Tuesday, 17 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

ชลบุรี - วุ่นทั้งโรงพัก ตร.พัทยาติดโควิด นำ 40 ตร.ใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงเพื่อตรวจเชื้อ

วันนี้ 18 เม.ย.64 ที่ศาลาประชาคม อ.บางละมุง  จ.ชลบุรี  เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา  รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์  สว.จร. สภ.เมืองพัทยา ที่ติดเชื้อโควิด-19 รวม 40 คน ไปตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19  นอกจากนั้นยังต้องกักตัวอีก 14 วัน

โดยทาง  พ.ต.ท.สมพล  นาคขำพันธุ์   รอง ผกก.( สอบสวน ) สภ.เมืองพัทยา  รรท. ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมาทางสารวัตรจราจรมีอาการตัวร้อนก็เลยไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพพัทยา พอวันที่ 16 เม.ย.  รู้ผลว่าติดเชื้อก็เดินทางเข้ารักษาที่ รพ.พญาไท ศรีราชา หลังจากนั้นทาง สารวัตรจราจรก็ได้ตรวจสอบทั้งตำรวจและบุคคลที่กลุ่มเสี่ยงรวมทั้งหมด 40 คน จึงได้ให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันนึ้ และหลังตรวจก็ต้องกักตัว 14 วันอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - 4 วัน ปรับสภาพชายหาดพัทยา สวยดังเดิมหลังฝนถล่ม

เมืองพัทยา ใช้เวลา 4 วัน คืนสภาพชายหาดพัทยาหลังถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหายยับ ระบุสภาพชายหาดกลับมาสวยงามดังเดิม ขณะที่นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาพักผ่อนบริเวณชายหาดช่วงหยุดต่อเนื่องแม้จะเป็นพื้นที่สีแดง

หลังจากที่เกิดกรณีมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงบ่ายของวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้เกิดมวลน้ำจำนวนมากไหลบ่ามาจากฝั่งตะวันออกเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยาก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังหลายจุด ขณะที่บริเวณชายหาดพัทยา ตั้งแต่พัทยาเหนือไปจนถึงพัทยาใต้ ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากมวลน้ำไหลบ่าลงสู่ชายหาด ส่งผลให้ทรายถูกน้ำกัดเซาะทรายไหลลงสู่ทะเลเป็นหลุม และทางน้ำไหลขนาดใหญ่ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยพบว่าทรายถูกน้ำเซาะลงทะเลไปนับแสน ลบ.ม. ซึ่งที่ผ่านมานายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักช่างเมืองพัทยา นำเครื่องมือหนักพร้อมบุคลากรเข้ามาทำการซ่อมแซมชายหาดพัทยาเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้ชายหาดกลับคืนมาสภาพดังเดิม

ล่าสุดวันนี้ (17 เม.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สำนักช่างได้ใช้รถแบ็คโฮตักขุดทรายที่กองอยู่ริมทะเลขนนำกลับมาถมคืนพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะ โดยเฉพาะบริเวณซอย 4 ถึง ซอย 5 พร้อมกันนี้ได้ใช้รถ JCB เข้ามาเกลี่ยผืนทรายให้กลับมาคืนสภาพเหมือนเดิม ซึ่งปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แล้ว โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 4 วัน มีรายงานเพิ่มเติมว่าปัจจุบันยังพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนบริเวณชายหาดพัทยา ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องสงกรานต์ได้ แม้ว่าเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จะถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จากกรณีที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกอบร่มเตียงเองก็เข้มในมาตรการป้องกันโควิด-19 ของ ศบค .ทั้งการจัดเตียงแบบเว้นระยะห่าง การจัดวางเจลแอลกอฮอล์ ให้กับผู้มาใช้บริการ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

ชลบุรี - เริ่มวันนี้ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น เมืองพัทยา รับลูก ศบค. ดีเดย์ เปิดตี 4 ปิด 5 ทุ่ม

ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ สาขาเมืองพัทยา พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ แบะศบค. เลื่อนเปิดให้บริการระหว่างเวลา 04.00–23.00 น. ตั้งแต่วันนี้

