Tuesday, 17 June 2025
POLITICS NEWS

‘เพื่อไทย’ ไม่ยุบ!! ‘กอ.รมน.’ ได้ใจ ‘สูงวัย-ชนชั้นกลาง’ เหตุ!! รำคาญพรรคส้มเต็มที ส่วนพี่ๆ กองทัพอ้าแขนโอบกอด

สถานการณ์เหตุบ้านการเมือง แม้จะดูเหมือนยังวนลูป แต่หากส่องกล้องดีๆ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว… กลางสัปดาห์ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ติดภารกิจไม่ได้มาขยับ ช่วงสุดสัปดาห์นี้เลยขอหยิบโน่นนิดนี่หน่อย มาเมาท์มอยเอาใจคอการเมือง

เรื่องแรก - แม้จะยังไม่ค่อยแจ่มชัดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต แต่สังเกตให้ดีช่วงหลังๆ ภาษากาย ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกฯ สูงยาวถุงเท้าแดงของ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ดูมีความมั่นอกมั่นใจมากขึ้น พูดจาช้าลง มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือมากว่าเดิม หนำซ้ำยังได้ใจคนสูงวัยและชนชั้นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพ กรณีประกาศเปรี้ยง… ไม่ยุบ กอ.รมน. สวนทางพรรคก้าวไกล… ไม่ใช่เพราะ กอ.รมน.ดีเลิศประเสริฐศรีอะไรมาก แต่ชาวบ้านเขาน่าจะรำคาญก้าวไกลที่เอะอะก็จะยุบไปหมด…

มองให้ลึกลงไป… ห้วงเวลานี้ พรรคเพื่อไทยกับกองทัพสมานสมัครรักใคร่กันเป็นพิเศษ… ต่างฝ่ายต่างอยู่เป็น เพื่อไทยเองก็สารภาพบาปผ่าน ‘ฯพณฯ คลังแสง’ แล้วว่า ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วจะรู้ว่าอะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ เพราะอะไร… ส่วนกองทัพก็มีความอ่อนตัวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าไม่ล้มเจ้า ไม่โกงบ้านกินเมืองกันแบบมูมมาม ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใครจะใช้อภิสิทธิ์นอนชั้น 14 ก็นอนไป กองทัพไม่ยุ่งด้วย… แถมตอบสนองนโยบายในฐานะเครื่องมือของรัฐฯ

เรื่องที่สอง - เกี่ยวโยงกับความมั่นคง แม้จะยังไม่เสนอ ครม.ในวันอังคารที่ 7 พ.ย.นี้ แต่ค่อนข้างลงตัวแล้วว่า จะมีการโอนย้าย ‘พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์’ รอง ผบ.ตร. เตรียมทหารรุ่น 24 ข้ามห้วยไปรับตำแหน่งระดับ 11 ก่อนเกษียณ… คือ ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำให้ท่านรองเลขา สมช. อย่าง ‘ฉัตรชัย บางชวด’ ต้องรอคั่วปลายปีหน้า… ไม่เป็นไร รอได้ เพราะเกษียณปี 2570

ที่น่าจับตามากกว่า เลขา สมช.คนใหม่ คือ หาก พล.ต.อ.รอย ลุกจาก รอง ผบ.ตร.จริง... รอง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งต้องมาจากอาวุโสเป็นหลัก ก็หนีไม่พ้น ‘พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข’ ผช.ผบ.ตร. ซึ่งจะเกษียณปี 2568 

สำหรับ ‘บิ๊กจวบ’ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 23 นรต.รุ่น 39 เป็นนายตำรวจที่อ่อนตัว วันที่ นช.ทักษิณ กลับบ้านมานอน รพ.ชั้น 14... ‘บิ๊กจวบ’ คือ ผู้รับผิดชอบ ว่ากันว่าอันที่จริงนายใหญ่ชั้น 14 ก็เล็งๆ ที่จะอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่แล้ว… ถ้า ‘บิ๊กจวบ’ ขึ้นรอง ผบ.ตร.ปีหน้า คนที่จะชิง ผบ.ตร.มีถึง 4 คน คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์, พล.ต.อ. ธนา ชูวงษ์ และ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข

ไม่ต้องถามว่าใครอาวุโสกว่าใคร… เพราะจากรอง ผบ.ตร.เป็น ผบ.ตร.ใช้ทั้งอาวุธและความสามารถผสมกัน แต่ที่สำคัญที่สุด เจ้าของพรรคเพื่อไทยอยากได้ใคร!!

