Friday, 16 May 2025
NEWS

ตำรวจไซเบอร์ เปิดเผย 10 อันดับ สินทรัพย์ที่มิจฉาชีพมักนำมาแอบอ้างหลอกลวงให้ลงทุน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ในปัจจุบันกระแสความนิยมในการลงทุนสินทรัพย์ต่างๆ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์หลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชนโดยมิชอบ ทำให้ที่ผ่านมามีประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

โดยนับตั้งแต่การเปิดศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์กว่า 23,200 ราย สูงเป็นลำดับที่ 4 หรือคิดเป็น 8.3% ของจำนวนเรื่องที่ได้รับแจ้งความทั้งหมด แต่กลับพบว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 11,200 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 1 หรือคิดเป็น 28.72 % จากมูลค่าความเสียหายรวมของการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ โดยมิจฉาชีพมักจะใช้วิธีการสร้างเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ปลอม นำเสนอข้อมูล ตัดต่อ คัดลอก ภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง องค์กรหรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ ประกาศโฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปให้มาลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ มีการันตีจะได้รับผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว ใช้คำโฆษณาที่สวยหรู เช่น เป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุน เพื่ออนาคตที่ดีกว่า กล้าคิด กล้าลงทุน เพียงแค่เปิดใจ เป็นต้น

รวมถึงใช้การเทคนิคการซื้อโฆษณาเพื่อง่ายต่อการเข้าถึงเป้าหมาย และในระหว่างนั้นเหยื่อจะได้พูดคุยกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พูดคุย โน้มน้าวใช้จิตวิทยาล่อลวงให้เหยื่อลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ท้ายที่สุดอ้างว่าเหยื่อทำผิดกฎต่างๆ ทำให้ไม่สามารถถอนเงินจากระบบได้ นอกจากนี้แล้วการลงทุนนั้นอาจจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ โดยมิจฉาชีพจะใช้วิธีการสร้างภาพว่าตน หรือธุรกิจของตนประสบความสำเร็จ ซึ่งในช่วงแรกเหยื่อก็จะได้รับผลตอบแทนจริงตามที่กล่าวอ้าง จากนั้นเหยื่อจะเกิดความโลภลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนมาก และยังไปชวนบุคคลอื่นมาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งมิจฉาชีพก็นำเงินมาหมุนจ่ายค่าตอบแทนแก่สมาชิกอื่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีจำนวนสมาชิก และเงินลงทุนเป็นจำนวนมากแล้ว ก็จะหลบหนีไป รวมไปถึงการเข้าหาเหยื่อด้วยแอปพลิเคชันหาคู่ และใช้คำหวานโรแมนติกหลอกลวงเหยื่อ ทั้งนี้ที่ผ่านมามักจะพบสินทรัพย์ที่มิจฉาชีพนำมาหลอกลวงลงทุน ดังนี้

1.สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ฝากซื้อขายเหรียญในเว็บไซต์ปลอม หลอกให้ลงทุนซื้อเหรียญสกุลใหม่ๆ แต่สุดท้ายไม่ได้เข้าตลาดซื้อขาย ธุรกิจการขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัล หรือการเช่าหรือซื้อกำลังขุดสกุลเงินดิจิทัล (Cloud Mining)
2.อัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ (Forex) หลอกลงทุนเก็งกำไร
3.ทองคำ เพชร
4.หุ้นต่างประเทศ
5.หุ้น กองทุนรวม ในประเทศ เช่น Amata, Gulf, PTT, CPALL, บางจาก, AOT เป็นต้น
6.อสังหาริมทรัพย์
7.สินค้าอุปโภค เช่น คดีลงทุนฟาร์มเห็ด Turtle Farm, คดีลงทุนผักผลไม้ตลาดสี่มุมเมือง
8.ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เช่น คดี พรีมายา (Primaya)
9.โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล
10.ลงทุนเล่นการพนันออนไลน์

บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ

โฆษก บช.สอท. กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาก็พบการกระทำความผิดในลักษณะของการหลอกลวงให้ลงทุน ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง วิธีการที่มิจฉาชีพนำมาใช้ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เพียงแต่เปลี่ยนเรื่องราวไปตามกระแสความสนใจของสังคมในปัจจุบัน โดยอาศัยความไม่รู้ และความโลภของประชาชนเป็นเครื่องมือ มักแอบอ้างภาพ หรือชื่อ ก.ล.ต. หรือหน่วยงาน บริษัท บุคคลที่มีชื่อเสียงในการโฆษณาชวนเชื่อ หรือการปลอมแปลงใบอนุญาต อ้างหรือตั้งชื่อให้ใกล้เคียงกับบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และในปัจจุบันมิจฉาชีพสามารถเข้าถึงเหยื่อได้ง่ายมากยิ่ง ทำให้การหลอกลวงสามารถทำได้หลากรูปแบบ และหลายช่องทางมากขึ้น รวมไปถึงมิจฉาชีพก็มักจะสร้างความน่าเชื่อถือปิดช่องโหว่มากขึ้น เนื่องจากประชาชนเริ่มรู้เท่าทันจากการเตือนภัยออนไลน์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ
ทั้งนี้ ขอฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อดังนี้

