Sunday, 8 June 2025
LITE

30 มกราคม 2491 การลอบสังหาร 'มหาตมา คานธี' นักต่อสู้อหิงสาเพื่อเอกราชของอินเดีย

มหาตมะ คานธี เกิดเมื่อปี 1869 ในครอบครัวชนชั้นพ่อค้าและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายทางศาสนา ซึ่งมีผลต่อทัศนคติและการดำเนินชีวิตของเขา พ่อของเขานับถือศาสนาฮินดูและบูชาเทพวิษณุ ขณะที่แม่ของเขานับถือนิกายที่ผสมผสานระหว่างฮินดูกับมุสลิม จึงมีการปฏิบัติประเพณีอดอาหารตามคำสอนของศาสนาแม่ที่มีอิทธิพลต่อเขาอย่างมาก เมื่อคานธีอายุครบ 18 ปี เขาถูกส่งไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษในสาขากฎหมาย

ในปี 1930 คานธีนำประชาชนอินเดียเดินขบวนต่อต้านภาษีเกลือของอังกฤษ โดยการเดินทางระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร และในปี 1947 เขากลายเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดียโดยใช้หลักอหิงสา (การต่อต้านโดยไม่ใช้ความรุนแรง) ซึ่งนำไปสู่ชัยชนะในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 มกราคม 1948 นาถูราม โคทเส ได้ยิงคานธี 3 นัดที่หน้าอกในระยะใกล้ สาเหตุเกิดจากความไม่พอใจที่คานธีมีแนวคิดเป็นมิตรกับชาวมุสลิมและปากีสถาน

หลังจากการยิงโคทเสไม่ได้หลบหนีและถูกจับกุม ต่อมาศาลสูงของรัฐปัญจาบพิพากษาประหารชีวิตเขาด้วยการแขวนคอในวันที่ 15 พฤศจิกายน 1949 พร้อมกับผู้ร่วมสมคบคิดอีกคนหนึ่ง

29 มกราคม 2519 สวนสนุกแดนเนรมิต เปิดทำการครั้งแรก สร้างประวัติศาสตร์ มีผู้มาเที่ยวชมกว่า 80,000 คน

สวนสนุกแดนเนรมิต เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2519 และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยจำนวนผู้เข้าชมมากกว่า 80,000 คนในวันแรก ซึ่งสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี ก่อนที่จะปิดตัวลงในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 เนื่องจากหมดสัญญาเช่าระยะเวลา 25 ปีและไม่สามารถต่อสัญญาได้ โดยพื้นที่ของสวนสนุกกลายเป็นพื้นที่ในเมืองที่ไม่เหมาะกับการดำเนินกิจการสวนสนุกอีกต่อไป หลังจากนั้น เจ้าของกิจการได้พัฒนาและสร้างสวนสนุกแห่งใหม่ในย่านรังสิต คือ ดรีมเวิลด์

หนึ่งในความโดดเด่นของแดนเนรมิตคือปราสาทเทพนิยายที่ตั้งอยู่หน้าสวนสนุก ซึ่งสร้างขึ้นโดยการผสมผสานระหว่างปราสาทเทพนิยายของดิสนีย์แลนด์และปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ของเยอรมนี ภายในสวนสนุกมีเครื่องเล่นหลากหลาย เช่น รถไฟเหาะ, เครื่องเล่นรถไฟรางเดี่ยว, เรือไวกิ้ง และส่วนจัดแสดงสัตว์โลกล้านปี นอกจากนี้ยังมีพาเหรดแฟนตาซีที่ออกเดินไปตามถนนรอบสวนสนุก พร้อมกิจกรรมพิเศษอย่างการจัดคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และการแสดงจากต่างประเทศ เช่น ประติมากรรมปราสาทน้ำแข็งจากประเทศจีน, กายกรรมจากเวียดนาม และ ซูเปอร์ด็อก บ๊อก บ๊อก โชว์จากสหรัฐอเมริกา

สวนสนุกแดนเนรมิตตั้งอยู่บนพื้นที่ 33 ไร่ โดยใช้เงินลงทุนกว่า 70-80 ล้านบาท มีเครื่องเล่นจากต่างประเทศกว่า 30 ชนิดและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลาที่เปิดให้บริการ

เมื่อปิดกิจการในปี 2543 เครื่องเล่นบางส่วนถูกย้ายไปยังดรีมเวิลด์ และยังคงเหลือเพียงปราสาทเทพนิยายที่เป็นสัญลักษณ์ของแดนเนรมิต ซึ่งได้กลายเป็นที่รู้จักและเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำในประวัติศาสตร์สวนสนุกของไทย

28 มกราคม 2529 รำลึก โศกนาฏกรรม 'ยานชาเลนเจอร์' ระเบิดกลางฟ้า นักบินอวกาศ 7 ชีวิตสูญเสีย

