Monday, 9 June 2025
LITE

‘ลิซ่า’ ร่วมซีนโอน้อยออกกับ ‘เจ๊เกล-แม่ชม-ต้าเหนิง’ ล้อมวงสุ่มอาร์ตทอย ‘เนียวตะ’ จากค่าย POP MART

(1 ส.ค.67) ฮือฮาทั้งโลกโซเชียลเมื่อศิลปินสาวชื่อดังก้องโลก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ 'ลิซ่า BlackPink' ได้อัปเดตเรื่องราวผ่านภาพถ่ายโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว ‘@lalalalisa_m’ ที่มีผู้ติดตาม 104 ล้านฟอลโลเวอร์ พร้อมใส่แคปชันเป็นอีโมจิรูปหัวใจ 

แต่งานนี้ชาวเน็ตมาสะดุดที่รูปของ 'ลิซ่า' ที่นั่งล้อมวงโอน้อยออกกับแก๊งซุป'ตาร์เมืองไทย ชมพู่ อารยา, ต้าเหนิง กัญญาวีร์, พลอย ชวพร เลาหพงศ์ชนะ พร้อมด้วยซุป'ตาร์ตัวน้อยอย่าง 'เจ๊เกล' หรือ 'น้องแอบิเกล' นั่นเอง จากนั้นต้าเหนิง กัญญาวีร์ ก็ได้คอมเมนต์ด้วยว่า "เกลคิดถึงพี่ลิซ่าแล้ว"

ซึ่งสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากเพราะเรียกได้ว่าเป็นการโคจรมารวมตัวกันของแก๊งตัวแม่ ตัวมัม ที่ทำให้อาร์ตทอยฮิตระบาดไปทั่วบ้านทั่วเมือง เรียกได้ว่านี่คือ สมาคมแก๊งกล่องสุ่มย่อมๆ เลยก็ว่าได้ นับว่านี่คืออีกหนึ่งโมเมนต์น่ารัก ๆ ที่แฟนคลับหลาย ๆ คนรอคอยให้มาเจอกัน

ซึ่งกล่องสุ่มอาร์ตทอยที่ทั้งหมดกำลังนั่งล้อมวงอยู่นั้นคือ 'น้องเนียวตะ' (Nyota) เป็นหนึ่งในอาร์ตทอยจากค่าย POP MART นั่นเอง โดย 'น้องเนียวตะ' นั้นเป็นเด็กที่มีบุคลิกแบบ INFT (ผู้ไกล่เกลี่ย) มีนิสัยขี้อาย อ่อนไหวง่าย มีเพื่อนคู่ใจเป็นน้องแมว เห็นน้องเป็นคนเงียบ ๆ แบบนี้ แต่ก็เป็นเด็กที่ชอบจินตนาการนะ จะเรียก Nyota หรือ Tata ก็ได้ ส่วนศิลปินที่สร้างน้องยังไม่มีการเปิดเผยชื่อออกมา

'พชร์ อานนท์' แจงปม!! บ๊ายบายรายการ ‘ทัวร์มาลง’ ยัน!! ไม่เกี่ยวเรื่อง 'รักลุงตู่-เงินดิจิทัล' แค่ช่องอยากปรับแนว

(1 ส.ค. 67) งานเข้าทันทีเมื่อพิธีกรและผู้กำกับดังอย่าง ‘พชร์ อานนท์’ ได้โพสต์ภาพตนเอง พร้อมกับเขียนแคปชัน บ๊ายบาย ทัวร์มาลง เพราะว่าแฟน ๆ หลายคน เดากันไปว่าสาเหตุที่ผู้กำกับดังถูกปลดออกจากรายการ เพราะพูดแซะเรื่องการเมืองแน่นอน

ร้อนถึงผู้กำกับดัง ต้องมาโพสต์คลิปชี้แจงถึงสาเหตุที่ตนเองออกจากรายการทัวร์มาลง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่เพราะรายการเขามีการปรับรูปแบบรายการว่า…

“เมื่อวานที่บ๊ายบายรายการทัวร์มาลง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย มันเป็นธรรมเนียมอยู่แล้ว เพราะครั้งก่อนที่พี่ออกจากรายการ บันเทิง 108 พี่ก็ลาแฟนคลับอย่างนี้ ก็ให้มาเจอกันในไอจี เฟซบุ๊ก คุยกันได้ ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเหมือนที่หลายคนคิด แล้วอีกอย่างทางโมโนเขาอยากปรับให้รายการทัวร์มาลงสนุกมากขึ้น เป็นการอ่านข่าวมากขึ้น เขาเลยปรับพิธีกรออก

พี่ก็บ๊ายบายเป็นธรรมเนียม เพราะว่าพี่มีเอฟซี ไม่มีเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ไม่เกี่ยวกับ คิดถึงลุงตู่ ไม่เกี่ยวกับเงินดิจิทัล อย่างที่หลาย ๆ คนคิด ที่ออกเพราะว่าทางโมโนเขาอยากปรับเปลี่ยนรายการให้สนุกมากขึ้น

