Wednesday, 23 April 2025
LITE

26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ‘เลาดาแอร์’ สายการบินออสเตรีย เกิดอุบัติเหตุตก ในจ.สุพรรณบุรี คร่าชีวิตไป 223 คน หลังบินสู่ท้องฟ้าได้เพียง 16 นาทีเท่านั้น

เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 767 ของสายการบิน เลาดาแอร์ ประเทศออสเตรีย เส้นทางบิน ฮ่องกง-กรุงเทพฯ-เวียนนา บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 223 คนทะยานออกจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

หลังบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เพียง 16 นาทีเศษ ก็เกิดเสียงระเบิดกึกก้องเหนือท้องฟ้าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ พุเตย หมู่ 7 ตำบลห้วยขมิ้น อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 23.20 น. ชาวบ้านแถวนั้นเห็นดวงไฟขนาดใหญ่ตกจากท้องฟ้าพุ่งลงสู่พื้นดิน ทั้ง 223 คน เสียชีวิต เป็นชาวต่างชาติ 184 คน ชาวไทย 39 คน

จากการตรวจพิสูจน์กล่องดำ พบสาเหตุสำคัญที่สุดคือกลไกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ทรัสต์ รีเวิร์สเซอร์’ (Thrust Reverser) ที่เครื่องยนต์หมายเลข 1 ซึ่งทำหน้าที่ชะลอความเร็วของเครื่องบินขณะบินลงเกิดทำงานขึ้นกะทันหันอย่างไม่รู้สาเหตุ ขณะที่เครื่องบินยังอยู่สูงบนท้องฟ้าที่ระดับความสูง 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ประกอบกับนักบินที่ 1 ไม่เชื่อไฟสัญญาณเตือนภัยที่กะพริบขึ้นมาในระยะที่เครื่องบินกำลังบินสูงราว 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แล้วไม่ตรวจสอบแก้ไข จึงก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมสลดครั้งนี้

25 พฤษภาคม ของทุกปี กำหนดเป็น 'วันเด็กหายสากล' (International Missing Children’s Day) รณรงค์ให้สังคมร่วมตระหนักถึง ‘สวัสดิภาพ-ความปลอดภัย’ ของเด็ก

ความเป็นมาของ ‘วันเด็กหายสากล’ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 เมื่อเด็กชายอีตัน แพตซ์ วัย 6 ขวบ ชาวเมืองแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สูญหายไประหว่างเดินออกจากอพาร์ตเมนต์เพื่อไปขึ้นรถโรงเรียน ซึ่งขณะนั้นสหรัฐอเมริกายังไม่มีองค์กรช่วยเหลือในการตามหาเด็กหาย มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครเท่านั้นที่ร่วมมือกันค้นหา 

จากคดีดังกล่าวส่งผลให้เริ่มมีการวางระบบติดตามหาเด็กหายที่ถูกลักพาตัวอย่างจริงจัง โดยภาพของอีตันที่ใช้ในการประกาศหาตัวอยู่บนกล่องนมที่วางจำหน่ายทั่วสหรัฐฯ กลายเป็นต้นแบบของการประกาศหาคนหายบนกล่องนมจนถึงปัจจุบัน แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้จะมีความพยายามเป็นอย่างมาก สุดท้ายแล้วก็ไม่พบเด็กชายคนนี้ 

ต่อมาในปี 2526 ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน จึงกำหนดให้วันที่ 25 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น วันเด็กหายสากล (International Missing Children’s Day) เพื่อให้ทั่วโลกร่วมกันตระหนักถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเด็ก รวมถึงมีความหวังที่จะตามหาเด็กให้กลับคืนสู่ครอบครัวได้อย่างปลอดภัย 

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทยของเรานั้น ในหนึ่งวันมีเด็กหายไม่น้อยกว่า 3 คน โดยที่ 2 ใน 3 ของเด็กที่หายไป มีอายุน้อยกว่า 15 ปี ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก และอายุเฉลี่ยของเด็กที่หายไป หรือถูกลักพาตัวออกจากบ้านคือ 4 ขวบ โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจาก สถิติศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา และแน่นอนว่าปัญหาเด็กหายจากบ้านนั้น จะต้องเจอกับความเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งการคุกคาม หาประโยชน์ทางเพศกับเด็ก ถูกล่อลวง รวมไปถึงกระทำความรุนแรง

‘เจอร์รี่ F4’ รักแรกสาวไทย ปรากฏตัวร่วมอีเวนต์สยามพารากอน แม้ผ่านมากว่า 20 ปี หลังบท ‘เต้าหมิงซื่อ’ แต่ความหล่อยังเป๊ะ!!

(24 พ.ค. 67) แฟนคลับกรี๊ดต้อนรับกันสนั่น ทำเอาสยามพารากอนแทบแตก เมื่อพระเอกชื่อดังจากไต้หวัน ‘เจอร์รี่ หยาน’ (Jerry Yan) หรือ ‘เจอร์รี่ F4’ ปรากฏตัวในงาน Tiffany & Co. เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ใหม่ล่าสุด ณ สยามพารากอน

ซึ่ง เจอร์รี่ ถือว่าเป็นสามีคนแรก ๆ ของสาวเอเชีย โดยแฟนคลับชาวไทยรู้จักกันดีจาก ซีรีส์ยอดฮิต F4 เวอร์ชันไต้หวัน (Metro Garden) ‘รักใสใสหัวใจสี่ดวง’ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ในบทบาท ‘เต้าหมิงซื่อ’ รักแรกของสาวไทย

โดยเจอร์รี่มาในลุกส์สุดเท่ แต่คงความขี้เล่นตามสไตล์ โดยได้มีการโพสท่าให้สื่อมวลชนได้ถ่ายรูป และมีโมเมนต์น่ารัก น่ารัก ให้ได้เก็บภาพมาชม

และนอกจากนี้ เจอร์รี่ ยังได้ประกบคู่กับ Tiffany & Co. House Ambassador ของประเทศไทยอย่าง วิน เมธวิน ด้วย ทั้งนี้ภายในงานยังมีนักแสดงดัง อาทิ ฟอส จิรัชพงศ์ , มีน นิชคุณ , เชอรี่ เข็มอัปสร , ปอนด์ ณราวิชญ์ และ แบม สราลี ซึ่งแต่ละคนก็มาในลุกส์ที่เรียบโก้ สวยหล่อดูดีกันทุกคน

สำหรับความพิเศษของแฟล็กชิพสโตร์ Tiffany & Co. แห่งใหม่ล่าสุดใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คือ การตกแต่งภายใต้แนวคิดการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ เป็นการเฉลิมฉลองมรดกแห่งงานฝีมือเหนือกาลเวลาและงานออกแบบโดดเด่นที่อยู่คู่แบรนด์ Tiffany & Co. มานานนับศตวรรษ

