Sunday, 29 June 2025
NEWS FEED

“โครงการนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก” จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1

บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมระยอง ไทย-จีน จำกัด เดินหน้าแผนการจัดตั้ง “โครงการนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก” บนพื้นที่ 1,546.55 ไร่ โดยมอบหมายให้บริษัท โฟร์เทียร์ คอนซัลแตนท์ จำกัด (บริษัทที่ปรึกษา) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเต็มรูปแบบครั้งที่ 1 เตรียมรวบรวมข้อมูลรายละเอียดจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองละลอก จ.ระยอง

วันนี้ (2 สิงหาคม 2565) นายจ้าว ปิง กรรมการบริหาร บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมระยอง ไทย-จีน จำกัด เปิดเผยว่า “วันนี้ได้มอบหมายให้ บริษัท โฟร์เทียร์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษา จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอโครงการ  รายละเอียดโครงการ ขอบเขตการศึกษา และการประเมินทางเลือกโครงการ ครั้งที่ 1 ขึ้น โดยมีนายวิจิตร พาผลงาม ปลัดอาวุโส อำเภอบ้านค่าย ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดการประชุม ณ. อาคารเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ  เพื่อความสมบูรณ์ในการจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก  ตามข้อเสนอแนะของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)”

“ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯได้จัดทำการรับฟังความคิดเห็นและส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและเปลี่ยนชื่อโครงการจากสวนอุตสาหกรรม เอส เอส พี ระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก ให้แก่ สผ. เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่ง สผ. ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่บริษัทฯ ว่าบริษัทฯ ควรจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก เฉพาะบนพื้นที่ 1,546.55 ไร่ เท่านั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ของบริษัทฯ ที่ได้ซื้อมาเพียงบางส่วนจากโครงการ สวนอุตสาหกรรม เอส เอส พี ระยอง เดิมที่มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,000 ไร่” นายจ้าว ปิง กล่าว

รมว.พม. ห่วงใยประชาชนเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.พิษณุโลก พร้อมสั่ง ทีม One Home พม. เร่งช่วยเหลือเต็มที่

วันนี้ (1 ส.ค. 65) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก เมื่อช่วงเช้าของวานนี้ (31 ก.ค. 65) ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาไหลหลากเข้าท่วมบ้านบ่อโพธิ์ หมู่ 1 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งบางจุดมีน้ำท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 150 เซนติเมตร ทั้งนี้ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 40 หลังคาเรือน รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นภายในบ้านและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งขณะนี้ นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางอรนุช ชัยชาญ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก และทีม One Home พม. จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะครอบครัวกลุ่มเปราะบางที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และเร่งให้การช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวง พม. โดยได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 39 หลังคาเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเตรียมที่พักชั่วคราว 

ผบ.ทร. สั่งทุกหน่วยกองทัพเรือเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ปชช. จากอุทกภัยฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ผบ.ทร. สั่งทุกหน่วยกองทัพเรือเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ปชช. จากอุทกภัยฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ เตรียมความพร้อม ให้ความช่วยเหลือประชาชน จากเหตุอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น อันเนื่องมาจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่

(1 ส.ค.65) พลเรือโทปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ข้อมูลการแจ้งเตือนภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) และสื่อต่างๆ ได้รายงานสภาพอากาศในช่วงเดือน สิงหาคม 2565 จะมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับลมฝ่ายใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ส่งผล ทำให้ ประเทศไทยมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองกระจายเป็นแห่งๆ  กับมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยทะเลมีคลื่นเล็กน้อย ถึงปานกลาง รวมทั้งการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ในช่วงฝนตกหนัก อาจส่งผลกระทบให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นเขื่อนแนวป้องกันซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่

'อนุสรณ์' เชื่อ!! แก้รัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรใบเดียวทำยาก แต่รัฐบาลคิด

