Monday, 9 June 2025
LITE

22 สิงหาคม พ.ศ. 2407 วันก่อตั้ง 'กาชาดสากล' 12 ชาติยุโรปลงนามในอนุสัญญาเจนีวา มุ่งหวังเป็นองค์กรกลาง ช่วยดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม

วันนี้เมื่อ 160 ปีก่อน เป็นวันที่ ‘สภากาชาดสากล’ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากประเทศในยุโรป 12 ชาติ ลงนามในอนุสัญญาเจนีวา

โดยหากย้อนกลับไป ซึ่งก็คือวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2407 อองรี ดูนังต์ (Henri Dunant) นักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำการร่างสัญญาฉบับหนึ่งขึ้นมา เพื่อร่วมลงนามกับประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรปเป็นจำนวน 12 ประเทศ เพื่อเสนอให้มีการก่อตั้งองค์กรกลางเพื่อดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ซึ่งถูกเรียกว่า อนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions) ฉบับที่ 1 และเกิดเป็นการก่อตั้ง ‘กาชาดสากล’ ขึ้น

โดยสัญลักษณ์ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คือจะใช้เป็นรูปกากบาทสีแดงบนพื้นที่มีสีขาว ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของธงประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง นอกจากนี้ ยังถือเป็นกฎหมายมนุษยธรรมฉบับแรกของโลกอีกด้วย

และด้วยการทำงานขององค์กรกาชาดนี้ ที่เข้ามามีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เป็นอย่างดี ส่งผลให้ นายอังรี ดูนังต์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพครั้งแรกของโลกในปี พ.ศ. 2444 อีกด้วย

21 สิงหาคม พ.ศ. 2411 ‘ในหลวงรัชกาลที่ 5’ ประกาศใช้หน่วย ‘สตางค์’ เป็นครั้งแรกในไทย กำหนด 100 สตางค์เท่ากับ 1 บาท กลายเป็นมาตรฐานเงินบาทในปัจจุบัน

ย้อนกลับไปในวันนี้เมื่อ 156 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการออกประกาศให้ใช้หน่วย ‘สตางค์’ เป็นครั้งแรก

โดยก่อนหน้านี้ ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาจนถึงช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ประเทศไทยใช้หน่วยเงินเป็น ทศ พิศ พัดดึงส์ ชั่ง ตำลึง บาท สลึง เฟื้อง ไพ ซีก เสี้ยว อัฐ และโสฬส ซึ่งถือเป็นระบบที่ยากต่อการคำนวณและการแลกเปลี่ยนในการใช้จ่ายต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม 100 สตางค์ มีการกำหนดค่าให้เท่ากับ 1 บาท และนั่นถือเป็นจุดกำเนิดของหน่วยสากลที่นิยมใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน

‘มิ้นท์ I Roam Alone’ ประกาศเดินทางรอบโลกครั้งสุดท้าย ปักหมุด ’คาซัคสถาน‘ แบบไม่ใช้เครื่องบิน ก่อนปิดฉาก 12 ปี

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.67) เพจ ‘I Roam Alone’ หรือ ‘มิ้นท์’ มณฑล กสานติกุล ยูทูบเบอร์เจ้าของช่องท่องเที่ยวคนดัง ซึ่งผ่านดรามามามากมาย เช่น เดินทางไปอัฟกานิสถานคนเดียว หรือการพูดข้อดีของโควิด-19 หรือแม้แต่การเลิกแฟนหนุ่มที่เคยประกาศเตรียมแต่งงานหลังถูกเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงาน Gateway to Hell ประเทศเติร์กเมนิสถาน ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุด มิ้นท์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ‘การเดินทางครั้งสุดท้ายของ I Roam Alone | I Roam Alone's Last Journey’ พร้อมระบุว่า "ขอบอกลา I Roam Alone ด้วยการเดินทางครั้งสุดท้าย กับการเดินทางรอบโลกโดยไม่ใช้เครื่องบิน" ซึ่งเริ่มต้นคลิปมิ้นท์ถึงกับเช็ดน้ำตา และว่า "นี่เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของ I Roam Alone แล้วค่ะ ถ้าเทียบเป็นรถ รถคันนี้ก็ขับมา 12 ปีแล้ว เป็นรถที่รักมาก และไม่เคยคิดที่จะเลิกขับเลย แต่ช่วงชีวิตก็เปลี่ยนไป พลังงานก็ไม่เหมือนเดิม วันนี้รถคันนี้จึงไม่ใช่รถที่เหมาะกับเราที่สุดอีกต่อไป คนขับก็ขับมา 12 ปีแล้ว อยากออกไปยืดเส้นยืดสาย ไปขับอย่างอื่น ลองนั่งอย่างอื่นบ้าง แต่การบอกลา I Roam Alone จะให้เรามานั่งบอกลาเฉย ๆ คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นครั้งนี้จึงเป็นการเดินทางส่งท้าย เพื่อบอกลา I Roam Alone อย่างเป็นทางการ ด้วยการออกเดินทางรอบโลกแบบไม่ใช้เครื่องบิน

