Wednesday, 18 June 2025
NEWS FEED

อาลัย!! 'มามาฮัจยะฮฺซอฟียะฮฺ พิศสุวรรณ' มารดา ดร.สุรินทร์ ผู้สร้างคุณูปการแก่สังคม 'ไทย-มุสลิม' บนแผ่นดินสยาม

(5 ม.ค. 66) ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ผอ.ศวฮ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Dr.Winai Dahlan’ ความว่า...

วานนี้พุธที่ 4 มกราคม 2566 มามาฮัจยะฮฺซอฟียะฮฺ พิศสุวรรณ อายุ 97 ปี มารดา ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้คืนกลับสู่อัลลอฮฺตะอาลาแล้วอย่างสงบ ณ บ้านที่ปอเนาะบ้านตาล รร.ประทีปศาสน์ จ.นครศรีธรรมราช ในนามของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และครอบครัวดะห์ลัน ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวพิศสุวรรณทุกคน สิ่งที่มามาทิ้งไว้คือคุณความดีมากมาย ความเสียใจและเสียดายของลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก เป็นการจากไปอย่างยิ่งใหญ่ดั่งขุนเขา

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ บุตรชายของมามาจากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ก่อนมามากว่าห้าปี ภารกิจที่ท่านทิ้งค้างไว้ในวันเดียวกันนั้นคือ การเป็นประธานเปิดงาน Thailand Halal Assembly 2017 ซึ่งท่านแต่งตัวเตรียมเดินทางไปเปิดงานแทนท่านนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามแม้ท่านพลาดภารกิจนี้ทว่าท่านกลับปฏิบัติภารกิจสุดท้ายในชีวิตที่สำคัญกว่าได้ลุล่วงนั่นคือการเดินทางกลับจากญี่ปุ่นและตรงไปกอดมารดาของท่านด้วยความรักอย่างที่สุดที่ปอเนาะบ้านตาล อันเป็นภารกิจที่ท่านปฏิบัติเป็นประจำจากนั้นจึงบินกลับกรุงเทพฯวันรุ่งขึ้นเพื่อเปิดงานให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ทว่าท่านกลับคืนสู่อัลลอฮฺตะอาลาในวันนั้นอย่างที่บอก ทราบจากครอบครัวท่านว่าทุกคนพยายามปิดข่าวการจากไปของ ดร.สุรินทร์มิให้มามาทราบเนื่องจากเวลานั้นมามาสุขภาพไม่ดีนัก

'อลงกรณ์' กร้าว!! ปี 66 จะเป็นปีแห่งเทคโนโลยีเกษตรไทย หลังเดินหน้าจัดตั้งศูนย์ AIC 'อำเภอ-ตำบล' ทุกจังหวัด

'อลงกรณ์' เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ AIC อำเภอและตำบลทุกจังหวัดเร่งถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรเป็นคานงัดปฏิรูปภาคเกษตรครั้งใหญ่

(4 ม.ค. 66) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และ ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบทางไกลออนไลน์ ZOOM Cloud Meeting ครั้งที่ 1/2566

โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมากในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารชั้นนำของโลกหรือครัวของโลก (Kitchen of the World) ดังนั้นการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) จึงเป็นคาดงัดที่สำคัญ ในการสร้างจุดเปลี่ยนให้กับภาคเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศจึงขอให้ปี 2566 เป็นปีแห่งเทคโนโลยีเกษตรไทยเพื่อยกระดับการพัฒนาภาคเกษตรและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สู่เป้าหมาย 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง / มาตรฐานสูง และรายได้สูง สอดคล้องกับหมุดหมายเกษตรมูลค่าสูง (Value Shifted) ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 

โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างและระบบใหม่ในปีนี้ได้แก่...

