Tuesday, 1 July 2025
POLITICS NEWS

‘ผู้กองมาร์ค’ ทิ้ง ‘เพื่อไทย’ ซบ ‘พลังประชารัฐ’ มั่นใจ!! คว้าชัยจัดตั้งรัฐบาล - ทำงานเพื่อ ปชช.

(19 ธ.ค. 65) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคแล้ว ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะมีแนวทางในการทำงานที่เหมือนกันและพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ทางพรรคมีการพัฒนาการและปรับตัวเองให้เข้าได้กับคนทุกรุ่น เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดจะเผาบ้านเก่า เพราะทุกการตัดสินใจทางการเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ทางความคิดของสมาชิกและพรรคที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ ในส่วนของการย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งใหม่นั้น เป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่ต้องหาบ้านที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ประชาชนก็มีโอกาสได้พิจารณาใหม่ มีสิทธิเลือกผู้แทนที่สามารถทำงานให้กับพวกเค้าได้ตรงตามระบอบของประชาธิปไตย หลายคนมีคำถามว่ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำอะไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของผมคือจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม บางซื่อ-ดุสิต เพราะผลการเลือกตั้งในปี 2562 แพ้คะแนนไปเพียงหลักร้อย และยังลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ มีเสียงตอบรับที่ดีมาก และผลจากการสำรวจในการทำโพลทุกครั้ง ก็ชนะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตมาโดยตลอด

‘โรม’ จี้ นายกฯ ตั้งเป็นวาระสำคัญของชาติ ช่วยเหลือ 31 ทหารเรือสูญหายแบบเร่งด่วน

(19 ธ.ค. 65) รังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีกระแสน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และคงจะต้องมีการสืบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียดกันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร 

แต่สิ่งที่สำคัญคือ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทหารเรืออีก 31 คนได้รับการช่วยเหลือ หรือมีความคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขายังต้องรอคอยการช่วยเหลืออยู่กลางทะเล

ทุกนาทีที่ผ่านไป โอกาสที่ทหารเรือเหล่านี้จะมีชีวิตรอดกลับมาได้จะมีน้อยลงไปเรื่อย ๆ รัฐบาลจึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ผมอยากเห็นทหารเรือทุกคนได้กลับบ้านไปพบครอบครัว ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น

‘เสี่ยหนู’ ยัน!! เข็นร่างพ.ร.บ.กัญชา เป็น กม. ให้ได้ แนะ!! พวกชอบขวาง ยังมีเวลาให้คิดใหม่ เพื่อ ปชช.

‘อนุทิน’ ยัน เข็นร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เป็นกฎหมายให้ได้ แม้ไม่ผ่านสมัยประชุมนี้ ชี้ ประกาศสธ. ได้ผล ยก ศาลฟันจำคุกคนใช้ผิดประเภท เย้ย ส.ส.แห่มาหาเอง ไม่มีดูดเข้าพรรค 

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 19 ธ.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่อาจไม่ผ่านสภาฯในสมัยประชุมนี้ ว่า ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ส่วนที่มีบางคนบอกว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุข ไม่ศักดิ์สิทธิ์ หรือ สู้กฎหมายไม่ได้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากกรณีที่ศาลตัดสินลงโทษจำคุกและปรับผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องของกัญชา ไปหลายราย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานทั้งหลาย ต่างร่วมมืออย่างดีมากในการไล่ตรวจผู้นำกัญชา กัญชง ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือนำไปใช้ไม่ตรงเจตนารมณ์ และในอนาคตจะดำเนินการควบคุมในวงกว้าง

นายอนุทิน กล่าวว่า ดังนั้นทางที่ดีที่สุด ถ้าอยากให้ชัดเจนไม่ต้องตีความใด ๆ ขอให้ช่วยกันผ่าน ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกมาเป็นกฎหมาย เพื่อควบคุมการใช้กัญชงที่ผิดประเภท ส่วนส.ส.ถ้ามีความห่วงใยประชาชน ต้องช่วยกันผ่านออกมาเป็นกฎหมาย นำมาบังคับใช้ แต่ถ้าไม่ออกกฎหมายดังกล่าว แล้วพรรคภูมิใจไทย ได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในสภาอีกครั้ง จะนำเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาอีกครั้งแน่นอน

'อลงกรณ์' ขอบคุณประชาชนโหวตเชื่อมั่นพรรคประชาธิปัตย์ยืนหนึ่งสถาบันทางการเมืองหลักของประเทศ เป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต

