Tuesday, 17 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

ชลบุรี - ร้านนวดยื่นหนังสือ ผวจ. ผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้ ผู้ประกอบการร้านนวดยื่นหนังสือต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้

ในวันนี้ 19 เม.ย.64 ที่บริเวณหน้าอาคาร ศาลากลางจังหวัดชลบุรี มีผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในสถานประกอบการ เพื่อสุขภาพ แพทย์แผนไทย (ร้านนวดสปา) ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้ อีกครั้ง

โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ พันจ่าเอก ชยพล รัตนวิสุทธิกุล ป้องกันจังหวัดชลบุรี เป็นผู้รับหนังสือกับทางตัวแทนผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ แพทย์แผนไทยฯ (ร้านนวดสปา)

นางมณีณัฏฐา พงศ์ธนฐิติ ผู้ดำเนินการสปา ร้านบุหงา นวดไทย แอนด์ สปา ตัวแทนที่มายื่นหนัง เผยว่าขณะนี้เดือดร้อนหนัก รายได้ไม่มี และหากอนุญาตให้เปิดได้ยินดีทำตามมาตรการป้องกัน โควิด-19

ภายหลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี มีคำสั่งปิดสถานบริการชั่วคราว ทำให้ผู้ประกอบการร้านนวด สปา ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการและพนักงานไม่มีรายได้ โดยอยากให้ นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พิจารณาอนุญาตให้สามารถกลับมาเปิดกิจการร้านนวดอีกครั้ง และตนไม่เข้าใจมาตรการว่าทำไมถึงต้องสั่งปิดร้านนวด ในขณะที่ร้านอาหารยังอนุญาตให้นั่งทานที่ร้านได้ แต่พนักงานร้านนวดให้บริการลูกค้าไม่เกิน 5-6 คนต่อวัน ไม่ได้แออัดเหมือนการนั่งทานอาหารในร้าน จึงอยากให้ทบทวนมาตรการอีกครั้ง

วันนี้ จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการร้านนวดกว่า 50 คน มาเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ ในจังหวัดชลบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิด ซึ่งตอนนี้รายได้เท่ากับศูนย์และตอนนี้ติดลบด้วย เพราะค่าเช่าร้านก็ยังต้องจ่ายเต็มทุกเดือน ลูกจ้างก็ต้องหยุดงาน จึงอยากวิงวอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทบทวนมาตรการอีกครั้ง หากอนุญาตให้กลับมาเปิดได้ตนยินดีที่จะทำตามมาตรการทุกอย่าง


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

สุราษฎร์ธานี - ‘ตม.สุราษฎร์ธานี’ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน

“ตม.สุราษฎร์ธานี” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.-ผบก.ตม.6” บูรณาการ “ตม.สมุทรสาคร-สืบ ตม.6-สืบภาค 8” ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน สารภาพรับขนเมียนมาจาก “หาดใหญ่” ส่งสมุทรสาคร แลกค่าหัว

19 เมษายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ร.ต.อ.สิริวัฒน์ สมหวัง รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ด.ต.พงษ์ศักดิ์ พัฒน์คง และ ด.ต.รังสรรค์ ศรีเมือง ผบ.หมู่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันสืบสวนขยายผล กรณีจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จนกระทั่งสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดไชยาออกหมายจับ Mr.Kyaw Thet OO หรือนายจอเท็ทอู ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564

ต่อมาจากการสืบสวนทราบเบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จึงได้สนธิกำลังร่วมกับ ตม.จว.สมุทรสาคร, กก.สส.บก.ตม.6 และ บก.สส.ภ.8 ร่วมกันจับกุมตัวนายจอเท็ทอู อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา ได้ภายในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 พร้อมทั้งตรวจยึดโทรศัพท์ 2 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายจอเท็ทอู รับสารภาพว่า เมื่อประมาณวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีนายโทน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง สัญชาติเมียนมา มาหาตนเพื่อว่าจ้างให้ไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปส่งยังพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จำนวน 6 คน โดยตกลงค่าจ้างรายละ 5,000 บาท ตนจึงโทร.ไปหานายเดชา หรืออ๋า ให้ไปรับคนต่างด้าวจำนวน 6 คนดังกล่าว โดยตกลงให้ค่าจ้าง รายละ 5,000 บาท จนกระทั่งมาทราบว่านายเดชา พร้อมพวก และคนต่างด้าวถูกจับกุม

