Wednesday, 11 June 2025
NEWS FEED

'สื่อไต้หวัน' แฉพฤติกรรม '4 นักแสดงซีรีส์ไทย' มาสาย - กินขนมตอนสัมภาษณ์ - หน้าตาบึ้งตึง

ทำเอาแฟนๆ ซีรีส์ไทยถึงกับตกใจไปตามๆ กัน พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่หลังสื่อไต้หวันหลากหลายสำนัก ได้ลงข่าวเกี่ยวกับ '4 นักแสดงซีรีส์ไทย' ที่ทำตัวนิสัยไม่น่ารัก

โดยมีรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศของไต้หวัน ได้ลงข่าวเกี่ยวกับงานมีตติ้ง ของ 4 นักแสดงซีรีส์ไทย ที่ได้เดินทางไปยังไต้หวัน โดยในระหว่างการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชวน ได้เกิดปัญหาขึ้นหลายอย่าง ทั้งการที่ นักแสดงทั้ง 4 คน มาให้สัมภาษณ์สายเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง เมื่อมาถึงก็ไม่มีการขอโทษแต่อย่างใด มีเพียงผู้จัดบอกว่า ที่มาสายเพราะมีปัญหาการแต่งหน้าและผมเท่านั้น

'น้องเนย' ลูกสาว 'กวาง กมลชนก' โชว์แสดงโขน รับบท 'นางสุพรรณมัจฉา' ลีลางดงามอ่อนช้อย

ปลื้มอก ปลื้มใจแบบสุด ๆ กันเลยทีเดียว สำหรับสมาชิกครอบครัวเขมะโยธิน หลังมีโอกาสเดินทางไปชมการแสดงโขนของโรงเรียน ชุด หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา ซึ่ง น้องเนย ลูกสาวคนเล็กของบ้าน ได้รับหน้าที่ให้สวมบทบาทเป็น นางสุพรรณมัจฉา

โดย กวาง กมลชนก นักแสดงสาวรุ่นใหญ่ ได้นำเอาบรรยากาศการแสดงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง มาโพสต์แบ่งปันให้แฟน ๆ ได้รับชมผ่านอินสตาแกรม @kwang.kamolchanok

พร้อมกับระบุแคปชันบอกเล่าความภูมิใจจากหัวอกคนเป็นแม่ หลังได้เห็นฝีมือการแสดงของลูกสาวในครั้งนี้ ซึ่งมีใจความว่า "ภูมิใจในตัวน้องเนยมาก ขอบพระคุณคุณครูเล็กที่ถ่ายทอดวิชาโขนให้น้องเนยนะคะ", "ดีใจนะคะที่โรงเรียนเรียนนานาชาติร่วมฤดี (RIS) สนับสนุนให้เด็กมีความเป็นไทย อนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทย กวางภูมิใจที่ลูกยอมรับและซึมซับมาได้เป็นอย่างดี"

‘ลุงหนู’ กำชับ ‘สธ. - คมนาคม - ท่องเที่ยว’ อำนวยความสะดวก - ดูแลมาตรการโควิดทัวร์จีน

(5 ก.พ.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) จะเป็นวันแรกที่ทางการจีนจะเริ่มอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ได้ใน 20 ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้กำชับหน่วยงานในกำกับ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ตรวจความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรค

ทั้งนี้ หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนประเมินสอดคล้องกันว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะแม้จะมีการอนุญาตให้เดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ไปต่างประเทศ แต่บริษัทท่องเที่ยวที่หยุดดำเนินการมานานเกือบ 3 ปี จะต้องใช้เวลาในการปรับตัว โดยบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ประเมินว่าปริมาณเที่ยวบินจากจีนมายังประเทศไทยตลอดปี 66 จะอยู่ที่ 36,896 เที่ยวบิน เพิ่มจากปี 65 ร้อยละ 227.6% หรือ 2 เท่า โดยเที่ยวบินจะเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไปและจะมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะกลับมาเท่ากับปี 62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในปี 67

กาฬสินธุ์จัดใหญ่หนึ่งเดียวในโลกงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติ

อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับทุกภาคส่วน จัดงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติ “โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท” โดยเนรมิตสวนเฉลิมพระเกียรติ อ่างเก็บน้ำห้วยสายนาเวียง เทศบาลกุดสิม เป็นจุดรวมชนเผ่าผู้ไททั่วภาคอีสาน รวมทั้ง สปป.ลาว และเวียดนาม แสดงอัตลักษณ์และรวมชาติพันธุ์ผู้ไทหนึ่งเดียวในโลก ขานรับนโยบายเปิดบ้านเปิดเมือง และหลักการทำงาน เพื่อพัฒนากาฬสินธุ์ไปสู่เมืองแห่งความร่ำรวย และเมืองแห่งความสุขของผู้ว่าราชการจังหวัด

ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ อ่างเก็บน้ำห้วยสายนาเวียง เทศบาลกุดสิม อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานจัดงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติ “โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท” โดยมีนายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ นายขัตติยา ชัยมณี วัฒนธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายธวัช พรมโสภา นายอำเภอเขาวง นางสาววิภาวี บุญเรือง นายก ทต.กุดสิม พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชนชาวผู้ไท ใน จ.กาฬสินธุ์ ชาวผู้ไทจาก สปป.ลาว และชาวผู้ไทจากประเทศเวียดนาม ร่วมงานพร้อมแสดงศิลปะวัฒนธรรมประจำชนเผ่าของตน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและอบอุ่น ด้วยมิตรไมตรีที่เปี่ยมล้นของชาวผู้ไท

ผบ.ตร.สั่งเยียวยาดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ ดาบตำรวจ สภ.เวียงชัย ที่ปิดล้อมตรวจค้นแต่ถูกคนร้ายยิงดับ ขณะที่คนร้ายถูกตำรวจตามจับกุมได้แล้ว หลังปิดล้อมนานกว่า 8 ชม.

วันที่ 4 ก.พ.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ตำรวจเวียงชัยปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายคดีอาวุธปืน แต่ถูกคนร้ายยิงดับ 1 นายว่า "ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เวียงชัยได้รับแจ้งจากประชาชนว่า นายวุฒิไกร เครือสาร ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมชอบใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ชาวบ้าน และน่าจะเกี่ยวข้องคดียาเสพติด จึงขอหมายค้น

"ต่อมาวันที่ 4 ก.พ.66 เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงชัย นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย อาวุธปืนของ นายวุฒิไกร ผู้ต้องหา ที่บ้านเลขที่ 49 หมู่บ้าน ชัยภูมิ หมู่ 10 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จว.เชียงราย ขณะเข้าแสดงหมายค้น พบ บิดามารดาอยู่ภายในบ้าน ส่วน นายวุฒิไกร เครือสาร วิ่งออกจากหลังบ้าน ด.ต.เปรม ตั๋นตุ้ย ผบ.หมู่สืบสวน สภ.เวียงชัย ผู้ตาย วิ่งตาม และ มีตำรวจอีกนายติดตาม จากนั้น ได้ยินเสียงปืน 4 นัด ด.ต.เปรม ตั๋นตุ้ย ถูกยิง ศีรษะ 1 นัด ท้องอีก 1 นัด นอนเสียชีวิต กลางทุ่งนา ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 300 เมตร ส่วน นายวุฒิไกร วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป

"หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการไปยัง พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายในคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชน และกำชับการปฏิบัติตามยุทธวิธี ให้กำลังพลเกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามจับกุมคนร้าย

"จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. หลังปิดล้อมนานกว่า 8 ชม. ตำรวจสามารถจับกุม นายวุฒิไกร เครือสาร ได้ ซึ่งหลบหนีห่างจากที่เกิดเหตุไปตามชายป่ากว่า 1 กม."

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันหน่วยงานของรัฐ อ้างโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย กรณีมิจฉาชีพส่งลิงก์ให้ประชาชน หลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันหน่วยงานของรัฐ อ้างโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ดังนี้...