กราบขอโทษด้วย ถ้าไปทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจ ที่ออกด้วยว่ามีการปรับเปลี่ยน ตอนนี้พี่เองก็ยังทำหนังให้กับโมโน 2 เรื่องก็คือ วัยเป้ง 2 และโคกะโหลก ขอโทษทางโมโนด้วย ที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าไล่พี่พชร์ออกเพราะการเมือง แค่รายการมีการปรับเปลี่ยนให้สนุกมากขึ้น

พร้อมเขียนแคปชันว่า รบกวนบอกต่อ ๆ กันด้วยนะครับ เพราะหลายคนคิดว่าออกเพราะเรื่องการเมือง ต้องกราบขอโทษทางโมโนด้วยที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดนะครับ รักทุกคนนะครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงกันจบนะ

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
✨ประจำวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567

🟢 รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 407041

🔴 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 รางวัลละ 100,000 บาท : 407040  407042

🔴 รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 408  579

🔴 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 622  070

🔴 รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 46

🔴 รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท : 127568  596170  848197  046930  921155

🔴 รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท : 

886522  425170  276960  596654  896753  
035144  959249  965402  903093  671891  

🔴 รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท : 

833716  882210  826992  530296  752270  
035968  850728  589909  569499  778445  
103673  183977  441518  045979  620895  
032672  131358  249786  995056  364292  
617316  722232  437269  711936  504956  
198095  479152  221674  327395  032522  
260923  714996  299412  683038  010963  
287763  456445  372782  677746  091060  
245874  675283  815229  391855  826151  
125521  717786  871559  838773  392305 

🔴 รางวัลที่ 5 รางวัลละ 20,000 บาท

384313  762033  537178  505983  441314  
652086  550754  402386  621644  273118  
693983  978436  454902  424316  420684  
716670  560688  391308  576125  495195  
430621  433998  704917  073908  765466  
538706  260608  422419  474794  869761  
040499  138968  595563  090261  750476  
472240  848018  797602  003432  148657  
364392  324037  129375  143999  929798  
579622  576498  413630  363503  618923  
485673  505561  815447  113168  771325  
006659  509512  411886  085935  764120  
899355  506299  322329  932253  115861  
702536  535118  601570  801730  129655  
579346  442947  819244  862786  858314  
383004  412516  096708  293479  220421  
183513  103768  655309  272603  714066  
782158  763222  286079  177889  143744  
002795  979012  734542  994883  250011  
192800  894902  227344  423982  178309

1 สิงหาคม พ.ศ. 2367 ‘พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เถลิงถวัลยราชสมบัติ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี

‘พระราชพิธีบรมราชาภิเษก’ เป็นพระราชพิธีราชาภิเษกที่พระมหากษัตริย์ไทยได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการด้วยการถวายน้ำอภิเษก โดยแบ่งออกเป็น 2 พระราชพิธีสำคัญคือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมเนียมของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ซึ่งต้องย้อนกลับไปหลายศตวรรษ โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบไปด้วย พระราชพิธีสรงพระมูรธาภิเษก พระราชพิธีถวายน้ำอภิเษก พระราชพิธีถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และการสถาปนาพระราชินี และพระราชวงศ์ ส่วนพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร เป็นพระราชพิธีที่จัดขึ้นโดยเหล่าสมาชิกของราชวงศ์ในพระบรมมหาราชวัง

ภายหลังจากประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้นแล้ว พระมหากษัตริย์จะประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทองไปประกาศพระองค์เป็นพุทธมามกะและเสด็จไปสักการะพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชบูรพการี

อย่างไรก็ตาม สำหรับวันที่ 1 ของเดือนสิงหาคมปี 2567 นี้ หากย้อนกลับเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2367 ‘พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว’ รัชกาลที่ 3 ทรงประกอบ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เถลิงถวัลยราชสมบัติ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรีอย่างเต็มกระบวนการเยี่ยงอย่างบรรพราชประเพณีสืบ ๆ มา หลังจากที่เสด็จเสวยราชสมบัติต่อจาก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367

ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 กับ เจ้าจอมมารดาเรียม เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2330 ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ได้ทรงรับราชการหลายตำแหน่ง อาทิ กำกับราชการกรมท่าและกรมตำรวจ ทรงว่าราชการกรมพระคลังมหาสมบัติ เป็นแม่กองกำกับลูกขุน ณ ศาลหลวงและตุลาการทุกศาล ทรงค้าขายทางสำเภาจีน นำเงินรายได้เข้าท้องพระคลังเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังได้ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนา รวบรวมสรรพตำราวิทยาการต่าง ๆ พัฒนาการเศรษฐกิจไทยหลาย ๆ ด้าน โดยการเจริญสัญญาทางพระราชไมตรีกับต่างประเทศ ทำให้รัฐมั่งคั่งเป็นอันมาก

11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ‘เมย์ รัชนก’ สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศไทย คว้าแชมป์โลกแบดมินตันหญิงอายุน้อยที่สุด ณ ประเทศจีน