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) หรือ ศบค. ได้ประกาศมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ จำแนกตามพื้นที่สถานการณ์ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพมหานครฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่นนั้น

มีรายว่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ โดยจะเปิดให้บริการระหว่างเวลา 04.00–23.00 น. ตั้งแต่วันนี้ วันที่ 18 เม.ย. 2564 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ พบว่า ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาต่าง ๆ ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของภาคตะวันออก ได้เตรียมพร้อมสำหรับการให้บริการโดยปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. อย่างเคร่งครัด คุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด เพื่อสุขภาพอนามัยของพนักงาน และลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ตามที่ได้ดำเนินการในเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน และผู้มาใช้บริการ การเว้นระยะห่าง การล้างมือก่อนหยิบจับอาหารหรือสินค้า การทำความความสะอาดพื้นที่ อุปกรณ์ในร้าน รวมทั้งจุดสัมผัสร่วมตามระยะเวลาที่กำหนด และการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของร้าน เพื่อบรรเทา และแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กาฬสินธุ์ - “อ.ยักษ์ แม่โจ้” ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาระดับประเทศ เยี่ยมและแนะนำวิธีปลูกกัญชาแก่วิสาหกิจชุมชนฯ ผู้ปลูกกัญชาถูกกฎหมาย

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ที่วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ จ.กาฬสินธุ์ ดร.อานนท์ สุทน ผอ.ศูนย์สาธิตแม่โจ้เกษตรศิลป์ จังหวัดกำแพงเพชร, นางพรรณี ดวงจันทร์ทิพย์ เจ้าพนักงานส่งเสริมสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมชมอาคารปลูกกัญชาถูกกฎหมายของวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดย มี น.ส.สุภาพร คำยุธา ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ นายนิมิตร รอดภัย ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนฯ และนักวิชาการ ของวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่พร้อมสมาชิก ให้การต้อนรับ

ดร.อานนท์ สุทน ผอ.ศูนย์สาธิตแม่โจ้เกษตรศิลป์ จ.กำแพงเพชร ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกกัญชาระดับประเทศได้ให้คำแนะนำ และแลกเปลี่ยนแนวทางการปลูกกัญชากับ นายนิมิตร รอดภัย ที่ปรึกษา-นักวิชาการของวิสาหกิจชุมชนฯ ที่จำเป็นต้องมีการเตรียมดินพร้อมกับการดูแลต้นและบำรุงรากให้มีความแข็งแรง ก่อนที่ลำต้นจะเติบโตมากขึ้น

ดร.อานนท์ กล่าวว่า ต้นกัญชาที่ปลูกแห่งนี้เป็นพันธุ์หางกระรอก ซึ่งตามแผนงานการปลูกจะมีอายุประมาณ 3 เดือนที่ต้องพร้อมต่อการเก็บเกี่ยว ดังนั้นในการดูแลรวมไปถึงการให้ปุ๋ย จำเป็นต้องมีระบบและเป็นเวลา จนกว่าที่ลำต้นจะเติบโตในช่วง 1 เดือนแรก

“ผมไม่ต้องการให้เกษตรกรผู้รับอนุญาตถูกต้อง จะต้องมาเสียเวลาในการดูแล เพราะต้นกัญชาสามารถที่จะทำให้เจริญเติบโตได้ สิ่งสำคัญขณะนี้ผู้ได้รับใบอนุญาตถูกต้องสามารถปลูกได้เพียง 50 ต้นที่ถือว่าน้อยมาก แต่หากสามารถดูแลและทำให้มีใบกัญชาได้มากขึ้นกว่าเดิม ก็จะทำให้เกษตรกรวิสาหกิจผู้ปลูกกัญชามีรายได้ในจุดนี้ และในอนาคตกระบวนการแลกเปลี่ยนก็จะเกิดขึ้นอยู่ตลอด ขอให้วิสาหกิจฯ มีความมั่นใจและพัฒนาตามที่แนะนำ”

สำหรับวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับอนุญาตถูกต้อง เป็นหนึ่งในสามแห่งของจังหวัดกาฬสินธุ์  รับใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และได้ทำการปลูกลงดินเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ที่คาดว่าผลผลิตจะสามารถออกสู่ตลาดได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า


