Thursday, 15 May 2025
NEWS

‘อดีตทูตนริศโรจน์’ ชม ‘ท่านอ้น’ ร่วมงานนิทรรศการ ม.112 เป็นวิธีที่แยบยล ช่วยลดความเดือดดาลให้เจือจางบางลง

(21 ก.ย. 66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ‘Fuangrabil Narisroj’ ถึงกรณีท่านอ้น วัชรเรศร วิวัชรวงศ์ เข้าร่วมชมนิทรรศการ ‘Faces of Victims of 112 : An Exhibition’ ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นครนิวยอร์ก ซึ่งจัดขึ้นโดย อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ลี้ภัยจากคดี ม.112 ว่า...

นิทรรศการมีจุดประสงค์ให้ร้ายเบื้องบนฝ่ายเดียว และมีแผนไปจัดในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ที่ผ่านมารัฐทำได้แค่เพียงส่งคนเข้าไปสังเกตการณ์เท่านั้น

การที่ท่านเดินเข้าไปดูนิทรรศการนั้นด้วยตัวเอง เข้าไปคุยแบบตรง ๆ ไปรับรู้รับทราบไปเลย นั่นแหละได้ impact ที่สุด !

ซึ่งเรื่องแบบนี้คนในภาครัฐทำไม่ได้ ไม่มี impact บางทีคนของรัฐเข้าไปอาจกลายเป็นเติมเชื้อฟืนให้ลามด้วยซ้ำ ผลที่ตามมา ผมมองว่านิทรรศการนั้นดู soft ลงไปเลย ขนาดคนจัดยังยืนหงอ ๆ บางครั้งพนมมือ ในขณะที่ท่านยืนยิ้ม หลังตรง 

นี่คือการเบรกนิทรรศการแบบแยบยลที่สุด

ท่านยอมถูกต่อว่า ถูกสงสัยเคลือบแคลงจากคนที่มองอะไรแค่มิติเดียว

แต่ผลที่ได้ตามมามันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากมายนัก

‘นายกฯ เศรษฐา’ กินข้าว ‘ผัดกะเพราเนื้อ’ เป็นมื้อเที่ยง ที่นิวยอร์ก ลั่น!! มีแรงทำงานต่อแล้ว พร้อมเดินสูดอากาศบนดาดฟ้ายูเอ็นชิลๆ

(21 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ยังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) โดยอินสตาแกรมส่วนตัว ‘sretthathavisin’ โพสต์คลิปวิดีโอภาพและข้อความตลอดทุกภารกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยล่าสุดมีการเผยคลิปนายเศรษฐานั่งรับประทานกลางวัน ข้าวผัดกะเพราเนื้อไข่ดาว พร้อมกล่าวว่า "จานเบ้อเร่อเลย เดี๋ยวต้องพูดต่อด้วย ไม่ใช่ประชุมอย่างเดียว อร่อยครับ อร่อยมาก ผัดกะเพราเนื้อ" พร้อมข้อความระบุใต้คลิปว่า "แค่ได้ผัดกะเพราไข่ดาว ก็มีแรงประชุมต่อแล้ว ได้ทานอาหารไทยที่ต่างประเทศมีความสุขครับ"

นอกจากนี้ อินสตาแกรมส่วนตัว ยังมีการเผยแพร่คลิปเดินพักผ่อน ผ่อนคลาย ด้วยอิริยาบถสบายฯ ของนายเศรษฐา ขณะพักเบรกการประชุม พร้อมข้อความระบุใต้คลิปว่า "ขอขึ้นมาสูดอากาศบนดาดฟ้า UN ช่วงพักเบรกสักหน่อยครับ" โดยเป็นคลิปขณะนายเศรษฐา เดินขึ้นไปพักผ่อนอิริยาบถบนดาดฟ้า ตึกที่ประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พร้อมสอบถามสถานที่โดยรอบตึกว่าคือที่ไหนบ้าง และพูดคุยกับผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศอื่นๆ ที่ขึ้นมาเดินพักผ่อนบนดาดฟ้าอย่างเป็นกันเองด้วย

ถอดสูตรอิฐยุคก่อนประวัติศาสตร์ จาก ‘เมืองโบราณศรีเทพ’ พบ!! มีความล้ำลึก ยากเลียนแบบ และหาสิ่งใดทดแทน

(21 ก.ย. 66) นับเป็นอีกความภาคภูมิใจสำหรับชาวไทยเมื่อ ‘เมืองโบราณศรีเทพ’ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ซึ่งก่อนมีการประกาศข่าวดีนี้ นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้ร่วมศึกษาก้อนอิฐโบราณเพื่อผลิตอิฐสูตรโบราณสำหรับการบูรณะโบราณสถาน