24 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ‘ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์’ คว้านางงามจักรวาลเป็นคนที่ 2 ของไทย สร้างประวัติศาสตร์-ชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ประเทศไทยได้กลายเป็นที่รู้จักของชาวโลกอีกครั้ง กับการขึ้นไปคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาลคนที่ 37 ของ ‘ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก’ ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทย

ซึ่งเธอถือเป็นตัวแทนชาวไทยคนที่ 2 ที่ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล หลังจาก ‘อาภัสรา หงสกุล’ นางงามจักรวาลชาวไทยคนแรกที่ชนะการประกวดนางงามจักรวาลในปี ค.ศ. 1965 หรือ พ.ศ. 2508

สำหรับการประกวดนางงามจักรวาล ค.ศ. 1988 หรือ พ.ศ. 2531 จัดขึ้น ณ เมืองไทเป เกาะไต้หวัน โดยมีผู้เข้าประกวด 66 คน ซึ่งตัวเก็งการประกวดในสายสื่อมวลชน คือ นางงามสหรัฐอเมริกา นางงามเม็กซิโก นางงามสาธารณรัฐโดมินิกัน นางงามนิวซีแลนด์ และนางงามของไทย รวมถึงนางงามจากไอซ์แลนด์ ที่เคยได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสเวิลด์ 1987 ที่ อังกฤษ มาแล้ว ซึ่งก็พ่ายให้กับสาวในแถบเอเชีย ในการประกวดรอบแรก

ทั้งนี้ ภรณ์ทิพย์ สามารถทำคะแนนในชุดว่ายน้ำได้ลำดับที่ 11 แต่เมื่อรวมคะแนนจากชุดราตรีและการสัมภาษณ์แล้ว สามารถเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายมาในลำดับที่ 4 โดยมีคะแนนตามหลัง นางงามสหรัฐอเมริกา นางงามสาธารณรัฐโดมินิกัน และนางงามเกาหลีใต้ ซึ่งในการประกวดรอบ 10 คน เธอได้สร้างความประทับใจให้กับกรรมการอย่างมาก ระหว่างช่วงการประกวดรอบสัมภาษณ์ซึ่งทำให้เธอกวาดชัยชนะทั้ง 3 รอบ และกลายเป็นผู้ชนะอย่างขาดลอยของการประกวดนางงามจักรวาลในปีนั้น และนอกจากได้รับมงกุฏนางงามจักรวาลแล้วยังได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมอีกตำแหน่งเพิ่มด้วย

นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักธุรกิจ และได้ดำรงตำแหน่งผู้แทนองค์การสหประชาชาติ สำหรับโครงการช่วยเหลือเด็กและสตรีในระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นประธานตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กอีกหลายแห่ง

มันไม่สำคัญว่าเราจะอยู่ตรงกลางหรือเปล่า เราสามารถไชน์ได้จากทุกที่

‘แพร ภริตา’ 1 ในสาวไทยจากวง ‘BABYMONSTER’ เปิดใจถึงรุ่นพี่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ผ่านบทสัมภาษณ์ใน Teen Vogue #BABYMONSTER โดยระบุว่า…

หนูรู้สึกว่าพี่ลิซ่าเปิดประตูสู่ความสำเร็จหลาย ๆ อย่างให้พวกเรามาถึงจุดนี้ค่ะ เพราะงั้นหนูเลยรู้สึกขอบคุณมาก ๆ

คำสอนจากพี่ลิซ่าที่ติดอยู่ในใจหนูมากที่สุดคือ… "มันไม่สำคัญว่าเราจะอยู่ตรงกลางหรือเปล่า เราสามารถไชน์ได้จากทุกที่"

23 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 ‘ในหลวง ร.9’ เสด็จฯ เปิดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร สองวีรสตรีผู้ปกป้องเมืองถลาง จากทัพข้าศึกพม่าในสงครามเก้าทัพ

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร และปิดทอง เจิมช่อฟ้าพระอุโบสถวัดเจริญสมณกิจ (วัดหลังศาล) เมื่อครั้งเสด็จประพาส จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2510

โดยในปัจจุบัน รูปอนุสาวรีย์นำไปใช้เป็นตราประจำจังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2528 เป็นรูปอนุสาวรีย์สองวีรสตรี อยู่ในวงกลมล้อมด้วยลายกนก ซึ่งแสดงถึงวีรกรรมอันห้าวหาญของท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร 

ทั้งนี้ ท้าวเทพกระษัตรี และ ท้าวศรีสุนทร นามเดิมว่าคุณหญิงจันและคุณมุกตามลำดับ เป็นสองวีรสตรีในประวัติศาสตร์ไทย ผู้มีบทบาทในการป้องกันเมืองถลาง เกาะภูเก็ต จากการรุกรานของพม่าในสงครามเก้าทัพเมื่อปี พ.ศ. 2328

‘สายป่าน อภิญญา’ ทุ่มเงินครึ่งล้าน ซื้อนักมวยหนุ่มเข้าค่าย ชี้!! ชอบศิลปะมวยไทย อยากปั้นเด็กรุ่นใหม่ ให้ประสบความสำเร็จ

(22 พ.ค.67) สายป่าน อภิญญา เผยจุดเริ่มต้นจับธุรกิจมวยไทย ทุ่มครึ่งล้าน ซื้อนักมวยหนุ่มวัย 19 อนาคตไกล ชี้ประสบการณ์ใหม่ ต้องใจรักมาก

เริ่มเข้าวงการมวย เพราะชื่นชอบเป็นพิเศษ ถึงกับไปเรียนจริงจัง สำหรับนางเอกสาว ‘สายป่าน อภิญญา’ ล่าสุดควักเงินครึ่งล้าน ซื้อตัวนักมวยหนุ่มวัย 19 อนาคตไกล มาปลุกปั้นให้โอกาสขึ้นสังเวียน

โดย สายป่าน ได้เปิดใจถึง ประสบการณ์ใหม่ในวงการมวย ว่า ...