ภาพ/ข่าว ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

พัทลุง - สุดทึ่ง...เด็ก 10 ขวบ ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม ทำโรตีขาย ช่วยเหลือครอบครัว

เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับเด็กวัย 10 ขวบ ที่ชื่นชอบในการทำโรตี ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ลูกค้าที่พบเห็นต่างชื่นชมแห่อุดหนุน แม่ค้าวัย 10 ขวบ  มีชื่อเล่นว่าน้องไปร์  ด.ญ.รวิสรา คงเกื้อ  อายุ 10 ขวบ  เรียนอยู่ ชั้นประถมปีที่ 4  โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง  น้องไปร์เล่าให้ฟังว่าตนมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ตัวเองเป็นคนโต หลงใหลการทำโรตีมาตั้งแต่เล็ก เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัว เริ่มหัดทำตั้งแต่อายุ 9 ขวบ

โดยมีอา นางสาวโฉมเฉลา คงเกื้อ เป็นคนถ่ายทอดวิชาให้  เริ่มตั้งแต่คอยเป็นลูกมือหัดห่อ หัดหัน  และ วิ่งเสิร์ฟ โรตี ให้กับลูกค้า จนกระทั้งหมั่นใจว่าหลานสาวชื่นชอบและตั้งใจจริง จึงได้หัดให้หลานสาวทุบแป้งโรตี จนชำนาญ และขั้นตอนสุดท้าย คือการทอดโรตี ซึ่งมีทั้งโรตีกรอบ และโรตี ใส่ไข่ ใส่นม ใส่กล้วย  1 ปี ผ่าน  ไม่น่าเชื่อว่า หลานสาววัย 10 ขวบ จะเรียนรู้จดจำ และพัฒนาสิ่งที่ชอบ จนทำโรตีขายเองได้อย่างน่าทึ่งของผู้พบเห็น  ลูกค้าแห่อุดหนุน กันล้นหลามทุกวัน

เมื่อถามว่าโตขึ้นมา น้องไปร์ อยากจะประกอบอาชีพอะไร น้องไปร์ตอบโดยไม่ต้องคิดว่า อยากเป็นแม่ค้าโรตี เพราะตัวเองเป็นคนชอบทำโรตี เลยอยากให้ลูกค้าได้กินโรตีอร่อย ๆ มือของตน  และ อีกอาชีพหนึ่งที่ชอบคือ ครูสอนภาษาไทย  เพราะอยากให้ลูกศิษย์ได้ซึมซับภาษาไทย

สำหรับลูกค้าที่ต้องความชิมความอร่อยรสชาดฝีมือของน้องไปร์ ได้ที่ร้าน โรตีดีไซน์  บายหญิงโฉม ในตลาดเรื่องเล่ากับข้าวยามเย็น  อ.เมืองพัทลุง  โทร 0936345456

แม่ฮ่องสอน – ผลกระทบจากพายุฝนในพื้นที่แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 17 เมษายน 2564 เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ท่วมสวนเกษตรในพื้นที่หมู่ 10 ต.แม่ลาน้อย ทำให้พืชผลทางการเกษตร(สวนถั่วเหลือง)เสียหายและอุปกรณ์การเกษตรเช่น ท่อน้ำ(pvc)เสียหายและมีเศษของวัสดุเช่น เศษไม้ต่างๆอุดตันท่อระบายน้ำทิ้งระหว่างทางลอดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ซึ่งเกรงว่าหากมีมวลน้ำ หลากเพิ่มอีกจะทำให้เกิดความเสียหายต่อถนนหลวงได้ ในเบื้องต้นจะเข้าไปสำรวจก่อนส่งรายงานทางอำเภอ,ท้องถิ่นและแขวงการทาง กรมทางหลวงเพื่อแก้ไขต่อไป

และในวันเดียวกันเวลาประมาณ 20.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตำบลแม่ลาน้อย ตำบลท่าผาปุ้ม ตำบลแม่ลาหลวงและตำบลแม่นาจาง ทำให้ดินสไลด์ทับถนนสายบ้านห้วยหมากหนุน ต.ท่าผามปุ้ม ถนนคอสะพานบ้านห้วยไม่ขีดและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย ซึ่งอำเภอได้ประสานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว


ภาพ/ข่าว  เกียรติศักดิ์  รักสัตย์ / เกียรติยศ  รักสัตย์ ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน

                

นราธิวาส - ผู้ว่าฯนราธิวาส ประชุม ศบค. จังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ติดตามการดำเนินงาน พร้อมปรับมาตรการให้สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนด กำชับทุกอำเภอบริหารจัดการยับยั้งการระบาดอย่างทันท่วงที

วันนี้ (18 เม.ย. 64) ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดนราธิวาส (ศบค.จังหวัด) โดยมีคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดนราธิวาส ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID19 ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้ออกข้อกำหนด ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 20 จึงต้องมีการปรับให้เข้ากับพื้นที่ โดยทุกส่วนราชการต้องร่วมกันระงับยับยั้งป้องกันโรค ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ทำให้ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อปรับมาตรการให้สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนด

โดยคณะทำงาน ศบค. จังหวัดนราธิวาส ทั้ง 9 คณะ ได้นำเสนอการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอต้องมีมาตรการแก้ไขปัญหาระงับยับยั้งได้ทันที เพื่อควบคุมสถานการณ์ตามแนวทางที่กำหนด เมื่อมีผู้ที่ติดเชื้อขอให้บริหารจัดการในพื้นที่ทุกกรณี โดยรายงานด่วนมายังจังหวัดเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที

จากนั้นได้มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส เพื่อพิจารณาออกมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่งในวาระแรกเป็นเรื่องมาตรการของจังหวัดนราธิวาสตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 ซึ่งมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่บังคับใช้ในปัจจุบัน คือ การควบคุมตลาดและถนนคนเดิน , การให้ทุกคนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และคำสั่งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกัน

สำหรับมาตรการที่จะต้องมีการปรับปรุงคำสั่ง คือ มาตรการควบคุมแต่ละพื้นที่ โดยกำหนดมาตรการพื้นที่ควบคุมให้ตรงกับข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 20 รวมทั้งจะมีการกำหนดมาตรการในเรื่องการห้ามการดำเนินการ หรือจัดกิจกรรม หรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งยังไม่ได้กำหนดมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการกำหนดมาตรการในเรื่องการงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางให้ครอบคลุมทั้ง 18 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมทั้งการกำหนดมาตรการจัดกิจกรรมทางสังคม การดำเนินรูปแบบปฏิบัติงานที่เหมาะสม และในด้านมาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ ที่จะต้องมีข้อสั่งการเพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนราธิวาสเตรียมการในเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ ในด้านมาตรการตามประกาศของจุฬาราชมนตรี ฉบับที่ 4/2564 ลงวันที่ 12 เมษายน 2564 และมาตรการที่ออกตามข้อกำหนด ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ประชุมได้ร่วมกันหารือและนำเสนอร่วมกัน โดยจะยึดตามประกาศจุฬาราชมนตรี และให้งดการออก “ดะวะห์” และ “โยร์” ซึ่งจะมีการออกคำสั่งจังหวัดและแจ้งมาตรการในพื้นที่ให้ถือปฏิบัติต่อไป

ในด้านการกักตัวสังเกตอาการแบบ Home Quarantine จะใช้มาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น โดยให้ทุกอำเภอควบคุมดูแลตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสยังได้เน้นย้ำให้หัวหน้าส่วนราชการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้น และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดดระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

ยะลา - เบตง ยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ อ.เบตง ณ ด่าน กม 23 หลังจากที่ขณะนี้ จ.ยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ที่ด่าน กม.23 อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เข้าประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในการกำหนดเพื่อยกระดับการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ภาย หลังจังหวัดยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย อ.เมืองยะลา 2 ราย อ.เบตง 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย โดยมี ตำรวจ ฉก.ตชด.44 ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ รพ.เบตง ผอ.รพ.สต. นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล ท้องถิ่นอำเภอเบตง ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วม