ทุกอย่างที่อยากทำ แล้วก็ยังไม่เคยได้ทำ ก็จะเอามาทำในทริปนี้ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นโบกเรือสินค้าเพื่อข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก การนั่งรถไฟชั้น 3 ในขบวนรถไฟของโซเวียต โบกรถข้ามประเทศ และอื่น ๆ อีกเยอะแยะเลยค่ะ การเดินทางครั้งนี้มีเวลาวางแผนแค่ 1 สัปดาห์เพราะกลัวเปลี่ยนใจ เพราะสิ่งที่เรารักมาก เรารู้แล้วว่ามันถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยน แล้วเราต้องเดินต่อ ไม่ได้แปลว่ามันง่ายที่เราจะปล่อยมันไปได้ เลยตัดสินใจ 1 สัปดาห์แล้วก็ประกาศ และจะออกเดินทางเลย

โดยสิ่งที่ตั้งใจไว้สำหรับการเดินทางครั้งนี้คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะตามแผนหรือเปล่า ไม่ว่าจะได้ทำอย่างที่เราต้องการหรือเปล่า แต่มิ้นท์จะเอนจอยกับมันทุกวินาที และจะซึมซับทุกอย่างบนโลกใบนี้ให้มากที่สุด แล้วก็ให้ปัจจุบันมันสว่างไสวที่สุด

จริง ๆ ความรู้สึกของการเดินทางครั้งนี้ เหมือนตอนทำ I Roam Alone ครั้งแรก ไม่มีความกดดัน เพราะมันเป็นการเดินทางเพื่อเราแล้ว

จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ จะบินไปที่คาซัคสถาน เพื่อเริ่มต้นการเดินทางรอบโลก เหตุผลง่าย ๆ คือ ยังไม่เคยไปคาซัคสถาน และเป็นประเทศที่อยากไปมาก ๆ ความท้าทายของการเดินทางครั้งนี้ คือการข้ามมหาสมุทรใหญ่ ๆ ทั้ง 2 แห่ง อย่างแอตแลนติก และแปซิฟิก โดยไม่ใช้เครื่องบิน แล้วก็จะไม่นั่งเรือเดินสมุทรที่เป็นเรือสำราญด้วย เราจะพยายามโบกเรือไป หรือไม่ก็นั่งเรือสินค้าไป เอาเป็นว่าทุกคนสามารถติดตามการเดินทางของมิ้นท์ได้ จะอัปเดตทาง IG Facebook และ TikTok ถ้าเป็นคลิปเต็มต้องรอหลังจากที่มิ้นท์เดินทางกลับมาถึงไทยแล้ว เอาเป็นว่าเรามาเริ่มต้นการเดินทางสู่ตอนจบของ I Roam Alone กันค่ะ" หลังจากนั้นในคลิปเป็นการย้อนการเดินทางที่ผ่านมาของมิ้นท์ตลอด 12 ปี

‘ชรินทร์ นันทนาคร’ เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในวัย 91 ปี พร้อมเป็นผู้ริเริ่มร่วมสร้างสรรค์เพลง ‘สดุดีมหาราชา’