ที่ผ่านมา บช.สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการประชาสัมพันธ์ ออกมาแจ้งเตือนประชาชนอยู่บ่อยครั้ง กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่งข้อความสั้น (SMS) หรือโทรศัพท์ไปยังประชาชน หลอกลวงให้เพิ่มเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ แล้วส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของกรมสรรพากรปลอม ซึ่งแฝงมากับมัลแวร์ (Malware) หรือโปรแกรมประสงค์ร้ายที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อทำอันตรายกับข้อมูลในระบบ เช่น ทำให้โทรศัพท์ของเหยื่อทำงานผิดปกติ ขโมยหรือทำลายข้อมูล หรือเปิดช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อได้ รวมไปถึงหลอกลวงให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ตั้งรหัส PIN จำนวน 6 หลัก โดยประชาชนส่วนใหญ่มักจะใช้ชุดเลขรหัสเดียวกันกับรหัสแอปพลิเคชันของธนาคาร ทำให้มิจฉาชีพนำรหัสดังกล่าวไปใช้โอนเงินออกจากบัญชีของเหยื่อได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้มิจฉาชีพมักจะอ้างว่าเพื่อเป็นการตรวจสอบรายได้ของท่าน หรือเป็นการแจ้งเตือนให้ชำระภาษี หรือให้ทำการยกเลิกเสียภาษีจากโครงการของรัฐบาล หรืออ้างว่าเป็นการขอใช้โครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ หรืออ้างว่าสามารถช่วยเหลือไม่ให้เสียภาษีย้อนหลังได้ ผ่านแอปพลิเคชันกรมสรรพากรปลอมดังกล่าว เป็นต้น

แต่ในปัจจุบันยังคงพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ล่าสุด กรณีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกอุบายให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันของกรมสรรพากรปลอม เพื่อเป็นการขอใช้โครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปศาลากลางจังหวัด กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อสูญเสียเงินกว่า 2 ล้านบาท เป็นต้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออ้างโครงการของรัฐ ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชาผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในแผนประทุษของมิจฉาชีพที่นำมาใช้ในการหลอกลวงประชาชน มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความผ่านเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่มิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องไปตามสถานการณ์ หรือวันเวลาให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ นอกจากนี้สิ่งแรกๆ ที่มิจฉาชีพมักจะทำก่อนการหลอกลวงเสมอ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานต่างๆ ตั้งรูปหน่วยงานนั้นๆ เป็นโปรไฟล์แอปพลิเคชันไลน์ใช้ในการพูดคุยกับเหยื่อ หรือใช้ข้อมูลที่มิจฉาชีพรู้บอกเหยื่อก่อน เช่น บอกว่าเหยื่อใช้โครงการคนละครึ่ง หรือบอกหมายเลขโทรศัพท์เหยื่อได้ถูกต้อง เป็นต้น นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมักจะประกอบอาชีพค้าขาย เกี่ยวข้องกับการเสียภาษี โดยมิจฉาชีพจะอาศัยความไม่รู้ของประชาชนเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง

อย่างไรก็ตาม บช.สอท. ยังคงมุ่งมั่นปราบปราม กดดัน จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และขอฝากไปยังภาคประชาชนช่วยแจ้งเตือนบุคคลใกล้ชิด หรือรายงานไปยังหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เพราะเมื่อเหยื่อโอนเงินไปยังบัญชีม้าของมิจฉาชีพแล้ว เงินดังกล่าวจะถูกโอนต่อไปอีกหลายๆ บัญชีอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการถูกอายัดเงินในบัญชี จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำเงินของเหยื่อกลับคืนได้ทันท่วงที

​ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกัน 10 ข้อ ดังต่อไปนี้...

1.ไม่กดลิงก์ใดๆ ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฟล์ .APK เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ (Malware) ของมิจฉาชีพ

2.ไม่ติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ผู้อื่นส่งมาให้โดยเด็ดขาด แม้จะเป็นโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่รู้จักก็ตาม เพราะอาจเป็นแอปพลิเคชันปลอม โดยหากต้องการใช้งานให้ทำการติดตั้งจากแหล่งที่เชื่อถือ และเป็นทางการเท่านั้น เช่น App Store หรือ Play Store

3.โดยปกติ หน่วยงานภาครัฐไม่มีนโยบายที่จะติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์หรือ การส่งข้อความสั้น (SMS) หากมีการติดต่อให้ขอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อติดต่อกลับหน่วยงานนั้นๆ ด้วยตนเอง และตรวจสอบนโยบายของหน่วยงานนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร

4.ระมัดระวังแอปพลิเคชันที่ขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เช่น ขอเข้าถึงอัลบั้มรูปภาพ, ไมโครโฟน, ตำแหน่งที่ตั้ง, หมายเลขโทรศัพท์, รายชื่อผู้ติดต่อ เป็นต้น โดยควรอนุญาตให้เข้าถึงเท่าที่จำเป็น

5.หากท่านติดตั้งแอปพลิเคชันในลักษณะดังกล่าวแล้ว ให้รีบเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) หรือปิดเครื่องเพื่อตัดสัญญาณไม่ให้โทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ หรือทำการถอดซิมโทรศัพท์ออก จากนั้นเข้าไปติดต่อกับศูนย์บริการโทรศัพท์ที่ท่านใช้งานอยู่

6.ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงินใดๆ ลงในลิงก์ หรือแอปพลิเคชันที่เข้ามาในลักษณะดังกล่าวโดยเด็ดขาด

7.หมั่นติดตามข่าวสารจากทางราชการ หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ส่งต่อกันมาผ่านสื่อสังคมออนไลน์

8.โดยปกติประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิ วิธีการใช้งาน และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยให้เพิ่มความระมัดระวังในการสังเกตชื่อเว็บไซต์อย่างละเอียดป้องกันการเข้าสู่เว็บไซต์ปลอมของมิจฉาชีพ

'อลงกรณ์' ย้ำชัด!! สร้างโอกาส ก้าวข้ามทุกวิกฤต เร่งต่อยอดส่งเสริมเกษตรกรประมง มุ่งพัฒนาผลผลิต แปรรูปสัตว์น้ำสร้างแบรนด์ ทำตลาดแนวใหม่

'อลงกรณ์' ย้ำชัด!! สร้างโอกาส ก้าวข้ามทุกวิกฤต เร่งต่อยอดส่งเสริมเกษตรกรประมง มุ่งพัฒนาผลผลิต แปรรูปสัตว์น้ำสร้างแบรนด์ ทำตลาดแนวใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร นำทีมประมงปล่อยปลาตะเพียน 2 แสนตัวลงแม่น้ำเพชรบุรีแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมหนุน 'ปลาเวียน' ลุยตลาดปลาสวยงามสร้างอาชีพรายได้ใหม่ให้ประชาชน

(4 ก.พ.66) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า ผลพวงจากวิกฤตสถานการณ์โรคโควิด19 และสงครามยูเครนเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจทุกด้านรวมทั้งพี่น้องเกษตรกร ทั้งผลกระทบจากราคาปุ๋ย อาหารสัตว์ ที่มีราคาพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลมีความเป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องปากท้องและอาชีพจึงเร่งหาแนวทางก้าวข้ามวิกฤตต่างๆโดยสร้างโอกาสใหม่ๆใช้วิกฤตเป็นโอกาส ในทุกด้าน เช่นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ โดยปล่อยปลาตะเพียน 2 แสนตัวลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีในวันนี้

รวมทั้งการสนับสนุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นกว่า 2,800 องค์กรใน 50 จังหวัดรวมทั้งจังหวัดเพชรบุรีสนับสนุนงบประมาณองค์กรละ 1 แสนบาทพัฒนาต่อยอดการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร สร้างแบรนด์ เดินหน้าการตลาดแนวใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์และรังสรรค์เมนูเด็ดเพชรบุรี สร้างมูลค่าเพิ่ม เสริมการท่องเที่ยวสนับสนุน ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) เติมรายได้แก้ปัญหาหนี้สิน เน้นการพัฒนาชุมชน เพื่อชุมชน พร้อมหนุน 'ปลาเวียน' ปลาประจำจังหวัดเพชรบุรีที่กรมประมงสามารถพัฒนาเพาะพันธุ์ได้แล้วมีความสวยงามอย่างมากสามารถเข้าสู่ตลาดปลาสวยงามที่กำลังเติบโตช่วยสร้างอาชีพรายได้ใหม่ให้ประชาชน