1.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ โดยการตรวจสอบว่าเว็บไซต์เปิดมานานเท่าใดแล้ว บริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือมักมีการลงทะเบียนโดเมนแบบไม่ระบุตัวตน หรือตรวจสอบตัวตนได้ยาก โดยสามารถตรวจสอบการจดทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ต่างๆ เช่น https://checkdomain.thaiware.com เป็นต้น
2.ระมัดระวังการชักชวนจากคนที่เพิ่งรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า หรือเป็นคนต่างชาติหน้าตาดี ที่เข้ามาตีสนิทแล้วชวนให้ลงทุนบนแพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันต่างประเทศ อ้างว่าลงทุนแล้วได้ผลกำไรสูง การันตีผลกำไรแน่นอน
3.มิจฉาชีพมักอ้างว่ารู้จักผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน โดยบุคคลที่มักนำรูปและชื่อมาแอบอ้างนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงหรือมีความรู้ด้านการลงทุน พร้อมสร้างเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
5.ตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้บริษัทว่านำเงินจากไหนมาจ่ายให้ผู้ลงทุน
6.ตรวจสอบข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ว่าบริษัทมีการกล่าวถึงการหลอกลวงหรือไม่ มีความน่าเชื่อถือมากเพียงใด
7.ผลตอบแทนที่ได้รับมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ เช่น การันตีให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น รับประกันผลการตอบแทนการลงทุน
8.ไม่โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของบุคคลธรรมดา เสี่ยงเป็นบัญชีของมิจฉาชีพหรือบัญชีม้ารับโอนเงิน
9.หลีกเลี่ยงการลงทุนหรือข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นไปได้ พึงระลึกไว้เสมอว่า “ ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยง่าย โดยเฉพาะเรื่องเงิน ” และ “ การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ ”
10.ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่ www.sec.or.th/seccheckfirst

ตร.ไซเบอร์รวบขบวนการหลอกให้กู้เงินออนไลน์ หลอกพระโอนเงิน 15 ครั้ง เสียหายกว่า 4 แสนบาท

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

สืบเนื่องจากผู้เสียหาย(พระ) ต้องการจะกู้เงินเพื่อนำไปชำระหนี้ให้กับโยมแม่ โดยเข้าไปค้นหาใน Google พบบริการสินเชื่อออนไลน์ ผู้เสียหายได้คลิกเข้าไปลงทะเบียนเพื่อขอกู้เงิน ต่อมาคนร้ายได้ให้ผู้เสียหายแอดไลน์ เพื่อคุยข้อความทางไลน์และถามว่าผู้เสียหายต้องการเงินเท่าไร หลังจากนั้นคนร้ายได้ส่งลิงก์ Eagleloan (rabbit.xyz) (http://b10.rabbitlon.xyz#/register) มาให้ผู้เสียหายเข้าไปสมัครในแพลตฟอร์มดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายสมัครในแพลตฟอร์มดังกล่าวเสร็จแล้ว มีข้อความเข้าว่าได้รับอนุมัติ โดยแจ้งว่าผู้เสียหายเป็นผู้กู้รายใหม่ยังไม่มีประวัติการกู้กับทางบริษัทฯ คนร้ายจึงได้ส่งบัญชีธนาคารที่คนร้ายกับพวกเปิดไว้จำนวน 6 บัญชี มาให้ผู้เสียหายต้องชำระค่าบริการต่างๆ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนไป จำนวน 15 ครั้ง

รวมเป็นเงิน จำนวน 408,723 บาท หลังจากนั้นผู้เสียหายได้ทำการขอถอนเงินคืน ผู้ต้องหาได้แจ้งว่าต้องฝากเงินเข้าไปอีก ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2
รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 408,723 บาท

ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 6 คน ตามที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายจับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 ได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังนี้

1. นายฐิติวัชร ชาวอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.66          

2. นายเอกภิเชฐ ชาวอำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.66

ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด"

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดทำบันทึกการจับกุม และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการอุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจเพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ

วันนี้ 26 มิ.ย.66 ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ในระหว่างวันที่ 19 มิ.ย.66 ถึง 8 ก.ค.66 รวม 20 วัน โดยมีข้าราชตำรวจจากทั่วประเทศสมัครใจเข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ในครั้งนี้ จำนวน 38 นาย และประชาชน จำนวน 10 คน 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.66 ระหว่างเวลา 16.30 ถึง 18.00 น. มีการประกอบพิธี
ถวายราชสักการะ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชนาค พิธีมอบบาตรและผ้าไตร ณ มณฑลพิธีลานพระศรีมหาโพธิ์   และพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร  

โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย  ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฯ ภายหลังการอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว
จะศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
​การจัดโครงการอุปสมบทหมู่ฯ

ในครั้งนี้  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  มุ่งหวังเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้ร่วมแสดงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา รวมถึงเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้บำเพ็ญคุณงามความดี  ถือเป็นโอกาสที่จะได้เสริมสร้าง คุณธรรม จริยธรรม พัฒนากล่อมเกลาจิตใจ  ซึ่งก่อประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว และสังคมต่อไป

‘ดร. หิมาลัย’ ชี้ ‘หยก’ ยังมีทางเลือก หากไม่อยากใส่เครื่องแบบ แนะให้เรียน กศน.- Home School

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 66 ดร. หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เล่าถึงประเด็น เสรีภาพทางการศึกษา ผ่านรายการ ‘คุยกับ ดร. หิมาลัย’ โดยระบุว่า…

เรื่องของเสรีภาพในสถานศึกษา ซึ่งนำเอาน้องหยกมาเป็นกรณีศึกษา ซึ่งเราก็จะรู้จักเขาในมุมของนักต่อสู้ ที่แสดงออกตามความเชื่อความคิดของตัวเอง ที่โดดเด่นที่สุดก็คือการต่อสู้ในการเรียกร้องเพื่อการต่อต้านมาตรา 112 น้องหยกมีการต่อสู้ที่ชัดเจนและรุนแรง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างรวดเร็ว

สำหรับเรื่องสิทธิเสรีภาพในโรงเรียน ซึ่งน้องหยกย้อมผมไปเรียนแต่งตัวไปรเวทตามสบายไปเรียน และเลือกเข้าเรียนเฉพาะวิชาที่ตัวเองชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพ ที่น้องหยกกำลังเรียกร้องนั้นมันมีความถูกต้องหรือว่ามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ในปี 2559 นั้นเคยมีงานวิจัย ซึ่งทำการวิจัยในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา มีการทำวิจัยว่าการแต่งเครื่องแบบนักเรียนนั้นมีผลต่อการเรียนอย่างไร ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่าการแต่งเครื่องแบบนักเรียนนั้นจะเพิ่ม การเข้าเรียนของนักเรียนในระดับชั้นมัธยม ในขณะเดียวกันนั้นก็เพิ่มการอยู่ในห้องเรียนของครูในระดับประถม นักเรียนเมื่อใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วจะมีการเข้าเรียนที่ตรงเวลามากขึ้น การตั้งใจเรียนก็มีมากขึ้นและการส่งเสียงรบกวนในห้องเรียนนั้นก็มีน้อยลง เครื่องแบบนักเรียนนั้น เป็นแบรนด์เนมที่ราคาถูกที่สุดในโลก การใส่เครื่องแบบ นักเรียนนั้นจะได้รับความเอาใจใส่จากบุคคลรอบข้าง เมื่อใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วสังคมรอบข้างจะช่วยกันดูแล สังเกตได้ว่าเมื่อใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วและมีปัญหา ก็จะมีผู้ใหญ่เข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรมีอะไรให้ช่วยหรือไม่

ถ้าเราไม่อยากใส่เครื่องแบบนักเรียนนั้นเราก็ยังมีทางเลือกเช่นการเรียน กศน. การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งเราไม่ต้องแต่งเครื่องแบบเลย ก็แค่แต่งชุดให้สุภาพในการเข้าห้องสอบ หรือเลือกเรียนในระบบ Home School ทางเลือกเหล่านี้น้องหยกก็สามารถเลือกที่จะเรียนได้

เรื่องของหยกนั้น ยังมีกรณีเรื่องของผู้ปกครองอีกด้วย ซึ่งถ้าบุคคลที่อ้างตัวเป็นผู้ปกครองของน้องหยกนั้นไม่ใช่ผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมายการมอบตัวของน้องหยกก็ย่อมจะ ไม่ถูกต้องตามไปด้วย

‘อ.เจษฎ์’ คาดต้นเหตุสลด โรงเรียนดังย่านนางเลิ้ง ขณะซ้อมดับเพลิง บรรจุแก๊สเพิ่ม-วางตากแดด-ไม่มีวาล์วเซฟตี้

กรณีเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.66 เวลา 11.22 น. เกิดเหตุระเบิดในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง ย่านนางเลิ้ง เบื้องต้นมีนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

