Monday, 6 May 2024
อัษฎางค์ยมนาค

'อัษฎางค์' วิเคราะห์ปมยกเลิก ม.112 ยก 12 ข้อเท็จจริง หมดเวลาปั่นล้มล้างสถาบันฯ

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 12 ข้อ ม.112 หมดเวลาบิดเบือน

หมดเวลาปั่นราษฎร์ล้มล้างสถาบันฯ ด้วยการเรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 เพื่อจะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย ของพรรคเพื่อดูไบและก้าวไม่ไปไหนไกล

• 1 มาตรา 112 เป็นเครื่องมือในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ไม่ใช่เครื่องมือในการกำจัดคู่ต่อสู้ทางการเมือง

• 2 กฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐนั้นไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทย แต่มีใช้ในทุกประเทศ ทั้งที่ปกครองแบบราชอาณาจักรที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือปกครองแบบสาธารณรัฐ ที่มีประธานาธิบดี ก็ล้วนมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐทั้งนั้น

• 3 โดยเฉพาะสถาบันพระมหาพระมหากษัตริย์ จะไม่สามารถไปดำเนินคดีกับใครได้ จึงต้องมีกฎหมายที่ไม่ให้ใครล่วงละเมิดสถาบันฯ

• 4 พระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง คือ พระองค์ท่านไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่นักการเมืองไปดึงท่านให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ด้วยการให้ร้ายป้ายสี

• 5 ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ คนไทยหรือคนต่างด้าวไม่ว่ากระทำในหรือนอกราชอาณาจักรก็ต้องรับโทษ

• 6 จะยกเลิก ม.112 แล้วให้พระมหากษัตริย์ไปใช้กฎหมายหมิ่นประมาทเหมือนประชาชนทั่วไปไม่ได้ เนื่องจากพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ไม่ใช่บุคคลธรรมดา

‘อัษฎางค์’ เบิกเนตร! กลุ่มป่วนบ้านเมือง ลืมวิชาพื้นฐาน จนถูกแหกตา ทำหมดอนาคต

15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” มีเนื้อหาดังนี้...

ปฏิรูป ไม่เท่ากับ ล้มล้าง

กบฏ คือ ผู้ที่พยายามล้มล้างการปกครอง

แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะถูกจับได้เสียก่อน

นักเรียนนิสิตนักศึกษาของไทยที่ผ่านการศึกษา แต่ทำตัวเหมือนคนไร้การศึกษา เพราะฉะนั้นกลับมาศึกษาเรื่องที่ศึกษากันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาอีกครั้ง

ปฏิวัติ (Revolution)

หมายถึงการยึดอำนาจโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้ความรุนแรงทางการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครอง อุดมการณ์ทางการเมือง วัฒนธรรม วิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อทางศาสนา และระบบสังคมโดยรวม

รัฐประหาร (coup d’état)

หมายถึง การยึดอำนาจโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน

โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่ “การเปลี่ยนตัวหัวหน้ารัฐบาล หรือผู้ปกครองประเทศ” แล้วจัดตั้งคณะรัฐบาล ชุดใหม่ที่อยู่ภายใต้ผู้ก่อการรัฐประหารขึ้นมา “โดยที่รูปแบบการปกครองไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด” มีแต่ตัวผู้นำและคณะผู้นำเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป

คณะรัฐประหารไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้ปกครอง หรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพียงแต่เข้ามาทำงานในหน้าที่ผู้บริหารไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้ปกครอง เป็นผู้บริหารบ้านเมืองในช่วงหนึ่งเพียงชั่วคราว ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลชั่วคราว หรือรัฐบาลเฉพาะกาล ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

กบฏหรือขบถ (Rebellion)

หมายถึง การที่กลุ่มคนพยายามทำการปฏิวัติ หรือ รัฐประหาร หรือกลุ่มบุคคลที่พยายามล้มล้างการปกครอง แต่กระทำไปไม่สำเร็จ จึงได้ชื่อว่าเป็นกบฏ

ความผิดฐานเป็นกบฏ ได้แก่

• 1.) ความผิดทางอาญาฐานกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร

• 2.) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย

• 3.) เพื่อล้มล้าง หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติอำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ

• 4.) หรือแบ่งแยกราชอาณาจักร

• 5.) หรือยึดอำนาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร

“รัฏฐาธิปัตย์”

หมายถึงผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองแผ่นดิน จากฐานะที่เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน อำนาจของรัฏฐาธิปัตย์นั้นต้องมีลักษณะสมบูรณ์ (absolute) มีอำนาจนั้นอยู่ในตนเอง เพราะรัฏฐาธิปัตย์คือผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว

รัฏฐาธิปัตย์จะทำการสิ่งใดไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมหรืออาศัยอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจมาจากผู้ใดอีก ความสัมบูรณ์ของอำนาจนี้ส่งผลให้รัฏฐาธิปัตย์ออกคำสั่งใด ๆ เพื่อบังคับใช้แก่ไพร่ฟ้าในอาณาจักรของตนในโอกาสใดและเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ย่อมได้

คณะยึดอำนาจ ไม่ว่าคณะปฏิวัติหรือคณะรัฐประหาร จะสถาปนาตัวเองเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เพื่อแต่งตั้งผู้บริหารราชการแผ่นดิน

นอกจากนี้ รัฏฐาธิปัตย์ ยังหมายถึง อำนาจอธิปไตย ที่เป็นอำนาจปกครองสูงสุดของรัฐ
.
และ รัฏฐาธิปัตย์ ยังหมายถึง รัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งผู้ใดไม่อาจจะละเมิดได้ และกฎหมายอื่นไม่อาจจะขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้

ส่งผลให้คำสั่งของรัฏฐาธิปัตย์ไม่ว่าจะใช้ชื่อใดย่อมมีผลเป็น “กฎหมาย” แต่ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ”

ซึ่งมีผู้เข้าใจผิดว่า องค์รัฏฐาธิปัตย์คือพระมหากษัตริย์

โดยยกตัวอย่างว่าทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร จะมีการขอเข้าเฝ้าเพื่อถวายรายงานพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเท่ากับการยอมรับในความเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ของพระมหากษัตริย์ยังคงมีอยู่ไม่ขาดตอน องค์รัฏฐาธิปัตย์ไม่ใช่คณะรัฐประหาร ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

พระมหากษัตริย์คือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน ผ่านทางรัฐสภา รัฐบาล และศาล

แต่ผู้มีอำนาจอธิปไตยตัวจริงคือประชาชน มิใช่พระมหากษัตริย์

ในขณะที่คณะรัฐประหารหรือคณะปฏิวัติคือ ผู้ที่ทำการสิ่งใดไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมหรืออาศัยอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจมาจากผู้ใดอีกต่อไป เป็นความสัมบูรณ์ของอำนาจ ซึ่งหมายความว่า คณะรัฐประหารหรือคณะปฏิวัติ คือ รัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้ทรงสิทธิ์ในการประกาศใช้กฎหมาย ในการบังคับใช้ในรัฐนั้น ๆ อย่างสมบูรณ์แต่เพียงผู้เดียว

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะมีรัฐสภาหรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยหรือในการปฏิวัติและการรัฐประหาร พระมหากษัตริย์ไม่ใช่ผู้มีอำนาจที่แท้จริง

‘อัษฎางค์’ ไขข้องใจ ‘พี่ตูน’ วิ่งเพื่อใคร ชี้! วิ่งการกุศลมีทั่วโลก แม้แต่ในปท. ร่ำรวย

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า นักวิ่งการกุศลโง่ หรือคนโง่มองไม่เห็นความดีของนักวิ่ง?

คำถามของกลุ่มคนที่โลกทัศน์แคบ วิสัยทัศน์สั้น ทัศนคติต่ำเตี้ย มักจะมีคำพูดและคำถามประมาณว่า…
วิ่ง…เพื่อเด็กยากไร้…หน้าที่ใคร !
วิ่งให้ตายก็แก้ปัญหาโครงสร้างของประเทศไม่ได้ !
คนวิ่งได้หน้าอยู่คนเดียว !
ผมจะพามาเบิกเนตรกันหน่อย กับการวิ่งการกุศลระดับโลก ที่ถูกจุดประกายมาจากนักวิ่งเพียงคนเดียวจนกลายเป็นวิ่งกันทั่วเมือง วิ่งกันทั้งประเทศและทั้งโลก มานานเกือบครึ่งศตวรรษ

