าน เพื่อให้ท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐใช้งบประมาณ ได้อย่างรวดเร็ว และกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการใช้งบประมาณจากภาครัฐ 

พลเอกอนุพงษ์ ยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพิ่งเคยพบกับผู้นำท้องถิ่นเยอะขนาดนี้ รู้สึกภูมิใจที่ผู้บริหารท้องถิ่น ปฏิญาณตน ว่าจะทำงานด้วยความโปร่งใส ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพราะนั่นคือดวงใจหลักของการบริหารงานท้องถิ่น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญและ นึกถึงหน่วยงานท้องถิ่นเสมอ ว่ามีอุปสรรค ปัญหา ในการทำงานอย่างไรบ้าง ซึ่งก็จะต้องพูดคุย นำปัญหาต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 

พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ได้มั่นหวังทางการเมือง ดังนั้นสามารถพูดได้ทุกอย่างอย่างเต็มที่ ยืนยันการเมืองไม่ใช่อนาคตของตนเอง และไม่มีนัยอื่น นอกจากการทำงานเป็นหลัก และงานที่ตนเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องปรารถนาที่จะทำให้ดีที่สุด การเดินทางมาเชียงใหม่วันนี้ เพื่อรับฟังปัญหา มองการทำงานของทุกภาคส่วน ไม่ได้มีนัยอะไรทั้งสิ้น 

พลเอกอนุพงษ์ รับปากกับผู้บริหาร อบต. จะเร่งพิจารณา ปรับปรุงเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหารและสมาชิก อบต.ให้แน่นอน แต่เท่าไหร่ต้องไปดูกันอีกที เพราะค่าตอบแทนที่ได้ทุกวันนี้ น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมสั่งการให้ผู้บริหารท้องถิ่นทำหนังสื่อราชการ ร่างหลักเกณฑ์ การพิจารณา ค่าตอบแทน พร้อมพูดติดตลกว่า “คนที่เป็นผู้นำชุมชน ไม่มีค่าตอบแทน ก็จะมาถลกหนังหัวตนอีก” 

ส่วนเรื่องการเพิ่มบุคลลาการ ไม่น่าจะทำได้ เพราะงบประมาณสำหรับบุคลากร เต็ม 40% แล้ว หากเกินกว่านี้ สังคมจะรับไม่ได้ ข้าราชการ 1 คนตั้งแต่บรรจุจนถึงเกษียณ จะใช้งบประมาณ ถึง 30 ล้านบาท และเห็นว่า บางตำแหน่ง ท้องถิ่นไม่ควรทำเอง เพราะ ไม่ใช่งานที่ถนัด ต้องให้หน่วยงานที่ชำนาญ มาทำเพื่อให้เกิดการพัฒนา อย่างมีศักยภาพ เช่น งานด้านโยธา

สถาบันสื่อมืออาชีพ ‘เครือเนชั่น’ ร้องสมาคมนักข่าวฯ บอกถูกพรรครวมไทยสร้างชาติ 'คุกคาม'

(24 พ.ย. 65) กองบรรณาธิการเนชั่นทีวี เนชั่นออนไลน์ และสื่อในเครือ ยื่นหนังสือให้สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พิจารณาข้อเท็จจริงการนำเสนอข่าวของสื่อในเครือเนชั่น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มีเนื้อหาดังนี้...

ตามที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำกราฟฟิกแบนเนอร์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ของพรรค และส่งไปยังกลุ่มไลน์ของสื่อมวลชน เพื่อจงใจกล่าวหาว่า ข่าวการสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเฟคนิวส์ โดยได้แนบลิงค์ข่าวของเนชั่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เรื่อง 'บิ๊กตู่' สมัครเป็นสมาชิก 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' (https://www.nationtv.tv/news/politics/378893620)

จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งข้อเท็จจริงของข่าวนี้ และการกระทำของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น กองบรรณาธิการเนชั่นทีวี และเนชั่นออนไลน์ ตลอดจนสื่อทุกสื่อของเครือเนชั่น ยืนยันว่า การนำเสนอข่าวนี้ทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์ และทีวี ได้ปฏิบัติตามหลักจริยธรรม จรรยาบรรณ และมาตรฐานทางวิชาชีพสื่อสารมวลชน ด้วยอุดมการณ์ 'สถาบันสื่อมืออาชีพ' โดยได้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงในข่าว และเปิดโอกาสให้หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้ชี้แจง ซึ่งก็ได้นำเสนอคำชี้แจงของหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติไปพร้อมกันด้วย (https://www.bangkokbiznews.com/politics/1039313)

การทำหน้าที่สื่อมวลชน อย่างถูกต้อง อาจจะไม่ถูกใจ บางคนบางกลุ่ม ดังนั้นควรแยกแยะ ออกมาให้ชัดเจนว่า เนชั่นทีวี ปฏิบัติหน้าที่ ‘ไม่ถูกต้อง’ อย่างไรบ้าง