เรื่องที่สาม - แถมท้าย อินเทรนด์กับเขาหน่อย เรื่องการขับ สส.คุกคามทางเพศที่เขาบอกว่า ‘คาวไม่เท่ากัน’ งานนี้พรรคก้าวไกลเสียรังวัดเสียหายหลายแสน… มติที่ออกมาขับ ‘สส.แจ้ ปราจีนฯ’ แต่คาดโทษ ‘สส.ปูอัด จอมทอง’ ถูกวิจารณ์แซดว่า ‘คนไม่เท่ากัน-สองมาตรฐาน’ ตอนหลังดูท่า สส.ปูอัด จอมทอง ที่ว่ากันว่าเส้นใหญ่ไม่ยอมขอโทษผู้เสียหายแบบตรงๆ คงจะถูกขับด้วยในที่สุด… 

พูดถึง ‘ก้าวไกล’ ปลายปีนี้ก็ต้องลุ้นกันว่า ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ จะรอดไม่รอด กรณีถือหุ้นสื่อ… ในขณะที่มีกระแสข่าวเล่าลือหนาหูว่า หากพิธาไม่เป็นอะไรไปหรือต้องพ้นจาก สส.ก็เถอะ… โปรดจับตา ดีลการเมืองใหม่ล่าสุด ระหว่าง ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์’ กับ ‘พิธา’ และน่าจะรวมถึง ‘น.ต.ศิธา ทิวารี’ ที่เพิ่งลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย เมื่อ 27 ต.ค.นี้ด้วย… 

การพบกันของคุณหญิงและคณะกับพิธาที่สหรัฐฯ เมื่อหลายวันก่อน แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก็เป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจ… ขอบอก!! 

‘นายกฯ’ จ่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ป.ตรี 25,000 บาท ตามที่ ‘พท.’ หาเสียง ด้าน ‘ปานปรีย์’ เตรียมนัด 4 หน่วยงาน ถกรายละเอียด 10 พ.ย.นี้

(7 พ.ย. 66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เปิดเผยว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายมา ซึ่งได้แจ้ง 4 หน่วยงาน ทั้งกระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงบประมาณ ให้มาประชุมกันที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 10 พ.ย. 66 โดยตนเป็นประธานในการประชุม พร้อมขอให้ประชุมลักษณะนี้ 2 ครั้ง เพื่อ เสนอ ครม. ภายในเดือนนี้ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าจะมีการขยับขึ้นเหมือนตอนสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอนปรับขั้นเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า มีการไปดูจากฐานข้อมูลเดิมด้วย ไปดูจำนวนและกลุ่มบัญชีที่ปรับขึ้น แต่การปรับขึ้นเงินเดือนของรัฐบาลนี้จะเป็นไปตามที่พรรคหาเสียงไว้ คือเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน แต่จะต้องใช้เวลาในการขยับขึ้น ซึ่งคณะทำงานจะมีการดูรายละเอียดพวกนี้เพื่อเสนอต่อ ครม. ด้วย

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า วันที่ 22-24 พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญเอกอัครราชทูตทั่วโลก เพื่อประชุมกระทรวงการต่างประเทศเพื่อรับนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการเปิดงาน โดยประเด็นสำคัญที่จะแจ้งให้ทูตทั่วโลกรับทราบมี 3-4 เรื่องหลักๆ ได้แก่ เรื่องบทบาทการทูตและเศรษฐกิจ ที่ต้องการให้ทูตมีบทบาทในการเปิดประเทศ เรื่องความมั่นคง และเรื่องแนวโน้มการเปลี่ยนของโลกที่ประเทศต่างๆ มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อในปีหน้ารัฐบาลจะได้รุกในตลาดต่างประเทศ การทำเอฟทีเอ และการเจรจาความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ

‘เศรษฐา’ ยัน!! ยังไม่เคาะขึ้นเงินเดือน ‘ข้าราชการ’ ย้ำ!! แค่เตรียมศึกษาข้อมูล ไม่ได้แปลว่าจะปรับขึ้นทันที

(7 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปดูเรื่องราคาสินค้าหรือไม่ ภายหลังมีข้อสั่งการเตรียมขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะขึ้นเงินเดือน แต่ให้ไปศึกษา และการให้ไปศึกษา ไม่ได้หมายความว่าจะให้ขึ้นทันที

เมื่อถามว่า จะทำให้สินค้าจ่อขึ้นราคาล่วงหน้าหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้ขึ้นราคา มันยังตั้งไม่ได้ ยังไงเรื่องนี้กรมการค้าภายในก็ต้องดูแลอยู่แล้ว

'เสี่ยหนู' ลั่น!! เมินรับ 'สส.แจ้' เข้าพรรคเพื่อเติมเสียง ไม่ฉวยจังหวะเอาคู่แข่งเสริมแกร่ง เพราะไม่ใช่แนว

(7 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลมีมติขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรค จะรับเข้า ภท.หรือไม่ ว่า “ไม่รับครับ” เหตุผลเพราะวันนี้ ภท.ไม่ได้มีปัญหาอะไรในทางการเมือง เราก็ต้องดูเรื่องของความเหมาะสมและอะไรต่าง ๆ และในวันนี้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลมีความเข้มแข็ง มีเสียงสนับสนุนในสภาเกือบ 320 เสียง และ ภท.ก็ใหญ่ขึ้น จากที่มี สส. 50 คน เป็น 71 คน น่าจะโอเคแล้ว อีกทั้งเราก็มี สส. ที่เคยลงแข่งกับนายวุฒิพงศ์คือ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ อดีต สส.ปราจีนบุรี

“ถ้าเรารับนายวุฒิพงศ์มา แล้วนายชยุตจะทำอย่างไร ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งนายชยุตอยู่กับภูมิใจไทยมาตั้งแต่ตั้งพรรคแล้ว แต่เลือกตั้งครั้งนี้เขาพลาดไป ไม่ใช่ว่าพอเขาพลาดปุ๊บ ก็เอาคู่แข่งของเขามาเป็น สส.พรรคเพื่อเติมเสียง สส. เราคงไม่ทำอย่างนั้น” นายอนุทิน กล่าว

‘ชัยธวัช’ สั่งห้ามเปิด 22 รายชื่อโหวตหนุน ‘ปูอัด’ หวั่น!! ต่อไปทุกคนจะแสดงความเห็นไม่ได้เต็มที่

(7 ต.ค. 66) ที่โรงแรมอักษร อำเภอแกลง จังหวัดระยอง นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวชี้แจงในกรณี สส. 22 คน ที่โหวตอุ้ม นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ‘สส.ปูอัด’ ว่า วันนี้ก็มาเข้าร่วมประชุม แต่ประเด็นการพิจารณาในวันนี้ ผิดร้ายแรงจากกรณีที่ขัดต่อกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ขัดต่ออุดมการณ์ และทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งเป็นการพิจารณาข้อความผิดคนละกรณีกัน ไม่สามารถพิจารณาซ้ำได้ เพราะเราพิจารณาเรื่องนี้ไปแล้ว ดังนั้น ทุกคนเห็นว่าการแถลงของนายไชยามพวาน ไม่ได้เป็นไปตามมติของกรรมการบริหารพรรค ส่วนช้าไปหรือไม่ ตนมองว่าไม่ได้ช้าไป บางเรื่องก็ต้องทำตามกระบวนการของข้อบังคับพรรค

