Sunday, 28 April 2024
แอม

‘น.ส.แอม’ ยังคงให้การปฏิเสธ หลังถูกนำตัวมากองปราบฯ แถมเครียดหนักความดันพุ่ง ทนายยันไม่ได้เป็นเท้าแชร์-ไม่ได้ขัดแย้งกับผู้ตาย

(26 เม.ย.66) นางสาว ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความ ของ น.ส. แอม สรารัตน์ ออกมาเปิดเผย หลังจากที่นำตัวนางสาวแอมมาที่กรมบังคับการปราบปราม ว่า หลังจากที่นำตัวมาที่กองบังคับการปราบปรามกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว จนถึงเวลา 21:00 น. ยังไม่มีการเริ่มบันทึกถ้อยคำ หรือ สอบปากคำ โดยบอกว่ากำลังรอขั้นตอนต่าง ๆ อยู่

ซึ่งยืนยันว่า นางสาวแอม ยังคงให้การปฏิเสธ คือปฏิเสธตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ว่าไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเป็นคนอยู่กับผู้เสียหายคือนางสาวก้อยเป็นคนสุดท้ายจริง แต่ไม่ได้กระทำการอย่างที่ถูกกล่าวหา

ซึ่งนางสาวแอมก็ไม่ได้มีการหลบหนีแต่อย่างใด หากครบกำหนด 48 ชั่วโมง ก็จะมีการนำตัวไปส่งที่ศาล ซึ่งขั้นตอนต่อไป ก็จะเป็นการยื่นประกันตัวหรือประกันตัวชั่วคราว ตามขั้นตอน ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

‘กรมราชทัณฑ์’ เผย  ‘แอม’ มีประวัติป่วยทางจิตเวชเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ขาดการรักษามา 2 ปีแล้ว เตรียมส่งจิตแพทย์ประเมินอาการ

(27 เม.ย. 66) จากกรณี น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ ‘แอม’ อดีตภรรยา นายตำรวจระดับ รองผู้กำกับท้องที่จังหวัดราชบุรี ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนำไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีอันตรายผสมอาหารให้เหยื่อรายหลายรับประทานจนเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย เพื่อหวังทรัพย์สินนั้น

ต่อมา นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงอาการของนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี หรือ ‘แอม ไซยาไนต์’ หลังถูกควบคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง โดยระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ได้รับรายงานจาก น.ส.โศรยา ฤทธิ์อร่าม ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง ว่านางสรารัตน์ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังรายใหม่ที่เข้าไป มีอาการเครียด วิตกกังวล ทำให้ความดันสูง 150-200 มิลลิเมตรปรอท จึงต้องส่งตัวไปที่ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในช่วงเวลา 22.00 น. ก่อนที่แพทย์จะตรวจร่างกายและให้การรักษาเบื้องต้น ก่อนส่งตัวกลับโดยไม่ได้ให้แอดมิท

‘ตำรวจ’ เตรียมส่งหลักฐานตู้เย็น ‘ครูอ๊อด’ ตรวจหาสารพิษ พ่อเผยอาการคล้ายโดนวางยา คาด!! เอี่ยว ‘แอม ไซยาไนด์’

(29 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่งเรื่องและหลักฐานขอความอนุเคราะห์ให้ห้องปฏิบัติการของ รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ในฐานะผู้ตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสารตัวยาไซยาไนด์ ในวัตถุพยานคดี นางสรารัตน์ (แอม) ตรวจวิเคราะห์วัตถุพยานที่เก็บจากรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กต 9532 นครปฐม ของนางสรารัตน์ จำนวน 12 รายการ จากการตรวจเก็บหลักฐานเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 เม.ย. น.ส.ศิริพร ผู้เสียชีวิต ขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กน 2340 กาญจนบุรี จากบ้านพักอาศัยไปจอดรถที่บริเวณบ้านพักของนางสรารัตน์ และเปลี่ยนไปนั่งรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กต 9532 นครปฐม มีผู้ต้องหาเป็นเจ้าของรถและขับรถคันดังกล่าวจาก จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางแวะปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