1. ในระดับประเทศ 
คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร4.0และคณะกรรมการบริหารAICในระดับประเทศจะเป็นแกนหลักในการจัดตั้งสร้างองค์กรเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรวิจัยและพัฒนา วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ภาควิชาการและสถาบันเกษตรกรต่างๆทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและข้อมูลข่าวสารตลอดจนการส่งเสริมการค้าการลงทุนการอบรมบ่มเพาะและถ่ายทอดองค์ความรู้

2. ในระดับจังหวัด
เพิ่มความร่วมมือระหว่างศูนย์ความเป็นเลิศ(AICประเภทCenter of Excellence :CoE) 23 ศูนย์ กับศูนย์ AICระดับพื้นที่(AIC area based)ทั้ง 77 จังหวัด เนื่องจากศูนย์ความเป็นเลิศจะมีความรู้เฉพาะด้าน เป็นองค์ความรู้ความสามารถระดับไทยระดับโลก จำเป็นที่จะต้องให้มีการแลกเปลี่ยน ร่วมมือ และถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะด้านลงสู่ระดับพื้นที่ เพื่อให้สามารถนำองค์ความรู้ลงไปใช้ใน77จังหวัดจึงให้มีการจัดประชุมร่วมในเดือนหน้า เพื่อวางแนวทางความร่วมมืออย่างเป็นระบบ

3. ในระดับอำเภอ
จัดตั้งศูนย์AICอำเภอขึ้นในสำนักงานเกษตรอำเภอ เพื่อสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมจากศูนย์ระดับจังหวัดมาสู่ระดับอำเภอ รวมถึงศูนย์ความเป็นเลิศทั้ง 23 ศูนย์ด้วย เพื่อให้องค์ความรู้สามารถลงสู่พื้นที่ได้ทุกระดับ

4. ในระดับตำบล
ให้ดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์ AIC ในระดับตำบลที่อบต.หรือเทศบาลตำบลขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล 7,255 ตำบล โดยให้ศพก.ที่มีอยู่ 882 แห่ง รวมทั้งเครือข่าย ศพก.และแปลงใหญ่ เป็น AIC Station สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับหมู่บ้านตำบลชุมชนใน 76 จังหวัดและ 50 เขตในกทม.

5. จัดตั้ง 'อาสาAIC' ตำบล
ดำเนินการเปิดรับสมัคร หรือคัดสรร อาสา AIC ตำบลละ อย่างน้อย 1 คน โดยสรรหาจาก Young Smart Farmer  Smart Farmer และเปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจและมีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในการเดินหน้าร่วมการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมในพื้นที่ของตนเอง

6. การจัดทำระเบียบกระทรวงว่าด้วยการบริหาร AIC เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0
ดังนี้...

1. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานการจัดทำ Big Data ด้านเกษตร ระดับจังหวัด โดยมีการต้ังคณะทํางานภายในสศก.เพื่อขับเคลื่อนการจัดทํา Big Data ด้านการเกษตร ซึ่งขณะนี้ (ม.ค. - ก.พ. 66) อยู่ในช่วงของการวิเคราะห์ผลการสํารวจและจัดลําดับความสําคัญ คาดว่าหน่วยงานในพื้นที่จะสามารถใช้ประโยชน์จาก Dashboard ที่สมบูรณ์แล้ว ภายในเดือน ก.ย. 66  และผลการดำเนินงานแนวทางการบูรณาการ Application (Super App) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปัจจุบันที่ให้บริการอยู่ในรูปแบบของ Web Application Mobile Application และระบบการบริการภาครัฐ ท่ีได้ถูกแปลงให้เป็นดิจิทัลแล้ว มีจํานวน 175 บริการ โดยวางแนวทางดังนี้...

1) พัฒนา Application ที่มีความสามารถเฉพาะอย่าง ตามภารกิจ ของหน่วยงาน 

2) พัฒนา Application ที่มีเป็นศูนย์รวมการให้บริการ ที่เกษตรกร สามารถติดตั้งใช้งาน โดยไม่ใช้ทรัพยากรมาก โดยการเรียกใช้บริการ จะดําเนินการผ่าน API ที่แต่ละหน่วยงานจัดเตรียมไว้และมีระบบการยืนยันตัวตนที่เป็นมาตรฐานร่วมกัน 

3) ระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูล National Single Window (NSW) หน่วยงานใน กษ.จำนวน 5 หน่วยงาน  57 บริการ คือ  e-Payment และ e-Signature

2. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนาเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังโดยมีการพัฒนาและวิจัยเครื่องขุดมันสำปะหลังแบบไถหัวหมู เครื่องขุดและเก็บมันสำปะหลัง เครื่องตัดต้นมันสำปะหลังแบบติดตั้งหน้ารถแทรกเตอร์ ซึ่งร่วมกับ บริษัท บีทีโอโตพาร์ท เป็นภาคเอกชนที่นำผลงานวิจัย ไปทำการผลิตและจำหน่าย เป็นการพัฒนาและต่อยอดผลการวิจัยข้างต้นให้เป็นต้นแบบ 'เครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังแบบกึ่งอัตโนมัติ'

การจัดทำเสนอโครงการการพัฒนาและวิจัยที่จะดำเนินการเสนอ สวก. ในการของงบประมาณการวิจัย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการการพัฒนา IoTs Platfrom สำหรับการผลิตทุเรียนแปลงใหญ่อัจฉริยะ โครงการการพัฒนาแอปพลิเคชันทำนายและตรวจวิเคราะห์ศัตรูพืช (โรคพืช แมลงศัตรูพืชและวัชพืช) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะ (เครื่องสาง + ม้วนใบอ้อย) เพื่อแก้ปัญหาการเผาอ้อย และรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับบริษัท ล็อกซ์เลย์ จำกัด  (มหาชน) เพื่อขับเคลื่อนแปลงใหญ่เกษตรอัจฉริยะข้าว ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการหารือประเด็นสนับสนุนการลดภาษีการนำเข้าเครื่องดังกล่าว และการติดตั้งซิมการ์ด การเชื่อมโยงและการเข้าถึงข้อมูลสภาพอากาศของเกษตรกร เพื่อสนับสนุนการทำเกษตรอัจฉริยะ

ดึงสติโซเชียล!! หลังคนจีนแห่เที่ยวไทย จงเป็นเจ้าภาพที่ดี ที่อยู่กับโควิดให้เป็น

จากกรณีจีนเปิดประเทศ และมีการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) จะมีจำนวนประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน โดยคาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คนนั้น ทำให้มีคนจาก 2 ฟากฝ่ายที่ทั้งยินดีต้อนรับ และอคติว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจะนำพาเชื้อโควิดเข้ามาระบาดสู่ไทยครั้งใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ 2 แพทย์ชั้นนำของไทยได้ให้ความกระจ่างแบบไม่ต้องตื่นตระหนก เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี และมีความปลอดภัยไว้ ดังนี้...

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวไว้ว่า “คนจีนนำรายได้เข้าประเทศเราไม่น้อย ดังนั้นสิ่งที่เราควรระวัง ไม่ใช่ระวัง ‘เขา’ แต่เราต้องลดความเสี่ยง ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ล้างมือบ่อยๆ ยังทำได้ไม่ว่ากับโควิด-19 สายพันธุ์ไหนๆ และวัคซีนยังมีอยู่ให้รีบไปฉีดเลย ไม่ต้องรอ”

จีน ปรับมาตรการสู้โควิด เน้นสกัดอาการรุนแรง หันพึ่งพา ‘ยาแผนจีน’ ช่วยบรรเทาอาการเบื้องต้น

ปักกิ่ง, 4 ม.ค. (ซินหัว) — ปัจจุบันจีนได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็น 'คุ้มครองสุขภาพ สกัดอาการรุนแรง' โดยยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่งอาศัยจุดแข็งอันมีลักษณะเฉพาะของการแพทย์แผนจีน (TCM)

กลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) โดยมีคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารการแพทย์แผนจีนแห่งชาติจีน และทีมผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนจีน ร่วมตอบประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง

หมี่เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวว่า จีนส่งเสริมการบูรณาการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกในการรับมือโรคโควิด-19 เพื่อเพิ่มอัตราการรักษา ลดอัตราการป่วยหนักและการเสียชีวิต รวมถึงกระตุ้นการหายดีโดยเร็วของผู้ติดเชื้อ

จางจงเต๋อ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน เผยว่ายาแพทย์แผนจีนสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เด่นชัด เช่น มีไข้สูง ท้องอืด และท้องผูก ในผู้ติดเชื้ออาการหนัก

หลิวชิงเฉวียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนปักกิ่ง สังกัดมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์นครหลวง ระบุว่าปกติผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาด้วยยาแพทย์แผนจีนตั้งแต่เนิ่น ๆ จะมีไข้ลดลงจนอุณหภูมิร่างกายกลับสู่ระดับปกติภายในระยะเวลา 2-3 วันหากมีอาการเจ็บคอ ไอ เสียงแหบ และอื่นๆ สามารถรับประทานยาแพทย์แผนจีนตำรับบำรุงทางเดินหายใจ (ซวนเฟ่ยจื่อเขอ) หากมีอาการเจ็บคอหนักมากสามารถรับประทานยาตำรับขับพิษและบรรเทาการเจ็บปวด (ลี่เยี่ยนเจี่ยตู๋จื่อท้ง) หากมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน และท้องเสีย สามารถรับประทานยาตำรับขจัดความชื้นและพิษ (ฮว่าซือเจี่ยเปี่ยวเล่ย)

‘อนุทิน’ ยัน ความพร้อมมาตรการป้องกันโควิดเตรียมรับนักท่องเที่ยวหลังจีนไหลเข้าประเทศ

‘อนุทิน’ แจงมาตรการป้องกันโควิดรับนักท่องเที่ยวยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติ เน้นรับวัคซีน มีประกันสุขภาพ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อการเฝ้าระวัง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19

ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เตรียมเสนอวันที่ 5 มกราคมนี้ ยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ ตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 พร้อมสื่อสารมาตรการป้องกันตนเอง คาดนักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเดินทางมาไตรมาสแรก 3 แสนคน สามารถวางแผนรับมือได้อย่างเป็นระบบ

‘บิ๊กป้อม’ ร่วมประชุม คกก.อนุรักษ์และจัดการช้าง หาแนวทางดูแล ‘ช้างป่า-ช้างบ้าน’ ทั่วประเทศ

‘ลุงป้อม’ รักษ์ช้าง ประชุมเร่งจัดระบบ ลดผลกระทบ ‘ช้างป่า’ ดูแลสุขภาพ-สวัสดิการ ‘ช้างบ้าน’ สั่งระดม 14 หน่วยงานรัฐ-ผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมอนุรักษ์ คุ้มครอง ‘ช้าง-ชุมชน’ ทั่วไทย

(4 ม.ค. 66) เวลา 10.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ คำสั่ง นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง เพื่อให้การดำเนินการอนุรักษ์และจัดการช้าง เป็นระบบเหมาะสม และยั่งยืน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง.นรม. เป็นประธานคณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วย 14 หน่วยงานภาครัฐ และ 1 สถาบันการศึกษา บูรณาการทำงานร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนแม่บท และรับทราบสถานการณ์ช้างป่าในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ราว 3,186-3,480 เชือก กระจายตัวทั่วประเทศ ในพื้นที่อนุรักษ์ทั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ อุทยานแห่งชาติ รวม 69 แห่ง โดยมีพื้นที่ที่ยังคงประสบปัญหา อย่างน้อย 49 แห่ง ที่มีชุมชนและประชาชนได้รับผลกระทบจากช้างป่า ที่ออกไปหากินนอกพื้นที่อนุรักษ์ และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน พืชผลทางการเกษตร รวมถึงความรุนแรงต่อชีวิต ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างคนกับช้างป่า

เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย มอบเครื่องอิสริยาภรณ์ ชั้นอัศวิน จากประเทศฝรั่งเศส ด้านเกษตรกรรม ให้ นายกัมพล ตันสัจจาประธานสวนนงนุชพัทยา

เมื่อวานนี้ (3 ม.ค. 66) เวลา 18.00 น. ณ สวนนงนุชพัทยา Mr.Thierry Mathou เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเป็นตัวแทนประเทศฝรั่งเศส นำเครื่องอิสริยาภรณ์ฝรั่งเศสชั้นอัศวิน Knight rank of the order of the Agricultural Marit ด้าน Agriculture มอบแด่นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เพื่อเป็นการยกย่องและเชิญชูบุคคลผู้มีผลงานสร้างสรรค์อันโดดเด่นทาง ด้าน Agriculture หรือเกษตรกรรม