ช่วงนี้ซื้อนักมวยเก่ง? 
“ไม่เก่ง คนเดียวเองค่ะ(หัวเราะ) เพชรโฟกัส ตอนนี้ใช้ชื่อ เพชร โพกัส พีเค ว.อภิญญา ถามว่ามาเข้าวงการมวยได้ยังไง เราชอบ ไปดูแล้วรู้สึกว่าชอบศิลปะป้องกันตัวมวยไทยเป็นพิเศษ แล้วก็เรียน หลังจากนั้นมาพอเราดูทุกๆ วีค มีความชื่นชอบ อยากจะซื้อมวยไว้สักคนหนึ่ง ป่านชอบจริงๆ แล้วน้องเขาดูมีอนาคต เราอยากให้น้องเขาได้โอกาสดีๆ”

“ไม่ถึงกับเป็นโปรโมเตอร์ขนาดนั้นค่ะ ก็คือว่าเราสนับสนุนน้องเขา ดูแลน้องเขา ส่งน้องเขาซ้อม และมีรายการก็ส่งน้องเขาไปแข่งขัน ไปขึ้นชก เราก็คอยเป็นกำลังใจเชียร์ ดูแลเขาอยู่ในสายตาตลอด”

ทุ่มงบไปเท่าไหร่? 
“ไม่บอก(หัวเราะ) ประมาณ 6 หลักกลางๆ ยังไม่คิดจะซื้ออีก ขอลองก่อนเพราะจริงๆ มันไม่ได้ง่ายนะ ทำมวยต้องใจรักมากๆ จริงๆ ค่ะ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับป่านกับวุฒิเลย”

“สำหรับเป้าหมายในการปั้นน้อง ก็ไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่น้องจะไปได้ คือตอนนี้โฟกัสยังอายุ 19 เข้า 20 น้องเขายังไปต่อได้อีกไกล อยากให้น้องเขาประสบความสำเร็จในอาชีพ น้องเขาเป็นมวยที่เก่งอยู่แล้ว อยู่ที่ประสบการณ์ของน้องด้วย”

“ซึ่งป่านยินดีที่จะสนับสนุนน้องเขา ตอนนี้เป็นรายบุคคลไปก่อน สามีเขาก็สนับสนุน เขาอยากทำ พอมาคุยกันเราก็ชอบเหมือนกันนอกเหนือจากดำน้ำแล้ว ก็มีเรื่องมวยนี่แหละที่เราชอบทั้งคู่ มันถึงเวลาแล้ว พอเห็นน้องเขา แล้วรู้สึกว่าน้องเขามีโอกาสมีอนาคตอีกไกลเลย ก็น่าสนใจ”

22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ‘คสช.’ ปฏิบัติการก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.30 น. ได้เกิดการรัฐประหารอีกครั้งในประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ รัฐประหารโค่นรัฐบาลรักษาการ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย รัฐประหารดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ และอิทธิพลของนายทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทย

ก่อนหน้านั้นสองวัน คือ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่เวลา 03.00 น. กองทัพบกตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) และให้ยกเลิกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งขึ้น กอ.รส. ใช้วิธีการปิดควบคุมสื่อ ตรวจพิจารณาเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต และจัดประชุมเพื่อหาทางออกวิกฤตการณ์การเมืองของประเทศ แต่การประชุมไม่เป็นผล จึงเป็นข้ออ้างรัฐประหารครั้งนี้

หลังรัฐประหาร มีประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลงยกเว้นหมวด 2 คณะรัฐมนตรีรักษาการหมดอำนาจ ตลอดจนให้ยุบวุฒิสภา จนเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 สภาฯ มีมติเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

‘ลิซ่า’ ทำว้าวุ่น!! หลังโพสต์อวดชุดน้องเป็ดลาบูบู้ ราคาพุ่งไกลจากหลักร้อยถึงหลักพัน ไม่ถึง 24 ชม.

(21 พ.ค.67) เรียกว่างานเข้าคนรักอาร์ตทอย โดยเฉพาะติ่งลาบูบู้ หลังจากที่ ‘ลิซ่า Blackpink’ หรือ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ เจ้าแม่ sold out ขอเป็นสาวกรันวงการลาบูบู้อีกคน ได้ทำการโพสต์ภาพคู่น้องลาบูบู้ ก็ทำเอาลาบูบู้ราคาสูงขึ้นไปหลายเท่า แถมหายากจนบางรุ่นกลายเป็นแรร์ไอเทม กลายเป็นของหายากที่หลายคนพยายามตามหา ราคารีเซลล์จากหลักร้อยพุ่งไปถึงหลักสองพันบาทเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด ลิซ่า ได้โพสต์ภาพไอจีสตอรี่ กระเป๋าพร้อมลาบูบู้ อวดชุดเป็ดลาบูบู้ ก็ทำเอาวงการร้อนฉ่า จาก accessory ชุดเป็ดลาบูบู้จากราคาตามท้องตลาด ไม่ถึง 500 บาท ไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ลิซ่าโพสต์ ราคาดีดไปถึง 2,600 บาท แถมตอนนี้ยังต้องพรีออเดอร์ในบางร้านเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า 

ราคาชุดเป็ดลาบูบู้ไปไกลทำเอาชาวเน็ตหลายคนถึงกับอุทานว่า ราคาไปไกลมาก! บางคนก็บอกว่า แพงจนแทบขยี้ตาไม่ทัน บางคนก็ครีเอตไม่สนราคา เปิดรับถักชุดเป็ดให้น้องลาบูบู้ สร้างรายได้อีกด้วย

21 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ เสด็จเปิด ‘อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง’ หนึ่งในปราสาทหินศิลปะแบบขอมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศไทยภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหนึ่งในปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 (บ้านดอนหนองแหน) ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร โดยประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ทั้งนี้ คำว่า ‘พนมรุ้ง’ นั้น มาจากภาษาเขมร คำว่า ‘วนํรุง’ แปลว่า ‘ภูเขาใหญ่’

ทั้งนี้ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ ได้ดำเนินการบูรณะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 จนเสร็จสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2531 โดยมีพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน มีงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปี ในครั้งนั้นอีกด้วย

ปัจจุบัน ปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับ ปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา โดยปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย

‘พี่เสก’ เปิดใจ!! ใช้ชีวิต แบบ ‘ร็อกสตาร์’ มีทั้งดีทั้งร้าย รับ!! เคยเป็นพ่อที่แย่ แต่ตอนนี้เลิกทุกอย่างแล้วเพื่อครอบครัว

ร็อกสตาร์ระดับตำนาน ‘เสก โลโซ’ มาเปิดใจพร้อมลูกชาย ‘เสือ เสฏกานต์ สุขพิมาย’ และวงโลโซแบบยกทีม เผยถึงการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ 28 ปี LOSO We Are The Rock And Roll Concert ที่เป็นการรวมตัวกันในรอบหลายปี และเรื่องราวดราม่าของครอบครัวระหว่างพ่อลูก ตอนนี้เลิกทุกอย่างแล้วเพื่อครอบครัว ยอมรับอดีตเคยเป็นพ่อที่แย่มาก ลั่น! ยังรัก GMM อยู่เสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังอยากกลับไปร่วมงานกับค่ายอีกครั้ง ในรายการ WOODY FM

>>อยากรู้ว่าตอนที่ยังเด็กแล้วรู้ว่ามีคุณพ่อเป็น ‘เสก โลโซ’ ใช้ชีวิตแบบไหน ต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง ?