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว อาจมีการเสนอแก้ไขรธน. กลับไปใช้บัตรใบเดียว ว่า แม้จะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เชื่อว่ารัฐบาลมีความพยายามในการแสวงหาสูตรเพื่อจะให้ได้ส.ส.เข้าสภาให้ได้มากที่สุด แม้จะต้องกลับไปกลับมา ทำลายภาพลักษณ์รัฐบาล เวลา 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม ล้มเหลวแทบทุกมิติ จนเกิดแม่น้ำร้อยสายไหลรวมออกมาขับไล่ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีใครขอไปต่อกับพล.อ.ประยุทธ์ โพลสำนักต่างๆสะท้อนคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำลงอย่างหนัก ถ้ารัฐบาลขยันคิดหาสูตรแก้ไขวิกฤตประเทศได้ซักครึ่งหนึ่งของความขยันคิดหาสูตรการเลือกตั้งส.ส. ประเทศชาติและประชาชนคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ กฎหมายลูกต้องเขียนให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 การเขียนสูตรคำนวณ ส.ส. ขัดหลักกฎหมายทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ 

รัฐบาลรู้ว่าเสี่ยงแต่ต้องขอลอง พรรคเพื่อไทยไม่กังวลว่าจะใช้สูตรไหนในการเลือกตั้ง แต่กังวลที่คุณค่าของสถาบันนิติบัญญัติถูกทำลาย และมองเป็นอื่นไปไม่ได้ว่ามีใบสั่งทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการใช้เอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การพลิกสูตรคำนวณ ส.ส. กลับไปกลับมา คือ เกมการเมือง เกมช่วงชิงอำนาจ เพื่อสืบทอดอำนาจให้ยาวนาน ด้วยกลไกลับลวงพราง แทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ แม้จะส่งวินิจฉัยตีความ กลับจะกลายเป็นเครื่องมือในการยื้ออำนาจ ยื้อเวลาในการเป็นคานงัดกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ และพร้อมจะพลิกกลับไปกลับมาอีกจนกว่าจะได้กติกาที่ผู้มีอำนาจพอใจ สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคือทำให้ผลเลือกตั้งครั้งต่อไปมีความหมายและสะท้อนเจตจำนงของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ แต่หากยังมีมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ จะทำให้ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีสิทธิในการโหวตเลือกนายกฯ เท่ากัน ทั้งที่ส.ว.ที่ไม่มีส่วนยึดโยงประชาชน ไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย ส่งผลต่อความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจของนายกฯ

‘ครอบครัวเพื่อไทย’ จัดเวทีใหญ่ ‘ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด’ 7 สิงหาคมนี้ เดินหน้าแลนด์สไลด์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการจัดงานครอบครัวเพื่อไทย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ว่า เวทีครอบครัวเพื่อไทยจังหวัดเชียงราย ภายใต้ชื่อ ‘ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด’ ซึ่งจังหวัดเชียงรายไม่เพียงอยู่เหนือสุดในสยามเท่านั้น แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งจะเดินหน้าไปสู่แลนด์สไลด์ ก็ต้องมาให้เหนือกลเกมกติกาหรือความพยายามเอารัดเอาเปรียบทั้งหลายจากฝ่ายผู้มีอำนาจ แต่ภายใต้หลักการและจุดยืนที่เราเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประชาชนและเชื่อมั่นในการตัดสินใจของประชาชนว่า จะร่วมกันนำพาประเทศพ้นจากอำนาจไม่ชอบธรรมและการบริหารที่ไร้ศักยภาพไปสู่อนาคตที่ดีกว่าด้วยกันจากการเลือกตั้ง 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เวทีครอบครัวเพื่อไทยจังหวัดเชียงราย จะเริ่มเปิดเวทีพบปะพี่น้องประชาชน ตั้งแต่ 09.30 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย โดยจะมีกิจกรรมการพูดจาปราศรัย การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านผสมผสานกับการแสดงสมัยใหม่ ซึ่งจะเป็นสีสันบรรยากาศ รวมไปถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. และจะเป็นวาระที่พรรคเพื่อไทย จะได้บอกกล่าวเรื่องสำคัญกับพี่น้องประชาชน ทั้งแนวคิดนโยบายการส่งเสริมการค้าชายแดน การท่องเที่ยว การเป็นเมืองแฝดเชียงราย-เชียงใหม่ รวมไปถึงปัญหายาเสพติด ปัญหาชาติพันธุ์และปัญหาอื่นๆ ผ่านการสะท้อนของ ส.ส.และบุคลากรของพรรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าเรามองเห็นปัญหาและพร้อมจะนำพาพี่น้องประชาชนออกจากวิกฤต