ดร.วุฒิไกร บุษยาพร นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศษสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า “เมืองโบราณศรีเทพมีจุดเด่นที่มีความคาบเกี่ยวระหว่างยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ ซึ่งเมื่อประมาณเดือน มี.ค.66 คณะนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันฯ พร้อมด้วยนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยศิลปากร และหัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ กรมศิลปากร ได้ลงพื้นที่สำรวจแหล่งขุดสำรวจเมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และได้พบปัญหาในบูรณะโบราณสถานที่เพิ่งขึ้นทะเบียนมรดกโลกนี้”

“อิฐโบราณศรีเทพเหมือนอิฐโบราณทั่วไป คือเป็นอิฐดินเผาผสมแกลบ แต่ในการบูรณะเราใช้อิฐยุคปัจจุบันไปใช้ ซึ่งพบว่า ก่อปัญหาต่อโบราณสถาน เนื่องจากมีการใช้ปูนซีเมนต์เป็นยาแนว และปูนซีเมนต์นี้ไปขวางเส้นทางการระบายความร้อนและความชื้น จึงเก็บความชื้นไว้ทำให้วัตถุที่นำไปซ่อมแซมเกิดการผุกร่อน ไม่เพียงเท่านั้นยังส่งผลให้อิฐของเก่าในโบราณสถานเสียหายไปด้วย ขณะที่อิฐโบราณจะใช้ยาแนวที่มีส่วนผสมของปูนหมักและดินสอพอง ซึ่งมีสมบัติในการส่งผ่านความร้อนและความชื้นได้ดี แต่เรายังไม่พบสูตรการผลิตอิฐโบราณและยาแนวโบราณของเมืองโบราณศรีเทพ” ดร.วุฒิไกร ระบุ

ทั้งนี้ ดร.วุฒิไกร และทีมวิจัยวางแผนในการใช้แสงซินโครตรอนวิเคราะห์อิฐโบราณ และจะเริ่มศึกษาอิฐของเจดีย์รายที่อยู่ถัดจาก ‘เขาคลังนอก’ โบราณสถานขนาดใหญ่ของเมืองโบราณศรีเทพ ซึ่งเจดีย์ดังกล่าวมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเจดีย์รายที่รอบๆ และอยู่ในมีทิศที่ชี้ตรงไปเขาถมอรัตน์ โดยจะถอดสูตรอิฐโบราณเพื่อผลิตขึ้นใหม่ให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด และมีสมบัติในการส่งผ่านความร้อนและความชื้นที่ใกล้เคียงของเดิมหรือดีกว่าเดิม ตั้งเป้าใช้ดินเหนียวด่านเกวียนของ จ.นครราชสีมา สำหรับผลิตอิฐสูตรโบราณ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แก่ชุมชนด่านเกวียนด้วย

AOT ชี้แจง ผู้โดยสารต่อแถวนาน 3 ชั่วโมง ไม่ใช่เรื่องจริง ยัน!! ใช้เวลาต่อคิว-ตรวจพาสปอร์ต ไม่เกินท่านละ 25 นาที

(21 ก.ย. 66) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ภาพผู้โดยสารหนาแน่นบริเวณจุดตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุว่าใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง นั้น AOT ในฐานะผู้บริหาร ทสภ.และมีท่าอากาศยานอีก 5 แห่งในความรับผิดชอบ ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอชี้แจงว่า โพสต์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง 

โดย AOT ได้ตรวจสอบการให้บริการของ ทสภ.จากกล้องวงจรปิดในช่วงระหว่างวันที่ 1 - 31 สิงหาคม 2566 พบว่า กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศใช้เวลาสูงที่สุดเพียง 40 นาที และเวลารอคิวน้อยที่สุดใช้เวลาเพียง 12 นาที เฉลี่ยโดยรวมผู้โดยสารใช้เวลาประมาณ 25 นาที 

ทั้งนี้ ในช่วง Peak Hour ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาที และใช้เวลาหน้าเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง 60 วินาทีต่อคน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าว ทสภ.สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามคำแนะนำขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ที่ท่าอากาศยานควรปฏิบัติใน Annex 9 เรื่องระยะเวลาการไหลเวียนผู้โดยสารขาเข้า - ขาออก โดยแนะนำให้กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าไม่ควรเกิน 45 นาที และผู้โดยสารขาออกไม่ควรเกิน 60 นาที

สำหรับท่าอากาศยานอีก 5 แห่ง AOT ได้มีการกำหนดให้การดำเนินงานในขั้นตอนกระบวนการผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า - ขาออกมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามคำแนะนำของ ICAO เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากลเช่นกัน 

ดร.กีรติ กล่าวในตอนท้ายว่า AOT มุ่งเน้นการบริหารจัดการท่าอากาศยานให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจและได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานมีความเชื่อมั่น ได้รับความสะดวก สบาย เกิดความประทับใจ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีแก่ผู้เดินทางตามวิสัยทัศน์ของ AOT ในการเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก

‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานรัฐสภา ร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง 74 ปีวันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน

เมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 18.30 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา เข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 74 ปี วันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของนายหาน จื้อฉียง (H.E. Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ณ  ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ในการนี้ ศ.พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นผู้แทน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมงาน

โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาในฐานะแขกเกียรติยศได้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบวันสำคัญของจีน ในฐานะประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างมาก มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสด็จฯ เยือนจีนของพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยในปี 2566 ครบรอบ 48 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน นอกจากนี้ ไทยกับจีนยังมีความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มีการขยายความร่วมมือเชิงลึกในทุกมิติ จึงควรที่ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนและพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น และพร้อมจะสนับสนุนความร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างเต็มความสามารถ เพื่อประโยชน์และความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

‘นายกฯ เศรษฐา’ หารือทวิภาคี ‘ประธานาธิบดีเกาหลีใต้’ พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ

(21 ก.ย.66) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายยุน ซ็อก ย็อล (Mr. Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ได้พบหารือทวิภาคี กับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 78 (UNGA78)

นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่มีโอกาสได้พบกับประธานาธิบดีฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีมีความใกล้ชิดกันอย่างมาก โดยเฉพาะระดับประชาชน ความนิยมวัฒนธรรมระหว่างประชาชนไทยและประชาชนเกาหลี โดยในปีนี้จะครบครอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีอีกด้วย

จากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยด้านการเมือง ทั้งไทยและสาธารณรัฐเกาหลี ต่างต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ และได้เชิญประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและภริยาเดินทางเยือนไทย สำหรับด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเร่งรัดผลักดันการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement: EPA) ระหว่างกัน และได้หารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในสาขาต่าง ๆ อาทิ ซอฟต์เพาเวอร์ อวกาศ พลังงานนิวเคลียร์ สตาร์ทอัป ยานยนต์ไฟฟ้า ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนเกาหลีเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกการลงทุนดังกล่าว รวมทั้งเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย

เจ้าของธุรกิจส่งออกปลา กล่าวผ่านช่องยูทูบ ‘CK Cheong’ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66

เมื่อไม่นานนี้ จากช่องยูทูบ ‘CK Cheong’ ได้เชิญ คุณวีรวัฒน์ วลัยเสถียร หรือ ‘คุณดิว’ เจ้าของธุรกิจส่งออกปลา ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองธุรกิจ ซึ่งช่วงหนึ่งของรายการ คุณดิว ได้แชร์มุมมองต่อ ‘เงื่อนไข 2 ข้อ ที่คนรวยใช้ตัดสินใจ ก่อนซื้อจะซื้ออะไรก็ตาม’ โดยระบุว่า…

คนรวย เวลาจะใช้เงินออกจากกระเป๋า จะมี 2 อย่างที่เขาต้องคิด ข้อแรกคือ ‘จําเป็น’ ข้อ 2 คือ ‘เร่งด่วน’ อันนี้จําเป็นไหม? เร่งด่วนหรือเปล่า? ถ้าจำเป็นและเร่งด่วน ก็ซื้อ เช่น ถ้าหิวข้าว ข้าวจําเป็น เร่งด่วนไหม? ก็หิวแล้ว แปลว่าเร่งด่วน ก็ซื้อข้าวกิน หรืออย่างเช่น นาฬิกา จําเป็นไหม? นาฬิกาก็ม่ความจําเป็น แต่เร่งด่วนไหม? ก็ไม่เร่งด่วน เพราะดูเวลาจากโทรศัพท์มือถือได้ ไม่เป็นไร ก็ไม่ซื้อ เป็นต้น

ดังนั้น คนรวยจะมีความคิดนี้เสมอก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไร คือ ‘ความจําเป็น’ กับ ‘เร่งด่วน’

‘บีทีเอส’ โร่ชี้แจง กรณีประตูรถไฟฟ้า ‘ขัดข้อง’ ระหว่างวิ่ง เตรียมหามาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

(21 ก.ย. 66) จากกรณีที่มีการแชร์ภาพในโลกโซเชียล ปรากฏให้เห็นว่าประตูรถไฟฟ้า BTS เปิดอ้างขณะขนวบรถกำลังวิ่ง สร้างความหวาดเสียว ตกใจให้แก่ผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก รวมถึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์

ล่าสุด บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงถึงกรณีประตูรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง ระหว่างสถานีบางจาก ถึงสถานีปุณณวิถี เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากระบบความปลอดภัยมีสัญญาณแจ้งเตือนประตูรถไฟฟ้าขัดข้อง เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้า (TC) จึงได้ทำการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ห้องศูนย์ควบคุม (CCR) และประสานเจ้าหน้าที่ไปยืนดูแลบริเวณประตูที่ขัดข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารเข้าใกล้บริเวณประตู พร้อมทั้งได้ดำเนินการแก้ไขประตูดังกล่าวที่สถานีถัดไป