โดยมีรายงานว่า ทางโรงเรียนได้เชิญเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามเสนมา ทำการซักซ้อมการควบคุมเพลิง พร้อมวิธีการอพยพให้กับเด็กนักเรียน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เปิดแก๊สถังขนาด 20 กก. และทำการจุดไฟเพื่อสาธิตวิธีการดับไฟเบื้องต้น แก๊สได้รั่วไหลออกมาจนเป็นเหตุให้ระเบิดจนทำให้ผู้เสียชีวิตกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่เป็นวิทยากร ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน

ต่อมา อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ระบุข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของเหตุถังดับเพลิงระเบิด คาดว่า เป็นเพราะถังดังกล่าวถูกนำไปบรรจุแก๊สเพิ่ม และวางตากแดดเป็นเวลานานจนอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แรงดันขยายตัวและระเบิด เนื่องจากไม่มีวาล์วเซฟตี้ติดตั้งอยู่ครับ
พร้อมแนะนำเรื่องการเก็บรักษาดูแลถังดับเพลิง ดังนี้

หลีกเลี่ยงการติดตั้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง มีความชื้นสูง หรือเกิดความสกปรกได้ง่าย เช่น ตากแดด ตากฝน หรือติดตั้งใกล้จุดกำเนิดความร้อนต่างๆ เช่น เตาไฟ หรือเครื่องจักรที่มีความร้อนสูง
ทำความสะอาดตัวถัง และอุปกรณ์(สายฉีด, หัวฉีด) เป็นประจำเพื่อตรวจดูสภาพตัวถังและอุปกรณ์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และมีสภาพใหม่อยู่เสมอ

หากเป็นเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ควรยกถังพลิกคว่ำ-หงาย ประมาณ5-6ครั้ง ทุกๆ3-6เดือน เพื่อให้ผงเคมีมีการเคลื่อนตัวและไม่จับตัวเป็นก้อน
เครื่องดับเพลิงที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ควรส่งมาตรวจสอบที่บริษัทเพื่อตรวจเช็คสภาพของตัวเครื่องและทำการถ่ายเคมีออกและบรรจุใหม่

ถ้าแรงดันในถังเกิน (OVERCHARGE) สูงกว่าแรงดันปกติ (195 psi)สภาพถังอาจจะบวมหรือแตกออก หากแรงดันขึ้นสูงเกิน 1000psi อาจทำให้เกิดอันตรายเนื่องจากถังอาจระเบิดได้!!! ควรติดต่อบริษัทให้ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน หมายเหตุ:
เครื่องดับเพลิงชนิด CO2 จะไม่มีมาตรวัดแรงดัน ผู้ใช้สามารถตรวจวัดก๊าซ ภายในถังได้โดย วิธีชั่งน้ำหนัก หากน้ำหนักก๊าสภายในถังลดลงต่ำกว่า80 % ควรติดต่อบริษัทเพื่อทำการดำเนินการบรรจุใหม่ในทันที

ไทย สมายล์ กรุ๊ป ผู้นำโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถและเรือไฟฟ้า มุ่งสู่การก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน 

พร้อมจัดโปรโมชันอัตราค่าโดยสารเหมาจ่าย 40 บาท/วัน (Daily Max Fare) ไม่จำกัดเที่ยว ไม่จำกัดสาย ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงชำระค่าโดยสารด้วย HOP Card

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ไทย สมายล์ กรุ๊ป ให้การต้อนรับคณะหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำหรับนักบริหารระดับสูงรุ่นที่ 10 (ปธส.10) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 70 ท่าน เข้าดูงานการดำเนินงานและการให้บริการของรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ว่า การเปลี่ยนรถและเรือโดยสารเป็น EV BUS และ BOAT เป็นเทคโนโลยีที่ดีของการเดินทาง ช่วยลดการใช้พลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซ ลดคาร์บอน ลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งเป็นการให้บริการอย่างทั่วถึงเท่าเทียม และมีคุณภาพดี

ในการนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้บรรยายเรื่อง "ขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้า : ทางออกที่ยั่งยืนของสังคมไทยในการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ" ซึ่ง ไทย สมายล์ กรุ๊ป เร่งผลักดันการให้บริการขนส่งสาธารณะทั้งรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้าสาธารณะที่ทันสมัย มีความปลอดภัยสะดวกสบายในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยโปรโมชันอัตราค่าโดยสารเหมาจ่าย 40 บาท/วัน (Daily Max Fare) ไม่จำกัดเที่ยว ไม่จำกัดสาย ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงชำระค่าโดยสารด้วย HOP Card

ในช่วงเย็น ได้นำคณะฯ ล่องเรือท่องเที่ยวพลังงานไฟฟ้า ชมบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งเยี่ยมชมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีเรือ 23 ลำ ให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาจากท่าเรือสาทร – ท่าเรือพระนั่งเกล้า ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

