กรมศุลกากรยึดเฮโรอีน ซ่อนในแขนเสื้อ เตรียมส่งออกนอกประเทศ จำนวน 43.40 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 107.5 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีไซน์สุดออริจินัล ความงดงาม และความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอุตสาหกรรมอิตาเลียนซึ่งมีชื่อเสียงก้องโลกเดินทางมาสร้างความประทับใจให้ผู้คนที่เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ ณ เจริญนคร ฮอลล์ ICONSIAM ชั้น M ระหว่างวันที่ 7 - 16 มีนาคม 2566 นี้
ITALIA GENIALE (อิตาเลีย เจนิอาเล่) แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Brilliantly Italy" หมายถึง “อิตาลีที่เปล่งประกายสุกใส” เป็นกิจกรรมหลักของงาน Italian Design Day ครั้งที่ 7 มหกรรมงานดีไซน์ ที่จัด ขึ้นพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 9 มีนาคมนี้ นิทรรศการน่าตื่นตาตื่นใจชุดนี้เดิมทีสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อจัดแสดงในอิตาเลียนพาวิเลี่ยนที่งาน Expo Dubai 2020 โดยได้รับการ สนับสนุน จากกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี กระทรวงอุตสาหกรรมและโครงการ "Made in Italy" คณะกรรมาธิการการค้าอิตาลี (ICE) และสมาคมการ ออกแบบ อุตสาหกรรม (ADI) ทั้งนี้ โดยกรุงเทพมหานครได้รับเลือกเป็นจุดหมายแห่งแรกของการทัวร์เอเชีย
พิธิเปิดนิทรรศการ ITALIA GENIALE จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยได้รับเกียรติจาก พณฯเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย มร.เปาโล ดีโอนีซี พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กรบริษัทสยามพิวรรธน์ นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ ตัวแทนไอคอนสยาม ร่วมเป็นประธานในพิธี
ในโอกาสเดียวกัน ได้มีการมอบรางวัลให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ชนะการประกวดออกแบบโลโก้สำหรับการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 155 ปีแห่งความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและอิตาลี ในปีนี้
วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด ยึดรถยนต์ 3 คัน (สภ.แม่จัน เชียงราย)โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว ณ ใต้ตึก บก.สส.ภ.5
ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทุกมิติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข,พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร มทภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ชน. ได้รับบัญชานำข้อสั่งการไปสู่การปฏิบัติ
ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5
ฝ่ายทหาร โดย พล.ต.จรัส ปัญญาดี รอง มทน.3/รอง ผอ.ศอ.ปส.ชน., พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กกล.ผาเมือง ฝ่ายปกครอง โดย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 โดย นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 แถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดรายสำคัญของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 6,000,000 เม็ด หน่วยที่ตรวจยึด สภ.แม่จัน จว.เชียงราย, ชปส.ภ.จว.เชียงราย, กก.สส.ภ.จว.เชียงราย, ชุดสกัดกั้นและปราบปราม ยาเสพติดฯ ภ.5, สภ.เวียงแก่น, สภ.เชียงแสน, สภ.เชียงของ จว.เชียงราย, ป.ป.ส., ตชด.327, ตชด.326, นรข., ทพ.3104 และทพ.31วัน-เดือน-ปี ที่ตรวจยึด 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 15.30 น.สถานที่ตรวจยึด บนถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ที่ 5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย ต่อเนื่อง จุดผ่อนปรนบ้านแจมป๋อง หมู่ที่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย ของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 6,000,000 เม็ด 2. รถยนต์จำนวน 2 คัน
พฤติการณ์แห่งคดีก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์เครือข่ายยาเสพติดกลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ อ.แม่จัน จว.เชียงราย และ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย โดยกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊คแคป สีดำ ติดแผ่นป้านทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีน้ำตาล ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผค 7*** เชียงราย เป็นยานพาหนะใช้ในการลำเลียงยาเสพติด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายลับในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ว่าพบกลุ่มรถยนต์ต้องสงสัยที่ได้แจ้งไว้ทั้ง 2 คัน ขับขี่อยู่ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ลักษณะมีพิรุธ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามพฤติการณ์ ปรากฏพบว่ารถยนต์กระบะ ทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผค 7*** เชียงราย
ขับขี่วิ่งตามกันเป็นขบวนออกจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่จัน จว.เชียงราย โดยด้านหลังกระบะมีผ้าใบปกคลุม ขับตามกันในลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด มีการใช้ความเร็วและชะลอเป็นระยะ ๆเพื่อเช็คการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อรถยนต์ทั้ง 2 คัน ขับมาถึงเขตบ้านห้วยน้ำราก ม.5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย รถยนต์กระบะ ทะเบียน ผค 7*** เชียงราย ได้ขับมุ่งตรงไปทาง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดส่วนหนึ่งได้ติดตามไป ส่วนรถยนต์กระบะ ทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ ได้กลับรถยนต์แล้วเลี้ยวเข้า ซอย 4 บ้านห้วยน้ำราก ม.5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย เมื่อขับมาถึงถนนสายสาธารณะบริเวณสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ขับรถยนต์ติดตามมาจนทัน พบชายวัยรุ่น 2 คน ได้เปิดประตูรถยนต์ฯ แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้ติดตามไปแต่ไม่พบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้ทำการตรวจสอบรถยนต์พบกระสอบสีเขียว จำนวน 10 กระสอบ บริเวณในห้องโดยสารรถยนต์ และพบกระสอบสีเขียว จำนวน 20 กระสอบ บริเวณด้านหลังกระบะรถยนต์ รวมทั้งหมด 30 กระสอบ ปรากฏพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น Grab ส่งข้อความสั้น (SMS) ไปยังเหยื่อแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีได้รับบัตรกำนัลมูลค่าต่างๆ หลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือดูดเงินออกจากบัญชี ดังนี้
พนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่า ได้รับข้อความสั้น (SMS) จากมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น บริษัท Grab แจ้งว่าได้รับบัตรกำนัล Grab Gifts มูลค่า 3,000 บาท พร้อมกับแนบลิงก์ให้ผู้เสียหายกดเพื่อเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์กับ Grab ปลอม จากนั้นมิจฉาชีพก็จะทำการพูดคุยสนทนากับผู้เสียหายที่หลงเชื่อติดต่อเข้ามา เริ่มจากสอบถามว่าได้รับสิทธิ์มาจากช่องทางใด ขอทราบชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ ระหว่างนั้นจะส่งลิงก์ Grab ปลอมให้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิชันปลอม มีการขอสิทธิ์ติดตั้งแอปพลิชันที่ไม่รู้จัก (ไฟล์อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk) มีการให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆ ครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกันกับรหัสเข้าถึง หรือทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงขอสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนนี้มิจฉาชีพจะแสร้งหวังดีสอนผู้เสียหายว่าทำอย่างไร หรือในบางครั้งจะโทรไลน์มาบอกวิธีการด้วยตนเอง กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง ซึ่งมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ ทำให้มิจฉาชีพสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกก่อนหน้านี้ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายได้ทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ หลอกลวงให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา
ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าว มิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนชื่อหน่วยงานไปตามวันเวลา สถานการณ์ในช่วงนั้นๆ สร้างเรื่องมาหลอกลวงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสิทธิ์ต่างๆ การหลอกให้อัปเดตข้อมูล หรือหลอกลวงอย่างไรให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่แอบอ้างนั้นๆ ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลายๆ กรณี เช่น กรมสรรพากร, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), สายการบิน Thai Lion Air, บริษัท ไทยประกันชีวิต, กระทรวงพาณิชย์ และโครงการของรัฐต่างๆ โดยอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ใช้ความสมัครใจหลอกลวงเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม มีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้นๆ ให้มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังมีสติอยู่เสมอ รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ รวมไปถึงฝากแจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด หรือแจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานนั้นๆ หากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) หรือลิงก์ ในลักษณะดังกล่าวให้ช่วยตรวจสอบ เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
เครื่องบินเล็กตก หลังนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จ.สมุทรสาคร มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ
(8 มี.ค.66) ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดสมุทรสาคร รายงานอุบัติเหตุ เครื่องบินเล็กตก บริเวณวังกุ้ง ถนนโคกขาม-สันดาบ หลังนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
สวนนงนุชพัทยา โดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา โชว์ลูกมะพร้าวทะเล หรือมะพร้าวแฝด จำนวน 11 ลูก ที่สุกและปอกเปลือกให้ชม พร้อมนำไปขยายพันธุ์ ซึ่งในจำนวนนี้มีลูกมะพร้าวแฝด จำนวน 4 ลูก คือ มีกะลา 2 ใบใน 1ลูก
นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เปิดเผยว่า สำหรับมะพร้าวทะเล หรือมะพร้าวแฝด จัดเป็นปาล์มชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่บนเกาะเล็ก ๆในหมู่เกาะซีเซลล์ ในมหาสมุทรอินเดีย มีเมล็ดขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเมล็ดปาล์ม ส่วนมะพร้าวทะเลที่ปอกให้ชมในวันนี้ สวนนงนุชพัทยาจะนำไปปลูก 2 ต้นเพื่อขยายพันธุ์พืชและการอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายากต่อไป
ครม.เห็นชอบโครงการทุนอุดมศึกษาพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ เฟส 4 มอบทุนคนละ 4 หมื่นบาท เพิ่มโอกาสเรียนต่อปริญญาตรี
(8 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2566 ครม.เห็นชอบโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศให้แก่เยาวชนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีการศึกษา 2566 – 2570 วงเงิน 419.5 ล้านบาท สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการทุนอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะที่ 4 เพื่อให้การดำเนินการโครงการมีความต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา 4 อำเภอ (จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) ได้เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลนตามความต้องการของพื้นที่ รวมทั้งสามารถนำความรู้ไปพัฒนาท้องถิ่นภูมิลำเนาของตนเองได้