พร้อมแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทย และ 'อนุทิน' ที่ประชาชนเชื่อมั่น เตรียมนำขนมหม้อแกงเมืองเพชรเป็นขนมใจพบหารือปมปัญหา 2 พรรค

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคและที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.เขียนแสดงความเห็นในไลน์กรณีซูเปอร์โพลเปิดเผยผลสำรวจภาพจดจำที่สุดแห่งปีและที่สุดของพรรคการเมืองวันนี้ว่า "ขอขอบคุณซูเปอร์โพลและพี่น้องประชาชนที่โหวตจดจำพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่สุดของพรรคการเมืองแห่งปีในฐานะสถาบันทางการเมืองหลักของประเทศและเป็นพรรคขวัญใจของเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริตและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาปากท้อง รายได้และหนี้สินของประชาชนอันดับที่ 3 กำลังใจของพี่น้องประชาชนที่มอบให้ในครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการมุ่งมั่นทุ่มเททำงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อนำประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมืองให้สำเร็จโดยเร็วให้สมกับความไว้วางใจของประชาชน

พร้อมกันนี้ ขอแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทยและนายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคที่ได้รับการโหวตเป็นพรรคการเมืองแห่งปีในภาพการจดจำการบริหารวัคซีนโควิดและผู้นำอันดับหนึ่งที่เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาปากท้องรายได้และหนี้สินของประชาชน ก็ถือโอกาสวันดีๆของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยขอบิณฑบาตปมปัญหา2พรรคเพราะประชาชนไม่อยากเห็นความขัดแย้งทางการเมือง สัปดาห์หน้าจะเอาขนมหม้อแกงเมืองเพชรไปฝากพร้อมจับเข่าสนทนากันครับ" นายอลงกรณ์เขียนทิ้งท้ายในที่สุด

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ที่สุดแห่งปี ที่สุดแห่งพรรคการเมือง “กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,190 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 14 – 17 ธ.ค.2565 เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมายาวนานที่สุด พบว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ร้อยละ 56.3 รองลงมาคือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 20.4 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 18.9 และอื่น ๆ ร้อยละ 4.4 ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล เป็นต้น 

‘พิธา’ ปลุก 'ยะลา' เปลี่ยนพื้นที่ความกลัวเป็นพื้นที่ความหวัง ชู นโยบายเอาทหารออกจากการเมือง-ยกเลิก กอ.รมน.

ก้าวไกลไปยะลา เปิดเวทีคุยนโยบายสันติภาพก้าวหน้า อัดเป็น 19 ปีแห่งความล้มเหลว เจรจาสันติภาพถึงทางตัน ชู นโยบายเอาทหารออกจากการเมือง-ยกเลิก กอ.รมน.-เปลี่ยน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็น พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ ประกาศใช้คราวละ 30 วัน ต้องขออนุมัติสภา ‘พิธา’ ปลุก เปลี่ยนพื้นที่ความกลัวเป็นพื้นที่ความหวัง โยนโจทย์พัฒนาสามจังหวัดชายแดนใต้ แคนดิเดตนายกฯต้องตอบให้ได้ ลั่นปฏิรูปการเมือง-เขียนรัฐธรรมนูญใหม่-ให้ประชาชนเลือกนายกจังหวัด ปลดปล่อยศักยภาพชายแดนใต้ทั้งการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจสร้างสรรค์-อุตสาหกรรมแพะ 

วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ จ.ยะลา พรรคก้าวไกลจัดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบาย 'สันติภาพก้าวหน้า' นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลพร้อมด้วย อันวาร์ อุเซ็ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 1 ณรงค์ อาแว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 3 และรอมฎอน ปันจอร์ คณะทำงานนโยบายชายแดนใต้-ปาตานี