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ‘กองทัพ’ ช่วยคนกรุงเจอฝนถล่ม ซ่อมรถเสีย เคลียร์ขยะขวางทางระบาย

‘บิ๊กตู่’ สั่ง กองทัพ ประสาน กรมอาชีวะ ลงช่วยซ่อมรถยนต์เสีย หลังฝนถล่มกรุงเทพฯ ทำน้ำท่วมขังการจราจรติดขัดหนัก

(1 ส.ค. 65) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ ประสานขอความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดอาสาสมัคร จากกรมอาชีวะศึกษา ร่วมกับกำลังทหารและเครื่องมือช่าง กระจายลงพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน ประชาชนที่ติดอยู่บนท้องถนนจำนวนมาก รถยนต์ขัดข้องหลายคัน จากฝนตกหนักและน้ำท่วมขังสูงในหลายพื้นที่ ส่งผลหลายเส้นการสัญจรไม่สะดวก การจราจรติดขัดหนัก

‘ครูบาบุญชุ่ม’ ออกจากถ้ำแล้ว ขึ้นราชรถแห่ ท่ามกลางผู้ศรัทธานับหมื่น

ครูบาบุญชุ่ม ออกจาก ถ้ำเมืองแก๊ด แล้ว หลังเข้าปฏิบัติธรรมนาน 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ขณะที่ผู้ศรัทธานับหมื่นคนรอรับ

จากกรณีประชาชนนับหมื่นได้ปักหลักร่วมกันรอรับครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ ออกจากถ้ำเมืองแก๊ด ตามกำหนดการที่เผยแพร่นั้น ระบุว่า วันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ครูบาบุญชุ่มจะออกจากถ้ำ หลังครบกำหนดบำเพ็ญสมณธรรม 3 ปี 3 เดือน 3 วัน

โดยมหาชนผู้มีศรัทธาต่างนำดอกไม้ ธูปเทียน ขนม ผลไม้มากราบไหว้ ที่หน้ารูปพระครูบาบุญชุ่มบริเวณหน้าพระเจดีย์ 7 ชั้น ซึ่งบางคณะนำรถยนต์มาจอดพักค้างคืน และบางส่วนมีผ้าใบคลุมเป็นหลังคาเป็นที่พักแรม 

ศรชล.สายด่วน 1465 จับมือ สพฉ.สายด่วน 1669 เพิ่มประสิทธิภาพ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในทะเล

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ลงนามบันทึกความร่วมมือการคุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเล เพื่อพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล โดยผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินทางทะเล จะได้รับการช่วยเหลือในเบื้องต้น อย่างทันท่วงทีและเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ที่กฎหมายกำหนด สอดคล้องกับหน้าที่ อำนาจ และความรับผิดชอบของ ศรชล.

