Wednesday, 25 June 2025
NEWS FEED

รัฐบาลปลื้ม ผลการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2022 ไทยได้ปรับอันดับขึ้นหลายดัชนี อยู่ในกลุ่มที่มีการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในระดับสูงมากพร้อมก้าวเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยการดำเนินงานตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งผลให้ สหประชาชาติได้เปิดเผยผลการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2022 โดยไทยได้รับการปรับอันดับขึ้นในหลายดัชนี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้วางแนวทาง สนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ไทยก้าวเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ 

“องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศผลการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2022 หรือ UN E-Government Survey 2022 ที่จัดทำโดย สำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Department of Economic and Social Affairs – UN DESA) โดยจัดการประเมินทุก 2 ปี สำรวจจาก 193 ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ พิจารณาจาก 3 ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government Development Index: EGDI)  ดัชนีการมีส่วนร่วมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชน (e-Participation Index: EPI) และดัชนีให้การบริการออนไลน์ภาครัฐส่วนท้องถิ่น (Local Online Service Index: LOSI)”นายอนุชากล่าว

'เพื่อไทย' รุดเยี่ยมชาวอุบลฯ หลังน้ำท่วมสูง ‘ชลน่าน’ ชี้ กฎเหล็ก กกต.เป็นอุปสรรคห้ามพรรคการเมือง แต่รัฐบาล-ราชการหยุดช่วย ปชช.ไม่ได้ ย้ำเปิดสภาเตรียมเสนอแก้กฎหมาย

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรค นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์  ส.ส.นนทบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนในพื้นที่ชุมชนพนม 1 ชุมชนพนม 2 วัดพนมวัน  ชุมชนเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรูเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมสูงประมาณ 1 - 1.20 เมตร 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า จากการติดตามดูสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ถือว่ากระทบหนัก น้ำท่วมในตอนนี้รุนแรงเกือบเทียบเท่าน้ำท่วมในปี 2562 พี่น้องประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ  บางส่วนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ไปยังศูนย์อพยพที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหาให้ ประชาชนบางส่วนสมัครใจอยู่บ้านเนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน แม้ระดับน้ำจะท่วมสูงก็ตาม ขณะที่การสัญจรภายในพื้นที่ต้องเดินทางโดยเรือ เนื่องจากระดับน้ำสูงมาก ซึ่งอุบลราชธานีเป็นจุดรับน้ำจุดสุดท้ายก่อนลงสู่แม่น้ำโขง จึงได้รับผลกระทบมาก

ส่วนการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนของ ส.ส.ในพื้นที่ ตอนนี้ทำได้ลำบาก ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่อย่างที่เคยทำเนื่องจากกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ที่กลายเป็นอุปสรรคทำให้ประชาชนถูกทอดทิ้ง ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต ซึ่งมีความรู้ มีความเข้าใจสภาพพื้นที่และความต้องการของพี่น้องประชาชน เมื่อรวมเข้ากับเขตเทศบาลและประธานชุมชนที่ทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ ส.ส.ในพื้นที่ จึงสามารถประสานความร่วมมือกันช่วยเหลือกันได้ แต่หากท้องถิ่นทำงานคนละฝ่าย คำนึงถึงเรื่องการเมืองและคะแนนเสียงเป็นหลัก จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ดังนั้นกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.จึงไม่ควรใช้ในตอนนี้  หรือควรมีข้อยกเว้นไปก่อน เนื่องจากมีภัยพิบัติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ทางออกในระยะอันใกล้หากสภาเปิดสมัยประชุมอีกครั้งจะเสนอแก้ไขกฎหมาย 

“บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ที่ ส.ส. หรือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ถูกห้ามไม่ให้ทำงานช่วงนี้  ฝ่ายรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต้องสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายและการชดเชยความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่มีข้ออ้างว่ามีประกาศ กกต. แล้วหยุดการช่วยเหลือนั้นไม่ได้ ต้องเอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง จนกว่าภัยพิบัติและผลพวงของผลกระทบจากพายุโนรูจะหมดไป” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว 

นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเริ่มขาดแคลนของใช้อุปโภคและบริโภค ประชาชนจึงช่วยเหลือกันเองด้วยเก็บเกี่ยวพืชผักสวนครัวที่ถูกน้ำท่วม แจกจ่ายกันในชุมชนเพื่อประกอบอาหารในเบื้องต้น ทั้งนี้ในพื้นที่ได้มีการตัดระบบน้ำระบบไฟเรียบร้อยแล้วเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

