Wednesday, 25 June 2025
NEWS FEED

พิธีสวนสนามเนื่องในโอกาสรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ และการมอบการบังคับบัญชา

ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ ให้ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็น ผู้บัญชาการทหารอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นั้น 

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565) กองทัพอากาศ ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระหว่าง พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ซึ่งเกษียณอายุราชการ กับ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ (ท่านใหม่) ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ถนนพหลโยธิน เขตสายไหม กรุงเทพ ฯ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศ ข้าราชการทหารอากาศ ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธี 

โดยพลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ส่งธงประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ และแฟ้มเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้แก่ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ (ท่านใหม่) เพื่อแสดงถึงการส่งมอบหน้าที่และการบังคับบัญชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสนี้ กองทัพอากาศได้จัดกำลังพลสวนสนามเพื่อเป็นเกียรติ จำนวน 4 กองพัน ประกอบด้วย 

- กองพันที่ 1 จัดกำลังพลจาก กรมนักเรียนนายเรืออากาศ รักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช

- กองพันที่ 2 จัดกำลังพลจาก กองนักเรียน โรงเรียนจ่าอากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ

- กองพันที่ 3 จัดกำลังพลจาก กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน

- กองพันที่ 4 จัดกำลังพลจาก กรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน

นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสวนสนามทางอากาศ โดยจัดอากาศยานของกองทัพอากาศ ทำการบินผ่านพิธี ดังนี้

ห้วงเวลาที่ 1 ประกอบด้วย หมู่บิน FINALE FLYING ซึ่งเป็นการประกอบกำลังของอากาศยานจำนวน 10 เครื่อง 
- เครื่องบินฝึกแบบที่ 2 (T-50) จำนวน 3 เครื่อง จากฝูงบิน 401 กองบิน 4 
- เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ก (F-16) จำนวน 3 เครื่อง จากฝูงบิน 403 กองบิน 4 
- เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (GRIPEN) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7

ห้วงเวลาที่ 2 ประกอบด้วย อากาศยานบินผ่านพิธีสวนสนาม 
- หมู่บินที่ 1 เครื่องบินฝึกแบบที่ 2 (T-50) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 401 กองบิน 4 
- หมู่บินที่ 2 เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ก (F-16) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 403 กองบิน 4 
- หมู่บินที่ 3 เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (GRIPEN) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7
- หมู่บินที่ 4 เครื่องบินโจมตีธุรการ แบบที่ 2 (AU-23 Peacemaker) จำนวน 3 เครื่อง บินปล่อยควันสีธงชาติ 

ห้วงเวลาที่ 3 ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (GRIPEN) จำนวน 1 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตร พร้อมแนะนำกิจกรรมใหม่ในปี 2566 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรและสื่อมวลชน ที่สนับสนุนและเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการเผยแพร่ข่าวสารขององค์กรให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง ตลอดจนกล่าวถึงผลงานต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และแผนงานที่จะทำในปีต่อไป โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธาน และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมด้วย ณ อาคารวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 

นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวถึงผลงานในปีที่ผ่านมาว่า นอกจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่เป็น Nature Theme Park ที่มีสัตว์ป่าหายากหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงบางสายพันธุ์ก็มีที่นี่แห่งเดียวเท่านั้นแล้ว ในปี 2565 นี้ เรามีการเตรียมพัฒนาแผนการท่องเที่ยวให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เป็นการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเพิ่มกิจกรรมให้เป็นแลนมาร์คใหม่ และที่นำร่องอยู่ในตอนนี้จะเป็นโครงการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกิจกรรม “การปั่นจักรยานชมวิว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” เป็นกิจกรรมปั่นจักรยานในเส้นทางโซนส่วนแสดงสัตว์ savanna safari ตื่นตาตื่นใจชมทิวทัศน์ธรรมชาติ พบกับสัตว์ในทุ่งหญ้า Savanna Safari อาทิ แรด กวาง ม้าลาย ยีราฟ จิงโจ้แดง และฮิปโปโปเตมัส ระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร และกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ก็คือ น้ำพุดนตรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และสูงที่สุดในเอเชีย โดยมีความสูงถึง 30 เมตร มีการแสดง แสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งจัดทำระบบให้มีความทันสมัยกับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น

และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ในปี 2566 คือ โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโลกเสมือนจริง หรือ VR เป็นการรวมกันของโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและการแสดงภาพใหม่ โดยที่วัตถุทางกายภาพและดิจิทัลอยู่ร่วมกัน และโต้ตอบกันแบบ Real Time เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมใหม่, กิจกรรม Cowboy Show เป็นการแสดงเชิงให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคาวบอย เช่น ศิลปะการบังกับม้า และการใช้แส้, กิจกรรม Rapter Flying แหล่งเรียนรู้ศึกษาและการแสดงของนกนักล่าสายพันธุ์ต่างๆ โดยเน้นพฤติกรรมตามธรรมชาติ และความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ เป็นการแสดงสดที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้อย่างใกล้ชิด

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าในปีที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบเนื่องมาจากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 และการปิดประเทศอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หายไป เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเราก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยเน้นย้ำมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันประเทศได้เปิดแล้ว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีเป้าหมายในการพัฒนาการให้บริการให้เป็นไปด้วยความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวอย่างสูงสุด 

โดยมีมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ตามมาตรฐานของ SHA Plus ที่ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2564 จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาท่องเที่ยวในพื้นที่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอีกด้วย
วิภาดา /เชียงใหม่

บิ๊กต่อ ส่งตำรวจทางหลวง จิตอาสา ช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมจาก พายุโนรู พัดถล่มในพื้นที่ภาคอีสาน

วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 08.00 น. พล.ต.ท. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงนครราชสีมา พร้อมด้วย จิตอาสาตำรวจทางหลวงนครราชสีมา จิตอาสาชมรมฮักเขาใหญ่ ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่หมู่ 7 บ้านกุดโง้ง ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ภายหลังเกิดพายุโนรู พัดถล่มในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อวานที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวนกว่า 20 ครัวเรือน ได้รับความเสียหาย ทั้งหมดจึงรีบนำถุงยังชีพ จำนวน 50 ถุง ไปเยี่ยวยาช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมในเบื้องต้น 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อสายธารศรัทธา ลงพื้นที่มอบโลงศพบริจาคแก่วัดที่ขาดแคลนภาคอีสาน และภาคใต้ รวม 5 จังหวัด

ระหว่างวันที่ 24 - 29 กันยายน 2565 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มอบหมายให้นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ฯ จัดทีมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ นำโดย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย รักษาการหัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบโลงศพที่ได้รับจากการทำบุญบริจาค มอบให้กับวัดที่ขาดแคลน รวม 9 แห่ง 5 จังหวัด  ประกอบด้วย 

วัดบ้านพระ วัดหนองตะลุมปุ๊ก อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา  
วัดหนองตาแก้ว อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา  
วัดหัวทำนบ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา  
วัดหนองแวงศรัทธาธรรม อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ 
วัดใหม่สำราญรมย์ อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี 
วัดป่าพรหมนิมิต อำเภอวังหิน วัดบ้านคอกเลข อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ 
และวัดปากน้ำชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร 

รวมจำนวนโลงศพทั้งสิ้น 920 ใบ โดยวัดปากน้ำชุมพร มูลนิธิฯ ได้มอบผ้าดิบ จำนวน 500 ผืน หมวกกุยเล้ย จำนวน 100 ใบ และหมวกสามสี จำนวน 100 ใบ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 755,000 บาท (เจ็ดแสนห้าหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตที่ยากไร้ และผู้เสียชีวิตที่ไร้ญาติ

สำหรับวัด สำนักสงฆ์ และหน่วยงานสาธารณกุศลที่ขาดแคลนโลงศพเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โทร 0-2225-0020 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ในวัน - เวลาราชการ

เชิญชวนพสกนิกรชาวไทย บริจาคโลหิต น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราชตลอดเดือนตุลาคม 2565

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนพสกนิกรชาวไทย “น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช” บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดเดือนตุลาคม 2565