รอมฎอน กล่าวว่า กระบวนการเจรจาสันติภาพในปัจจุบัน อยู่ในช่วงยากลำบากและเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ต้องการความมุ่งมั่นทางการเมืองของทุกฝ่าย ที่ผ่านมารัฐบาลทหารและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  ทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหาทางการเมืองถึงทางตัน วันนี้จึงต้องการการแก้ไขปรับปรุงเพื่อเดินหน้าหาข้อยุติในการอยู่ร่วมกัน เราเชื่อว่าถ้าประเทศไทยเปลี่ยน กระบวนการสันติภาพก็ต้องเปลี่ยน และพรรคก้าวไกลเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยหลักการพื้นฐานที่ได้วางหมุดหมายไว้ตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ คือการมองคุณค่าคนทุกคนเท่ากัน แต่ละคนมีพลังอำนาจในการกำหนดอนาคต ไม่จำเป็นต้องมีการเมืองที่อิงระบบอุปถัมภ์ สิ่งนี้สำคัญมากที่จะทำให้ชายแดนใต้และประเทศไทยไปสู่อนาคต นำมาสู่การพัฒนานโยบายสันติภาพก้าวหน้าซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างนโยบาย 9 เสาหลักของพรรคก้าวไกลและข้อเสนอของคนในพื้นที่ โดยหัวใจของนโยบายนี้ จะล้อไปกับสโลแกนสวยหรูของ กอ.รมน. อย่าง ‘มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน’ โดยเปลี่ยนเป็น ‘ลดความมั่งคั่งทางทหาร เพิ่มความมั่นคงทางอาหาร และสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน’

อมรัตน์ กล่าวว่า กอ.รมน. ก่อตั้งขึ้นในปี 2508 จากหน่วยงานที่ชื่อว่า 'กองบัญชาการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์' ทั้งที่ภัยคุกคามคอมมิวนิสต์จากนอกประเทศหมดไปแล้ว แต่ กอ.รมน. ยังคงอยู่ในฐานะที่เป็น 'หน่วยงานพิเศษ' ที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานที่มีที่มาจากทหาร ตรวจสอบไม่ได้ ไม่โปร่งใส ไม่ทันสมัย ที่สำคัญที่สุดคือไม่เข้าใจประชาธิปไตย สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอ วาระเร่งด่วนคือแก้ไขโครงสร้างของกลาโหมให้มีพลเรือนเข้าไปร่วมตัดสินใจด้วย และในระยะยาว เราเสนอให้ยกเลิก กอ.รมน. ซึ่งจะทำให้เรามีงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10,000 ล้านบาท เพื่อนำงบมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าทุกช่วงวัย เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทยทุกคน

ชัยธวัช กล่าวว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2547 ภาครัฐใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนใต้ มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 7,000 คน อีกจำนวนมากบาดเจ็บและสูญหาย เป็นข้อพิสูจน์ว่าวิธีการที่ผ่านมาซึ่งถูกกำกับโดยวิธีคิดแบบทหารนั้นล้มเหลว ดังนั้น ข้อเสนอเพื่อสร้างสันติสุขก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล จะยืนบน 3 หลักการ เรียกว่า ‘3D’ ประกอบด้วย Democratization การสร้างประชาธิปไตยต้องเริ่มต้นจากคนทุกคนเท่ากัน อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน Demilitarization เอาทหารออกจากการเมือง การแก้ปัญหาในสามจังหวัดภาคใต้ต้องนำโดยพลเรือน เลิกใช้กฎหมายที่เป็นวิธีคิดแบบทหาร เปลี่ยนเป็นมองความมั่นคงของประชาชนเท่ากับความมั่นคงของชาติ และ Decentralization คือกระจายอำนาจ ยกเลิกโครงสร้างรัฐรวมศูนย์ เอาอำนาจและงบประมาณมาอยู่ที่ท้องถิ่น มีอำนาจตัดสินใจออกแบบสังคมที่รองรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม

‘ภูมิใจไทย’ ขอบคุณ ‘ส.ว.วันชัย’ อวย ‘อนุทิน’ มีสิทธิ์นั่งนายกฯ ชี้ สุดท้ายอยู่ที่ปชช.ให้โอกาส กั๊กบอกจำนวนส.ส.ล็อตใหม่ย้ายเข้าบ้าน

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีส.ส. อีกหนึ่งล็อตลาออกจากพรรคอื่นมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยว่า ขณะนี้น่าจะอยู่ในกระบวนการการเตรียมการคิดว่าคงมีอีกจำนวนหนึ่ง แต่อย่าพึ่งบอกตัวเลขเลยดีกว่า ซึ่งเป็นส.ส.ที่มาจากหลากหลายพรรค 

ทั้งนี้ หากถามว่าเรามีความพร้อมในการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหนนั้น เราตั้งเป้าว่าจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต แต่ล่าสุดเรามีผู้สมัครยังไม่ครบทั้ง 400 เขต ฉะนั้นความพร้อมในด้านนี้ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่เราจะพยายามทำให้ครบทั้ง 400 เขต ส่วนความพร้อมด้านนโยบายเราก็จะพยายามทยอยออกมา และคิดว่าจะเป็นนโยบายที่โดนใจประชาชน อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคนั้น เราจะเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคเพียงรายชื่อเดียว