'พ่อแม่พิการ' สุดภูมิใจ!! หอบดอกไม้แสดงความยินดี หลังลูกชายทำตามฝันสำเร็จ ได้ติดยศ 'สิบตำรวจตรี'

ชาวเน็ตแห่แชร์คลิปไวรัลสุดซึ้ง! พ่อแม่พิการส่งลูกเรียนจนรับราชการ วันติดยศ 'สิบตำรวจตรี' หอบดอกไม้และเงินแสดงความยินดี สวมกอดปล่อยโฮร้องไห้สุดภูมิใจ

กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวน้ำตาซึม ที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันแชร์ และพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้ ภายหลังสมาชิกผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า tondach23 ได้ออกมาเผยคลิป ทำใครที่เข้ามาพบเห็นจะต้องน้ำตาไหลกันบ้าง พร้อมกับระบุข้อความประกอบว่า “ต้นเดช ทำให้ คุณพ่อได้แล้วนะครับ”

ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นของนายสิบตำรวจตรี ที่ได้ทำความตามความฝันของคุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ที่ต้องการอยากให้ลูกชายได้รับราชการตำรวจ โดยเป็นเวลากว่า 1 ปี 6 เดือน ที่นายตำรวจท่านนี้ต้องฝ่าฟันมาจนสำเร็จ ซึ่งวันที่ 30 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา เป็นวันที่ติดยศ ทางคุณพ่อคุณแม่ก็ได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับเขาด้วย

ฝ่าวิกฤตสำเร็จ!! สธ.ปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ในที่สุดโควิดก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเมืองไทย 

(1 ต.ค. 65) โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

ในที่สุดโควิดก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเมืองไทย 

ที่ผ่านมาไทยประสบความสูญเสียน้อยเกือบที่สุดในโลก ด้านอัตราส่วนผู้เสียชีวิตต่อประชากร ส่วนหนึ่งก็เพราะวัคซีนไปทั่วถึงได้เร็วกว่าหลายประเทศ ด้วยการตัดสินใจจัดหาวัคซีนที่หาได้มาก่อน ก่อนจะมีวัคซีนหลากหลายและเพียงพอถึงขั้นบริจาคได้ การฉีดสูตรไขว้ก่อนที่หลายประเทศจะทำตาม การคิดนอกกรอบ หาพื้นที่เปิดโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่เริ่มจากศูนย์บุศราคัม และการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนแบบ walk in ท่ามกลางการสกัดขัดขวาง เริ่มจากบางซื่อที่เกิดจากความร่วมมือข้ามกระทรวง ผลักดันโดยรัฐมนตรีสาธารณสุข 

'นครชัยแอร์' อวดโฉมรถใหม่ เบาะส่วนตัวทุกที่นั่ง วิ่งปฐมฤกษ์ 'กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 1 ต.ค.นึ้

นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่า นครชัยแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการอย่างดีมาโดยตลอด เนื่องจากมีภูมิประเทศที่สวยงาม มีประเพณีวัฒนธรรมที่สวยงาม และมีเสน่ห์ในทุกด้าน แต่ละปีมีนักเดินทางท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งปี และเพื่อเป็นการขอบคุณที่ลูกค้าชาวเชียงใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ให้การสนับสนุนนครชัยแอร์มาโดยตลอด 

บริษัทฯ ได้เตรียมนำรถมาตรฐาน Gold Class รุ่น Social Distancing V.2 ขนาด 32 ที่นั่ง ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วันละ 1 เที่ยว ทั้งขาไปและขากลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เที่ยวเวลา 22.20 น. และ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ เที่ยวเวลา 20.30 น. ในอัตราค่าโดยสารปกติ เริ่มให้บริการเที่ยวแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 โดยลูกค้าสามารถจองตั๋วโดยสารเพื่อเดินทางได้แล้วตั้งแต่วันนี้

