Friday, 20 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

ระยอง - นายกช้าง รณรงค์ให้ชาวระยองฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หากเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน จ่ายทันที 500,000 บาท

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2564 ที่ห้องประชุมชั้น 3  อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง เปิดแถลงข่าวรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนชาว จ.ระยอง ไปรับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ทุกคน เพื่อให้ จ.ระยอง เป็นจังหวัดที่ปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด-19
นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง กล่าวว่า หลังจากที่ตนติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 เม.ย.64 ที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 1 เข็ม จึงทำให้อาการทั่วไปไม่รุนแรง เชื้อไม่ลงปอด ล่าสุดหายเป็นปกติแล้ว ซึ่งตนได้เล็งเห็นถึงประโยนช์ของการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ดังกล่าว จึงควรให้ประชาชนชาว จ.ระยอง เข้ารับการฉีดวัคซีนกันทุกคน เพื่อทุกคนจะได้ปลอดภัยจากโควิด-19 เพราะการฉีดวัคซีนมีประโยชน์กว่าไม่ฉีด และไม่ต้องไปกลัวว่าจะได้รับอันตรายจากการฉีด เพราะ ทางภาครัฐก็มีประกันให้ หากใครเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนมีการจ่ายเงินช่วยเหลือ จำนวน 400,000 บาท โดยตนจะควักเงินส่วนตัวจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มให้อีก โดยทางตนได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อการฉีดวัคซีน จึงได้เสนอจ่ายเงินส่วนตัวจากผลกระทบต่อการฉีดวัคซีน 


โดยฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต หรือพิการถาวร ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน จ.ระยอง ที่ทะเบียนบ้านอยู่ในระยอง จ่าย 400,000 บาท  ประชาชนที่มีทะเบียนบ้านและเป็นชาวระยองโดยกำเนิด จ่ายเพิ่มให้ 100,000 บาท เป็น 500,000 บาท ฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการพิการหรือสูญเสียอวัยวะทางร่างกาย จ่าย 240,000 บาท เป็นประชาชนที่มีทะเบียนบ้านเป็นชาวจ.ระยองโดยกำเนิด จ่าย 340,000 บาท บาดเจ็บจากการฉีดวัคซีน ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใน จ.ระยอง จ่าย 100,000 บาท สำหรับประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ใน จ.ระยอง จ่าย 200,000 บาท ส่วนประชาชนที่ไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ใน จ.ระยอง จะตรวจสอบหลักฐานจากบัตรประกันสังคม และบัตรพนักงานแต่ก็จะต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดว่าอาศัยอยู่ใน จ.ระยอง จริง และมีเงื่อนไขว่าต้องฉีดวัคซีนกับโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น ขอเชิญให้ชาวระยอง ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิดทุกคน หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อได้ที่ อบจ.ระยอง


ภาพ/ข่าว  วฐิต กลางนอก / ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน 
 

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ บริจาคโลหิตฝ่าวิกฤตโควิด-19 เนื่องในวันอาภากร

พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในการจัดกิจกรรม กองเรือยุทธการ บริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2564 มีคุณสุนันท์  สมานรักษ์ ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ พร้อมคณะร่วมกิจกรรมฯ และร่วมมอบของ เพื่อให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ของกองทัพเรือ ให้มีพลังร่วมกันฝ่าวิกฤตชาติ COVID-19 ณ ห้องคลังเลือด โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี   

จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทั่วประเทศ ทำให้ปริมาณโลหิตสำรองขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของกองทัพเรือ และเป็นศูนย์รับบริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ที่รองรับผู้ป่วยในพื้นที่ จ.ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เข้าสู่ภาวะของการขาดโลหิตอย่างหนัก จนกระทั่งปัจจุบันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ระรอกที่ 3 ก็ยังคงอยู่ในสภาวะวิกฤตของการขาดโลหิต กองเรือยุทธการ จึงได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนกำลังพลร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตในครั้งนี้

โดยจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตฯ ขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 18 พ.ค.64 มีกำลังพลของกองเรือยุทธการ ที่มีความตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 149 นาย นับเป็นโลหิต จำนวน 149 ยูนิต หรือประมาณ 67,050 ซีซี

ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ที่ตั้งไว้ว่า กองเรือยุทธการต้องร่วมแรงร่วมใจในการร่วมแก้วิกฤตของชาติ จาก COVID-19 อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งกิจกรรมหนึ่งคือการบริจาคโลหิต โดยได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากวันที่ 8 ก.พ.64 ร่วมกับกาชาดจังหวัดชลบุรี และจะดำเนินการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตเป็นระยะไปจนถึง วันที่ 30 ก.ค.64 หรือจนกว่าสถานการณ์การขาดโลหิตจะบรรเทา สอดคล้องกับนโยบายของกองทัพเรือ ในการร่วมแก้ปัญหาการขาดแคลนโลหิตในภาพรวมของประเทศ อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สุโขทัย - ทหารลุยสวนส้มแม่สิน อุดหนุนผลผลิต หลังจากพิษโควิดระบาด ราคาตกฮวบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.เสมอ แจ่มใส ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ ที่ 4มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารในสังกัด ร่วมกับ พ.อ.หญิง คชาภา หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผนฯ กอ.รมน จังหวัดสุโขทัย พ.ท.คะเนตร รักวุ่น รองหัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผนฯ กอ.รมน จังหวัดสุโขทัย พร้อมให้ เจ้าหน้าที่ทหารร่วมลงพื้นที่สวนส้มเขียวหวานที่ หมู่ 1 ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย  ซึ่งเป็นของนายกิตติชัย พองาน  อายุ 28 ปี เพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตามที่ นายจักราวุธ ยาน้อย ได้ลงเฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือเรื่องส้มเขียวหวาน ผลผลิตออกจำหน่ายไม่ได้ทำให้ราคาดิ่งลงมามากเมื่อเทียบกับทุก ๆ ปี หากเก็บใว้ก็ไม่ได้เพราะส้มเขียวหวานถึงอายุเก็บผลผลิตแล้วถ้าไม่เก็บจะทำให้ผลส้มนั้นเกิดความเสียหาย   


จากการสอบถามนายกิตติชัย พองาม เจ้าของสวนให้การว่า ผลผลิตส้มเขียวหวานนั้นขายไม่ได้เนื่องจากพิษโควิด-19 แม่ค้าส่วนมากจะรับซื้อแต่ส้มที่ลูกเล็กส่วนลูกใหญ่จะขายไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการจำหน่ายดังกล่าว จึงขอฝากพี่น้องที่ได้ดูข่าวนี้แล้วมาช่วยซื้อส้มเขียวหวานตนเองเบอร์ใหญ่สุดขายเพียงกิโลละ 18 บาทเท่านั้น และในวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้ช่วยซื้อส้มเขียวหวานจำนวน 200 กก. เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับกำลังพล และพลทหารกองประจำการ

ทางด้าน นายจักราวุธ ยาน้อย ตัวแทนชาวสวนที่นำเรื่องราวไปลงในเฟซบุ๊ก บอกถึงสาเหตุว่า ซึ่งปัจจุุบันในการจำหน่ายสู่ท้องตลาดหรือการรับชื้อของพ่อค้าคนกลางนั้นลดน้อยลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโควิด-19 ที่กระจ่ายอยู่ทุกพื้นที่ ส่งผลให้พ่อค้าที่จะเดินทางมารับซื้อนั้นเดินทางเข้ามาในพื้นที่อยากลำบาก ประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศมีพายุฝน ทำให้ผลผลิตเสียหาย  ชาวสวนต้องเร่งเก็บผลผลิตส้มเพื่อจำหน่ายในราคาที่ต่ำก่อนที่จะได้รับผลกระทบเสียหายมากกว่านี้  
ในวันนี้ตนเองและชาวสวนส้มเขียวหวานหมู่ 1 ตำบลแม่สิน รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีทหารลงมาช่วยดูเรื่องปัญหาและช่วยซื้อส้มเขียวหวาน และหวังว่าจะได้รับการแก้ไขในเร็ว ๆ นี้