ฉะนั้นการที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้ทำแบนเนอร์ กล่าวหาใส่ร้ายว่าการนำเสนอข่าวของเครือเนชั่นเป็น 'เฟคนิวส์' หรือ 'ข่าวปลอม' พร้อมกระจายไปตามช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของพรรค และกลุ่มไลน์สื่อมวลชน ถือว่าเป็นการ 'คุกคามสื่อ' รูปแบบหนึ่ง และเป็นการจงใจทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อ ทั้ง ๆ ที่บุคลากรของพรรคสามารถชี้แจง อธิบาย ปฏิเสธข่าว รวมถึงใช้สิทธิทางกฎหมายดำเนินคดีกับสื่อเครือเนชั่นได้ หากเห็นว่าการเสนอข่าวของเครือเนชั่นก่อความเสียหายให้กับพรรค แต่ทางพรรคกลับใช้วิธีการป้ายสี ทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อแทน ซึ่งมาตรฐานการดำเนินการเช่นนี้ ถือเป็นอันตรายต่อการทำหน้าที่สื่อสารมวลชน ไม่ว่าแขนงใด

ยิ่งไปกว่านั้น การให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาของผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะบุคคลที่ตกเป็นข่าวเอง รวมถึง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ก็เป็นแนวแบ่งรับแบ่งสู้ และไม่ได้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

‘สันติ’ ปรี่ไหว้ต้อนรับ ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่เพชรบูรณ์ ด้านชาวบ้าน ‘ขอกอด-บอกรัก-ให้กำลังใจ’ เหลือล้น

‘บิ๊กตู่’ ถึงเพชรบูรณ์ ‘รมต.สันติ’ ไหว้ต้อนรับถึงเครื่องบิน ก่อนนำคณะสักการะ-ปิดทองพระพุทธมหาธรรมราชา-พระเกจิ ขณะปชช.ตะโกนให้กำลังใจอยู่ข้างลุงตู่ พร้อมขอสวมกอด ด้าน ‘สันติ’ ยิ้มแก้มปริ 

เมื่อเวลา 11.55 น. ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รอให้การต้อนรับ 

โดยทันทีที่นายกฯ ลงเครื่องนายสันติได้ปรี่เข้าไปไหว้นายกฯ อย่างนอบน้อมจนเกือบจะแทบอก ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าห้องรับรองพิเศษไปด้วยกัน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที และเดินทางออกจากสนามบิน โดยนายกรัฐมนตรีได้ใช้ รถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน 8 กฒ 8382 กรุงเทพมหานคร ในการลงพื้นที่ครั้งนี้

ต่อมาเวลา 12.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ สักการะพระพุทธมหาธรรมราชา ณ พุทธอุทยานเพชรบุระ ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางมาปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ นำเยี่ยมชม ‘พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช’ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ องค์พระเนื้อโลหะหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์  มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ จุดธูปเทียนสักการะ ถวายพวงมาลัย ปิดทอง ตามลำดับ 

ทั้งนี้ได้มีประชาชนมารอต้อนรับนายกฯ ในพุทธอุทยานเพชรบุระ และเข้ามาสวมกอดนายกฯ พร้อมกล่าวว่า ขอกอดลุงตู่หน่อยนะ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้กับลุงตู่ ชาวบ้านรักท่านนะ ขอเป็นกำลังใจ เราทุกคนรักชาติ ขอให้ท่านรักชาวบ้าน เราเป็นกำลังใจให้ท่านเสมอ ชาวบ้านยังมอบเสื้อยืดสกรีนลายสัญลักษณ์ประจำจังหวัดให้นายกฯ พร้อมตะโกน นายกฯ สู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ พวกเราอยู่ข้างลุงตู่ พวกเราเป็นกำลังใจให้ และชู 2 นิ้วให้กำลังใจนายกฯ ด้วย 

‘จาตุรนต์’ เตือน!! อย่าประเมิน ‘ประยุทธ์’ ต่ำเกินไป ชี้!! 3 ป. ผ่านเรื่องราวด้วยกันเยอะ แตกกันไม่ง่าย

(24 พ.ย. 65) นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ใครที่คิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ประยุทธ์ให้ไปเตรียมการไว้จะได้ 20-30 ที่นั่ง แล้วทำให้ประยุทธ์ด้อยค่าทางการเมือง อาจจะต้องคิดใหม่หรือต้องเรียกว่า ‘คิดเก่า’ เพราะต้องไม่ลืมว่าประยุทธ์มีสว. 250 คนอยู่ในมือซึ่งมากกว่าส.ส.ที่พรรคของเขาจะได้ส.ส.ถึงสิบเท่าหรือมากกว่าถึงสองร้อยกว่าเสียง และอำนาจต่อรองของประยุทธ์ก็อยู่ตรงนี้

จริงอยู่ที่ส.ว. 250 คนนี้ประวิตรก็มีส่วนตั้งมาด้วย ซึ่งก็คงต้องแบ่งกัน และไม่มีใครรู้ว่าถ้าต้องแบ่งกันใครจะได้เสียงส.ว.มากน้อยเท่าใด แต่ก็ต้องไม่ลืมอีกว่า 3 ป.เขาร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน ปราบประชาชนมาด้วยกันและทำรัฐประหารมาด้วยกัน แถมยังมีผลประโยชน์ร่วมกันมหาศาล จะไปคิดว่าเขาจะแตกกันขาดกันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงทีคับขันเขาก็จับมือกันได้และหมายถึงเขามีแต้มต่อถึง 250 เสียงอยู่ในมือ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top