(20 ส.ค. 67) รายงานข่าวแจ้งว่า ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2476 เป็นศิลปินนักร้อง นักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวไทย ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็น ‘ศิลปินแห่งชาติ’ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2541 สมรสกับนางเพชรา เชาวราษฎร์ ได้เสียชีวิต วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี

สำหรับผลงานของ ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ ที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่นิยมสูงสุด ได้แก่ เพลงเรือนแพ, มนต์รักดอกคำใต้, หยาดเพชร, อาลัยรัก, ทาษเทวี, เด็ดดอกรัก, ผู้ชนะสิบทิศ, ที่รัก, นกเขาคูรัก, แสนแสบ, ท่าฉลอม, สักขีแม่ปิง, ทุยจ๋าทุย, เพราะขอบฟ้ากั้น ฯลฯ

โดย ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ ได้รับรางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำจากเพลง ‘อาลัยรัก’ ก่อนจะผันไปเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2508 มีผลงานในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งหมดกว่า 19 เรื่อง โดยมีภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามคลอง ที่ทำรายได้สูงที่สุด

ทั้งนี้ ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ขับร้องเพลงไทยสากลผสมผสานกับเพลงไทยเดิม มีท่วงทำนองสูงต่ำเอื้อนด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ชวนฟัง ออกเสียงอักขระได้ชัดเจน มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงประมาณ 1,500 เพลง

นอกจากนี้ ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ เป็นผู้ริเริ่มร่วมสร้างสรรค์เพลง ‘สดุดีมหาราชา’ ซึ่งส่งผลให้ได้รับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ ‘สังข์เงิน’ สาขาใช้ศิลป์สร้างสรรค์ให้เกิดความรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์

20 สิงหาคม พ.ศ. 2447 ประหาร ‘นางล้วน’ นักโทษหญิง คดีฆ่าสามีแล้วเผาทั้งบ้าน ด้วยวิธีการ ‘ตัดศีรษะ’ เป็นรายสุดท้ายของประเทศไทย

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2447 มีการประหารชีวิตนักโทษหญิง ด้วยการตัดศีรษะเป็นครั้งสุดท้ายในประเทศไทย ที่วัดหนองจอก ริมคลองแสนแสบ อำเภอมีนบุรี จังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร)

โดยมีการบันทึกไว้ว่า มีการประหารชีวิตนักโทษหญิง ชื่อ ‘นางล้วน’ ด้วยวิธีตัดหัวเป็นรายสุดท้ายของประเทศไทย แต่เป็นรายสุดท้ายสำหรับผู้หญิง ส่วนรายสุดท้ายที่ถูกประหารด้วยวิธีตัดหัวเป็นผู้ชาย ก็คือนายบุญเพ็ง นักโทษผู้โด่งดัง เจ้าของฉายา ‘บุญเพ็งหีบเหล็ก’ ที่ได้ก่อคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ฆ่าชิงทรัพย์ตั้งแต่ขณะอยู่ในผ้าเหลือง สุดท้ายถูกประหารที่วัดภาษี คลองตัน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2462

สำหรับนางล้วน นักโทษหญิงรายสุดท้ายที่ถูกตัดหัวนั้น ไม่มีเรื่องราวที่พูดถึงกันมากนัก จึงถูกบันทึกไว้เพียงสั้น ๆ ว่า ต้องโทษด้วยข้อหาว่าฆ่าผัวตายแล้วเผาทั้งบ้าน ถูกประหารที่วัดหนองจอก ริมคลองแสนแสบ มีนบุรีหลังจากเพิ่งคลอดลูกในคุกได้เพียง 1 เดือน ก่อนเข้าหลักประหาร นางล้วนได้มีโอกาสให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายที่ท่าน้ำวัดหนองจอก ส่วนลูกของนางนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้รับไปอุปการะ

‘อั้ม พัชราภา’ ก้าวสู่ปีที่ 28 กับบ้านหลังเดิม ‘ช่อง 7’ ต่อสัญญาแบรนด์แอมฯ อีก 1 ปี รับ!! 20 ลบ. พร้อมหุ้น