สวนสัตว์เชียงใหม่ ซ้อมแผนชะนีหลุด ให้เจ้าหน้าที่ แต่งชุดชะนี  ทั้งวิ่งหนี ปีนต้นไม้ ไล่ล่าแบบเหมือนจริง สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ทางเพจ เชียงใหม่ CM108 ข่าวเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพบรรยากาศการซ้อมแผนชะนีหลุดของสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก

เพราะว่าการซ้อมแผนในครั้งนี้ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้ให้พนักงานแต่งชุดเป็นชะนี และสวมบทบาทการหลบหนีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นวิ่งหนี หรือปีนต้นไม้ ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็มีทั้งตามยิงปืนยาสลบไล่ และจับใส่ตาข่ายมาขึ้นรถจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นการซ้อมที่เอาจริงเอาจังมาก เผื่อเกิดสถานการณ์จริงจะได้ปฏิบัติกันได้อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยต่อตัวนักท่องเที่ยว 
ถือเป็นสีสันที่สร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้เห็น รวมไปถึงรอยยิ้มจากโลกโซเชียลด้วย

ก.แรงงาน มอบประกาศนียบัตรเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 5 นำนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 เวลา 11.00 น.นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีปิดและมอบใบประกาศนียบัตรโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับปี พ.ศ. 2565) รุ่นที่ 5 (พนักงานเจ้าหน้าที่ รุ่นที่ 64) เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการตามหลักกฎหมายและหลักสากล รวมทั้งมีคุณสมบัติตามกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมี นางสาวโสภณา บุญ-หลง ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน กล่าวรายงานผลการฝึกอบรม และนายพฤกษ์ พรหมพันธุม เลขานุการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในครั้งนี้ ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

นายบุญชอบ กล่าวว่า ตามที่ได้รับทราบการกล่าวรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ถึงผลการฝึกอบรมฯ หลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้ง
เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 5 (พนักงานเจ้าหน้าที่ รุ่นที่ 64) ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้ง 40 คน ได้รับความรู้จากวิทยากร
ผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันการค้ามนุษย์ทั้งภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) โดยได้ทำการทดสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติตามหลักสูตรที่กำหนด ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้ง
เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อไป 

 
“ผมขอให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกท่านได้นำความรู้ความสามารถที่ได้รับจากการอบรมในครั้งนี้ รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในการปฏิบัติงานป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายบุญชอบ กล่าวท้ายสุด

ผบ.ตร. มอบรางวัลตำรวจจราจรจราจร สภ.เมืองราชบุรี

วันนี้ (23 มิ.ย.66) เวลา 11.45 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ตำรวจจราจร สภ.เมืองราชบุรี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้คือร.ต.ต.วิเชียร มณีวิหค รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมาย อำนวยความสะดวกบนเส้นทางจราจรได้อย่างเข้มแข็ง ตลอดยังเป็นผู้มีจิตสาธารณะ ทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และได้รับการชื่นชมจากสังคมในหลายกรณี ดังเช่น  

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 11.20 น. ร.ต.ต.วิเชียรฯ ได้ทำการช่วยเหลือพลทหาร มีพฤติกรรมคล้ายจะกระโดดลงน้ำจากสะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ โดยทำการรับฟัง เกลี้ยงกล่อม ปลอบใจ จนสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับตัวไปดูแล

และเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 07.40 น. ร.ต.ต.วิเชียรฯ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กนักเรียนจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันอย่างทันท่วงที พร้อมประสานรถพยาบาลรับตัวผู้บาดเจ็บไปรักษา จนได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก

เหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 16.40 น. ระหว่างที่ 
ร.ต.ต.วิเชียร มณีวิหค รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณถนนสมบูรณ์กุล หน้าโรงพยาบาลราชบุรี ได้พบเห็นรถยนต์กระบะจอดรถสวนเลนไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย จึงเข้าตรวจสอบ พบว่ามีผู้ขับขี่ในรถ จึงเข้าไปสอบถาม แต่ชายผู้ขับรถคันดังกล่าวตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และลงจากรถ และใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพวีดีโอการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการชี้แจงและอธิบายถึงการปฏิบัติผิดกฎหมายจราจร 
สร้างความเสี่ยงให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ด้วยความใจเย็น 

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ สามารถควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี และเป็นผู้รักษากฎหมายจราจร เพื่อรักษาความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างแท้จริง ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

เปรียบเทียบค่าเทอมระหว่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

เปรียบเทียบค่าเทอมระหว่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ของนักเรียนแต่ละชั้นปี ต้องจ่ายค่าเทอมกันปีละเท่าไรบ้าง ไปดูกัน!!
 