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบขบวนรถไฟฟ้าดังกล่าว และประตูที่ขัดข้องอย่างละเอียด เพื่อหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำขึ้นอีก พร้อมกำชับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกราย ให้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในทุกกรณี และเข้าประจำจุดโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร บริษัทฯ ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และหากพบเหตุไม่ปกติในขบวนรถไฟฟ้า ผู้โดยสารสามารถกดปุ่มกระดิ่งแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้าได้ทันที

บริษัทฯ ต้องขออภัยผู้โดยสารทุกท่านที่เกิดเหตุขัดข้อง และได้รับความไม่สะดวกในการเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2 - 617- 6000 Line official : @btsskytrain หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่  Application ‘THE SKYTRAINs’ และ Facebook Page : รถไฟฟ้าบีทีเอส

ตำรวจไทย คว้ารางวัลความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติเป็นปีแรก จากสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังปราบทุนจีนเทา คอลเซ็นเตอร์ และทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยมี 46 ชาติร่วมแสดงจุดยืน ขณะที่รัฐมนตรีตรีจีนให้คำมั่น นทท.จีนไปไทยทะลุ 10 ล้านคนแน่ หลังไทยเปิดฟรีวีซ่า

หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ มาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของทุนจีนสีเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึง ปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นประเทศไทยเพียงด้านเดียว มายาวนาน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของจีน ได้ประกาศมอบรางวัลเหรียญสดุดี The Gold Great Wall Commemorative Award (เหรียญทองกำแพงเมืองจีนสดุดีตำรวจชั้นสูงสุด)หรือรางวัลความร่วมมืออันดียิ่งในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการมอบรางวัลนี้ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากมอบรางวัลการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติแล้ว รัฐบาลจีน ยังได้แสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติกับนานาประเทศโดยมี กลุ่มประเทศมากกว่า 46 ประเทศสนใจเข้าร่วม ประชุมความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เมืองเหลียนหยุนก่าง มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายหวังเฉี่ยว หง รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคำมั่นคงของจีนเป็นประธาน

และจากการพูดคุยแบบทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน กับ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มาประชุมในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยระบุว่าขณะนี้รัฐบาลไทยเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และจะ ใช้เทคโนโลยีในการติดตามดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตามหัวเมืองสำคัญในโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ซึ่งปัจจุบันได้นำร่องในหลายเมืองแล้ว

เสียง
พล ต อ สุรเชษฐ์ หักพาล
รอง ผบ ตร

ขณะที่รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนเปิดเผยว่า ไทยยังคงเป็นประเทศปลายทางที่คนจีน อยากเดินทางไปท่องเที่ยวโดยที่ผ่านมามีคนจีนไปเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 12,000,000 คนแต่หลังจากสถานการณ์โควิดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงแต่เชื่อมั่นว่ามาตรการที่จะทำร่วมกันจากนี้จะทำให้คนจีนมีความมั่นใจและเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 10,000,000 คนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้น่าจะเริ่มต้นในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวจีน โดย กลุ่มจังหวัดที่ชาวจีนอยากแวะไปเยือนอย่างเป็นทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะกระบี่ ภูเก็ต และพังงา

เสียง 
ฉู่ กานลู่
รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ จีน

นอกจากนี้ยัง เปิดเผยด้วยว่าจะส่งหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปทำงานร่วมกับประเทศไทยในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังจาก พบเบาะแสว่ามีกลุ่มคนจีนไปแอบฟังคอลเซ็นเตอร์ตามตะเข็บชายแดนระหว่างประเทศไทยกับลาว  เมียนมาร์ และกัมพูชา พร้อมทั้งระบุว่าที่ผ่านมาได้ส่งทีมงานเข้าไปกวาดล้างรอบแรกแล้วในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์ จึงได้ผู้ต้องหาชาวจีนกลับมานับ 100 คน 

‘ผู้โดยสาร’ อึ้ง!! ประตูรถไฟฟ้า ‘เปิดค้าง’ ขณะวิ่งให้บริการ ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการความปลอดภัย

(21 ก.ย. 66) คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรถไฟฟ้าประเทศไทยกลายเป็นไวรัล มีผู้ชมแล้วกว่า 1.4 ล้านครั้ง ภายหลังเผยแพร่เพียง 17 ชั่วโมง โพสต์โดยผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อว่า star111042 ขณะที่รถไฟฟ้ากำลังเคลื่อนที่จากสถานีหนึ่งไปยังสถานีหนึ่ง ปรากฎว่าประตูรถไฟฟ้าบานหนึ่งกลับเปิดอยู่ และมีเจ้าพนักงานมาดูแล แจ้งสถานการณ์ผ่านลำโพงแก่เจ้าหน้าที่ในขบวนรับทราบ