วันนี้ (1 สิงหาคม 2565) เวลา 14.30 น. พลเรือเอก เถลิงศักดิ์  ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการ ศรชล. และเรืออากาศเอก อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือการคุ้มครองสิทธิ ในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเล ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน โดยมี พลเรือโท ประวิณ จิตตินันทน์ รอง เลขาธิการ ศรชล. พลอากาศตรี เฉลิมพร บุญสิริ กรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน นายไพรฑูรย์ รัตนพรวารีสกุล กรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน นาวาเอก พิสิทธิ์ เจริญยิ่ง รอง เลขาธิการ สพฉ. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พลเรือโท สุพพัต ยุทธวงศ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เป็นผู้แทนกองทัพเรือ และผู้แทนต่าง ๆ จากหน่วยงานหลักของ ศรชล. รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของ สพฉ. เข้าร่วมพิธีการลงนามบันทึกความร่วมมือฯ ในวันนี้

พลเรือตรี อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษก ศรชล. กล่าวว่า ศรชล. เป็นหน่วยงานรูปแบบเฉพาะถูกจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ

การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 ได้บูรณาการหน่วยงานหลัก 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งเกิดจากกิจกรรมทางทะเลต่าง ๆ อาทิ การพาณิชยนาวี การประมง การท่องเที่ยว การแสวงประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล การวางสายเคเบิลหรือท่อใต้ทะเล การอนุรักษ์ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณชายฝั่ง การสำรวจและวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล รวมถึงการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล

เริ่มแล้ววันนี้!! กทม. ขยายเวลาเปิด-ปิด 3 สวนสาธารณะ ตอบสนองความต้องการของคนกรุง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ได้เปลี่ยนแปลงเวลาเปิด-ปิด 'สวนสาธารณะ' จำนวน 3 แห่ง ให้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04.30 - 22.00 น. ซึ่งขยายเวลาจากเดิมที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 - 21.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65 เป็นวันแรก เพื่อให้ประชาชนกรุงเทพมหานครได้มาใช้สวนสาธารณะกันมากขึ้น จำนวน 3 สวน ได้แก่ สวนลุมพินี สวนจตุจักร และอุทยานเบญจสิริ ซึ่งเป็นการทดลองเปิดเพียง 3 สวนก่อน

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นสวนที่มีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ตรงจุด โดยในวันนี้ จากการลงพื้นที่อุทยานเบญจสิริพบว่ามีความพร้อมในส่วนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไฟฟ้าส่องสว่าง และห้องน้ำที่จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการตามที่ได้ขยายเวลา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียนชี้แจงกรณีเกิดเหตุเผายางและพ่นสีหลายจุด ในพื้นที่จังหวัดยะลา

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงกรณี เกิดเหตุเผายางและพ่นสี หลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา ดังนี้
 
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 04.30 น. สภ.รามัน ได้รับแจ้งเหตุเผายางรถยนต์ 3 จุด ได้แก่บนถนนหมายเลข 4066 2 จุด และบนถนนหมายเลข 4067 1 จุด โดยในจุดแรงบนถนนหมายเลย 4066 ก็ได้ตรงจพบวัตถุต้องสงสัย แต่จากการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่วัตถุระเบิดจริง ต่อมาเวลาประมาณ 05.00 น. สภ.กรงปินัง ได้รับแจ้งเหตุเผายางรถยนต์ บนนถนนสาย 401 อ.กรงปินัง จ.ยะลา จำนวน 2 จุด จากนั้นเวลา 07.45 น. สภ.ลำใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพ่นสีก่อกวน 2 จุด บริเวณถนนหมายเลข 409  อ.เมือง จ.ยะลา และบริเวณ ถ.สายทางลัดลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา โดยบริเวณจุดเกิดเหตุได้พบร่องรอยการเผายางรถยนต์ และมีวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายวัตถุระเบิด แต่จากการตรวจสอบก็พบว่าไม่ใช่วัตถุระเบิดจริง และเมื่อเวลา 19.00 น. สภ.บันนังสตา ได้รับแจ้งเหตุว่าคนร้ายลอบทำลายกล้องวงจรปิด จำนวน 2 ตัว และมีการพ่นสีก่อกวนที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

โดยรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมด พนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบได้ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี(ฝ่ายความมั่นคง) ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top