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้เปิด 22 รายชื่อ สส. ที่โหวตอุ้มนายไชยามพวาน นายชัยธวัช ยืนยันว่า เปิดไม่ได้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เรียกร้องให้มีการลงมติ และเปิดอภิปรายถกเถียงอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องกังวล ตนเป็นคนกำชับเองว่าเมื่อลงมติไปแล้ว สามารถมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่เมื่อลงมติไปแล้ว ต้องไม่โจมตีเพื่อนที่ลงมติแตกต่างจากตนเอง ไม่เช่นนั้นต่อไปในพรรค เวลาที่เปิดให้ทุกคนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ แม้จะเห็นไม่ตรงกัน ก็จะไม่สามารถทำได้

“ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ขอให้ทุกคนไม่เอารายชื่อว่าใครโหวตอะไร มากล่าวหาโจมตีกัน ดังนั้น ผมเองก็เปิดเผยไม่ได้ ก็เป็นคนบอกให้ สส. ไม่ให้ออกมาเปิดเผยเอง เหตุผลก็มีแค่นั้น เราไม่ได้ปกปิดว่าใครมีความเห็นว่าอย่างไร แต่เป็นเรื่องกระบวนการภายในของพรรค และผมยืนยันว่า การที่มีความเห็น การโหวตแตกต่างกันนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนไม่เท่ากันของทั้ง 2 กรณี” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์อาจจะมีมุ้งภายในพรรค ที่ส่งผลทำให้คะแนนไม่เท่ากัน นายชัยธวัช กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ตัวแทนองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ไปร้องเรียนนั้น ตนคิดว่าทั้ง 2 คนที่ถูกกล่าวหา กระบวนการของพรรคจบไปแล้ว พร้อมย้ำว่า หากผู้เสียหายจะถูกฟ้องกลับ สส.และทางพรรคจะเข้าไปช่วยเหลือด้านข้อกฎหมายกับผู้เสียหาย

ถามว่า จะมีการพาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่ผู้เสียหายทุกคนจะพร้อมตลอดเวลาในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม บางคนต้องการเวลากว่าที่จะพร้อม เขาต้องไปเล่าเรื่องซ้ำ ถูกกระทำชำเราซ้ำ แต่เมื่อไหร่ที่ผู้เสียหายพร้อม ซึ่งตอนนี้มีอย่างน้อย 1 รายที่มีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย พรรคก็เตรียมนัดผู้เชี่ยวชาญคดีการคุกคามทางเพศ เพื่อให้การช่วยเหลือ

ซักว่า จะลดข้อครหาอย่างไรว่า การขับนายไชยามพวาน เป็นการกลบกระแสผู้ที่อุ้มมติรอบก่อน นายชัยธวัช กล่าวว่า หากพิจารณาจากข้อเท็จจริง ด้วยเหตุและผล ก็เป็นไปตามกระบวนการเช่นนั้น เมื่อเราเห็นว่านายไชยามพวานไม่ได้ทำตามคำสั่งมติกรรมการบริหารพรรค ก็ถือว่ามีความผิดร้ายแรง สส.ในพรรค ก็พิจารณาจากข้อเท็จจริง อันเป็นกระบวนการที่พรรคทำได้ ดังนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกลบกระแส เป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมา ในเมื่อพรรคกำหนดเงื่อนไขในการลงโทษไปแล้ว แต่สมาชิกพรรคไม่ปฏิบัติตาม ก็นำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนที่มีการขู่จากแฟนเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ว่าจะแฉพรรคก้าวไกลเรื่อยๆ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนยืนยันว่า การที่สังคมมาช่วยตรวจสอบพรรคเรา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลายเรื่องที่ทุกองค์กร การที่มีสังคมมาช่วยตรวจสอบ ทำให้องค์กรโปร่งใสขึ้น เมื่อไหร่ที่สังคมเลิกตรวจสอบพรรคก้าวไกล แสดงว่าสังคมไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้วกับพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า พรรคจะกู้ภาพลักษณ์อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อบุคคลในองค์กรมีปัญหา สิ่งที่ต้องยืนยันคือต้องดำเนินการตรวจสอบและลงโทษ อย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด หากผิดร้ายแรงก็ดำเนินการขั้นเด็ดขาด เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องทำให้สังคมเห็น ไม่ใช่ว่าไปช่วยกันปกปิด เพราะกลัวองค์กรเสียชื่อเสียง ไม่ใช่วัฒนธรรมของพรรคก้าวไกล แน่นอนว่ากระบวนการตรวจสอบก็ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ หลายครั้งเข้าใจในเชิงหลักการ แต่รายละเอียดรูปธรรม คนในสังคมเห็นไม่ตรงกัน เป็นวัฒนธรรมที่เข้าใจไม่ตรงกัน ซึ่งต้องทำให้ชัดเจนขึ้นภายในพรรค นอกจากนี้จะต้องมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนกว่านี้ รวมถึงมีการตรวจสอบเรื่องพวกนี้ เมื่อมีการร้องเรียน เรื่องคุกคามทางเพศ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจสอบทั้ง 2 กรณี ถูกวิจารณ์ว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย นายชัยธวัช กล่าวด้วยท่าทีอึกอักว่า ขณะนี้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนของคณะกรรมการวินัย รวมถึงคณะกรรมการที่มาสอบข้อเท็จจริงชุดเล็ก คือการเพิ่ม สส.หญิงที่มีความรู้เรื่องกฎหมายเข้ามา เพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความสบายใจมากขึ้น แน่นอนว่าหลังจากนี้ต้องทำให้ สส. อาจจะมีความอคติ ช่วยเหลือพวกกันเองได้ ต้องลดสัดส่วน สส.เข้ามาเกี่ยวข้อง