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมของทุกปี มีวันสำคัญที่ปวงชนชาวไทยระลึกถึงทุกปี คือ วันที่ 23 ตุลาคม หรือวันปิยมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงวางรากฐานด้านการศึกษา โปรดให้ตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎรขึ้นเป็นแห่งแรก พระราชกรณียกิจด้านการพยาบาลและสาธารณสุข โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลัง รวมถึงการปกป้องประเทศจากการสงครามและเสียดินแดน และนำความเจริญสู่สยามประเทศ นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สภาอุณาโลมแดง” ขึ้นและทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2436 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “สภากาชาดไทย” จวบจนปัจจุบันนี้ 

อีกวันที่พสกนิกรชาวไทยระลึกถึง คือวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รัก เทิดทูน และเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการแพทย์ ทรงสนับสนุนส่งเสริมงานด้านบริการโลหิต มาอย่างต่อเนื่อง ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร “รังสิตานุสรณ์” เพื่อเป็นอาคารที่ทำการบริการโลหิต และเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2512 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “อาคารศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ” เพื่อใช้เป็นอาคารที่ทำการบริการโลหิตหลังใหม่ 

พิธีเชิดชูเกียรติ!! มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2565 

ที่ห้องราชพฤกษ์ ร้านอาหารครัวบุญเลิศ ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณพร้อมทั้งมอบของที่ระลึกให้แก่ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ภ.จว.สมุทรปราการ ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2565 

พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ที่เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 23 (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565) รวมทั้งสิ้น จำนวน 38 นาย ทั้งนี้ เพื่อเป็นเกียรติและเป็นการตอบแทนในคุณงาม ความดี ของข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ ทุ่มเท สร้างคุณประโยชน์ให้กับหน่วยงานและประเทศชาติมาจนครบวาระการปฏิบัติหน้าที่ 

โดยมี พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ซี่งในปีนี้ได้เกษียณอายุราชการเช่นเดียวกัน พร้อมได้ขึ้นกล่าวแสดงความยินดี แก่ข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ซึ่งในพิธีครั้งนี้มีผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ผู้กำกับการ ทั้ง 15 สถานีร่วมในพิธี ตลอดจนได้รับเกียรติจากนาย สุดใจ จิรยาภากร ประธานที่ปรึกษา กต.ตร จังหวัดสมุทรปราการ คณะกรรมการ ที่ปรึกษา กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยครอบครัวข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ และข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ภ.จว.สมุทรปราการ เข้าร่วมในพิธี

ตร. เตือน เกิดอุบัติเหตุ แล้วหลอกเจ้าหน้าที่ เปลี่ยนตัวคนขับ หนีเป่าเมา หรือหวังหลอกประกัน โทษหนักกว่าที่คิด

วันที่ 30 ก.ย.2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในห้วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีหลายกรณี เมื่อมีอุบัติเหตุรถชนเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ที่แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนละคนกับผู้ขับขี่ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบมักจะพบว่าเหตุที่มีการเปลี่ยนตัวคนขับมักจะมีเหตุมาจาก ผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ผู้ขับขี่ขับขี่ขณะเมาสุรา รถคันที่ขับขี่ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อคนขับ หรืออาจเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงไม่อยากให้ตนเองตกเป็นผู้ต้องหาจากการทำให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ที่คิดจะหลอกลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนที่ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ อ้างว่าตนเอง หรือบุคคลอื่น เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะในขณะเกิดโดยไม่เป็นความจริง เพราะความผิดของท่านจะไม่ได้เพียงข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตาม ป.อาญา มาตรา 137 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ลาดตระเวนออนไลน์รวบอดีตผู้จัดการธนาคารตุ๋นเงินเบี้ยประกันไปสู่กองทุนทิพย์เสียหายกว่า 7 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเหตุเมื่อเดือน เม.ย. 65 ได้เกิดเหตุ อดีตรองผู้จัดการเขตของธนาคารแห่งหนึ่ง ได้อาศัยความคุ้นเคย ที่เคยดูแลเงินกองทุนของลูกค้าครั้งเมื่อยังเป็นผู้จัดการธนาคารได้หลอกลวงลูกค้า(ผู้เสียหาย) โดยใช้ประสบการณ์และความชำนาญจึงปลอมแปลงเอกสารต่าง ๆ  โดยอุปโลกน์ว่าเป็นตัวแทนอิสระในการขายกองทุนของบริษัทไม่มีตัวตนที่ตนเองตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกลวง โดยทำทีหลอกผู้เสียหายให้ซื้อประกันชีวิตและกองทุนต่าง ๆ ซึ่งล้วนไม่มีอยู่จริง ซึ่งตรวจสอบแล้วมีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ราย มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 7,000,000 บาท เพราะเชื่อใจในตำแหน่งหน้าที่การงานของผู้ต้องหา ต่อมาผู้เสียหายได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งศาลแขวงสมุทรปราการ ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว และชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบ ภ.2 ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT ตร. ตามโครงการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ดำเนินการติดตามสืบสวนจับกุมผู้ต้องหารายนี้