(19 ส.ค. 67) ถือเป็นซุปเปอร์สตาร์ตัวแม่ที่อยู่คู่กับช่อง 7 HD มาอย่างยาวนาน สำหรับนางเอกเบอร์ 1 ตลอดกาลอย่าง ‘อั้ม พัชราภา’ กับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 28 ของการทำงาน นับตั้งแต่ละครเรื่องแรก ‘มณีเนื้อแท้’ ที่ออกฉายในปี 2540 จวบจนมาถึงปัจจุบันที่สาวอั้มก็ยังคงอยู่เคียงข้างช่อง ไม่หนีหายไปไหน อีกทั้งยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับช่องอีกด้วย

ซึ่งล่าสุดแม่อั้มก็เพิ่งเซ็นต่อสัญญาการเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับช่องอีก 1 ปี กับค่าตัวสุดปัง 20 ล้านบาท พร้อมกับได้หุ้นส่วนธุรกิจร่วม

โดยทาง 7HDSocietyFc7 ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า ‘อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ’ ก้าวสู่ปีที่ 28 กับบ้านหลังเดิม Ch7hd เซ็นสัญญาเพิ่มแล้ว รับจุก ๆ 20 ล้านบาท พร้อมหุ้นส่วนธุรกิจร่วม เตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศเร็ว ๆ นี้ อั้มนางเอกตัวแม่หนึ่งเดียวในไทยที่ปัจจุบันยังไม่มีใครล้มเธอได้ ส่วนละครเจ้าตัวพร้อมจะมาบอกเองนะคะ

19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 'พสกนิกรไทย' ร่วมส่งเสด็จฯ 'ในหลวง ร.9' พร้อมตะโกนก้อง ขออย่าละทิ้งพวกเขา พระองค์ทรงนึกตอบในใจ “ถ้าปชช.ไม่ทิ้งข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะทิ้งปชช.อย่างไรได้”

เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล สวรรคตกะทันหัน ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ในวันเดียวกัน รัฐสภาลงมติเป็นเอกฉันท์อัญเชิญ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สืบต่อไป

แต่เนื่องจากยังมีพระราชกิจด้านการศึกษา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม แต่เปลี่ยนสาขาจากวิทยาศาสตร์ ไปเป็นสาขาสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์

เดิมทีรัชกาลที่ 9 ทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าจะทรงครองราชสมบัติ แค่ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระบรมเชษฐาธิราชเท่านั้น เพราะยังทรงพระเยาว์และไม่เคยเตรียมพระองค์ในการเป็นพระมหากษัตริย์มาก่อน แต่ก็เกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น ที่ทรงจดจำไม่มีวันลืม คือ…

พระราชนิพนธ์บันทึกประจำวันบางส่วนของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ระหว่างวันเสด็จพระราชดำเนิน จากสยามสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คงพอจะสะท้อนให้เห็นถึงความรักของประชาชน ที่พร้อมใจส่งเสด็จอย่างมืดฟ้ามัวดิน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 

“...วันนี้ถึงวันที่เราจะต้องจากไปแล้ว พอถึงเวลาก็ลงจากพระที่นั่งพร้อมกับแม่ ลาเจ้านายฝ่ายใน ณ พระที่นั่งชั้นล่างนั้นแล้ว ก็ไปยังวัดพระแก้วเพื่อนมัสการลาพระแก้วมรกต และพระภิกษุสงฆ์ ลาเจ้านายฝ่ายหน้า ลาข้าราชการทั้งไทยและฝรั่ง แล้วก็ไปขึ้นรถยนต์ ตลอดทางที่รถพระที่นั่งแล่นผ่านฝูงชนที่มาส่งเสด็จอย่างล้นหลาม ได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนที่แสดงความจงรักภักดี บางแห่งใกล้จนทอดพระเนตรเห็นดวงหน้าและแววตาชัด ที่บ่งบอกถึงความเสียขวัญอย่างใหญ่หลวง ทั้งเต็มไปด้วยความรักและห่วงใย อันเป็นภาพที่ทำให้อยากรับสั่งกับเขาทุกคน ถึงความหวังดีที่ทรงเข้าพระทัย และขอบใจเขาเช่นกัน ขวัญของคนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าขาดกำลังใจ ถ้าขวัญเสียมีแต่ความหวาดระแวง ประเทศจะมีแต่ความอ่อนแอและแตกสลาย

