Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

ผู้ดีเซ็ง!! 'ลิซ ทรัสส์' ขึ้นเป็นนายกฯ ไม่เชื่อน้ำยาแก้ปัญหาค่าครองชีพ

ชาวสหราชอาณาจักร ดูเหมือนจะไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่กับการที่ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสำนักโพล YouGov ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (5 ก.ย.)

ผลสำรวจความคิดเห็นของ YouGov พบว่า มีประชาชนในสหราชอาณาจักรมากกว่าครึ่งที่บอกว่ารู้สึกผิดหวังหลังได้รู้ว่า ทรัสส์ ได้รับเลือกจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟให้เป็นผู้นำคนใหม่ พร้อมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมตรี และจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และ 1 ใน 3 ระบุ "รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก" ต่อแนวโน้มดังกล่าว

มีเพียงแค่ 4% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ยินดีต่อข่าวนี้ โดยบอกว่ารู้สึก "พึงพอใจมาก" ที่ได้เห็น ทรัสส์ ณ บ้านพักเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง และอีก 18% ระบุรู้สึกพอใจพอสมควรต่อผลลัพธ์นี้

ผู้คนส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร (67%) ดูเหมือนมีความเคลือบแคลงสงสัยโดยเฉพาะต่อความสามารถของทรัสส์ ในการจัดการกับวิกฤตค่าครองชีพที่พุ่งสูง ประเด็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจของชาวสหราชอาณาจักรมากที่สุด อ้างอิงจากผลสำรวจของ YouGov หนล่าสุด

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 40% บอกว่าไม่มีความเชื่อมั่นใดๆ เลยในเรื่องเกี่ยวกับศักยภาพของนายกรัฐมนตรีรายนี้ ในการจัดการกับวิกฤตดังกล่าว

ทรัสส์ เอชนะ ริชิ ซูนัค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในศึกเลือกตั้งผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ หลังจากเธอได้รับแรงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ 81,326 เสียง ส่วน ซูนัค ได้ 60,399 เสียง อย่างไรก็ตาม YouGov ระบุว่า เสียงสนับสนุนของเธอในบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งคอนเซอร์เวทีฟนั้นดูจะต่างออกไป

หนาวนี้สะท้าน!! หลังราคาก๊าซในยุโรปพุ่ง 30% เหตุรัสเซียปิดท่อ 'นอร์ดสตรีม 1' อย่างไม่มึกำหนด

ราคาก๊าซในสหภาพยุโรปพุ่งกระฉูด ภายหลังรัสเซียปิดท่อส่ง ‘นอร์ดสตรีม 1’ อย่างไม่มีกำหนด หลังรัสเซียแจ้งว่า เกิดการรั่วไหล่ในอุปกรณ์ท่อส่ง

ราคาก๊าซในอียูพุ่งขึ้นอีก 30% หลังรัสเซียบอกว่า ท่อส่งก๊าซหลักไปยุโรปตัวหนึ่งจะต้องปิดอย่างไม่มีกำหนด ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนและการปันส่วนก๊าซในสหภาพยุโรปช่วงฤดูหนาว โดยราคาก๊าซพุ่งขึ้นเป็น 272 ยูโร หรือราว 9,881 บาทต่อ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง ภายหลังรัสเซียแจ้งว่า เกิดการรั่วไหล่ในอุปกรณ์ท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ทำให้ต้องปิดท่อต่อไป หลังหยุดบำรุงรักษา 3 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ก่อนหน้านี้ ยุโรปกล่าวหารัสเซียใช้การส่งพลังงานเป็นอาวุธ ตอบโต้ชาติตะวันตกที่คว่ำบาตรรัสเซีย กรณีบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่รัสเซียบอกว่าชาติตะวันตกทำสงครามเศรษฐกิจและคว่ำบาตร เป็นตัวการขัดขวางปฏิบัติการท่อส่งก๊าซ

ทั้งนี้ ท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ซึ่งส่งก๊าซไปเยอรมนี ในปริมาณก๊าซแค่ 20% ก่อนที่รัสเซียหยุดส่งชั่วคราว เพื่อบำรุงรักษาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การที่รัสเซียส่งก๊าซไปยุโรปลดลงทำให้อียูต้องแสวงหาแหล่งพลังงานทางเลือก เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้หลายประเทศในสหภาพยุโรปมีแผนฉุกเฉิน เพื่อนำไปสู่การปันส่วนพลังงาน และมีโอกาสสูงที่เข้าสู่ภาวะถดถอย