ภาพ/ข่าว  พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย
 

ปะทะเดือด !! ล่าพรานป่าไหวตัวหลบหนีทัน คาดชำนาญพื้นที่ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ยึดปืนลูกซอง และซากสัตว์ป่า อ.บ้านไร่

วันที่ 16 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ( Smart Patrol) ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่12(นครสวรรค์) ได้รับรายงานจากสายข่าวแจ้งมาว่า จะมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจะเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ท้องที่ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่วางแผนโดยได้ลาดตระเวนไปเฝ้าระวังในพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งมา

จนเวลา 20.30 น. ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ห่างจากจุดพักแรมระยะประมาณ 400 เมตร​ เช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนชุดดังกล่าว ได้เข้าตรวจสอบ ณ จุดที่ได้เสียงปืน พบรอยเท้าคนเป็นรอยใหม่ 1 รอย​ จึงทำการค้นหา​ จนเวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบชายต้องสงสัยไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 คน อยู่​บริเวณโป่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น แต่ชายต้องสงสัยไม่ยอม และได้หันปากกระบอกปืนมาหาเจ้าหน้าที่ และยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ จำนวน 1 นัด

เจ้าหน้าที่ได้เข้าที่กำบังและยิงอาวุธปืนตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ อย่างละเอียด ไม่พบชายต้องสงสัยทั้ง 2 คน ดังกล่าว คาดว่าอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป จากนั้นได้ร่วมกันตรวจสอบสถานเกิดเหตุโดยรอบ พบของกลางในที่เกิดเหตุ หลายรายการ ดังนี้

1.อาวุธปืนลูกซองเดี่ยว ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก2.เครื่องกระสุนลูกซอง จำนวน 4 นัด3.เป้สนาม 2 ใบ 4.เปลสนาม 2 ผืน5.ผ้ายางกันฝน 1 ผืน6.ไฟฉายคาดศีรษะ 3 อัน7.มีด 2 เล่ม8.ซากหมูป่า 1 ซาก 9 ซาก ลิงกัง 2 ซาก 10 ซาก อีเห็น 1 ซาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกตรวจยึดและนำของกลางส่งสถานีตำรวจภูธรบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี ศรีอนันต์ รายงาน

เชียงราย - โควิด-19 ลามเกาะคาสิโนคิงส์โรมัน เกือบ 300 คน ในเขตชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ

คิงส์โรมันเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เกือบ 300 คน หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จีนส่งทีมแพทย์ฉีดชิโนฟาร์ม ให้กับพนักงานควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมทั้งขอความร่วมชาวประมงไทยงดทำการประมงเส้นเขตแดน

วันที่ 17 พ.ค. 64 พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในโครงการคิงส์โรมัน ที่อยู่ในเขตเศรษฐพิเศษสามเหลี่ยมคำ แขวงบอแก้ว สปป.ลาว ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบว่าตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรวมจำนวน 284 ราย เป็นคนจีน 81 คน ลาว 138 คน เมียนมา 33 คน และไทย 7 คน โดยล่าสุดได้มีทางสาธารณสุขจากประเทศจีนเดินทางไปแก้ไขการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำแล้ว ขณะที่ทาง จ.เชียงราย ได้ประสานไปยังเขตดังกล่าวเพื่อขอรับคนไทยข้ามกลับมาแล้ว

เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำได้มีการประกาศปิดการเข้าออก หรือล็อคดาวน์เขตระหว่างวันที่ 6-20 พ.ค.64 โดยมีการระดมฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มจากประเทศจีนให้กับพนักงาน  แล้วจำนวน 223 คน  และได้มีประกาศจากแขวงบ่อแก้วให้ล็อคดาวน์เมืองและหมู่บ้านทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ทั้ง 5 เมืองของแขวงบ่อแก้ว โดยได้ขอความร่วมมือมายังพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย ที่ติดกับแม่น้ำโขง ให้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านงดการทำประมงในแม่น้ำโขงที่เป็นเส้นเขตแดนเพื่อป้องกันกลุ่มคนปะปนไปกับชาวประมงลักลอบเข้าหนีเข้าเมืองได้


ภาพ/ข่าว  วัตร ลาพิงค์ / หมายเหตุภาพจาก คาสิโนคิงส์โรมัน

ตราด - หนุ่มตังเก เจ็บ 5 เสียชีวิต 1 ขณะกำลังช่วยกันโกยปลา น๊อคแก๊สไข่เน่าในท้องเรือ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16 นาฬิกาเศษ วันที่ 16 พค. 64 สมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอำเภอคลองใหญ่ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเรือประมงชื่อศักดิ์มงคลชัย 5 สาเหตุ น๊อคแก๊สไข่เน่าในท้องเรือ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดจำนวน 6 คน หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ไปถึงที่เกิดเหตุสะพานท่าเทียบเรือชลาลัย ม.5 บ้านคลองสน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด  ในเรือประมงลำดังกล่าวที่จอดเทียบสะพานอยู่ พบลูกเรือจำนวนมากกำลังช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจากห้องดองปลาใต้ท้องเรือ จึงรีบช่วยปฐมพยาบาล พบว่าเป็นแรงงานประมงทั้งหมด 6 คน โดยเป็นแรงงานพม่า 5 คน แรงงานไทย 1 คน ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหมดสติ จำนวน 1 คน พยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถช่วยได้ ชีพจรหยุดเต้นไม่สามารถกู้ได้ จึงรีบนำส่งรพ.คลองใหญ่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย มีอาการสาหัส 1 ราย และอาการไม่สาหัสอีก 4 ราย จึงนำทั้งหมดส่งต่อมายังรพ.ตราด ขณะนี้ผู้อาการหนักยังอยู่ในขั้นโคม่า ส่วนอีก 4 รายอาการดีขึ้นบ้าง ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นายระ ไม่ทราบนามสกุล เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์

นายเชษฐ อ่อนเนียม อายุ 62 ปี 221 ม.4 ต.บางหญ้าแพร จ.สมุทสาคร  เป็นลูกเรือลำดังล่าวเล่าให้ฟังว่า เรือลำดังกล่าวมาจากมหาชัย มาจับปลาทะเลตราด เป็นเรือไดปลาประเภทปลาไก่ (ปลาเล็กปลาน้อยหลาย ๆ ชนิดผสมกัน) ออกจับปลา 3 วันเข้าเทียบท่า 1 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุไปจับปลาครบ 3 วันจึงนำเรือมาเทียบท่า และให้แรงงาน 6 คน ลงไปทำหน้าที่โกยปลาไก่ ที่หมักดองเกลือมา 3 วันขึ้นชั่งขาย แต่ขณะกำลังช่วยกันโกยปลา แรงงานทั้งหมดเดอาการหมดสติ หายใจไม่ออกเพราะสูดดมแก๊สจากการดองปลาเข้าไป จึงให้ลูกเรือที่เหลือช่วยกันนำขึ้นมาข้างบน และแจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าในห้องดองปลาคงจะมีอากาศอยู่น้อย ประกอบกับแก๊สจากการดองปลามีมาก ทำให้ลูกเรือทั้งหมดที่ลงไปสูดแก๊สเข้าไปจนหมดสติ และเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งลูกเรือที่ส่งไปรพ.ตราดคาดว่าน่าจะเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ขณะนี้แพทย์อยู่ระหว่างการช่วยชีวิตอยู่ ส่วนที่เหลืออีก 4 คน น่าจะปลอดภัย


ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าว จ.ตราด

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่ด่านชุมชนอ่าวน้อยปูพรม ค้นหา 20 พม่าเถื่อนหลบหนีเข้าเมือง

วันที่ 17 พฤษภาคม นางลั่นทม งุ่ยไก่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ. เจ้าหน้าที่ อสม. ด่านตรวจเขาดิน ใกล้ชายแดนไทย –พม่า ควบคุมตัวนายจอนาอู อายุ 36 ปี ชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองพร้อมกระเป๋าสัมภาระ พบว่าอยู่ในสภาพอิดโรย สอบถามเบื้องต้นนายจอนาอูอ้างว่า ก่อนหน้านี้มาจากเมืองย่างกุ้ง ได้เดินเท้าพร้อมกับเพื่อนชาวพม่าอีก 20 คน จากบ้านมูด่อง ประเทศพม่า ผ่านช่องทางธรรมชาติที่ช่องตะแบกพื้นที่หมู่ 9 ต.อ่าวน้อย เพื่อไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร โดยจ่ายค่านายหน้าให้นายทุนชาวพม่าคนละ 10,000 บาท แต่ขณะเดินไปจุดนัดหมายได้พลัดหลงกับเพื่อน ซึ่งรอรถนายทุนมารับในฝั่งไทยนาน 3 วัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำไม่พอกับการยังชีพ

จากนั้นได้รายงานให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกทราบ เพื่อสนธิกำลังร่วมกับ ตชด.146 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ออกปูพรมค้นหาแรงงานพม่าที่หลบหนีเข้าเมือง โดยเฉพาะในสวนยางพาราที่มีคนงานชาวพม่าซึ่งอาจให้ที่พักพิง พร้อมตั้งด่านสกัดบนถนนสายรองภายในหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อสังเกตรถต้องสงสัย พร้อมตรวจสอบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกราย เนื่องจากเคยมีเบาะแสชาวพม่าลักลอบขนแรงงานเถื่อนในลักษณะกองทัพมด รวมทั้งการตรวจสอบรถยนต์ของทางราชการ และรถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานที่ใช้เส้นทางผ่านด่าน

มีรายงานว่า สำหรับ กรณีเจ้าหน้าที่หน้าที่หลายหน่วยสนธิกำลังควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 50 คน ลักลอบเดินเท้าหลบหนีเข้าเมืองบริเวณ ช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องวังเป้า หมู่ 12 บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่เกิดเหตุใกล้แนวสันเขา เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปกักตัว 14 วัน ที่สถานกักกันที่กองร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามโทรศัพท์มือถือจำนวน 31 เครื่องของชาวพม่าที่สูญหายทั้งหมดขณะควบคุมตัว ทำให้หน่วยงานระดับจังหวัดสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ล่าสุดผู้นำท้องที่หมู่ 12 ต.อ่าวน้อย พบโทรศัพท์มือถือ 12 เครื่องบางส่วนบรรจุในถุง และถูกทิ้งกระจัดกระจายใกล้กับจุดควบคุมตัวแรงงานเถื่อนที่หุบตาเสริฐ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาโทรศัพท์มือถืออีก 9 เครื่องที่สูญหาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สงขลา – ชาวอำเภอนาทวี แห่ฉีดวัคซีนที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี หลังเกจิดังภาคใต้ และผอ.รพ.เชิญชวน ส่วนเจ้าคณะอำเภอสะเดา ยืนยันฉีดแล้วไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น

วันนี้ 17 พฤษภาคม 2564 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ได้มีประชาชนชาวอำเภอนาทวีประมาณ 400 คน เดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนชิโนแวค หลังจาก ที่ พระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี/รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา หรือเกจิดังภาคใต้ พร้อมด้วยนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี ก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญชวนชาวอำเภอนาทวี ให้มาลงทะเบียนและรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 กัน และในวันนี้จึงมีประชาชนชาวอำเภอนาทวีแห่กันมาที่ รพ.ฯเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนชิโนแวคเพื่อป้องกันเชื้อโควิด 19 กัน โดยทาง รพ.ฯจะมีขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อการตรวจ และสอบประวัติผู้เข้ามารับการฉีดวัคซีน อย่างพร้อมเพียง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เข้ามารับการฉีดวัคซีนชิโนแวคในครั้งนี้

