Wednesday, 25 June 2025
NEWS FEED

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ครบรอบ 20 ปี ภายใต้แนวคิด 'ปกปักรักษา ผืนป่าของคนไทยให้ยั่งยืน'

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ครบรอบ 20 ปี ภายใต้แนวคิด 'ปกปัก รักษา ผืนป่าของคนไทยให้ยั่งยืน'

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พุทธศักราช 2545 มีภารกิจหลักในการอนุรักษ์ สงวน คุ้มครองฟื้นฟู และดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อเป็นฐานในการสร้างเศรษฐกิจจากนิเวศบริการอย่างสมดุลและยั่งยืน ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้อนุรักษ์ ปกป้อง และคุ้มครองพื้นที่ป่าอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี แต่การอนุรักษ์ต้องควบคู่กับการใช้ประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นโยบายป่าไม้แห่งชาติ รวมถึงการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงต้องปรับบริบทการทำงานที่มุ่งเน้นการป้องกันมากกว่าการปราบปรามคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน วางแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทุกมิติ เพื่อให้ป่าไม้ สัตว์ป่า และประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน เร่งออกกฎหมายลำดับรอง ภายใต้พระราชบัญญัติ ๒ ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า ปรับตัวเข้าสู่องค์กรดิจิทัลพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียวมีการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง เพื่อเป็นนิเวศบริการสู่ประชาชน ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG นอกจากนี้ ยังเตรียมพร้อมรับมือจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจัดทำระดับอ้างอิงภาคป่าไม้ของประเทศไทยรวมถึงประเมินปริมาณกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อสนับการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยมุ่งเน้นให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ สนับสนุนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ มุ่งสู่ประโยชน์สุขของประชาชนอย่างยั่งยืน และสนองต่อวิสัยทัศน์ "เพิ่มพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ได้ ร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ ภายใน ปี พ.ศ. 2569"

นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สำหรับการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ครบรอบ 20 ปี ในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึง "การก่อตั้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" อีกทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงานของกรมฯ สู่สาธารณะ รวมถึงการแสดงความขอบคุณแก่บุคคล หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ ที่สนับสนุนการทำงานของกรมฯ ด้วยดีตลอดมา โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ "พิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้" การมอบโล่ผู้ช่วยเหลือราชการ การมอบโล่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2564 การมอบโล่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี  พ.ศ. 2565 การนิทรรศการแสดงผลงานของ 11 สำนักของกรมอุทยานฯ มานำเสนอ อาทิ สำนักอุทยานแห่งชาติ เรื่องระบบการจําหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ในอุทยานแห่งชาติ 

การอนุรักษ์ “SMART PATROL” ลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ของศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol) สำนักสนองงานพระราชดำริ เรื่องการรวมพลังชุมชนสร้างป่าพัฒนากาแฟสร้างชีวิต สู่ความยั่งยืนบ้านปางขอน ภารกิจบทบาทหน้าที่ผลงานสำคัญและแผนงานสำคัญที่จะดำเนินการในปี พ.ศ.2566 ของกองการต่างประเทศ การป้องกันและควบคุมไฟป่าบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ของสำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ เรื่องการจัดทำเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์เพื่อประกอบท้ายพระราชกฤษฎีกา สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เรื่องร่วมฟื้นฟูป่า ร่วมแบ่งปันคาร์บอนเครดิต พิชิตโลกร้อน สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ เรื่องต้นน้ำสมบูรณ์ เกื้อกูลชุมชน สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เรื่องแผนยุทธศาสตร์ภายใต้แผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์เสือโคร่ง พ.ศ. 2565 – 2577 ด้านสัตว์ป่าควบคุม - บัญชีสัตว์ป่าน้องใหม่ที่คนไทยต้องรู้ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ของกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา และนิทรรศการ DNP DIGITAL TRANSFORMATION - โครงการพัฒนาระบบบัญชีข้อมูล (Data Catalog) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อนําไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (Open Data) /โครงการพัฒนาระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่าไม้อัจฉริยะสำหรับ สนับสนุนการตัดสินใจ ของผู้บริหาร (Intelligent Forest Monitoring System : iForMS) /โครงการการจัดทำระบบการให้บริการข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศจากอากาศยานไร้คนขับในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการแข่งขันศึก โมโตจีพี สนามที่ 17  ในรายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022” จากสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เงินสะพัดกว่า 4 พันล้านบาท

