Tuesday, 1 July 2025
POLITICS NEWS

ชัยวุฒิ ย้ำ การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกยุค 4.0 เป็นสิ่งที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่ีความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ทวีความสำคัญมากขึ้น การดูแลสังคม ดูแลประชาชนทุกคนในสังคมอย่างเท่าเทียม เป็นประเด็นที่สำคัญไม่แพ้ประเด็นเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการเศรษฐกิจดิจิทัล ในหัวข้อ “Visionary Innovation 2023” พร้อมกล่าวว่า ตนตระหนักดีถึงความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ทั้งจากสถานการณ์ภายนอก และภายในประเทศ ทั้งความผันผวนของเศรษฐกิจและการเมืองโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงผลิตผลทางการเกษตร โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วทั่วโลก การผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศไทย 4.0 เป็นวิสัยทัศน์ของกระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนมีความเท่าเทียมในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ใช้อย่างมีคุณค่า ใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางบวก ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับประเทศ สอดคล้องกับแนวนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับ 13 และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี (2560-2580) โดยได้เร่งดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศในมิติต่าง ๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ หากพูดถึงสถานการณ์ด้านดิจิทัลในประเทศไทยในปัจจุบัน จะเห็นว่าอัตราส่วนการใช้งานด้านดิจิทัลของประชาชนมีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีมากกว่า 56 ล้านคน ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือมีมากกว่า 62 ล้านคน และประมาณร้อยละ 90 ของครัวเรือนในประเทศไทย มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าภาคประชาชนของประเทศไทย มีความพร้อม และความตื่นตัวด้านดิจิทัลเป็นอย่างมาก 

ขณะที่มูลค่าของอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2021 ใน 4 อุตสาหกรรม คือ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ ราว 1.6 ล้านล้านบาท และในส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอันเป็นผลจากเทคโนโลยีดิจิทัล อยู่ที่ประมาณ 13% หรือ ประมาณ 2 ล้านล้านบาทและจากการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลในปี 2022 ของ IMD World Competitiveness Center ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 จากทั้งหมด 63 อันดับ โดยได้รับคะแนนอยู่ที่ 68.19 อยู่ในกลุ่มใกล้เคียงกับอิตาลีและชิลี (อันดับตกลงมา จากอันดับที่ 38 จากทั้งหมด 64 อันดับ ในปี 2021 แต่มีคะแนนเพิ่มขึ้น โดยปี 2021 ได้รับคะแนนอยู่ที่ 63.159) สามประเทศที่ได้อันดับสูงสุดคือ Denmark, USA และ Sweden ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่อยู่ก่อนหน้าไทย คือ สิงคโปร์ในลำดับ 4 และ มาเลเซีย ลำดับ 31

ส่วนเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญของประเทศไทยมีอยู่ 7 เทคโนโลยี ได้แก่ อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูล โทรคมนาคมยุคใหม่ เช่น 5G 6G เป็นต้น Distributed ledger technology (DLT) เช่น Blockchain และสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ต่อมาคือ Quantum Computing และระบบอัตโนมัติ (Automation)

อย่างไรก็ดี การที่ประเทศไทยจะสามารถเดินไปถึง Digital Thailand อย่างเต็มรูปแบบ จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเรื่องความเปราะบางของเศรษฐกิจ โดยใช้แนวคิดการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้านดิจิทัลอย่างยั่งยืน (Digital Competitive Advantage) ซึ่งประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่

1.    Digital Access: การเข้าถึงเทคโนโลยี content และ Data เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี cloud computing การเก็บข้อมูล Nano chip การส่งข้อมูลผ่าน IoT

2.    Digital Connectivity: การเชื่อมโยง เทคโนโลยี คน ธุรกิจ สังคม ให้ถึงกัน มีเรื่อง New Wave Digital Content หรือ Metaverse AR VR ทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันในโลกกึ่งเสมือนและโลกเสมือน หรือสองโลกทำงานร่วมกัน

3.    Digital Data: การที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินการได้อย่างสะดวก ต้องมีการเก็บข้อมูลและการประมวลผลข้อมูล 