เจ้าของคลิป เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางจาก (BTS บางจาก) มีพนักงานมาไขล็อคประตูไว้ คาดว่าจะล็อคผิดทำให้ประตูค้าง ไม่ยอมปิดมาจนถึงอีกสถานีหนึ่ง

พนักงานหญิงที่อยู่ในคลิปเป็นผู้เดินมาเจอว่าประตูค้างไม่ยอมปิด ตอนที่รถไฟฟ้าออกจากสถานีแล้ว พนักงานรายดังกล่าวจึงได้โทรประสานกับพนักงานที่เป็นคนไขล็อคไว้ พอถึงสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี (BTS ปุณณวิถี) พนักงานที่ไขไว้ได้กลับมาปิดประตูแล้วล็อคให้ใหม่ พร้อมแปะป้าย ‘ประตูขัดข้อง’ ไว้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดเสียวแก่ผู้โดยสารในขบวนอย่างมาก ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการความปลอดภัยด้วย เช่นว่า

– คนแน่นๆ ประตูไม่ปิด หรือเปิดเอง มันจะเป็นโศกนาฏกรรมไหม
– ถ้าเป็นช่วงห้าโมงเย็นนะ หือออไม่อยากจะคิด
– รถไฟฟ้าเปิดประทุน
– อันตรายมาก ถ้าคนเยอะๆ นี้ตกไปแน่เลย
– เขาถึงบอกว่าอย่ายืนหน้า หรือพิงประตู อะไรก็เกิดขึ้นได้
– สิ่งที่เคยจินตนาการไว้ ได้เกิดขึ้นแล้ว
– ถ้าเป็นช่วงเวลาพีคไม่อยากจะคิด
– จากผู้โดยสาร สู่ ผู้ประสบภัย
– หลายปีก่อนก็มีเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ แต่ไม่มีใครเป็นอะไร ทำให้ระแวงทุกครั้งที่ยืนเบียดหน้าประตู และคิดเตรียมพร้อมตลอดเวลาเผื่อเกิดเรื่องแบบนี้ค่ะ

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จัดพิธีมอบโล่เกียรติคุณ และทุนการศึกษาแก่เยาวชนดีเด่น เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2566

คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจาก เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ไทยในพระบรมราชจักรีวงศ์ สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหา อานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ที่ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ตั้งแต่ยังทรงเป็นยุวกษัตริย์ จึงถือเป็นวันสิริมงคลแก่การพัฒนาเยาวชนแห่งชาติ

สภาสังคมสงเคราะห์ฯ จัดพิธีมอบโล่เกียรติคุณ และทุนการศึกษาแก่เยาวชนดีเด่น สภาสังคมสงเคราะห์ฯ เนื่องในงานวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมี ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ เป็นประธานในพิธี ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุม ชั้น 3 ตึกนวมหาราช สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ในการนี้ได้รับเกียรติจากศิลปิน นักแสดง และรุ่นพี่เยาวชนดีเด่น ร่วมแสดงความยินดี และกล่าวแสดงความรู้สึกเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนดีเด่น อาทิ   

🔹คุณอรุณณภา พานิชจรูญ นักแสดงช่อง 3  และลูกกตัญญูฯ ปี 2566 
🔹ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปักนางสาวไทยชลบุรีปีล่าสุด นักร้องลูกทุ่ง และรองสารวัตรกลุ่มงานวิชาการและงานสารบรรณ 
🔹น้องอายจิงจิง ไทดอลมิวสิค-ณัฐฎา กุลกรรณ์  น้กร้องสังกัดค่าย GMM และเยาวชนดีเด่น สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ปี 2560
🔹ว่าที่ร้อยตรี ธนัท ชัชวาลย์ นักแสดงช่อง 3 และลูกกตัญญู ปี 2564 
🔹แพรพลอย เดชชินบัญชร ทูตการท่องเที่ยวและทูตการกีฬาประจำจังหวัดกาญจนบุรี  ปี 2022
🔹คุณภาคภูมิ เปี่ยมปัจจัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีพี ไลเซนส์ จํากัด
🔹คุณพัชมณ สินธนเจริญวงศ์ ผู้แทนบริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ได้รับเกียรติจาก คุณชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คุณชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ คุณพิริยะ ฉันทดิลด ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กรรมการอำนวยการ กรรมการส่งเสริมและพัฒนาเด็ก เยาวชน อนุกรรมการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ครู อาจารย์ และผู้ปกครอง รวมทั้งสมาชิกชมรมเด็กและเยาวชนดีเด่น สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ร่วมในงานด้วย