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงยอดรวมผู้ชมของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ “โมโตจีพี” รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022” ที่สนามช้างอินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม มีผู้เข้าชมตลอด 3 วัน รวม 178,463 คน สร้างรายได้ให้กับ จ.บุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง 4,048 ล้านบาท การใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมงาน 3,592 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 3,800 อัตรา และภาครัฐได้รายได้ในรูปแบบภาษี 173 ล้านบาท

สำหรับการแข่งขันโมโตจีพีครั้งนี้ หลังต้องเจอกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่การแข่งขันในรุ่น โมโตทู เกิดธงแดง และหยุดการแข่งขัน จนต้องตัดจบการแข่งขันไป และทำให้การแข่งขันในรุ่นใหญ่ต้องถูกเลื่อนเวลาออกไปเช่นกัน

จังหวัดบุรีรัมย์ เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว ชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดวงอาทิตย์ตกลอดผ่านตรง 15 ช่อง ประตูปราสาทพนมรุ้ง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 1 ปี จะเกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งเท่านั้น  ครั้งที่สองของปีวันที่ 5-7 ต.ค. นี้

2 ตุลาคม 2565 จังหวัดบุรีรัมย์ ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดวงอาทิตย์ตกลอดผ่านตรง 15 ช่อง ประตูปราสาทพนมรุ้ง บนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 5-7 ตุลาคม 2565 นี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 น. เป็นต้นไป ตามที่นักดาราศาสตร์ได้คำนวณและคาดการณ์ไว้ ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก 1 ปี จะมีให้ชมเพียง 4 ครั้งเท่านั้น

ทั้งนี้ ในแต่ละปี จะมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดวงอาทิตย์ตกลอดผ่านตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง 2 ครั้ง ในระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม และระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม และดวงอาทิตย์จะขึ้นลอดผ่านตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 3-5 เมษายน และวันที่ 8-10 กันยายน ของทุกปี จึงเชิญชวนประชาชน และนักท่องเที่ยว มารอชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดังกล่าวด้วย

‘จุรินทร์’ ประกาศ ปชป. ขอยึด ส.ส.กระบี่คืน 3 เขต ด้านนิพนธ์ ผอ.เลือกตั้ง เร่งเดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมทำนโยบายปชป.เตรียมพร้อมเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.65 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการกรรมการเลือกตั้ง ส.ส พรรคปชป.กล่าวในที่ประชุมจากการสัมมนาใหญ่ของพรรคปชป. โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนา ส.ส. และรัฐมนตรีของพรรคปชป. พร้อมด้วย รัฐมนตรีในสังกัดพรรคปชป. กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรคปชป.เข้าร่วมประชุม ณ ห้องเดอะคลิฟฟ์ โรงแรม อวานีพลัส  เกาะลันตา กระบี่รีสอร์ท จังหวัดกระบี่