วันนี้เมื่อ 39 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ที่ช็อคโลก เมื่อกระสวยอวกาศ ‘ชาเลนเจอร์’ เกิดระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า หลังจากถูกปล่อยขึ้นไปเพียงไม่กี่นาที

ย้อนไปถึงที่มาของ ‘ยานชาเลนเจอร์’ เป็นกระสวยอวกาศขององค์การนาซ่าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการสำรวจอวกาศ ก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ยานชาเลนเจอร์เคยบินไปในอวกาศมาแล้ว 9 ครั้ง แต่ในการบินครั้งที่ 10 หลังจากถูกปล่อยออกไป ท่ามกลางผู้ชมหลายล้านคนที่ติดตามชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์ เพียง 73 วินาทีเท่านั้น ยานก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด

อุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้มีนักบินอวกาศเสียชีวิต 7 คน หนึ่งในนั้นคือ คริสตินา แมคคอลิฟ อดีตครูประถมที่มีความฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ แม้เธอจะได้มาเป็นนักบินอวกาศในที่สุด แต่เธอก็ต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหันในเหตุการณ์นี้

การสอบสวนภายหลังพบว่า สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากชิ้นยางวงแหวนที่ใช้ปิดกั้นแก๊สระหว่างรอยต่อในจรวดไม่สามารถยืดหยุ่นได้ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็น ทำให้เกิดการรั่วไหลของแก๊สที่ไปกระทบกับถังเชื้อเพลิงระหว่างจรวดขับดัน ซึ่งส่งผลให้เกิดการระเบิดฉีกตัวยานและจรวดออกเป็นชิ้นๆ

โศกนาฏกรรมยานชาเลนเจอร์ถือเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในโครงการขนส่งอวกาศของสหรัฐฯ และส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องหยุดโครงการขนส่งอวกาศไปนานเกือบ 3 ปี แม้เวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 35 ปี แต่ความสูญเสียในครั้งนั้นยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของผู้คนเสมอมา

27 มกราคม 2501 วันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันเริ่มต้นของนายร้อย 4 เหล่า

โรงเรียนเตรียมทหาร หรือ Armed Forces Academies Preparatory School เป็นสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสถาบันวิชาการป้องกันประเทศกองบัญชาการกองทัพไทย และเป็นสถาบันการศึกษาแห่งเดียวในประเทศไทย ที่เป็นศูนย์รวมเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

โดยผู้ที่ศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร เรียกว่านักเรียนเตรียมทหาร (นตท.)

การรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารนั้น โรงเรียนเตรียมทหารมิได้เป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารด้วยตนเอง หากแต่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือก

โดยในแต่ละปีจะมีการกำหนดจำนวนรับนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้นแต่ละเหล่าทัพจะส่งผู้ผ่านการสอบคัดเลือกมาเรียนรวมกันที่โรงเรียนเตรียมทหาร เป็นเวลา 2 ปี

ภายหลังจากที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว นักเรียนเตรียมทหารเหล่านี้จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเหล่าทัพ (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ) ตามที่นักเรียนได้สมัครและผ่านการสอบคัดเลือก

เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเหล่าทัพแล้ว นักเรียนนายร้อยเหล่านี้ จะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหาร และนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร พร้อมทั้งเข้ารับพระราชทานกระบี่จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เสด็จแทนพระองค์

สำหรับประวัติการก่อตั้งและสถาปนามีว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2500 จอมพลถนอม กิตติขจร ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เสนอดำริต่อสภากลาโหมว่า หากจะรวมโรงเรียนที่อยู่ในระดับการศึกษาเดียวกันจากกองทัพต่าง ๆ เป็นสถาบันเดียวกันก็จะเป็นการประหยัดงบประมาณของชาติ

ทั้งยังทำให้ผู้ศึกษามีโอกาสได้รู้จักคุ้นเคย มีความสนิทสนมกลมเกลียว มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความคิดจิตใจร่วมกันแต่เยาว์วัย ซึ่งจะส่งผลให้บุคคลเหล่านี้สามารถประสานงานกันได้ด้วยดีและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่สุด สภากลาโหมได้เห็นชอบในดำรินี้เป็นเอกฉันท์ ในขั้นแรกให้รวมโรงเรียนเตรียมนายร้อย โรงเรียนเตรียมนายเรือ และโรงเรียนเตรียมนายเรืออากาศ เป็นโรงเรียนเตรียมทหาร สังกัดกรมการศึกษาวิจัย กองบัญชาการทหารสูงสุด เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2501

จึงถือว่าวันที่ 27 มกราคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร  และในปี 2506 กรมตำรวจได้ขอให้โรงเรียนเตรียมทหารรับนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วย โรงเรียนเตรียมทหารจึงเป็นศูนย์รวมเบื้องต้นสำหรับนายทหาร นายตำรวจ โดยสมบูรณ์