หลังจากนั้นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลาตะเพียน ลงในแม่น้ำเพชรบุรี และเยี่ยมชมผลผลิตพี่น้องเกษตรกร มีทั้งอาหารแปรรูป อาหารสดหลากชนิด พร้อมทั้งส่งมอบพันธุ์ปลาให้ผู้แทนทุกชุมชนได้นำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อเป็นประโยชนแก่ประชาชนต่อไป

ทางด้าน นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เห็นความสำคัญ สนับสนุนให้เกษตรกรและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม สร้างความตระหนักถึงคุณค่าการฟื้นฟูแหล่งน้ำ ด้วยการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแม่น้ำเพชรบุรี และแหล่งน้ำธรรมชาติ การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจืด นับเป็นวิธีการหนึ่ง ที่ช่วยให้ทรัพยากรน้ำและสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ให้มีประชากรสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สำหรับงาน 'กิจกรรมเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติและสร้างการรับรู้สู่เกษตรกรด้านประมงจังหวัดเพชรบุรี' พร้อมด้วยแขกผู้เกียรติ อาทิ นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุธา เภรีภาส ที่ปรึกษากรมประมง นายสมบุญ ธัญญาผล ประมงจังหวัดเพชรบุรี นายประสูติ หอมบรรเทิง นายอำเภอเมืองเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการกรมประมง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เกษตรกร ชาวประมง และพี่น้องประชาชนจังหวัดเพชรบุรี เข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 200 คน ณ บริเวณแม่น้ำเพชรบุรี หลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โดยสำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายในจังหวัดเพชรบรี จัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำลงในแม่น้ำเพชรบุรีและแหล่งน้ำธรรมชาติ ตลอดจนการสร้างการรับรู้สู่เกษตรกร ชาวประมง และประชาชนเกี่ยวกับงานด้านประมง ตามนโยบาย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการการเสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ และช่วยเหลือเกษตรกรชาวประมงที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพด้านประมง โดยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผลผลิตสัตว์น้ำ ช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมงได้มีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น มีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ ภายใต้กิจกรรมภายในงาน มีการสนับสนุนพัฒนาทักษะการขาย การแปรรูป และการบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการประกอบอาชีพให้เกิดความมั่นคงในระยะยาว

อเมซิ่งไทยแลนด์โชว์ คณะแม่นายสิปปะธรรม จับมือ Legend Siam เตรียมเปิดการศิลปะโขนและหุ่นละครเล็ก รอบปฐมฤกษ์

คณะแม่นายสิปปะธรรม จับมือ Legend Siam เตรียมจัดการแสดงอเมซิ่งไทยแลนด์โชว์ รูม ระหว่าง 18-24 ก.พ.นี้ สร้างมิติใหม่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ Legend Siam Pattaya

ที่ Legend Siam Pattaya หุ่นละครเล็กคณะแม่นายสิปปะธรรม นำโดย นางวรัทยา วิวัฒน์อนันต์ (ลูกปลา) เจ้าของคณะแม่นายสิปปะธรรม นำทีมนักแสดงเยาวชน กว่า 20 ชีวิต ร่วมพิธีบวงสรวงพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวี หรือ เจ้าย่าศรีปทุม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ Legend Siam เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี นายณรงค์ ผสมทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ณุศาเลเจนด์สยาม พัทยา จำกัด มหาชน พร้อมคณะผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับคณะหุ่นละครเล็กคณะแม่นายสิปปะธรรม

หลังจากพิธีเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวง ทางคณะหุ่นละครเล็กคณะแม่นายสิปปะธรรม ยังได้นำการเปิดการแสดงรอบปฐมฤกษ์ ในชุดที่ชื่อว่าหุ่นละครเล็กติดโขน ให้กับคณะผู้บริหาร Legend Siam และสื่อมวลชนได้รับชม ต่อจากนั้นคณะหุ่นละครเล็กคณะแม่นายสิปปะธรรม ได้หารือร่วมกับคณะผู้บริหาร Legend ถึงการเปิดโครงการ “เรียน รำ เล่น” โซนภาคตะวันออก เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนในจังหวัดชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ได้เข้าถึงศิลปโขนและหุ่นละครเล็ก