 ทั้งนี้ นายนิพนธ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งว่า  ขณะนี้ได้มีการเตรียมการไปแล้วในเรื่องของผู้สมัคร ในพื้นที่เป้าหมายหลักที่ท่าน หัวหน้า และท่านเลขาได้วางเป้าไว้ ซึ่งก็เกือบครบทั้งหมดแล้วในทุกเขต สิ่งที่ต้องเตรียมต่อมาก็คือในเรื่องของนโยบาย ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ ปากท้องและสิ่งที่เราได้ทำมาในระยะหนึ่งแล้ว นโยบายเมกกะโปรเจ็คที่มีการเตรียมการไว้แล้ว หรือนโยบายในเรื่องของการศึกษาทันสมัย ซึ่งเดิมปชป.เคยใช้คำว่าเราสร้างคน เราได้ทำอะไรไว้บ้างแล้ว ตั้งแต่เรื่องของอนุบาลชนบทสมัยท่านชวน ที่มาร่วมรัฐบาลของพลเอกเปรม มาเป็นศูนย์เด็กเล็ก จนกระทั่งมาถึงนมโรงเรียน อาหารกลางวัน จนมาถึงเรื่องที่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ของพวกเราวันนี้ นั่นคือในเรื่องของการศึกษาทันสมัย ซึ่งจะได้เห็นเค้าโครงของการสร้างคนชัดเจนมากขึ้น รวมถึงในเรื่องของสาธารณสุข รวมถึงการที่จะเชิญภาคต่างๆมาพูดในเรื่องของนโยบายประจำภาค  เพื่อมาทำเป็นนโยบายหลักๆ  

“สิ่งที่เราได้จะนำมากำหนดเป็นนโยบาย โดยความเห็นชอบของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค โดยนโยบายในครั้งนี้  ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการได้รับความเห็นชอบจากประชาชนมากขึ้น  เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ คาดว่าน่าจะชัดเจนในเดือนพฤศจิกายน นี่คือสิ่งที่คณะกรรมการเลือกตั้งจะทำในเรื่องของนโยบาย  รวมถึงการประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อหลักทั้ง โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อโซเซียลมีเดียมากขึ้น  เพื่อที่จะเจาะฐานประชาชนให้มากที่สุด  รวมถึงในเรื่องของนโยบายประกันรายได้ ที่ได้ใช้งบประมาณไป ห้าแสนสี่หมื่นล้านบาท เฉพาะในเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องประกันรายได้”

‘อภิสิทธิ์’ อดีตนายกฯ ปาฐกถาพิเศษ “สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี...”   เสนอแนวคิด 5 ข้อ “ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อก้าวทันโลก”

 กระทรวง พม. /  การจัดงานสถาปนากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี “20 ปี พม. เสริมพลัง  สร้างโอกาส  พัฒนาคนทุกช่วงวัย” ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-3 ตุลาคม ที่กระทรวง พม.  

โดยในวันนี้ (1 ตุลาคม)  เป็นการจัดงานวันที่  3  พอช. และเครือข่ายองค์กรชุมชนได้จัดเวที “พัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และสวัสดิการชุมชน”  ที่ห้องประชุมประชาบดี  มีนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  อดีตนายกรัฐมนตรี  ปาฐกถาพิเศษ  หัวข้อ  “สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยพลังชุมชนและเครือข่ายภาคีพัฒนา”  โดยมีผู้บริหารกระทรวง พม.  พอช.  และผู้แทนเครือข่ายองค์กรชุมชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

ย้อนจุดกำเนิด พอช.

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  ขอแสดงความยินดีการครบรอบ 20 ปีกระทรวง พม. และ 22 ปี พอช.   ส่วนที่มาของ พอช.นั้น  ในช่วงปี 2540 – 2544   ในสมัยนั้นประเทศไทยประสบวิกฤตต้มยำกุ้ง  ถ้าเราย้อนกลับไปก็จะทราบว่าในหลวงรัชกาลที่ 9  มีพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง  ในขณะที่คนไทยเดือดร้อนมาก  
ต้นเหตุของวิกฤตคือความไม่พอเพียงของการกู้ยืมเงินในระบบทุน  ไม่สามารถสร้างรายได้  สูญเสียความเชื่อมั่น  วิกฤตเงินทุนสำรอง  สถาบันการเงิน  ฯลฯ   และมีกระแสราชดำรัส  ทำให้เราย้อนมาดูตนเอง  การสร้างหลักประกัน  ความมั่นคง  มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าการเร่งรัดการเจริญเติบโต   เริ่มจากใกล้ตัวเราในชุมชน  จากทรัพยากร   สินทรัพย์ต่างๆ  บางครั้งมองข้ามเพราะเป็นสิ่งใกล้ตัว