‘เสี่ยเฮ้ง’ หารือเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลชิงกิ ถกขยายตลาดแรงงานไทยในฟินแลนด์ให้มากขึ้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง), นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน, นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวชวนาถ ทั่งสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลชิงกิ สาธารณรัฐฟินแลนด์ ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟินแลนด์เพื่อหารือข้อราชการด้านแรงงาน ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลชิงกิ ในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่…

>> การผลักดันให้แรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ได้มีสัญญาจ้างงานกับนายจ้าง และได้รับการคุ้มครอง สิทธิประโยชน์ และสวัสดิการตามกฎหมาย 
>> สนับสนุนด้านการประสานความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ และกระทรวงแรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกลไกคณะทำงาน (Working Group) ร่วมกัน 
>> การผลักดันให้แรงงานไทยที่ไปทำงานในฟินแลนด์ได้รับความคุ้มครองและสวัสดิการตามกฎหมาย ทั้งแรงงานมีทักษะและแรงงานเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาล 
>> การผลักดันให้แรงงานไทยไปทำงานในฟินแลนด์ และขยายตลาดแรงงานไทยในฟินแลนด์มากขึ้น 
>> และการมีคณะทำงานร่วมกันระหว่างสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮลซิงกิ กับกระทรวงแรงงานในการบริหารจัดการและประสานงานเรื่องแรงงานไทยในฟินแลนด์

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ รับโล่ประกาศเกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่น งาน “5 กันยา วันสถาบันพระปกเกล้า”

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้าได้จัดงาน “5 กันยา วันสถาบันพระปกเกล้า” ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันสถาปนาสถาบันพระปกเกล้า โดยได่รับเกียรติจาก ฯพณฯ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธี และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับบุคคลที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี 2565

โดยในงานนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะศิษย์เก่าของสถาบันพระปกเกล้า ได้เดินทางมาร่วมงานและรับโล่ประกาศเกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่นของสถาบันประจำปี 2565 จากการที่มีผลงานดีเด่นในการปฏิบัติหน้าที่ จนได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ อาทิเช่น รางวัลต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในปี 2559 รางวัลข้าราชการดีเด่น และ เกียรติยศจักรดาว ในปี 2560 เป็นต้น 

'สุภาพ' ร่ายกลอนถึง 'นิพนธ์' ไขก๊อก-พร้อมสู้คดีในฐานะปชช.

สุภาพ คลี่ขจาย นักข่าวอาวุโส นักจัดรายการวิทยุ โทรทัศน์ชื่อดัง แต่งกลอน ถึงการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ของ 'นิพนธ์ บุญญามณี' ในวันที่คดีขึ้นสู่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อใช้เวลาในการเตรียมการสู้คดี และไม่อยากใช้เวลาราชการไปทำงานส่วนตัว

ผบ.ตร. พานิสิตจุฬาฯ โครงการ Special LawLAB 'การสืบสวนสอบสวนยุค 5G' เรียนรู้การใช้อาวุธปืน 'พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ' โชว์ทักษะยิงปืนสุดแม่น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 กันยายน 2565 ที่สนามยิงปืนฝึกยุทธวิธีในอาคาร พร้อมอุปกรณ์ กองบังคับการสายตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ ตำรวจ 191 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. นำนิสิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโครงการ Special LawLAB "การสืบสวนสอบสวนยุค 5G"  นำร่องศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง หรือ Young Lawyers - Police Engagement Pilot Project เข้าฝึกทักษะการใช้อาวุธปืน โดยมีทีมครูฝึกจาก บก.สปพ. ทำการสอนการยิงปืนแบบต่างๆ และให้นิสิตฯ ได้ยิงปืนจริงด้วย ภายใต้การดูแลควบคุมของครูฝึกอย่างใกล้ชิด  