4.    Digital automation: ทั้ง 3 มิติที่กล่าวมา จะก่อให้เกิด Automatic World ซึ่งอุตสาหกรรม/ภาคการผลิต/การค้าและบริการ และการอยู่อาศัยของภาคประชาชน กำลังเข้าสู่ยุคอัตโนมัติ มีเทคโนโลยีเกี่ยวข้องคือ robotics/simulation/Integrated system สิ่งเหล่านี้ที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติทั้งสิ้น การเข้าสู่โลกอัตโนมัติจำเป็นต้องเตรียม Digital data สำหรับประเทศ เพื่อไม่ขาดดุลชำระเงินทางเทคโนโลยี และความมั่นคงด้านข้อมูล

รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดทำนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นกรอบแนวทางการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของรัฐบาล ให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยและหลากหลาย มาเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจ การดำเนินชีวิตของประชาชน และการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่แข่งขันได้ในเวทีโลก และความมั่นคงทางสังคมของประเทศภายใต้วิสัยทัศน์ คือ “ปฏิรูปประเทศไทยสู่ ดิจิทัลไทยแลนด์”

“โฆษกพรรคภท.” เผย ยังมีส.ส.จ่อเข้าร่วมงานกับพรรคเพิ่มอีก ยืนยัน พรรคเสนอชื่อ “อนุทิน” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว ชี้ หากปชช.ให้โอกาสพร้อมเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลาออกของส.ส.หลายท่าน และมาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) ว่า ขอบคุณเพื่อนส.ส. ทุกท่านที่เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เราจะเดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อประชาชน การลาออก และเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เป็นความสมัครใจของทุกท่านที่มีความพร้อม เพื่อจะเดินหน้าทำงานในพื้นที่ร่วมกับประชาชน และชี้แจงแนวทางของพรรคได้อย่างเต็มที่ 

“มีเพื่อนส.ส.อีกจำนวนหนึ่งที่จะมาร่วมกันทำงาน  และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย แต่ยังมีภารกิจจึงยังไม่ได้ลาออก และไม่ได้มาที่พรรคเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) ซึ่งพรรคไม่ได้บังคับหรือมีเงื่อนไข แต่ได้มีการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองช่วงใกล้ครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร และช่วงปลายรัฐบาล ซึ่งทุกคนที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้งจะต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา จะประมาทไม่ได้” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

‘วันชัย’ ชี้เปรี้ยง!! ‘ภูมิใจไทย’ ได้เป็นรัฐบาลแน่ อวย ‘เสี่ยหนู’ ไม่เคยแดกดันส.ว.ให้ช้ำใจ ชี้ มีสิทธิ์นั่งนายกฯ เพราะรู้จักประนอมอำนาจ

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์ข้อความหัวข้อ ‘เสียงประชาชนกับเสียง 250 ส.ว.’ ว่า เห็นหลายพรรคหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็กพรรคใหญ่ พรรคที่เป็นรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน มักจะพูดถึง ส.ว.250 คน ในแง่ร้ายว่าเป็นอุปสรรคขวากหนามประชาธิปไตย ซากเดนเผด็จการ แง่ดีก็พอมีอยู่บ้างแต่ไม่ค่อยได้ยิน ลึก ๆ บางพรรคก็หวังเอามาเป็นพวกตอนโหวตนายกฯ ในสภา เสร็จแล้วจะให้ค่าหรือเปล่านั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งพรรคใหม่พรรคเก่า เขย่าส.ว.250 มาโดยตลอดและคงจะกระแทกแรงขึ้นทั้งใกล้เลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง 

มีบางพรรคเล่นแรงทุกเวทีว่านี่คือคู่ขัดแย้งทางการเมือง ต้องเอาเสียงประชาชนมาแลนด์สไลด์ปะทะเสียง 250 ส.ว.ให้ได้ คำว่าแลนด์สไลด์ก็คือถล่มทลาย พังกำแพง 250 ส.ว. ก็ไม่ว่ากัน แต่ผมเห็นว่าบริบททางการเมืองในตอนนั้นและสถานการณ์ทางการเมืองในตอนนี้มันต่างกันมาก 250 ส.ว.ตอนนั้นกับส.ว. 250 ตอนนี้ก็ไม่เหมือนกันอย่างมากเช่นกัน ใครจะมาจากสายของใคร แต่ตอนเลือกนายกฯในครั้งนั้นเขาดูว่าใครจะรวบรวมเสียงส.ส.ได้เกินกว่ากึ่งหนึ่ง เขาก็เลือกคนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องเลือกตัวบุคคลเป็นเหตุผลรอง