นักเรียน รร.วิทย์จุฬาภรณ์ ปทุมฯ คว้า 6 ทอง 2 เงิน 1 โล่รางวัล 5 เกียรติบัตร จากการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์ในงาน ‘Indonesia Inventors Day 2023’

เมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 66) ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ‘Khunthong Klaythong’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ขอแสดงความยินดีกับทัพนวัตกรของเราวันนี้ พวกหนูทุกคนเก่งมากๆ ครับ
🥇🥇🥇🥇🥇🥇6 เหรียญทอง
🥈🥈2 เหรียญเงิน
🏆1 โล่รางวัล special award
🎖🎖🎖🎖🎖5 เกียรติบัตร special award

ในงาน The 10th International Young Inventor Awards (IYIA2023) ณ เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

🏆🎖🥇จากผลงาน
Title of invention : CTS Glove+ : Physical therapy innovation for treating and preventing Carpal Tunnel Syndrome in rubber plantation farmers
Name of inventor : Witchapol Thitiapirukkul, Sirisak Thohad, Peeraya Phaewking, Pattarapol Seetiangtum and Purich Phichayanurat 
Name of supervisor : 
Khunthong Klaythong

🥇🎖จากผลงาน
Title of Invention : 
RADPRO+ : The Development of Composite Material from UHT Recycled Milk Cartons with Carbon Black and Barium Sulfate as a Guideline to Improve Radiation Protection Sheets
Name of Inventors : Sakdinand Patipanyankitti, Pharitt Khantheethoa, Sirana Saesoo, Chayapond Tiyapunjanit and Punnawit Jullachaeng
Name of Supervisor : Khunthong Klaythong

🥇🎖จากผลงาน
Title of Invention : Pro-therapea : Increasing Protein for Ready-to-use Therapeutic Plant-Bases Food (RUTF) from Rhizopus oligosporus Fermented peanut with Wolffia globosa for Severely Malnourished Children
Name of Inventors : Ploykhwan Taraproncin, Anchalisa Doungpanumas, Palida Thongnirun and Siroth Vattanasontronsil
Supervisor
Chorruk Wongsawan, Palida Tanganurat

🥇🎖จากผลงาน
Tittle of Invention :
AUDISIGN : Application for encourage the development of sign language communication for children with hearing impairment
Name of Inventors : Jitisa Jukpatch, Yada Wajeenuraksakulchai, Apiphon Suwanchaisakul and Apichet Liawpirojh
Name of Supervisor : Khunthong Klaythong

🥇จากผลงาน
Title of Invention :
JOGURTO : Development of Greek yogurt products with low phosphorus content from RD43 rice milk and Hom Nil rice milk to be a healthy alternative food for patients with kidney disease
Name of Inventors: Preeyapath Anannvadeethana, Thanakrit Phithaksa, Morrakot Tiasuwan and Sahawass Tanapatworatan
Name of Supervisor: Chorruk Wongsawan

🥇จากผลงาน
Tittle of Invention : 
FLODRAIN :  Development of porous geopolymer materials with rubber powder be used as a flooring material for solving the problem of flooding the footpath
Name of Inventors: Nippitch Saengnopharat and Suphakan Bautista
Name of Supervisor : Miss Nawawan Bangpong

🥈🎖จากผลงาน
Tittle of Invention :
Oral film “Porphyfilm” (The studying of the quality of mangosteen peel and clove oil to prevent Porphyromonas gingivalis bacteria which is the cause of swollen gums and the development of gum coated film used to cure the primary phase of swollen gums)
Name of Inventors :
Panicha Rakrapee, Nattapat Kabklang, Trin Bussmuangpak and Sattabongkod Onwan
Name of Supervisor :
Pornpan Chomwong

🥈จากผลงาน
Tittle of Invention :
Fleapronil (Innovation of Polymer Microcapsule Encapsulating Fipronil for Flea and Tick Drop in Pets)
Name of Inventors :
Tunyaret Songprasit, Napatsawan Pawa, Natcha Skulnee and Zabit Madali
Name of Supervisor :
Daranee Chaiyaveij and Amorn Chaiyasat

ขอแสดงความยินดีกับทุกๆ ผลงานนะครับ ขอบคุณคุณครูที่ปรึกษาทุกท่าน ขอบคุณฝ่ายบริหารของโรงเรียน ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่าน ที่สำคัญขอบคุณเด็กๆ ทุกคนที่มาเดินทางมาด้วยกัน พวกหนูเก่งมากๆ ทุกคนเลย