(8 มี.ค.66) เมื่อกลางดึกของคืน สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุรถเครนที่ใช้ทำทางยกระดับพระราม 2 ล้มขวางถนนพระราม 2 เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถเครนมีลักษณะเป็นรถเครนแขนยาว ซึ่งส่วนของตัวรถยังอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างทางยกระดับ สภาพตัวรถตีนตะขาบยกล้อขึ้นด้านหนึ่ง ขณะที่ตัวเครนรถยกของนั้น ล้มลงมาพาดขวางถนนพระราม 2 จนถึงขอบฟุตบาทหน้าปั๊มน้ำมัน ทำให้รถไม่สามารถขับผ่านได้ ต้องปิดช่องจราจรฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ทั้งหมด
รอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ฯ ผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างเข้าเคลียร์พื้นที่จนเรียบร้อยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถเคลียร์พื้นที่ได้ การสัญจรจึงกลับมาเป็นปกติ
ช่วงเวลาเกิดเหตุเพียงเสี้ยววินาที เป็นจังหวะช่วงวินาทีที่ที่รถเครนกำลังจะขับผ่าน แต่สามารถเบรครถได้ทันชนิดเส้นยาเเดงผ่าแปด เครนล้มมากระแทกได้รับความเสียหายไม่มาก แค่แขนเครนมาขวางถนนเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็จะต้องมีการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ทนายรัชพล ออกโรงเตือนใส่ชุดนักเรียนทั้งที่ไม่ได้เป็นนักเรียน ผิดกฎหมาย-เสี่ยงถูกปรับ หลังเกิดเทรนด์ใหม่คนจีนฮิตใส่เที่ยวไทย
กลายเป็นกระแส Soft Power ของประเทศไทย เมื่อนักท่องเที่ยวและดาราซุปตาร์คนดังชาวจีนที่ได้เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ต่างแห่ซื้อชุดนักเรียนไทยสวมใส่ถ่ายภาพเผยแพร่บนโลกโซเชียล จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวจีน ส่งผลทำให้ร้านขายชุดนักเรียนย่านบางลำพูขายดีขึ้นกว่าเดิม
‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ที่แรก ณ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 7 มีนาคม 2566 หนึ่งในไมซ์ซิตี้ภาคใต้ ณ โรงแรม New Season Square จังหวัดสงขลา กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย
นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ ภาคใต้ กล่าวว่า ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนหน่วยงาน หรือองค์กรที่ดำเนินการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 โดยในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ภายในงานโรดโชว์มีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ เสวนากลยุทธการทำการตลาดเมืองผ่านโครงการประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย โดย นายศิวัตน์ สุวรรณวงศ์ ผู้บริหารโรงแรมบุรีศรีภู และ รองประธานหอการค้า จังหวัดสงขลา ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา นายพีรชัย อัศดาชาตรีกุล ผู้จัดการอาวุโส ส่วนงาน MICE Innovation และดำเนินรายการโดย ดร.ณัฏฐณิชชา สิงห์บุระอุดม ผู้จัดการอาวุโส สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคใต้
นอกจากนี้ ยังมีแนะนำการใช้แพลตฟอร์ม Thai MICE Connect และการสมัคร โดย นายนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation เจาะลึกการทำตลาดออนไลน์สำหรับลูกค้ากลุ่ม B2B โดย นายชวัลวิทย์ รักษผล Founder – M Creation Agency และมี Clinic ปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบ Exclusive ตัวต่อตัว
สำหรับโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน ที่มีแผนการจัดการประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ โดยต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่...
กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip)
โดยตั้งเป้าหมายมีองค์กรสมัครเข้าร่วมขอรับการสนับสนุน 1,000 กลุ่ม มีจำนวนนักเดินทางไมซ์กว่า 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท สร้างผลทางกระทบทางเศรษฐกิจ 180 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP Contribution) 101 ล้านบาท รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 6 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 120 อัตรา
ซึ่งมีเงื่อนไขการสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1.งบสนับสนุนไม่เกิน 15,000 บาท ให้การสนับสนุนจำนวน 650 กลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 วัน และ 2. งบสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท ให้การสนับสนุนจำนวน 350 กลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 22 สิงหาคม 2566
ทั้งนี้ ผู้ขอรับการสนับสนุนต้องจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตั้งขององค์กร สามารถจัดงานได้ทั้งในโรงแรม สถานที่จัดงานพิเศษ และชุมชนทั่วทุกภูมิภาคภายในประเทศ โดยจะต้องเลือกสถานที่จัดงานที่มีฐานข้อมูลอยู่ในเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com ของทีเส็บอย่างน้อย 1 แห่ง และการจัดกิจกรรมจะต้องมีจำนวนผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 คน
สำหรับคุณสมบัติของผู้ขอรับการสนับสนุนจะต้องเป็น นิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน ได้แก่ บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน สมาคม และมูลนิธิ หรือ ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ บริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ หรือ Destination Management Company (DMC) บริษัทรับจัดการประชุม บริษัทนำเที่ยว โรงแรม หรือสถานที่จัดงาน โดยต้องเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย สมาคมโรงแรมในภูมิภาคหรือจังหวัด หรือสมาคมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมไปถึงโรงแรมหรือสถานที่จัดงานที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standards : TMVS) หรือ มาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (ASEAN MICE Venue Standards : AMVS)