จากนั้นขับรถต่อไปริมแม่น้ำศาลาประชาคม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้เสียชีวิตลงไปปล่อยปลา ระหว่างผู้เสียชีวิตลงไปปล่อยปลานั้นมีอาการหมดสติ หรือเป็นลม และเสียชีวิตในวันเดียวกัน จึงตรวจยึดรถเก๋งไว้ตรวจสอบ วัตถุพยาน 12 ชิ้น ที่ใช้สำลีชุบเอทานอลเช็ดรถตามจุดต่างๆ อย่างละ 1 ถุง รวม 12 ถุง ประกอบด้วยตรวจเช็ดที่ประตูหน้าข้างรถ (ด้านใน) ที่เบาะหน้าด้านซ้าย ที่คอนโซลหน้ารถด้านซ้าย ที่พนักพิงด้านหน้ารถ ที่บานประตูหน้าขวา (ด้านใน) ที่เบาะหน้าด้านขวา ที่พักเท้าหน้าขวา ที่เบาะหลัง ที่ช่องเก็บของหลัง ที่พักเท้าหน้าซ้าย ที่ Control และที่พักเท้าหลังเพื่อให้ตรวจหาสารพิษ หรือยาพิษ หรือสารเคมีที่เชื่อมโยงกับไซยาไนด์ หรือสารพิษอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างละเอียดเพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม ส่งหลักฐานตู้เย็นตรวจหาสารพิษ หรือยาพิษ หรือสารเคมีที่เชื่อมโยงกับไซยาไนด์ หรือสารพิษอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยตู้เย็นดังกล่าวตั้งอยู่ในห้องนอนของ น.ส.ผุสดี สามบุมี อายุ 39 ปี หรือ ครูอ๊อด อดีตข้าราชการครู ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ คาดถูกนางสรารัตน์วางยาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในบ้านเลขที่ 96 หมู่ 3 ต.บำลูกบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม สภาพศพชักเกร็ง มือจิก น้ำลายฟูมปากและจมูก พ่อดูแล้วว่าอาการคล้ายกับคนโดนวางยา 

ทั้งนี้ ตู้เย็นดังกล่าวพ่อแม่ของครูอ๊อดยืนยันไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวตั้งแต่วันที่ครูอ๊อดเสียชีวิตวันที่ 20 พ.ย.65 จนถึงปัจจุบัน จึงส่งมาตรวจสอบที่ห้องแล็บ

ด้าน น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ถึงอาการนางสรารัตน์ว่า เป็นวันที่ 3 ที่ผู้ต้องขังใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำระหว่างการตั้งครรภ์ 4 เดือน โดยยังคงอยู่ในห้องกักโรค ขณะนี้ความดันปกติแม้ว่าคืนแรกจะมีความดันสูง แต่แพทย์ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์จ่ายยารักษาจนอาการทุเลา

ล่าสุดได้รับรายงานว่า ผู้ต้องขังไม่มีปัญหาเรื่องความดันแล้ว ส่วนอาหารเมื่อเย็นวันที่ 28 เม.ย. สามารถรับประทานอาหารได้

ทั้งนี้ จากการอยู่ในเรือนจำพบว่าผู้ต้องขังมีการปรับตัวได้ดี มีความเฟรนด์ลี่ (Friendly) โดยพยายามชวนผู้ต้องขังอื่นๆ ในห้องกักโรคพูดคุย ไม่มีการปลีกวิเวก หรือเก็บตัว รวมทั้งยังไม่ได้รับรายงานเรื่องอาการซึมเศร้า หรือการร้องไห้ฟูมฟายแต่อย่างใด ส่วนเรื่องชีพจรของเด็กในครรภ์ยังปกติ เนื่องจากในกรณีของผู้ต้องขังที่ตั้งครรภ์จะมีการตรวจชีพจรของเด็กในครรภ์เสมอ

ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลางอธิบายชีวิตของบุตรในครรภ์หลังคลอดว่า กรณีผู้ต้องขังช่วงแรกแม่และลูกจะได้อยู่ด้วยกัน เพราะแม่จะต้องให้นมบุตรประมาณ 4 เดือน หรือหากหลังจากให้นมบุตรเสร็จสิ้นญาติและครอบครัวอาจจะเข้ามารับเด็กออกไปก่อนก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของครอบครัวนั้นๆ หากไม่มีญาติมารับเด็กออกไปอาจมีการส่งตัวเด็กไปยังที่รับดูแลเลี้ยงเด็กแทนก่อนอายุ 1 ปี เพราะจะไม่ให้เด็กต้องเติบโตอยู่ในที่แห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางราชทัณฑ์มีบุคลากรและโปรแกรมสำหรับช่วยดูแลผู้ต้องขังที่ตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิทานให้ฟัง การเปิดเพลงบรรเลง เพลงโมสาร์ท การเรียนโยคะ กิจกรรมฝึกการเลี้ยงบุตร เพื่อเตรียมความพร้อมพัฒนาการให้กับเด็กในครรภ์

‘เต้’ หิวแสง!! เผย ‘แอม ไซยาไนด์’ ควรไปเป็นแม่ครัวรัฐบาล จะได้ทำอาหารเสิร์ฟให้รัฐบาลชุดนี้กิน สร้างคุณูปการแก่ประเทศ

‘เต้ มงคลกิตติ์’ หาเสียงกาญจนบุรี หิวแสงจัด บอกเสียดาย ‘แอม ไซยาไนด์’ ฆ่าคนบริสุทธิ์หลายศพ ควรไปเป็นแม่ครัวรัฐบาลชุดปัจจุบัน เสิร์ฟอาหารให้ลุง ๆ กิน จะเป็นคุณูปการแก่ประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมผู้บริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เดินทางไปกราบไหว้สักการะศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และ กราบบวงสรวงสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้นเดินทางขึ้นรถปราศรัยหาเสียงรอบตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ส่งผู้สมัคร ส.ส. 35 จังหวัด 102 เขต มาลงพื้นที่ทราบมีการแจกเงินแล้ว เรามีโอกาสสู้กับพวกซื้อเสียงได้ แต่ไม่บอกว่าพรรคไหนซื้อเสียงให้ กกต.ไปสืบเอง เขาจ่ายกันแล้วหัวละ 1,000 บาท

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผยความคืบหน้าคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ พบว่ามี ‘ตำรวจ’ 1 นาย เอี่ยวเรื่องนี้ด้วย!!

(2 พ.ค. 66) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะตำรวจคลี่คลายคดีการเสียชีวิตวางยาฆ่าชิงทรัพย์ จากนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ว่าในช่วงที่ 3-4 วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อเร่งรัดสำนวนการสอบสวนที่เหลืออยู่ ตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 14 คน 14 คดี มีผู้รอดชีวิต 1 คน ซึ่งตอนนี้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับไปแล้ว 10 คดี และแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วพร้อมอายัดตัวผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่เรือนจำ ส่วนอีก 4 คดีที่เหลือวันนี้จะมาไล่เรียงทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ครบถ้วนทั้งหมด 14 คดี และตอนนี้ต้องมาดูพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลใกล้ชิด ซึ่งยังไม่ขอเอ่ยชื่อ และวันนี้พบพยานหลักฐานแล้วว่ามีบุคคลใกล้ชิดเข้าไปเกี่ยวข้องและร่วมกันกระทำความผิด

ส่วนไซยาไนด์ตอนนี้พบแหล่งที่มาแล้ว อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ได้ประสานอธิบดีกรมอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบและดูแลเรื่องการอนุญาตการนำเข้า ซึ่งเมื่อนำเข้ามาแล้วจะต้องมีวิธีการควบคุมไม่ให้กระจายออกไป ไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่นำเข้ามา โดยวันนี้ได้ขออนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นแหล่งที่มาของไซยาไนด์แล้ว เบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นโรงงานแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ถ้าพบการกระทำผิดในส่วนนี้ก็จะดำเนินคดีด้วย และวันนี้ได้ประสานอธิบดีกรมโรงงานและเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา (อย.)