‘ยายชา เถิดเทิง’ เสียชีวิตแล้ว!! หลังป่วยมะเร็งปอด เปิดโพสต์สุดท้าย ‘โจอี้ กาน่า’ เยี่ยมบ้านที่นครปฐม

เมื่อวานนี้ (25 ม.ค. 68) นาย บุญฤทธิ์ คุ้มเงินแสน หรือ ทอมมี่ เถิดเทิง หรือ ยายชา เถิดเทิง อดีตศิลปินตลกชื่อดัง ซึ่งรับบทเป็น ยายชา หญิงชราขายกล้วยแขก ตัวตัวละครในระเบิดเถิดเทิง เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ภายหลังรักษาอาการป่วยมะเร็งที่ปอดมาระยะหนึ่ง 

ทั้งนี้ โอบะ เสียงเหน่อ เปิดเผยว่า ยายชา เถิดเทิง เสียชีวิตที่บ้านพักวันนี้จริง รดน้ำศพ 26 ม.ค. ที่วัดรางหมัน กำแพงแสน จ.นครปฐม 

สำหรับครอบครัว และภรรยาของ ยายชา เถิดเทิง นั้น เปิดร้านอาหารในวัดรางหมัน กำแพงแสน จ.นครปฐม เคยเล่าว่า ยายชา เถิดเทิง แข็งแร งเพิ่งจะมาป่วยเอาเมื่อปีที่แล้วเอง 

ทั้งนี้ ยายชา เถิดเทิง ได้ภาพ โจอี้ กาน่า ศิลปินตลกชื่อดังไปเยี่ยมที่บ้าน จ.นครปฐม พร้อมข้อความระบุว่า “ขอขอบคุณ คุณโจอี้ กาน่า และทีมงาน มาเยี่ยม ยายชา เถิดเทิง ที่บ้าน นำสิ่งของอุปโภค-บริโภค มาให้ยายชาและผู้ดูแล ขอกราบขอบพระคุณค่ะ” ซึ่งเป็นโพสต์สุดท้ายของ ยายชา เถิดเทิง เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ "กิ๊ฟ โคกคูน" ศิลปินตลกชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความอาลัย ยายชา เถิดเทิง ไว้ว่า “ดาวร่วงไปอีกหนึ่งดวง ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของยายชาด้วยนะครับ ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องปวดไม่ต้องทรมานอีกต่อไป แล้วขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะน้องรัก”

‘ไทด์ เอกพันธ์’ เปิดใจรักใหม่!! หวานใจนางเอกคนดัง ‘ทับทิม อัญรินทร์’ เผยความสัมพันธ์!! จากเล่นละครเป็นพ่อลูกกัน จนสนิทกันจริง 15 ปี

(26 ม.ค. 68) จากเล่นเรื่องไหนเป็นพ่อลูกกันตลอด เซอร์ไพรส์มาก ไทด์ เอกพันธ์ เปิดใจรักใหม่ นางเอกคนดัง บิณฑ์ แซวเตรียมแต่งงาน เข้าใจลูกโตเป็นสาวหมดแล้วใครเข้ามาก็ต้องละเอียดอ่อน

ช่อง7 เผย คลิป ไทด์ เอกพันธ์ เปิดใจรักใหม่หวานเวอร์ เปิดโมเมนต์หวานน่ารักกับนางเอกสาวคนสนิท ทับทิม อัญรินทร์

ล่าสุดถามถึงช่วงนี้ทำคอนเทนต์เต้นด้วยกันบ่อยๆ ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ไทด์ บอกว่า “เล่นเรื่องไหนเขาเป็นลูก เราเป็นพ่อ คลุกคลีกัน 10 กว่าปีแล้ว 15 ปีได้ น้องเขาก็น่ารัก เรารู้สึกมีความผูกพัน (ถามว่าตอนนี้เป็นพี่ชายคนสนิท ใช้คำนี้ได้ไหม) ได้”

พร้อมทั้งเผยโมเมนต์หยอกล้อกันหวานไปอีก ไทด์ แกล้ง ทับทิม จนนางเอกสาว บอกว่า “โดนแกล้งตลอด ตั้งแต่สมัยถ่ายรายการ ”

ด้าน ไทด์ บอกเลย “แม่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องมองตาปริบๆ”

ขณะที่ รายการ นิว พาซ่า ซึ่งมีพี่น้องแฝดพระเอกสายบุญ บิณฑ์ – เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ มาเปิดใจเรื่องความรักตอนหนึ่ง บิณฑ์ แซวน้องชายว่า “เอกพันธ์ เขาจะเป็นคนที่หัวใจสีชมพูตลอด เขาจะมีความรักของเขาตลอด (เอกพันธ์ เอามาตีหัวพี่ชายบอกเหรอๆ) เขาจะกุ๊กกิ๊กของเขาตลอด”

