Tuesday, 10 June 2025
NEWS FEED

วธ.จัดงาน ๖ กุมภาพันธ์ 'วันมวยไทย' เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ 'พระบิดาแห่งมวยไทย' ยิ่งใหญ่

ประชาชนร่วมสืบสานพิธีครอบครู ไหว้ครูร่ายรำมวยไทย ตื่นตากับศิลปะแม่ไม้-ลูกไม้มวยไทยที่หาชมได้ยาก เครือข่ายมวยไทยร่วมผลักดันขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ตระหนักถึงความสำคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ 'มวยไทย' ศิลปะการป้องกันตัวและศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และเป็น Soft Power พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันมวยไทย ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และร่วมจัดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

สำหรับบรรยากาศช่วงเช้า ณ ตำหนักพระเจ้าเสือ วัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลา ๐๘.๓๙ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีมอบสมรรถนะครูมวยไทย พิธีบวงสรวงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (สมเด็จพระเจ้าเสือ) โดยมีนายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และผู้บริหาร นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ พระครูภาวนาวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดตึก ร่วมพิธี พร้อมด้วยเครือข่ายวัฒนธรรม ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานจำนวนมาก 

พิธีดังกล่าวมีนายจรัสเดช อุลิต ครูมวยไทยอาวุโส (เจ้าพิธีประกอบพิธีบวงสรวง) จากนั้นเจ้าหน้าที่งานพิธีได้นำมงคลมอบแก่ประธานในพิธีเพื่อทำการมอบให้กับครูมวยไทยได้ใช้ประกอบพิธีครอบครู โดยมีครูมวยไทยทำหน้าที่ครอบครูในครั้งนี้ นำโดย นายจรัสเดช อุลิต นายกสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ นายปรเมษฐ์ ภักดีคีรีไพรวัลย์ เลขาสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ นายชาญณรงค์ สุหงษา นายกสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย นายชินวุธ ศิริสัมพันธ์ นายกสมาคมครูมวยไทย นายแสวง วิทยพิทักษ์ อุปนายกสมาคมมวยโบราณ พร้อมวิทยากรครูมวยไทยอาชีพ License กกท. ทำพิธีครอบครูให้นักเรียนมวยไทย 

‘ดิว’ เตรียมเปิดใจ สาเหตุที่ต้องแฉ ‘มาเก๊า 888’ หลังเพจดังตั้งคำถาม ขุดอดีต - อาชีพของสามี

หลังจากที่ ‘ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์’ ออกมาแฉ ‘เบนซ์ เดม่อน’ อดีตแฟน และครอบครัว เปิดเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 จนร่ำรวย จนทำให้มีคนยกเจ้าตัวเป็นพลเมืองดีที่กล้าเปิดโปงถึงเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนไม่น้อย สงสัยในการออกมาแฉของเจ้าตัว ระบุว่าตอนที่คบหาจนเลิกก็น่าจะรู้เรื่องนี้ แต่ทำไมถึงเลือกที่จะเงียบตลอดมา รวมทั้ง เพจ เหยื่อ v.2 ได้ออกมาตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน รวมทั้งตั้งคำถามไปถึง ‘เซบาสเตียน ลี’ สามีสาวดิว ว่าเป็นใคร ทำอาชีพอะไรในเมืองไทย ถึงได้มีรถตำรวจขับนำทางให้บ่อย ๆ 

เพจ เพจ เหยื่อ v.2 ได้โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตว่า…

“เซบาสเตียน ลี..สามีของดิว อริสรา เขาเป็นใคร เขามีตำแหน่งอะไรในประเทศไทย.? ทำไมเขาถึงได้มีรถตำรวจไทยที่ใช้ในราชการเท่านั้นขับนำทางให้บ่อยๆ? ไปกัมพูชา ไปลาว ไปพม่า ก็มีรถตำรวจนำ มีทหารมาเป็นการ์ด? ถ้าอยู่เขตสามเหลี่ยมทองคำ เซบาสเตียนสามารถเข้าถึงอาวุธสงครามได้สบายมาก เขาคือใคร เขาทำอาชีพอะไร.? #โง่ได้แต่อย่านาน @ไร้เงา แต่เร้าตรีน🎭