 “ท่านนายกฯ ชวน  (หลีกภัย) ให้ความสำคัญเรื่องสังคม  ทำอย่างไร  ไม่ให้วิฤตเศรษฐกิจลุกลาม  วิกฤตทางสังคมในหลายประเทศลุกลาม  แย่งชิงอาหาร  ท่านให้ความสำคัญกับสังคม   รัฐมนตรีที่มีบทบาท  คือคุณหญิงสุพัตรา  มาศดิตถ์   และตนได้รับมอบหมายให้ผลักดันการสร้างหน่วยงานรัฐรูปแบบใหม่  คือ ‘องค์การมหาชน’  ซึ่ง พอช. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มาจากแนวคิดตรงนี้   ที่ท้าวความเพื่อย้ำเตือนว่า  งานที่พวกเราทำทั้งหลายยืนอยู่บนหลักคิด  หลักการที่สำคัญที่ต้องไม่ลืม  คือ ท่ามกลางความผันผวนของโลก  ซึ่งเรามีบทเรียนจากปี  2540  เราต้องมีระบบส่งเสริมกิจกรรม  เพื่อให้เกิดอาชีพรายได้  คือความมั่นคงของมนุษย์”  อดีตนายกฯ กล่าว

 จากแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง   หลักเศรษฐศาสตร์   การเตรียมความพร้อม  การออมเป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริม   งานสวัสดิการชุมชนที่เกิดขึ้น  เกิดจากธรรมชาติของชุมชนต่างๆ  ‘ครูชบ  ยอดแก้ว’  นำเสนอใน  ครม.สังคม  ทำให้ราชการเริ่มขยับเข้ามา  เริ่มจากกองทุนผู้สูงอายุก่อน   ต่อมาในสมัยที่ตนดำเรงตำแหน่งนายกฯ  จึงขับเคลื่อนเรื่องสวัสดิการชุมชนอย่างจริงจัง  

อดีตนายกฯ กล่าวว่า  รัฐบาลทุกยุคมาทำงาน  มีโครงการไม่ให้คนเป็นหนี้   แต่มีน้อยที่ส่งเสริมเรื่องการออม   งานที่เริ่มจากปี 2540 อยู่บนหลักคิดที่สำคัญ  คือ  งานด้านนี้แม้ระบบราชการมีบทบาทสำคัญ  แต่ต้องพึ่งพลังชุมชน  พึ่งพาการทำงานของประชาชนเอง  ต้องอิงกับแนวคิดการกระจายอำนาจ  ทำอย่างไรให้เกิดระบบธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการด้วย ฯลฯ  อย่างไรก็ตาม  ความต้องการของประชาชน ยังไม่ได้รับการตอบสนอง   ยังติดขัดกฎหมาย  ระเบียบ  อำนาจหน้าที่ขององค์กรต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข 
“เรื่องกองทุนสวัสดิการชุมชน   ผมบอกว่าตอนทำไม่ได้คิดว่ารัฐสมทบแค่  3 ปี   คิดว่าสมทบตราบเท่าที่ประชาชนยังออมเงินอยู่   อยากเห็นท้องถิ่นเข้ามาสมทบอย่างเต็มรูปแบบ 100 เปอร์เซ็นต์  อยากให้ธุรกิจเอกชนเข้ามาร่วม  และเขาได้รับประโยชน์บางอย่างได้หรือไม่”   

อดีตนายกฯ ยกตัวอย่างเรื่องกองทุนสวัสดิการชุมชนซึ่งขณะนี้เครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชนทั่วประเทศเสนอให้รัฐสมทบเงินเข้ากองทุนมากกว่า 3 ปี  นอกจากนี้ยังมีเรื่องโฉนดชุมชนที่ประชาชนเรียกร้องแต่ขาดความต่อเนื่องเพราะเปลี่ยนรัฐบาล  และเรื่องบ้านมั่นคงที่ยังติดระเบียบ  ข้อกฎหมายต่างๆ