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ‘เมย์ รัชนก อินทนนท์’ นักกีฬาแบดมินตันหญิงขวัญใจชาวไทย ลงสนามแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013 (Wang Lao Ji BWF Championships 2013) ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน พบกับของ ‘แข็ง หลี่ เสี่ยวเล่ย’ มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน โดยผลปรากฏว่า เมย์ รัชนก โชว์ผลงานกระหึ่มโลก ด้วยการเฉือนเอาชนะเต็งหนึ่งของรายการ ไปแบบยิ่งใหญ่ 2-1 เกม 22-20,18-21,21-14 ส่งผลให้เธอคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ และยังเป็นนักแบดมินตันที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัย 18 ปี ที่คว้าแชมป์โลก หญิงเดี่ยวมาครอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับประวัติของเธอนั้น เมย์ รัชนก เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ที่จังหวัดยโสธร เป็นบุตรของวินัสชัย อินทนนท์ ชาวจังหวัดยโสธร และคำผัน สุวรรณศาลา ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด (ถึงแก่กรรมแล้ว) มีน้องชาย 1 คนคือ รัชพล อินทนนท์ เมื่ออายุ 3 เดือน เมย์ รัชนก ย้ายเข้ากรุงเทพมหานครตามบิดา และมารดา ซึ่งมาทำงานที่โรงงานทำขนมบ้านทองหยอด และได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น นับแต่นั้น เมย์ รัชนก ยังมี ‘กมลา ทองกร’ เจ้าของโรงงานบ้านทองหยอด เป็นมารดาบุญธรรมอีกด้วย

โดย เมย์ รัชนก เริ่มเล่นกีฬาแบดมินตัน เมื่ออายุได้ 6 ปี เนื่องจาก กมลา ทองกร เกรงว่าเธอจะวิ่งเล่นซุกซนภายในโรงงานจนเกิดอุบัติเหตุได้ จึงได้นำเธอมาหัดเล่นแบดมินตัน ตั้งแต่บัดนั้น หนึ่งปีต่อมาเธอได้ลงแข่งขันเป็นครั้งแรก ในรายการอุดรธานี โอเพ่น และได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นครั้งแรก

เมย์ รัชนก สำเร็จการศึกษา ระดับมัธยมตอนต้นจากโรงเรียนกสิณธรอาคาเดมี่ มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และระดับอุดมศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

‘หนุ่ม สุรวุฑ’ ขอบคุณ ‘เปิ้ล หัทยา’ จ่ายค่าตัวครบทุกบาททุกสตางค์ พร้อมวอน ‘ชาวเน็ต’ คอมเมนต์ด้วยความสุภาพ อย่าระรานถึงครอบครัว

(31 ก.ค. 67) จากกรณีที่ 'หนุ่ม' สุรวุฑ ไหมกัน นักแสดงชื่อดังโพสต์ข้อความฝากถึงบุคคลปริศนา ที่เจ้าตัวเคยมีโอกาสได้ร่วมงานละครด้วย และแม้ว่าละครเรื่องดังกล่าวจะจบไปเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว แต่จนถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ยังได้เงินค่าตัวไม่ครบ จนเป็นเหตุให้ต้องใช้พื้นที่อินสตาแกรมระบายความรู้สึกอัดอั้น โดยระบุว่า "เลื่อนยิ่งกว่าไส้เลื่อน ก็เงินค่าตัวกรูนิล่ะ ละครจบไปจะเป็นปีละ รวมเวลาถ่ายทำอีก รวม ๆ 5 ปีแล้ว ยังได้ค่าตัวไม่ครบ"

ต่อมา ‘เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง’ ได้ยอมรับว่า “ผู้จัดที่หนุ่ม สุรวุฑ พูดถึงเป็นตนเอง แต่หนุ่มเขาไม่ได้เอ่ยชื่อ ต้องเล่าก่อนว่า ตัวพี่เองได้เข้ามาช่วยดูละครเรื่องปาฏิหาริย์กาลเวลา ในตอนท้าย ๆ หลังจากที่พี่ตั้วเสียชีวิต ทำให้ตัวพี่เองรู้ข้อมูลน้อยมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้มีนักแสดงคนไหนได้เงินยังไม่ครบ หรือว่าได้ครบแล้ว”

ล่าสุด 'หนุ่ม สุรวุฑ' ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางติ๊กต็อกส่วนตัว ‘noommaikan’ ออกมาขอบคุณ เปิ้ล หัทยา ได้จ่ายเงินค่าตัวนักแสดงที่ยังเหลือค้างอยู่ให้เรียบร้อยแล้วว่า…

“วันนี้พี่เปิ้ลได้มีการชำระค่าตอนที่เหลือให้ผมมาเรียบร้อยแล้ว ครบทุกบาททุกสตางค์ ขอบคุณพี่เปิ้ลด้วย ขอบคุณทุกการซัพพอร์ต ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่เสนอข่าว”