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 20.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร (PCT), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชป.5 ศปอส.ตร., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สอบสวน บก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง, ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ รอง สว.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.ภ.2, ส.ต.อ.สรศักดิ์ ด้วงชู, ส.ต.อ.กฤศณัฎฐ์ ปวริศอัศวกุล, ส.ต.ต.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย จนท.ชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT ร่วมกับ ฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ เข้าจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ที่อยู่ 1302 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 811/2565 ลงวันที่ 24 ส.ค.65 โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกง” โดยจับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 1302 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ ในชั้นจับกุม นายกิตติศักดิ์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบปริญญาตรี ด้านนิติศาสตร์ และจบปริญญาโทการบริหาร จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และเข้าทำงานในธนาคารมาตั้งแต่เรียนจบก็เจริญก้าวหน้าในสายอาชีพจนกระทั่งตำแหน่งสุดท้ายคือ รองผู้จัดการเขตภาคเหนือตอนล่าง คุม 6 จังหวัด ได้เริ่มติดการเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ผ่านมือถือ และเริ่มกู้หนี้นอกระบบ จากนั้นชีวิตได้เริ่มดำดิ่งไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ กระทั่งประมาณเดือน เม.ย.65 ได้หลอกลวงเงินจากลูกค้าเก่ามาเป็นจำนวนประมาณ 7,000,000 บาท และเอามาเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ โดยจะเล่นที่เว็บไซต์ www.sagaming350.com โดยตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไป ไม่คิดว่าชีวิตจะดำดิ่งมาได้ขนาดนี้”

'ไบร์ท วชิรวิชญ์' ยันเป็นเหยื่อ Forex 3D สูญเงิน 7 แสนบาท โอด รู้ตัวช้า เพราะเชื่อใจ - ไว้ใจ 'อภิรักษ์'

'ไบร์ท วชิรวิชญ์' รับความโลภบังตา เอาเงินทั้งชีวิตเข้าลงทุน Forex 3D สูญ 775,000 บาท พร้อมเล่าเส้นทางสนิทสนม 'อภิรักษ์' โอดตนน่าจะเป็นคนที่รู้ช้าที่สุดเพราะเชื่อสนิทใจ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมองไม่เห็นความจริง หากไม่มีชื่อเสียงเหมือนวันนี้ ตอนนี้ตนคงแย่มากๆ

หลังจากที่พิธีกรข่าว 'เต๋า ทีวีพูล' ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า… “เรียกสอบอีกคู่!!! เตรียมเรียกคู่จิ้นวาย? สอบคดีแชร์ Forex - 3D เหตุมีภาพสนิทผู้บริหาร” ทางเพจ รวบรวมผู้โดนโกงจาก Forex 3D ก็เอามาขยี้ต่อ โดยเผยว่าคู่ซีรีส์วายดังกล่าวคือ 'ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี' พร้อมเผยภาพคสามสนิทสนมของ ไบร์ท กับ 'อภิรักษ์ โกฎธิ' CEO Forex 3D ตั้งแต่ปี 2014

วันนี้ (30 ก.ย. 65) ไบร์ท วชิรวิชญ์ ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกในรายการ วันบันเทิง ถึงการมีภาพความสนิทสนมกับอภิรักษ์ อีกทั้งยังเผยว่าตนก็ตกเป็นเหยื่อเพราะร่วมลงทุนกับ Forex 3D จนเกือบหมดตัว