สำหรับงาน Indonesia Inventors Day 2023 (IID 2023) เป็นงานประกวดและนำเสนอผลงานของนักประดิษฐ์จากประเทศต่าง ๆ ถือเป็นเวทีสำคัญแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งจัดขึ้นโดย Indonesian Invention and Innovation Promotion Association (INNOPA) หน่วยงานด้านการส่งเสริมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งอินโดนีเซีย โดยมี วช. เป็นหน่วยงานของไทยในการคัดกรองและนำเสนอชื่อผลงานประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรม (Exclusive Agency) เพื่อเข้าร่วมประกวดในเวที IID ซึ่ง IID เป็นเวทีที่ได้รับการตอบรับจากนักประดิษฐ์ นักวิจัย และนักวิชาการจากนานาประเทศ โดยการจัดงานในปีนี้มีการจัดแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมกว่า 400 ผลงาน จากประเทศต่าง ๆ มากกว่า 40 ประเทศ

โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 19 กันยายน 2566 ณ Aston Denpasar & Convention Hall เมืองเดนปาซาร์ บาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

พิษณุโลก  กองทัพภาคที่ 3 พบปะสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 11.00 กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรม"พัฒนาสัมพันธ์สื่อมวลชน กองทัพภาคที่ 3" เพื่อพบปะพัฒนาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันและขอบคุณสื่อมวลชนในพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พลตรี ประสาน แสงศิริรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน 
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้มีสื่อมวลชนเข้าร่วม ทุกแขนงทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ต่างๆ  ซึ่งจะร่วมกันสร้างสื่อสร้างสรรค์ ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และภารกิจต่างๆ ของกองทัพภาคที่ 3 และหน่วยขึ้นตรงต่อไป ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก

ผบ.ตร. พร้อมภาคีเครือข่าย ร่วมเข้าพิธีมอบรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่น “โครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย” และรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร”

วันนี้ (20 ก.ย.66) เวลา 13.30 น. ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์   กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา นางสาวพรรณี ปิติกุลตัง กรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้บริหารสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และคุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้บริหารสถานีวิทยุ จส.100 พร้อมด้วยคณะทำงานศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับพิธีการมอบรางวัลที่จัดขึ้นในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับหน่วยงานที่มีการขับเคลื่อนโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย ได้อย่างดีเยี่ยม ผลงานดีเด่น เป็นที่ประจักษ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยึดหลัก 5S ให้ตำรวจจราจรทุกนายถือปฏิบัติ ได้แก่ SMILE (ยิ้มแย้มแจ่มใส) SMART (มีบุคลิกภาพที่ดี) SALUTE (ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความสุภาพ) SERVICE MIND (ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจบริการ) และ STANDARD (ยกระดับการปฏิบัติให้มีมาตรฐานเดียวกัน) และในโครงการนี้ ได้รับความร่วมมือจากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ซึ่งมีแผนงานรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้โครงการ ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมาย  โครงการนี้ สามารถลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 1,550 ราย  บริษัทกลางฯ ได้สนับสนุนงบประมาณ เป็นเงินรางวัล จำนวน 4,890,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ โดยหน่วยงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ตำรวจภูธรภาค 1 (รายละเอียดตามเอกสารแนบ)

พร้อมกันนี้ ได้จัดพิธีมอบรางวัล โครงการอาสาตาจราจร ให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือน ก.ค. และเดือน ส.ค.2566 รวมรางวัลทั้งสิ้น 40 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 200,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล โดยทั้ง 2 เดือนนี้ มีรางวัลพิเศษ จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท เป็นรางวัลให้กับพลเมืองดี ที่ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาข้ามถนน และเป็นรางวัลให้กับคลิปที่ได้รับความสนใจจากโซเชียล และมีการติดตามดำเนินการในทันที 

ผบ.ตร.กล่าวว่า นับแต่เริ่มโครงการมาจนถึงปัจจุบัน สังคมมีความตื่นตัว มีคลิปการกระทำผิดกฎจราจรจากภาคประชาชนส่งมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้ แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจกับปัญหาการจราจร และจะเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของทุกโครงการ เป็นสิ่งยืนยันได้อย่างประจักษ์ชัด ทั้งสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ลดลงของโครงการสุภาพบุรุษจราจรฯ  และแนวโน้มการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งคลิปมาร่วมกิจกรรมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ของโครงการ อาสาตาจรจร นับเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จที่ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นับเป็นบันไดอีกขั้นหนึ่งสู่การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ต่อไป