สำหรับรถที่นำมาให้บริการ เป็นรถโฉมใหม่ มาตรฐาน Gold Class เบาะโดยสารแบบ Social Distancing V.2 ขนาด 32 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่ให้ความเป็นส่วนตัวทุกที่นั่งแม้เดินทางคนเดียว เป็น 4 แถว แบบ 1 2 1 จากเดิมที่นครชัยแอร์ได้นำเบาะโดยสารแบบ Social Distancing V.1 ขนาด 23 ที่นั่ง เป็นเบาะเดี่ยว 3 แถว มาให้บริการรถเส้นทางกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ และกรุงเทพฯ-สุรินทร์ เมื่อปี 2564 ด้วยรถมาตรฐาน First Class ซึ่งได้รับการตอบรับดีอย่างมากจากผู้ใช้บริการ จึงปรับปรุงพัฒนารถโดยสารมาตรฐาน Gold Class เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ได้ปรับเบาะโดยสารรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยสามารถเลือกที่นั่งเดี่ยวริมหน้าต่าง หรือเลือกที่นั่งคู่ตรงกลางที่สามารถดึงผ้าม่านกั้นปิดได้ เป็นเบาะไฟฟ้าติดตั้งระบบนวดทุกที่นั่ง พร้อมจอทีวีส่วนตัว ขนาด 10 นิ้ว ระบบทัชสกรีนทุกที่นั่ง และช่องเสียบ USB เพื่อการชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ 

'แรมโบ้' อัด 'พิธา-ธนาธร' เป็นถึงหน.พรรค แต่ไม่ฟังคำศาลฯ อย่าอ้างประชาชนสิ้นหวังคับแค้น ทั้งที่เป็นเพียงส่วนน้อย

'แรมโบ้' อัด 'พิธา-ธนาธร' เป็นถึงหัวหน้าพรรคการเมืองแต่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และอย่ามาอ้างประชาชนสิ้นหวังคับแค้นใจ เพราะเป็นเพียงแค่คนส่วนน้อยเท่านั้น เหน็บเหมาะเป็นหัวหน้ากองโจรมากกว่าหัวหน้าพรรค

(1 ต.ค. 65) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาวิจารณ์และออกแถลงการณ์ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณี 8 ปี ว่าเป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง สร้างความคับแค้นใจให้กับประชาชน และมีราคาอันแสนแพงที่สังคมไทยต้องจ่ายจากการที่พลเอกประยุทธ์ได้ไปต่อ

โดยนายเสกสกล กล่าวว่าการออกแถลงการณ์เช่นนี้เท่ากับว่านายพิธากับพรรคก้าวไกลและนายธนาธร ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่เป็นพรรคที่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านยื่นให้ประธานสภาฯ เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยเรื่องนี้เอง ทั้งนี้หากไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยก็ไม่ควรไปร่วมเพื่อให้มีการวินิจฉัยตั้งแต่แรก

จับตา 'บิ๊กแป๊ะ' ป.ที่ 4 เคลื่อนตัวสู่การเมืองระดับชาติ อาจถึงขั้นแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ

'บิ๊กแป๊ะ' คัมแบ็ค จากนายตำรวจขาลุย ได้เวลาการเมืองสนามใหญ่ เตรียมจับสัญญาณหลัง 30 กันยา ลือหนัก ว่าที่แคนดิเดตนายกฯจากพรรคพลังประชารัฐ!? หลังแอบซุ่มทำงานเบื้องหลัง กว่า 2 ปี

ถึงแม้จะห่างหายจากทางการเมืองไปนาน เนื่องจากกฎหมายที่ต้องให้ ส.ว. เว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี จนหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า นอกเหนือจาก 3 ป. แล้ว ยังมีอีกหนึ่ง ป. นั่นคือ บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่จะสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อีกครั้ง ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ครบรอบ 2 ปี หลังเกษียณอายุราชการ ซึ่งลือกันอย่างหนาหูว่า บิ๊กแป๊ะ จะหวนคืนสู่สนามการเมืองอีกครั้ง หลังจากศึกการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่ยอมถอยให้ พี่วิน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งในต้นปีที่ผ่านมา

ไม่นานมานี้ เฟซบุ๊กเพจ 'การเมือง Kanmuang' ได้เปิดเผยถึง ประวัติของบิ๊กแป๊ะที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา ไว้ว่า...