เสือ เสฏกานต์ : ตอนเล็ก ๆ ผมไม่ค่อยได้เจอพ่อเจอแม่ ผมโตมากับคุณยายคุณตา คุณพ่อก็ไปทัวร์บ่อยไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศบ่อย ตอนนั้นก็ยังไม่รู้เรื่องอะไร ตั้งแต่เด็กก็เลยไม่ได้สนิทอะไรกันมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่เก็บมาตั้งแต่เด็กครับ เรื่องการที่เรามีความห่างกันนิดหนึ่ง พอโตมาประถมก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าพ่อทำงานอะไร พ่อเป็นใคร ไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนดูเยอะมาก ช่วงนั้นก็ได้ไปดูคอนเสิร์ตพ่อบ้าง ได้ไปทัวร์ต่างประเทศด้วย ไปยุโรป ไปอเมริกา ก็ได้ไปกับพ่อเกือบทุกงาน 

คือตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่านี่ก็คือชีวิตเด็กธรรมดาแบบนี้หรือเปล่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วมันก็ต่างจากชีวิตคนอื่นมากเลย พอเราโตมาเรื่อย ๆ ก็เห็นว่าอะไรเป็นอะไร งานเป็นยังไง ครอบครัวเป็นยังไง ที่โรงเรียนเพื่อน ๆ คุณครูก็ไม่มีใครมาคุยอะไรที่ทำให้ผมกระวนใจอะไร ผมว่าเขาก็คงรู้ว่าต้องมีการเว้นพื้นที่กันในการคุยเรื่องครอบครัวด้วยที่พ่อเป็น เสก โลโซ แต่พอโตมาเจอข่าวมันก็มีการเครียด กังวล เป็นห่วงครอบครัว เป็นห่วงพ่อแม่เป็นห่วงน้องด้วย ก็อดทนมาตลอดรู้ว่าครอบครัวก็อดทนมาตลอด สู้มาตลอด ผ่านปัญหาด้วยกันมาตลอด ก็รู้สึกดีมากที่มาถึงจุดนี้ได้

>>เคยมีวันหนึ่งไหมที่รู้สึกว่าเราอาจจะยอมแพ้ ?

เสือ เสฏกานต์ : มีอยู่แล้วครับ แต่ผมเป็นคนที่มีความคิดว่าทุกอย่างมันจะลงตัวเอง ผมเป็นคนที่รู้สึกว่าเราชอบที่จะปรับตัวกับทุกเหตุการณ์ ทุกสถานการณ์ครับ เป็นคนที่ปรับตัวได้ง่ายกับการเปลี่ยนแปลงของชีวิต มีช่วงที่ผมย้ายบ้านบ่อยเพราะเริ่มมีปัญหามันก็อาจจะเครียดนิดหน่อยครับแต่ว่ารู้สึกว่าผมปรับตัวได้ง่าย ก็ใช้ชีวิตต่อไป ทำหน้าที่ของเรา ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.ปลาย ก็โฟกัสกับการเรียน โฟกัสการเข้ามหาวิทยาลัย แต่เรื่องชีวิตมันก็เครียดคิดว่าอยากหนี ไม่อยากอยู่ในจุดนี้แล้ว ไม่อยากเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก แต่ว่าด้วยมายเซ็ทของผม คิดว่าในที่สุดมันก็ต้องจบในทางที่ดี

>> ทำไมถึงตัดสินใจส่งลูกไปเรียนอินเตอร์?

เสก โลโซ : เขาอยากไปเรียน เขาเลือกโรงเรียนเองด้วยนะ แล้วเขาไปคนเดียวเลย พี่ไม่ได้ไปด้วยเลย วันที่จะไปเขามาขอตังค์พี่ ให้จ่ายค่าเทอมให้ เสือเขามาที่บ้านแล้วก็บอกว่าเขาจะไปเรียนที่อเมริกา วอชิงตัน ดี.ซี. พี่ก็น้ำตาซึมเลย จ่ายค่าเทอมเสร็จแล้วลูกก็บอกบ๊ายบาย แต่เสือไม่เห็นหรอก เขาไปอยู่ที่ต่างประเทศเก่งมากคนเดียว 3 ปีครึ่ง

>>อายุเท่าไหร่ครับ ?

เสือ เสฏกานต์ : ตอนนั้นก็ช่วงจบ ม.ปลาย อายุ 17-18 ครับ คิดไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากจะไปต่อมหาวิทยาลัยที่อเมริกา ไม่ก็อังกฤษ เพราะตอนสมัยเรียนพ่อก็พาไปเรียนที่อังกฤษ แล้วตอนนั้นพ่อก็ไปเรียนภาษาเหมือนกัน ก็เลยอยากจะใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ

>>พี่เสกเป็นคนที่เรียลมาก ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพี่ก็เผชิญกับหลายเรื่อง ?

เสก โลโซ : เป็น 10 ปีที่หนักหน่วงมาก 

>>ก่อนที่จะมาถึงวันนี้ก็มีหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหล้า ยา อะไรต่าง ๆ ที่วนอยู่ตรงนั้น เคยคิดไหมว่าฉันอยากจะออกจากตรงนี้?

เสก โลโซ : คือชีวิตร็อกสตาร์ ถ้าเป็นร็อกสตาร์จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ กันนั้นแหล่ะ มีทั้งผู้หญิง มีทั้งยาเสพติด มีทั้งชื่อเสียงเข้ามาทั้งดี ทั้งร้ายนะครับ พี่ก็ผ่านมาหมดแล้ว ก็บอกตัวเองว่าเราเข้มแข็งพอที่จะเอาชนะมันได้ ซึ่งทุกวันนี้สะอาดมาก ดื่มเหล้าอย่างเดียว นอกนั้นไม่มีอะไรเลย บุหรี่ก็เลิกสูบ ไม่รู้เลิกสูบได้ไงก็ไม่รู้ เลิกสูบซิการ์หมดเลย เลิกมาน่าจะ 2 ปีได้แล้ว

>>เป็นอุทาหรณ์หรือเป็นตัวอย่างให้กับคนที่อยากเลิก พี่เลิกยังไง ?