เอกพันธ์ ยอมรับว่า “คุยๆอยู่ ”

บิณฑ์ ถามว่า “เห็นว่าจะแต่งงานกันแล้วเหรอ (เอกพันธ์ หัวเราะ) ยังๆ ปีนี้ยังไม่ได้แต่ง เพราะยกช้างไม่ขึ้น ”

เอกพันธ์ กล่าวว่า “ดูๆ กันไปก่อน คบกันไปก่อน ถ้าใช่ก็ใช่ ยังไม่ฟันธง 100 เปอร์เซ็นต์ อาจจะใช่หรือไม่ใช่ ต้องดูให้กาลเวลา เรื่องแบบนี้ ละเอียดอ่อน เราอายุมากแล้ว วางแผนก้าวเดินต้องระวัง เอาคนโน้นคนนี้มาเป็นของเรา ถ้าไม่ใช่ จะเสียหายน้องเขา (บิณฑ์ : เขามีลูกสาวโตเป็นสาวหมดแล้ว ถ้าใครเข้ามา ทั้งเขาทั้งลูกละเอียดอ่อน)”

26 มกราคม 2525 ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานชื่อ 'ค่ายจุฬาภรณ์' จังหวัดนราธิวาส

ครั้งเมื่อสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นนายทหารเรือหญิง พรรคนาวิกโยธินพระองค์แรก นาวาเอก สงบ ศรลัมพ์ จึงได้ยื่นหนังสือถึงกรมนาวิกโยธินเพื่อขอพระราชทานชื่อค่ายดังกล่าว โดยได้รับการเห็นชอบจาก พลเรือโท ยุธยา เชิดบุญเมือง ผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธิน และได้ส่งหนังสือไปยังกองทัพเรือเพื่อขอพระราชทานชื่อ "ค่ายจุฬาภรณ์" ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากกองทัพเรือ กองบัญชาการทหารสูงสุด และกระทรวงกลาโหมตามลำดับ

ในวันที่ 24 ธันวาคม 2524 พลอากาศเอก พะเนียง กานตรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กราบบังคมทูลนายกรัฐมนตรีเพื่อขอพระราชทานชื่อค่ายทหารของกองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กรมนาวิกโยธิน และกองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 3 กรมนาวิกโยธิน โดยชื่อค่ายได้รับการยืนยันเป็น "ค่ายจุฬาภรณ์" หรือ "CHULABHORN CAMP" ในภาษาอังกฤษ

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2525 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่า สำนักเลขาธิการรัฐมนตรีได้นำเรื่องกราบบังคมทูลพระกรุณาและได้รับพระราชทานชื่อค่ายตามที่ขอ

ในวันที่ 24 กันยายน 2526  พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเรือเอกหญิงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (พระยศในขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินเปิด "ค่ายจุฬาภรณ์" ที่กรมทหารราบที่ 3 กรมนาวิกโยธิน บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยมีพลเรือเอก สมบูรณ์ เชื้อพิบูลย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พลเรือเอก โสภณ สุญาณเศรษฐกร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ, พลเรือโท ยุธยา เชิดบุญเมือง ผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธิน, และนายทหารผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ร่วมพิธีเปิดค่ายอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก

‘น้าหงา คาราวาน - โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ โชว์เรียกน้ำย่อย แถลงข่าว!! คอนเสิร์ต ‘ROAD FOR LIFE 3’ ที่เขาใหญ่

(25 ม.ค. 68) เรียกได้ว่าเป็นมหกรรมดนตรีเพื่อชีวิตที่แฟนเพลงต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ! โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา บรรยากาศร้านเขาใหญ่คาวบอยสเต็กเฮ้าส์ร้อนแรงขึ้นทันที เมื่อสองตำนานศิลปินรุ่นใหญ่เพื่อชีวิต ‘หงา คาราวาน’ และ ตำนานผู้บุกเบิก Hard Rock เมืองไทย ‘โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ ตัวแทนศิลปิน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ ‘ROAD FOR LIFE 3’ จัดโดย Pazan Music Festival มหกรรมดนตรีที่ทุกคนรอคอย และในปีนี้เรามีเครื่องดื่มคาราบาว และ ตะวันแดงเป็นผู้สนับสนุนหลักร่วมผลักดันให้มหกรรมนี้เป็นจริงขึ้นมา!!