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจับกุมกรณีดังกล่าวในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหา เป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการให้ที่พักพิง ช่วยเหลือคนต่างด้าวในการกระทำความผิด และแรงงานงานต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นภัยอีกรูปแบบหนึ่ง ที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยจะต้องเร่งตรวจตราจับกุมเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป หากประชนพบเห็นหรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งได้ที่สายด่วน 1178 หรือที่ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ทุกจุดทันที

ชลบุรี - ผุดไอเดีย "เปิดโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ใจกลางเมืองชลบุรี"

จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ห้องประชุมวิริยกิจจา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 สรุปได้ว่า

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จังหวัดชลบุรี โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงพิจารณาเตรียมแผนจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ใจกลางเมืองชลบุรี บริเวณชุมชนเทศบาลเมืองบ้านสวน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

โดยจะใช้อาคารหอพักของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี เป็นสถานที่กักตัวและรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ซึ่งสถานที่แห่งนี้อยู่ใจกลางชุมชน แวดล้อมไปด้วยสถานที่ราชการ เช่น โรงเรียนชลราษฎรอำรุง (โรงเรียนชลชาย) ที่มีจำนวนครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษาไม่น้อยกว่าสี่พันคน การประปาส่วนภูมิภาค เขต 1 ที่ต้องมีประชาชนเข้ามาติดต่อใช้บริการในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชลบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 สำนักงานเกษตรจังหวัดชลบุรี ทัณฑสถานหญิงชลบุรี บ้านพักธนารักษ์พื้นที่ชลบุรี ซึ่งห่างจากหอพักของศูนย์ฯ ไม่เกิน 4 เมตร จำนวน 3 ชั้น พักอาศัย 12 ครัวเรือน รวมถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่ของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนในพื้นที่ อีก 20 ครัวเรือน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประชาชนในเขตชุมชนเทศบาลเมืองบ้านสวนไม่ต่ำกว่าเจ็ดหมื่น

โดยไม่ต้องจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของคนในชุมชนแต่อย่างใด เนื่องสาธารณสุขจังหวัดขอให้มั่นใจในระบบการป้องกันโรคที่ได้มาตรฐานว่าเอาอยู่แน่นอน แต่ทั้งนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งและทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก่อนมีการจัดตั้งศูนย์หรือรพ.สนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ  หากพื้นที่ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนไม่สามารถจัดตั้ง โรงพยาบาลสนามได้  ให้จัดหาพื้นที่สำรองในการจัดตั้ง ร.พ.สนาม ให้ห่างจากชุมชน


ภาพ/ข่าว  รุ่งรัตน์ ชลบุรี รายงาน

ศรีสะเกษ – นายอำเภอ ศรีรัตนะ สั่งงดจัดงานข้าวโพดหวานภูเขาไฟและของดีศรีรัตนะ ประจำปี 64 ไม่มีกำหนด เลี่ยงโควิด-19

เมื่อวันที่ 19  เมษายน 2564  นายภัทรนันท์ บุญมานัด นายอำเภอศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อำเภอศรีรัตนะ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 143,350 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 130,343 ไร่ มีครัวเรือนทั้งหมด 9,141 ครัวเรือน ครัวเรือนทำการเกษตร 7,406 ครัวเรือน ซึ่งอำเภอศรีรัตนะ เป็นหนึ่งในกลุ่มอำเภอที่มีศักยภาพการผลิต ข้าว พืชสวน พืชไร่ โดยเฉพาะข้าวโพดหวาน เป็นพืชที่สำคัญ และปลูกในดินภูเขาไฟ มีพื้นที่ปลูกกว่า 1,300 ไร่/ปี ปริมาณผลผลิตกว่า 3,600 ตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า กว่า 16 ล้านบาท