หนุ่ม สุรวุฑ ระบุอีกว่า “อยากฝากไปบอกคนที่เข้ามาคอมเมนต์ใช้ข้อความที่สุภาพแล้วกัน ที่สำคัญที่สุด พยายามอย่าไปพาดพิงครอบครัวพี่เปิ้ลเขา โดยเฉพาะลูก ๆ เขา น้อง ๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วย เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันทางธุรกิจ”

ซึ่งก็มีเหล่าชาวโซเชียลเข้ามาให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายกันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับหนุ่ม สุรวุฑ ที่ได้รับค่าตัวครบแล้ว

31 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ถือกำเนิด ‘แท็กซี่’ ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ยุคนั้นเรียก 'รถไมล์' ช่วยทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 ให้มีอาชีพหลังปลดราชการ

วันนี้ในอดีต 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ประเทศไทยเริ่มมี ‘แท็กซี่’ ให้บริการเป็นครั้งแรก โดย พระยาเทพหัสดินร่วมกับพระยาพิไชยชาญฤทธิ์ เป็นผู้ก่อตั้ง ‘บริษัท แท็กซี่สยาม’ ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยทหารอาสาในสงครามโลกครั้งที่ 1 ให้มีอาชีพหลังจากปลดจากราชการ โดยนำเอารถเก๋งออสติน (Austin) ขนาดเล็กออกวิ่งรับจ้าง โดยติดป้ายรับจ้างไว้ข้างหน้า-หลังของตัวรถ โดยมีรถให้บริการ 14 คัน คิดค่าบริการตามไมล์ ไมล์ละ 0.15 บาท หรือ 15 สตางค์ (1 ไมล์ = 1.609344 กิโลเมตร) ซึ่งนับว่าแพงมากเมื่อเทียบกับราคาค่าโดยสารในปัจจุบัน ในสมัยนั้นจึงนิยมเรียกกันว่า ‘รถไมล์’ เพราะเก็บค่าโดยสารตามเลขไมล์ระยะทางที่วิ่ง โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อออสติน แต่ประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากค่าโดยสารแพง ผู้คนยังไม่คุ้นเคยจึงไม่ยอมนั่ง ประกอบกับเมืองกรุงเทพฯ ยังมีขนาดเล็ก และมีรถรับจ้างอื่น ๆ อยู่มากและราคาถูกกว่าจึงต้องล้มเลิกกิจการไป 

จนกระทั่งปี 2490 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าของธุรกิจเอกชนบางราย ได้เริ่มการฟื้นฟูกิจการแท็กซี่ในประเทศไทยขึ้นมาใหม่ โดยในช่วงแรกจะนิยมใช้รถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ (Renault) สมัยนั้นจึงเรียก ‘แท็กซี่’ ว่า ‘เรโนลต์’ ได้รับความนิยมจากคนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากสะดวกรวดเร็วกว่ารถจักรยานสามล้อถีบซึ่งมีชุกชุมในยุคนั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้อาชีพขับรถแท็กซี่เป็นที่ฮือฮา มีผู้นำรถเก๋งไปทำเป็นรถแท็กซี่กันมากขึ้นจนระบาดไปต่างจังหวัด จนต้องมีการควบคุมกำหนดจำนวนรถ ต่อมารถแท็กซี่ เปลี่ยนกลับมานิยมยี่ห้อออสติน ตามด้วยรถดัทสัน, บลูเบิร์ด, และโตโยต้าในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนป้ายทะเบียนของรถประเภทแท็กซี่จะมีราคาแพงเป็นหลักแสนบาท จึงทำให้ผู้ให้บริการใช้รถยนต์แท็กซี่นานหลายสิบปี จนมีสภาพชำรุดทรุดโทรมเพื่อให้คุ้มทุนค่าป้ายทะเบียน 'แท็กซี่’

และในสมัยก่อน กฎหมายไม่ได้บังคับให้มีการติดมิเตอร์ การจ่ายค่าโดยสารจึงเป็นไปตามการต่อรองระหว่างผู้โดยสารและผู้ให้บริการ เมื่อยุคสมัยผ่านไป ในช่วงเวลาหนึ่ง 'แท็กซี่' กลายเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาจราจรจากการจอดต่อรองราคาดังกล่าว 

ดังนั้นในปี 2535 จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีการออกกฎหมายให้รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นไป ‘ต้องติดมิเตอร์’ อีกทั้งกรมการขนส่งทางบกยังได้เปลี่ยนระบบป้ายทะเบียนแท็กซี่ ให้จดทะเบียนได้ในราคาถูกลงจากเดิม (เป็นหลักพันบาท) แต่จำกัดอายุของรถแท็กซี่ไว้มิให้เกิน 12 ปี หากเกินจากนี้จะต้องปลดประจำการไม่สามารถเป็นรถแท็กซี่ได้อีก และยังได้สั่งให้เปลี่ยนสีรถแท็กซี่บุคคล จากสี ‘ดำ-เหลือง’ ในระบบป้ายแบบเก่า เป็นสี ‘เขียว-เหลือง’ ในระบบป้ายแบบจำกัดอายุ