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในครั้งนี้ ตนได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมบูรณาการในหมู่บ้านเพื่อดำเนินการในการ ตั้งจุดตรวจ/จุดคัดกรอง ในการการเข้า-ออกหมู่บ้านโดย ให้ทุกฝ่ายจัดเตรียมความพร้อมสถานที่กักตัวสำรองเพื่อรองรับผู้เข้าสังเกตการณ์อาการเริ่มป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมเน้นย้ำศูนย์ปฏิบัติการตำบล (ศปก.ต.) ร่วมค้นหาและคัดกรองคนในหมู่บ้านที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเชิงรุก และประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ยกระดับปฏิบัติการการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยกระดับการปฏิบัติคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเบตง ณ ด่าน กม 23

โดยสถานการณ์ COVID19 ในจังหวัด ยะลา ระลอกเดือนเมษายน 2564 " (เริ่ม 1 เม.ย. 2564 วันที่ 18 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย โดยพบในพื้นที่ อ.เมืองยะลา 2 ราย และอำเภอเบตง 1 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต  โดยที่ประชาชนทุกคน ต้องให้ความร่วมมือ สวมหน้ากากอนามัย ร้านอาหาร ยังไม่ปิด แต่ให้มีการจัดการตามรูปแบบที่เคยปฏิบัติ มีแอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่างในการเข้าใช้บริการ ปิดสถานบริการ/สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ/อาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID19 เป็นการชั่วคราวเวลา 14 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 – 23 เมษายน 2564 การจัดงานแต่งงาน ต้องจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ/จุดล้างมือ เว้นระยะห่างในการนั่ง สวมแมส ตลอดยกเว้นช่วงทานอาหาร พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจล แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย เว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น หลีกเลียงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ติดตั้งและสแกน Application "ไทยชนะ" หรือลงทะเบียนในการเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการปกป้องดูแลสุขอนามัย ของประชาชนจากการแพร่ระบาดของโรคฯ และหากผู้ใดไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกเคหสถานมีความผิดตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

เชียงราย - ผู้ป่วยโควิด เพิ่ม 17 ราย ยอดรวม 140 รายแล้ว เริ่มทยอยส่งผู้ป่วยเข้าศูนย์การแพทย์ ม.แม่ฟ้าหลวง

วันที่ 18 เม.ย.64  สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในจังหวัดเชียงราย พบว่ามีผู้ป่วยรวม 140 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 17 ราย แยกเป็น อ.เมือง 71 ราย แม่สาย 36 ราย เชียงของ 5 ราย เชียงแสน 4 ราย เทิง 4 ราย แม่สรวย 3 ราย แม่ลาว 3 ราย พาน 3 ราย แม่จัน 3 ราย เวียงป่าเป้า 2 ราย พญาเม็งราย 2 ราย ขุนตาล 2 ราย เวียงชัย 1 ราย แม่ฟ้าหลวง 1 ราย โดยเวลา 08.30 น. พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และสอบถามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่เวรที่ขึ้นปฏิบัติงานหมุนเวียนดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19  จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วยรวม (cohort ward) อาคารผู้ป่วยใน โรงพยาบาลศูนย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อตรวจความพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19

โดยในวันนี้ได้มีการประสานไปยังทางโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวน 11 ราย จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้จำนวน 200 เตียง โดยแบ่งเป็นโซนละ 7 -8 เตียง มีห้องน้ำเฉพาะโซน แยกหอผู้ป่วย หญิง ชาย โดยมีอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์เตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ป่วยทีจะเขารับการรักษา

นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณะสุขจงหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้ผู้ที่ไปตามจุดดังกล่าวที่อยู่ในไทม์ไลน์ผู้ป่วยสังเกตอาการตัวเอง โดย 1.ให้สังเกตอาการ และงดเดินทางไปในสถานที่ชุมชน โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า งานบุญประเพณี หรือสถานที่อื่นใดที่มี ลักษณะเดียวกันสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เป็นเวลา 14 วัน   2.ผู้ที่ไปสถานที่ในวันและเวลาดังกล่าวภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ใกล้บ้าน  โดยสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไป ในพื้นที่ อ.เมือง คือ