ซึ่งในทุก ๆ ปีทางอำเภอได้มีการจัดกิจกรรมงานข้าวโพดหวานภูเขาไฟและของดีศรีรัตนะ เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์เพิ่มช่องทางตลาด เพื่อเปิดโอกาสในการพบกันโดยตรงระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตและกลุ่มผู้ซื้อสินค้าเกษตร และยังเป็นการสร้างมูลค่า เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนได้อีกทางหนึ่ง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ได้กระจายไปในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งการติดเชื้อในประเทศไทยได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้มีการบังคับใช้มาตรการและปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นพื้นที่ควบคุม

เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรคมิให้แพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง และเพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น อ.ศรีรัตนะ จึงขอแจ้งเลื่อนการจัดงานข้าวโพดหวานภูเขาไฟและของดีศรีรัตนะ ประจำปี 2564 ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ  ศรีสะเกษ

นราธิวาส - ผก.ฉก.นราธิวาส รุดลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วย และมอบนโยบาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในรอบ 6 เดือนหลัง พร้อมทั้งมอบสิ่งของบำรุงขวัญกำลังพล

พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วย และมอบนโยบาย ข้อสั่งการ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานในรอบ 6 เดือนหลัง ของหน่วยในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 10  และ ชุดควบคุมป้องกันชายแดน โดยได้รับฟังบรรยายสรุปการชี้แจงการปฎิบัติที่สำคัญที่ผ่านมา และแผนการปฏิบัติงานที่สำคัญในช่วงต่อไป พร้อมทั้งแนวความคิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของหน่วย

โดยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้มอบนโยบาย ข้อสั่งการ สอบถามข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน  เน้นย้ำผู้บังคับหน่วยต้องคำนึงถึงเรื่องสวัสดิการ สิทธิกำลังพล เป็นสำคัญ โดยการปฏิบัติงานของชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ต้องอยู่ในความไม่ประมาท ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ พร้อมทั้งมอบแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน การสังเกตุการณ์ และการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่  พร้อมกำชับให้กำลังพลปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID19 อย่างเคร่งครัด  และที่สำคัญต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้พบปะ ให้โอวาทกำลังพล โดยเน้นย้ำกำลังพล ถึงบทบาทหน้าที่ ความสำคัญ ของการเป็นทหาร ต้องเสียสละ อดทน ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด รักษาความปลอดภัยในพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยฝากความห่วงใยแก่กำลังพล ให้ดูแลตนเองและเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID19 อย่างใกล้ชิด ตลอดจนมอบสิ่งของบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติงานให้แก่กำลังพลต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

เพจ KKU GROUP มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ออกมาชี้แจงผ่านเพจดังกล่าว จากกรณีการเลิกจ้าง นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ นักวิชาการชาวอเมริกัน โดยระบุว่า...

สืบเนื่องจากจากกรณีไทยสั่งระงับวีซ่า 'เดวิด สเตร็คฟัสส์' นักวิชาการชาวอเมริกัน อดีต ผอ.โครงการ CIEE ขอนแก่น ผู้ดูแล 'The Isaan Record' ที่ฝังตัวทำงานในไทยกว่า 35 ปี และเป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิชาการต่างชาติที่เคลื่อนไหวต่อต้าน ม.112 และ วิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯของไทย มาโดยตลอดนั้น

ล่าสุด เพจ KKU GROUP มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ได้ออกมาชี้แจงผ่านเพจดังกล่าว จากกรณีการเลิกจ้าง นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ (Mr.David Streckfuss) นักวิชาการชาวอเมริกัน โดยระบุว่า...

ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อจากเมื่อวาน หลังจากได้ข้อมูลจากคณบดีและฝ่ายการต่างประเทศของ มข. ดังนี้ครับ

1.) โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา CIEE เป็นหน่วยงานภายนอก มข. มีความร่วมมือกับ มข.ในเรื่องการแลกเปลี่ยนนักศึกษาต่างประเทศ โดยไม่เคยมีสัญญาจ้าง

2.) มีการยกเลิกโครงการ CIEE เมื่อปีที่แล้ว (มข. ไม่ได้เป็นผู้ยกเลิก)

3.) หลังจากโครงการ CIEE ถูกยกเลิก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มข.ได้มีสัญญาจ้าง 1 ปี โดยไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนเพื่อให้ดำเนินการสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนนักศึกษาต่างประเทศกับหลาย ๆ ประเทศตามที่เจ้าตัวเสนอ เริ่มสัญญาจ้างเมื่อเดือน ส.ค.2563

4.) เดือน ก.พ.2564 ทางคณะฯ เห็นว่าไม่มีความก้าวหน้าในงานที่ได้ตกลงกันไว้ จึงแจ้งเจ้าตัวขอยกเลิกสัญญา

และ 5.) ไม่เคยมีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐใดใด มาพบหรือมากดดันอธิการบดีและคณบดี จึงเรียนข้อมูลให้ทุกท่านรับทราบ


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/99761

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=801780967427399&id=336295587309275

กรุงเทพฯ - "รมว.สุชาติ" นำทีมเช็คความพร้อมสถานที่ตรวจโควิด-19 เชิงรุกผู้ประกันตน ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนฯ (ไทย – ญี่ปุ่น) ดินแดง กทม.

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ลงพื้นที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบความพร้อม ของสถานที่สำหรับเปิดใช้เป็นช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด-19 เชิงรุกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 ,39 และ 40 ที่อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวก ในวันเสาร์ที่ 17 เมษายนนี้

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการตรวจความพร้อม ของสถานที่เพื่อสำหรับเปิดใช้เป็นช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด-19 ในวันเสาร์ที่ 17 เมษายนนี้ เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19

โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และคณะผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยนายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยผู้ประกันตนจากกรณีการแพร่ระบาด ของโควิด -19 จึงกำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และ สปสช.เป็นการเพิ่มช่องทางหรือทางเลือกหนึ่งเพื่อบริการผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ลดความแออัดหรือรอคิวนาน ในวันนี้ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจความพร้อมของสถานที่ที่จะเปิดใช้เป็นช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด-19 เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยจะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.64)

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ซึ่งผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้หารือกำหนดแนวทางที่จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยจะเปิดให้ผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจสามารถลงทะเบียนจองคิวตรวจผ่านระบบแอพพลิเคชั่นออนไลน์ สำหรับผู้ประกันตนที่จะได้เข้าตรวจคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนรายใดตรวจพบเชื้อโควิด-19 จะต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่าย ในสังกัดสำนักงานประกันสังคม โดยจะได้รับการรักษาฟรี ซึ่งมีอยู่จำนวน 81 แห่ง ที่มีความพร้อม มีเตียงรองรับกว่า 1,000 เตียง มี HQ 200 กว่าเตียง

สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อจองคิวตรวจของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39, และ 40 สามารถเข้าเว็บไซต์ https://www.google.com แล้วพิมพ์คำว่า แรงงานเราสู้ด้วยกัน แล้วคลิกที่เว็บไซต์ https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php จากนั้นผู้ประกันตน กรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือเลขพาสปอร์ต กรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นบุคคลที่มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วย ซึ่งเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์มาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.64) เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โดยแต่ละวันสามารถตรวจได้วันละ 3,000 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 1,500 คน ช่วงบ่าย 1,500 คน ทั้งนี้ ผู้ประกันตนจะต้องพกบัตรประชาชน พร้อมสำเนา 1 ชุด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจด้วย หากผู้ประกันตนรายใดลงทะเบียนแล้วไม่มาตรวจตามนัดจะต้องลงทะเบียนใหม่ และเมื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด -19 เรียบร้อยแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที เนื่องจาก ผลการตรวจจะส่งทาง SMS ให้ผู้ประกันตนทราบตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้

“ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช.กำหนด สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php เพื่อจองคิวตรวจโควิด-19 ซึ่งช่องทางดังกล่าวกระทรวงแรงงาน ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และ สปสช.เพื่ออำนวยความสะดวก ลดความแออัดและเพิ่มช่องทางให้กับผู้ประกันตน ได้เข้าถึงการตรวจโควิด -19 ซึ่งหากพบเชื้อสามารถเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดได้อย่างทันท่วงที” รมว.สุชาติ กล่าวในตอนท้าย

19 จังหวัด - มูลนิธิมาดามแป้ง เริ่มเปิด “ครัวมาดาม” ส่งข้าวกล่องแทนกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ 19 แห่งทั่วประเทศ

มูลนิธิมาดามแป้ง ชวนแฟนบอลไทย ส่งกำลังใจ ร่วมเปิดครัวมาดาม ปรุงอาหารจากครัวชุมชน ส่งไปยังโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลสนาม เริ่มต้น 19 แห่ง เพื่อมอบกำลังใจและตอบแทนน้ำใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ หลังวิกฤตโควิด-19 ทวีความรุนแรงอีกครั้ง

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนักทุกจังหวัด จนมีแนวโน้มเข้าขั้นวิกฤตระลอก 3 ของประเทศ “มูลนิธิมาดามแป้ง” โดยมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิ และประธานสโมสรการท่าเรือ จึงออกมาชวนแฟนบอลไทย สานต่อโครงการครัวมาดาม ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักทั้งสองครั้งที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ ร่วมกับอาสากล้าใหม่ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศออกตั้งโรงครัว ตั้งเป้าส่งข้าวกล่องให้ได้ 28,500 กล่องตลอดเดือนเมษายนนี้ โดยเริ่มต้นแล้วในโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลสนาม 19 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ, อยุธยา, ปทุมธานี, นครปฐม, นครราชสีมา ขอนแก่น, สระแก้ว, เชียงใหม่, ภูเก็ต, สงขลา, นราธิวาส, สุพรรณบุรี, นครสวรรค์ และชลบุรี

ด้าน มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง และประธานสโมสรการท่าเรือ ได้กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ผ่านครัวมาดามว่า “แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในรอบนี้จะหนักหนา นับเป็นวิกฤตที่อยู่กับเราอย่างยาวนาน และสร้างความยากลำบากให้กับทุกคน โดยเฉพาะคนในวงการกีฬาหลายคนก็ได้รับผลกระทบ ครัวมาดามกลับมาเสมอในยามเกิดภัย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาคนในสังคมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ซึ่งต้องขอขอบคุณอาสากล้าใหม่ในชุมชนต่าง ๆ ที่ร่วมกันตั้งครัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ครัวมาดามไปได้เร็วเท่าทันช่วงเวลาที่ยากลำบากในหน้างานทั้ง 19 แห่งทั่วประเทศ”

“สุดท้ายแล้ว ด้วยพลังความร่วมแรงร่วมใจของพวกเราคนไทย จะช่วยให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน แป้งขอเป็นหนึ่งกำลังใจเล็ก ๆ ให้กับทีมคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่กำลังทำงานอย่างหนักช่วยเราคนไทยให้ผ่านความยากลำบากนี้ในเร็ววันนะคะ” นางนวลพรรณ กล่าวปิดท้าย

สำหรับครัวมาดามครั้งนี้ มูลนิธิมาดามแป้ง ยังเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อกำลังใจนี้ ด้วยการร่วมบริจาคสมทบทุนข้าวกล่อง กล่องละ 50 บาท เลขบัญชี 092-2-61340-0 ธ.กสิกรไทย ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ เพื่อเติมพลังให้บุคลากรด่านหน้าทั่วประเทศ และกระจายกำลังใจนี้ออกไปให้ไกลที่สุด

