Sunday, 29 June 2025
NEWS FEED

'ดร.สมเกียรติ' วิเคราะห์จีน หลัง 'เพโลซี' เยือนไต้หวัน หากคิดแบบยุคสามก๊ก คงมีสงครามสั่งสอนกันบ้าง

'ดร.สมเกียรติ' วิเคราะห์ 'เพโลซี' เยือนไต้หวัน ชี้สถานการณ์ตอนนี้หากจีนคิดแบบที่จีนเคยทำตั้งแต่ยุคสงครามสามก๊ก อาจเกิดสงครามสั่งสอนบ้าง เชื่อยุค 'สีจิ้นผิง' มีการคิดใคร่ครวญ อย่ารุกเร็วคนเขาจะกลัว

(3 ส.ค. 65) จากกรณี นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงไทเป ของไต้หวัน ในช่วงเย็นวันอังคาร หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่มาเลเซีย โดยไม่หวั่นเกรงคำเตือนของจีน

ด้าน ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์ถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า...

วันนี้จะเล่าเรื่องสามเหลี่ยมสามจีน ให้ฟังครับ
The Chinese Triangle of Mainland China, Hong Kong, And Taiwan

ตอนนี้สถานการณ์ คือ สามสงครามของจีน >> สงครามจิตวิทยา, สงครามการโฆษณาสร้างความเชื่อ และสงครามกฎหมายของจีน เรียกว่า Three Wars

หากจีนคิดแบบ Rational แบบที่จีนเคยทำ ตั้งแต่ยุคสงครามสามก๊ก อาจเกิดสงครามสั่งสอนบ้าง แต่จำกัด

เพราะจีนจะระวังอันตรายจากนิ้วของทศกัณฐ์ชี้ผิดทางถึงตาย

จะจบลงด้วยแนวคิดของสุมาอี้ รอ รอ

'โครงการนิทรรศการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ 9'

วันที่ 2 สิงหาคม 2565 นางสาวนงลักษณ์ ยะสูงเนิน ผู้อำนวยการกองพัฒนาสังคมกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ร่วมพิธีเปิดงานและเป็นประธาน “โครงการนิทรรศการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ 9”จัดโดย ศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง อำเภอแม่ออน ตามรอยพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่

นางสาวนงลักษณ์ ยะสูงเนิน ผู้อำนวยการกองพัฒนาสังคมกลุ่มเป้าหมายพิเศษ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาด้วยน้ำพระเมตตาต่อเหล่าพสกนิกรของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร รัชกาลที่ 9 จึงทำให้เกิดโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพงฯ เป็นระยะเวลา 45 ปี ล่วงมาแล้ว ถึงแม้พระองค์จะทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว สมาชิกโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพงฯ ยังคงรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และยังดำเนินตามพระยุคลบาทและสืบสานพระราชปณิธานในในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างมิมีเสื่อมคลาย

'นักวิชาการ' จับตาจีนเอาคืน!! หลัง 'เพโลซี' กลับ คาดจีนอาจบุกยึดเกาะรอบไต้หวันตั้งเป็นฐานทัพถาวร

'กมล' ให้จับตาวิกฤตไต้หวัน ชี้แทบไม่ต่างจากเหตุการณ์ก่อนเกิดสงครามยูเครน คาดหลังเพโลซีกลับประเทศจีนอาจบุกยึดเกาะรอบ ๆ ไต้หวันตั้งเป็นฐานทัพถาวร

03 ส.ค. 2565 นายกมล กมลตระกูล กรรมการนโยบายสภาองค์กรของผู้บริโภค และนักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “วิกฤติไต้หวัน: จับตาจีนเอาคืน” มีเนื้อหาว่า สถานการณ์เผชิญหน้ากันกรณีนาง Pelosi ประธานสภาคองเกรสอเมริกันเหยียบเท้าไปเยือนไต้หวัน และประชุมหารือด้านความมั่นคงกับผู้นำไต้หวัน ไม่ต่างกับเหตุการณ์ก่อนเกิดสงครามยูเครน

นั่นคือ มีฝ่ายหนึ่งตระบัดสัตย์ (กรณียูเครน นาโตและสหรัฐฯละเมิดสัญญาเมืองมินส์) กรณีไต้หวัน ที่ยูเอ็น และสมาชิก 188 ประเทศรวมทั้งอเมริการับรองว่ามีจีนเดียวที่มีประชากร 1.2 พันล้านคน