เสก โลโซ : คือต้องเลิกให้กับครอบครัว แล้วก็ต้องกลับมาเป็นพ่อที่ดี เพราะว่าผมผ่านการเป็นพ่อที่แย่มาก่อน ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรให้เกี่ยวกับดนตรี เพราะรู้สึกว่าดนตรีอย่างเดียวที่จะนำเงินทองเข้ามา แล้วก็ส่งเสียลูกเรียนได้ พออยู่มาวันหนึ่งเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผมแต่งงานกับคุณกานต์ 3 รอบแล้วนะ แต่งแล้วก็หย่า แต่งแล้วก็หย่า วู้ดดี้คิดดูสิ ไม่มีใครเป็นนะ อาจจะเป็นคู่แรกของโลกก็ได้ (หัวเราะ) แล้วก็มีความรู้สึกว่าตัวเองแย่มากพอมองกลับไป ในวันนี้รู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นที่เลิกทุกอย่างได้ แล้วก็มาเป็นพ่อที่เรียกว่าได้ดูลูกบ้าง เพราะปกติเขาต่อสู้มาด้วยตัวเอง ผมภูมิใจในความเป็นเสือมาก ที่เขามาเป็นนักร้องอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นแร็ปเปอร์

>>คุณพ่อเคยชมไหม ?

เสือ เสฏกานต์ : เคยครับ (หัวเราะ) ก็แนวนี้ครับ ก็พ่อลูกกันอ่ะครับ ไม่ได้มี Emotional ขนาดนั้น

>>ก็ต้องยอมรับว่ามีความคาดหวังเหมือนกัน เพราะเป็นลูกของ เสก โลโซ ?

เสือ เสฏกานต์ : มีคนถามบ่อยนะครับว่าเป็นเสือในตอนนี้รู้สึกกดดันไหม ผมกับพ่อคือเป็นพ่อลูกกัน แต่ก็ไม่ใช่คนเดียวกัน แนวเพลงก็ต่างกัน ความชอบก็ไม่เหมือนกัน ผมชอบหลายแนว ร็อก ป๊อบ แร็ป แต่ที่ชอบจริง ๆ ก็คือ อยากทำเพลงแร็ป การที่ผมมาทำต่างจากพ่อ มันก็คือพาร์ตของมายเซ็ทหนึ่งที่คิดว่าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีความกดดันอะไร เพราะว่าเราไม่ได้ทำเพลงแนวแบบพ่อ ไม่ได้มีคาแรคเตอร์ มีลุคที่เหมือนพ่อ เราเป็นคนของตัวเอง บางทีผมก็เห็นคนมาบอกว่า ไม่เก่งเท่าพ่อเลย ไม่เห็นได้อะไรจากพ่อ ซึ่งผมก็โอเคเข้าใจ แต่ว่าก็ไม่ได้เก็บไปคิดอะไร เพราะว่าผมไม่ได้มีความหวังที่จะเหมือนพ่อ ที่จะเก่งเท่าพ่อ พ่อเป็นตำนานของไทย ของเอเชียเลยก็ได้ King Of Rock And Roll ความคิดของผมคืออยากจะทำเพลงให้ดี อยากทำเพลงให้คนได้ฟัง ได้มีอินสไปเรชั่นจากเพลง แต่ว่าผมไม่ได้มีความคิดที่อยากจะเป็นตำนานแบบพ่อ อยากจะเก่งที่สุด แค่อยากทำเพลงที่ผมชอบในแนวของตัวเอง ไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดอะไร

>>จากที่พี่เคยสดใสแฮปปี้แล้วมันไปดาร์กเกิดอะไรขึ้นในชีวิต มาจากเรื่องอะไรที่ทำให้เราตกลงไปในหลุม?

เสก โลโซ : พี่สนุกเกินไป ใช้ชีวิตแบบ Rock & Roll Star เพราะว่ามีเพื่อนเป็นโปรดิวเซอร์ระดับโลกเข้ามา มีเพื่อนเป็นนักดนตรีระดับโลกมาเล่นด้วยกันนะ ก็เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้เดือดร้อนใครแล้วก็ไม่อันตรายมาก แต่พี่คิดผิดที่เข้าไปสู่สิ่งเหล่านั้น แล้วก็ทำลายความสุขในครอบครัวไปมากทีเดียวเหมือนกัน พอมาวันนี้ก็รู้สึกว่าเราเอาชนะมันได้ ก็รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาจาก Sex, Drugs and Rock 'n' Roll

>>สมมุติว่ามีใครที่ติดในกับดักนั้นอีกพี่อยากจะแนะนำว่า ?

เสก โลโซ : ก็จะเตือน อยากแนะนำเลยว่าอย่าไปยุ่งนะ เพราะอันนี้อันตรายถึงชีวิตทีเดียว คือรอดได้ไม่กี่คน พวกฝรั่งที่เขารอดได้เพราะว่าไป Rehab แล้วก็ทำกิจกรรมอะไรเยอะแยะ เราก็ต้องออกมาแล้วก็ต่อสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งพี่เองคือเอาชนะใจตัวเองได้ เพราะว่าเรามีครอบครัว ถ้าคนที่ไม่มีครอบครัวพี่คิดว่าลำบากนะ เพราะว่าไม่มีเป้าหมายว่าเราจะเลิกสิ่งนั้นเพื่ออะไร เพราะว่ามันเข้าไปแล้วมันสนุกจริง ๆ สนุกสนานโดยที่ลืมไปว่าตัวเองมันอันตรายนะ เวลาที่คิดทีไรพี่ก็ยังมีอารมณ์ที่ดาวน์อยู่เหมือนกันนะ แต่ก็ต้องเอาชนะมันให้ได้ ต้องบอกว่ามันเป็นประสบการณ์และเป็นสิ่งที่เรานำมาสร้างงานจริง ๆ ก็ไม่อยากให้น้อง ๆ เข้ามาข้องเกี่ยว

>>เสือเองมองเรื่องนั้นยังไง ?

เสือ เสฏกานต์ : ครอบครัวเรารู้สึกดาวน์มาก ไม่ได้อยากที่จะพูดให้พ่อรู้สึกไม่ดี มันก็เป็นอะไรที่ผ่านมา พี่วู้ดดี้ก็คงจินตนาการได้ว่ามันเป็นเป็นช่วงที่เครียดที่เศร้ามาก ทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าทางครอบครัวเรา ทั้งพ่อและแม่เข้ามาร่วมมือกันทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมก็รู้ว่าเขาอยากทำเพื่อครอบครัว เพื่อลูก พอเราคิดไปแบบนั้นก็ทำให้เราคิดในแง่บวกเพิ่มมากขึ้น ก็รู้สึกโอเคขึ้นเรื่อย ๆ เครียดน้อยลง พอเวลาผ่านไป เวลามันช่วยทุกอย่างได้ครับ พอได้เจอพ่ออีกทีทุกอย่างที่เรารอคอยมามันก็ได้ผล

>>วันนั้นจนถึงวันนี้ไม่มีใครที่จะสามารถมาท็อปความรู้สึกในการฟังเพลงของ LOSO คือทุกเพลงมันฟีลกูู๊ดแล้วก็แฮปปี้ แล้วผมก็หวังว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีโอกาสทำอะไรใหม่ ๆ อีก เช่น อัลบั้มใหม่ ?