‘OMD2–DITP’ จัดสัมมนายกระดับการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย สู่เวทีการค้าในตลาดโลก

เมื่อไม่นานนี้ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดสัมมนาการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการในภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “เปิดประตูสู่โอกาสการค้าไทยในตลาดโลก” (The Key to Connext) ในโครงการเสริมสร้างศักยภาพผู้ส่งออกไทยด้วยข้อมูลการค้าตลาดภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ยุโรป CIS แอฟริกา และตะวันออกกลาง จัดโดย สำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 2 หรือ สพต.2 หรือ ‘OMD2’ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ซึ่งเป็นการสัมมนาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ถ่ายทอดผ่านระบบโปรแกรมผ่านระบบ ZOOM Application โดย ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2566 และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 7 – 8 มิถุนายน 2566 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทย และผลักดันการขยายการค้าและการลงทุนของไทยในตลาดโลก
.
โดยครั้งที่ 1 เป็นการสร้างความรู้ให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ได้ อาทิ การเสริมสร้างศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศในเรื่องการใช้ข้อมูลการค้า แนวโน้มตลาด มุมมองเศรษฐกิจ กลุ่มสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัว พฤติกรรมผู้บริโภค ในปี 2023 แนวโน้มการค้าโลก การแบ่งกลุ่มเป้าหมายตามระดับต่างๆ เทคนิคการเจาะตลาด การเลือกตลาดให้เหมาะสมกับสินค้า โอกาสในการเจรจาการค้าในยุค Digital ทั้งเทคนิค ขั้นตอน วิธีการที่สำคัญในการเตรียมตัวสู่การเจรจาการค้าออนไลน์ รวมทั้งแนะนำสำนักงานส่งเสริมการค้าของไทยในต่างประเทศทั้ง 58 แห่ง ที่คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวก แนะนำข้อมูลการค้าต่างๆ พร้อมทั้งเสริมสร้างโอกาสทางการค้า ผ่านกิจกรรมต่างๆ

ครั้งที่ 2 เป็นการแนะนำการเสนอเรื่องราวของสินค้าอย่างไรให้ตรงใจผู้บริโภค การปรับแต่งเรื่องเล่าสำหรับตลาดต่างๆ การสร้างโอกาสผ่านการเล่าเรื่อง การค้นหาจุดเด่น บรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องคำนึงถึงอะไร กลยุทธ์การตลาดกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออก เลือกวิธีการสื่อสาร ไปจนถึงการนำเสนอรูปแบบสินค้า เทคนิคต่างๆ รวมทั้งการติดตามผลการเจรจาการค้าหรือกลยุทธ์อื่นๆ ที่เหมาะสม โดยวิทยากรที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์ในวงการธุรกิจเป็นผู้บรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งสิ้นกว่า 200 คน

นอกจากจะยกระดับผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการรายใหม่ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลหรือกิจกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ สพต. 2 หรือ OMD2 สำหรับผู้ที่สนใจการสัมมนาหรือกิจกรรมที่จะช่วยยกพัฒนาศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศในด้านต่างๆ สามารถติดตามข่าวสาร และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

‘ดร.อานนท์’ รวบรวมเสียงสะท้อน จากนักเรียนเตรียมพัฒน์ ถึงพฤติกรรมของ ‘หยก’

วันที่ 23 มิ.ย.2566 - ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีน้องหยก ธนลภย์ อายุ 15 ปีว่า ผมให้น้องศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการลงไปถามน้องนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 และชั้นอื่น ทั้งที่เรียนห้องเดียวกันกับหยกและต่างห้อง น้องๆ ได้แสดงความคิดเห็นมาดังนี้ ลองฟังเสียงจากน้องๆ เตรียมพัฒน์กันนะครับ ผมว่าน่าสนใจมากครับ
ความเห็นน้องๆในโรงเรียน