ส่วนการประชุมในวันนี้เป็นการตรวจสอบพยานหลักฐานและเรียบเรียงสำนวนทั้ง 10 สำนวน เพื่อเพิ่มความแน่นหนาของพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้สำนวนมีความรัดกุมที่จะสามารถให้ศาลพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดได้ ส่วนอีก 4 คดี ก็จะเร่งรัดดำเนินการเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับให้ครบถ้วน ในส่วนทั้ง 10 คดี พยานหลักฐานจะแตกต่างกันบางส่วน แต่หลักการสำคัญคือความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดของนางแอม ซึ่งยืนยันว่าเป็นคนลงมือและก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน คือนำไซยาไนด์มาให้เหยื่อกิน ถึงแม้การชันสูตรพลิกศพจะพบสารไซยาไนด์ในร่างผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย แต่แผนประทุษกรรมพบว่าสามารถเชื่อมโยงไปถึงกรณีอื่นได้ ภายใน 1-2 วัน จะรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้

‘ไอซ์ ปรีชญา’ แจง ปมสั่งซื้อไซยาไนด์แหล่งเดียวกับ ‘แอม’ ยัน!! นำมาใช้ไล่สัตว์มีพิษในบ้านเท่านั้น พร้อมรับผิดตามกฎหมาย

(5 พ.ค. 66) ที่อาคารมาลีนนท์ (ช่อง3) น.ส.ปรีชญา พงษ์ธนานิกร หรือ ‘ไอซ์’ ดาราสาวพร้อมคุณแม่ นางบังอร พงษ์ธนานิกร เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากที่ตำราจตรวจสอบพบรายชื่อว่าสั่งซื้อไซยาไนด์ จากแหล่งเดียวกับ ‘แอม’ ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม

นางสาวปรีชญา พงษ์ธนานิกร หรือ ‘ไอซ์’ กล่าวว่า ยอมรับว่า ตนสั่งซื้อไซยาไนด์มาจริง โดยซื้อมาเมื่อวันที่ 25 เม.ย. และได้รับของวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 1 ขวด ส่วนสาเหตุที่ซื้อมานั้น เนื่องจากที่บ้านมีปัญหาของสัตว์เลื้อยคลาน ทั้งงู ตัวเงินตัวทอง เข้ามาในบ้าน มากัดหมา มากัดกันเองในบ้าน ก็ไม่สามารถป้องกันสัตว์มีพิษเหล่านี้ไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ ไปเสิร์ชเจอว่า ไซยาไนด์สามารถช่วยไล่สัตว์มีพิษเหล่านี้ได้ ตอนแรกไม่รู้ว่าจะสั่งจากไหน เพราะเป็นยาอันตราย แต่สุดท้ายก็สามารถสั่งออนไลน์ได้

‘กรมโรงงานฯ’ จ่อแจ้งจับ ‘แอม-ไอซ์’ ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ เตรียมประสาน ‘สคบ.’ ตรวจร้านออนไลน์ ยัน!! พร้อมเพิ่มความเข้มงวด

กรมโรงงานฯ จ่อดำเนินคดี ‘แอม’ และ ‘ไอซ์’ ดาราสาว ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ โทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 3 แสน อธิบดีฯ ยืดอกป้องลูกน้อง รับประกันต่อไปจะเข้มงวดมากกว่านี้

(8 พ.ค. 66) ที่ กองปราบปราม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังร่วมประชุมใหญ่กับตำรวจชุดคลี่คลายคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ‘แอม ไซยาไนด์’ และกรณี น.ส.ปรีชญา พงษ์ธนานิกร หรือ ‘ไอซ์’ ดาราสาวที่ได้ทำการสั่งซื้อไซยาไนด์ เพื่อนำไปใช้วางยาฆ่าสัตว์เลื้อยคลานว่า ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้เสียหาย จะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top