……………………………………………………………………

City2Surf 
งานวิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของซิดนีย์
วิ่งด้วยแรงบันดาลใจจากอเมริกาสู่ออสเตรเลีย
City2Surf คืองานวิ่งการกุศลประจำปีของซิดนีย์ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม เป็นงานวิ่งการกุศลที่จัดขึ้นมาต่อเนื่องยาวนานถึง 50 ปีเต็ม โดยปัจจุบันมีผู้ร่วมวิ่งนับแสนคน จากจุดเริ่มต้นที่มีผู้เข้าร่วมเพียง 1500 คน

City2Surf เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1971 เป็นงานวิ่งที่ริเริ่มโดยเจ้าหน้าที่ของหนังสือพิมพ์เดอะซันซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงาน Bay to Breakers ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
การแข่งขันวิ่งการกุศลจะเริ่มจากในตัวเมืองซิดนีย์และไปสิ้นสุดที่หาดบอนได 
จุดเด่นที่ทำให้งานวิ่ง City2Surf ประสบความสำเร็จจนเป็น ”งานวิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ก็คือ…
เป็นการจัดงานวิ่งเพื่อการกุศล โดยการเชิญชวนให้ผู้เข้าแข่งขันร่วมหาเงินบริจาคด้วยการเป็นตัวแทนขององค์กรการกุศลต่างๆ

……………………………………………………………………

เพื่อเด็กยากไร้…หน้าที่ใคร !
วิ่งให้ตายก็แก้ปัญหาโครงสร้างของประเทศไม่ได้ !
คนวิ่งได้หน้าอยู่คนเดียว !
ทำไมออสเตรเลียจัดงานวิ่งเพื่อระดมทุนให้องค์กรการกุศลมาต่อเนื่องถึง 50 ปีแล้ว
ออสเตรเลียยากจน? ประเทศมีปัญหาโครงสร้าง?
ประชาชนควรจะคิดว่า…เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องมานักวิ่งหาเงินช่วยสังคม?
หรือ ?

……………………………………………………………………

ขอยกตัวอย่างอีกสักราย
จากดินแดนฝั่งขั้วโลกใต้ขึ้นไปขั้วโลกเหนือ 
จากอเมริกามาออสเตรเลีย…แล้วขึ้นกลับไปแคนาดา
กับเรื่องราวของนักวิ่งชื่อ “เทร์รี ฟอกซ์”
เมื่อตอนที่ เทร์รี ฟอกซ์ มีอายุ 19 ปี เขาล้มป่วยเป็นมะเร็งกระดูกจนต้องตัดขาออกข้างหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2523 ฟอกซ์ได้สวมขาเทียมและเริ่มทำกิจกรรมรณรงค์วิ่งข้ามประเทศแคนาดา เพื่อระดมทุนและกระตุ้นสังคมต่อการวิจัยการรักษามะเร็ง 

เทร์รี ฟอกซ์ วิ่งไปพร้อมกับขาเทียมหนึ่งข้าง เป็นระยะทางถึง 5,373 กิโลเมตร (3,339 ไมล์) และสิ้นสุดลงในเวลา 143 วัน 
เมื่อมะเร็งกระจายไปถึงปอด ฟอกซ์มีอาการทรุดหนักและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2524 ด้วยวัย 23 ปี

การวิ่งรณรงค์ของฟอกซ์ได้รับการขนานนามว่า "มาราธอนแห่งความหวัง" (Marathon of Hope) ส่งผลให้เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Companion of the Order of Canada 
ภายหลังการเสียชีวิต ได้มีผู้จัดกิจกรรม “การวิ่งเทร์รี ฟอกซ์” หรือ “Terry Fox Run” เป็นประจำทุกปี จนถึงปัจจุบัน

‘อัษฎางค์’ ถาม ‘ธนาธร’ ใช้วิถีของอภิสิทธิ์ชน จนลืมข้อเรียกร้องความเท่าเทียมไปแล้วหรือ?