โดยนางวรัทยา วิวัฒน์อนันต์ (ลูกปลา) เจ้าของคณะแม่นายสิปปะธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคณะหุ่นละครเล็กคณะแม่นายสิปปะธรรมได้รับโอกาสที่ดีจากผู้ใหญ่ใจดีที่มีความรักในศิลปวัฒนธรรมและอยากสนับสนุนให้เยาวชนไทยหันมาสนใจศิลปวัฒนธรรมไทย โดยทางคณะแม่นายสิปปะธรรม จะร่วมกับ Legend Siam เปิดเปิดโครงการ “เรียน รำ เล่น” โซนภาคตะวันออก ซึ่งเป็นสิง่ที่ผู้ปกครองเยาวชนหลาย ๆคนเรียกร้องอยากให้มาเปิดการสอนที่ภาคตะวันออก นอกจากนี้ทาง Legend Siam ยังจะมีการเปิด Legend Siam Comeback Grand Opening ซึ่งจะให้เยาวชนในคณะแม่นายสิปะธรรม มาเชิดหุ่น เล่นโขน และเชิดปลาผ้าน้ำ พร้อมให้เด็กในพื้นที่เข้าร่วมเรียนและแสดงสร้างรายได้จากการแสดง  

ทั้งนี้การแสดงดังกล่าวที่ทางคณะร่วมกับ Legend Siam จะเริ่มแสดงในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 โดยในวันดังกล่าวจะมีการบันทึกกินเนสส์ เวิลด์อีกด้วย ส่วนภาคอื่น ๆ ที่สนใจให้ทางคณะแม่นายสิปปะธรรมไปเปิดโครงการ“เรียน รำ เล่น” ทางคณะฯก็พร้อมเดินทางไปสอนให้

ด้านนายณรงค์ ผสมทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ณุศาเลเจนด์สยาม พัทยา จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า จากนี้ทาง Legend Siam จะร่วมกับคณะแม่นายสิปปะธรรม จัดงานอเมซิ่งไทยแลนด์โชว์ รูม ระหว่างวันที่ 18 -24 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเปิดตลาดการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ รองรับนักทองเทียวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในมิติใหม่ ๆ ด้วยการแสดงวัฒนธรรมแบบไทย ๆ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสีสันทางการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่ง Legend Siam ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการแสดงหุ่นละครเล็กปัจจุบันก็หาชมได้ยาก การที่ทำหุ่นละครมาแสดงที่ Legend Siamจะเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลังได้ชมอีกด้วย

‘รมช.มนัญญา’ เคาะ 86 ลบ. ช่วยเกษตรกรอุทัยธานี บรรเทาความเดือดร้อน หลังประสบภัยพิบัติ

4 ก.พ.66) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, นายธนะสิทธิ์ ธนากีรตินันท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรจำนวน 240 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมอาคารภักดี เทศบาลตําบลสว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ว่า...

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนส่ง เสริมสนับสนุน ปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตร โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานีมีเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ วงเงินขอความช่วยเหลือ จำนวน 187,019,539.50 บาท ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีได้รับการอนุมัติโอนเงินช่วยเหลือแล้ว จำนวน 86,221,714.50 บาท ได้แก่...

1. ด้านพืช เกษตรกรได้รับเงินรวม 3,173 ราย วงเงิน 85,719,118 บาท 

2. ด้านประมง เกษตรกรได้รับเงินรวม 19 ราย วงเงิน 108,856.50 บาท 

และ 3. ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับเงินรวม 22 ราย วงเงิน 393,740 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลาง เพื่ออนุมัติโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป

.

สำหรับข้อมูลความเสียหายภัยพิบัติด้านการเกษตรในปี 2565 เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี รายงาน ดังนี้...

1) เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านพืช 9,391 ราย พื้นที่เสียหายรวม 96,294.38 ไร่ แบ่งเป็น นาข้าว 16,901 ไร่ พืชไร่/พืชผัก 78,057.75 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ 1,335.63 ไร่ วงเงินขอความช่วยเหลือรวม 182,608,295 บาท 

2) เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านประมง 395 รายพื้นที่เสียหาย แบ่งเป็น พื้นที่ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน 385.25 ไร่ และพื้นที่ที่เลี้ยง ในกระชัง บ่อซีเมนต์ 1,825.50 ตารางเมตร วงเงินขอความช่วยเหลือรวม 2,475,524.50 บาท 

และ 3) เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านปศุสัตว์ 198 ราย สัตว์เลี้ยงตาย/สูญหาย 10,565 ตัว แบ่งเป็น สุกร 9 ตัว แพะ 38 ตัว แกะ 95 ตัว ไก่พื้นเมือง 8,105 ตัว ไก่ไข่ 693 ตัว เป็ดไข่ 1,545 ตัว เป็ดเนื้อ/เป็ดเทศ 75 ตัว ห่าน 5 ตัว และแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์เสียหาย 354 ไร่ วงเงินขอความช่วยเหลือรวม 1,935,720 บาท

นอกจากนี้ ยังได้มอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับเอกสารสิทธิจาก ส.ป.ก.4-01 จำนวน 10 ราย และการออกร้านจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรอีกด้วย

นรข.ตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ กว่า 4 แสน 6 หมื่นเม็ดชุกริมฝั่งโขง

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลําน้ำโขงสกัดจับยึดยาบ้าชุกอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงโดยกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติฝั่งประเทศเพื่อนบ้านลักลอบขนข้ามโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านน้ำเข้าส่งให้ครือข่ายฝั่งไทยยาบ้าจำนวน 460,000 เม็ดคนร้ายหลบหนีไปได้น้ำของกลางยาบ้ามาตั่งโต๊ะแถลงข่าว

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. พล.ร.ต.สมาน ขันธพงษ์ ผบ.นรข. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ไม่ประสงค์ออกนาม (เพื่อผลทางรางวัลนำจับ) ว่าจะมีการลักลอบขนส่งยาเสพติดเข้ามาในราชอาราจักร บริเวณ บ้านท่าไคร้ ต.นาสีนวล อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม น.ท.เฉลิมศักดิ์ ไชยจิตต์ หน.สน.เรือมุกดาหารจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ทันที

โดยสถานีเรือมุกดาหาร เมื่อทราบการข่าวจากผู้บังคับบัญชา จึงได้ประชุมวางแผนจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ทันที แบ่งเป็น 2 ชุด ชุ่มเฝ้าตรวจ ชุดละ 3 นาย ครั้นเมื่อเวลา 18.50 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ชุดปฏิบัติการได้ตรวจพบ เรือกีบเพลายาว แล่นข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้แล่นลงไปทางใต้ ผ่านท่าทรายฯ และได้กลับลำแล่นเรือขึ้นมาทางเหนืออีกครั้ง พร้อมได้ดับเครื่องยนต์ และพายเรือเข้าเทียบฝั่ง บริเวณเขื่อนริมโขง บ้านท่าไคร้ ต.นาสีนวล อ.เมือง จ.มุกดาหาร และในขณะเดียวกัน ได้มีชายฉกรรจ์ 2 คนเดินออกจากพุ่มไม้ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงไปยังที่เรือกีบเพลายาวเทียบฝั่ง 

จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้ง 2 ได้แบกวัตถุต้องสงสัย ขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง คนละ 1 กระสอบมาชุกป่าหญ้าริมตลิ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากชุดปฏิบัติการชุ่มอยู่ ประมาณ 50 เมตร ชุดปฏิบัติการจึงได้วิ่งเข้าไปและแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ นรข. เพื่อขอทำการตรวจสอบ เมื่อชายฉกรรจ์ 2 คนเห็นเป็นเจ้าหน้าที่จึง อาศัยความชำนาญในพื้นที่ และความมืดวิ่งหลบหนีไปได้ ชุดปฏิบัติการจึงทำการตรวจสอบคาดว่าจะเป็นยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชา และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ทราบ เพื่อร่วมกันตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เป็นยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 กระสอบ กระสอบที่ 1 เขียนด้วยหมึก เขียนว่า กาละสิน 120, กระสอบที่ 2 เขียนว่า อำนาจเจริญ 110 สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ไม่มีผู้ใดรู้เห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมด มาที่สถานีเรือมุกดาหาร เพื่อทำการแถลงข่าวดังกล่าวโดยหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่จึงนำของกลางยาบ้าส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหารเพื่อขยายผลกลุ่มเครือข่าย 2 ฝั่งโขงกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top