พอรถแล่นออกไปได้ไม่ถึง 200 เมตร มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น บางทีจะเป็นลูกระเบิด เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฏว่าเป็นทอฟฟี่ที่อร่อยมาก ตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริง ๆ ที่ถนนราชดำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้จนชิดรถที่เรานั่ง กลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบ้าง รถแล่นฝ่าฝูงชนไปได้อย่างช้าที่สุด ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง ตามทางที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงโห่ร้องถวายพระพรได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดัง ๆ เข้าพระกรรณ์ ว่า…”

“ในหลวง อย่าละทิ้งประชาชน...”

พระองค์จึงทรงนึกตอบในพระราชหฤทัยว่า “...ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้...”

ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตระหนักในหน้าที่พระมหากษัตริย์ของพระองค์ ดังที่ได้ตรัสตอบชายคนเดิมนั้นในอีก 20 ปีต่อมา หลังจากที่จบการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์เสด็จเยือนกรุงปารีส ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร (พระอิสริยยศ ขณะนั้น) ซึ่งเป็นธิดาของเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นครั้งแรก

18 สิงหาคม ของทุกปี กำหนดให้เป็น ‘วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ’ น้อมรำลึก ‘ในหลวง ร.4’ พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย

ในวันที่ 18 สิงหาคม ของทุก ๆ ปี ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในวันสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และการศึกษาของไทย เนื่องจากตรงกับวันที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง ที่ ต.หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังพระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาไว้อย่างแม่นยำ ล่วงหน้า 2 ปี ด้วยพระปรีชาสามารถด้านวิทยาศาสตร์ของพระองค์ จึงได้มีการถวายพระราชสมัญญานามให้ทรงเป็น ‘พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย’ และด้วยพระปรีชาสามารถด้านวิทยาศาสตร์นี้ คณะรัฐมนตรีจึงกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี เป็น ‘วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ’

เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญทางวิทยาศาสตร์ดังกล่าว และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงเป็น ‘พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย’ ไปพร้อมกัน

สำหรับความเป็นมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระราชโอรส พระราชธิดา รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ (รัชกาลที่ 5) ขณะพระชนมายุ 16 พรรษา ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ ตำบลบ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411

ด้วยทรงตั้งพระปณิธานแน่วแน่ที่จะพิสูจน์ผลการคำนวณของพระองค์ หลังจากที่ทรงใช้กล้องโทรทรรศน์คำนวณการเกิดสุริยุปราคาครั้งแรกได้อย่างแม่นยำ ล่วงหน้า 2 ปี ซึ่งพระองค์คำนวณไว้ว่า สุริยุปราคาจะเกิดขึ้นในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช 1230 โดยจะเห็นหมดดวงและชัดเจนที่สุด ที่หมู่บ้านหัววาฬ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่บริเวณเกาะจาน ขึ้นไปถึงปราณบุรี และลงไปถึงเมืองชุมพร และโปรดฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) ไปสร้างค่ายหลวงและพลับพลาที่ประทับ พร้อมกับเชิญคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเซอร์แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ และร่วมในการสังเกตการณ์ ซึ่งเมื่อถึงวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่ทรงพยากรณ์ไว้ทุกประการ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว

องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์

17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางกรุงเทพมหานคร คนร้ายวางระเบิดบริเวณ ‘ศาลท้าวมหาพรหม’ คร่าชีวิต 20 ราย

เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.50 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ในขณะที่เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างปกติ จู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว บริเวณรอบศาลท้าวมหาพรหม หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 130 คน และมีผู้เสียชีวิต 20 คน เป็นชาวไทย 6 คน และชาวต่างชาติอีก 14 คน

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนเป้, ชิ้นส่วนลูกเหล็กกลม และชิ้นส่วนของท่อเหล็ก ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญ นั่นคือ ภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายใส่เสื้อสีเหลือง