ครูบัณฑิตธรรมาลังการ (ประสิทธิ์ ปณฺฑิโต) เจ้าอาวาส วัดยางทอง – เจ้าคณะอำเภอสะเดา กล่าวว่า เจริญพร อาตมาได้มีโอกาสได้ไปฉีดวัคซีนโควิดชิโนแวค เมื่อวันที่ 5 เมษายน เป็นเข็มที่ 1 แล้วก็วันที่ 25 เมษายน เข็มที่ 2 ครบ อาการหลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนนั้น ก็จะทำให้มีความเชื่อมั่นในเรื่องของการติดต่อเชื้อโรค จะได้ไปไหนมาไหนก็จะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในส่วนอาการนั้นก็ไม่ได้พบว่าจะมีอาการใด ๆ เกิดขึ้น จากที่บรรดาท่านทั้งหลายนั้นได้เสพข่าวไม่ว่าในทางทวีก็ดี ทางด้านหนังสือพิมพ์หรือในกลุ่มไลน์ เฟสบุ๊คอะไรต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งสื่อส่วนใหญ่นั้นก็บางครั้งก็อาจจะลงไปผิดพลาดทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ แต่หลังจากที่อาตมาฉีด 2 เข็มผ่านไป ซึ่งถือว่าฉีดอยู่ในล็อตแรก ๆ ของส่วนภูมิภาคที่ทางรัฐบาลได้แจกจ่ายให้ส่วนภูมิภาคต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้พบอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการผื่นคันก็ดีหรืออาการแพ้ยา หรือจะอะไรก็ตามที่บรรดาท่านทั้งหลายมีความวิตกกังวน ว่าเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะมีอาการใกล้เคียงอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งรับว่าไม่เป็นความจริง เพราะฉนั้นก็ขอเชิญชวนบรรดาพระภิกษุซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เนื่องจากว่าต้องติดต่อกับบรรดาญาติโยมตามสถานที่ต่าง ๆ ก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงกลุ่มหนึ่ง จึงขอนิมนต์เชิญชวนเพื่อไปลงทะเบียนแล้วก็ฉีดให้ครบ ไม่ฉะนั้นถ้าแม้ว่าเรายังฉีดกันไม่ทั่ว ก็จะเป็นผลทำให้เกิดโรคติดต่อที่กำลังรุมเร้าอยู่ในยุคปัจจุบัน แล้วก็ฝากว่าเราอย่าพึ่งไปเชื่อข่าวเสพข่าวจนเกินไป แล้วก็อย่าไปวิตกกังวนเป็นโรคตาขาวนั้นก็คือมีความกลัว ว่าจะติดเชื้อให้เราคิดว่าการฉีดวัคซีนนั้นเป็นการป้องกันการติด ไม่ได้ป้องกันการตาย เพราะฉนั้นบางท่านนั้นจะกลัววัคซีนโควิดมากกว่ากลัวเชื้อที่จะมาติดกับตัวตน จึงอยากที่จะเชิญชวนท่านทั้งหลายให้ไปลงทะเบียนและก็ไปฉีดวัคซีนตามระบบไม่มีอาการใกล้เคียงใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเจริญพร

ทางด้านพระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี และ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา หรือเกจิดังภาคใต้ กล่าวว่า วันนี้ก็มีญาติโยมพุทธบริษัทเข้ามารับวัคซีนกันมาก วันนี้มีเข็ม 2 เยอะ เช่นอำเภอนาทวี ก็เยอะ ดั่งนั้นก็ขอเชิญญาติโยมพี่น้องพุทธบริษัทที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรับวัคซีนก็ขอเชิญมาเพื่อปกป้องร่างกายตนเอง วัคซีนแต่ละตัวดีหมด ที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เราฉีดในปัจจุบันนี้เอง อย่าเที่ยวรอโยม เมื่อคืนวาน เมื่อคืน อาตมาภาคได้ไปหาพระเพื่อนที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คือวัดหาดใหญ่ใน ก็นั่งๆอยู่ก็เห็นมีศพเข้ามา ศพเข้ามาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่วัดก็ไม่มีอะไร แต่พอเข้ามาแล้วเห็นคนนั่งศาลาวิ่งกันหมด เขาบอกว่าเป็นศพที่เสียชีวิตจากโรคโควิด ก็เลยเห็นแล้วสงสาร เมื่อคืนมี 2 ศพด้วยกัน ก็อยากคิดว่าเรายังมีชีวิตอยู่ เรายังดำเนินชีวิตของเราได้อยู่ สงสารครอบครัวสงสารตัวเองก็อยากขอเชิญญาติโยมพี่น้องพุทธบริษัททุกคนทุกท่านได้มาร่วมกันลงทะเบียนเพื่อปกป้องตัวเองตามที่พูดไว้ก็คือ สร้างกำแพงเพื่อปกป้องร่างกายของเราจากโรคโควิดโดยการฉีดวัคซีนชิโนแวค ขอเจริญพร

สงขลา - สงขลานครินทร์ ส่งมอบ “นวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19” แก่ รพ. กว่า 200 แห่ง ทั่วประเทศ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยคณะวิทยาศาสตร์ ส่งมอบ 4 นวัตกรรม ในโครงการ SciJai แก่โรงพยาบาลกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับ COVID-19 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้คลี่คลายลง

รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชนา ประเทพ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกท่านมีส่วนร่วมในการสนับสนุนนวัตกรรม โดยนักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้กับ COVID-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบไปยังโรงพยาบาลในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดย 4 นวัตกรรมที่ได้ส่งมอบไปแล้ว ได้แก่ แผ่นกรองเพิ่มประสิทธิภาพหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95, เครื่องจ่ายเจลล้างมืออัตโนมัติ, ระบบตรวจจับอุณภูมิร่างกายและคัดกรองอาการไข้ด้วยภาพถ่ายความร้อน และเครื่องวัดอุณหภูมิระยะไกล ซึ่งได้ส่งมอบนวัตกรรมให้กับโรงพยาบาลและโรงเรียนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล และเพจดัง “Drama Addict” เพื่อส่งต่อไปยังทีมแพทย์ คือ แผ่นกรองเพิ่มประสิทธิภาพหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95 ซึ่งแผ่นกรองดังกล่าว เป็นการผลิตเส้นใยนาโนอิเล็กเทรทพอลิเมอร์ด้วยเทคนิคอิเล็กโตรสปินนิงมาใช้เป็นตัวกรองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95 คุณลักษณะเด่น คือ มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับหน้ากากทางการแพทย์ โดยการผลิตเส้นใยนาโน ด้วยเทคนิคอิเล็กโทรสปินนิง ทำเป็นแผ่นกรอง "Sci-Mask Filter" จึงมีคุณสมบัติเป็น Biocompatible มีความปลอดภัยในการใช้งาน มีประสิทธิภาพในการกรองที่สูง ทั้งการกรองอนุภาคและการกรองไวรัสเทียบเท่าใกล้เคียงกับหน้ากาก N95 และที่สำคัญมีคุณสมบัติ Super hydrophobic ซึ่งจะไม่ยอมให้ละอองน้ำหรือละอองลอยสามารถซึมผ่านแผ่นกรองได้ ทีมนักวิจัยได้นำแผ่นกรอง "Sci-Mask Filter" ไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งได้ทำการทดสอบเรื่องความปลอดภัยในเซลล์ของปอด ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลพบว่าสามารถใช้งานและมีประสิทธิภาพในการกรองแบคทีเรีย (ขนาด 1 micron) และไวรัส (ขนาด 0.2 micron) ที่ปนเปื้อนในละอองฝอยได้มากกว่า 99% เฉพาะแผ่นกรองมีประสิทธิภาพกรองฝุ่นที่ PM 2.5 ได้ถึง 91.17 %