‘วรภพ’ จี้!! 3 ประเด็น รัฐเข็นค่าไฟแพงรับปีใหม่ แม้ความผิดพลาดจะมาจากการบริหารของรัฐล้วน ๆ

วันที่ (16 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีค่าไฟแพง หลังจากรัฐบาลมีมติขึ้นค่าไฟ โดยให้คงค่าไฟเฉพาะครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ส่วนผู้ใช้ไฟกลุ่มอื่นรวมถึงประชาชนที่ใช้ไฟเกิน 500 หน่วย/เดือน จะต้องเจอค่าไฟที่แพงขึ้น 1 บาท/หน่วย จากเดิม 4.72 บาท/หน่วย เพิ่มเป็น 5.7 บาท/หน่วย เริ่มต้นเดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป

วรภพ กล่าวว่า ของขวัญปีใหม่ของคนไทยไม่ควรเป็นค่าไฟที่แพงขึ้น ตนเคยท้วงติงรัฐบาลหลายครั้ง ว่าต้นตอเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยมี 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นที่หนึ่ง มีโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็น เพราะรัฐบาลอนุญาตให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้ามากเกินไป ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟให้กลุ่มทุนเหล่านี้ผ่านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 2,400 ล้านบาท/เดือน ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งเจรจากับเอกชน ให้ลดค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment) โดยอาจแลกกับการขยายสัญญาออกไป ทำให้ในอนาคตไม่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรงในการเจรจาเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

‘ชาติพัฒนากล้า’ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 เขต มั่นใจ!! สามารถผลักดันเศรษฐกิจสงขลาให้รุ่งเรืองได้

(16 ธ.ค. 65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565 พรรคชาติพัฒนากล้าจะยกทีมใหญ่ลงจังหวัด สงขลา ประกอบด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค และนายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 4 เขต โดยทั้ง 4 คน ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และมีกระแสการตอบรับจากประชาชนที่ดีมาก รับรองมีเซอร์ไพร์ส อย่างแน่นอน 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า ในวันดังกล่าวจะมีการเปิดธีมนโยบายที่จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับชาวจังหวัดสงขลาโดยมีเป้าหมายไปสู่ ‘งานดี มีเงิน ของไม่แพง’ โดยการขยายโอกาสในการทำกินของเมืองสงขลา หาดใหญ่ เราจะลงมือทำ และ ต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานของหัวเมืองเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ตอนล่างอย่างสงขลา เชื่อว่าจะสามารถพลิกโฉมอนาคตเศรษฐกิจของชาวสงขลาให้รุ่งเรืองได้

‘สมคิด’ ตอก ‘ประยุทธ์’ เลิกปัดสวะให้พ้นตัว แซะ!! คุมสภายังทำไม่ได้ เลิกหวังสร้างสุขให้ปชช.

วันนี้ (16 ธ.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาล่มบ่อยเป็นเรื่องของสภานั้น การพูดเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วทำให้สภาล่มบ่อยจะเป็นรัฐบาลไปทำไม การพูดเช่นนี้เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว ในฐานะที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นเสียงข้างมาก จะมาปัดสวะแบบนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้บริหาร เป็นนายกฯ จะมาหนีแบบนี้ไม่ได้ อยากให้ไปถามนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่เคยพูดไว้ว่าเรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล ดังนั้นการที่สภาล่มก็มาจากฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่เกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์กินยาผิดซองหรือเปล่า

ตาดคาด ส.ส.หลากพรรค ตบเท้าซบ 'ภูมิใจไทย' ร่วม 40 คน ด้าน 'ปารีณา' โผล่ควงพี่ชาย 'สีหเดช' ร่วมสมัครสมาชิกฯ