“เพื่อไทย” เห็นด้วย สภาอุตสาหกรรมฯ หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้า ชี้ ความสามารถแข่งขันไทยจะลด เวียดนามหน่วย 2.88 บาท แนะ 4 แนวทางลดค่าไฟฟ้าในระยะสั้นและระยะยาว

นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาไฟฟ้าสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมจากหน่วยละ 4.72 บาท เป็น หน่วยละ 5.69 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างมาก จนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยต้องออกเรียกร้องขอให้หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้าไว้ก่อน เพราะภาคธุรกิจคงแบกกันไม่ไหว เนื่องจากตอนต้นปียังอยู่ที่หน่วยละ 3.70 บาทเลย หรือขึ้นราคาถึง 53% ซึ่งหนักมาก อีกทั้ง ประเทศเวียดนามที่เป็นประเทศคู่แข่งของไทยคิดค่าไฟฟ้าเพียงหน่วยละ 2.88 บาทเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกันเกือบเท่าตัว นอกจากนี้การขึ้นค่าไฟฟ้าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ผู้ผลิตก็ต้องขึ้นราคาสินค้าทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และประชาชนจะยิ่งเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้ว เหมือนซ้ำเติมความลำบาก 

ดังนั้นหากรัฐบาลยังยืนยันจะขึ้นค่าไฟฟ้าในระดับนั้นจะทำให้การแข่งขันของไทยลดลง นักลงทุนต่างประเทศจะไม่มาลงทุนในประเทศไทย แต่จะหันไปลงทุนในประเทศเวียดนามหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว โดยล่าสุดความสามารถแข่งขันของประเทศไทยหล่นลงมาถึง 5 อันดับจากอันดับที่ 28 ลงมาอันดับที่ 33 ซึ่งย่ำแย่อยู่แล้ว  ทั้งนี้การที่ประเทศไทยต้องขึ้นราคาไฟฟ้าในระดับสูง เกิดจากการบริหารพลังงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูงและต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาสูงเข้ามาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการส่งมอบสัมปทานการขุดก๊าซในพื้นที่อ่าวไทย ปริมาณก๊าซจากเมียนมาร์ที่ลดลง อีกทั้งยังปล่อยให้มีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องจ่ายค่าความพร้อมสำหรับโรงงานไฟ้ฟ้าที่สร้างเกินความต้องการใช้เป็นจำนวนมากกว่า 50% 

'อลงกรณ์' มั่นใจประชาธิปัตย์ภาคกลางได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น เร่งเดินหน้าฟื้นศรัทธาประชาชนพร้อมชูธงนำประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจการเมือง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมนาสมาชิกและเครือข่ายแกนนําพรรคประชาธิปัตย์ 26 จังหวัดภาคกลางและบรรยายพิเศษในหัวข้อ” นโยบายและผลงานพรรคประชาธิปัตย์กับการเลือกตั้งครั้งหน้า”ระหว่างวันที่ 16- 17 ธันวาคมนี้ที่จังหวัดเพชรบุรี

โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองพรรคแรกของประเทศอยู่มา76ปีถือเป็นสถาบันทางการเมืองหลักผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและเมื่อเป็นรัฐบาลได้สร้างผลงานเป็นรูปธรรมมาหลายยุคหลายสมัยในการวางรากฐานเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะในช่วง30ปีที่ผ่านมา(2535-2565)ตั้งแต่ยุคหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันครอบคลุมการพัฒนาประเทศทุกมิติ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ การพัฒนาท้องถิ่น การกระจายอำนาจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาการศึกษาและการสาธารณสุข เช่นการจัดตั้ง กระทรวงแรงงาน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการนมโรงเรียนและอาหารกลางวัน องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพสต. ) กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มหาวิทยาลัยภูมิภาค ถนนสี่เลน รถไฟทางคู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โฉนดชุมชน การปฏิรูปที่ดิน กองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โครงการประกันรายได้เกษตรกร ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม77จังหวัด คณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน7,255ตำบล และการสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกกว่า8.5ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านมา เป็นต้นและในยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติทางการเมืองและทางเศรษฐกิจเช่นต้มยำกุ้งและแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารจนประเทศรอดพ้นปลอดภัยจากวิกฤติหลายต่อหลายครั้ง