“กรณีคุณแจ้ หากมีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาจริงๆ อาจจะผิดมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ” นายชัยธวัช กล่าว

‘นายกฯ’ รับทราบ หนุ่มขู่ฆ่า เหตุผิดหวังนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ขอ!! ติชมอย่างสร้างสรรค์ ส่วนเคสนี้ ดำเนินการตามกฎหมาย

(7 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตำรวจไซเบอร์ ได้เข้าทำการค้นบ้านจับหนุ่มโพสต์ข้อความขู่ฆ่า และเจ้าตัวสารภาพทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบและผิดหวังกับคำสัญญาของพรรคการเมืองว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรายงานหรือยัง หลังตำรวจไซเบอร์เข้าจับกุมหนุ่มโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ขู่ฆ่านายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรียอมรับว่า ได้รับทราบข่าวแล้ว ไม้ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย  

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าผู้ต้องหาคนที่ขู่ระบุว่า ผิดหวังเรื่องของการเมืองและการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี จะกระทบต่อภาพลักษณ์และเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมว่าเราเป็นรัฐบาล เราก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีคนไม่พอใจ ไม่สบายใจ หรือมีคนแนะนำมาเราก็ต้องฟัง แต่ขอให้ติชมแต่ขอให้ติดชมอย่างสร้างสรรค์มากกว่า มากกว่าที่จะเป็นการคุกคาม ตามกฎหมายซึ่งเรื่องนี้ต้องว่าไปตามกฎหมาย”

ส่วนจะมีการกำชับหรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เรื่องการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ยังไม่มีการสั่งการอะไร เพราะเชื่อว่า ทีมรักษาความปลอดภัยทำงานได้ดีอยู่แล้ว เพิ่มกันเองแต่หากมีการเพิ่มเขาก็จะเพิ่มกันเอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรีวันนี้ยังคงเป็นไปตามปกติของระบบรักษาความปลอดภัย โดยมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจนำขบวน 1 คัน จากนั้นก็เป็นรถของนายกรัฐมนตรีและรถของทีมรักษาความปลอดภัยอีก 2 คัน ซึ่งเป็นไปตามปกติของทุกวัน

‘อี้’ แนะ สส.แจ้ เปิดหน้าไอ้โม่งทุจริตที่ดินบ่อขยะ ปราจีนฯ เร่งนำหลักฐานยื่น ป.ป.ช. ลากคอคนโกงมารับโทษ