ความผันผวนของโลกที่สังคมไทยต้องรับมือ

อดีตนายกฯ  กล่าวถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกที่สังคมไทยต้องเผชิญ  โดยกล่าวว่า  จะต้องประเมินอนาคตข้างหน้า  โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี   ความมั่นคงของมนุษย์  งานด้านเศรษฐกิจฐานราก  เศรษฐกิจสร้างสรรค์   ล้วนแต่จะมีความสำคัญมากขึ้น 

 ยกตัวอย่างเรื่องโครงสร้างประชากร  ที่เห็นได้ชัดขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคมสูงวัย  และจะเร่งตัวอย่างต่อเนื่อง 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบด้านปัญหาเศรษฐกิจ  การขาดแคลนแรงงาน  โดยส่วนหนึ่งมีการทดแทนแรงงานโดยหุ่นยนต์  เครื่องจักร    และแรงงานต่างด้าวจะมีบทบาทสูง   เราต้องดูแลคนที่มาทำงานในประเทศไทย  ถ้าหากเขาไม่ได้รับการดูแล สุขภาพ  การศึกษาลูกหลานของเขา  จะเป็นปัญหาของสังคมเรา  

 แนวคิดเรื่องแรงงานต่างด้าว   จะต้องมีการรื้อครั้งใหญ่  แต่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย  เพราะทุกคนบอกว่าจะเป็นปัญหาของความมั่นคง  แต่ตนคิดว่าหากมีปรับเปลี่ยนแนวคิด  ดูแลแรงงานต่างด้าวเหมือนกับที่คนไทยไปแสวงหาโอกาสในการทำงานต่างประเทศ  จะทำให้คนเหล่านี้ผูกพันกับประเทศของเรา  แต่หากไม่ทำ  เขาก็มาทำงานเพื่อหาเงินอย่างเดียว
 นอกจากนี้ที่เห็นชัดเจนคือ  เรื่องความไม่แน่นอน  ความผันผวน  ความแปรปรวนในโลก  ปัจจุบัน  3 ปีทีผ่านมา    ใครจะคิดว่าโรคระบาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเป็นร้อยปีจะเกิดขึ้นอีก  ทั้งที่โลกเรามีเทคโนโลยีถอดรหัสยีนได้  แต่โควิดก็ยังไม่หายไป   แสดงว่าเรายังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน   ส่วนหนึ่งมาจากภาะโลกร้อน  มาเปลี่ยนแปลงการผลิต  อุตสาหกรรมบริการ  การเดินทางได้รับผลกระทบจากโลกร้อน
“ความผันผวนเหล่านี้แปลว่า  คนไทยต้องแสวงหาความมั่นคง   เสียงเรียกร้องที่สำคัญคือ  การมีสวัสดิการถ้วนหน้า คาดว่าปีหน้าพรรการเมืองต่างๆ  มีการแข่งขันเรื่องนี้สูง  ทั้งที่ยังไม่เห็นว่ามีข้อเสนอในการระดมทรัพยากรมาสนับสนุนเรื่องนี้ได้อย่างไร ?”  อดีตนายกฯ กล่าว

CEO และผู้บริหาร ไทยสมายล์บัส ร่วมพิธีเปิดเส้นทางใหม่  9 เส้นทาง พร้อมให้บริการแล้ววันนี้

วันนี้ (2 ต.ค.) นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์​ ​บัส​ จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมเปิด​ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า​ฝีมือ​คนไทย​100% 

ณ ศูนย์ต่างๆ ของไทยสมายล์บัส อาทิ ศูนย์พระประแดง (อู่พระประแดง ) ศูนย์เอกชัย (อู่เอกชัย ) ศูนย์บึงกุ่ม (อู่บึงกุ่ม) เป็นต้น โดย นางสาวกุลพรภัสร์กล่าวว่า วันนี้ เราพร้อมแล้ว ที่จะให้ พี่น้องชาวกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้สัมผัส 9 เส้น​ทาง ​ใหม่ประกอบด้วย