ปัจจุบันแท็กซี่ในเมืองไทยเป็นรถปรับอากาศ ติดมิเตอร์คิดอัตราค่าโดยสารตามระยะทางและเวลา โดยเริ่มต้นที่ 35 บาท พร้อมทั้งมีวิทยุสื่อสาร บางคันอาจมีทีวีให้ดูในระหว่างการเดินทางด้วย

‘แฟนคลับ’ สุดทน!! YG ปฏิบัติกับ ‘ลิซ่า’ ไม่แฟร์ หากเทียบสมาชิกในวง ได้ใส่ชุดโปรโมต BORN PINK ตัวเดิม แถมเขียนชื่อค่าย LLOUD ผิด

(30 ก.ค.67) เป็นเรื่องอีกแล้วบลิ๊งค์ทั่วโลก (ชื่อแฟนคลับ) ต่างรอคอยการกลับมาของทั้ง 4 สาว ‘ลิซ่า - โรเซ่ - เจนนี่ - จีซู’ ล่าสุด YG Entertainment ต้นสังกัดเพียงในนามวงของ ‘BLACKPINK’ เตรียมปล่อยเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต ‘BORN PINK’ ครั้งยิ่งใหญ่ในรูปแบบภาพยนตร์

ภายใต้ชื่อ ‘BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] IN CINEMAS’ เรียกว่า เป็น Limited screenings เริ่มต้นฉายครั้งแรกในวันที่ 31 ก.ค. แต่กลายเป็นประเด็นร้อนไม่ใช่น้อย เมื่อแฟนคลับเห็นโปสเตอร์ และโปสการ์ดของ ‘ลิซ่า’ เมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ คนอื่นในวง ทำให้รู้สึกไม่ยุติธรรม และเท่าเทียมกับคนอื่น 

โดยแฟนคลับต่างโพสต์ในแพลตฟอร์ม X เกี่ยวกับสิ่งที่ YG ปฏิบัติ หลังจาก ‘ลิซ่า’ แยกออกมาเปิดต้นสังกัดเดี่ยว และเตรียมกลับมาทำงานผลงานร่วมกับวง ได้แก่ 

- เขียนชื่อค่ายของ ลิซ่า ผิด จาก LLOUD เป็น LOUD ซึ่งแฟนคลับมองว่า ชื่อค่ายนี้เขียนง่ายมากที่สุด 
- โปสการ์ดแถมจากภาพยนตร์ที่กำลังจะปล่อยออกมานั้น สมาชิกในวงคนอื่น เป็นรูปภาพที่ใส่ชุดแตกต่างกัน แต่ของลิซ่ากลับเป็นชุดเดิม ทั้งที่ในโชว์เปลี่ยนตั้งหลายชุด แถมคอมโพสต์ภาพแสงกลับแยงตาอีก
- โปสเตอร์เดี่ยวสำหรับการโปรโมตยังใช้ชุดเดิม ภาพเดิมซ้ำกับโปสการ์ด ทั้งที่สมาชิกคนอื่นเปลี่ยนรูป แถมรูปที่ออกมายังมีไมค์ปิดบังใบหน้า 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือความเห็นจากในโลกโซเชียลเท่านั้น ต้องมารอติดตามกันอีกที ว่าในรูปแบบภาพยนตร์เต็มที่ปล่อยออกมาจะเป็นอย่างไร

‘ซี ศิวัฒน์’ เดือด!! หลังเห็นโฆษณา Apple ถ่ายทำในประเทศไทย ย้ำ!! บ้านเรามีดีเยอะ พร้อมไม่ขำกับภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเราไม่ดี

(30 ก.ค.67) กลายเป็นประเด็นดรามาร้อนแรง หลังจากที่ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ได้เผยแพร่โฆษณาตัวใหม่ The Underdogs: OOO (Out Of Office) | Apple at Work รวมสินค้าสุดล้ำสมัยหลากหลายชิ้น โดยปักหมุดถ่ายทำในประเทศไทย

กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนไทยไปในทิศทางลบว่า รู้สึกไม่ปลื้มอย่างแรง เพราะองค์ประกอบ สถานที่ คอสตูม ขัดกับสิ่งที่ Apple นำเสนอมาก ๆ

แถมมีการย้อมสีภาพให้ออกโทน ‘สีเหลือง’ ค่อนข้างที่จะเหยียด สื่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ออกมาล้าหลัง และด้อยพัฒนา

ไม่เพียงแค่นั้น ในเรื่องของการเดินทาง ที่ค่อนข้างเก่า จนเหมือนโลเคชั่นของการถ่ายทำเป็นประเทศอื่นไปเลย ทำเอาสาวกหลาย ๆ คน ถึงขั้นอยากเลิกใช้แบรนด์ดังกล่าวทันที

งานนี้ล่าสุด พิธีกร-นักแสดงชื่อดัง อย่าง ‘ซี ศิวัฒน์’ ขอไม่ทนกับประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นกัน ออกมาโพสต์ภาพโฆษณาตัวดังกล่าว พร้อมระบุว่า “xูไม่ขำ! บอกเลยโคตรเฮีย ถ้าไม่เสียดายตังค์นะ แx่งเขวี้ยงทิ้งจริง”