ด้านนายกัมพลกล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติ อย่างยิ่งที่ ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ Knight of the Agriculture Merit จากรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ้งผมเคยได้รับรางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งราชวงศ์ฝรั่งเศส สำหรับผลงานดีเด่น ด้านศิลปะวรรณกรรมและภูมิทัศน์ ผมเชื่อว่า รางวัลนี้เป็นการยกย่องแนวคิด 'สวนมิตรภาพ' ของผม ในสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยจึงทำผมอยากทำมันให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ในอนาคต สวนนงนุชถูกสร้างโดยแม่ของผมตามแนวคิดที่ว่าสวนสำหรับทุกคน 

ผบ.ทร. รับการรายงานตนของนายทหารใหม่ ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ ปี 2565

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรายงานตนของนายทหารใหม่ ที่สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนนายเรือ ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 76 นาย โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยสายวิทยาการ ตลอดจนพลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรือ เข้าร่วมพิธีฯ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

โดยเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีประดับยศ 'ว่าที่เรือตรี' ให้แก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 ที่สำเร็จการศึกษาจำนวน 76 นาย ในปีการศึกษา 2565 ณ โรงเรียนนายเรือ ซึ่งเป็นนักเรียนนายเรือ รุ่นที่ 116 โดยการศึกษาแบ่งออกเป็น 3 พรรค-เหล่า และสาขาวิชา ดังนี้

สอ.รฝ.ให้การต้อนรับทหารใหม่​ ทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติอย่างภาคภูมิใจ

เมื่อวันอังคารที่ 3 มกราคม 2566 นาวาเอก ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (รอง ผบ.สอ.รฝ.) รักษาราชการผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็น​ประธาน​ในพิธีต้อนรับทหาร​ใหม่​ ผลัดที่ 3/65  ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการ​ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ การต้อนรับทหารใหม่ทุกนายที่เปรียบเสมือนน้องคนเล็กสุดท้องได้เข้ามาสู่รั้ว สอ.รฝ. และเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้น้องทหารใหม่ทุกนาย มีความภาคภูมิใจที่จะมาทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติในการปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งทหารใหม่ทุกนายจะได้รับการฝึกอบรม เพิ่มเติมความรู้ทักษะต่าง ๆ สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งภายหลังจากฝึกเสร็จจะแยกย้ายไปปฎิบัติหน้าที่รับใช้ชาติกับหน่วยขึ้นตรงของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ในภารกิจที่สำคัญต่าง ๆ ต่อไป

สมาพันธ์สื่อมวลชนและช่างภาพฯ มอบทุนการศึกษาให้บุตร-ธิดาสื่อมวลชนครั้งที่ 6

สมาพันธ์สื่อมวลชนและช่างภาพเพื่อประเทศชาติ จัดงานมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตร-ธิดาผู้สื่อข่าวช่างภาพสื่อมวลชน ครั้งที่ 6 ประจำปี 2565 ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ (ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์) เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมี ว่าที่ร้อยตำรวจตรี วิรัช โตอิ้ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าน้ำอ้อยม่วงหัก อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานเปิดงาน และ นางไพลิน โตอิ้ม รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าน้ำอ้อยม่วงหัก เป็นประธานอุปถัมภ์มอบทุนการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย ทุนละ 5,000 บาท จำนวน 41 ทุน รวมเป็นทั้งสิ้น 205,000 บาท

โดยมีบุตร-ธิดาผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และ สื่อออนไลน์ เข้ารับทุนการศึกษาโดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมกันนั้น ยังได้ฝากให้กับเด็ก ๆ ที่ได้รับทุนตั้งใจศึกษาเล่าเรียน นำความรู้มาช่วยประเทศชาติในอนาคต และการมอบทุนจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ส่วนในช่วงบ่าย ได้มีพิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ 'ต้นแบบดีเด่นแห่งปี' ประจำปี 2565 โดย พลตรีหม่อมราชวงศ์ วัยวัฒน์ จักรพันธุ์ เป็นประธานพิธี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ยกย่องส่งเสริมสนับสนุนคนดีมีคุณธรรม หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต หน้าที่การงาน ธุรกิจเจริญก้าวหน้ามั่นคง จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ตลอดจนผู้ทำคุณประโยชน์เสียสละอุทิศตนเพื่อสังคมและประเทศชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top