วันต่อมา 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ยังมีระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้งบริเวณท่าเรือย่านสาทร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยเพิ่มเติม จนเข้าทำการจับกุม นายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู ชายชาวอุยกูร์ พร้อมหลักฐาน อาทิ อุปกรณ์ประกอบระเบิด สารเคมีเอทีพี รวมทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

ในเวลาต่อมา ยังมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกกว่า 17 คน ในจำนวนนั้นมีคนไทยร่วมขบวนการด้วยอยู่สองคน โดยการก่อเหตุรุนแรงถูกเชื่อมโยงไปยังเรื่องการก่อการร้ายข้ามชาติ แต่ต่อมามีประเด็นเรื่องความขัดแย้งในธุรกิจค้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ปัจจุบัน ผ่านมาแล้วกว่า 9 ปี เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ควรเป็นบทเรียนครั้งสำคัญต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในเรื่องการดูแลความปลอดภัย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไป

‘สื่อนอก’ ฮือฮา!! พูดถึง ‘ลิซ่า’ ยกใหญ่ หลังปล่อยเพลง New Woman แถมอยากรู้ 'ลิซ่าคือใคร' หลังได้ฟีเจอริ่งกับตัวแม่ละติน 'โรซาเลีย'

(16 ส.ค.67) หลังจากที่ปล่อยซิงเกิลที่ 2 ออกมากับเพลง 'New Woman' ของศิลปินสาวเก่ง 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า แบล็กพิงก์ โดยเพลงนี้มีตัวแม่สายละตินชาวสเปนอย่าง Rosalía (โรซาเลีย) มาร่วมร้องและเล่นเอ็มวีด้วย 

ทำเอาสื่อยุโรปและทางฝั่งลาตินอเมริกา ฮือฮากับการโคจรมารวมกันของ 2 ตัวแม่ โดยข่าวเว็บไซต์ต่าง ๆ พากันลงข่าวพูดถึง 'ลิซ่า' กันยกใหญ่ โดยทางสื่อสเปนพากันสงสัยว่าสาวสวยนามว่า 'ลิซ่า' คือใคร? ก่อนจะแนะนำว่าเธอคือ ไอดอลสาวสุดฮอตจากวง BlackPink ที่โด่งดังและมีผู้ติดตามทั่วโลก

พร้อมทั้งยังแนะนำว่าเธอนั้นคือศิลปินที่ประสบความสำเร็จทั้งศิลปินเดี่ยวและเกิล์กรุ๊ป โดยเคยได้รางวัล MTV และ Billboard Music Awards พร้อมทั้งกล่าวอีกว่า 'ลิซ่า' เธอคือนักร้องหญิงที่สร้างสถิติต่าง ๆ ไว้มากมาย และกำลังออกผลงานเดี่ยวอีกครั้ง โดยเธอเพิ่งปล่อยซิงเกิล Rockstar ออกมา ก่อนจะมีเพลงคัมแบค New Woman ที่ฟีเจอริ่งกับโรซาเลีย

Rosalía ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางดนตรีของโลกอีกคน เธอสร้างความฮือฮาให้กับวงการเพลงระดับโลกเพราะมีดีกรีเป็นนักร้องเจ้าของรางวัล Grammy Awards สาขา Latin Grammy Awards มากถึง 13 รางวัลเลยทีเดียว จากอัลบั้ม ‘El Mal Querer’

และในปี 2019 เธอได้รับรางวัลในสาขา Best Latin Rock และ Urban or Alternative Album จากนั้นในปี 2022 เป็นผู้หญิงคนแรกที่คว้ารางวัล Album of The Year ถึงสองครั้งจากเวที Grammy Awards

‘ลิซ่า’ เดินเกมรุกต่อเนื่อง ปล่อย MV ‘NEW WOMAN’ พร้อมชวน 'ROSALÍA' เจ้าของรางวัลระดับโลกมาร่วมแจม

(16 ส.ค.67) เพิ่งจะส่งเพลงคัมแบ็คสุดปังอย่าง 'ROCKSTAR' ออกมาให้แฟน ๆ ได้ฮือฮาทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยและชาวเอเชียแห่ตามรอยไปยังสถานที่ที่ 'ลิซ่า' ถ่ายเอ็มวี