การไปเยือนและประชุมกับผู้นำไต้หวันหารือกันในด้านความร่วมมือกันทางทหารจึงเท่ากับการไม่ยอมรับมติขององค์การสหประชาชาติว่ามีจีนเดียว

ผู้ที่ติดตามสถานการณ์โลก โดยเฉพาะนโยบายทางการทูต การเมือง และการทหารตั้งแต่อดีตมาคงจะคุ้น ๆ กับนโยบาย "สงครามสั่งสอน" เมื่อจีนถูกท้าทาย ไม่ว่าจะกรณีสงครามชายแดนกับอินเดีย สงครามชายแดนกับเวียดนาม และเมื่อไม่นานมานี้ การสั่งสอนฮ่องกงอย่างเรียบร้อยจากการปกครองแบบ 1 พื้นที่ 2 ระบบ คล้าย ๆ กับไต้หวัน จนบัดนี้ฮ่องกงกลายเป็นพื้นที่ 1 ระบบ 1 พื้นที่ของจีน เช่นเดียวกับทิเบต

โฆษก ตร. เผย 'ผบ.ตร.' ชมเชย ตำรวจ สน.บางซื่อ ช่วยเหลือ 2 เด็กชาย ถูก 'วิน จยย.ผี' ลวงกรรโชกทรัพย์ 'รอง ผกก.ป.ฯ' ติดตามดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมช่วยออกค่าใช้จ่าย เด็กชายประทับใจ คิดไม่ถึงเจอตำรวจแบบนี้


กรณีตำรวจ สน.บางซื่อ นำโดย พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ ได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 พี่น้อง ที่ถูกผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน ใช้อุบายกรรโชกทรัพย์ ขณะจะเดินทางไปสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อกลับบ้านเกิด ที่ จว.เชียงใหม่ โดยตำรวจ สน.บางซื่อ ได้สืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 คน พูดคุยทำความเข้าใจ และปลอบใจครอบครัวของเด็ก มอบเงินค่าโดยสารรถประจำทาง บริการรับ – ส่งเพื่อให้คลายกังวลเรื่องความปลอดภัย และดูแลค่าอาหาร ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ จนสร้างความประทับใจให้กับเด็กทั้ง 2 คน และครอบครัว เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ต่อเนื่อง วันที่ 1 สิงหาคม 2565

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยถึงกรณีนี้ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ชมเชยการปฏิบัติงานของตำรวจ สน.บางซื่อ ที่ใส่ใจทุกข์ร้อนของประชาชน ให้ความช่วยเหลือเด็กชายทั้ง 2 คน อย่างเต็มที่ ทั้งการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และยังสละเงินส่วนตัว เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้กับเด็กชายทั้ง 2 คนที่ตกเป็นเหยื่อ ช่วยให้คลายความกังวลใจ และยังสื่อสารทำความเข้าใจเรื่องการอำนวยความยุติธรรมให้กับเด็ก รวมทั้งครอบครัว ซึ่งทำให้ประชาชนมีความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และเชื่อมั่นในการอำนวยความยุติธรรมของตำรวจ

ด้าน พ.ต.ท.วรภัทรฯ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ขณะนำกำลัง ดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงวันหยุดยาว ระหว่าง 28 – 31 กรกฎาคม 2565 ได้พบ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี สองพี่น้อง ชาว จว.เชียงใหม่ เข้ามาร้องทุกข์ต่อตำรวจ ณ จุดแจ้งเหตุประจำสถานีขนส่งหมอชิต โดยเด็กเล่าว่าถูกชายไม่ทราบชื่อ อ้างตัวเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดนัดจตุจักร ออกอุบายพูดจาหว่านล้อมให้ขึ้นรถจะไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต คิดราคาไม่แพง 40 – 50 บาท จึงนั่งซ้อนกันไป โดยเด็กขอให้แวะที่ศูนย์การค้าใกล้ ๆ ชายที่อ้างเป็นวินฯ ก็แจ้งว่ารอได้ เมื่อเด็กทั้งสองกลับออกมาจากศูนย์การค้า ชายที่อ้างเป็นวินฯ ก็พาไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต แต่กลับขอคิดค่าโดยสาร 590 บาท โดยคำนวณตามเวลาที่รอ เมื่อเด็กไม่มีให้ ชายดังกล่าวข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินจะทำร้ายร่างกาย และเรียกตำรวจ เด็กชายทั้ง 2 จึงกลัว ให้เงินไป 270 บาท ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดที่มีติดตัว และเงินติดในบัญชีธนาคาร

รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ กล่าวว่า เมื่อทราบพฤติการณ์ผู้ก่อเหตุ จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในทันที สืบสวนจากเลขบัญชีที่เด็กโอนเงินให้ จึงทราบตัวผู้ก่อเหตุในทันที คือนายขวัญชัยฯ ด้านเด็กทั้งสอง ยืนยันจะเดินทางกลับบ้านที่ จว.เชียงใหม่ เพราะซื้อตั๋วโดยสารไว้แล้ว จึงพาไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ที่ สน.บางซื่อ และนัดหมายให้มาดำเนินคดีภายหลัง ซึ่งขณะนั้นเด็กทั้งสองคน อิดโรย และไม่มีเงินติดตัว ตนจึงมอบเงินให้ 500 บาท เป็นค่าอาหารระหว่างเดินทางกลับบ้าน ระหว่างเด็กเดินทางตนได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นระยะ เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่องก็ไม่สบายใจ เกรงว่าเด็กจะได้รับอันตราย จึงพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก และครอบครัว โดยเด็กต้องการคืนความยุติธรรมให้ตนเองตามกฎหมาย

ตร. เตือน รวม 5 มุกเด็ด SMS มิจฉาชีพ รู้ไว้ ปลอดภัยกว่า

วันที่ 3 ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น
ปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ยังคงมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้การส่งข้อความสั้น หรือ SMS ในการหลอกลวงเหยื่อให้กดลิงก์หลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล หลอกเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หลอกให้กู้เงินนอกระบบ  หรือหลอกให้เล่นพนันออนไลน์ เป็นจำนวนมาก 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทราบถึงกลโกงและวิธีการของกลุ่ม SMS หลอกลวง เพื่อให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทัน และสามารถป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย โดยจากการตรวจสอบพบว่าแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงผ่าน SMS มีดังนี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน หลัง กอนช. ประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน

ตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าขณะนี้ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ส่งผลให้ทั่วทุกภาคมีฝนตก และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศฉบับที่ 24/2565 ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉบับพลัน ในช่วงวันที่ 2-10 ส.ค.2565 

วันนี้ (2 ส.ค. 65) พล.ต.ต.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในสถานการณ์ ดังกล่าว จึงสั่งการให้ บช.น., ภ.1-9 และหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ดังนี้
1. เตรียมแผนเผชิญเหตุ และพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
2. จัดชุดปฏิบัติการต่าง ๆ พร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ และยานพาหนะ เช่น ชุดขนย้ายประชาชนและสิ่งของ ชุดอำนวยความสะดวกเส้นทางสัญจร และชุดสายตรวจ เป็นต้น 
3. ให้ผู้บังคับบัญชาลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการให้การช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน หรือมีเหตุการณ์รุนแรง ทั้งในส่วนของประชาชนในพื้นที่ และหน่วยงานของตำรวจเอง
4. ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่

 

'อ.ปิติ' ดึงสติคนไทย ต้องไม่เป็นแฟนกีฬาบ้าคลั่ง ชี้ 'การเมืองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ' ไม่ใช่เชียร์มวย

รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก 'Piti Srisangnam' ระบุว่า...

ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน จะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

Status quo ที่สหรัฐคิดแบบ Strategic Ambiguity และจีนคิดแบบ Strategic Patience จนเราได้เห็นสันติภาพแบบมีกระทบกระทั่งกันบ้างตลอดมา แต่ก็สามารถทำการค้าการลงทุนระหว่างกันได้ ตั้งแต่ทศวรรษ 1970 กำลังจะเปลี่ยนไป

"การเดินทางเยือนไต้หวันของนาง Pelosi คือการ ทำลายล้างรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน และเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดต่อกองกำลังแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน"

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ประนาม โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ + รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม + คณะกรรมการกลางสภาประชาชนจีน + คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าด้วยกิจการไต้หวัน + คณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน Xie Feng เรียก เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง Nicholas Burns เข้าพบ เพื่อ แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการเยือนไต้หวันของ Pelosi และกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งเลวร้ายมากและผลที่ตามมานั้นร้ายแรงมาก ฝ่ายจีนจะไม่นั่งเฉย ๆ

สถานทูตจีนในไทย จวกสหรัฐฯ ใช้ไต้หวันในการควบคุมจีน บิดเบือนทำลายหลักการประเทศจีนเดียวอย่างต่อเนื่อง

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า...