บิ๊กแป๊ะ เป็นลูกชายของ นายประณีต ชัยจินดา นักธุรกิจค้าอาหารทะเล และนายหน้าค้าที่ดินแห่งเมืองอ่างศิลา กับนางสมศรี ชัยจินดา ทางด้านชีวิตรักสมรสกับ ดร.บุษบา ชัยจินดา ทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยศรีปทุม มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ พ.ต.ต ชานันท์ ชัยจินดา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผบ.ร้อย กองกำกับการที่ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ ชัยธัช ชัยจินดา นักเรียนดรีกรีนอก สาขาโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา

>> นายตำรวจดาวรุ่งพุงแรงอนาคตไกล 'เกือบ' ไม่ได้เป็น 'ผบ.ตร.' เพราะพิษการเมือง
ชีวิตการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นตั้งแต่เด็ก ภายหลังจากจบการศึกษาที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย จากนั้นเข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 เริ่มต้นรับราชการจากตำแหน่ง นายเวรผู้บังคับการประจำกรมตำรวจ สำนักงานกำลังพล ด้วยนิสัยที่สุขุมรุ่มลึก พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย และเป็นขาลุยพร้อมที่จะลงพื้นที่กับลูกน้องเสมอๆ จึงเป็นที่ถูกใจของทั้งพี่ๆ และน้องๆ ทั้งในฝั่งทหารและตำรวจ โดยเฉพาะ 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ จนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในหน้าที่การงาน และได้รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รอที่จะเป็น ผบ.ตร ในขณะที่ยังเป็นเพียงแค่ พล.ต.ท. และเหลืออายุราชการอีกมากกว่า 10 ปี

"ไม่เคยวางแผน ไม่เคยคาดหวัง จะต้องเป็น ผบ.ตร. และเชื่อว่า นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ทุกคนที่เพิ่งจบมาใหม่ๆ ไม่มีใครคิดถึงยศและตำแหน่งหรอก มีนายตำรวจสัญญาบัตร 7-8 หมื่นคน เชื่อว่ายากที่ใครจะวางแผน เป็นผบ.ตร.ไว้ล่วงหน้า" บิ๊กแป๊ะ กล่าวและว่า "ชีวิตราชการช่วงแรก ร.ต.ต. ถึง พ.ต.ท. ทุกคนขอแค่อยู่โรงพักดีๆ ที่มีชื่อเสียงก็พอแล้ว"

ชีวิตการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผ่านมรสุมหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถูกโยกย้ายให้เป็นผู้กำกับกองวิชาการ ผู้กำกับกองงบประมาณ เป็นจเรตำรวจ ซึ่งไม่ใช่อยู่ในสายงานด้านปราบปรามที่ตนเองถนัด ก่อนที่จะได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด คือ ในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถูกบีบและถูกโยกย้ายไปเป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภาค 9) หลุดจากโผ ผบ.ตร. โดยให้ พล.ต.อ. วินัย ทองสอง หลายเขยของ พล.ต.อ.ทักษิณฯ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแทน

>> สถิติ 5 ปี เจ้าสำนักปทุมวัน
เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยนมือ บิ๊กๆ ทั้งหลายในวงการเครื่องแบบ ก็ยังไม่เคยลืมน้องคนนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ได้ถูกเรียกกลับมาในเส้นทาง ผบ.ตร อีกครั้ง โดยให้เป็นรักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก พล.ตร.อ. จักรทิพย์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 สืบต่อจากพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง มีผลในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ครองสถิติเจ้าสำนักปทุมวันที่ยาวที่สุดถึง 5 ปี ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563

บิ๊กเด่น มอบนโยบายตำรวจทั่วประเทศ ชูปกป้องเทิดทูนสถาบัน เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน 

วันนี้ (1 ต.ค.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เข้ารับตำแหน่งวันแรก พร้อมเชิญข้าราชการตำรวจ ตั้งแต่ รอง ผบ.ตร.- ผบก. จำนวน 250 นาย เข้ารับฟังนโยบายการบริหารราชการ ตร. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ย้ำปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ชูวิสัยทัศน์ ความเป็นมืออาชีพในหน้าที่ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน พร้อมแบ่งมอบงานให้ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนที่จะทำเพื่อประชาชนเป็นลำดับแรกมี 3 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และ การยกระดับการให้บริการประชาชนของสถานีตำรวจ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยรวม 

สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่จะทำให้ข้าราชการตำรวจ มี 2 เรื่อง คือ การสร้างความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ สร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน หรือ SOP รวมถึงการจัดหาสิ่งอุปกรณ์ที่ป้องกันอันตรายให้เพียงพอ อีกเรื่องคือการดูแลสวัสดิการและขวัญกำลังใจกำลังพล เช่น หากตำรวจบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องได้รับการเยียวยาทันที อาคารที่ทำการ ที่พักอาศัย ต้องมีอย่างเพียงพอ โครงการทำดีมีรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจ เป็นต้น 