ลำพูน - โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของจังหวัดลำพูน ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน สามารถรองรับผู้ป่วย COVID19 ได้จำนวน 100 เตียง

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 เวลา 13:30 นาฬิกา กองพลทหารราบที่ 7 โดย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ และ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้า จัดกำลัง หน่วยละ 1 ชุดปฏิบัติการ (ชป.ๆ ละ 10 นาย) รวม 20 นาย ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดลำพูน (ศปก.จ.ลพ.) , สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) สังกัด ร้อย บก.บร. บก.อส.จ.ลพ. , องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน (อบจ.ลำพูน) ,  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน , ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน และ โรงพยาบาลลำพูน ดำเนินการจัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม เพิ่มเติมเป็นแห่งที่ 2 ของ จังหวัดลำพูน ณ อาคารหอประชุม อบจ.ลำพูน บ้านน้ำบ่อเหลือง หมู่ที่ 15 ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โดยได้รับเตียงสนาม (แบบกล่องกระดาษ) จำนวน 100 ชุดจากภาคเอกชน

โดยได้ดำเนินการประกอบจนแล้วเสร็จ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ จังหวัดลำพูน โดยสถานการณ์เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จำนวน 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมมีจำนวน จำนวน 141 ราย โรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 1 (โรงพยาบาลลำพูนสาขาเวียงยอง) ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้หมด

ทั้งนี้ จังหวัดลำพูน ได้รับการสนับสนุนเตียงสนาม แบบกระดาษ จากบริษัท SCG Packaging จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 100 ชุด เพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม (CSR)


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

นครนายก – แปลก ! พบใบโพธิ์ใบใหญ่มีความกว้าง 22 ซ.ม. ยาว 35 ซ.ม.ที่หาดูได้ยาก

แปลกแต่จริงพบใบโพธิ์ใบใหญ่ที่มีความกว้าง 22 เซนติเมตรมีความยาว 35 เซนติเมตรที่หาดูได้ยากในประเทศไทย ที่วัดวังตูม ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก พระครูอรรถวาที เจ้าอาวาสวัดวังตูม ได้โพสต์คลิปการตัดใบโพธิ์ของที่วัดวังตูม ที่มีความใหญ่กว่าใบโพธิ์ทั่วไปซึ่งมีความยาว 35 เซนติเมตรและมีความกว้าง 22 เซนติเมตร ถือว่าเป็นใบโพธิ์มีใบใหญ่ที่หาดูพบได้ยาก ซึ่งมีลำต้นขนาด 5 คนโอบอยู่ภายในวัดวังตูมจังหวัดนครนายก มีอายุ 118 ปี พ.ศ.2446-พ.ศ.2564 ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อพระครูอรรถวาที เจ้าอาวาสวัดวังตูม ได้พาไปดูที่ต้นโพธิ์ที่อยู่ในบริเวณวัดและได้นำใบโพธิ์ที่ได้ตัดแล้วใส่พานมาว่างที่ต้นโพธิ์ให้ผู้สื่อข่าวชมและใช้ไม้บรรทัดวัดขนาดของใบโพธิ์ ซึ่งมีความยาวความกว้างใกล้เคียงกับใบโพธิ์เมื่อปี2563 ที่หลวงพ่อได้นำมาใส่กรอบรูปไว้

จากการสัมภาษณ์พระครูอรรถวาที่ เจ้าอาวาสวัดวังตูม ได้เล่าว่าหลวงพ่อได้พบใบโพธิ์ต้นนี้ที่มีความใหญ่เมื่อปีพ.ศ. 2563 ได้คัดตัดใบที่ใหญ่ที่สุดในต้นนี้ได้ทั้งหมด 59 ใบและในปีพ.ศ. 2564 คือปีนี้เพิ่งคัดตัดใบโพธิ์ที่ใหญ่เมื่อวานนี้ ได้ใบโพธิ์ใบใหญ่จำนวน 19 ใบนำมาเก็บไว้เพื่อใส่กรอบรูปไว้บูชาดังกล่าว


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่ / ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top