(16 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคภูมิใจไทย ถ.พหลโยธิน พรรคภูมิใจไทยมีการรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ปรากฎว่ามีบรรดาสมาชิกพรรคทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานใหญ่ครั้งแรกหลังการปรับปรุงอาคารที่ทำการพรรคใหม่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 8 เดือนเสร็จสิ้นลง โดยการปรับปรุงอาคารใหม่ทั้งหลัง 4 ชั้น รวมถึงปรับปรุง ห้องกรรมการบริหารพรรค ห้องพักสมาชิก ห้องแถลงข่าว และห้องสื่อมวลชน นอกจากนี้ยังได้นำต้นกัญชาต้นใหญ่บริเวณลานจอดรถหน้าเสาธง และภายในตัวอาคาร วางเป็นจุด มาประดับไว้ที่ทำการพรรคด้วย 

ทั้งนี้ เวลา 13.00 น. บริเวณห้องแถลงข่าวชั้น 2 ซึ่งจะมีการต้อนรับสมาชิกพรรคใหม่ เป็นอดีต ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองอื่น อาทิ พรรคพลังประชารัฐ, พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล เกือบ 40 คน ที่จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งบรรดาสมาชิกพรรคใหม่จะเริ่มสมัครสมาชิกพรรคกับนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำพรรคให้การต้อนรับ พร้อมทั้งสวมเสื้อแจ๊คเก็ตให้กับสมาชิกใหม่ และถ่ายภาพที่ระลึกด้วย

จากนั้นเป็นการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะมีการแนะนำตัวสมาชิกใหม่ รวมไปถึงการวางนโยบาย วางกลยุทธ์ ทั้งในระดับพื้นที่และภาพรวมทั้งประเทศ เพื่อเตรียมรับมือสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง และเมื่อเสร็จสิ้นการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เวลา 15.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.ที่มาร่วมจำนวนมาก อาทิ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ นายอนุชา น้อยวงศ์ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลัง นายธนัสถ์ ทวีเกื้อ กูลกิจ นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี  อดีต ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย นายเอกภาพ เพียรวิเศษ อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล นายคารม พลพรกลาง นายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายนิยม ช่างพินิจ อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย นายจักรพรรดิ ไชยสาสน์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย นางนันทนา สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาภิวัฒน์ เป็นต้น

นอกจากนี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้นำพี่ชาย นายสีหเดช ไกรคุปต์ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครเป็น ส.ส.ราชบุรี ขณะที่ น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีและจะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อลงเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในนามพรรคภูมิใจไทย ร่วมกับ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จะสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

‘เพื่อไทย’ เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 159 พร้อมยกเลิกมาตรา 272 ตัดสิทธิ์ ส.ว. เลือกนายกฯ

(16 ธ.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 159 และการยกเลิกมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทย มีเจตจำนง และมุ่งมั่นมาตลอดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 โดยเฉพาะมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหาที่สุดในการบังคับใช้ และกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือมาตรา 272 ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ชั่วคราวว่า ให้ส.ว.250 คน สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ โดยเราพยายามยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ มีส่วนทำให้ไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ คือ การต้องอาศัยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และต้องมี ส.ว. เห็นชอบด้วยในวาระรับหลักการไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ ด้วยกลไกเหล่านี้ทำให้เรายื่นร่างแก้ไขแล้วไม่สำเร็จ ซึ่งในสมัยประชุมที่ผ่านมาเราก็ยื่นแต่ก็ถูกตีตกไปในขั้นรับหลักการ แต่เราก็ไม่ย่อท้อ เพราะตามข้อบังคับแล้วในสมัยประชุมที่เปิดมาเราสามารถยื่นแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราที่สภาไม่รับหลักการได้

‘ก้าวไกล’ สวน!! 'โสภณ' ปั้นภาพสวยให้สายสีส้ม เอาความเห็นส่วนตัวมาพูดโดยไม่ยึดมติที่ประชุม