ล่าสุด เฟซบุ๊ก ดิว อริสรา ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ แต่ขอให้รออีกนิดจะออกมาตอบคำถาม เชื่อว่าหลังจากที่เธออธิบาย ทุกคนจะเข้าใจ โดยดิวระบุว่า…

“จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นจากทางโซเชียลตอนนี้ ที่มีเพจ ๆ หนึ่งตั้งประเด็นคำถามว่า เพราะอะไร และทำไมอยู่ ๆ ดิวถึงออกมาพูดเรื่องเว็บพนัน มาเก๊า 888 พร้อมทั้งนำรูปภาพ วิดีโอ ข้อมูลในอดีตของสามีของดิวไปตั้งประเด็นเผยแพร่ จนทำให้หลายคนเกิดคำถาม หรือวิเคราะห์ไปในทางลบเสียหาย พร้อมตั้งคำถามมากมายกับตัวดิวและสามีของดิว

เร็ว ๆ นี้ดิวจะออกมาตอบคำถาม ในประเด็นที่เกี่ยวกับตัวดิวและสามี และดิวเชื่อว่าเร็ว ๆ นี้ทุกคนจะวางสิ่งที่คิดกันไปไกลลง พร้อมกับเข้าใจในสิ่งที่ดิวทำว่า ทำไมดิวถึงทำ และทำไมถึงต้องเป็นคืนนั้น ในวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา

และสุดท้ายดิวขอขอบคุณทุกคนที่เชื่อใจพวกเรา เข้าใจพวกเรา และ ซัปพอร์ตพวกเรา ขอบคุณจากใจจริงค่ะ”

ขณะที่เพจเหยื่อ v.2 ก็ได้โต้กลับทันทีว่า

“อธิบาย..พวกเราไม่ได้สงสัยเรื่องที่ออกมาแฉแฟนเก่าเจ้าของมาเก๊า 888 อ่านดู
📍 https://fb.watch/iyioeyyuvm/

ศูนย์บริการพยาบาล มช. เปิดอบรมหลักสูตรการพยาบาลเวชปฎิบัติอาชีวอนามัย รุ่นที่ 16

ศูนย์บริการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลเวชปฎิบัติอาชีวอนามัย รุ่นที่ 16 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นประธาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนนท์ วิสุทธิ์ธนานนท์ ประธานกรรมการหลักสูตรฯ กล่าวรายงาน และ รองศาสตราจารย์ ฉวีวรรณ ธงชัย ผู้อำนวยการศูนย์บริการพยาบาล กล่าวต้อนรับ การอบรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ - 28 พฤษภาคม 2566

แถลงข่าวลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU)ในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก

(8 ก.พ. 66) เวลา 10.30 น. ณ สารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายเสกสม อัครพันธ์ุ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้บริหารของกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร. และ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ได้ร่วมกัน แถลงข่าวประชาสัมพันธ์การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบก เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 

ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถ ใช้ถนน ให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ ลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  จึงได้สั่งการ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันดำเนินการกวดขันวินัยการขับขี่ โดยบังคับใช้มาตรการตามที่กำหนดในกฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้ง 2 หน่วยงาน จึงได้ร่วมกันกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่  

มาตรการที่ 1 การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้กระทำผิดกฎจราจรและถูกตัดคะแนนแล้ว จำนวน 15,456 ราย

มาตรการที่ 2  คือมาตรการชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ ตาม 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้กำหนดให้มีการลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก

สำหรับ มาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จะใช้กับรถยนต์ที่ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ ซึ่งเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แล้วจึงสามารถมารับป้ายภาษีได้ แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้เลยทันที

ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับรถโดยไม่มีป้ายภาษี จะมีโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 11  ซึ่งกำหนดว่า รถยนต์คันที่ต่อภาษีแล้วจะต้องแสดงเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งกำหนดให้ครบถ้วน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติได้ จากเว็บไซต์ E-ticket PTM  และ แอปพลิเคชั่น ขับดี ทางด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายในการป้องกันและรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืน กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตามนโยบาย โดยการร่วมจัดทำ “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ กรมการขนส่งทางบก” ซึ่งบันทึกข้อตกลงนี้ มีที่มาจากพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 141/1 ที่กำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายจราจรและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่ชำระค่าปรับจราจรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด 