-เอือมระอากับพฤติกรรมของน้อง และกลุ่มที่อยู่หน้าโรงเรียน
-เพื่อนๆในห้องไม่คุยกับหยก
-บรรยากาศการเรียนการสอน อาจารย์จะตักเตือน ตำหนิ เพราะน้องทำผิดกฎโรงเรียน มันทำให้นักเรียนคนอื่นเสียเวลาเรียน
เพื่อนในห้องจะรู้สึกว่าทำไมต้องมาเสียเวลากับคนแบบนี้
-เพื่อนๆในห้องแยกโต๊ะหยกออกไปนั่งแยกคนเดียว
-มีคนเตือนหยกแต่หยกไม่ฟัง
-ทำให้เดือดร้อนกับคนที่เดินเข้ามาในโรงเรียน นักเรียนบางคนรู้สึกกลัว หวาดระแวงกับบุคคลที่อยู่หน้าโรงเรียน
-นักเรียนหลายคนรู้สึกไม่โอเคกับการที่มีนักข่าวมารอหน้าโรงเรียนเต็มไปหมด
-พ่อแม่หลายคนเป็นห่วงลูกระหว่างการเดินเข้า-ออกภายในโรงเรียน
-อยากให้โรงเรียนtake action
-รู้สึกไม่พอใจที่มาเหยียดหยามยาม ครู และบุคลากรในโรงเรียน
-เรามีสิทธิที่เราจะแสดงออก มีความคิดที่แปลกใหม่ในปัจจุบัน เรามีสิทธิที่จะผลักดันทุกเรื่องให้เกิดขึ้นได้แต่ ในการผลักดันนั้น มันจะต้องมองทุกๆคนในสังคมการที่คนรุ่นใหม่บางคนมองว่าคนรุ่นเก่ามีความคิดที่โบราณ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เขาลืมคิดไปคือแล้วคนโบราณเหล่านั้นไม่ใช่คนที่อยู่ในประเทศไทยหรอ? ไม่ใช่คนที่มีสิทธิเหมือนกับพวกคุณหรอ เด็กรุ่นใหม่บางคนยังไม่ตรรหนักพอที่จะปรับเปลี่ยนได้ คนรุ่นใหม่ยังคิดว่าตัวเองสำคัญที่สุด ถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างนึงเราควรจะมองทุกคนในสังคมว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเขาก็ยังมีชีวืตอยู่ มีสิทธิมีเสียงเหมือนกัน
-การยกเลิกเครื่องแต่งกาย ยกเลิกทรงผม ความคิดส่วนตัวผม ผมเห็นด้วยนะ แต่มันจะต้องมาในกระบวนการที่ถูกต้อง ถูกจุดของมัน นี่มันถึงจะทำให้สังคมเดินหน้าต่อไปได้ รู้สึกว่าน้องหยกทำแบบนี้มันกลายเป็นว่าจากเดิมมันเหมือนจะดี กลายเป็นส่งผลเสียให้กับโรงเรียน จนมันลามไปเรื่อยๆ ไม่สามารถหยุดคนพวกนี้ได้แล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยหยุดเหตุการณ์พวกนี้ได้อย่างไร ฝากความหวังไว้กับโรงเรียน
-ตัวแทนนักเรียนบอกจะมีกิจกรรมคอนเสิร์ตในโรงเรียน ตั้งใจประสานงานกับทางโรงเรียนและผู้จัด เพื่อให้กระทบตารางเรียนน้อยที่สุด เตรียมจัดคอนเสริ์ตมานาน แต่ไมได้จัดเพราะมีเหตุการณ์แบบนี้ กลัวว่าในอนาคตงานปัจฉิมนิเทศ หรืองานกิจกรรมต่างๆถ้าเกิดจะเชิญศิลปินมา หรือขอสปอนเซอร์จากบริษัทต่างๆ เขาจะมาร่วมกับเราไหม ในเมื่อโรงเรียนเกิดข่าวเสียหายแบบนี้ จากกลุ่มคนพวกนี้

🔍ส่องแบรนด์ระดับโลกที่มีมูลค่าสูงสุด 2023 พบ ‘Apple’ ยังครองแชมป์เหนียวแน่น ส่วน ‘Facebook’ น่าผิดหวัง มูลค่าแบรนด์ลดฮวบ 50% หลุด 10 อันดับแรกแล้ว

‘Kantar’ บริษัทวิจัยการตลาดระดับโลก ได้เปิดผลการสำรวจ ‘Kantar BrandZ Most Valuable Global Brands 2023’ หรือ 100 อันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 6.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีก่อนหน้าราว 20% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน จากภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำหรับแบรนด์ที่ครองอันดับ 1 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด ยังคงเป็น Apple มีมูลค่า 880,455 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามมาด้วย Google มีมูลค่า 577,863 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 3 คือ Microsoft มูลค่า 501,856 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับ 4 คือ Amazon มูลค่า 468,737 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้ง 4 อันดับแรก เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ในขณะที่ Facebook ซึ่งติด 1 ใน 10 มาโดยตลอด แต่ในปีนี้มูลค่าแบรนด์ลดฮวบถึง 50% ทำให้หล่นจากอันดับ 8 ในปีที่แล้ว มาอยู่ในอันดับ 12 ด้วยมูลค่า 93,024 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในขณะที่แบรนด์ที่มีมูลค่าเติบโตสูงสุด 3 อันดับแรกในปีนี้ ประกอบด้วย อันดับ 1 Airtel ธุรกิจโทรคมนาคม จากอินเดีย มีมูลค่า 22,332 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24% ตามมาด้วยอันดับ 2 Pepsi มูลค่า 18,826 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17% และ อันดับ 3 BCA ธุรกิจธนาคารจากอินโดนีเซีย มูลค่า 22,684 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12%
 