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ได้นำคณะผู้บริหารคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ทดสอบยิงปืน โดย ผบ.ตร.ได้ทดสอบยิงปืนชนิดต่างๆ อาทิ อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. ปืน Sig MCX 300 black out ทดสอบการยิงแม่นยำ การยิงในสภาวะเเสงน้อย โดย ผบ.ตร.ยิงเข้าเป้าแม่นยำทุกนัด 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ กล่าวว่า หลังจากน้องๆ นิสิตฯ ในโครงการได้ทำกิจกรรมเรียนรู้การทำงานของตำรวจมาแล้วเกือบ 1 สัปดาห์ ทั้งงานสอบสวน สืบสวน จราจร ได้เห็นชีวิตจริงของตำรวจแล้ว วันนี้พามาเรียนรู้เรื่องการใช้อาวุธปืน

'อั๋น ภูวนาท' รีวิวองุ่นที่แพงที่สุดในโลก พวงละ 1.9 แสนบาท บอกต้องแย่งประมูลถึงจะได้กิน ทั้งปีมีแค่ 2,400 พวง

เมื่อไม่นานมานี้ พิธีกรชื่อดังอย่าง อั๋น ภูวนาท ได้อัดคลิปวิดีโอรีวิวองุ่นที่แพงที่สุดในโลก ราคาพวงละ 190,000 บาท และลูกละ 7,700 บาท ซึ่งทั้งปีมีแค่ 2,400 พวงเท่านั้น ต้องแย่งประมูลเท่านั้นถึงจะได้กิน

โดยเจ้าตัวได้เผยว่า “อาสาชิมให้ไม่ต้องเกรงใจ พวงละ 190,000 ลูกละ 7,700 เอง ขอบคุณ @premiumfruit ที่แย่งประมูลมา ทำให้คนไทยมีโอกาสได้ชิม เพราะทั้งปีมีแค่ 2,400 พวงเท่านั้น อร่อยเหาะมันเป็นแบบนี้นี่เอง #เราเป็นคนเรียบๆ #อั๋นจ๋าพอลพีท”

พร้อมเล่าต่อว่า “มาแล้ว ได้แล้ว ปลาบปลื้มที่สุด นี่คือองุ่นที่แพงที่สุดในโลก 1 พวงจะมี 30 ลูกเท่านั้น 1 ปี ออกผลแค่ 3 เดือน พวงนี้ 190,000 บาทครับ ปีก่อนสั่งมาแล้ว ปีนี้สั่งมาอีก อันนี้เป็นองุ่นอิมพอร์ตมาจากจังหวัดอิชิกะวะ ประเทศญี่ปุ่น นี่คือองุ่นที่แพงที่สุดในโลก ชื่อว่า รูบี้ โรมาน (Ruby Roman) ถามว่าแพงแค่ไหนราคาพวงละ 190,000 บาท เป็นสายพันธุ์ที่รัฐบาลสนับสนุน ทั้งปีมีแค่ 2,400 พวง เท่านั้น ผ่านการพัฒนามากว่า 14 ปี”


ที่มา : https://www.amarintv.com/news/detail/146786

เพจดัง ไขข้อเท็จจริงเวนคืนที่ทำรถไฟความเร็วสูง หลังมีคนปั่นกระแสค้านเวนคืนที่สร้างสถานีโคราช

เพจเฟซบุ๊ก ‘โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure’ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีมีการปั่นกระแสคัดค้านการเวนคืนที่ดินบริเวณพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง สถานีนครราชสีมา โดยระบุว่า 

ขอบเขตการเวนคืน ที่คุณอาจจะเข้าใจผิด!!!

ขอบเขตการเวนคืน มีไว้เพื่อสำรวจพื้นที่ ก่อนการเวนคืนจริง!!! ไม่ใช่เวนคืนทั้งหมด!!! อย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้!!!