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาได้เดินทางเยือนไต้หวันของประเทศจีน โดยไม่สนใจการคัดค้านอย่างรุนแรงและการแสดงท่าทีอย่างจริงจังของฝ่ายจีน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนหลักการประเทศจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้ง 3 ฉบับอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างร้ายแรง เป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีนอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง และก็เป็นการส่งสัญญาณผิดพลาดอย่างร้ายแรงไปยังกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน สำหรับเรื่องนี้ ฝ่ายจีนคัดค้านอย่างเด็ดขาดและขอประณามอย่างรุนแรง ได้แสดงท่าทีอย่างจริงจังและประท้วงอย่างรุนแรงต่อฝ่ายสหรัฐฯ

ในโลกนี้มีแค่ประเทศจีนเดียว ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่แบ่งแยกไม่ได้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงแต่รัฐบาลเดียวที่สามารถเป็นตัวแทนของทั่วประเทศจีน มติ 2758 ของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1971 ได้มีการรับรองในเรื่องนี้อย่างชัดเจน นับตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 เป็นต้นมา มีทั้งหมด 181 ประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนบนพื้นฐานหลักการประเทศจีนเดียว ซึ่งเป็นฉันทามติทั่วไปของประชาคมโลกและหลักการขั้นพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงกรณีเกิดเหตุคนร้ายลักลอบวางระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 ราย ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงกรณี เกิดเหตุคนร้ายลักลอบวางระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 ราย ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี 

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ (2 ส.ค. 65) เวลาประมาณ 07.55 น. โดย สภ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ อส.ชคต.รภป. ครูโรงเรียนบ้านกระจูด อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี เบื้องต้นทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อทำการรักษาตัว จากนั้นพนักงานงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุด eod เจ้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อพิสูจน์ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โดยในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดยะลาในหลายจุดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างการเร่งรัดพิสูจน์ทราบถึงตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ต่อไป 

'โฆษก สพฐ.ตร.' ห่วงประชาชน จากเหตุไฟไหม้ ยันป้องกันได้ วอนหมั่นตรวจเช็ค-บำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สพฐ.ตร.)

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก สพฐ.ตร.) กล่าวว่าในช่วงนี้มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง สร้างความเสียหายและความสูญเสีย อย่างเช่นเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนบ่อนไก่ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 30 หลัง ส่วนคอนโดบริเวณใกล้เคียงก็ได้รับผลกระทบจากความร้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตปทุมวันและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ได้รับความเสียหายในเบื้องต้น โดยการตั้งโต๊ะรับแจ้งความในพื้นที่เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน หรือย้อนกลับไปกับเหตุสลดกลางดึกของคืนวันที่ 21 พฤษภาคม 2565 เกิดเพลิงลุกไหม้บ้านเลขที่ 28/57 หมู่ 6 ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม ทำให้ นาง กาณต์รวี รวงผึ้ง อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิตพร้อมลูกหลานวัย 1,5, และ 12 ปี รวม 4 ศพ  นั้น หลาย ๆ เหตุการณ์จากการตรวจพิสูจน์ของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พบว่าสาเหตุมักเกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือสายไฟชำรุด จากการใช้งานมานาน และขาดการบำรุงรักษา

ด้าน พ.ต.อ.หญิง ศิริประภา รัตตัญญู นวท.(สบ๔) กสก.พฐก. กล่าวว่าเมื่อได้รับการร้องขอจากพนักงานสอบสวนให้ไปร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ จะมีหลักในการทำงานด้วยการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ในหัวข้อหลัก ๆ คือ
1. สถานการณ์เพลิงไหม้ขณะนั้น เพลิงสงบหรือยัง,ควันยังมีมากหรือไม่ เป็นต้น 
2. มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่
3. สถานที่เกิดเหตุเป็นอะไร เช่น บ้าน ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ อาคารสูง ชุมชน โรงงาน ฯลฯ
4. ความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุก่อนเข้าตรวจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top