ก่อนได้ตอบคอมเมนต์รัว ๆ เอาไว้ว่า “แอบโกรธอะ ทั้ง ๆ ที่เราก็สาวก Apple มาตลอด”

“ก็เพราะ Soft Power นี่แหละครับ เราถึงดูแย่ บ้านเราไม่ได้ล้าหลังขนาดนั้น ประเทศไทยเรามีสิ่งที่ดีเยอะแยะ ทำให้ขำเข้าใจได้ แต่ผมไม่ขำกับภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเราไม่ดี”

'รร.ไฮแอท รีเจนซี่' ชวนคอเพลงแจ๊ส ดื่มด่ำสุนทรียภาพแห่งดนตรี ผ่านภาพถ่ายนักดนตรีระดับตำนาน ในงาน 'Jazz Icons Exhibition'

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ชวนคอเพลงแจ๊ส ร่วมดื่มด่ำกับท่วงทำนองอันเป็นอมตะผ่านภาพถ่ายของนักดนตรีแจ๊สระดับตำนาน ผ่านนิทรรศการภาพถ่าย Jazz Icons Exhibition ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2567 

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท จัดงาน 'Jazz Icons' นิทรรศการภาพถ่ายของนักดนตรีแจ๊สระดับตำนานจากคอลเลกชันส่วนตัวของ ท่านทูต มิเชล โบบอต อดีตนักการทูตชาวฝรั่งเศสประจำองค์การยูเนสโก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของ ดนตรีแจ๊สและมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมให้แก่ผู้มาเยี่ยมชมผ่านภาพถ่ายของช่างภาพมืออาชีพ

สำหรับดนตรีแจ๊สมีต้นกำเนิดในชุมชนชาวแอฟริกัน-อเมริกันในนิวออร์ลีนส์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นแนวดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมากและถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ

สิ่งที่น่าสนใจที่คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาดงานนิทรรศการครั้งนี้ เพราะไม่บ่อยครั้งที่จะมีการรวบรวมภาพถ่ายหายากของนักดนตรีชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Kenny Clarke, Louis Armstrong, Ornette Coleman, Dave Brubeck และอีกมากมาย ที่ถูกถ่ายในช่วงเทศกาลดนตรีและคอนเสิร์ตที่จัดแสดงทั่วกรุงปารีส ฝรั่งเศสตอนใต้และสหรัฐอเมริกา ระหว่างช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ไปจนถึงต้นทศวรรษที่ 1980 เพื่อเป็นการยกย่องผลงานและความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักดนตรีมากความสามารถ มาจัดให้ชมกันอย่างสุดใจในกลางกรุง

"หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ ดนตรีแจ๊สได้เข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมากในยุโรปและเอเชีย จนกลายเป็นที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการจัดแสดงคอนเสิร์ต การแสดงโชว์ในคลับ การออกแผ่นเสียง และการประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสารต่าง ๆ ถือเป็นแนวเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งยุค และในขณะเดียวกัน นักดนตรีแจ๊สหลายท่านจึงเริ่มกลายเป็นที่จับตามอง และได้ถูกนำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้งตามความนิยมของแฟนเพลง 

ใบหน้าที่มีเอกลักษณ์ของเหล่าศิลปิน ได้แสดงถึงความหลากหลายทางอารมณ์ความรู้สึกผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์และความพิเศษ แค่เพียงได้มองภาพถ่ายก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสุข ความเศร้า และรับรู้ได้ถึงบุคลิกของเหล่านักดนตรีในภาพ แม้จะไม่ เคยฟังเพลงของพวกเขาเลยก็ตาม" ท่านทูตมิเชล โบบอต อดีตนักการทูตและนักสะสม เจ้าของคอลเลกชันภาพถ่ายที่ถูกนำมาจัดแสดงในครั้งนี้ กล่าว

นายแซมมี่คาโรลุส ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ ว่า "นิทรรศการนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลองความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายของวงการดนตรีแจ๊ส อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความหลงใหลและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นคำนิยามที่ดี ที่สุดของผลงานศิลปะอันแท้จริง พร้อมทั้งเชื่อว่านิทรรศการนี้ จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมและจุดประกายจินตนาการให้คอเพลงแจ๊สได้ดื่มด่ำกับโลกของดนตรีแจ๊สไปพร้อมกัน"

แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นคอเพลงแจ๊สตัวจริง หรือคนทั่วไปที่สนใจประวัติศาสตร์เพลง ไม่ควรพลาดกับนิทรรศการภาพถ่ายคอลเลกชันส่วนตัวของท่านทูต มิเชล โบบอต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คอลเลกชันนี้ ได้ถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทย ที่จะนำเราย้อนวันวานไปเพลิดเพลินกับการเดินทางสู่ยุคทองของวงการดนตรีแจ๊สผ่านรูปถ่ายของบุคคลสำคัญที่มีส่วนช่วยในการผลักดันวงการแจ๊สให้เป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบันและเป็นมรดกสืบทอดต่อไปในอนาคต 

ที่สำคัญนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เปิดให้ชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ บริเวณล็อบบี ของโรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 บอกได้คำเดียวว่า งานนี้คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาดโดยประการทั้งปวง!