10 ม.ค. 65 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค เรื่อง “วิถีของอภิสิทธิ์ชนกับความเท่าเทียมแบบเทียมๆ” ธนาธร ผู้ทรงไว้ซึ่งทรัพย์ เป็นธนาธร ที่ไม่ต้องทอน รวยแล้วไม่โกง จริงหรือ? ระบุว่า 18 มกราคม 2564 นายธนาธรตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 และการเข้ามาเกี่ยวข้องของ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ประธานคณะก้าวหน้ากล่าวว่า เหตุที่เขาออกมาตั้งข้อสังเกตในเรื่องนโยบายและแนวทางการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลเป็นเพราะ…. ***การได้วัคซีนล่าช้าและ ***ไม่ครอบคลุมกลุ่มประชากรส่วนใหญ่

ในเวลาต่อมา….29 พฤษภาคม 2564 สื่อได้รายงานข่าวจากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ใจความตอนหนึ่งว่าหากยังจำกันได้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมได้ออกมาแสดงความกังวลเรื่องแผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าการจัดการแบบนี้ ช้า ไม่ทันการณ์ แทงม้าตัวเดียว เสี่ยงต่อการที่วัคซีนจะมาช้า และ***ไม่หลากหลายเพียงพอกับความต้องการของประชาชน***การลงทะเบียนรับวัคซีน ที่ในตอนแรก รัฐบาลประกาศให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพียงช่องทางเดียว เริ่ม 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดปัญหาแอปล่ม 
*** ประชาชนเข้าไม่ถึง
*** ท่ามกลางความสับสนอลหม่านนี้ ผลลัพธ์สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นก็คือ ไทย
*** ได้วัคซีนน้อย ช้า

'อัษฎางค์' ยกกรณีวัยรุ่นปาระเบิดบ้านนายกฯ คนทำถูกจับหมดอนาคต ส่วนแกนนำรอเสพสุข

12 เม.ย. 65 อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ว่า เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่อ่อนประสบการณ์และอ่อนต่อโลก คือเหยื่อของการถูกปลุกปั่นให้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง

การปาระเบิดใส่ชาวบ้านคือการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ความห้าวเป้งของวัยรุ่นที่ปาระเบิดใส่บ้านนายกฯ ไม่ใช่การปาระเบิดใส่คู่อริวัยรุ่นด้วยกัน เป็นเรื่องที่ทำไปโดยไม่ตระหนักว่าตำรวจต้องตามจับจนได้ ซึ่งจะตามมาด้วยการถูกดำเนินคดี และมันจะติดเป็นมลทินไปตลอดชีวิต

'อัษฎางค์' ยก 5 เหตุผลเชียร์ 'อัศวิน' ก่อนแดงจะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

'อัษฎางค์' ยก 5 เหตุผลเชียร์ 'อัศวิน' ยันไม่ใช่ว่าชอบหรือชื่นชมมากกว่า 'สกลธี-สุชัชวีร์' แต่เลือกผู้ว่าฯ ได้แค่คนเดียว รับต่อให้เอาคะแนน 3 คนมารวมกันยังแพ้ 'ชัชชาติ' ต้องยกเมืองไทยให้เขากลับประตูหน้าแบบเท่ๆ

18 พ.ค.2565 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า .. 
บันทึก
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2022 เวลา 7 โมงเช้า ยังตาสว่าง

ที่ตาสว่างไม่ใช่เพราะเข้าใจโลกหรือบรรลุธรรม

แต่เพราะ…ถึงตัวจะอยู่ที่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย แต่ใจอยู่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย เลยนอนไม่หลับ

ที่นอนไม่หลับไม่ใช่เพราะถูกเข้าใจผิดหรือโดนด่าหรือถูกเกลียดขึ้หน้า เพราะอันนี้เรื่องเล็กนิดเดียว

แต่เรื่องใหญ่ที่ทำให้นอนไม่หลับคือ ฝ่ายเราเสียงแตก ตีกันเอง และจะเกิดรอยร้าวในหมู่ของพวกเรา (ตลอดไปหรือไม่) และมันกำลังจะแลนด์สไลด์ มันกำลังจะแดงทั้งแผ่นดิน

จริง ๆ ผมไม่ต้องเดือนเนื้อร้อนใจกับเรื่องร้ายๆ ในเมืองไทยก็ได้ เพราะผมอยู่ออสเตรเลียมาเกือบครึ่งชีวิตแล้ว

ถึงตัวผมจะมีอนาคตที่ดีที่นี่แล้ว แต่ใจผมอยู่ที่เมืองไทยตลอดมาและจะตลอดไป

งานนี้ผมเปลืองตัวมาก บอกตรงๆ

ถ้าผมอยู่เฉยๆ ก็ไม่มีคนเกลียดขี้หน้าแล้ว ผมก็ลอยตัว สบายๆ ไป ไม่มีคนด่า ไม่มีคนเกลียด