กับเวทีสุดยิ่งใหญ่ที่ Pazan Music Festival พร้อมมอบความสุขและประสบการณ์ดนตรีเหนือระดับ ในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้ รวมพลศิลปินระดับตำนาน 13 วง ขึ้นเวที โดยครั้งนี้ 'น้าหงา' สุรชัย จันทิมาธร พร้อมเพื่อนศิลปินสุดเก๋าทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ จะมาร่วมสร้างสีสันให้กับเวที ‘ROAD FOR LIFE 3’ หวังเปิดประสบการณ์ฟังเพลงแบบใหม่ให้กับมิตรรักทุกคน

นำทีมโดย : หงา คาราวาน, พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, คาราบาว, มาโนช พุฒตาล & The Lamb, พงษ์สิทธิ์ คำภีร์, หิน เหล็ก ไฟ x โอฬาร พรหมใจ, เสือ ธนพล, สีเผือก คนด่านเกวียน, ทอม ดันดี, ไววิทย์ สันติภาพ, คณะขวัญใจ, มนต์แคน แก่นคูน, ก้อง ห้วยไร่ x เบิ้ล ปทุมราช

นอกจากนี้ยังได้พิธีกรระดับตำนานอย่าง มาโนช พุฒตาล, ภิญโญ รุ่งสมัย และ บอย รถไฟดนตรี มาร่วมปลุกความสนุกบนเวทีอีกด้วยไฮไลต์สุดพิเศษที่ห้ามพลาด

งานนี้ ‘น้าหงา สุรชัย จันทิมาธร’ เผยถึงความประทับใจที่ได้กลับมาร่วมเวทีครั้งที่ 3 ว่า “คอนเสิร์ตนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในนามของ Pazan Music Festival ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแฟนเพลง และก่อให้เกิดสังคมของนักฟังเพลงรุ่นใหม่ๆ ที่ได้มาทำความรู้จักกัน งานนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ พร้อมกับศิลปินท่านอื่นๆ ซึ่งโอกาสที่พวกเราจะได้พบปะกันนั้นค่อนข้างน้อย ต้องเป็นงานใหญ่อย่างนี้เท่านั้นถึงจะได้เจอกัน และทุกปีเรามีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เรามีการประสานงานและประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนวงการดนตรีไปข้างหน้า รู้สึกดีใจที่มีแนวเพลงหลากหลายมาร่วมแจมในงาน เพราะเราเปิดกว้างสำหรับคนที่อยากสัมผัสดนตรีอย่างแท้จริง การได้ศิลปินแนวลูกทุ่งมาร่วมงานครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะถึงแม้จะไม่ได้เป็นญาติกันจริงๆ แต่ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนญาติพี่น้อง วงการดนตรีไม่ว่าจะเป็นแนวไหน เราก็พร้อมต้อนรับอย่างไม่มีข้อจำกัดครับ”

สำหรับ ‘โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ ได้กล่าวว่า

“ผมได้เป็นเกสต์ของวงหินเหล็กไฟ เป็นสมาชิกเคยเล่นด้วยกันมาก่อน อยากเชิญชวนทุกคนให้มาคอนเสิร์ต ช่วยยกระดับความรู้สึก อารมณ์ของพวกเราให้มันชื่นบาน ฟังดนตรีในช่วงเวลานี้ และอยากเล่นแบ็กอัพให้วงน้าหงา” พร้อมแซวน้าหงาอย่างอารมณ์ดี

ด้านผู้จัดงาน คุณพงษ์พัฒน์ เพ็ญโชติรส กล่าวว่า “ทางทีมงาน Pazan Music Festival ได้ประสานงานกับโรงแรมและรีสอร์ตในพื้นที่เพื่อจัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองที่พัก เราให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกและเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหัวใจหลัก ครั้งนี้เรายกระดับความอลังการไปอีกขั้น ด้วยการนำระบบเสียงใหม่ล่าสุดมาใช้ เสียงกระหึ่มคมชัดทุกมิติ พร้อมด้วยเวทีขนาดใหญ่ที่รับรองว่าอลังการตระการตา นอกจากนี้ เรายังใส่ใจในรายละเอียดการดูแลผู้เข้าชมอย่างเต็มที่ มีการเตรียมห้องน้ำถึง 200 ห้อง พร้อมแม่บ้านที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนระบบแสง สี เสียง จัดเต็มแบบเหนือระดับ และยังเพิ่มขนาดจอภาพให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ทุกคนสามารถรับชมโชว์ได้อย่างชัดเจนไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของงาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่นี้ไปด้วยกันครับ”

งานนี้ ‘น้าหงา’ นำกีต้าร์คู่ใจร่วมแจมเพลงเพราะๆ กับ ‘พี่โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ รวมสองตำนานเพลงไว้บนเวทีเดียวกัน ทำเอาเหล่าแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนอิ่มเอมไปกับบรรยากาศสุดฟิน เริ่มต้นด้วยบทเพลงไพเราะอย่าง ‘เดือนเพ็ญ’, ‘ดอกไม้ให้คุณ’ และปิดท้ายด้วย ‘หนุ่มพเนจร’ เป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อนเสิร์ฟเมนูหลักในวันแสดงจริง

