‘อัษฎางค์’ ถาม ‘ธนาธร’ ใช้วิถีของอภิสิทธิ์ชน จนลืมข้อเรียกร้องความเท่าเทียมไปแล้วหรือ?

10 ม.ค. 65 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค เรื่อง “วิถีของอภิสิทธิ์ชนกับความเท่าเทียมแบบเทียมๆ” ธนาธร ผู้ทรงไว้ซึ่งทรัพย์ เป็นธนาธร ที่ไม่ต้องทอน รวยแล้วไม่โกง จริงหรือ? ระบุว่า 18 มกราคม 2564 นายธนาธรตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 และการเข้ามาเกี่ยวข้องของ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ประธานคณะก้าวหน้ากล่าวว่า เหตุที่เขาออกมาตั้งข้อสังเกตในเรื่องนโยบายและแนวทางการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลเป็นเพราะ…. ***การได้วัคซีนล่าช้าและ ***ไม่ครอบคลุมกลุ่มประชากรส่วนใหญ่

ในเวลาต่อมา….29 พฤษภาคม 2564 สื่อได้รายงานข่าวจากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ใจความตอนหนึ่งว่าหากยังจำกันได้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมได้ออกมาแสดงความกังวลเรื่องแผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าการจัดการแบบนี้ ช้า ไม่ทันการณ์ แทงม้าตัวเดียว เสี่ยงต่อการที่วัคซีนจะมาช้า และ***ไม่หลากหลายเพียงพอกับความต้องการของประชาชน***การลงทะเบียนรับวัคซีน ที่ในตอนแรก รัฐบาลประกาศให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพียงช่องทางเดียว เริ่ม 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดปัญหาแอปล่ม 
*** ประชาชนเข้าไม่ถึง
*** ท่ามกลางความสับสนอลหม่านนี้ ผลลัพธ์สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นก็คือ ไทย
*** ได้วัคซีนน้อย ช้า

ในเวลาต่อมา….1 กรกฎาคม 2564 หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ธนาธรก็ย่องไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แอสตร้าเซนเนกา ล็อตที่ A10062 ซึ่งผลิตจากโรงงานสยามไบโอไซแอนซ์ฯ เมื่อเวลา 19.15 น. ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

ซึ่งมีการเปิดให้ฉีดวัคซีนแบบ Walk in เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดเพื่อลดปริมาณการติดเชื้อ โดยเฉพาะคลัสเตอร์ในครอบครัว  แต่ธนาธร ไม่ใช่คนในพื้นที่สมุทรปราการ

นอกจากนั้น ยังเป็นการฉีดวัคซีน “นอกเวลาราชการ” และช่วงวันเวลาดังกล่าว รัฐจัดให้ฉีด “เฉพาะผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง” เท่านั้นโดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ ชี้แจงว่าเป็นการ”ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ” ให้ได้มากที่สุด 
***ธนาธร เข้าข่ายข้อไหน 
***ใช้อะไรในการได้ฉีดก่อนใคร

วิถีธนาธร วิถีของอภิสิทธิ์ชนกับความเท่าเทียมแบบเทียมๆ ขนาดธนาธรรู้ดีว่า “วัคซีนล่าช้าและไม่ครอบคลุมกลุ่มประชากรส่วนใหญ่” ซึ่งในเวลาต่อมารัฐบาลก็จัดสรรให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังให้ได้รับวัคซีนก่อนใคร  แต่ธนาธร ยังกล้าแอบย่องแซงหน้าประชาชน ไปฉีดวัคซีนก่อนใคร ซึ่งสังคมยังตั้งคำถามด้วยความสงสัยและรอคำตอบอยู่ว่า ธนาธรใช้ “วิถีของอภิสิทธิ์ชน” จนลืมข้อเรียกร้องเรื่อง “ความเท่าเทียมกัน” ของพวกตน ไปรับวัคซีนก่อนประชาชนทั่วไปหรือไม่