‘อนุรัตน์’ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เร่งแก้ปัญหาถนนชำรุด กระทบการขนส่งพืชผล ของเกษตรกร

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.พะเยา กล่าวภายหลังการรายงานตัวรับรองเป็น ส.ส.ว่า ตนจะเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาอย่างยาวนานให้พี่น้องประชาชน เช่น ปัญหาถนนชำรุด ปัญหาการเกษตร ในจังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าว รวมถึงผลไม้ต่างๆ เช่น มะม่วง ลำไย และลิ้นจี่ แต่ถนนเพื่อการเกษตรยังขาดการดูแล ทำให้การขนส่งพืชผลมีภาระต้นทุนสูงขึ้น เพราะว่าถนนนั้นยังชำรุดอยู่ หรือทางเข้าออกยากลำบาก การจะนำพืชผลทางการเกษตรออกมาขายได้ต้องใช้เวลานาน จึงทำให้เกิดการเสียหาย 

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อถึงเรื่องของบุคลากรอย่าง อสม.ว่า อสม.เป็นหน่วยงานที่ส่งสริมเรื่องของสุขภาพ ที่ผ่านมา อสม.ถือเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง แต่ตอนนี้ยังขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อที่จะเข้าไปดูแลสุขภาพของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในตำบอล ในหมู่บ้าน ตนจึงอยากจะผลักดันเรื่องของเงินเดือนของ อสม.ให้มีเงินเดือนสูงขึ้น อสม.เป็นจิตอาสา ทำงานอย่างหนัก แต่ได้รับค่าตอบแทนที่ยังไม่คุ้มค่ากับการลงแรงทำงาน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่ ที่มี อปพร.กับ ตำรวจบ้าน ทำงานร่วมกันแต่ก็ไม่ได้รับค่าตอบแทนเช่นกัน

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า ตนยังมองถึงแผนงานที่จะเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านได้ ก็คือส่งเสริมอาชีพพื้นบ้าน เช่น สินค้าหัตถกรรม โดยเป็นสินค้าที่ทางชุมชนเราผลิตหรือสร้างเอง และนำออกไปขายได้ อย่างเช่น กว๊านพะเยา เป็นแหล่งน้ำที่จะมีผักตบชวา ชาวบ้านจะนำผักตบชวามาตากแห้ง เพื่อเอามาทำเป็นงานจักสานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็จะสามารถสร้างรายได้ 

"อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญมากในพื้นที่จังหวัดพะเยา คือ เรื่องของแหล่งน้ำ เพราะในช่วงฝนตกหนักจะไม่มีพื้นที่รองรับน้ำ ดังนั้น เราจะต้องเร่งประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างเขื่อนหรือฝาย หรืออ่างเก็บน้ำเพื่อเก็บน้ำ เพราะปัจจุบันอ่างเก็บน้ำมีจำนวนน้อย ดังนั้นเวลาฝนตกลงมาก็จะมีปัญหาน้ำท่วมอยู่เสมอ"นายอนุรัตน์ กล่าว

เด็กนักเรียนยากไร้ ได้คนใจบุญ พาไปหาซื้อชุดนักเรียน เจอเฮียเจ้าของร้านใจดี ร่วมบริจาค กระเป๋า-ถุงเท้า ให้อีก 5 คู่

ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า KruPim Ananya ได้โพสต์ข้อความเล่าถึงความประทับใจ กับความมีน้ำใจของคนไทย ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน โดยมีใจความว่า ...

เมื่อวานบังเอิญไปเจอเด็กชายคนหนึ่ง ยืนข้างทางด้วยชุดนักเรียนที่ขาด กระดุมไม่มีต้องใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบไว้กางเกงขาดสกปรก เห็นแล้วเดินผ่านไม่ได้จริงๆเลยต้องหยุดถามไถ่ จนนำไปสู่การไปหาซื้อชุดนักเรียนมาให้ และได้เข้าไปในร้าน #ทวีภัณฑ์กาฬสินธุ์ เฮียใจดีมากลดราคาชุดนักเรียนให้จนตกใจ และยังร่วมบริจาคกระเป๋านักเรียนและถุงเท้านักเรียนอีก5คู่ เรานี่น้ำตาไหลเลย ไหว้แล้วไหว้อีกขอบคุณในน้ำใจ ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรืองจนชั่วลูกชั่วหลานนะคะ ต่อจากนี้ไปจะขอสนับสนุนอุดหนุนร้านนี้จนกว่าลูกชายจะไม่ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษาแล้ว 🙏ฝากเป็นอีกหนึ่งร้านในใจของท่านผู้ปกครองนะคะ🙏เราต้องสนับสนุนคนทำดีค่ะ🥰
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top