โดยเฉพาะช่วงที่ ‘พี่โอ้’ โชว์สกิลไลน์ริฟฟ์ระดับเทพร่วมกับ ‘น้าหงา’ ที่มีสำเนียงกีต้าร์สะกดใจคนดู บอกเลยว่าเรียกเสียงปรบมือกระหึ่ม เพราะฝีมือยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ทุกคนในงานต่างทึ่งและชื่นชมในความสามารถสุดเฉียบคม เชื่อเลยว่าแฟนเพลงต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะการแสดงจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นรับรองว่าเต็มอิ่ม ทั้งเพลงฮิตในความทรงจำและโชว์ที่สร้างความประทับใจให้แฟนเพลงอย่างแน่นอน!!

ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรม Road for Life 3 โดย Pazan Music Festival ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เริ่มตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานกิจกรรมเขาใหญ่มาราธอน ถนนธนะรัชต์ กม.21 เตรียมตัวมาสัมผัสความยิ่งใหญ่และสร้างความทรงจำที่เขาใหญ่ ขอบคุณเครื่องดื่มคาราบาว และ ตะวันแดง ที่ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ครั้งนี้! พร้อมขับเคลื่อนวงการดนตรีไทยให้ก้าวไกลไปด้วยกัน แล้วพบกันในค่ำคืนที่เสียงดนตรีจะเป็นดั่งสายลมเย็นพัดผ่านใจ!!

ซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ Pazan Music Festival

แชตเฟซบุ๊ก: http://m.me/pazanmusicfestival 

LINE Official Account: @pazanmusicfestival 

THE CONCERT: https://www.theconcert.com/concert/3813 

All Ticket by Counter Service: https://www.allticket.com/event/ROADFORLIFE3 

All Ticket และ 7-Eleven ทุกสาขา หรือ โทร : 09-8828-2187

25 มกราคม 2502 ในหลวงร.9 เสด็จฯ จังหวัดสุพรรณบุรี ทรงเปิดพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เมื่อพุทธศักราช 2456 ได้มีการค้นพบพระเจดีย์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างขึ้น ณ ดอนพระเจดีย์ แขวงเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทรงชนะในยุทธหัตถี และในปีเดียวกันนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระเจดีย์แห่งนี้ เพื่อทรงนมัสการและโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างพระเจดีย์ขึ้นใหม่ ทว่าการก่อสร้างประสบปัญหาขัดข้องเรื่องงบประมาณ

จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช การบูรณะฟื้นฟูพระเจดีย์ได้สำเร็จลุล่วง ต่อมาในวันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2502 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีเปิดพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ตำบลดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ตามหมายกำหนดการที่ 1/2502

เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเสด็จเข้าสู่พิธีมณฑล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาประจำรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงศีลและทรงฟังคำกราบบังคมทูลรายงาน ก่อนที่จะมีพระราชดำรัส จากนั้นพระองค์ทรงเปิดพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระสงฆ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ขณะเดียวกันชาวพนักงานได้ประโคมฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ มโหระทึก แตร และดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ

หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเสด็จไปทรงพระสุหร่ายสรงพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะ ก่อนจะประทับพระราชอาสน์ในพิธีมณฑล พระสงฆ์ถวายอดิเรก และเสด็จพระราชดำเนินกลับ

24 มกราคม ของทุกปี วันการศึกษาสากล วันที่ระลึกถึงความสำคัญของการศึกษา

ทุกวันที่ 24 มกราคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น วันการศึกษาสากล (International Day of Education) โดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อย้ำถึงความสำคัญของการศึกษา ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน การศึกษาที่มีคุณภาพไม่เพียงช่วยให้แต่ละบุคคลพัฒนาตนเอง แต่ยังขับเคลื่อนความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติด้วย

การศึกษาถือเป็นสะพานสู่โลกกว้าง ช่วยให้ผู้คนสามารถคิดวิเคราะห์และเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลกได้ดียิ่งขึ้น หากปราศจากโอกาสทางการศึกษา ย่อมทำให้ยากที่จะตามทันโลกและผู้อื่น

การศึกษามีประโยชน์ในหลายมิติ เช่น ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ส่งเสริมความรู้และความสามารถในการประกอบอาชีพ ทำให้พลเมืองมีส่วนร่วมในการพัฒนาชาติ เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากองค์กรระดับโลกสะท้อนปัญหาที่น่าห่วงใยเกี่ยวกับการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและเยาวชนทั่วโลก โดยพบว่า เด็กและเยาวชนจำนวน 258 ล้านคน ยังไม่เคยเข้าเรียน เด็กและวัยรุ่น 617 ล้านคน ไม่สามารถอ่านหนังสือหรือทำคณิตศาสตร์พื้นฐานได้ ในภูมิภาคทะเลทรายซาฮารา เด็กผู้หญิงน้อยกว่า 40% จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ขณะที่มีผู้ลี้ภัยและเด็กประมาณ 4 ล้านคน ไม่ได้เข้าถึงการศึกษา