แต่ที่ต้องออกมาพูด อย่างที่บอกคือ ไม่ใช่ว่า ชอบหรือชื่นชม อัศวิน มากกว่า สกลธีหรือสุชัชวีร์
แต่เชียร์ อัศวิน เพราะ…

1. อยากเห็นฝ่ายเราชนะเลือกตั้ง

2. ที่อยากเห็นฝ่ายเราชนะเลือกตั้ง

ก็เพื่อป้องกันฝ่ายล้มเจ้าชนะเลือกตั้ง

ชัชชาติประกาศชัด ว่าถ้าได้เป็นผู้ว่า จะให้มีม็อบได้เสรี ทุกที่ ทุกเวลา คิดดูว่าม็อบทุกวันเป็นยังไง ถ้ามีผู้ว่า กทม สนับสนุนม็อบล้มเจ้า เพิ่มขึ้นอีกคนจะเป็นยังไง

วิโรจน์ ไม่ต้องพูดถึง ชัดเจนที่สุด

3. ดังนั้น ทำอย่างไร ฝ่ายเราถึงจะชนะ สู้กันตรงๆ แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง มันถึงต้องมีกลยุทธ์ ด้วยยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง

4. เชื่อตามโพลนิด้า ซึ่ง อ.อานนท์ คือผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล จบ ป.เอก ด้านข้อมูล การันตีว่า โพลนิด้าน่าเชื่อถือที่สุด และโพลนิด้า บอกว่า ชัชชาติมาที่ 1 อัศวินมาที่ 2 (ห่างๆ) อันดับที่เหลือยิ่งห่างออกไปอีก

'อัษฎางค์' ไขปมเยาวชนทะลุแก๊สพกระเบิดเพลิง อะไรคือเสรีภาพ? อะไรคือการละเมิดสิทธิผู้อื่น?

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการจับกุมเยาวชนที่พกระเบิดเพลิงเตรียมเข้าร่วมกับม็อบทะลุแก๊สว่า ...
“คนไทยทุกคนมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”

ตำรวจนครบาลจับ 2 เยาวชน พกอุปกรณ์ครบมือ กำลังประกอบระเบิดเพลิง โดยการบรรจุระเบิดเพลิงใส่ขวด พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ เช่น ขวดแก้ว  น้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน กระป๋องฉีดสี และมีด 1 ด้าม 

เพื่อเตรียมปาใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ตั้งแนวรักษาความสงบ เนื่องจากรู้สึกโกรธแค้นที่ตำรวจจับกุมตัวแก๊งทะลุแก๊สและแนวร่วมไปแล้ว 10 กว่าราย ซ้ำยังไม่ได้รับการประกันตัว

เยาวชนทั้ง 2 คน มีอายุ 18 ปีและกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอาชีวะ ถึงแม้จะยังเป็นเด็ก แต่อายุไม่น้อยแล้ว แถมเป็นผู้มีการศึกษา แต่กลับแยกแยะไม่ออกระหว่าง ศัตรูคู่อริ กับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง ซึ่งต้องปฏิบัติตามหน้าที่

ตำรวจ คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ  มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน ป้องกันปราบปราม ตรวจตรา รักษาความสงบ จับกุม รวมถึงบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม โดยมีอำนาจหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

ตำรวจควบคุมฝูงชน  เป็นหน่วยเฉพาะทางของตำรวจที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อปฏิบัติการในการควบคุมสถานการณ์ที่มีความรุนแรงเกินกว่าตำรวจท้องที่ 

ภารกิจในการต่อต้านความไม่สงบ การจัดการเหตุฉุกเฉินและภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน นั้นอยู่ในขอบเขตอำนาจการปฏิบัติการของตำรวจ

'อัษฎางค์' เปิดถ้อยคำทูตสหรัฐฯ คนใหม่ "สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย"

(19 ก.ค. 2565) อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุว่า “ความพยายามในการทำให้การละเมิดกฎหมาย เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” ของฝ่ายที่เรียกตนเองว่า ฝ่ายปฏิรูป

ข่าวที่นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค Robert F. Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐ

ไม่มีประเด็น ม.112 แต่อย่างใด

แต่ที่เกิดประเด็นขึ้นนั้น เกิดมาจากการตีไข่ใส่ซีอิ๊วน้ำปลาของพวกที่ต่อต้าน ม.112 และเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น

อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ที่ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

กล่าวคือ ฝ่ายที่ต่อต้าน 112 และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตีปีกฮึกเหิมว่าอเมริกาแสดงท่าทีเข้าข้างพวกตน ส่วนฝ่ายที่จงรักภักดีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าสหรัฐฯ ก้าวก่าย

ซึ่งข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากวงในว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่ มีแต่การบิดเบือนสาระสำคัญจากถ้อยคำของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ของฝ่ายปฏิกษัตริย์นิยมเท่านั้น

ท่านทูตโกเดคกล่าวเพียงว่า

“The United States respects the institution of the Thai monarchy and we understand the esteem with which the Thai people hold the royal family.

สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และเรา (สหรัฐฯ) เข้าใจดีว่าคนไทยเทิดทูนราชวงศ์

Freedom of expression is critical.

เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

and I would emphasize both publicly and privately the importance of allowing people to freely express their ideas without threat of arrest.”

และผมเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและโดยส่วนตัวถึงความสำคัญในการให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี โดยปราศจากการข่มขู่ว่าจะจับกุม

จะเห็นได้ว่า ท่านทูต เกริ่นมาตั้งแต่ต้นว่า

สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และสหรัฐฯ เข้าใจดีว่าคนไทยเทิดทูนราชวงศ์

ดังนั้น ในเมื่อคนไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วจะมีเหตุผลใดที่คนไทยจะใช้ความมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์

ในทางเดียวกัน จะมีเหตุผลใดที่รัฐหรือสถาบันพระมหากษัตริย์จะข่มขู่ว่าจะจับกุมคนไทยซึ่งเทิดทูนสถาบันฯ

ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐอเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้นำของโลกเสรีนิยม ซึ่งสนับสนุนให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี “ภายใต้กรอบของกฎหมาย” โดยปราศจากการข่มขู่ว่าจะจับกุม

‘อัษฎางค์’ ข้องใจ ‘ชัชชาติ’ ไม่สานต่อผลงานผู้ว่าฯ คนก่อน เพราะนึกถึงผลประโยชน์ปชช. หรือ ผลทางการเมืองกันแน่

(5 ม.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยระบุว่า

“ล้ม เลิก”

เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนหรือผลทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง?

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึง “การเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle EV) ในคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร” ว่า จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม

1. ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม
2. หากจะทำต้องดูเรื่องความคุ้มทุนด้วย
3. เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน

มาดูการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ

ข้อมูลเท่าที่ผมมีคือ

ขสมก.เริ่มต้นเดินรถเมื่อ 1 ตุลาคม 2519 โดยตลอดระยะเวลากว่า 43 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง องค์กรนี้ขาดทุนสะสมทุกปี ยกเว้นปี 2535 ปีเดียวเท่านั้นที่มีกำไร 61 ล้านบาท

ในปี 2563 ขสมก. ขาดทุนเฉลี่ยถึงเดือนละ 360 ล้านบาท ที่น่าสนใจคือ 233 ล้านบาท หรือ 65% เป็นการจ่ายภาระดอกเบี้ย

ในปี 2563 ขสมก.มีหนี้สิน 127,786 ล้านบาท มีผลขาดทุนสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีการประเมินว่า หนี้สิ้นของ ขสมก.จะเพิ่มเป็น 127,786 ล้านบาท

จึงต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมี 4 พี่น้อง ที่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ คือ การบินไทย ขสมก., การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.)

‘อัษฎางค์’ เผย ‘ลุงป้อม’ ก้าวข้ามความขัดแย้งสำเร็จ หลัง ‘มายด์ คณะราษฎร’ เข้าพบ-ได้พูดคุย

(25 มี.ค. 66) สืบเนื่องจากกรณี น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ ‘มายด์’ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 หรือ ‘ชาวสามนิ้ว’ เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เพื่อสอบถามถึงจุดยืนทางการเมือง

ล่าสุด นายอัษฎางค์ ยมนาค นักเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล ได้ทำการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า…

I don't mind.
ลุงป้อมทำสำเร็จ
ประสานทุกฝ่าย ละลายความบาดหมาง
เด็กสามนิ้วเปลี่ยนมานิยมการหมอบคลานและกราบไหว้


โดยหลังจากนั้น ได้มีการเผยแพร่ส่งต่อ และได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/348347/


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top