เสก โลโซ : ใช่ครับ พี่หวังไว้ พี่คิดอยู่ กำลังคิดอยู่ว่าจะไปออกในช่องทางไหนที่จะเป็นไป เพราะว่าหลังจากที่ออกมาจาก GMM พี่ก็ไม่ได้อยู่กับบริษัทอะไร ทำบริษัทเอง ซึ่งมันเรียกว่าก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน พี่อยากกลับไปอยู่บริษัทใหญ่ ๆ จริง ๆ แล้วบริษัทใหญ่เขาจัดการได้ดีกว่าเราล้าน % ทุกวันนี้พี่ยังได้รับเงินจากแกรมมี่อยู่ทุกเดือน ยังรู้สึกขอบคุณเขามาก ที่ดูแลกันอยู่ เพลงเก่า ๆ ของพี่เขาเอาไปทำเป็นไวนิลเป็นอะไรต่าง ๆ ค้าขายดีมาก ซึ่งแม้ว่าพี่ไม่ได้ออกอัลบั้มมาร่วม 10 ปีแล้ว ยังมีความรู้สึกว่าเรายังมีบริษัทใหญ่ที่ดูแลเราอยู่เรื่องการค้าขาย เพราะเพลงที่พี่แต่งเป็นเจ้าของกับแกรมมี่คนละครึ่ง พี่ทำเงินให้บริษัทแกรมมี่ 2,000 ล้าน ประมาณนะ บวกลบคูณหารแล้วพี่ก็รู้สึกว่าทั้งคอนเสิร์ต ทั้งการขาย CD เทปคาสเซ็ทอะไรต่าง ๆ นา ๆ ขายได้เยอะทีเดียว เพราะฉะนั้นเราก็มีความผูกพันกันอยู่ ถามว่าพี่ยังรักแกรมมี่อยู่ไหม พี่ยังรักอยู่เสมอ เพราะว่าเขาดูแลพี่มาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เกิดมาจากตรงไหนก็รู้สึกเขามีบุญคุณกับเรา ทุกวันนี้ก็รับเงินจากแกรมมี่ทุกเดือน เพราะฉะนั้นถามว่าพี่ยังอยากกลับไปทำงานกับแกรมมี่ไหม อยากทำงานกับแกรมมี่ อยากทำงานบริษัทใหญ่ ๆ แล้วพี่ก็ยังมองว่าวงของเสือสามารถไปอยู่ในค่ายใหญ่ ๆ ได้ แล้วก็ทำออกมาให้มันเพอร์เฟ็กต์

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=S2_Hx-MkxSo

20 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 'คิวบา' ได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯ  แต่ยังคงถูกแทรกแซงกิจการภายในมาโดยตลอด

'ประเทศคิวบา' ในอดีตเป็นอาณานิคมของสเปนร่วม 400 ปี และตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาที่รบชนะสเปนแล้วเข้ายึดครองคิวบาและหมู่เกาะฟิลิปปินส์จากสเปนเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกาได้ให้เอกราชแก่คิวบาเมื่อ พ.ศ.2445 แต่ยังไว้สิทธิในการแทรกแซงกิจการภายในของคิวบามาโดยตลอด ต่อมาได้เกิดกบฏนายสิบที่นำโดยสิบเอกฟุลเคนเซียว บาติสตา ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ.2476 ซึ่งบาติสตาได้ครองอำนาจในคิวบาอยู่นานถึง 25 ปี เนื่องจากมีนโยบายปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างเข้มงวด

รัฐบาลของบาติสตาได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนของบริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกาและบรรดากลุ่มมาเฟียต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกาก็ได้ขยายการปฏิบัติการมาที่เกาะคิวบา ซึ่งอยู่ห่างจากมลรัฐฟลอริดาเพียง 144 กิโลเมตรเท่านั้น จึงสร้างความมั่งคั่งให้กับบาติสตาอย่างมหาศาลด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวงจนกระทั่งนายฟิเดล คาสโตร ทนายความหนุ่มได้ก่อตั้งขบวนการใต้ดินออกหนังสือพิมพ์โจมตีรัฐบาลบาติสตาและได้รวบรวมสมาชิกตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธเข้าต่อสู้กับทหารเพื่อปลุกเร้าประชาชนคิวบาให้ลุกฮือขึ้นโค่นล้มรัฐบาลบาติสตาตามแบบการต่อสู้ของชาวคิวบาในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากสเปนในอดีตใน พ.ศ.2495 โดยคาสโตรได้นำกองกำลัง 165 คน เข้าโจมตีค่ายทหารมอนคาดา ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเกาะในวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2496 แต่กลับถูกตีโต้กลับแตกพ่ายไป และคาสโตรถูกจับจำคุก 1 ปี และเนรเทศไปอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก

ที่ประเทศเม็กซิโกนี่เองที่คาสโตรได้พบกับเช กูวารา นายแพทย์หนุ่มชาวอาร์เจนตินาผู้มีอุดมการณ์ตรงกัน ดังนั้น ทั้ง 2 คนได้รวบรวมกลุ่มสมัครพรรคพวกชาวคิวบาตั้งเป็นขบวนการ 26 กรกฎาคม แล้วลักลอบกลับมายังคิวบาพร้อมกำลังพล 85 คนอีกใน พ.ศ.2499 หลังจากความพ่ายแพ้ในช่วงแรก ๆ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนยุทธวิธีการรบเป็นรูปแบบทำสงครามกองโจรต่อสู้กองทัพของบาติสตาอย่างมีประสิทธิภาพจนเป็นผลให้บาติสตาต้องหนีออกนอกประเทศคิวบาใน พ.ศ.2502