แน่นอนว่าศิลปินสาวชื่อดังระดับโลก 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ รอนาน เดินเกมรุก ชวนสาวเก่งเจ้าของรางวัล Grammy Awards อย่าง 'ROSALÍA' มาร่วมแจมซิงเกิลใหม่ 'New Woman' ร่วมร้องและแสดงมิวสิกวิดีโอด้วย

ล่าสุด MV ‘NEW WOMAN’ ถูกปล่อยออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ทางช่องทางยูทูบ LLOUD Official ผู้ติดตาม 3.78 ล้าน คน โดยในเอ็มวีนี้ลิซ่า เปิดตัวมาด้วยลุคของสาวผมบลอนด์สุดแซ่บ ในเอ็มวีจะเห็นลิซ่าด้วยลุคต่าง ๆ ทั้งสวย ทั้งแซ่บ อีกทั้งการได้ 'ROSALÍA' ที่มาร่วมฟีเจอริ่งด้วย เรียกว่าเอ็มวีนี้ความแซ่บคูณ 2 ไปเลย

อย่างไรก็ตาม แฟน ๆ ที่เข้ามาชมเอ็มวีก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เพลงดี เพลงเริ่ด ชุดสวย คนสวย ดีไปหมด ชอบมาก เซอร์ไพรส์กับเพลงมาก" พร้อมทั้งยังชื่นชมการร้องของสาวลิซ่าอีกด้วย เรียกว่านี่สิศิลปินระดับ 'Global' ที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้แฮชแท็ก #LISAxROSALÍA เรียกว่าขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) อันดับ 1 ประเทศไทยอีกด้วย

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
✨ประจำวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567

🟢รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 095867

🔴รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท : 095866 / 095868

🔴รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 334 / 212

🔴รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 697 / 728

🔴รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 28

🟢รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท :
226374  469899  974224  038546  469262

🟢รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท :
602409  605705  351293  870121  870199  
918535  854153  635741  792643  500076  

🟢รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท :
362708  769072  176131  915869  535571  
993372  492713  852326  896010  637241  
297370  531163  657429  972893  334863  
944230  491697  826219  929860  407016  
788403  216743  492425  795096  724029  
239745  650811  739679  356841  054378  
358285  239634  064127  934227  320191  
484382  189882  525880  720544  483416  
061220  353159  285832  277743  080324  
647195  080935  971492  567078  908323  

🟢รางวัลที่ 5 รางวัลละ 20,000 บาท :
025262  358243  142585  663880  905672  
557358  552918  727189  511891  415136  
617582  607346  429285  758194  098847  
125567  750176  723059  625546  114925  
943070  796590  839199  673641  107471  
963350  164904  113884  967411  430576  
484180  847344  838234  601216  919797  
720970  079389  810785  799415  614351  
564552  192930  939312  097582  068055  
158151  532754  315088  537016  784362  
023901  858210  537232  185518  523900  
327964  723188  817943  399634  439974  
341894  255582  829353  749286  432767  
667669  253956  532771  134811  487933  
446710  869949  093803  025367  949050  
124481  339017  162642  625571  798917  
066572  983768  412167  236059  403429  
820542  683276  405000  468010  202685  
493380  786141  131975  229531  477765  
435309  583198  856340  543493  116703  

16 สิงหาคม ของทุกปี คนไทยร่วมรำลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยวันนี้ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันสันติภาพไทย’ ด้วย

‘วันสันติภาพไทย’ คือ วันที่ 16 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ประเทศไทย โดยนายปรีดี พนมยงค์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 8 ได้ออกประกาศสันติภาพในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ให้การประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 เป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นการกระทำอันขัดต่อเจตจำนงของประชาชนและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งประชาชนชาวไทยทั้งในและนอกประเทศได้ร่วมกันแสดงเจตจำนงไม่ยอมรับคำประกาศดังกล่าวด้วยการจัดตั้งขบวนการเสรีไทยช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตรในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นที่ยึดครองประเทศไทยอยู่ในระหว่างสงคราม (ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484) โดยที่ประเทศไทยประกาศว่าจะร่วมมือเต็มที่ทุกทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้ ประกาศสันติภาพนี้มีนายทวี บุณยเกตุ รัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงตั้งชื่อถนนภายในศูนย์ท่าพระจันทร์ ที่เชื่อมระหว่างประตูถนนพระอาทิตย์กับประตูท่าพระจันทร์และผ่านหน้าตึกโดมว่า ถนน 16 สิงหาคม