“สำหรับการส่งมอบนวัตกรรมของคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ด่านหน้าในการต่อสู้กับ COVID-19 ในครั้งนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักวัจิยของคณะฯ ที่จะนำเอาองค์ความรู้ที่มี มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สิ่งใดที่สามารถแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ หรือทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดคลี่คลายลง ทางคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ยินดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นส่วนสำคัญในการสู้วิกฤตในครั้งนี้” รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชนา กล่าว

ทั้งนี้ หน่วยงานราชการ หรือท่านใดต้องการนำนวัตกรรมในโครงการ Scijai สามารถติดต่อมาที่ งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โทร. 074-288023

สมุทรปราการ - ดับอีก 1เหยื่อโควิด-19 ชื่นชมเจ้าอาวาสวัดดัง ฌปณกิจศพฟรี !! เผยมั่นใจระบบความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวติดโรค

พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ(พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เมตตาเป็นเจ้าภาพฌปณกิจศพ ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้เมตตาฌปณกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19  ฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งวัดบางพลีใหญ่กลาง มีความมั่นใจในระบบการป้องกันดูแล และมาตรการคุมเข้มเชื้อไม่สามารถแพร่กระจายได้ ไม่ต้องกลัวติดโรค

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา  นายอำเภอบางพลี เป็นประธานกดปุ่มสวิตช์ไฟฟ้าเผาศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 พร้อมด้วย พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมกดปุ่มสวิตช์ไฟฟ้าเผาศพผู้เสียชีวิต โดยมีทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นผู้รับศพผู้เสียชีวิตมาส่งยังวัดบางพลีใหญ่กลาง เพื่อให้ทางวัดช่วยเผาร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า โดยมีบุคคลในครอบครัวของผู้เสียชีวิตและญาติสนิทร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

ด้านนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี  กล่าวว่า ทางอำเภอบางพลี ร่วมกับทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ดำเนินการป้องกันตามมาตรการ การป้องกันของทางกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่บางพลี ไม่ต้องกังวนในเรื่องความปลอดภัยว่าเชื้อจะแพร่กระจาย  โดยทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังมีความมั่นใจเนื่องจากว่า ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ใช้ระบบไฟฟ้าในการเผาศพผู้เสียชีวิต และมีอุณภูมิความร้อนที่สูงมาก จึงมีความมั่นใจว่าเชื้อไม่มีทางแพร่กระจายได้อย่างแน่นอน

ด้านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ(พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า วันนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้มีความเมตตาเผาศพร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 อีก 1 ราย และในการเผาศพผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ที่ผ่านมานั้น  ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เมตตาเผาให้ฟรีมาโดยตลอดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างทางวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นผู้ที่ดูแลรับผิดชอบให้ทั้งหมด แต่หากทางฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตมีความประสงค์จะร่วมทำบุญ ก็สุดแล้วแต่ตามกำลังศรัทธา เพราะทางวัดบางพลีใหญ่กลางคิดเสมอว่าอะไรที่วัดพอช่วยได้ ทางวัดก็มีความยินดีที่จะให้การช่วยเหลือ  อีกทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ประชาชนขาดรายได้เกิดความลำบาก ทางวัดจึงมีความเมตตาและสงสารประชาชนกับปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามประชาชน หรือครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จะให้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง เมตตาช่วยเหลือทางวัดก็ยินดี โดยจะติดต่อผ่านทางท่านนายอำเภอบางพลี  หรือจะเป็นผู้กำกับ สภ.บางพลี  โรงบาลบางพลี ก็สุดแล้วแต่จะสะดวก แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ไม่รับฌปณกิจศพในทุก ๆ วันศุกร์เท่านั้น


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top