สาย 88  (4-17) : มจธ. บางขุนเทียน - BTS ตลาดพลู 
สาย 4-34 : วงกลมเคหะธนบุรี - พระประแดง 
สาย 140 (4-23E ) : แสมดำ - อนุสาวรีย์ชัยฯ (ทางด่วน)
สาย 552 ( 3-25E) : ปากน้ำ - นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง (ทางด่วน) 
สาย 1-61 : หมู่บ้านเอื้ออาทรสังฆสันติสุข - มีนบุรี 
สาย 34  (1-2E) : รังสิต - หัวลำโพง (ทางด่วน) 
สาย 44 (2-42) : เคหะคลองจั่น - ท่าเตียน (ทางด่วน) 
สาย 173 (4-27E) : บางขุนเทียน - แฮปปี้แลนด์ (ทางด่วน) 
สาย 3-53 : สถานีรถไฟฟ้าหัวหมาก - เสาชิงช้า 

กองทัพภาคที่ 1 ระดมกำลังพลร่วมหน่วยงานราชการ และประชาชนจิตอาสา เร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หลัง

หลังจากที่พลเอกเอก ณรงค์พันธุ์ จิตต์เเก้วเเท้ ผบ.ทบ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยกองทัพบกทั่วประเทศให้ทหารช่วยเหลือประชาชนรับมือสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด โดยกองทัพภาคที่ 1 โดย หน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการ และประชาชนจิตอาสา ดำเนินการในการป้องกัน เเละแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน ในการลงพื้นที่ 8 จังหวัด เช่น กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี อยุธยา ปราจีนบุรี เป็นต้น จำนวน 27 พื้นที่ โดยดำเนินการ ดังนี้...

*** การปฏิบัติของหน่วย ร่วมกับส่วนราชการ และประชาชนจิตอาสา ได้แก่...

- เก็บสิ่งปฏิกูล และวัชพืช เพื่อเปิดทางน้ำไหล ป้องกันน้ำท่วมขัง และเพื่อไม่ให้วัชพืชไหลไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 
- กรอกกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าสู่พื้นที่ชุมชนและปมคมนาคมสำคัญต่างๆ
- ขนย้ายสิ่งของประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในการจราจร โดยเฉพาะเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร

เดือด!! 'เสี่ยป๊อบ-สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย' ซัดกลับ ‘โหน่ง วงศ์ทนง’ พูดจริงหรือโกหก?  ปมอยากซื้อ a day คืน แต่สู้ราคาไม่ไหว ยันไม่เคยได้รับการติดต่อขอซื้อแต่อย่างใด

เป็นประเด็นเดือดกันเลยทีเดียวภายหลังจากที่เพจ ‘หวัดแกมบรรจง’ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ ‘โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์’ ซีอีโอสื่อ The Standard โดยบางส่วนของเนื้อหาเจ้าตัวได้ระบุว่าหลังจากที่ตัดสินใจออกจาก a day มาทำ The Standard ได้พักหนึ่งตนได้คิดจะกลับไปซื้อ a day กลับมาเพราะรู้สึกผูกพันธ์

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ได้ยินราคาแล้วก็รู้สึกสู้ไม่ไหวเพราะมันสูงมากจริงๆ

งานนี้ทำเอาทางด้านของ ‘เสี่ยป็อป’ สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธาน บริษัท เดย์ โพเอทส์ ที่ถูกพาดพิงต้องนำโพสต์ข้อความดังกล่าวมาโพสต์ที่เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมพิมพ์ข้อความแทกไปหาอดีตผู้บริหาร a day และถามว่า "โหน่งพูดจริงเหรอครับ หรือโกหก #Wongtanong

ก่อนเจ้าตัวจะโพสต์ชี้แจงถึงเรื่องที่ถูกพาดพิงว่า...