ม.นราฯจัดงานครบรอบ 18 ปีแห่งการสถาปนา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน

ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังนราธิวาส ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานเปิดงานครบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมี รศ.ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอเมืองนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักศึกษา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2548 ให้มีการหลอมรวมวิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส วิทยาลัยการอาชีพตาก ใบ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนราธิวาส สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ เป็นสถาบันทางวิชาการโดยมีพันธกิจดังนี้

1.) ผลิตบัณฑิต ให้มีความรู้ มีคุณธรรม และจริยธรรม จัดการศึกษาทางด้านวิชาชีพทั้งระดับต่ำกว่าปริญญา และระดับปริญญา ที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของประชาชนในภูมิภาค และมีความร่วมมือทางวิชาการกับท้องถิ่นและต่างประเทศ
2.) ผลิตผลงานทางวิชาการงานวิจัย สร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ สนับสนุนงานวิชาการ นวัตกรรม ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคน ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน และสังคม ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้และระดับประเทศ
3.) บริการวิชาการและวิชาชีพ โดยการถ่ายทอดความรู้ และเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบสู่ชุมชน สังคมอย่างมีคุณภาพ
4.) ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและกีฬา สร้างแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริม และสนับสนุนการกีฬาและนันทนาการอย่างต่อเนื่อง
5.) บริหารและการจัดการ พัฒนาโครงสร้างและระบบการบริหารอย่างมีคุณภาพ พร้อมน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาเพื่อให้เกิดความสันติสุขและความภาคภูมิใจของท้องถิ่นอย่างแท้จริง

เปิดแผน USAR Thailand สุดยอดทีมกู้ภัยไป 'ตุรเคีย' ช่วยเหลือผู้ตกค้างท่ามกลางความหนาวลบ 0 องศาฯ

หลังเหตุแผ่นดินไหวในตุรเคีย ขนาด 7.8 แมกนิจูด ความลึก 17.9 กม. สร้างความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 4.8 พันคน แต่การช่วยเหลือท่ามกลางซากปรักหักพังของตึกสูง เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายระลอกนั้น ทางประเทศไทยก็ได้เตรียมส่งทีมช่วยเหลือ กู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search and Rescue) หรือทีม USAR Thailand ที่มีขีดความสามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากตึก จากเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้

โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) DDPM รายงานว่า ปภ.ตั้งทีมติดตามสถานการณ์ เตรียมพร้อมส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search and Rescue) หรือทีม USAR Thailand จำนวน 20 คน ไปช่วยเหลือภารกิจค้นหาและกู้ภัยทันทีที่ได้รับการประสาน พร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ด้านการค้นหาและกู้ภัย ซึ่งทีม USAR Thailand ถือเป็นทีมปฏิบัติการพิเศษที่ ปภ.พัฒนาขึ้น มีศักยภาพในการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย และมีความสามารถในการรองรับสาธารณภัยขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

สำหรับแผ่นดินไหวในตุรเคียในครั้งนี้ สร้างความสูญเสียจำนวนมาก แต่การเข้าไปช่วยเหลือต้องประสานกับทาง UN ที่เป็นตัวกลางประสานกับทีมกู้ภัยทั่วโลกกว่า 100 ทีม ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือ

บิ๊กบอสแห่งศึก ONE โดนท้าต่อยในฟิตเนส แต่เลือกปฏิเสธ แม้คว่ำคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อวันที่ (7 ก.พ. 66) 'ชาตรี ศิษย์ยอดธง' ประธานวัน แชมเปียนชิพ องค์กรศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระดับโลก ออกมาเผยเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เขาโดนนักท่องเที่ยวท้าต่อยที่ฟิตเนส ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