ฟิเดล คาสโตร ได้มาเป็นผู้ปกครองคิวบาแบบเผด็จการและเริ่มแสดงท่าทีเอนเอียงไปมีความความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียตผู้นำกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสหรัฐอเมริกา ทำให้สหรัฐอเมริกาโดยหน่วยงานซีไอเอได้จัดการฝึกและติดอาวุธให้กับกองทัพชาวคิวบาพลัดถิ่นที่อยู่ในอเมริกากลับไปบุกยกพลขึ้นบกที่อ่าวหมู คิวบาใน พ.ศ.2504 เพื่อล้มรัฐบาลคาสโตร แต่ต้องล้มเหลวโดยสิ้นเชิง รัฐบาลอเมริกันต้องเสียศักดิ์ศรีและต้องจ่ายเงินและรถแทรกเตอร์เป็นจำนวนมาก เพื่อไถ่ตัวทหารคิวบาพลัดถิ่นกลับมายังสหรัฐอเมริกา แต่หน่วยซีไอเอยังคงพยายามลอบสังหารคาสโตรอีกนับครั้งไม่ถ้วน และสหรัฐอเมริกายังลงโทษทางเศรษฐกิจต่อคิวบาด้วยการไม่ค้าขายด้วย รวมทั้งแช่แข็งทรัพย์สินของคิวบาที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเพื่อการตอบโต้การที่ทางการคิวบายึดทรัพย์สินของชาวอเมริกันที่ทำธุรกิจอยู่ในคิวบาเป็นเวลายาวนานร่วม 5 ทศวรรษ

เพื่อเป็นการป้องกันตัว คาสโตรได้อนุญาตให้สหภาพโซเวียตติดตั้งฐานยิงจรวดหัวรบนิวเคลียร์และเก็บอาวุธนิวเคลียร์บนเกาะคิวบาซึ่งอยู่ห่างจากสหรัฐอเมริกาเพียง 144 กิโลเมตร สามารถที่ยิงขีปนาวุธเข้าใส่สหรัฐอเมริกาอย่างง่ายดาย จึงนำไปสู่เหตุการณ์วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาใน พ.ศ.2505 เกือบจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นเลยทีเดียว แต่วิกฤตการณ์ขีปนาวุธสงบลงได้ โดยทางสหรัฐอเมริกาต้องยอมให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้กำลังทหารบุกโจมตีคิวบาโดยเด็ดขาด และสหภาพโซเวียตก็ยอมถอนอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดออกจากคิวบา

คาสโตรได้เปลี่ยนแปลงการปกครองคิวบาให้เป็นคอมมิวนิสต์ตั้งแต่ใน พ.ศ.2504 ใน พ.ศ.2508 คาสโตรได้เป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เพิ่งตั้งขึ้น ขณะที่พรรคการเมืองอื่นถูกยุบ จากนั้นเขานำการเปลี่ยนแปลงคิวบาสู่สาธารณรัฐสังคมนิยม ยึดอุตสาหกรรมไปเป็นของรัฐและนำสาธารณสุขถ้วนหน้าและการศึกษาแบบให้เปล่า เช่นเดียวกับการปราบปรามการต่อต้านภายใน คาสโตรได้ริเริ่มคณะแพทย์คิวบาผู้ซึ่งทำงานทั่วโลกกำลังพัฒนา และช่วยเหลือกลุ่มสังคมนิยมปฏิวัติต่างประเทศหลายกลุ่มด้วยการส่งทหารคิวบาไปช่วยรัฐบาลคอมมิวนิสต์หลายประเทศรบ ด้วยหวังว่าจะโค่นทุนนิยมโลก

ซึ่งก่อนหน้านี้สหายของเขาคือ 'เช กูวารา' ก็ได้ไปปฏิบัติการทางทหาร เพื่อช่วยการปฏิวัติของประเทศโบลิเวียและถูกสังหารที่นั่นอีกด้วย

เมื่อประเทศสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายลงเมื่อ พ.ศ.2534 ทำให้เศรษฐกิจของคิวบาเกือบล่มสลายทำให้คิวบาต้องผ่อนปรนการใช้การบริหารเศรษฐกิจทั้งหมดโดยรัฐบาลกลางผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ซึ่งมีต้นแบบมาจากสหภาพโซเวียต ซึ่งก็ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว (แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยก็ได้ต้นแบบมาจากสหภาพโซเวียตด้วย) และเริ่มมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ ยิ่งกว่านั้นคิวบายังได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการเงินจากจีนและเวเนซุเอลา

ใน พ.ศ.2549 คาสโตรต้องเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ เขาจึงส่งต่ออำนาจให้กับราอูล คาสโตร น้องชายผู้ร่วมรบกับเขามาโดยตลอด และใน พ.ศ.2558 สหรัฐอเมริกาได้ตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคิวบาอีกครั้งภายหลังที่ตัดสัมพันธ์กันมา 54 ปี ในสมัยของประธานาธิบดีราอูล คาสโตร นี่เอง

การจากไปของฟิเดล คาสโตร เป็นการจากไปของนักปฏิวัติที่อยู่ยั้งยืนยงและสามารถต้านทานการโจมตีอย่างหนักและต่อเนื่องจากประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาได้ถึง 11 คน นับได้ว่าเป็นชายชาตรีโดยแท้

19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ‘กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์’ หรือ ‘เสด็จเตี่ย’ ผู้วางรากฐานกองทัพเรือไทย-ได้รับการยกย่องเป็น ‘บิดาแห่งกองทัพเรือไทย’

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีพระนามเดิมคือ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล ‘อาภากร’ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า ‘องค์บิดาแห่งทหารเรือไทย’

พระองค์ทรงเป็นผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือเรียกขานพระองค์ว่า ‘เสด็จเตี่ย’ หรือ ‘หมอพร’ และ ‘พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย’ ต่อมาใน พ.ศ. 2536 มีประกาศกองทัพเรือขนานพระนามพระองค์ว่า ‘พระบิดาของกองทัพเรือไทย’ และใน พ.ศ. 2544 แก้ไขเป็น ‘องค์บิดาแห่งทหารเรือไทย’

พระองค์ทรงประชวรด้วยโรคประจำพระองค์ เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2465 ก่อนจะสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 เวลา 11 นาฬิกา 40 นาที สิริพระชันษา 42 ปี 151 วัน โดยมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2466 ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง

ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ได้มีการจัดสร้างศาลและพระอนุสาวรีย์พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รวมทั้งสิ้น 217 แห่งทั่วประเทศไทย เช่น โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หรือที่พระตำหนักที่หาดทรายรี จังหวัดชุมพร

18 พฤษภาคม พ.ศ. 2463 วันเกิด ‘อิศรา อมันตกุล’ นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก แบบอย่าง ‘นักหนังสือพิมพ์’ ผู้เคร่งครัดหลักจริยธรรมของวิชาชีพ

‘อิศรา อมันตกุล’ เดิมชื่อ อิบรอฮีม อะมัน ผู้มีฉายาว่า ‘นักบุญ’ เป็นนักเขียน นักหนังสือพิมพ์ คนสำคัญของประเทศไทย และเป็นนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก

โดย อิศรา อมันตกุล มักจัดหน้าและเขียนเองเป็นส่วนมาก เขามีความสามารถในการเขียนคอลัมน์และภาพประกอบได้อย่างดีพอสมควร เรื่องที่เขียนไม่ว่าเรื่องเล็กน้อย กระจุกกระจิกประการใด สำนวนโวหารมีเสน่ห์ชวนอ่านเสียทั้งสิ้น เขียนได้หลายแบบ ไม่เฉพาะนวนิยาย เรื่องสั้น เรื่องยาว สารคดีและคอลัมน์ต่าง ๆ ได้คล่องเท่ากัน

อิศรา อมันตกุล เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2463 เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 10 คน ของ นาย ม.ชาเลย์ และ นางวัน เรียนชั้นประถมศึกษา โรงเรียนบำรุงวิทยา และจบมัธยมศึกษาปีที่ 8 จาก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ร่วมกับคณะมิชชันนารี ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 2 ปี จึงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร

อิศรา อมันตกุล มีความถนัดในการใช้ภาษาอังกฤษ เป็นผู้มีคะแนนยอดเยี่ยมทางภาษาอังกฤษในระดับประเทศ ผลงานคอลัมน์การใช้ภาษาอังกฤษ ใช้นามปากกา ‘แฟรงค์ ฟรีแมน’ นอกจากงานหนังสือพิมพ์แล้ว เขานิยมเสนอความคิดทางการเมืองในรูปแบบงานประพันธ์และวรรณกรรม

ผลงานด้านการประพันธ์ทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาวหลายชิ้นมีการนำเสนอความคิดทางการเมืองอย่างชัดเจน เช่น เขาตะโกนหานายกรัฐมนตรี, นาถยาและสถาพรผู้กลับมา และข้าจะไม่แพ้

อิศรา อมันตกุล ชอบทำงานอิสระของตนเองมากกว่าที่จะเข้าสังกัด ชีวิตหนังสือพิมพ์เริ่มต้นที่หนังสือพิมพ์สุภาพบุรุษ ประชามิตร ร่วมกับ กุหลาบ สายประดิษฐ์ และมาลัย ชูพินิจ และได้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์สุวัณณภูมิ ร่วมกับทองเติม เสมรสุต เป็นผู้ออกแบบตราสัญลักษณ์ของสมาคมนักข่าวในครั้งนั้น), วิน บุญอธึก, สว่างวงศ์ กรีบุตร, เสนีย์ เสาวพงศ์ และวิตต์ สุทธเสถียร

ภายหลังได้ทำหนังสือพิมพ์อีกหลายแห่ง เช่น หนังสือพิมพ์บางกอกรายวัน, หนังสือพิมพ์เอกราช, หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทยเบื้องหลังข่าว, หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์

อิศรา อมันตกุล ถูกอำนาจเผด็จการยุคนั้นจับกุมไปคุมขังที่เรือนจำลาดยาว ด้วยข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นเวลา 5 ปี 10 เดือน ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระโดยไม่มีการฟ้องร้องศาลแต่อย่างใด ภายหลังได้ทำงานที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ชีวิตการต่อสู้เป็นแบบอย่างการทำข่าวเจาะ และเขาเป็นแบบอย่างของนักหนังสือพิมพ์ผู้เคร่งครัดในหลักจริยธรรมวิชาชีพ จนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ นำชื่อมายกย่องตั้งเป็นชื่อ   ‘รางวัลอิศรา’ ให้กับผลงานข่าว ภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำปี

“หนังสือพิมพ์ในสายตาของคนทั่วไปอาจเป็นเศษกระดาษ ซึ่งเมื่ออ่านเสร็จแล้วก็โยนทิ้งไป หรืออย่างดีก็เก็บเอาไว้ชั่งกิโลขายเจ๊ก ถึงอย่างไร ผมอยากจะกล่าวว่าหนังสือพิมพ์คือเอกสารทางประวัติศาสตร์สั้นต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์ เดือนต่อเดือน ปีต่อปี นั่นเอง หนังสือพิมพ์วันนี้ ย่อมจะกลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในวันหน้าไปอย่างแน่นอนมิพักต้องสงสัย” เป็นคำพูดของ อิศรา อมันตกุล

อิศรา อมันตกุล ถึงแก่กรรมเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2512 ด้วยโรคมะเร็ง แต่แบบอย่างที่งดงามในความหนักแน่นต่อหลักจริยธรรม ความรักในเสรีภาพ และการต่อสู้ต่ออำนาจเผด็จการแม้แลกด้วยอิสรภาพของตนเอง เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมวงการหนังสือพิมพ์ เสริมศรี เอกชัย (เรือใบ) เขียนถึงเขาไว้ในหนังสือวันนักข่าว 5 มีนาคม โดยชื่อบทความ อิศรา ตัวตายแต่ชื่อยัง

สำหรับมูลนิธิ อิศรา อมันตกุล นั้นก่อตั้งขึ้นมาได้สำเร็จด้วยความเสียสละร่วมกันของบุคคลต่าง ๆ มากมายหลายฝ่าย โดยมีความประสงค์ต้องตรงกันอยู่ที่เป้าหมายเดียวกันคือ ปณิธานที่จะเชิดชูเกียรติคุณของคุณอิศรา อมันตกุล ไว้ให้ปรากฎ เพื่อจะได้เป็นพลังให้แก่เพื่อนนักหนังสือพิมพ์และนักเขียนรุ่นหลัง และต่อมามูลนิธิอิศรา อมันตกุล ได้มอบหมายให้สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย (ต่อมายุบรวมกับสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2543) ดำเนินการจัดการประกวดรางวัลอิศรา อมันตกุล เพื่อให้รางวัลแก่ผลงานข่าว และภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำปี โดยเริ่มต้นการประกวดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2515 และมีพิธีมอบรางวัลครั้งแรกในวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2516

17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 ‘ในหลวง ร.9’ เสด็จฯ เปิด ‘เขื่อนภูมิพล’ เขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกในประเทศไทย

‘เขื่อนภูมิพล’ เป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งขนาดใหญ่ สร้างปิดกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เดิมเรียก ‘เขื่อนยันฮี’ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อน และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2504 โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างตัวเขื่อน ระบบส่งไฟฟ้า อาคารโรงไฟฟ้า และองค์ประกอบต่าง ๆ

ทั้งนี้ เขื่อนภูมิพล ถือเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกในประเทศไทย รองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งนอกจากจะใช้ระบายไปเพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภค ตลอดจนคมนาคมขนส่งแล้ว ยังใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า 

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 นอกจากจะช่วยหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรกว่า 10 ล้านไร่ ส่งเสริมอาชีพประมงเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านบาทต่อปี ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 64,000 ล้านหน่วย ยังเป็นเขื่อนที่ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัย และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top