(7 พ.ย. 66) นายแทนคุณ​ จิตต์​อิสระ ​รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์​ กล่าว​ถึง​กรณี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนถูกขับออกจากพรรคก้าวไกลด้วยข้อหามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ เนื่องจากตนกำลังแฉการทุจริตซื้อที่ดินทำบ่อกำจัดขยะโดยมีผู้ช่วย สส.ที่เป็​นกรรมการวินัยและสส.บัญชีรายชื่อ​พรรคก้าวไกลเข้าไปเกี่ยวข้อง ว่า การออกมาเปิดโปงคดีที่เข้าข่ายการทุจริต​ในพื้นที่​ปราจีนบุรี​นั้น ถือว่าในร้ายมีดีได้ช่วยกู้สัญญาณ​ชีพของนายวุฒิพงศ์ให้เต้นต่อที่นำข้อมูล​อันเป็น​ประโยชน์​ต่อพี่น้อง​ประชาชน​ชาวปราจีนมาเปิดเผยขบวนการไอ้โม่งที่อุ้มไอ้มืดแล้วยังงาบงบเอื้อโรงกำจัด​ขยะ ถือว่า สส.แจ้ ยิงนัดเดียวตายยกรังคือ ได้เปิดโปงคนใกล้ชิด​คู่แค้นที่ทุจริตแบบแทบปลิดชีพก้าวไกลทั้งพรรคให้ดับดิ้นและทำให้ประชาชนตาสว่างว่ามีการทุจริต​กัน

นายแทนคุณ​ กล่าวว่า ตนขอแนะนำ สส.แจ้ ว่าควรเปิดเผยข้อมูล​ให้หมดสาวถึงตัวการใหญ่ลากตัวไอ้โม่งออกมาลงโทษเพราะคดีทุจริตที่ส่งผลกระทบ​ต่อชีวิต​พี่น้อง​ประชาชน​และสิ่งแวดล้อม​นั้นเป็นอาชญากรรม​ประเภทหนึ่งที่คร่าชีวิตผู้คน​ด้วยมลพิษ​และเลวร้ายไม่น้อยกว่าการคุกคามทางเพศ โดยเกี่ยวโยงกับกรรมการวินัยและ กก.บห.คนดังกล่าว​ควรออกมาชี้แจง กรณีผู้ช่วย สส. เกี่ยวข้องกับเรื่องฟ้องปิดปาก 50 ล้านอย่างไร โดยตนอยาก แนะ ‘ส.ส.แจ้’ นำ​หลักฐาน​ร้องต่อ ป.ป.ช. อย่าให้คนโกงลอยนวลต่อไปเพราะเรื่อง​นี้​มีมูล​ความผิดจริงมีหลักฐาน​ กระทบ​ความเชื่อมั่นนักลงทุน​ในพื้นที่ EEC ที่จะเป็น​หัวใจ​สำคัญ​ทางเศรษฐกิจ​ของประเทศ​และการจัดการขยะในรูปแบบต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพ​ต้องเริ่มจากการกำจัดขยะสังคมที่ทุจริตคอร์รัปชัน​ก่อน

“ส่วนตัวเชื่อว่าก้าวไกลคงมี มติขับ สส.ปู อัดออกจากพรรคแม้กลัวจะถูกแฉรายชื่อ สส.คุกคามเพศรายอื่นอีกหลายรายแม้เจ้าตัวจะออกมาโค้งจนตัวงอหน้ามืดตามต่างชาติแต่ก็ยังไม่ลาออกแบบที่เขาทำกัน สะท้อน DNA ถ้าเจอคนหน้าด้านให้หน้าด้านกว่า อีกประการถือว่าการมีมติอุ้มปูอัดมันจบด้วยตัวมันเองแล้วและการไม่ยอมเปิดเผยชื่อ 22 สส. ออกมาก้าวไกลกลายเป็นส่วนหนึ่ง​ของการสนับสนุน​การคุกคามทางเพศที่เหยียด​ซ้ำผู้ถูกกระทำและตอกย้ำด้วยแชตหลุดให้ปิดปากจากนายเพชร กรุณพล สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคก้าวไกล นอกจากกลัวความจริงแล้วยังกลัวการตอบคำถามประชาชน​และ​สังคมว่าทำไมพรรคก้าวไกลจึงอุ้มคนคุกคามทางเพศ อ้างแค่กลัวกลบทับกฎหมาย​สำคัญ​ ทั้งที่ประชาชนที่มีคุณภาพตาสว่างว่าก้าวไกล คือ ภัยคุกคามความมั่นคงและสังคมอย่างแท้จริง​ พรรคไหนรับไป​อยู่​ด้วยเตรียมล่มสลาย​ทางจริยธรรม​แบบก้าวไกลต่อไป” นายแทนคุณกล่าว