บิ๊กบอสแห่งศึก ONE เผยว่าระหว่างที่เขากำลังออกกำลังกายในฟิตเนสของโรงแรม จู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งมาหาเรื่องชวนทะเลาะวิวาททำนองท้าต่อย แต่เจ้าตัวไม่อยากจะให้เรื่องบานปลาย ไม่อยากใช้ความรุนแรง จึงเลือกที่จะกล่าวปฏิเสธแบบสุภาพ

"นักท่องเที่ยวหัวรุนแรงรายหนึ่งเดินมาประจันหน้า แล้วท้าชกกับผมเมื่อวานนี้ ที่ฟิตเนสของโรงแรมที่ผมไปพักเป็นประจำในเมืองหัวหิน ประเทศไทย ผมมักจะแวะมาพักผ่อนระหว่างมาทำงานที่เมืองไทย เขามาเผชิญหน้ากับผมเพื่อขอใช้เครื่องออกกำลังกาย ซึ่งอ้างว่าเป็นของตัวเอง ตอนนั้นผมขอโทษเขาไปอย่างสุภาพ แต่ก็บอกไปด้วยว่านี่ไม่ใช่เครื่องของเขา ผมก็แค่มาใช้งานตอนที่มันกำลังว่าง ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่เขาถามผมว่า ผมมีปัญหากับเขาหรอ ออกไปเจอกันข้างนอกหน่อยไหม" ชาตรี เริ่มกล่าว

"ผมคิดไม่ออกเลยสักนิดว่าผมจะเดินออกไปข้างนอก เพื่อสั่งสอนคนขี้คุยแบบนี้อย่างไรดี แต่ผมเห็นว่าเขามากับแฟน ผมตัดสินใจไม่อยากทำให้สถานการณ์บานปลาย ผมเลยรีบขอโทษเขาไปอย่างสุภาพอีกหนึ่งครั้ง และอวยพรให้เขามีสุขภาพที่ดี ก่อนจะเดินออกมา"

ผบ.ตร.ควง ปลัด มท.,ปลัด สธ.และเลขา ป.ป.ส. ตรวจเยี่ยมโครงการ 'หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด'

ผบ.ตร.ควง ปลัด มท.,ปลัด สธ.และเลขา ป.ป.ส. ตรวจเยี่ยมโครงการ 'หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด' ชื่นชมความสำเร็จ ชงเป็นโมเดลยั่งยืนต้นแบบ ขยายใช้ทั่วประเทศสนองนโยบายรัฐบาล ด้านผู้บำบัดขอบคุณภาครัฐ เหมือนได้ชีวิตใหม่ พร้อมมอบรางวัล “ทำดีมีรางวัล” ให้ สวญ.สภ.หัวโทน จ.ร้อยเอ็ด ผู้คิดค้นรูปแบบเฝ้าระวังผู้ป่วยจิตเวช 

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัยผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์, ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดําเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จังหวัดหนองบัวลําภู ในระยะเวลาเร่งด่วน 3 เดือน (หนองบัวลําภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด) ณ ศูนย์ปฏิบัติการชุมชนยั่งยืนบ้านท่าอุทัย (ศาลาประชาคมบ้านท่าอุทัย) ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู โดยมี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และภาคีเครือข่าย ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ให้การต้อนรับ 

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญใน ต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบำลำภู มติ ครม. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นโมเดลต้นแบบแก้ปัญหายาเสพติด 

จังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้จัดทำโครงการ “หนองบัวลำภูต้นแบบจังหวัดสีขาว” มีผู้ว่าราชการจังหวัดนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน บูรณาการร่วมกันทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร สาธารณสุข มีผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดหนองบัวลำภูในระยะเวลาเร่งด่วน 3 เดือน ด้วยแนวทาง “หนองบัวลำภูต้นแบบจังหวัดสีขาวปลอดยาเสพติดครบวงจร” ที่ครอบคลุมมาตรการป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพทางสังคม ได้แก่ 1) การแก้ไขปัญหาด้วยแนวคิด Change for Good โดย “5 เสือพาพี่น้องทำความดี” ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน และคุ้ม 2) จัดทำตู้ราชสีห์ ผ่านระบบ QRCODE กระจายทุกหมู่บ้าน ตลาด ชุมชน สถานที่ราชการในทุกอำเภอ เพื่อประชาชนร้องเรียนร้องทุกข์ และแจ้งเบาะแสการกระทำผิด 3) จัดชุดกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. รพ.สต. ตำรวจ อาสาตำรวจ และหัวหน้า/คณะกรรมการคุ้ม 5,149 คุ้ม คัดกรองและดูแลผู้ป่วยจิตเวช โดยมี อสม. และ กม. ที่ผ่านการอบรมการดูแลสังเกตผู้ป่วย ทั้งมีทีมผู้พิทักษ์ และชุดนาคาพิทักษ์ เข้าระงับเหตุทันที หากมีผู้ป่วยคลุ้มคลั่ง 4) จัดทำ Family folder รวบรวมข้อมูลปัจจัยเพื่อเลิกยาเสพติด การช่วยเหลือ และข้อมูลครอบครัว ครอบคลุมทั้งสุขภาพ รายได้ และข้อมูลอื่น ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมบทบาทหมู่บ้าน/ชุมชนมีส่วนร่วม ด้วยกองทุนแม่ของแผ่นดิน 272 กองทุน กองทุนหมู่บ้านยั่งยืน 67 หมู่บ้าน ซึ่งจากการ Re X-ray ข้อมูลในพื้นที่ พบผู้เสพ 2,044 คน ผู้ค้า 389 คน ผู้ป่วยจิตเวช 320 คน และได้คัดกรองประชาชนอายุ 12-65 ปี ในชุมชน พบผู้เสพ 701 คน เข้ารับการคัดกรองจำแนกเป็นสีแดง เข้าบำบัดรักษาที่โรงพยาบาล และสีเหลือง สีเขียว บำบัดโดยชุมชน และในด้านปราบปราม ได้สนธิกำลังตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ถนนสายหลัก 7 จุด ถนนสายรอง 721 จุด ทำการสุ่มตรวจ 644 ครั้ง ตรวจพัสดุไปรษณีย์ 6 ครั้ง ขยายผลเครือข่ายยาเสพติดทำการยึดทรัพย์แล้ว 2 คดี และได้สุ่มตรวจเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหาสารเสพติด 76 หน่วย 3,783 ราย พบมีสารเสพติด 43 ราย เข้ารับการบำบัดรักษา

มีโครงการชุมชนยั่งยืนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี คือ โครงการชุมชนยั่งยืนบ้านท่าอุทัย ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เป็นการบูณาการร่วมกันของตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ชุมชน ท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่และวัดเข้ามามีส่วนในการร่วมกันแก้ปัญหา ปูพรมค้นหาผู้เสพในบ้านท่าอุทัย มีผู้เสพสมัครใจเข้าบำบัดจำนวน 48 ราย คัดกรองเป็นสีแดง 3 ราย นำส่งรักษาที่ รพ.นากลาง สีเหลือง 44 ราย และสีเขียว 1 ราย หลังจากนั้นนำทุกคนเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูตามรูปแบบ CBTx โดยใช้ชุดปฏิบัติการยั่งยืน จัดกิจกรรมบำบัดในรูปแบบผสมผสาน ทั้งศาสนาบำบัด อาชีพบำบัด และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์บำบัด เช่น การออกกำลังกาย การปลูกผัก ตัดอ้อย สามารถสร้างรายได้เสริมหลังฟื้นฟูสำเร็จ มีการตรวจปัสสาวะซ้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ยังมีผู้ที่มีผลติดยาเสพติดอยู่ไม่กี่ราย ส่วนที่เหลือหายเป็นปกติแล้ว คนที่ยังเลิกไม่ได้ ก็มีการรักษาต่อเนื่องไป ที่โครงการประสบความสำเร็จเพราะชุมชน ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม ให้กำลังใจสร้างความเชื่อมั่นผู้เสพให้ ลด ละ เลิก ร่วมกันตั้งฉายาว่า “ผู้กล้าท่าอุทัย” ทำให้ผู้เสพมีกำลังใจ บำบัดฟื้นฟูผ่าน เป็นคนดีคืนสู่สังคม ใช้ชีวิตปกสุขร่วมกับชุมชนได้ 