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 18.00 น. - 03.00 น. รถโดยสาาร บขส. พิษณุโลก - เชียงราย  วันที่ 6 เม.ย.64 ร้านฟ้อน วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 14.00 น.-15.55 น. บ้านสวนภูเพียง วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 16.00 น.-17.00 น. ส้มตำปูม้าเจ็ดยอด วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 19.00 น.-20.00 น.เซ็นทรัลพลาซาเชียงราย วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 18.00 น.-19.00 น.โฮมโปรเชียงราย วันที่ 9,11,12 เม.ย.64 เวลา 17.00 น. -19.00 น.กาดหลวง  วันที่ 10 เม.ย.64 00.00 น.ร้าน Super Karaoke   วันที่ 8,9 เม.ย.64 โรงแรม NAP Hotel วันที่ 7-8 เม.ย. เวลา 17.20 น.-20.20 น. ร้านตูบสิงห์ วันที่ 7-16 เม.ย.64 หอพักจีเกสเฮ้าส์ วันที่ 10 เม.ย.64 ช่วงเช้า คลินิกหมออัจฉรา วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 16.30 น.-16.50 น.ร้านชาบู 77 วันที่ 11-13 เม.ย.64 บ้านงานศพ ม.5 ต.ป่าอ้อดอนชัย วันที่ 14 เม.ย.64 20.00 น. - 21.00 น. ร้าน 7-11 ศรีทรายมูล     ในส่วนของ อ.แม่สาย   วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 15.00 น.-15.30 น. ที่ว่าการอำเภอแม่สาย  วันที่ 10 เม.ย.64 เวลา 11.00 น.-14.00 น. งานแต่งงานบ้านป่าเหมือด ซอย 5  วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. - 12.00 น. คริสตจักรบ้านถ้ำ    ส่วนของ อ.แม่จัน วันที่ 9 เม.ย.64 เวลา 14.00 น. ร้านมองดอยคาเฟ่   ส่วนของ  อ.เชียงของ  วันที่ 11-22 เม.ย.64 20.00 น.-07.30 น. รถทัวร์ กรุงเทพฯ -เชียงของ นั่งแว 9B-9C ทะเบียนรถ 96242 หากพบว่มีอาการข้างต้นให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ประจวบคิรีขันธ์ - หวาดเสียว กองทัพเรือช่วยเหลือลูกเรือประมง ถูกแทงกลางทะเล

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 เวลา 18.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับแจ้งจาก นายฉัตรชัย ดีล้วน นามเรียกขาน มดดำนาวี 152 ว่าลูกเรือประมง จ.ธีรเจริญชัย 5  (เรืออวนลากคู่) ทะเลาะวิวาทแล้วแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณ แลต 12 องศา 35 ลิปดา เหนือ ลอง 100 องศา 09 ลิปดา ตะวันออก (แบริ่ง 222 ระยะ 14.1 ไมล์ จากปากน้ำปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ จึงขอความช่วยเหลือมายัง ทัพเรือภาคที่ 1 ให้ส่งเรือไปรับผู้บาดเจ็บที่กลางทะเลกลับเข้าฝั่ง เพื่อนำส่งโรงพยาบาล

ในการนี้ พลเรือโท โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้ สั่งการให้ เรือ ต.264 ซึ่งจอดเรือเฝ้าตรวจอยู่ที่ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำปราณบุรี ออกทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังมีสติ สามารถพูดคุยได้ปกติ จึงได้ทำการกดปิดบาดแผลเพื่อห้ามเลือด และนำตัวลูกเรือประมงที่ได้รับบาดเจ็บ มาขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำปราณบุรี พร้อมประสานรถกู้ชีพ มารับตัวนำส่งยังโรงพยาบาลปราณบุรี ส่วนผู้ที่ก่อเหตุได้จับกุมตัวส่ง สภ.หัวหิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลที่ให้การช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ประสบเหตุในครั้งนี้ส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที สมกับที่เป็น  “กองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"


ภาพ/ข่าว : กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 / นิราช /นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top