‘บิ๊ก D Gerrard’ เตือนภัย หลังเจอแท็กซี่เปิดหนังสยิวดูกลางถนน ลั่น!! ไม่ว่าจะทำงานอะไร ควรให้เกียรติวิชาชีพ-ส่วนรวมมากกว่านี้

เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.67) ทำเอานักร้องดัง ‘บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด’ หรือ ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบียล ถึงกับเดือด เมื่อเห็นแท็กซี่คันหน้า เปิดหนังสยิวดูกลางถนน ขณะรถจอดติดไฟแดง โดยระบุว่า “เตือนภัยTAXI ถ้าคุณมีลูกสาวแล้วต้องขึ้นTAXI คันนี้ คุณจะต้องรู้สึกยังไง?”

โดย นักร้องดัง บอกว่า “สำหรับผม..ผมคิดว่าสังคมเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรทำหรือไม่ควรทำครับ..ยิ่งในที่สาธารณะหรืออะไรก็ตามที่เป็นสาธารณะ..ผมคิดไตร่ตรองอยู่พอสมควรก่อนจะโพสต์คลิปนี้ว่าจะโพสต์หรือไม่โพสต์ดี..แต่ที่ต้องตัดสินใจโพสต์จริง ๆ เพราะถ้าไม่พูดก็จะไม่มีการตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้และเพราะเป็นห่วงสังคม, เป็นห่วงในความปลอดภัยของผู้หญิงที่ต้องขึ้นรถหรือโดยสารรถ Taxi คันนี้ หรือไม่ว่าจะคันไหนก็ตามที่ทำแบบนี้อยู่

ผมจึงคิดว่าควรออกมาพูดถึงเรื่องนี้และอยากให้มองถึงการให้เกียรติวิชาชีพของตัวเองให้มากกว่านี้ครับ และผมคิดว่าไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรหรือเป็นใครก็ตามเราต่างเป็นแบบอย่างของกันและกัน เราจึงควรต้องให้เกียรติตนเองและส่วนรวมให้มากกว่านี้…สุดท้ายนี้ขอฝากถึงพี่คนขับรถคันนี้และวงการผู้บริการรถโดยสารสาธารณะได้โปรดช่วยกันยกระดับตนเอง เพื่อให้พวกเราสบายใจที่จะขึ้นรถของพวกคุณด้วยเถอะครับ..ขอบคุณครับ”

30 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 ‘โชคสองชั้น’ ภาพยนตร์ฝีมือคนไทยเรื่องแรก ถูกนำเข้าฉาย ณ โรงภาพยนตร์พัฒนากร

‘โชคสองชั้น’ เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก ที่สร้างและผลิตโดยคนไทยทั้งหมด เป็นภาพยนตร์เงียบ ถ่ายทำด้วยฟิล์มขาว-ดำขนาด 35 มม. ผลิตโดย กรุงเทพ ภาพยนตร์ บริษัท (ต่อมา คือ บริษัท ภาพยนตร์ศรีกรุง ของมานิต วสุวัต ร่วมกับคณะนักหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์ และศรีกรุง)

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ ‘โชคสองชั้น’ เข้าฉายครั้งแรกเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 ที่โรงภาพยนตร์พัฒนากร มีจำนวนผู้ชมสูงสุด 4 คืน กับ 1 วัน เท่ากับ 12,130 คน ทำลายสถิติเมื่อ 4 ปีก่อนหน้า ของภาพยนตร์เรื่อง ‘นางสาวสุวรรณ’ ปัจจุบันหนังเรื่องนี้ได้รับความเสียหายจากความเสื่อมสภาพ โดยหอสมุดแห่งชาติได้ค้นพบฟิล์มและพิมพ์สำเนาใหม่เอาไว้ได้เพียง 42 ฟุต คิดเป็นภาพนิ่งทั้งหมด 1,319 ภาพ รวมความยาวประมาณ 1 นาที

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2555 เนื่องในวันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทยของหอภาพยนตร์ ขณะมีอายุเก่าแก่ที่สุด 85 ปี ในบรรดา 25 เรื่อง

29 กรกฎาคม ของทุกปี รำลึก ‘วันภาษาไทยแห่งชาติ’ ตามแนวพระราชดำรัส ‘ในหลวง ร.9’ หวังคนไทย 'รู้คุณค่า-รักษาบริสุทธิ์' ในการออกเสียงภาษาที่ถูกต้อง

วันภาษาไทยแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันที่คนไทยควรตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ อันเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมทางภาษาที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