15 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ‘อร-อุดมพร พลศักดิ์’ คว้าเหรียญทองยกน้ำหนัก ในโอลิมปิก ครั้งที่ 28 นับเป็นนักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญอันทรงเกียรตินี้ได้

พันโทหญิง อุดมพร พลศักดิ์ หรือชื่อเล่น อร เป็นอดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย และเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของราชอาณาจักรไทย ที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน โดยได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 28 ณ กรุงเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่นไม่เกิน 53 กก. โดยยกในท่าสแนชได้ 97.5 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์กได้ 125 กก. รวม 222.5 กก. โดยเป็นการทำลายสถิติโอลิมปิก ในท่าคลีนแอนด์เจิร์กของประเภทนี้ด้วย

ก่อนขึ้นยกน้ำหนักและคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน น้องอรตะโกนคำว่า "สู้โว้ย" ออกมาดัง ๆ เพื่อปลุกขวัญกำลังใจ จนกลายเป็นฉายาประจำตัว และเป็นวลีติดปากคนไทยมาจนปัจจุบัน ซึ่งเวลาผ่านมา 20 ปีเต็มพอดิบพอดี

อุดมพร เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ที่จังหวัดนครราชสีมา เริ่มเข้ารับการศึกษาในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนสวนหม่อน และศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบุญวัฒนา และโรงเรียนเทพลีลา ก่อนจะมาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยพลศึกษากรุงเทพจนจบปริญญาตรี

สำหรับในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2003 ที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา อุดมพรทำได้สองเหรียญทอง โดยทำน้ำหนักได้ 100 กก. ในท่าสแนช และ 222.5 กก. ในน้ำหนักรวม

14 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ‘สงครามโลกครั้งที่ 2’ ยุติลงอย่างเป็นทางการ หลัง ‘ญี่ปุ่น’ ประกาศยอมแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตร

วันนี้เมื่อ 79 ปีก่อน ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตร ส่งผลให้ ‘สงครามโลกครั้งที่ 2’ (World War II) ในแปซิฟิก-เอเชีย ยุติลงอย่างเป็นทางการ

14 สิงหาคม พ.ศ. 2488 สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II) ในแปซิฟิก-เอเชีย ยุติลงอย่างเป็นทางการ (หากนับตามเวลาในญี่ปุ่นจะเป็นวันที่ 15) โดย พระจักรพรรดิ ฮิโรฮิโต (Emperor Hirohito) แห่งญี่ปุ่นทรงประกาศยอมแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตรผ่านทางวิทยุกระจายเสียงทั่วญี่ปุ่น (นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นกว่าพันปี ที่คนญี่ปุ่นได้ยินเสียงจักรพรรดิของตน) ภายหลังจากที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูสองลูกเมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ส่งผลให้ฝ่ายญี่ปุ่นบาดเจ็บและเสียชีวิตนับล้านคน บ้านเมืองเสียหายยับเยิน

พระจักรพรรดิ ฮิโรฮิโต ทรงเรียกร้องให้คณะรัฐบาลญี่ปุ่นยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อรักษาชาติพันธุ์ญี่ปุ่น ให้ยอมรับ ‘ข้อตกลงพอตสดัม’ (Potsdam Declairation) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาโมรุ ชิเกะมึทซึ (Mamoru Shigemitsu) กับ นายพล โยชิจิโร คุเมซุ (Yoshijiro Umezu) ลงนามในสัญญาสงบศึก (Japanese Instrument of Surrender) กับ นายพล แมคอาเธอร์ (Douglas MacArthur) ท่ามกลางสักขีพยานจากประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรอื่น ๆ บนดาดฟ้าเรือประจัญบาน มิสซูรี (USS Missouri) เหนืออ่าวโตเกียวในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 ซึ่งได้มีการเผยแพร่ภาพไปทั่วโลกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top