“ตอนนั้นผมอายุประมาณ 15-16 ครับ ช่วงนั้นผมทำรายการสตรอว์เบอร์รี่ครับเค้ก ซึ่งผมก็จะมีรุ่นพี่คนนึงซึ่งผมเป็นพิธีกรด้วยกันชื่อว่า นิค นิโค เป็นคนพาผมไปรู้จักกับพี่รักษ์ ซึ่งในช่วงนั้นเวลาผมทำงานเลิกดึกผมจะกลับบ้านที่นครปฐม แต่บางทีรถตู้หมด 3 ทุ่ม บางทีผมเลิกงานกลับบ้านไม่ทันก็ไปอาศัยนอนบ้านเขา ซึ่งเขาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมรู้จักกับพี่รักษ์ครับ

ในคลิปตอนนั้นผม ม.4 จริงๆ ในคลิปที่เห็นนั้นเป็นวันแรกที่ได้เจอกันเลย ผมไปนอนบ้านพี่นิคครั้งแรกก็ร้องเพลงกัน อัดคลิป มันเท่านั้นเองครับวันนั้น”

>> เล่าจุดเริ่มต้นที่เข้าไปร่วมลงทุน Forex3 D
“ในส่วนของจุดเริ่มต้น ก็ต้องยอมรับว่ามันก็เริ่มจากตัวผมนี่แหละครับ ด้วยความที่ ณ ตอนนั้นทุกคนที่อยู่รอบตัวผมทุกคนลงทุนตรงนี้หมด ทุกคนเล่นตรงนี้หมด และผมก็เห็นมาสักพัก ตอนแรกผมก็ไม่ได้มั่นใจแต่เราก็เห็นมาสักพักว่าทุกคนได้จริงๆ และได้กันเป็นระยะเวลานาน

แต่เราก็เห็นมาสักพักว่าทุกคนได้กันจริงๆ และได้กันไปแล้วเป็นเวลานานเป็นปีๆ เราก็รู้สึกว่ามันน่าจะโอเคนะ มันน่าเชื่อถือได้ ณ วันนั้นผมยังไม่ได้มีเงิน เงินก่อนแรกที่ผมเอามาลงผมขอแม่มาลงด้วยซ้ำ จำนวน 50,000 บาท พอเราเริ่มลงไปปั๊บมันก็ได้จริงๆ ในวันแรกมันได้จริงๆ มันได้เรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่ามันโอเคนะ ผมก็พยายามที่จะเก็บเงิน งานทุกชิ้นที่ผมทำ รายได้ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ส่วนใหญ่ผมก็จะยัดกลับคืนเข้าไป ผมรู้สึกว่ามันคือการลงทุน เป็นการออมเพื่ออนาคต”

>ณ วันที่ตัดสินใจลงทุนไปยังไม่มีชื่อเสียงแบบนี้ เผยเอาเงินทั้งชีวิตของครอบครัวมาลงทุน จำนวน 775,000 บาท
“ไม่มีเลยครับวันนั้น ตอนนั้นผมก็เอาเงินจากการเล่นโฆษณา แคสงาน เงินบางส่วนก็เป็นเงินเก็บของแม่ คือเรารู้สึกว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่โอเคที่สุด เงินจากส่วนอื่นๆ ที่ผมมี ผมก็เอามาใส่ตรงนี้หมดเลย ตอนนั้นผมเรียกว่ามันเป็นเงินทั้งชีวิตของครอบครัวผมเลยแล้วกัน นั่นคือเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวที่บ้านผมมี แล้วเราก็เสียไปกับตรงนั้นทั้งหมด จำนวน 775,000 บาท เยอะมากๆ ณ วันนั้นมันคือเงินทั้งครอบครัว

พระปัญญาวชิรโมลี แนะจัดการน้ำท่วม-แล้ง สร้าง ‘หลุมขนมครก’ กักเก็บน้ำไม่ ไม่ต้องพึ่งพาเขื่อน

เมื่อวันที่ (29 ก.ย. 65) พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "พระปัญญาวชิรโมลี นพพร" ถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ว่า ...

มหัศจรรย์ของศาสตร์พระราชา

น้ำท่วมไม่ใช่ไสยศาสตร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top