23 มกราคม 2425 วันประสูติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาแห่งกิจการรถไฟสมัยใหม่

พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาแห่งกิจการรถไฟสมัยใหม่ ทรงมีพระนามเดิมว่า 'พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร' และทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับเจ้าจอมมารดาวาด พระองค์ประสูติเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2424

ในปี 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้รวมกรมรถไฟสายเหนือกับสายใต้เป็นกรมเดียวกัน ภายใต้ชื่อ 'กรมรถไฟหลวง' และโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง นอกเหนือจากหน้าที่ทางทหาร ซึ่งการบริหารงานด้านกิจการรถไฟในช่วงนั้น ทรงนำวิทยาการสมัยใหม่มาใช้ในการพัฒนา และทรงได้รับการขนานพระนามว่า 'พระบิดาแห่งกิจการรถไฟสมัยใหม่'

พระองค์ทรงขยายเส้นทางรถไฟจากเหนือสู่ใต้ รวมทั้งสร้างเส้นทางรถไฟจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี และจากฉะเชิงเทราถึงอรัญประเทศ นอกจากนี้ยังทรงสั่งซื้อรถจักรดีเซลคันแรกในทวีปเอเชียจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จำนวน 2 คัน ในปี พ.ศ. 2471 ซึ่งมีกำลัง 180 แรงม้า เพื่อแทนที่รถจักรไอน้ำที่ไม่สะดวกและไม่ประหยัด

นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ทรงรับผิดชอบงานสร้างถนนและสะพานต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น สะพานกษัตริย์ศึก สะพานรัษฎาภิเศก และสะพานพระพุทธยอดฟ้า รวมทั้งได้ริเริ่มการสำรวจหาน้ำมันดิบในพื้นที่บ่อหลวง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการใช้เครื่องเจาะสำรวจธรณีวิทยา ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการสำรวจแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2464

รถไฟฟ้าสายสีแดง จับมือ สำนักงานเขตจตุจักร จัดกิจกรรม 'จดทะเบียนสมรสลอยฟ้า' ต้อนรับวาเลนไทน์

(22 ม.ค.68) งานนี้คู่รักที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตคู่ไม่ควรพลาด เมื่อรถไฟฟ้าสายสีแดง จับมือ สำนักงานเขต จตุจักร จัดงาน Love in the Sky 'จดทะเบียนสมรสลอยฟ้า' ภายในขบวนรถไฟฟ้า ครั้งแรกของโลก !

สำหรับ กิจกรรมดังกล่าว จะจัดขึ้นในวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) โดยจะมอบประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตให้กับ 30 คู่รัก ซึ่งจะได้รับของขวัญสุดพิเศษ อาทิ

1.ทะเบียนสมรสลอยฟ้าโดยสำนักงานเขต จตุจักร

2.ภาพถ่าย Unseen แบบที่ไม่เคยมีคู่รักคู่ไหน มีโอกาสได้ถ่ายมาก่อน ภายในขบวนรถไฟฟ้า ห้องคนขับรถไฟฟ้าสายสีแดง และ วิวสนามบินนานาชาติดอนเมือง

3.Limited Edition Rice Cooker หม้อหุงข้าวลายพิเศษขนาด 1.8 ลิตร พ่อบ้านจะได้กลับมาทานข้าวบ้านทุกวัน มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง

4.กรมธรรม์ประกันภัย การเดินทางรอบโลก จากทิพยประกันภัย 

5.กรอบรูปภาพดาวเทียม THEOS-2 พื้นที่ภูกระดึงรูปหัวใจ จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) 

6.Gift Set จากกลุ่มบริษัท ปตท. 

นอกจากนี้ ยังจะมีของขวัญอื่น ๆ อีกมากมายจากผู้สนับสนุน

สำหรับคู่รักที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Social Media 
ทุก Platform • Red Line SRTET.