ส่วนนโยบายหลักที่จะใช้ในการบริหารราชการหลัก ของ ตร. มี 10 เรื่อง คือ 
1. พิทักษ์ เทิดทูน และเทิดพระเกียรติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2. เสริมสร้างภาพลักษณ์ด้วยการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตํารวจ
3. การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายสําคัญของรัฐบาล
4. แก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน
5. เพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างตํารวจกับประชาชนโดยเปิดช่องทางรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน
6. พัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างขวัญกําลังใจให้แก่ข้าราชการตํารวจ
7. พัฒนาองค์ความรู้ข้าราชการตํารวจทุกสายงานโดยมุ่งเน้นการฝึกอบรมทบทวนยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง
8. พัฒนาระบบฐานข้อมูลและนําเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ 
9. ปรับปรุงระเบียบกฎหมายให้สอดคล้องกับการทํางานของตํารวจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
10. เสริมสร้างระเบียบวินัยควบคุมดูแลความประพฤติและป้องกันมิให้ข้าราชการตํารวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต

'โฆษก ตร.' พบสื่อประจำ ตร. กล่าวอำลา บรรยากาศชื่นมื่น "ขอบคุณที่ทำงานร่วมกันมาด้วยดี ตลอดเวลา 2 ปี "

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ห้องสื่อมวลชน ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าพบกับผู้สื่อข่าว จากสำนักต่างๆ ที่ประจำอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกล่าวอำลาพร้อมขอบคุณสื่อ ที่ได้ร่วมทำงานร่วมกันตลอด 2 ปีที่ดำรงตำแหน่งโฆษก ตร.ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

โดยโฆษก ตร. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่กระบอกเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แน่นอนว่าความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์แบบการกระทบกระทั่ง สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องสื่อ พี่น้องเพื่อนร่วมงานต้องมีอยู่บ้าง ซึ่งคงต้องใช้โอกาสนี้ กราบขอโทษ อย่างจริงใจ...

อย่างไรก็ตาม ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นไปเพื่อผลสำเร็จของงานผมต้องขอบคุณพี่น้องสื่อ พี่น้องเพื่อนร่วมงานที่เมตตา ช่วยเหลือเกื้อกูล ทำให้งานสำคัญนี้ลุล่วง

บิ๊กปั๊ด ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร. มั่นใจบิ๊กเด่น จะเป็นผู้นำสีกากีคนใหม่ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา 

วันนี้ (30 ก.ย.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีการลงนามรับส่งมอบหน้าที่ โดยมีการมอบธง และตราประจำตำแหน่งให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. คนใหม่ มั่นใจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จะนำองค์กรไปในทิศทางที่ดี

เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ใหม่ ได้ขึ้นแท่นรับการเคารพ และเดินตรวจแถวกองเกียรติยศ จากนั้นได้วางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 และพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ก่อนเดินเข้าพิธีในห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร. โดยมีข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าร่วมในพิธีกันอย่างพร้อมเพียง 

จากนั้นได้มีการทำพิธีลงนามในหนังสือส่งมอบหน้าที่ และมีการมอบธง และตราประจำตำแหน่ง ให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ซึ่งจะเป็น ผบ.ตร. คนที่ 13 พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ​ โดยระบุว่า ผมขอแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ ซึ่งท่านได้แสดงผลงานเป็นดีเด่นให้ประจักษ์ต่อสายตามาโดยตลอด จึงเชื่อมั่นว่า ผบ.ตร. ท่านใหม่ จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ ของ ผบ.ตร. และเป็นผู้นำได้อย่างสมศักดิ์ศรี และสัมฤทธิ์ผล เป็นประโยชน์แก่ทางราชการสืบไป 

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิต อย่างหาที่สุดมิได้ และรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น  ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธาน ตามพระปฐมบรมราชโองการ 

และขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ซึ่งท่านเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ ที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตนขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตลอดจนสติปัญญาในการปฎิบัติหน้าที่ อย่างสุดกำลังความสามารถ และจะปฎิบัติหน้าที่โดยยึดหลักนิติธรรม และคุณธรรม ตามครรลองแห่งกฎหมาย ระเบียบแบบแผน ของทางราชการ ตลอดจนขบนธรรมเนียมที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและสังคมโดยรวม  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top