สำหรับบรรยากาศการตรวจเยี่ยมโครงการ เป็นไปด้วยรอยยิ้ม ความสำเร็จที่ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ผู้เสพบางส่วนที่ผ่านโครงการแล้วได้มีงานทำ ได้ก้มกราบ ขอบคุณทั้งน้ำตากับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้นำชุมชน ครอบครัวผู้เข้าร่วมโครงการได้ขอบคุณทุกๆภาคส่วนที่นำโครงการดีๆ เข้ามาช่วยบำบัดฟื้นฟู นำลูกหลานที่ติดยา ให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีคืนสู่สังคม ครอบครัว เหมือนได้ชีวิตใหม่ 

นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” ให้ พ.ต.ท.สมเกียรติ บัวนิล รรท.สวญ.สภ.หัวโทน จ.ร้อยเอ็ด ที่นำเอาเทคโนโลยี “line” มาใช้ในการบริหารจัดการเชิญ ครอบครัวผู้เสพ ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข มาช่วยกันบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดตามโครงการชุมชนยั่งยืนฯ จนสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นผู้คิดค้นมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ผู้ป่วยจิตเวชก่อเหตุรุนแรง (หัวโทนโมเดล) ตามการขับเคลื่อนโครงการนาคาพิทักษ์ รักษ์ประชา ปัจจุบันมีทีมเผชิญเหตุ 2,549 ทีม และทีมผู้พิทักษ์ 3,361 ทีม พร้อมบูรณาการเจ้าหน้าที่ฟื้นฟู และส่งเสริมทักษะใช้ชีวิตในสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตในสังคมได้

ผบ.ตร.กล่าวว่า “ หลังการมีมติประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการเรื่องยาเสพติด กำหนดให้จังหวัดหนองบัวลำภูเป็นต้นแบบของจังหวัดสีขาว ตนได้ส่งชุดตำรวจภูธรภาค 4 มาช่วยในการปราบปราม และส่งทีมวิทยากรต้นแบบ มาช่วยในชุมชนยั่งยืน สามารถค้นหาผู้เสพได้มาก และปราบปรามยาเสพติดได้เป็นอย่างดี แต่ภารกิจการแก้ปัญหายาเสพติดยังไม่จบ การทำงานต้องบูรณาการพื้นที่ที่ต้องดำเนินการต่อไปเพื่อทำให้ทุกอย่างดีขึ้น นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัด เป็นขุนพลช่วยสนับสนุนผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ลงพื้นที่แก้ปัญหาและติดตามการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพราะ “การลงพื้นที่” เป็นคำตอบสุดท้ายที่พี่น้องประชาชนจะพึงพอใจและรู้สึกว่าปลอดภัย ดังนั้นตำรวจทุกหน่วยต้องร่วมกันลงพื้นที่ร่วมกันบูรณาการกับฝ่ายปกครองและทุกหน่วยอย่างจริงจังต่อเนื่อง

จังหวัดหนองบัวลำภู ถือเป็นโมเดลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามโครงการ “หนองบัวลำภูต้นแบบจังหวัดสีขาว” มีผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้มแข็ง นั่งหัวโต๊ะร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข ชุมชน รวมทั้งวัด ในการนำผู้เสพเข้าสู่ขบวนการบำบัดฟื้นฟู โดยเฉพาะโครงการชุมชนยั่งยืนฯ บ้านท่าอุทัย ซึ่งหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ทุกภาคส่วนลงพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง มีการค้นหาผู้เสพ เข้าสู่กระบวนการชุมชนบำบัดฟื้นฟู ฝึกอาชีพ สร้างรายได้ ที่สำคัญ ชาวบ้านต่างให้กำลังใจผู้เสพให้ลดละเลิก จนโครงการประสบความสำเร็จ สามารถคืนคนดีสู่สังคมได้ 

'บิ๊กต่อ' รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามโครงการชุมชนยั้งยืน (นาคาพิทักษ์ รักษ์ประชา) ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด

