เปิด 'แนวรุก-ความพร้อม' ผลิตภัณฑ์ชูอร่อยใต้เงา 'เจดีฟู้ด' สู่เป้าหมาย 'เข้าตลาดหุ้น-ลุ้นขยายตลาดต่างแดน 50%'
จากรายการ THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับคุณธีรดา หอสัจจกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทฯ ก่อตั้งโดยคนไทย และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรส และอาหารแปรรูประดับประเทศ สร้างชื่อเสียงในระดับโลก ถึงเป้าหมายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ พร้อม ๆ ไปกับการรับมือสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ
คุณธีรดา กล่าวว่า บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นโดยคุณพ่อ นายธีรบุล หอสัจจกุล ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและอยู่ในวงการอาหารมายาวนาน ในปี 2542 บริษัทฯ ได้เริ่มต้นประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบส่วนผสม (Food Ingredients) ตามสูตรที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมประเภทขนมขบเคี้ยวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยลักษณะผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ แบ่งเป็น สินค้ารับจ้างผลิต OEM และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหาร แบ่งเป็น ผงปรุงรส, อาหารอบแห้ง, ซอสน้ำจิ้ม และไส้เบเกอรี่ (ฟิลลิ่ง)
คุณธีรดา กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสในปัจจุบันของไทยมีการแข่งขันกันสูงกว่าเมื่อก่อนมาก มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดในอันดับต้น ๆ เนื่องจากมีประสบการณ์มายาวนานและมีการจัดทำระบบการผลิตให้ได้มาตรฐาน รสชาติอร่อย คุณภาพดี เพื่อให้ส่งออกสินค้าไปทั่วโลก
คุณธีรดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME ที่มีความต้องการผลิตสินค้าอาหารแปรรูป เครื่องปรุงรส ในแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งได้ให้บริการในรูปแบบ One Stop Service ให้คำปรึกษาตั้งแต่การเริ่มผลิต การเลือกรสชาติ การจดแจ้ง อย. และแนะนำการทำตลาดให้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้เติบโตอีกด้วย
เมื่อถามถึงสัดส่วนของการทำตลาดของบริษัทฯ ในปัจจุบัน? คุณธีรดา เผยว่า แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ และต่างประเทศ โดยการจัดจำหน่ายยังเน้นตลาดในประเทศอยู่ แต่เป้าหมายในอนาคตมองว่า จะขยายตลาดไปต่างประเทศ 50%
เมื่อถามถึงเทรนด์ของรสชาติ? คุณธีรดากล่าวว่า เมื่อก่อนการผลิตรสชาติจะตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านรสชาติหลัก ๆ เช่น ต้มยำ, ชีส, ซีฟู้ด เป็นต้น แต่ปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ต้มยำ จากรสชาติต้มยำธรรมดา ก็ต้องเป็นต้มยำกุ้ง, ต้มยำหัวมันกุ้ง เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ตอบโจทย์ลูกค้า และท้าทายผู้ผลิตไปในตัว
เมื่อถามถึงไลน์ผลิตภัณฑ์ของเจดีฟู้ด? คุณธีรดา เผยว่า ในปัจจุบันมีการออกสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท (Brand) ได้แก่ แบรนด์โอเค (OK) ซึ่งเป็นผงปรุงรส และไส้เบเกอรี่ (ฟิลลิ่ง) มีการคิดสูตรใหม่ให้เหมาะสมกับอาหารและสินค้าเบเกอรี่, แบรนด์ Crispconut ซึ่งเป็นขนมขบเคี้ยวประเภทมะพร้าวอบกรอบ, แบรนด์ กินดี (Kindee) เป็นผลิตภัณฑ์ผงปรุงรสสำเร็จรูป ไม่มีส่วนผสมของผงชูรส
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับแบรนด์ GOOD EATS ผลิตภัณฑ์ซุปกึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ขนมโปรตีนอบกรอบที่ปราศจากผงชูรส โดยมีเป้าหมายยอดขายของบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2568 นี้
เมื่อถามถึงกลยุทธ์ของบริษัทฯ? คุณธีรดา กล่าวว่า มีการปรับตัวเสมอและติดตามเทรนด์ใหม่ตลอดเวลา และได้เรียนรู้จากคุณพ่อ เช่น ต้องศึกษาลูกค้าและแก้ Pain Point ของลูกค้าให้ได้ ว่าความต้องการของลูกค้า คืออะไรถ้าตอบโจทย์ลูกค้าได้ก็จะประสบความสำเร็จ ส่วนปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา มองว่าเรื่องโลกร้อนมีส่วนสำคัญทำให้วัตถุดิบไม่เพียงพอ ราคาวัตถุดิบในตลาดผันผวน ส่วนความภาคภูมิใจของคุณธีรดา คือ การนำพาบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ประสบความสำเร็จ
เมื่อถามถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม? คุณธีรดา เล่าให้ฟังทิ้งท้ายว่า "ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือการปล่อยมลภาวะอื่น ๆ (Low Carbon Business) เราคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและความหลากหลายทางชีวภาพ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการจัดการพลังงานและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ภายในปี 2570 เทียบกับปีฐาน 2564"