โดยแอดมินเพจ ระว่า บอกตามตรง ว่าผมเห็น Content จากทางโคราช (ขอไม่อ้างถึงเพจ) มาหลายวัน แล้วเหนื่อยใจจากความไม่เข้าใจ (หรือตั้งใจปั่นกระแสคัดค้านก็ไม่ทราบ) 

โดยการเอาภาพแผนผังขอบเขตการเวนคืนเพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ทาบกับ ภาพถ่ายดาวเทียม จาก Google Map แล้วมาให้ดูว่ามีการเวนคืนกว้างถึง 800 เมตร 

ซึ่งมีการทาบไปบนพื้นที่ในเขตพื้นที่หนาแน่น ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีการตกใจ และทักมาหาผม ถามว่าบ้านเค้าจะโดนเวนคืนมั้ย?? ทำไมต้องเวนคืนมากขนาดนั้น?? และก็ด่าโครงการรถไฟความเร็วสูง มากมาย บางคนลามไปถึงจะเตรียมประท้วงคัดค้านการเวนคืนกันแล้ว

ผมเลยขอมาให้ข้อมูลที่ “แท้จริง” กับทุกคนก่อนว่า อันนี้เป็นแนวเขตเพื่อ “สำรวจ” ไม่ใช่เวนคืนทั้งหมด การที่ต้องออกพื้นที่มามากกว่าการใช้งานจริงๆ เพื่อไม่ต้องให้ขอมติครม. และ ออก พรฏ. บ่อยๆ (ซึ่งออกยากมาก) ดังนั้นต้องทำให้กว้าง เพื่อความสะดวกในการปรับแก้ไข หรือเวนคืนเพิ่มเติมตามความจำเป็นของโครงการ เท่านั้น!!!!

มาดูรายละเอียดพื้นที่สถานีรถไฟความเร็วสูงนครราชสีมา (โคราช) “จริงๆ” ตามแบบกันก่อนครับ

ตำแหน่งสถานีใช้พื้นที่สถานีเดิม และเขตพื้นที่ของการรถไฟเดิม โดยสร้างเป็นสถานี 3 ชั้น

ซึ่งสถานีนครราชสีมา จะมีลักษณะคล้ายกับสถานีบางซื่อรวมรถไฟทั้ง 2 ระบบ คือรถไฟทางไกล และรถไฟความเร็วสูง โดยจะมี 3 ชั้น 

ชั้นที่ 1 โถงพักรอคอย และทางเข้าอาคาร

ชั้นที่ 2 ชั้นจำหน่ายตั๋ว และชานชลารถไฟทางไกล

ชั้นที่ 3 ชานชลารถไฟความเร็วสูง

สถานที่ตั้งสถานีใหม่อยู่บริเวณย่านสถานีรถไฟนครราชสีมาในปัจจุบัน (ขยับไปทางชุมทางถนนจิระประมาณ 160เมตร) และมีการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมเล็กน้อย

ภาพ Render ของสถานีนครราชสีมา
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/629142004190949/?d=n

ซึ่งในภาพผมก็ได้เอาผังสถานีที่จะมีการใช้งานจริง รวมถึงการเวนคืน มาให้อ่านแล้วลองพิจารณาดูครับ ว่าเค้าจะเวนคืนเต็ม 800 เมตร ตามเอกสารจริง ๆ มั้ย???

ไปดูแผนผังจริงได้ที่สถานีรถไฟนครราชสีมา (โคราช)

รายละเอียดการเวนคืน ตาม พรฏ. เวนคืน

โดยตาม พรฏ. เวนคืนเล่มนี้ก็ได้เขียนจุดประสงค์ การเวนคืนไว้

มาตราที่ 3 “ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้าง ทางรถไฟ เครื่องประกอบทางรถไฟ ทาง และสิ่งจำเป็นอื่นตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา)”

มาตราที่ 6 ให้เริ่มต้นเข้า”สำรวจ” ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดิน ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตราที่ 7 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน

หมายเหตุ ท้าย พรฏ. เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็ว แก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค “สมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน”ในท้องที่ดังกล่าว “เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทาการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์” ที่ต้องได้มา โดยแน่ชัด

'ทิพานัน' เตือน อย่าแลก 'คนละครึ่งเฟส 5' เป็นเงินสด ชี้!! ระบบตรวจสอบได้หมด แถมมีโทษหนักถึงขั้นติดคุก

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าระหว่างวันที่ 1-4 ก.ย. มีผู้ใช้สิทธิสะสม 14.24 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 5,885.1 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 2,981.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 2,903.3 ล้านบาท 

ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบอย่างใกลชิด ไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมและพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต ให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม แต่พบว่ามีกลุ่มบุคคลที่ใช้วิธีการเดิม คือการแลกสิทธิจากโครงการคนละครึ่งเป็นเงินสด โดยพบว่ามีรายงานการโฆษณาในช่องทางทวิตเตอร์ ช่องทางกลุ่มเฟซบุ๊ก เชิญชวนให้ผู้สนใจนำสิทธิมาแลกรับเป็นเงินสด โดยจะมีการหักค่าหัวคิว ในอัตรา 20-40 บาท จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนและร้านค้าอย่าแลกสิทธิเด็ดขาด เพราะระบบตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมด และที่สำคัญการแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด ถือเป็นการกระทำที่ทุจริตผิดกฎหมาย เข้าข่ายความผิดฐาน 'ฉ้อโกง' เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้อื่น ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยทุจริต ทำให้ได้ประโยชน์ทางทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกคือรัฐ มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341

“รัฐบาลใช้ระบบตรวจจับและตรวจสอบการโอนที่ผิดปกติของเงินคนละครึ่ง เพื่อป้องกันและมีมาตรการลงโทษแน่นอน ทั้งนี้รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ อย่างซื่อสัตย์สุจริต ฉะนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนและร้านค้าระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นอาจได้ไม่คุ้มเสีย” น.ส.ทิพานัน กล่าว

งานประชุมวิชาการประจำปี 2565 ฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย

ท่ามกลางสังคมในยุคของการเปลี่ยนแปลงของประชากร การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารอย่างไร้พรมแดน ตลอดจนสถานการณ์ของโรคระบาด covid-19 และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ทำให้ทุกองค์กร ทุกวิชาชีพ ต่างต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอด เพื่อความมั่นคง และเกิดความยั่งยืน จำเป็นต้องมีการพัฒนาให้เกิด  Digital transformation ทั้งด้านการบริหาร การบริการ การศึกษา และการสร้างสรรค์นวตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ตระหนักเห็นถึงปัญหาดังกล่าว ที่มีความสำคัญและท้าทายสำหรับพยาบาลในปัจจุบันและอนาคต

จึงได้จัดประชุมวิชาการพยาบาล ประจำปี 2565 หัวข้อ NURSING IN THE DIGITAL EDGE ในวันที่ 30 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้พัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ ทักษะการดูแลผู้ป่วยโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการการพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง เข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงรวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัย รูปแบบการประชุมเป็นการบรรยายและการอภิปราย โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และ สถาบันต่าง ๆ ผ่านระบบ Hybrid Meeting

โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมเป็นพยาบาลวิชาชีพทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ทั่วประเทศ จำนวน 554 คน เป็นพยาบาลที่ประชุม on site จำนวน 433 คน และแบบ on line จำนวน 121 คน ในระยะเวลาการประชุมทั้ง 2 วัน ผู้เข้าประชุมได้รับองค์ความรู้อย่างมากมายทั้ง หัวข้อ Digital transformation ทั้งในระดับ Healthcare system and nursing service , PDPA for healthcare , Metaverse hospital sharing ,Digital in continuing professional development and lifelong learner ทั้งหมดนี้จะส่งเสริมให้พยาบาลมีองค์ความรู้ด้าน High Technology แต่ศาสตร์ทางการพยาบาลที่ทุกคนไม่ควรลืมและละทิ้งโดยเด็ดขาดคือ High Touch

จึงนำมาเป็นหัวข้อสุดท้ายในการประชุมวิการพยาบาลครั้งนี้ ถึงแม้การประชุมจะเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม แต่จากข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมประชุม จะเป็นแรงผลักดันให้ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย จะไม่สิ้นสุดในการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลที่เป็นต้นแบบ และยินดีที่จะนำเสนอ แบ่งปันองค์ความรู้ดังกล่าวให้แก่พยาบาลทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้สมกับคำว่า นักรบชุดขาว ที่ปวารณาตัวจะต่อสู้และผ่าฟันต่อการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่เลวร้ายต่างๆ สามารถนำศาสตร์และศิลป์ทั้งด้าน High Touch และ High Technology มาให้การพยาบาล เพื่อให้ประชาชนทุกคน มี สุขภาวะที่ดี อย่างยั่งยืนตลอดไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top