(16 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม พร้อมด้วย ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะ กมธ.การคมนาคม แถลงข่าวตอบโต้กรณี โสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ประธาน กมธ.การคมนาคม และ นิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา รองประธาน กมธ.การคมนาคม ออกมาแถลงข่าวเชิงฟอกขาวให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งไม่เป็นไปตามมติที่ประชุม กมธ.การคมนาคม ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื้อหาที่แถลงเป็นความเห็นส่วนตัวของประธาน กมธ. ซึ่งมาจากพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูแลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่ได้เป็นมติที่ประชุม จึงไม่สามารถแถลงในนาม กมธ. ได้ ตนและทวีจึงต้องออกมาแถลงในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน

สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าที่ประชุม โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่เข้ามาชี้แจงตามนัด ตนจึงกดดันประธาน กมธ. ว่าฝ่ายนิติบัญญัติต้องใช้อำนาจตรวจสอบทางการเมือง ไม่ใช่บอกว่าเมื่อโครงการอยู่กับฝ่ายตุลาการแล้ว จะแตะต้องไม่ได้เลย ในกรณีนี้ ทั้งสองอำนาจสามารถเดินหน้าไปพร้อมกันได้ ตนยืนยันว่า กมธ.ของสภาผู้แทนฯ สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ที่ต้องมีความโปร่งใส

“มติจริง ๆ ของ กมธ.การคมนาคม เมื่อวานนี้ (15 ธันวาคม 2565) คือ ขอเอกสารประกอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบคำถาม ไม่ได้ฟอกใสตามที่ประธาน กมธ.การคมนาคมแถลง ทั้งประเด็นส่วนต่างราคาและการกีดกันการเสนอราคา นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกับคนอื่นๆ รวมทั้งนิกร พบว่าไม่มีใครใน กมธ.การคมนาคมบอกว่าเป็นมติที่ประชุมอย่างที่ประธาน กมธ.การคมนาคมแถลงข่าวไป เพราะเรื่องนี้ต้องมีการประชุมกันอีก” สุรเชษฐ์กล่าว

'ชูศักดิ์' ชี้!! ส.ส.ย้ายพรรคพร้อมกัน 'ตามใบสั่ง' ศรัทธาพรรคการเมืองวูบ ในสายตาประชาชน

(16 ธ.ค. 65) นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีส.ส.ลาออกและย้ายพรรคพร้อมกันจำนวนมากเป็นประวัติการณ์แม้สภายังไม่หมดวาระว่า ที่ผ่านมาการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่มักจะเกิดหลังยุบสภาหรือสภาหมดอายุ และเป็นรายคน มิใช่เป็นแบบกระบวนการ กรณีที่เกิดขึ้นเวลานี้ดูจะชัดเจนว่าการลาออกเพื่อไปสังกัดพรรคใหม่ เป็นไปตามคำสั่งของพรรคที่จะย้ายไป ทราบว่าเพื่อกันปัญหาการเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน และเพื่อความชัวร์ว่าคุณมาแน่ การลาออกและย้ายพรรคกันเป็นล็อต 30-40 คน ชัดเจนว่าเกิดจากการวางแผนกันมา โดยไม่สนใจว่ายังมีภารกิจในฐานะตัวแทนประชาชนที่ต้องทำอยู่หรือไม่ ไม่สนใจว่าประชาชนเขาเลือกเรามาให้ทำหน้าที่ในสภามีระยะเวลาสี่ปี 

“ผมเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนทางวินัยจรรยาบรรณ ส.ส.หลายคน ขอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าที่มาที่ไป คือ เพราะได้ผลประโยชน์ ได้โครงการ ได้การดูแลที่พรรคเดิมไม่อาจให้ได้ หลายคนยอมเป็นงูเห่าถ้าจะขับก็ยินดี แถมบอกให้รีบขับเร็ว ๆ แสดงว่าจริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์อะไรทั้งสิ้น สภาพการเมืองเช่นนี้น่าห่วง ส่วนหนึ่งแสดงว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงล้มเหลวสิ้นเชิง การปฏิรูปการเมืองตามรัฐธรรมนูญและนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว การเมืองย้อนไปสู่ธนกิจการเมือง การเมืองแบบแจกกล้วย ดูแล้วคล้าย ๆ ก่อนยุครัฐธรรมนูญ 2540 ที่เป็นเหตุให้ตัองปฏิรูปการเมืองขนานใหญ่” นายชูศักดิ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top