วันภาษาไทยแห่งชาติ มีขึ้นเพื่อรำลึกถึงความสำคัญของภาษาไทย ในราวปี พ.ศ. 1826 พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดิษฐ์ ‘ลายสือไทย’ ขึ้นเป็นครั้งแรก ดัดแปลงมาจากอักษรมอญและเขมร มีพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ เพื่อใช้แทนความหมายและเสียงต่าง ๆ ในภาษาไทย ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็น ‘อักษรไทย’ ที่เราใช้กันในปัจจุบันนั่นเอง

สำหรับวันภาษาไทยแห่งชาติ ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2542 โดยมีความเป็นมาจากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เสด็จพระราชดำเนินไปอภิปรายหัวข้อ ‘ปัญหาการใช้คำไทย’ ในการประชุมวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 พระองค์ท่านทรงแสดงความห่วงใยในภาษาไทย โดยทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า…

“เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียงคือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้ สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่าย ๆ ก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่า ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก”

ต่อมาในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 เป็นวันเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติลงความเห็นให้ วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็น ‘วันภาษาไทยแห่งชาติ’ และใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ในหลวงรัชกาลที่ 10

28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับคนไทยทุกคน ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10

โดยพระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ได้รับพระราชทานพระนามว่า ‘สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ’

>> การศึกษา

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่มการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซท สหราชอาณาจักร หลังจากนั้น ทรงศึกษาต่อวิชาทหารที่โรงเรียนคิงส์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ ด้านการทหาร จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาได้เสด็จฯ นิวัติประเทศไทย ทรงศึกษาต่อสาขาวิชานิติศาสตร์รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวิชราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ขณะนั้นทรงเจริญพระชนมายุ 20 พรรษา นับเป็นกระบวนการสืบราชสันตติวงศ์ที่ชัดเจนตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467

ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร’ ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ อาณาประชาราษฎร์ ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ นานัปการ เพื่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย โดยมิได้ย่อท้อ

ทั้งที่ทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และทรงปฏิบัติส่วนพระองค์ ทั้งในด้านความมั่นคง ของประเทศ ด้านสังคมสงเคราะห์ การศาสนา การศึกษาและวัฒนธรรม การแพทย์และสาธารณสุข การทหาร การบิน การต่างประเทศ ฯลฯ เพื่อ ความสุขความเจริญก้าวหน้าแก่บ้านเมืองและ ประชาชนคนไทยทั้งปวง

ดั่งพระราชดำรัสในพิธี ถวายสัตย์ปฏิญาณในการพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ในการสถาปนาขึ้นเป็น ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร’ ความว่า “ข้าพเจ้าผู้เป็นสยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้ด้วยชีวิต จะจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง จะซื่อสัตย์ ต่อประชาชนจะปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถและ โดยความเสียสละเพื่อความเจริญสงบสุข และความมั่นคงไพบูลย์ของประเทศไทย จนตราบ เท่าชีวิตร่างกายจะหาไม่”

>> ทรงรับขึ้นทรงราชย์

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.16 น. ปวงชนชาวไทยทั้งผอง ต่างปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออก ณ ห้อง UPPER MAIN CR.M (ห้อง วปร.) พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบบังคมทูลอัญเชิญพระรัชทายาทเสด็จ ขึ้นทรงราชย์เป็นรัชกาลที่ 10 

พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์ ความว่า “ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติ แห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา และกล่าวในนามของปวงชนชาวไทย เชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ถ้าเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมนเทียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง” 

การทุ่มเทพระวรกายปฎิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ โดยมิทรงว่างเว้นของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สะท้อนถึงพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร สมดั่งพระราชปณิธานที่ทรงมีพระราชประสงค์ สืบสาน รักษาต่อยอด ในหลวงรัชกาลที่ 9

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

‘AiStudio.wedding’ จัดโปรโมชันเอาใจคู่รัก พาบินลัดฟ้าถ่ายพรีเวดดิ้ง ปักหมุด!! ประเทศสิงคโปร์ กับราคาสุดพิเศษเพียงแค่ 59,999 บาท

(26 ก.ค. 67) AiStudio.wedding ผู้ให้บริการด้านการถ่ายภาพแบบครบวงจร เอาใจคู่รักสายทราเวล จัดโปรโมชันพิเศษ ‘Ai Pre Wedding @ Singapore’ พาคู่รักที่หลงรักการเดินทาง บินลัดฟ้าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองสิงคโปร์ อาทิ Merlion Park, Marina Bay, Gardens by the Bay และ Universal Studios เป็นต้น ในราคาสุดพิเศษเพียง 59,999 บาท รวมค่าเดินทางสำหรับ 2 ท่าน ห้องพักจำนวน 1 คืน และ ทีมงาน AiStudio.wedding พิเศษสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจภายใน 31 สิงหาคมนี้ รับ Photobook และ E-Card มูลค่ารวมกว่า 10,000 บาท ฟรี

ทั้งนี้ สำหรับคู่รักที่สนใจสามารถจองและเลือกช่วงเวลาที่ต้องการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 085-355-4449, 098-449-9992 หรือ Line ID : @aistudio.wedding ติดตามโปรโมชั่นและผลงานได้ที่ IG : aistudio.wedding


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top