‘บุ๋ม ปนัดดา’ ถามหาจุดยืน ‘พรรคก้าวไกล’ ปมดรามาฉาวของ สส.ในพรรค กรณีการคุกคามทางเพศ

เมื่อไม่นานนี้ ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ ‘คุณบุ๋ม’ อดีตนางสาวไทย นักแสดง นักร้อง และพิธีกรชาวไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึง ประเด็นการคุกคามทางเพศ ของ ‘สส.พรรคก้าวไกล’ ในรายการ ‘ตีข่าวเล่าความ’ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 66 ทางสำนักข่าววันนิวส์ ข่าวช่องวัน ซึ่งมี ‘คุณแจ็ค ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ’ ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยคุณบุ๋ม ปนัดดาได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า…

“อย่าว่าแต่พี่งงเลย คนในพรรคเองเขายังงงเลย ถึงขนาดขึ้นจอดํากันเองแบบนี้ เขาก็คงต้องคุยกันนะ ถึงเวลาที่ทางพรรคเขาต้องคุยกันแล้ว ว่าบทบาทและจุดยืนที่แท้จริงของเขาคืออะไร?

หรือว่าเป็นเพียงแค่คําพูดที่ฉันชอบ ฉันชอบคําพูดเขามากเลยนะ ว่าเขาจะรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ สู้เพื่อสิทธิสตรีกันนมากขึ้น แต่พอเกิดวิกฤตจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้น? นี่คือคําถามที่สังคมตั้งคําถามกับพรรคนี้แน่นอน”

นอกจากนี้ ทางคุณแจ็ค ศรีสุภางค์ ได้ถามคุณบุ๋ม ปนัดดา อีกว่า “คุณบุ๋มคิดว่า ทางพรรคก้าวไกลควรมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้” ทางคุณบุ๋ม ปนัดดาตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องมานั่งโหวตอะไรแบบนี้หรอก เพราะยิ่งโหวต มันยิ่งดูทําให้พรรคดูแย่ เพราะอะไรรู้ไหม? สิ่งหนึ่งที่รู้สึกแย่ก็คือ คุณเอาผู้หญิงไปนั่งซักถามข้อมูลอยู่ในนั้นตั้งกี่ชั่วโมง คุณไม่ใช่ตํารวจคุณมีสิทธิ์อะไรนำตัวเขาไปซักข้อมูล แต่ถ้าเกิดผู้หญิงคนนึงที่ต้องการจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แล้วต้องไปนั่งต่อหน้าผู้คนเยอะแยะมากมาย แล้วบอกว่าฉันโดนคนนี้ เพื่อน สส.ของคุณเนี่ย ทําแบบนี้ และผลออกมา คือ คุณดูเหมือนจัดการอะไรไม่ได้เลย ก็ทำแค่หยุดบทบาท แต่คนก่อเหตุก็ยังเดินไปมาอยู่ในพรรคนั้นน่ะ”

“เหมือนเวลาที่พี่ทําคดี แล้วพี่ต้องสู้กับทหาร พี่ไม่รู้เลยว่าคดีถูกตัดสินอย่างไร ทหารคนนั้นที่ก่อเหตุเขาถูกตัดสินอย่างไร แต่มันคือความเจ็บปวดของผู้เสียหายและของเหยื่อนะ เพราะว่าในส่วนขั้นตอน กระบวนการนั้น เราไม่รู้เลยว่าเขาตัดสินกันอย่างไร เขาบอกเพียงแค่ว่า “เดี๋ยวเขาจัดการกันเอง” เหมือนกันเลย สิ่งที่ทางพรรคกำลังทำตอนนี้ ไม่ต่างกับระบบทหารเลย