 

‘พิธา’ ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา เจอประชาชนร้องปัญหาที่ค้าขายตลาดเคหะบ้านโพธิ์ ยก ‘จิรัฏฐ์’ ทุ่มเทงานพื้นที่ ช่วยประสานแก้ไขรวดเร็ว ลั่น ส.ส.ก้าวไกล ทำงานเพื่อคนทุกรุ่น-พร้อมชนกลุ่มทุน

เมื่อวานนี้ (วันที่ 17ธันวาคม 2565 ) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยช่วงเช้าได้ร่วมกิจกรรม ‘พายเรือเพื่อปางปะกง’ จากนั้นลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนและพูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของพรรคก้าวไกล
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่อาศัยในการเคหะบ้านโพธิ์ได้ร้องเรียนปัญหาการเช่าพื้นที่เพื่อค้าขาย เนื่องจากตลาดนัดเคหะบ้านโพธิ์จะมีการประมูลใหม่ ทั้งที่ประชาชนใช้พื้นที่ค้าขายมานาน และรายได้จากการเช่า กรรมการชุมชนก็นำมาหมุนเวียนเพื่อดูแลพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน หากเปลี่ยนผู้ประมูล อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อนราว 400 คน เมื่อเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ประชาชนจึงร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ก็ถูกมองข้าม จนกระทั่งร้องเรียนไปยังจิรัฏฐ์ ซึ่งนำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างรวดเร็ว ทำให้การเคหะฯ ประกาศเลื่อนการประมูลออกไปเพื่อหาทางออกร่วมกัน

พิธา กล่าวว่า การทำงานของจิรัฏฐ์ซึ่งเป็น ส.ส. ในพื้นที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้พรรคก้าวไกลถูกมองว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ แต่เราทำงานโดยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนทุกรุ่น ส.ส. ของเราจริงจังกับการทำงานทั้งในสภาและในพื้นที่ เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้ว ว่าการมีผู้แทนที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มีมูลค่าที่สูงกว่าเงินหลักพันหลักร้อยที่อาจมีคนหยิบยื่นให้ในช่วงเลือกตั้ง และที่พรรคก้าวไกลกล้าชนกับกลุ่มทุน ก็เพราะเราเป็นพรรคที่อยู่ได้จากการสนับสนุนของประชาชน

‘ชาติพัฒนากล้า’ บุกสงขลา เปิดตัว 4 ว่าที่ผู้สมัครหนุ่ม ลูกชาวบ้าน ท้าชนการเมืองเก่า ‘กรณ์’ มั่นใจคนหาดใหญ่ให้โอกาส ด้าน ‘จูรี’ ดาว TikTok แดนใต้ ประกาศเป็น ร่างทรงคนสงขลา แฉมีบางพรรคให้ 50 ล้านแต่ไม่ไป ขอเลี้ยงควายดีกว่า

เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 17 ธ.ค.ณ ชั้น 5  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดสงขลา  ภายใต้ชื่องาน “งานดี มีเงิน ของไม่แพง รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจสงขลา” นำทีมโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ นายปกครอง ผาสุกยืด รองหัวหน้าพรรค ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค โดยมีประชาชนชาว จ.สงขลา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก 

ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดตัวว่าผู้สมัคร ส.ส.สงขลา อย่างเป็นทางการ 4 เขต คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ , เขตเลือกตั้งที่ 2 นายจูรี นุ่มแก้ว, เขตเลือกตั้งที่ 3  ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์, และเขตเลือกตั้งที่ 9 นายพงศธร สุวรรณรักษา ซึ่งว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คน เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ มีความตั้งใจ  และพร้อมที่จะนำประสบการณ์การทำงานมาพัฒนาบ้านเกิดให้เข้มแข็ง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสงขลาให้ดีขึ้น  โดยทุกคนได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง 