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย ใช้บริการนายหน้าหาคู่รักชาวต่างชาติออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เสี่ยงสูญเงินฟรี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ และได้รับรายงานจากศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ตรวจสอบพบมีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงหลายรายใช้บริการหาคู่รักผ่านเพจที่มีชื่อเสียงเพจหนึ่ง มีผู้ติดตามกว่า 150,000 ราย ถูกผู้ต้องหาที่อ้างตัวว่าเป็นโค้ช หรือนายหน้า ช่วยเหลือทำการติดต่อหาคนรักเป็นชายชาวต่างชาติให้ โดยมีการคิดค่าบริการแบ่งออกเป็นระดับตามสาขาอาชีพต่างๆ ได้แก่ คนรักชาวต่างชาติแบบธรรมดา อาชีพรับราชการ วิศวกร ราคา 20,000 บาท คนรักชาวต่างชาติแบบพิเศษ อาชีพนักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ราคา 30,000 บาท คนรักชาวต่างชาติแบบพิเศษ อาชีพแพทย์ เภสัชกร ราคา 50,000 บาท คนรักชาวต่างชาติแบบ Exclusive อาชีพเจ้าของไร่องุ่น ฟาร์มโคนม ราคา 100,000 บาท เป็นต้น รวมไปถึงการบริการสร้างโปรไฟล์ภาษาอังกฤษ เพื่อแนะนำตัว ในราคา 7,000 บาท และสอนวิธีการหาคนรักชาวต่างชาติแบบส่วนตัว (Private Coaching) ในราคา 5,000 บาท แต่สุดท้ายผู้ต้องหาก็ไม่ได้ติดต่อชายชาวต่างชาติให้ผู้เสียหายแต่อย่างใด หรือได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหาว่ามีชายชาวต่างชาติสนใจผู้เสียหาย แต่ภายหลังกลับพบว่ารูปภาพบุคคลที่ส่งมาให้เป็นดารา นักกีฬา และนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง จึงเชื่อว่าตนถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาดังกล่าวให้ได้รับโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 17 ก.ย.66 มีประชาชนถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว หรือในลักษณะใกล้เคียงกันกว่า 2,621 เรื่อง หรือคิดเป็น 0.80% สูงเป็นลำดับที่ 12 ของจำนวนเรื่องการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด ความเสียหายรวมกว่า 881 ล้านบาท

การกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และความผิดฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา  ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ ซึ่งได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า ในการใช้บริการในลักษณะดังกล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะอาจเป็นช่องทางหนึ่งของมิจฉาชีพที่ใช้ในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าทรัพย์สินที่อาจจะต้องสูญเสียไปคุ้มค่าแล้วหรือไม่ นอกจากนี้แล้วยังมีการหลอกลวงในอีกรูปแบบที่เรียกว่า Romance Scam คือ การหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงรัก มีความเชื่อใจ หลอกลวงว่าเป็นชายชาวต่างชาติหน้าตาดี จะเดินทางมาใช้ชีวิตในบั้นปลายด้วยกัน แต่ภายหลังก็หลอกลวงให้โอนเงินไปให้เป็นค่าต่างๆ เช่น ค่าภาษีสิ่งของที่มีมูลค่าสูงอ้างส่งมาให้จากต่างประเทศ หลอกลวงว่าพ่อแม่ป่วยขอให้โอนเงินไปให้ เป็นต้น โดยหากท่านได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://thaipoliceonline.com พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนนำผู้กระทำผิดมาฟ้องลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ดังต่อไปนี้
1.ระมัดระวังการหาคนรักผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะดังกล่าว ควรพิจารณาให้รอบคอบถึงความเสี่ยง ไม่พิจารณาเพียงเพราะช่องทางดังกล่าวมีผู้ติดตามจำนวนมาก หรือมีการรีวิวไปในทิศทางที่ดี
2.การสูญเสียทรัพย์สินในการใช้บริการหาคนรักในลักษณะดังกล่าว ไม่ได้ยืนยันว่าจะได้รับบริการตามที่มีการกล่าวอ้าง หรือโฆษณาเสมอไป
3.การพูดคุยกับคนแปลกหน้าบนโลกออนไลน์ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อนว่าบุคคลนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ มิจฉาชีพมักใช้รูปบุคคลอื่นปลอมโปรไฟล์มาหลอกลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปชาวต่างชาติหน้าตาดี มีหน้าที่การงานดี เป็นต้น
4.ไม่หลงเชื่อบุคคลที่เพิ่งรู้จัก หรือบุคคลไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน รวมถึงไม่โอนเงินให้ผู้ใดโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นชื่อบุคคลอื่นที่เราไม่ได้ต้องการจะโอนให้ (บัญชีม้า)
5.ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น ไม่กรอก หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลงบนสื่อสังคมออนไลน์
6.ไม่นัดพบเจอบุคคลที่รู้จักผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หากจำเป็นควรนัดพบในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน หรือพาเพื่อน หรือบุคคลที่ไว้ใจติดตามไปด้วย
7.หากเป็นมิจฉาชีพมักจะไม่ยอมเปิดกล้องให้เราเห็นใบหน้า แต่ก็ต้องระมัดระวังมิจฉาชีพใช้คลิปวิดีโอที่บันทึกภาพของผู้อื่นมา
​8.เบื้องต้นท่านสามารถนำภาพบุคคลที่ได้รับไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นภาพบุคคล หรือดารานักแสดง หรือผู้มีชื่อเสียงหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์การค้นหาทั่วไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top