(7 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 10.00 น. พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะตรวจติดตามโครงการชุมชนยั่งยืน (นาคาพิทักษ์รักษ์ประชา) ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พลตำรวจตรี กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานี ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมติดตาม ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด  

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีแนวโน้มรุนแรง มีผู้ใช้ยาเสพติดมาเป็นเวลานาน หรือจำนวนที่มาก ทำให้เกิดประสาทหลอนถึงขั้นกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ก่อเหตุทำร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บ และบางกรณีถึงแก่ชีวิต จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการการดูแล ป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาผู้เสพสารเสพติดที่มีอาการทางจิต ระหว่าง ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนตามโครงการบริหารจัดการแบบบูรณาการ กรณีผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุ ของตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด บูรณาการร่วมกันในการดูแล ป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาผู้ป่วยจิตเวช พร้อมทั้งพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ชื่อว่า Smart Tele Mind 101 เพื่อรวบรวมส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ให้เกิดการประสานงานในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ กลไกลการแก้ไขปัญหา ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นแกนหลักในการเสริมศักยภาพและพัฒนาทีมระงับเหตุ 64 ทีม และทีมผู้พิทักษ์ 119 ทีม ภายใต้การบูรณาการร่วมกันของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ จนเกิดเป็น “หัวโทนโมเดล” ซึ่งเป็นทีมผู้พิทักษ์ ของสถานีตำรวจภูธรหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ ที่มีความเข้มแข็งในการร่วมกันดูแลและแก้ไขปัญหาผู้ป่วยจิตเวชจนประสบผลสำเร็จ ด้วยการประสานความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในช่วยกันการติดตาม ดูแล ผู้ป่วยจิตเวช ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน สร้างความไว้ใจ อบอุ่นใจ และการให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลของผู้ป่วยให้กับเจ้าหน้าที่ทราบทุกวัน นำไปสู่การดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เป็นการคืนคนดีสู่สังคม

ทางด้าน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นสังคมที่สงบสุข ตามทิศทางการพัฒนาของจังหวัด ที่เน้นการพัฒนาโดยใช้ชุมชนเข็มแข็ง สอดรับกับการดำเนินงานโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาพิษภัยของยาเสพติด โครงการดังกล่าวประกอบด้วยกระบวนการลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้ติดยาเสพติดทุกครัวเรือนในชุมชน การคัดกรอง การฟื้นฟูและลดอันตรายจากยาเสพติด เน้นการบำบัดโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม อีกทั้งสร้างภูมิคุ้มกันทางใจและติดตามผลเพื่อส่งต่อความยั่งยืน ปัจจุบันมีหลายชุมชนที่ดำเนินการบำบัดฟื้นฟูการใช้ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางและสามารถดูแลผู้ใช้ยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ผ่านการบำบัดมีพลังในการดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข จึงได้นำชุมชนเหล่านี้มาเป็นชุมชนต้นแบบ เพื่อให้ชุมชนทั่วประเทศได้นำรูปแบบไปเป็นแนวทางปฎิบัติในการดูแลผู้ใช้ยาเสพติดในชุมชนของตนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ต่อไป

มณฑลทหารบกที่ 25 เป็นเจ้าภาพจัดโครงการ 'สภากาแฟจังหวัดสุรินทร์'

(7 ก.พ.66) เวลา 07.00 – 08.30 น. พลตรี สาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นผู้แทนหน่วยงานด้านความมั่นคง สังกัดกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในจังหวัดสุรินทร์ เป็นเจ้าภาพร่วมจัดงาน “สภากาแฟจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2” ณ ศูนย์พัฒนากีฬากอล์ฟ มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน 

โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน ซึ่งมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสถานศึกษา เข้าร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งโครงการสภากาแฟ เป็นกิจกรรมที่จังหวัดสุรินทร์ จัดให้มีพบปะพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการในลักษณะนี้ ในห้วงเช้าๆ เดือนละ 1 ครั้ง โดยจะมีการหมุนเวียนหน่วยงานในจังหวัดสุรินทร์เป็นเจ้าภาพ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top