โดยนายกรณ์ กล่าวว่า พื้นที่ จ.สงขลา เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทางพรรคให้ความสำคัญกับจ.สงขลามาก เรามั่นใจมากว่าพรรคมีคนที่พร้อมจะทำงานเพื่อประชาชน เป็นทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็งที่สุด มีรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมากที่สุด เมื่อประกอบกับว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 4 คน ซึ่งตนได้มีโอกาสได้คุยกับทุกคนแล้ว เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมที่จะนำประสบการณ์การทำงานมาพัฒนาสงขลาได้อย่างแน่นอน และสำหรับตนแล้วผูกพันกับ จ.สงขลา เพราะได้ลงมาทำธุรกิจตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว และพบว่าสงขลาฝ่าด่านมาหลายวิกฤตที่กระทบต่อการทำมาหากิน วันนี้เราเห็นบรรยากาศทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่เราทำได้มากกว่านี้เพราะ จ.สงขลาอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์เป็นประตูเชื่อมสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีกำลังซื้อมากที่สุดในอาเซียนคือ สิงคโปร์ และมาเลเซีย ดังนั้น สงขลา จึงเป็นเมืองที่มีโอกาสมากที่สุด แต่วันนี้เรายังค้าขายกับสินค้าเดิม เหมือนเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ทั้งสินค้าบริการ ทั้งที่โลกพัฒนาไปมากแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ สงขลาจะถูกพัฒนาให้เต็มศักยภาพ ซึ่งตรงกับเป้าหมายหลักของพรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเราเป็นพรรคใหม่ และไม่ใช่พรรคใหญ่ แต่เป็นพรรคที่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานราก เอสเอ็มอี จนถึงระดับมหภาค ไม่มีพรรคไหน ที่จะสะสมได้มากเท่ากับพรรคชาติพัฒนากล้าอีกแล้ว 

“เราพร้อมที่จะรื้อโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา สร้างอาชีพใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการที่อยู่ในเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน ทุกอย่างจะทำไม่ได้ ถ้าการเมืองไม่เปลี่ยน เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับที่คนสงขลาต้องการ ต้องมีเลือดใหม่ เข้ามาล้างเครือข่าย กลุ่มผลประโยชน์เดิม และพรรคเราก็ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลใด” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว  

ด้านนายวรวุฒิ อุ่นใจ กล่าวว่า ดีใจมาสงขลาหาดใหญ่อีกครั้ง จากที่เคยลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ช่วยเรื่องทำมาค้าขาย สอนชาวบ้านขายออนไลน์ ต้องยอมรับว่าตนและผู้สมัคร ส.ส.อีกหลายคนมีที่มาเหมือนกันคือไม่เคยคิดจะมาเล่นการเมือง แต่เพราะเป้าหมายคือประเทศไทยต้องดีกว่านี้ เราจึงควรสนับสนุนให้คนเก่งคนดีอย่าง นายกรณ์ ได้เข้าไปบริหารบ้านเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศและสังคม ขณะเดียวกันองคาพยพ ก็ต้องพร้อมสนับสนุน สงขลามีของดีมากมาย และผู้สมัครที่เราคัดสรรมาอาสารับใช้ประชาชน เชื่อว่าจะสามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจสงขลา และสร้างเศรษฐีใหม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่าเลือกเหมือนเดิมก็ได้เหมือนเดิม  

ขณะที่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ว่าที่ผู้สมัครสงขลา เขต1 กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสมายืนบนเวทีนี้ เพราะตนเป็นเพียงเด็กธรรมดา ไม่ใช่ทายาทนักการเมือง ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นคนสงขลาโดยกำเนิด จนถึงขณะนี้อายุ 33 ปีแล้ว แต่เมื่อมองกลับไปที่บ้านเกิด ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เจ็บปวดคือคนรุ่นใหม่พอเรียนจบก็ไปทำงานในเมืองหลวงและหัวเมืองใหญ่ ๆ ทำให้ สงขลาขาดบุคลากรที่จะมาพัฒนา ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพัง  การเมืองคือปัจจัยสำคัญที่จะเราจะสามารถสร้างกฎ กติกาต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง โลกผันผวนเร็ว สงขลาต้องตามให้ทัน เราอยากเปิดภาพใหม่ให้สงขลา โดยใช้แนวคิดสตาร์ทอัพ เทคโน นวัตกรรมขับเคลื่อน ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ และสร้างคุณค่าให้กับผู้สูงอายุ เราจะทำให้คนยิ่งแก่ยิ่งรวย พรรคชาติพัฒนากล้า ชัดเจนเรื่องเศรษฐกิจ ตัวจริงในวงการ นี่จึงไม่ใช่แค่พรรคทางเลือก แต่เป็นพรรคที่ต้องเลือก ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย เป็นคะแนนสร้างสรรค์ ถ้าเลือกเราทุกอย่างเป็นไปได้ ให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในรุ่นเรา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top