"ไม่เคยคิดจะพูดเรื่องนี้นะครับ แต่เมื่อโดนพาดพิง ก้อคงต้องขออธิบาย เมื่อยี่สิบปีที่แล้วเด็กหนุ่มสองคน เดินมาหาผม ผ่านพี่วินิจ เลิศรัตนชัย ขอให้เรา Traffic Corner ลงทุน ในบริษัท Day after day ในราคา 10 ล้านบาท เพราะไปขายให้คุณไพบูลย์ แกรมมี แล้วไม่ลงตัว"

"ผมบอกว่าเราลงไม่ได้ เพราะมีผู้ถือหุ้นที่มีเจตนาร่วมลงขันเพื่อให้สื่อทางเลือกได้มีโอกาสเกิด จะซื้อทั้งหมดโดยจ่ายเงินคนแค่สองคนได้อย่างไร เลยมีคน ไม่รู้ใคร คิดไปตั้งบริษัท Daypoets แล้วย้ายหัวอะเดย์ มาใต้บริษัทนี้แล้วมาขายให้ผม"

"ผ่านไปสิบกว่าปี มีคนมาขอซื้อบริษัทในราคาสองร้อยกว่าล้าน ผมหารือทั้งสองคน มีแต่คำถามว่า ผมจะได้ส่วนแบ่งอย่างไรบ้าง ก้อตกลงตามข้อตกลงทางธุรกิจ พอเป็นข่าวโดนผู้ร่วมลงทุนรุมด่า เห็บทั้งสองกระโดดหนี แล้วโยนให้ผมข้อหาเป็นนายทุน ออกไปตั้งสื่อใหม่ ชื่อ The Standard"

"ผมได้แต่ยินดีว่าสื่อที่ร่วมไปตั้งใหม่ประสพความสำเร็จโด่งดัง เป็นที่หนึ่งในสื่อออนไลน์ และทำได้ตามความตั้งใจ แต่จริยธรรมของผู้ร่วมก่อการมีมากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจ"

ส่องอันดับโลก ‘วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย’ ล่าสุดขยับขึ้นอันดับ 13 หลังพลิกนรกชนะ โดมินิกัน 3-2 เซต ในศึกลูกยางชิงแชมป์โลก 2022 นัดที่ 5

ควันหลงจากการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2022 กลุ่มบี นัดที่ 5 ที่สนามเออร์โก อารีนา ในเมืองกดัญสก์ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่า ทีมชาติไทย เอาชนะ โดมินิกัน ไปแบบสุดมัน 3-2 เซต 31-29, 16-25, 21-25, 25-22, 15-11 เข้ารอบ 2 ไปแบบสวยๆ

เปิดอ่าวมาหยาวันแรก  1 ต.ค.  65  นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและช่าวต่างประเทศ พาเหรดเช็คอินชมความงามคึกคัก หลังปิดฟื้นฟูธรรมชาติ 2 เดือน ช่วงมรสุม

วันที่ 1 ต.ค.65   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศท่องเที่ยวอ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ กลับมาคึกคักหลังปิดฟื้นฟูธรรมชาติ ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน รวม 2 เดือน ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่าเรือเหมาลำเดินทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง  ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนจากอิทธิพลพายุ โนรู มีฝนตกช่วงเช้าและ อ่อนกำลัง ส่งผลให้ฝนตกลงทิ้งช่วง เป็นระยะ  ซึ่งไม่เป็นอุปสรรคต่อนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางมาเยือนเพื่อชมความสวยงามของอ่าวมาหยา 

ตลอดวันมีนักท่องเที่ยวทางทะเลเดินทางกันมาอย่างคึกคัก  เพราะอ่าวมาหยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คือ ชมความงามของอ่าวมาหยา สักครั้งหนึ่งเมื่อเดินทางเยือนจ.กระบี่  ถือว่าเดินทางมาถึงจังหวัดกระบี่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top