22 มกราคม 2486 รัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ประกาศให้คำว่า ‘สวัสดี’ เป็นคำทักทาย

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2486 รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงครามได้ประกาศให้ใช้คำว่า 'สวัสดี' เป็นคำทักทายเมื่อพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

คำว่า 'สวัสดี' ได้รับการบัญญัติขึ้นโดยพระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) และเริ่มใช้งานครั้งแรกในปี 2476 ขณะที่ท่านเป็นอาจารย์ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนำคำนี้ทดลองใช้ในกลุ่มนิสิตก่อนที่จะได้รับการนำมาใช้ในวงกว้างและได้รับการยอมรับจากสังคมในภายหลัง หลังจากนั้น 62 ปี จอมพล ป. พิบูลสงครามจึงได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการในยุคของการส่งเสริมชาตินิยม

คำว่า 'สวัสดี' มาจากรากศัพท์ 'โสตฺถิ' ในภาษาบาลี และ 'สวัสดิ' ในภาษาสันสกฤต ซึ่งใช้ในวรรณคดีไทยและบทสวดมนต์มาช้านาน

นอกจากคำว่า สวัสดี แล้ว ในยุคของจอมพล ป. พิบูลสงครามยังมีคำทักทายอื่น ๆ ที่ใช้กันตามเวลา ได้แก่ อรุณสวัสดิ์ ในตอนเช้า (แปลจากคำว่า Good Morning) ทิวาสวัสดิ์ ในตอนบ่าย (แปลจากคำว่า Good Afternoon) 'สายัณห์สวัสดิ์' ในตอนเย็น (แปลจากคำว่า Good Evening) และ ราตรีสวัสดิ์ เมื่อก่อนนอน (แปลจากคำว่า Good Night)

21 มกราคม ของทุกปี วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน หยุดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงมติ ให้วันที่ 21 มกราคม ของทุกปีเป็น "วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน" ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เสนอ หลังเกิดกรณีของหมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ถูกบิ๊กไบค์ชนจนเสียชีวิต โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและป้องกันเหตุการณ์รถชนคนข้ามทางม้าลายซ้ำรอย พร้อมทั้งกระตุ้นให้ผู้ใช้ถนนทุกเพศทุกวัยและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทมีจิตสำนึกในการรักษาความปลอดภัย และส่งเสริมการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

การกำหนด "วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน" จะเป็นการรณรงค์เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและเพิ่มความตระหนักในหมู่ผู้ใช้ถนน โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแนวทางและมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยเน้นมาตรฐานการปฏิบัติที่ชัดเจนและความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

นอกจากนี้ยังจะมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถลดอุบัติเหตุและการสูญเสียชีวิตบนท้องถนนได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

‘อ.ยิ่งศักดิ์’ ยุติหน้าที่พิธีกร “คนดังนั่งเคลียร์” ด้วยเหตุผลส่วนตัว มีปัญหาด้านสุขภาพ

(20 ม.ค. 68) เรียกได้ว่าเป็นตำนานมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าทีมงานจะเปลี่ยนไปกี่ชุด หรือจะย้ายช่องไปกี่รอบ แต่พิธีกรรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ก็ยังเป็น “อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” เพราะด้วยคาแรกเตอร์ที่ถามตรงใจคนดูแบบเป็นกันเอง ทำให้เจ้าตัวยืนหนึ่งมาตลอด 12 ปี ล่าสุดทางช่อง 8 ซึ่งเป็นต้นสังกัดของรายการนี้ ได้ออกแถลงการณ์ว่าพิธีกรชื่อดังได้ยุติบทบาท วางมือจากรายการนี้แล้ว เรียกได้ว่าปิดตำนานได้อย่างน่าใจหาย

“รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ จะยุติบทบาท การทำหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลส่วนตัว มีปัญหาด้านสุขภาพ จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่พิธีกรประจำรายการ ซึ่งออกอากาศสด ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ต่อไปได้

ขอขอบคุณ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ พิธีกรผู้เป็นตำนานฝีปากกล้า ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เราขอส่งกำลังใจให้กับอาจารย์ทุกเส้นทางต่อจากนี้ และเชื่อมั่นว่าความทรงจำดีๆ ที่อาจารย์ได้มอบให้รายการและผู้ชมจะยังคงอยู่ตลอดไป

สำหรับการดำเนินรายการ คนดังนั่งเคลียร์ หลังจากนี้ คุณเมย์ ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิผู้ประกาศข่าวมากประสบการณ์กว่า 24 ปี จะเข้ามารับหน้าที่ในบทบาทพิธีกรประจำรายการอย่างเต็มตัว การันตีด้วยความเชี่ยวชาญในฐานะคนข่าวตัวจริง เป็นตัวแทนท่านผู้ชม ถามเจาะลึก ตรง ทุกประเด็น ซอกแซกแบบตรงจุด และส่งคำถามแทนใจจากผู้ชมทางบ้าน ภายใต้คอนเซปต์ของรายการ 'เคลียร์เร็ว เคลียร์แรง' สด 5 วันรวด ฟาดทุกกระแส ถามแทนใจคนดู ถูกจริตคนไทยแฟนๆสามารถติดตามรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.05 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กดเลข 27 และทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก ช่อง 8 / ยูทิวบ์ Thaich8”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top