คุณบุ๋ม ปนัดดา ยังได้กล่าวอีกว่า ตนมองว่า การเปิดเผยผลโหวตว่า ใครโหวตอะไร สิ่งนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เหมือนแค่ดูว่า ‘ใครเป็นพวกใครเท่านั้นเอง’’ ตนมองว่าเหมือนเด็กอนุบาลตีกัน และสิ่งนี้ทำให้สังคมมองว่า ทางพรรคอุ้มกันเองหรือเปล่า? ตนจะมองแค่ผลโหวตโดยรวมเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งนี้คือภาพใหญ่โดยรวมของพรรค

“มติพรรคคืออะไร? และคุณมีวิธีการจัดการยังไงกับเรื่องแบบนี้ ทั้งๆ ที่คุณพูดปาวๆ ว่า พรรคคุณไม่ชอบเรื่องแบบนี้ พรรคคุณจะส่งเสริมเรื่องสิทธิสตรี ความเท่าเทียมทางเพศ และลดความเหลื่อมล้ำทุกอย่าง แต่กลายเป็นว่าพวกคุณทําหมดเองเลย” คุณบุ๋ม ปนัดดา กล่าวทิ้งท้าย

'เพื่อไทย' ชี้!! หนี้ครัวเรือนต้องแก้ด้วยดิจิทัลวอลเล็ต ช่วย 'ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้-ขยายโอกาส' ให้คนไทยทุกคน

(6 พ.ย. 66) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนต้องแก้ด้วยดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพราะ 1 ใน 3 ของคนไทยทั้งประเทศเป็น ‘หนี้’ ซึ่งกลุ่มที่มีสถานการณ์หนี้น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ กลุ่มเกษตรกรที่เป็นกระดูกสันหลังของประเทศ และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยสัดส่วนของหนี้ต่อรายได้ของเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยเนี่ย อยู่ที่ 34% และ 41% 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยย้ำมาโดยตลอดว่า จะ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน และนี่จะเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้กับพี่น้องประชาชน

'สส.แจ้-ปราจีนฯ' จัดหนัก!! แฉ 'เด็กก้าวไกล' เอี่ยวรับเงินโรงงานกำจัดขยะหลายล้านบาท

เมื่อวานนี้ (5 พ.ย. 66) นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขับออกจากพรรค หลังถูกตรวจสอบพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Wuttiphong Thonglour - วุฒิพงศ์ ทองเหลา’ ระบุว่า "ผมหยุดให้ข่าวใดๆ หลังจากที่แถลงไปในวันแรก แต่ ผช.สส. ของกรรมการพรรคบางท่าน ยังคงไล่ตีผมไม่หยุด หรือต้องให้ผมต้องพูดทั้งหมด?"

จากนั้น นายวุฒิพงศ์ ยังได้โพสต์ข้อความลงในคอมเมนต์ อีกว่า "ตามข้อมูลหลักฐานที่ผมเคยให้พรรคไป ผู้ช่วย สส. ของปราจีนบุรี (จากโควต้าของพรรค) คนนี้ เกี่ยวพันกับการเอื้อรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะหลายล้านบาท ส่วนเรื่องจะทุจริตหรือไม่ทุจริตก็ไปว่ากันในพรรค ซึ่งผมเดินออกมาแล้ว คงไม่ขอก้าวล่วงกระบวนการ แต่หากพรรคยังปล่อยปะ ให้ช่วย สส. ที่เป็นถึงผู้ช่วยของกรรมการบริหารพรรค ปล่อยข่าวมูลต่างๆ และสร้างความเสียหายกับผมเช่นนี้ ผมอาจจำเป็นต้องชี้แจงจากหลักฐานทั้งหมด ผมต้องการทำ และสร้างการเมืองที่ไม่ทุจริต"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top